ความคิดเห็นที่ 1 ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 04:47:26 จากคุณ : mrs.night owl เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 04:44:19

ความคิดเห็นที่ 2 โอ้ยคุณ ไม่ต้องถามเเล้วค่ะฟ้องไหม เอามันติดคุกซิคะ จะเอาไว้ทำอะไร รอคุณลาวัณย์วดีเลยค่ะ จะไปกลัวทำไมกับคำชาวบ้านคะ เขาไม่ได้มาประสบเหตุกับคุณ ปล่อยไว้ไม่ได้ค่ะคนแบบนี้ ยังไงก็ต้องเอาเรื่อง สุดท้ายออมชอมได้เป็นเงินทำขวัญ ปิดคดีอะไรก็ว่าไป อย่าปล่อยให้คนชั่วมันทำเรื่องชั่วๆ กับเราค่ะ ยิ่งเขามีหน้ามีตา เราต้องใช้มาเป้นเครื่องมือ เลวขนาดนี้ ไม่ติดคุกก้ต้องเอาไห้หมดตัวค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 05:02:29 จากคุณ : mrs.night owl เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 04:46:46

ความคิดเห็นที่ 3 เฒ่าหัวงูอย่างนี้ต้องโดนเล่นงานเสียให้เข็ด คุณอย่าไปยอมมันเชียว จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 04:57:48

ความคิดเห็นที่ 4 ผู้ชายที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิงอย่างนี้ ผมเรียกว่า "โครตสารเลว" ครับ ถ้าคุณเป็นแฟนผมนะ ผมจะเอามันให้ตายเลย ชีวิตมัน ชิวิตครอบครัวมันจะไม่เป็นสุขแน่นอน แนะนำเล่าให้พ่อแม่ และ แฟนฟังด้วยครับ แจ้งตำรวจไปด้วยเลยครับ คุณต้องคิดว่า ถ้าเกิดเค้าข่มขืนคุณสำเร็จ จะทำอย่างไรครับ  ยิ่งกว่าตายครับ นี่พอดีคุณหนีทันแค่นั้นเองครับ  แต่ความพยายามของเค้าก็ยังเหมือนเดิมครับ คือ พยายาม "ทำลาย" ชีวิตคุณนั่นเองครับ อย่าให้ความจน เป็นเหยื่อของ "คนรวย" ครับ เพราะที่นั่นไม่ใช่ประเทศสารขันฑ์ครับ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 05:10:30 จากคุณ : bankk99 เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 05:06:45

ความคิดเห็นที่ 5 หลักฐานถ้าขอทางโรงแรมจะมีมั้ยค่ะ คืออาจจะเป็นที่่คุณวิ่งออกมาจากห้อง แล้วก็พยานพวกแม่บ้านกับยามที่คุณวิ่งไปเจอ จากคุณ : white brownie เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 05:12:07

ความคิดเห็นที่ 6 สนับสนุนให้คุณรวบรวมหลักฐาน โทรไปติดต่อขอ Police Report เพื่อเป็นเครื่องมือ แล้วฟ้องร้องทางศาลครับ ต้องรอคุณ Lawanwadee มาช่วยให้ข้อมูลอีกทาง ใจเย็นๆ ไว้ คุณทำดีมากแล้ว ตอนนี้ต้องตั้งสติแล้วรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุด คุณชนะแน่นอน คดีนี้จะได้เป็นตัวอย่างให้กับคนเลวทั้งหลาย เอาให้ถึงที่สุดนะครับ ผมคนหนึ่งที่เป็นกำลังใจให้คุณ จากคุณ : King_B52 เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 05:13:27

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นะครับสำหรับอเมริกา ลองปรึกษาผู้ชำนาญว่าควรทำอย่างไร ที่เมืองไทยเป็นถึง ดร ปล้ำคนใช้ในบ้านสองคน ยังอยู่ได้ จนลูกและเมียตัวเองซึ่งเป็น ดร เหมือนกันจะบ้าตายอยู่แล้ว เสียเงินไปไม่รู้เท่าไร จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 05:30:13 A:71.114.75.107 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 8 มาให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 06:40:58

ความคิดเห็นที่ 9 ฟ้องเลยค่ะ เพราะถ้าคุณ จขกท. ไม่เอาเรื่องตาเฒ่าหัวงูคนนี้ มันคงจะยิ่งได้ใจ และไปทำอย่างนี้กับคนไทยคนอื่น ๆ และถ้าเกิดคนที่โดนมันข่มขืน ไม่มีใบอะไรเลย เป็นโรบินฯ  ไม่สามารถเอาผิดกับตาเฒ่าได้ ก็ยิ่งน่าสงสารเลยนะค่ะ "อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลค่ะ" แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 06:48:50 จากคุณ : yothaka (Yothaka) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 06:47:56

ความคิดเห็นที่ 10 กลับมาเพิ่มเติม จขกท บอกว่า โดนบังคับให้ไปทำงานด้วยกัน เเสดงว่าทำงาน บริษัท แจ้ง เจ้านายที่สูงกว่าไอ้คนนี้หรือยังคะ จากคุณ : mrs.night owl เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 08:17:43

ความคิดเห็นที่ 11 อย่ายอม ให้ติดคุกไปเลย จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 08:29:04

ความคิดเห็นที่ 12 มาให้กำลังใจค่ะ ในฐานะคนที่เคยเจออะไรที่คล้ายๆกันมาก่อนเรื่องฟ้องหรือไม่ฟ้องเป็นการตัดสินใจของคุณเอง คนที่ไม่ได้เจอกับตัวเองมักจะไม่รู้รสว่ามันรู้สึกอย่างไรและลำบากใจแค่ไหนที่จะเล่าเรื่องแบบนี้ซ้ำซากให้คนอื่นฟัง และบางครั้งไอ้เรื่องที่เราโดนมาคนอื่นฟังแล้วอาจตัดสินเราผิดๆหรือบางคนก็อาจไม่เชื่อเราเลยก็ได้ ยิ่งในกรณีที่ไอ้บ้ากามเป็นบุคคลที่มีภาพพจน์ที่ดีมีคนรู้จักและนับถือมากมายในสังคม ผุ้หญิงธรรมดาๆคนนึงจะออกมาประกาศเรื่องแบบนี้บางครั้งค่อนข้างเสี่ยงกับการโดนดูแคลนและเข้าใจผิด หรือคนอื่นก็ไม่สนใจเท่าไรว่าเราจะรู้สึกแย่ขนาดไหนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดิฉันเคยมีเรื่องกับเพื่อนร่วมงานชาวเอเชียคนนึง ผู้ชายคนนี้อายุน้อยกว่าสองสามปีฉากหน้าเป็นคนดีเลิศเลยทีเดียว งานไม่เคยบกพร่อง นิสัยดี ร่าเริง โอบอ้อมอารีต่อผุ้อื่น รูปร่างหน้าตาก็ดีเคนธีรเดชนี่หลบไปเลย ติ้ก เจษต้องเลี้ยวขวา เค้ายังไม่แต่งงานแต่มีแฟนสวยราวกับนางงามเกาหลีดูรักกันหวานเชียว  ดิฉันสนิทกับเพื่อนร่วมงานคนนี้มากนับถือว่าเป็นเพื่อนและเป็นน้อง บางครั้งก็ไปไหนมาไหนด้วยกันหรือบางครั้งก็ขับรถไปส่งดิฉันที่บ้าน หลายปีผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างปกติทุกอย่าง แต่วันหนึ่งเมื่อสามปีที่แล้วเราไปงานวันเกิดเพื่อนอีกคนด้วยกัน เป็นงานเล็กๆที่จัดขึ้นที่บ้านและเจ้าของบ้านก็เพื่อนสนิทกัน  พอทุกคนกลับหมดแล้วเหลือดิฉันและเพือนผู้หญิงอีกคนที่เตรียมตัวจะกลับบ้านเหมือนกัน ไอ้โฉดมันดึงดิฉันเข้าไปในห้องนอนเจ้าของบ้านทันที และพูดจาได้หยาบคายที่สุดตั้งแต่เรารู้จักกันมา นึกไม่ถึงเลยว่าจะออกมาจากปากของมัน ดิฉันไม่ได้ดื่มเหล้าหูไม่ฝาด ตาไม่ลายแน่ๆและไอ้คนชั่วมันก็ไม่ได้เมาเพราะพรุ่งนี้เช้ามันต้องไปทำงานแถมยังต้องขับรถไปส่งดิฉันและเพื่อนอีกคนที่บ้าน จะเมาได้ไง ไม่เมาแน่ๆ ดิฉันปกติปากกล้าและไม่เคยกลัวใคร แต่วินาทีนั้นมันทั้งตกใจและงงจนพูดอะไรไม่ออก มันช็อก ตกใจที่สุดในชีวิตกับสิ่งที่ไม่เคยนึกฝันมาก่อน สมองโง่ๆคิดได้เลยว่านี่มันคือกับดักที่ต้องมีคนวางแผนไว้แล้ว ไม่ไช่อุบัติเหตุไอ้เจ้าของบ้านก็ระแย่สิ้นดี ตอนนั้นรู้เลยว่าสู้กันก็คงไม่มีประโยชน์เพราะแรงผู้ชายตัวโตๆกับผุ้หญิงมันผิดกัน ดิฉันจึงอ้อนวอนและพูดดีๆว่าดิฉันมีสามีซึ่งเราก็รู้กันอยู่ ขอให้นึกถึงว่าถ้ามีคนมาทำอย่างนี้กับแฟนคนสวยของตัวเองจะรู้สึกอย่างไร และดิฉันสัญญาว่าจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ จะไม่เล่าให้ใครฟังทั้งสิ้น คืนนั้นดิฉันรอดมาได้แบบทุลักทุเลคิดว่าตัวเองโชคดีมากๆเพราะที่จริงได้ทำใจเผื่อไว้แล้วด้วยว่าถ้ามันแย่มาก ถ้าหากเราไม่รอดจะแก้ไขปัญหาต่อไปอย่างไร   หลังจากกลับถึงบ้านแล้วยังมีการส่งข้อความหยาบคายมาอีกว่าถ้ามีโอกาสจะต้อง F**k ดิฉันให้ได้ ตอนนั้นเกลียดเข้ากระดูกเลยและรู้สึกเสียใจมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับวันๆนั่งใจลอยคิดแต่เรื่องบ้าๆนี้ ว่าจะเล่าให้คนอื่นฟังดีหรือเฉยๆเสีย ต้องพยายามต่อสู้กับคำถามโง่ๆของตัวเองซ้ำซากว่าเราไปให้ท่าเค้าไช่ไหมถึงได้โดนแบบนี้ เราทำตัวเองหรือเปล่า คงเพราะเรามันดูร่านมากผุ้ชายถึงได้ทำอย่างนี้กับเรา ดิฉันรู้สึกแย่และผิดไปตลอดทั้งเดือนโดยไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ถ้าเล่าให้สามีฟังดิฉันจะต้องได้ขึ้นศาลแน่ๆสามีจะต้องเอาเรื่องอย่างถึงที่สุด คนคนนั้นจะต้องถูกออกจากงาน คนอื่นที่ทำงานดิฉันมองไม่เห็นว่าจะมีใครเชื่อเราทุกคนต้องคิดว่าดิฉันกุเรื่องเพราะผู้ชายคนนี้เป็นที่รักของคนทั่วไป ภายใต้หน้ากากอันโสโครกของมัน ยิ่งต้องเจอหน้ากันทุกวันก็ยิ่งอยากอ้วก มันทำหน้าตากรุ้มกริ่มและทำสนิทเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกว่าจะเริ่มทำใจได้และเล่าให้เพื่อนร่วมงานผุ้หญิงที่เราไว้ใจฟังก็เพื่อที่จะได้รับความเห็นจากเธอว่า ดิฉันน่าจะยอมไปเลยไม่เห้นจะเสียหายอะไร ดิฉันไม่ทราบว่าเธอพูดเล่นหรือจริงแต่คนฟังอย่างดิฉันน่ะรู้สึกน้อยใจมาก พูดเหมือนเราอยากจนตัวสั่นอยู่แล้ว ตั้งแต่นั้นมาเลยคิดว่านั่นคือกรรมของเราเองและดีแล้วที่ไม่ได้บอกใครเพราะถ้าบอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อหรือเห็นใจผู้หญิงอย่างเราหรอก รังแต่จะเหมือนประจานตัวเอง ทุกวันนี้เราทำงานคนละแผนก เจอหน้าก็ทักทายกันตามปกติทำได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ในใจดิฉันไม่เคยลืม ถึงจะไม่โกรธไม่แค้นแล้วแต่ไม่เคยลืมสิ่งที่มันพูดและทำไว้เลย มนุษย์เรานี้หนอโรคจิตจริงๆมีแฟนสวยยิ่งกว่าดาราแถมเพียบพร้อมแต่กลับมาหื่นใส่เมียคนอื่น ของสวยๆที่บ้านก็มีไม่ชอบ โชคดีค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็ฟ้องให้มันหัวกุดท้ายเน่าไปเลยอย่ามานั่งอาฆาตแค้นพยาบาทแบบดิฉันเลย ยอมรับว่าดิฉันไม่กล้าเพราะไม่อยากให้คนที่ดิฉันรักไม่สบายใจ และไม่อยากต้องมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล เวลาจะช่วยรักษาใจค่ะ จากที่เคยแค้นขนาดอยากส่งคนไปยิงตอนนี้ดิฉันปลงได้แล้ว ถือว่าคนที่ทำกรรมกับคนอื่นไว้สุดท้ายก็ต้องได้รับผลของมันไม่วันใดก็วันหนึ่ง บางคนอาจจะหมั่นไส้ว่าอะไรกัน ไม่ได้เสียตัวสักหน่อยจะสั่นอะไรนักหนา เรื่องแบบนี้ต้องโดนเองค่ะ แม้จะไม่เสียทางกายแต่มันมีผลกระทบอย่างรุนแรงด้านจิดใจ ดิฉันคิดว่าตัวเองเก่งนะและเป็นคนแข็งแต่เรื่องนี้ทำให้เสียศูนย์ไปเลย  เหมือนคนแท้งลุกน่ะจะชอบโทษตัวเอง มันจะคิดตลอดว่าเพราะเราทำตัวไม่ดีเราเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่อง เราแต่งตัวไม่เหมาะสมหรือไม่ก็เป็นมิตรจนเกินไป วนเวียนไม่จบสิ้นบางครั้งก็สมน้ำหน้าตัวเองบางทีก็แค้นและเกลียดไอ้คู่อริ เหมือนคนบ้าเลย จากคุณ : Gisele เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 09:08:27

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาเป็นกำลังใจให้เข้มแข็ง อย่ายอม อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล แต่ควรปรึกษาผู้รู้กฏหมายว่าหลักฐานแวดล้อมที่เกิดเหตุพอจะเอาผิด ..ว์ อย่างมัน ได้หรือเปล่า จากคุณ : Imperio เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 09:20:51

ความคิดเห็นที่ 14 แวะเข้ามาเป็นกำลังใจให้ทั้งคุณหนู และคุณGisele รวมทั้งผู้หญิงทุกคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายแบบเดียวกันนี้ อย่ายอมแพ้นะครับ ยิ่งยอม มันยิ่งได้ใจ จากคุณ : sleepless night เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 10:30:26

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ คือว่าที่เรากลัวว่าจะฟ้องดีหรือไม่ดีนั้น เพราะว่าเหตุผลคือ ข้อหนึ่ง เขาเป็นรวยแล้วภาพพจน์ดีมาก ไม่มีใครรู้เบื้องลึกเบื้องหลังเค้าที่บริจาคเงินเพื่อชื่อเสียงหน้าตา ด่าแม้กระทั่งพระ ด่าคนดีๆ ที่ได้เหรียญพระราชทาน ดูถูกเค้าด้วยความอิจฉา นอกจากเราและลูกน้องเก่าๆ ซึ่งลาออกไปหมดแล้วเท่านั้นที่รับรู้เรื่องชั่วๆ ของเค้า เรากลัวว่าคนจะคิดว่าเราอยากได้เงินของเค้า ข้อสองก็คือ เรื่องเกิดขึ้นที่ต่างรัฐ อย่างที่ชี้แจงให้ทราบ มันเป็นการเดินทางไปด้วยกันสองคน แบบที่คนรู้เห็นก็คือเพื่อนเราเท่านั้น ทางฝ่ายอื่นเช่นเมียเค้าเพื่อนเค้านั้น เค้าหลอกบอกทุกคนว่าไปต่างรัฐ แต่ไม่ได้ไปกับเรา ข้อสามคือ ยามที่โรงแรมที่เราคุยด้วยนั้น เค้าบอกเราว่าหลักฐานเราอาจจะไม่พอ เราคงไม่ได้อะไร นอกจากเสียชื่อและเสียหน้า รวมทั้งเสียเวลา อีกทั้งตำรวจต่างรัฐนั้น ไม่ได้เห็นใจเราและเราไม่รู้เลยว่า police report นั้นเขียนอะไรไว้บ้าง วันนี้ได้โทรไปที่สถานีตำรวจรัฐนั้นอีกครั้ง เค้าบอกว่าให้ไปรับ police report ได้ด้วยตนเอง เราบอกว่าเราอยู่อีกรัฐหนึ่ง เค้าก็อธิบายว่าเราต้องเขียนจดหมายพร้อมทั้งทำ notary แล้วเสียเงิน $6 เหรียญ เพื่อที่เค้าจะได้ส่งมา วันนี้เราเข้าไปที่ออฟฟิศ ไปจัดการงานเอกสารต่างๆ ทำบิลให้ลูกค้า แล้วก็เขียนโน๊ตบอกนายไว้ประมาณว่า เราขอลาออก ขอให้เค้าจ่ายเงินเดือนในส่วนที่เหลือให้เราด้วย แล้วก็อโหสิกรรมให้เค้า รวมทั้งขอให้เค้าอย่ายุ่งกับชีวิตเราอีก ให้อโหสิกรรมให้เราหากอดีตชาติหรือชาติปัจจุบันเราทำกรรมอันใดไว้ ก็ขอให้อย่ามามีเวรกรรมต่อกันอีกเลย แต่ใจเราจริง ๆ ก็อยากฟ้อง เพราะว่าความรู้สึกเราล่ะ ความเสียหายที่มี ตัวเราเป็นแผลจ้ำๆ ที่แขนสองข้าง ตอนที่มันเข้ามาบีบ รวมทั้งผลกระทบจิตใจของเรา มันเกินจะรับไหว เราต้องนอนฝันร้าย ต้องทรมานกับภาพเลวร้าย มันเหมือนในหนังจริงๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันหลอกมันหลอน มันทำร้ายจิตใจเรามากๆ เรื่องบริษัท มันเป็นบริษัทของเค้า ภายใต้ชื่อของญาติเค้า เป็นเพียงบริษัทเล็กๆ หลอกๆ ขายของเล็กๆ น้อยๆ มีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย เพื่อที่เค้าจะเอาไว้หักภาษีเป็น lostจากรายได้ส่วนอื่นของเค้า เรื่องมันค่อนข้างซับซ้อนตรงจุดนี้ ขอไม่อธิบายเพิ่มละกัน เพราะมันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพียงแต่ที่อธิบายไว้ตรงนี้ เพราะว่า เราไม่สามารถจะฟ้องใครในบริษัทได้ นอกจากญาติเค้า ซึ่งเราไม่มีเบอร์ไม่มีที่ติดต่อเลย รู้แค่ชื่อกับรู้แค่ว่าอยู่รัฐใกล้ๆ ตอนนี้มีแค่เราที่ทำงาน full time มีน้องผู้ชายอีกคนที่ทำ part time ซึ่งเราบอกเค้าไปแล้วว่าเรามีปัญหา จะไม่ไปทำอีก น้องเค้าก็บอกว่า เค้าก็กำลังจะลาออกพอดี ด้วยความที่น้องเค้ารู้สึกอึดอัด ตอนนี้ที่มาเขียนกระทู้นี้ เพียงเพื่อต้องการความคิดเห็นว่าควรจะฟ้องดีไหม แล้วต้องทำอย่างไรบ้าง ถ้าต้องจ้างทนาย เราจะทำยังไง ในเมื่อเราไม่มีเงินเลยจริงๆ แล้วเท่าที่เล่าให้ฟังมันก็มีหลักฐานเพียงเท่านี้ เราจะชนะได้เหรอ.. กลัวแล้วก็กังวลไปหมด กับแฟนนั้นก็เล่าให้ฟังตลอด เค้าโทรมาหลังจากเกิดเหตุเพียงไม่กี่นาที เหมือนใจมันสื่อกันได้ แต่เค้าก็ทำอะไรให้ไม่ได้ แฟนเราก็ไม่มีเงิน เค้าได้แต่บอกให้กลับไทย แต่เรายังกลับไม่ได้ ด้วยภาระที่มี หนี้สินจากค่าเรียนอีกมากมายก็ยังใช้ไม่หมด ขอโทษทุกคนด้วยค่ะที่มาเล่าเรื่องไม่ดีนี้ให้ฟัง แล้วก็ขอขอบคุณนะคะสำหรับทุกความคิดเห็นและกำลังใจ ถ้าใครมีข้อมูลชี้แจงหรือคำแนะนำเพิ่มเติม ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ จากคุณ : หนู เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 10:54:33 A:24.13.139.19 X: TicketID:297370

ความคิดเห็นที่ 16 ควรถ่ายรูป ที่ว่าเขียวเก็บไว้ ไปพบแพทย์ ให้แพทย์ทำหนังสือว่าคุณ เข้าพบเมื่อไหร่ เพื่อเป็นหลักฐาน วันหนึ่งคุณอยากฟ้อง แต่ไม่รู้นะว่า ระยะเวลาต้องไม่เกินกี่วัน ความเห็นส่วนตัว รอผู้รู้ท่านต่อไป จากคุณ : Hula Girl เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 11:44:10

ความคิดเห็นที่ 17 - ลองติดต่อ กงสุลไทย ทางโทรศัพท์ ตอนแรกบอกว่า ขอคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้หญิงได้ไหมคะ แล้วเล่าให้เจ้าหน้าที่ผู้หญิงฟังย่อๆว่า ถูกคนไทยพยายามข่มขืน แต่รอดมาได้ แล้วลองฟังดูว่า กงสุลไทย จะช่วยยังไงบ้าง ถ้าคุณพอใจในคำตอบ คุณก็ขอให้เขาช่วย แต่ถ้าไม่ได้คำตอบ ก็วางหูโทรศัพท์ -รัฐที่คุณอยู่มี workforce ของ department of labor ไหมคะ คือเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่หางาน หาที่เรียน และช่วยเหลือ คนมีรายได้น้อย ถามเจ้าหน้าที่เรื่อง sexual harrasment ถามว่ามีข้อมูล หรือแผ่นพับไหมคะ ถ้ามีในนั้นจะมีเบอร์โทรให้ติดต่อ หรือไปห้องสมุดใกล้บ้าน หรือใกล้ที่ทำงานแล้ว แล้วขอ information เกี่ยวกับ sexual harrasment - ไปที่ yahoo.com แล้วพิมพ์คำว่า "no money but need lawyer for sexual harrasment in ใส่ชื่อรัฐ" บางแห่งไม่ต้องจ่ายเงินค่าทนาย เพราะทนายจะให้อีกฝ่ายจ่ายค่าใช้จ่ายให้เรา จากคุณ : ลมหนาว เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 12:36:48 A:24.46.57.94 X: TicketID:293440

ความคิดเห็นที่ 18 ฟ้องโล้ดค่ะ เคสที่ผ่านมาเล็กน้อยกว่านี้ แต่เราก็เอาเรื่องถึงที่สุด ไม่ใช่เพื่อความสะใจ แต่อยากให้บทเรียนค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 12:56:13 จากคุณ : amdekd เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 12:54:40

ความคิดเห็นที่ 19 ฟ้องเลยครับเพื่อตัวคุณเอง และคนอื่นในอนาคตด้วย จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 13:06:04

ความคิดเห็นที่ 20 ฟ้องเลยครับเพราะชั่วจริงๆ น่าจะเป็นโรคจิตด้วย แล้วถ้ายังลอยนวลอยู่เดี๋ยวไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้หญิงคนอื่นอีก  ผมว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเอาผ้าถุงคุมหัวนะ เพราะใจตุดมาก ดูแล้วคงเป็นโรคจิต เป็นกำลังใจให้นะครับ  ฟ้องเลยสงสารผู้หญิงคนอื่นที่จะโดนกระทำอีก จากคุณ : mr.eng (mr.eng) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 14:52:38

ความคิดเห็นที่ 21 จะฟ้องก็ต้องคิดให้ดีๆ อย่าพึ่งไปเต้นกับลูกยุ และเท่าที่อ่านมาดูๆแล้วก็หลักฐานอ่อน หากทางแม่บ้านและยามของโรงแรมไม่ยอมเสียเวลาและไม่ได้ให้ความร่วมมือ เกรงว่าคุณจะเสียทั้งเงินทั้งเวลา ตั้งสติก่อนหากคิดจะฟ้องจริงๆล่ะก็รวบรวมทั้งหลักฐานพยานให้มั่งคงก่อน และที่สำคัญจะหาทนายดีๆสักคนหนึ่งโดยเราไม่ค่อยมีตังค์นี่จะหาได้ยากหน่อย เขามีตังค์รวยกว่าคุณเขาหาทนายได้ดีแน่ๆเพราะงั้นพอขึ้นศาลแล้วคุณเอ๋ย  ชีวิตคุณทั้งหน้าหลังอดีตตั้งแต่สมัยไหนโดนงัดมาขุดมาคุ้ยหมด เขาจะซักถึงตอนเกิดเรื่องท่าไหนอย่างไร คุณจะอับอายจนสู้หน้าคนไม่ได้(ถ้าหากเป็นเหมือนศาลในอังกฤษนะ) หากคิดว่าจะฟ้องเพื่อศักดิ์ศรี ฟ้องเพื่อไม่ให้คนอื่นโดนอย่างคุณอีกก็ยินดีด้วย จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 15:12:44

ความคิดเห็นที่ 22 คนที่ยุคุณ ให้ฟ้อง เค้าไม่ได้มาเจออย่างคุณ ในเมื่ออโหสิแล้ว ก็ลืมมันไปเหอะ...ถ้าคิดจะเอาคืน มันต้องนอกระบบอย่างเดียวเท่านั้นแหละ จากคุณ : เฒ่าบ้าฯ (เฒ่าบ้าฯ) เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 15:43:39

ความคิดเห็นที่ 23 ตอนจบใหม่ๆถูกส่งไปใช้ทุนในอำเภอเล็กๆ  วันหนึ่งอยู่ er มีเด็กวัยรุ่นเมาเหล้าและเรากำลังทำแผลให้เขา เขาเอามือมาเหมือนจับแก้มเรา และปัดอีกมือทำเป็นตบหน้าเราเบาๆ  เราก็จำเหตุการณ์ไม่ได้ตั้ง 30 กว่าปีแล้ว     เรามองหน้าและทำแผลจนเสร็จ พวกเพื่อนวัยรุ่น หรือนักเลงเจ้าถิ่น พากันยิ้มและหัวเราะเรา        หลังเสร็จงานเราเขียนรายงานให้ ผอ.ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ผอ.ถามเราอยากจะทำอะไร    เราบอกเอาตัวมาขอขมาเราต่อหน้าประชาชนที่มาโรงพยาบาล  ลืมบอกเรามีตำแหน่งหัวหน้าชมรมผู้สูงอายุในอำเภอนั้นด้วย       พวกพี่เพื่อนๆบอก อย่าเอาเรื่องเขาเลย พวกนั้นนักเลงน่ะ  เราบอกไม่จะเอาเรื่องถึงที่สุดเพราะเขาจะได้ไม่ไปทำเรื่องไม่ดีกับคนอื่นอีก  เราก็เอาเรื่องมาปรึกษาผู้ใหญ่ที่เก่าแก่ในอำเภอ ท่านบอกว่า ถ้าทำให้คนหลายคนกลัวความชั่ว ทำต่อไปเถอะนั้นคือความจริง      เราโชคดีที่ได้ ผอ.รพ ดีมากๆ ( ท่านได้เป็นหมอดีเด่นของประเทศด้วยน่ะค่ะ ท่านสอนเราหลายอย่าง ใครๆก็กลัวท่าน แต่เรากับชอบและรัก เคารพ ท่านเสมอมา ท่านไม่คัดค้านสิ่งที่เราทำและให้กำลังใจเราเสมอมา )          ส่วนลอง ผอ. วัยเท่าเรา  อยากให้เรารอมชอม  บอกว่าแค่เรื่องเล็กน้อยเอง ( คู่กัดของเรามาตลอด 2 ปี แต่ทุกความคิดเห็น ผอ.จะยอมรับความคิดเห็นเราประจำ ) เราปฎิเสธเขาโกรธเรามากๆ        ช่วงนั้นทรมารใจมากเพราะเรื่องใช้เวลานานเกือบเดือนและเราต้องเดินไปซื้อของผ่านบ้านเด็กคนนั้น  ที่มีเพื่อนเขาเป็นฝูง มองเราตลอด แต่ไม่กล้าแซว       สุดท้ายวันที่เขาขอขมาก็มาถึง เป็นวันจันทร์ที่มีคนไข้เยอะๆ พ่อแม่เด็กและผู้ใหญ่ที่ชาวบ้านเคารพในอำเภอนั้น มากล่าว คำขอโทษเราและให้เด็กคนนั้นกล่าวตาม และจัดพานขอขมาเรา ต่อหน้าชาวบ้าน ทางเราก็มี ผอ. เรามาร่วม ส่วนรอง ผอ.ไม่มาร่วม        ก็บอกตรงๆว่า เรารู้สึกอายน่ะ ที่มีคนรับรู้เรื่องเรา ใครจะนินทาเรา เราไม่สน เพราะ เกียรติและศักดิ์ศรีของเรา และไม่ใช่เรารายแรกที่เด็กพวกนี้ซ่า กับ จนท. น้องใหม่ ผู้หญิง พวกที่จบมาใหม่ๆ         เราไม่ใช่คนในอำเภอนั้น เป็นคนต่างถิ่น  และเราดีใจที่เราเป็นคนแรกที่ทำและทำให้เด็กเหล่านั้น ไม่กล้าก้าวร้าวกับคนอื่นๆอีก         บอกตรงๆค่ะช่วงตัดสินใจทำ ทรมารใจเรามากเพราะปกติเราเป็นคนใจดี ไม่ชอบทำให้คนเสียใจ  แต่ถ้าคิดถึงส่วนรวมและเป็นผลดีกับคนอื่นๆ เรายอมอายค่ะ ทำหน้าทนทาน วันนั้นทั้งวัน        ก็อยากให้ จขกท. เอาเรื่องน่ะค่ะ คุณยิ่งโดนมากกว่าเราอีกน่ะค่ะ  ลองปรึกษาผู้รู้    ที่เพื่อนๆแนะนำ อย่ายอมแพ้หรืออายคนน่ะค่ะ เกิดมาครั้งเดียว ถ้าต้องทำให้เพื่อนหญิงคนอื่นๆปลอดภัยจากคนเลว ถ้าคุณทำได้และกล้าที่จะทำ คุณจะรู้ว่ายกภูเขาออกจากอกมันเป็นยังไง  อย่าให้คนชั่วลอยนวลและคุณเหมือนตกนรกตลอดชีวิตทุกครั้ง   เรื่องนี้มันจะฝั่งใจคุณตลอดไป      เขาจะดีต่อหน้าผู้อื่น คุณอย่าไปกลัวค่ะ ชนะไม่ชนะคุณก็ได้ประกาศความเลวของเขาต่อหน้าสาธารณชน  อเมริกากว้างใหญ่ไพศาลและคุณมีใบเขียว ไปทำที่อื่นก็ได้  ให้คิดดีๆและเก็บหลักฐานไปเรื่อยๆ ปรึกษาทนายที่ช่วยคนไม่มีเงิน บางคนเรื่องเป็น 10 ปี 20 ปี เข้ายังฟ้องได้     เอาใจช่วยน่ะค่ะ เข้มแข็งน่ะค่ะ กฏหมายที่ usa ดีกว่าบ้านเราแน่ๆ โดยเฉพาะ กรณีนี้ อย่าคิดไปเองค่ะ ไม่ชนไม่รู้ว่ามันร้อนหรือไม่ร้อน จากคุณ : โค้งหักศอก เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 15:44:15

ความคิดเห็นที่ 25 ฟ้องไม่ฟ้อง อยู่ที่คุณครับ ไม่ต้องวิตกว่าคุณขี้ขลาด หรือปล่อยให้คนเลวได้ใจหรอก ถ้าไม่ได้ฟ้อง ดูแล้วมันทั้งยุ่งยาก ทั้งลำบาก มันอาจจะไม่คุ้มที่ต้องเสียเงิน เสียเวลา เสียความรู้สึกจากคนรอบข้าง แล้วก็ไม่อาจคาดการณ์ผลลัพธ์ได้ด้วย  คุณอาจจะเสียความรู้สึกซ้ำสองไปอีก ถ้าไม่ฟ้อง ก็ขออโหสิกรรม กรวดน้ำให้มันไปซะ แล้วก็ระมัดระวังตัว รักษาเนื้อรักษาตัวต่อไปครับ คนเลวๆ มีอยู่ทุกหนแห่งนั่นแหละ ไม่ว่าที่ไหน สติและการระวัง จะช่วยให้เอาตัวรอดได้ จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 19:57:15

ความคิดเห็นที่ 26 Search คำว่า Legal Aid or Pro Bono near ..... (your zip code)  โทรไปเค้าจะติดต่อทนายช่วยเหลือด้านที่ถูกต้องให้ Good Luck ka~ จากคุณ : Pan@CA เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 20:54:08

ความคิดเห็นที่ 27 มีคุณกะเขาสองคน ใครเห็นคุณโดนเขาทําไหม ผมว่าเขาหลุด ฟ้องๆได้ แต่คงงัดกันแหลก จากคุณ : อาจาน ปะเมิน เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 22:28:56 A:124.122.249.111 X: TicketID:231352

ความคิดเห็นที่ 28 ระวัง ทนายฝ่ายจําเลย เขาจะดึงเรื่องของคุณให้พ้นระยะการฟ้อง และอาจวิ่งไปหาข้อมูลอ้างอิงกรณีแบบคุณ แล้วทําให้ศาลยกฟ้องได้ สรุปก็คือ ถ้าจะฟ้องก็รีบดําเนินการ หลักฐานมิใช่คุณวิ่งหน้าตาตื่นเสื้อผ้าหลุกลุ่ย เท่านั้น ขอให้คุณปรึกษาทนายด่วน ปล่าอยไว้ไอ้นี่ทําบาปอีกแน่ จากคุณ : D A ตัวจริง เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 22:42:23 A:124.122.249.111 X: TicketID:231352

ความคิดเห็นที่ 29 เวลาที่เหตุเกิดในรัฐนึง และเจ้าตัวอยู่อีกรัฐนึง การจะฟ้องไม่ง่ายเหมือนกรณีที่ทั้งคู่อยู่รัฐเดียวกัน  แต่โดยหลักแล้วถึงเขาจะข่มขืนคุณไม่สำเร็จ  นอกจากการดำเนินคดีทางอาญา คุณยังสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้อีกด้วย คดีข่มขืนมีอายุความ คือคุณต้องฟ้องภายในกำหนดเวลา ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่รัฐไหน เหตุเกิดที่ไหน ฯลฯ  ต้องมีรายละเอียดมากกว่านี้ถึงจะแนะนำได้ถูกนะคะ จากคุณ : Lawanwadee เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 23:19:52

ความคิดเห็นที่ 30 สำคัญที่พยานหลักฐานค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ เรื่องร้ายผ่านไปขอให้เจอแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตนะคะ จากคุณ : embarcadero เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 00:36:57

ความคิดเห็นที่ 31 เราก้ออยากให้ฟ้อง  แต่ คู่กรณีมีเงิน มีอำนาจ  แล้วหลักฐานมันอ่อน  กลัวว่าเราจะแพ้  แล้วถูกฟ้องกลับอ่ะค่ะ  ทีนี้ จขกท  อาจจะแย่ เพราะโดนฟ้องกลับว่าทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง   แต่คนแบบนี้นะ....เฮ้อ...น่าจะมีวิธีจัดการ จากคุณ : cool_girlgang เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 08:18:03

ความคิดเห็นที่ 32 ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ จะทำสิ่งใดก็ขอให้ใช้สติให้มาก เพราะการใตร่ตรองมักจะถูกต้องด้วยเหตุที่สมควร คุณเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรควรจะต้องทำ บุญรักษาค่ะ จากคุณ : mona4200 เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 09:26:50

ความคิดเห็นที่ 33 แวะเข้ามาอ่าน...ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : keng_toshi เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 09:49:01

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่ต้องฟังเสียงเชียร์หรือไม่เชียร์ ไม่กินอุดมการณืให้มากเกินไป ตัดสินใจด้วยตนเองได้แล้ว มีคนให้ความเห็นมาเยอะแล้ว ว่าคุ้มค่าหรือไม่ ให้คิดถึงผลประโยขน์ส่วนตัวก่อนความเคียดแค้นหรือสะใจหรือเพื่อใครอื่น ถ้าจะฟ้องต้องปรึกษาทนายเป็นการซาวเสียง ต่อจากนั้นจึงเตรียมหลักฐาน จำไว้เสมอว่าศาลเขาไม่สนใจความจริงหรือเท็จเขาสนใจแต่หลักฐาน ส่วนทนายก็ " Nothing personal, it is money that we are after" ถ้าเป็นผมเอง บอกตรงๆ อยากได้เงินแต่อยากอยู่อย่างสงบ ตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกัน อิอิ เห็นใจและขอให้เข้มแข็งกว่าเดิม จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 19:52:29 A:71.114.75.107 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 35 เรื่องฟ้องไม่ฟ้องไม่มีความเห็น แค่เข้ามาให้กำลังคุณจขกท. ค่ะ . จากคุณ : suttimon เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 20:33:09

ความคิดเห็นที่ 36 เรื่องแบบนี้ใช้คอมมอนเซนท์ของตัวเองดีที่สุดว่าอยากจะทำอย่างไรกับชีวิตตัวเองดี ยกตัวอย่างให้อ่านเล่นๆว่า...ในอังกฤษนี่ผู้หญิงบางคนฟ้องเจ้านายเพราะแค่เขาใช้คำพูดแทะโลมหรือดูถูกความเป็นผู้หญิงในที่ทำงาน เขาก็ยังฟ้องกันได้ ยังไม่ทันที่วัวแก่ได้เล็มหญ้าอ่อนด้วยซ้ำ แค่เหล่ๆส่งเสียงมอ มอ อ้อ ล้อ ก็โดนแล้ว...มันอยู่ที่ตัวผู้หญิงว่าจะเอาอย่างไรกับคนประเภทนี้ดี และมีที่ปรึกษาทางกฏหมายดีๆที่อยากจะช่วยเหลือหรือไม่ แม้ไม่มีเงินแต่หากเคสมันน่าสนใจ ซึ่งฟ้องแล้วชนะเพราะมีหลักฐานเอาความผิดได้ ทนายอาจจะอยากทำให้ฟรีๆก็ยังมีเลยในอังกฤษ (แต่พอฟ้องชนะได้เงินมาแล้วค่อยจ่ายคืนแบบนี้) หากคุณสามารถหาพยานหลักฐานครบ มัดตัวไม่หลุดแน่ก็ฟ้องไป แต่หากพยานหลักฐานอ่อนมากๆ ต่อให้เป็นเรื่องจริงมันก็ยากที่จะไปฟ้องเอาเรื่องใครเขาได้ หากบางคนถูกข่มขืนจริงๆ แล้วไปตรวจหาร่องรอยภายในอาจจะพบเชื้อของผู้ชาย ก็สามารถเอามามัดตัวฟ้องร้องหรือแจ้งความได้ แต่คุณนี่หนีรอดมาได้ก็ถือว่ามีบุญรักษา แม้เป็นการหนีรอดออกมาได้ไม่เสียตัวแต่ก็ต้องเสียใจตกใจเป็นธรรมดา ก็เข้าใจอยู่... แต่เรื่องภายในห้องหรือก่อนหน้านั้นก็ไม่มีใครรู้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น และอย่างไร มันก็ลำบากที่จะไปหาพยานหลักฐานเอามามัดตัวคนผิดได้ว่าเขาพยายามจะข่มขืนจริง...อย่าหาว่าพูดจาไม่รักษาน้ำใจกันเลยนะคุณหนู ดิฉันเองก็ว่าไปตามเนื้อผ้า หากดิฉันเป็นทนายให้คุณ ดิฉันก็เหมือนกำลังงมเข็มในมหาสมุทร หากคุณจะเอาเรื่องเขาจริงๆ มันก็อาจจะต้องเลยเถิดไปถึงขั้นตรวจหา DNA ในห้องที่เกิดเหตุกันเลยทีเดียว และต้องอาศัยหน่วยงาน investigation มาช่วยตรวจหาร่องรอยการต่อสู้อีก ที่บอกมาทั้งหมดก็ ... Money talks ทั้งนั้น ไอ้เรื่องว่าเขาเป็นคนมีชื่อเสียงมีเงินมีอิทธิพลน่ะเรื่องเล็ก...หากมีหลักฐานแน่ชัด สามารถระบุลงไปได้ว่าเขาทำจริงๆ ต่อให้ใหญ่แค่ไหนก็โดนสอยร่วงได้ไม่ยาก แต่หากไม่มีหลักฐาน หรือหลักฐานอ่อน ก็ต้องถือเป็นบทเรียนในชีวิตไป ... อ่านแล้วอาจจะดูเหมือนดิฉันพูดแบบเห็นแก่ตัวนี่หว่า ไม่ได้โดนไม่รู้หรอก ... ก็ใช่ แต่หากโดนเหมือนกัน และไม่สามารถหาพยานหลักฐานมามัดตัวผู้ร้ายได้ ดิฉันก็ต้องยอมก้มหน้ารับสภาพไปว่าครั้งหนึ่งเคยถูกเจ้านายลวนลาม และก็จะจำไปจนวันตายสอนลูกสอนหลานทีเดียวว่า อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง ... หาใช่ว่าเราโง่หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ แต่เพราะคนเราเล่ห์เหลี่ยมในการเอาตัวรอดและการดำรงชีวิตมันไม่เท่ากัน คุณอาจจะยังอ่อนต่อโลกในขณะที่เจ้านายคุณเขารอบจัดกว่า ... แม้ว่าเขาอาจจะรอดเงื้อมือตำรวจไปได้ครั้งนี้ แต่ใครจะรับรองได้ว่าเขาจะไม่ทำอีกในครั้งหน้าและโดนจับได้คาหนังคาเขา? ตอนนี้คุณอาจจะขวัญหนีดีฝ่อ ... ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเพราะขนาดถูกเขาไล่ปล้ำ ยามถามจะให้จับเขาไหมคุณก็กลัวจนบอกยามไปไม่เอาเรื่องแต่แรก ... เวรแท้ๆ อย่างไรเสียก็หวังว่าคุณจะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้นะ เกิดเป็นผู้หญิงนี่ถ้าไม่รู้จักต่อสู้กับความโหดร้ายของผู้ชาย เข้มแข็งเอาตัวรอดได้ อดทนไม่ยอมแพ้ อดกลั้นไม่ร้องไห้ ก็เห็นทีจะลำบากใจลำบากกายไปชั่วชีวิตลูกผู้หญิงเหมือนกัน ดังนั้น....จงเข้มแข็งจากนี้ต่อไป จากคุณ : กุศโลบายจากความจริง เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 20:36:42

ความคิดเห็นที่ 37 ดิฉันคิดว่าเกิดเป็นผู้หญิงนั้นลำบากมาก ภัยที่น่ากลัวที่สุดกลับไม่ไช่โจรข้างถนนหรือมีคนแปลกหน้ามาดักข่มขืนแต่กลับเป็นคนที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด คนที่เราไว้ใจ คนที่เราไม่เคยนึกถึงและไม่ได้มีแววว่าจะคิดอะไรไม่ดีกับเรา เพราะฉะนั้นจึงต้องพยายามใช้ชีวิตให้ปลอดภัยมากที่สุดด้วยการไม่ไว้ใจใครเลย เท่าที่เคยคุยกันแบบเปิดอกกับเพื่อนๆผู้หญิงด้วยกันดิฉันพบว่าผู้หญิงไทยหนึ่งในห้าคนที่ดิฉันรู้จักทุกคนเคยมีประสปการณ์ถูกลวนลามหรือโดนคนรู้จัก เช่นคนข้างบ้าน เพื่อนของพี่ชายปล้ำ หรือหนักมากถึงขนาดโดนพ่อของตัวเองข่มขืน ทำให้นอกจากจะตกใจแล้วยังทำให้ดิฉันตระหนักได้ว่า เราไม่ได้หัวเดียวกระเทียมลีบไอ้เรื่องทุเรศๆไม่ได้เกิดขึ้นกับเราคนเดียว เพียงแต่เรื่องแบบนี้ไม่มีใครเขานำมาเปิดเผยหรือเล่าสู่กันฟังนอกเสียจากจะเป็นข่าวหน้าหนึ่งที่พาดหัวในหนังสือพิมพ์ จำนวนผุ้ที่ถูกกระทำแล้วเรื่องไม่ถึงศาลย่อมมีมากกว่าแน่นอน ทำให้คนชั่วลอยนวลสบายเพราะผู้หญิงส่วนมากจะอายและสภาพจิตใจพังยับ จะบอกให้ว่ารู้สึกอย่างไร ถ้าวันแต่งงานเป็นวันที่ผุ้หญิงมีความสุขที่สุดในชีวิตวันที่ผุ้หญิงโดนปล้ำหรือข่มขืนก็เป็นวันที่ระยามที่สุดในชีวิตเหมือนกัน เพราะมันเป็นการทารุณจิตใจด้วยการทำให้เรารู้สึกว่าต่ำและไร้ค่า ไม่มีเกียรติ โดนบีบจับดึงทึ้งเหมือนผักปลาหรือสัตว์ตัวนึง เป็นเพียงสิ่งที่เขาใช้ระบายอารมณ์ในขณะนั้นให้มันเสร็จสิ้นไป เหมือนทิชชู่ที่ใช้เช็ดก้นแล้วทิ้งน่ะ  ถ้าจะให้มาเล่ากันอย่างละเอียดทุกขั้นตอนน่ะรับรองว่าอ่านแล้วจะน้ำตาไหลเพราะมันไม่เหมือนในละครเรื่องสวรรค์เบี่ยงหรือในหนังเรื่องใดๆ เรื่องจริงมันมีแต่ความทุเรศ อัปยศ มีแต่ความรุนแรงความทารุณ ชีวิตดิฉันถูกโฉลกกับพวกบ้ากามจริงๆ เสียตัวครั้งแรกก็ไม่ไช่คนที่ตัวเองรักหรือชอบแต่กลับเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัย คนที่ดีกับเรามากที่สุดคนที่สอนงานให้คนที่เรานับถือ แต่พอมีโอกาสกลับทำร้ายเราเสียนี่ ตอนนั้นดิฉันเพิ่งอายุสิบเจ็ดร้องโหยหวนเหมือนโดนเชือดเลย โดนดึงทึ้ง ผลัก กดลงไปกับพื้น กางเกงเป้าขาดซิบแตกจนต้องซื้อกางเกงใหม่มาใส่ถึงจะกลับบ้านได้ ป่วยนอนซมไปหลายวันขาสองข้างแข็งขยับไม่ได้ปวดไปทั้งตัว และฝันร้าย แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังฝันถึงอยู่บ่อยบางทีก็ฝันว่าเหตุการณ์เดิมมันเกิดขึ้นอีก พอตื่นก็โล่งใจที่มันไม่ไช่เรื่องจริง   บางคนอาจสงสัยว่าทำไมไม่บอกพ่อแม่ คุณๆอย่าลืมว่าสังคมไทยเรื่องฉาวๆคนชอบ ดิฉันไม่อยากให้ชาวบ้านลือกันไปสามบ้านแปดบ้าน ไม่อยากต้องไปโรงพัก ให้คนแปลกหน้ามาถามไหนจะต้องไปโรงพยาบาลให้หมอพยาบาลตรวจ กว่าจะจบขั้นตอนคงสติแตกไปเสียก่อนที่จะชนะความ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ช่วยกันดูแลลูกหลานให้ดี อย่าให้คลาดสายตา และควรสอนให้รู้จักเอาตัวรอดทางหนีทีไล่ อย่าพาตัวเองไปจนมุมอย่างดิฉันและอีกหลายๆคนที่เค้าไม่เปิดเผยและจะเก็บไว้กับตัวไปจนตาย เพื่อนดิฉันคนที่ถูกพ่อตัวเองข่มขืนตอนนี้เสียสติไปแล้วค่ะต้องหาหมอและกินยาเป็นประจำ เสียดายมากเสียดายความสามารถและรูปร่างหน้าตาที่สวยๆสมัยที่ทำงานสายการบินด้วยกันเคยสงสัยว่าทำไมคนสวยๆอย่างนี้จึงไม่มีแฟนและชอบเก็บตัวแต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นของมีตำหนินั่นเอง เธอคงกลัวผู้ชายไปเลย ผู้ชายบางคนน่ะโหดร้ายจริงๆค่ะดิฉันคงทำกรรมกับพวกเค้าไว้ถึงได้ตามมาเอาคืนชาตินี้  คิดแบบแง่ดีก็ถือซะว่าให้ทานหมามันไปอย่างน้อยเราก็ไม่ได้ถูกฆ่าตายยังมีลมหายใจที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้   เออ ได้เล่าแล้วมันโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนได้ปลดปล่อยไอ้ความแค้นและความอับอายความขยะแขยงที่สะสมมานาน สิ่งที่แปลกมากคือดิฉันไม่เคยร้องไห้แต่กลับมีอาการประหลาดๆคือจะชอบเอาทัพพีมาโขกหัวตัวเองหรือตีตัวเองให้เจ็บๆแล้วก็สมน้ำหน้าตัวเองที่โง่ มีคนบอกว่าให้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพราะทุกวันนี้นานๆทีเรื่องนี้ก็จะกลับมาหลอกหลอนแม้ว่าจะพยายามลืมและหมกมันไว้ในใจเท่าไร ว่างๆมันก็จะกลับมาเสมอ พอนึกถึงแล้วก็จะมีอาการหวิวๆในใจทุกครั้ง ถ้าเอายางลบมาลบออกไปได้ก็คงจะดี ไม่อยากจะจำ จากคุณ : Gisele เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 22:42:22

ความคิดเห็นที่ 38 เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ จากคุณ : ตัวกลมกับตาโต เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 22:42:52

ความคิดเห็นที่ 39 ในอเมริกาก็มีทนายอาสา ที่ให้ความช่วยเหลือ โดยไม่คิดค่าตอบแทน แต่คุณอาจจะต้องค่าธรรมเนียมศาล ค่าเอกสารเอง ลองปรึกษาเขาดู เผื่อมีคำแนะนำที่ดี ถ้ามีโอกาสชนะคดี ฟ้องเลย คนเลวจะได้เข็ด ไม่กล้าไปทำกับผู้หญืง คนอื่นๆอีก ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : Sinart_P2010 เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 00:43:10

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่รู้ตัดสินใจไปยัง แต่ถ้าตัดสินใจฟ้องนะ ที่สำคัญต้องเตรียมใจตัวเองไว้เลยว่า ต้องผ่านขั้นตอนกระบวนการหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นเราเองจะโดนซักในเรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้น ถ้าจะตัดสินใจฟ้อง ต้องเลือกที่จะทำเพื่อเหตุผลอะไรก็ตามที่สำคัญสำหรับเรา (ความถูกต้อง ความยุติธรรม เพื่อตัวเอง เพื่อเงิน หรืออื่นๆอีกมากมาย) เพราะถ้าขาดตรงนั้น ระหว่างขั้นตอนกระบวนการศาล อาจท้อซะก่อน ทนาย..กรณีนี้มันจะแบบทนายที่ช่วยฟ้องเวลามีอุบัติเหตุได้หรือเปล่า เพราะพวกนี้มักไม่รับcase ถ้าดูแล้วฝ่ายเราไม่ชนะ เพราะพวกนี้เอาค่าตอบแทนหักออกจากค่าเสียหายที่จะได้รับ อีกทางคือ เขียนเรื่องส่งไปบรรณาธิการสื่อสิ่งพิมพ์ แต่อันนี้ต้องคิดเขียนให้ดีๆหน่อย mediaถ้าใช้ดีๆ เป็นทางเลือกหนึ่งที่อาจช่วยได้ ขอให้โชคดี จากคุณ : Overseas เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 04:17:04

ความคิดเห็นที่ 41 ฟังเรื่องของ คุณ Gisele แล้วเห็นใจมากๆค่ะ  บางครั้งผู้หญิงเราก้อไม่ได้ถูกขืนใจโดยใช้กำลัง  บางทีก้อถูกล่อลวง  บีบคั้น หรือ ถูกควบคุม ค่ะ   ขอให้คุณ Gisele สู้ๆนะคะ  ลืมๆมันไปเถอะค่ะ  ถือซะว่า ทำทานให้หมามันไป ชีวิตมีแสงสว่างเสมอค่ะ จากคุณ : cool_girlgang เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 10:55:53

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ Gisele เข้มแข็งมากเลยน่ะค่ะ ที่ต่อสู้ความรู้สึกนั้นมาตลอดชีวิต และคุณรูจักใช้ธรรมะเข้าช่วย สำหรับตัวเราไม่รู้จะได้ครึ่งคุณไหม     มีลูกสาว มีหลานสาวลำบากค่ะ อีกอย่างเรื่องเวรกรรมจากชาติก่อน เราว่ามีจริงไม่งั้นบางคนโชคดีบางคนโชคร้าย     ยังไงชีวิตคนเรามีค่าพระท่านว่า  ถ้าเราฆ่าตัวตาย เกิดชาติไหนๆก็ต้องฆ่าตัวตาย เราว่าคุณคงหมดเวรหมดกรรมในชาติน่ะค่ะ  คงชดใช้กรรมต่อเขาหมดแล้ว จากคุณ : โค้งหักศอก เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 16:34:59

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านคุณ Gisele เล่าแล้วเศร้าจัง บางครั้งการอยู่ในห้องนี้  กับหลายๆ ท่าน แม้ไม่เคยเจอหน้ากัน ไม่เคยพูดคุย เห็นกันแต่ในเว็บบอร์ด  แต่มันก็เหมือนกับรู้จักกันมาเนิ่นนาน พอได้ยินเรื่องเศร้าๆ เจ็บปวด ๆ แล้วมันจะสะเทือนใจมากกว่าเห็นข่าวตาม นสพ หรือฟังเรื่องเล่าของคนที่ไม่รู้จัก แต่อยากให้ จขกท ทบทวนที่คุณกุลโลบายฯบอกครับ จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 21:25:03

ความคิดเห็นที่ 44 พูดไม่ออกบอกไม่ถูก   เอาเป็นว่า ขอเป็นกำลังใจให้หัวใจทุกดวง ที่เคยรู้สึกหรือโดนกระทำ ไม่ว่าจะทางกายหรือจิตใจ ขอให้มีใจที่เข้มและเดินต่อไป แม้ว่าจะแวบไปคิดถึงมัน ก็ขอให้มันผ่านไปให้เร็ว  ท่องไว้ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณดูแลตัวเองดีแล้ว อย่าโทษตัวเอง อย่ารู้สึกแย่กับตัวเอง ไอ้คนเลวๆ ทำไม่เห็นมันจะรู้สึกแย่เลย จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 53 22:58:51

ความคิดเห็นที่ 45 มี give ให้คนได้อีกแล้ว.. คุณ Gisele...ถ้าได้อยู่ใกล้ๆดิฉันก็อยาก give you a hug อยากบอกว่า ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วเหมือนฝันร้าย ลืมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าโกรธตัวเองเลยเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น มันไม่ใช่ความผิดของคุณ สำหรับคุณ จขกท ดิฉันก็ยุส่งเพราะฟังเรื่องอย่างนี้แล้วมันยัวะ แต่เอาจริงเข้า คุณต้องชั่งใจดูเพราะหลักฐานเรื่องเหล่านี้สำคัญ เรื่องที่เกิดขึ้น behind closed door ของคนสองคนไม่มีใครรู้ ศาลเขาก็ต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย เราเคยได้ยินกันมาแล้วว่า "ในกระแสร์แห่งยุติธรรมา ยากจะหาความเกษมเปรมใจ" ทนายที่เก่งๆมีส่วนช่วยด้วยอย่างมากถึงมากที่สุด ราคาก็ไม่ใช่น้อยๆ เขามี price tag ของเขากัน เห็นมาเยอะแล้วที่คนที่เราเห็นว่ามันผิดเห็นๆ หลุดมาเดินลอยหน้าลอยนวล แต่สุดท้าย ไอ้พวกชั่วนี่ก็ไม่เห็นมันได้ดีกันสักคน เวรกรรมมีจริงคุณ จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 00:06:06

ความคิดเห็นที่ 46 พึ่งนึกได้เพื่อนฝรั่ง ที่รู้จักที่ๆทำงานเมื่อปีก่อน ถูก bf  ที่อยู่และเลี้ยงดู ลูกสาวเธอจากสามีคนก่อน ตั้งแต่เด็กอายุ 6-7 ขวบ     ตอนนี้เอาไปทำเมียและลูกก็แย่งแม่ไปหน้าตาเฉย  แถม bf จะฆ่ารัดคอเธอ ๆ ร้องให้เพื่อนบ้านมาช่วยได้ทัน      พอขึ้นศาล มารชนะค่ะ  แต่งงว่า รัฐก็อุส่าหาบ้านหลวงให้อยู่แบบฉุกเฉินด้วยเหตุผล domestic violence ยังแพ้เงิน     เฮอะ....  อยากมีปากวิเศษจังเลย  คนไม่มีเงินเสียเปรียบมาตลอด     ให้กำลังใจอีกครั้งค่ะ จากคุณ : โค้งหักศอก เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 01:11:57

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาอ่านแล้วอึ้งค่ะ สนับสนุนหลายคคห ที่ว่าหลักฐานอ่อนนะคะ ถ้าคิดจะฟ้องก็ปรึีกษาทนายก่อนดีที่สุดค่ะ อ่าน คคห ของคุณ Gisele แล้วต้องอึ้งอีกรอบ เรื่องผ่านมานานมากแต่มันยังคงหลอกหลอน คงไม่มีใครลืมเรื่องอย่างนี้ได้ง่ายๆ นอกเสียจากเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 53 02:03:15 แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 53 02:00:19 จากคุณ : อดีต (ZOMG) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 01:59:16

ความคิดเห็นที่ 48 เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : sascha เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 04:36:02

ความคิดเห็นที่ 49 เป็นกำลังใจให้กับเจ้าของกระทู้ค่ะ "ดิฉันคิดว่าเกิดเป็นผู้หญิงนั้นลำบากมาก ภัยที่น่ากลัวที่สุดกลับไม่ไช่โจรข้างถนนหรือมีคนแปลกหน้ามาดักข่มขืนแต่ กลับเป็นคนที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด คนที่เราไว้ใจ คนที่เราไม่เคยนึกถึงและไม่ได้มีแววว่าจะคิดอะไรไม่ดีกับเรา เพราะฉะนั้นจึงต้องพยายามใช้ชีวิตให้ปลอดภัยมากที่สุดด้วยการไม่ไว้ใจใครเลย" เห็นด้วยกับคุณ Gisele อย่างมากค่ะ คนใกล้ตัวเรานี่แหละคือคนที่จ้องจะทำร้ายเรา จากคุณ : bear hunt เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 05:29:57

ความคิดเห็นที่ 50 http://www.youtube.com/watch?v=fA28ioVvxyA ตามลิงค์ค่ะ จากคุณ : หนู เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 14:36:27 A:24.13.139.19 X: TicketID:297370

ความคิดเห็นที่ 51 ลองติดต่อ Probono ดูนะครับ ปรึกษาเขาดูก่อนว่า ในกรณีคุณมีออปชั่นอะไรบ้าง มาให้กำัลังใจครับ ผมคิดว่า่น่าจะฟ้องด้วย จากคุณ : Freedom and Justice เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 18:12:21

ความคิดเห็นที่ 52 ขอแนะนำนิดนึงค่ะ ถ้าจะให้ยามมาเป็นพยาน เค้าอาจจะยกเรื่องที่ตอนแรกถามจขกท. ว่าจะให้เรียกตำรวจไหม แล้วจขกท. ไม่เรียกมาเป็นประเด็นว่าตอนแรกคุณอาจจะไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร (แล้วพยายามดึงเข้ามาให้เป็นเรื่องสมยอม) จากนั้นการที่คุณกลับมาเพื่อฟ้อง เพราะคุณระลึกได้ว่าคุณอาจจะเรียกร้องค่าเสียหายได้ ถ้าคุณเจ้าของกระทู้มีทนายเก่งๆ ดิชั้นสนับสนุนเต็มที่ค่ะ แต่ลองปรึกษากับคุณแฟนและทางบ้านคุณดูก่อนดีกว่านะคะ จากคุณ : สิงห์ใต้เงาจันทร์ (ise...) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 02:29:15

ความคิดเห็นที่ 53 ขอโทษนะคะ ไม่ได้อยากให้เสียกำลังใจแต่ถ้าฟังจากที่คุณจขกทบอกมา ชนะยากค่ะ ถ้าการมีการสืบพยานหลักฐาน ตรงนี้แหล่ะที่คุณจขกทจะเสียเปรียบ หลักฐานไม่มีสักอย่าง เวลาเกิดกรณีเช่นนี้ต้องทำทุกอย่างทันทีค่ะ ในกรณีเหตุเกิดที่อเมริกานะคะ ถ้าที่ไทยคงมีค่าเท่ากันเรื่องไม่ดำเนินเท่ากันไม่ว่าจะแจ้งหรือไม่ก็ตาม กรณีคุณจขกทได้มีแพทย์ออกใบรับรองตรวจร่างการหลังโดนทำร้ายด้วยไหมคะถึงจะไม่มีการทำร้ายกันมากมายก็ควรไปค่ะ อย่างที่หลายๆความเห็นบอก หลังประตูนั้นเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครรู้ หลักฐานก็ปลิวไปตามสายลมเนื่องด้วยคุณไม่ทำอะไรเลยนอกจากแค่แจ้งความเท่านั้น จริงๆถ้าติดต่อทนายตอนนั้นหลังเกิดเหตุเนี่ย เชื่อว่าถ้าฟ้องหนทางชนะมีอยู่มากค่ะ แต่ตอนนี้คงช้าไปแล้วค่ะ อย่าลืมว่าศาลเขาดูหลายอย่างค่ะ ไม่ใช่คำร้องออกจากปากโจทย์อย่างเดียว เพราะก็มีหลายกรณีที่ผู้หญิงทริคกี้ใช้กรณีแบบนี้ฟ้องผู้ชายเพื่อเอาเงินค่ะ คนมีหลายรูปแบบถ้าหลักฐานไม่พอศาลไม่ฟังค่ะ ไม่ได้ว่าคุณจขกทนะคะ แค่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพค่ะว่าทำไมเราถึงคิดว่าคุณไม่ชนะแน่ๆถ้าฟ้องตอนนี้ จากคุณ : อัมพิกา เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 15:00:34 A:98.215.67.106 X: TicketID:295138

ความคิดเห็นที่ 54 ฟ้องสิ  บอกตำรวจหาทนายให้เราด้วย เดียวทนายกะตำรวจเค้าจัดการเอง คุณพูดเรื่องจริงไปเท่านั้น   เผลอๆ เค้าสืบประวัติคนนี้มีคดีติดตัวเเบบเดียวกันก็เข้าล็อกเลย จากคุณ : remy&chanel เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 17:31:34