 |
คห 8
.....ซึ่งที่อเมริกาเขาก็ทำกันแบบนี้เช่นกัน คือต้องโอนเงินเข้าบัญชีผู้จะขายก่อน แล้วเอาหลักฐานมาทำสัญญา ไม่มีการถือเงินสด มายื่นหมูยื่นแมวกัน
ช่วยอ่านให้เข้าใจก่อน ผมบอกว่าให้ญาติไปทำสัญญาจะซื้อจะขาย ถ้าต้องวางมัดจำก็ระบุไปในสัญญา และเมื่อไหร่ที่คนพร้อม เงินพร้อมก็นัดไปทำการโอน โดยส่วนเงินที่เหลือก็อาจจะเป็นเงินสดหรือทำ Cashier cheque ไปทำการโอน-รับโอน (ยื่นหมูยื่นแมว) ที่กรมที่ดิน
ที่กรมที่ดินเขตต่างๆ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด วันๆมีผู้ไปทำการโอนและรับโอน ทำการโอนโดยกำเงินสดไปยื่นหมูยื่นแมวกันเยอะแยะ เช่น ที่นาบางโฉนดถ่ายถอนจำนองหรือซื้อขายด้วยเงินตำกว่าล้านบาท ชาวบ้านขี้เกียจไปซื้อแคชเชียร์เช็คที่ธนาคาร ก็นำเป็นเงินสดไปจ่ายนับกันซึ่งๆหน้า
ในเมกาเวลาจะซื้อจะขายอะไรกัน โดยเฉพาะธุรกิจหรืออสังหาริมทรัพย์ ไม่มีการต้องโอนเงินเข้าบัญชีผู้จะขายก่อนแล้วค่อยไปทำสัญญา เขามีแต่เมื่อผู้จะซื้อผู้จะขายตกลงซื้อขายกันแล้ว ก็ทำบันทึกจะซื้อจะขายลงในรายละเอียด แล้วนำไปเปิด Escrow ซึ่งจะเป็นคนกลางทำการซื้อขายจนสำเร็จลุล่วง เงินมัดจำหรือจ่ายค่างวดอะไรตามที่ตกลงก็จะต้องจ่ายผ่านบัญชีของ Escrow เท่านั้น สำหรับในบางรัฐที่ไม่มี Escrow เขาก็จะทำการซื้อขายผ่านทางสำนักกฏหมายในเมืองนั้น เหตุที่ต้องผ่าน Escrow หรือคนกลางก็เพราะว่าผู้จะซื้อจะได้แน่ใจว่า การซื้อขายดังกล่าวกระทำกับผู้ที่เกี่ยวข้องจริง ด้วย Escrow จะทำหน้าที่ตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้ง Title Company, City Hall,Board of Equalization ปัญหาหนี้สิน ก่อนที่จะทำการปิด Escrow ได้
สรุป วิธีการซื้อขายโดยการยื่นหมูยื่นแมวในเมืองไทย เป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดทั้งผู้จะซื้อและผู้จะขาย
ขอเพิ่มเติมอีกนิด การแจ้งความ จขกท ต้องกระทำในประเทศไทย เพราะเหตุเกิดที่เมืองไทย ตร อย่างเก่งก็แค่รับแจ้งไว้เฉยๆ เพราะมองไม่ออกว่าผู้จะขายเข้าข่ายยักยอกหรือฉ้อโกงตรงไหน? Tip ในที่นี้คือ จขกทโอนเงินเข้าบัญชีเขา โดยระบุชื่อ ที่อยู่ เลขที่บัญชีอย่างถูกต้อง ถ้า จขกท ไม่โอนไปผู้จะขายจะได้รับเงินได้อย่างไร? ส่วนจะบอกว่าโอนไปแล้วเกิดเปลี่ยนใจไม่อยากได้ ก็จะเข้าข่ายวางมัดจำแล้วไม่เอา ต้องไปว่ากันตามความแพ่งสามัญครับ
จากคุณ |
:
Rapier (Rapier)
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ธ.ค. 53 10:38:55
|
|
|
|
 |