 |
การทำพาสฯไทยต้องแสดงตัวทั้งพ่อและแม่ค่ะ ในกรณีของคุณ หากสามีอยู่ญี่ปุ่นต้องทำเรื่องพาสฯให้ลูก ต้องมีแสดงความยินยอมให้เด็กทำพาสปรอตไทยได้ ซึ่งต้องขอที่สถานฑูตไทยในญี่ปุ่น เสียค่าธรรมเนียมประมาณ 3,000 yen พอได้หลักฐานยินยอมให้เด็กทำพาสปรอตไทยได้แล้ว ก็ต้องส่งมาที่บ้าน จากนั้นนำไปยื่นที่สถานกงศุล หลักฐานเด็กก็ต้องมี ใบสูติบัตร กับ เอกสารยินยอมให้เด็กทำพาสปรอตไทยได้ เพื่อที่คุณแม่อริสะนำลูกไปทำพาสปรอต ส่วนคุณแม่มีหลักฐานแค่บัตรประชาชนเท่านั้นค่ะ
หรือถ้าอยากถือสองเล่มไว้เพื่ออะไรไม่ทราบสาเหตุ ก็ทำได้ค่ะแบบไม่ต้องเร่งรีบ เอาไว้เวลาที่ทั้งคุณแม่อริสะ คุณสามี และ คุณลูก มาเที่ยวเมืองไทยพร้อมกันเมื่อไหร่ ค่อยหาเวลามาทำพาสฯไทยให้ลูกก็ได้ ทำพาสฯไทยภายใน 3 วันรับเล่มแล้ว เสียพันกว่าบาท ไม่เหมือนทำพาสฯไทยในญี่ปุ่นเสียเวลามาก ค่าธรรมเนียมก็แพง เอกสารมากมาย
อันที่จริงสำหรับประเทศญี่ปุ่น กฎหมายการเข้า ออก ประเทศสำหรับเด็กลูกครึ่งไทย -ญี่ปุ่น เขาไม่ได้บังคับว่าต้องทำพาสปรอต 2 เล่มหรอกนะคะ (อายุไม่ถึง 14 ปี) เราต้องดูที่ครอบครัวเราก่อนว่า วิถีชีวิตมีการเข้า ออก นอกประเทศมากไหม ถ้ามากเด็กควรถือ 2 เล่ม อย่างเช่น ครอบครัวที่ผู้ปกครองรับราชการฑูต ที่ต้องหอบครอบครัวไปทำงานต่างประเทศ เพราะต้องย้ายไปโน้น ไปนี่ บ่อยๆ ก็ควรค่ะ เพราะบางประเทศ พาสปรอตไทย ก็ไม่ต้องขอวีซ่า การดำเนินเรื่อง เลยไม่มี ในทางกลับกัน เด็กที่ถือพาสฯญี่ปุ่น ไปประเทศอื่น ต้องทำเรื่องขอวีซ่า ก็มีค่ะ อย่าลืมว่าเด็กตามผู้ปกครองทีทำงานต่างประเทศ เขาก็ต้องมีการเรียนด้วยเหมือนกัน
หากลูกคุณมีชีวิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่มมากกว่าเป็นปีๆ ทำพาสปรอตญี่ปุ่นแค่เล่มเดียวพอ ยิ่งว่าเป็นเด็กลูกครึ่งไทย- ญี่ปุ่น พาสฯญี่ปุ่นอย่างเดียวเข้าประเทศไทยไม่ต้องขอวีซ่า ตามปกติ คนญี่ปุ่นที่เป็นผู้ใหญ่เข้าอยู่ไทยได้ 30 วัน ส่วนลูกคุณณ.เวลานี้ได้ 2 สัญชาติเป็นทั้งไทยและญี่ปุ่น ถ้าอยู่ได้เกินกำหนด ไม่เป็นไรหรอก เขาอนุญาตผ่อนผันได้นานถึง 14 ปีบริบูรณ์ หากอยู่เกินกำหนดมีผลแค่ตอนขาออกประเทศไทย ต้องสอบสวนที่เคาเตอร์กองตรวจคนเข้าเมืองใช้เวลาไม่มากเท่าไหร่ ถ้าอายุเกิน 14 ปีขึ้นไป พักอาศัยในไทยอยู่เกินต้องไปรายงานตัวที่กองตรวจคนเข้าเมือง แบบอยู่เกินกำหนด 90 วันเสียค่าธรรมเนียม 1,900 บาท รูปถ่ายนิ้วครึ่ง 2 ใบ ถ้าอยู่เกิน แล้วไปคิดได้ตอนขาออกออกที่สนามบินเสียค่าธรรมเนียมวันละ 500 บาท
อีกอย่าง ที่อยากจะแนะนำคือ ตอนอายุ 15 ปีไปทำบัตรประชาชนให้ลูกดีกว่า ตอนนี้แหละควรมีพาสฯไทยและพาสฯญี่ปุ่น ไว้ครอบครองมากที่สุดเลยค่ะ เพราะอย่างไงตอนนี้ลูกคุณก็มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไทยไปแล้ว ควรทำพาสปรอตไทยในช่วงระหว่างอายุ 14-15 ปีนี่ดีที่สุดค่ะ ถือพาสฯไทย เข้า-ออกนอกประเทศยื่นพาสฯไทย ตอนเข้าและออกก็ต้องบอกเจ้าหน้าที่กองตรวจด้วยว่าลูกคุณถือพาสฯ 2 เล่ม (ไม่ต้องบอกก็ได้ ยื่นให้ดูก็เห็นแล้ว) เจ้าหน้าที่จะแสตมป์เข้า ออก เฉพาะพาสฯไทยให้เท่านั้นค่ะ ยังไงต้องโชว์ทั้ง 2 เล่มค่ะ เพราะพาสฯไทยเข้า ออก ไปญี่ปุ่นโดยที่ลูกคุณเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ในพาสฯไทยไม่มีวีซ่าญี่ปุ่น อาศัยที่ลูกคุณมีสองสัญชาติ ถือเป็นกรณีพิเศษที่ไม่ต้องไปดำเนินเรื่องขอวีซ่า ส่วนพาสฯญี่ปุ่น เข้า-ออกญี่ปุ่น โชว์พาสฯญี่ปุ่นเพียงแค่เล่มเดียวพอค่ะ
อนาคตเด็กเมื่อโตขึ้นอายุ 20 ปีบริบูรณ์ เขาจะเลือกสัญชาติใด สัญชาติหนึ่งด้วยตัวเองค่ะ อันชอบด้วยตามกฏหมาย
หากเป็นเด็กผู้ชายอายุ 18 ปีบริบูรณ์ อายุแค่ 17 ย่าง 18 จะมีใบรายงานทหารฯไปที่บ้าน หากเด็กผู้ชายลูกครึ่งไทย - ญี่ปุ่นอนาคตเขาอยู่นานในญี่ปุ่น มีชีวิตที่จะต้องอยู่ญี่ปุ่นต่อไปแน่ๆ ไม่ต้องไปรายงานตัวก็ได้ค่ะ
แต่ถ้าบังเอิญเด็กชายมีชีวิตผกผันต้องมาอยู่เมืองไทยด้วยสาเหตุบางประการ ถ้าถึงเกณฑ์อายุเป็นทหารต้องไปรายงานตัว ถ้าเรียน ร. ด . นาน 2 ปี ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์ แต่ต้องไปอำเภอที่มีรายชื่ออยู่ ถือใบรายงานการเรียน ร .ด .ที่ได้มาจากครูฝึกและบัตรเรียน ร.ด.ต่อเจ้าหน้าที่ราชการ เพื่อทีเจ้าหน้าที่จะคัดชื่อออกไปค่ะ
จากคุณ |
:
ป้าซิ่ง (Naomichan)
|
เขียนเมื่อ |
:
11 พ.ย. 53 17:40:16
|
|
|
|
 |