 |
ประเด็นแรกน่าจะอยู่ที่งบ มือสองประเภทอายุเพิ่งปีสองปี อาจจะวิ่งมาแล้วซักหมื่นสองหมื่นไมล์ ที่มักจะเรียกกันว่า Pre-owned สามารถไปซื้อจากดีลเลอร์แล้วคุณก็มักจะมีโอกาสเลือกซื้อประกันรถเพิ่มเติมได้ แบบนี้คล้ายซื้อรถใหม่มาก แต่ราคาถูกลงไปหน่อย ถ้างบน้อยลงมา จะซื้อรถที่อายุซัก4-6ปี ควรจะดูว่าต้องมีการเปลี่ยน Timing belt ที่ระยะ 4-60,000ไมล์ไหม (รถบางรุ่นใช้โซ่ ไม่ได้ใช้สายพานที่เป็นยาง) เพราะการเปลี่ยนสายพานนี้จะราคาสูง อาจจะเริ่มตั้งแต่ห้าร้อยเหรียญ หรือดูว่าเจ้าของเปลี่ยนมาหรือยัง ฯลฯ ถ้าคุณซื้อรถบ้าน ก็ถามหา records เ้จ้าของรถบางคนเขาจะเก็บประวัติใบเสร็จทุกอย่างที่เขาทำรถมา ถ้าบังเอิญเขาไปอู่ดีลเลอร์อยู่ที่เดียว คุณลองเข้าไปขอ printout ดูก็ได้ หรือจะใช้บริการ Carfax.com ก็จะเช็คว่าเคยโดนน้ำท่วมไหม เคยถูกขายทิ้งหรือยัง เคยประสบอุบัติเหตุ (ใหญ่ๆ)ไหม ถ้าเลือกคันที่มันดูเหมาะ ๆ แล้วก็หาช่างที่(น่าจะ)ไว้ใจได้ ให้เช็คดูสภาพ อาจจะต้องเสียค่าเวลาประมาณ 4-50 เหรียญ ดีลเลอร์ก็รับทำนะ ไปบอกเขาว่าอยากให้ดูรถที่ตั้งใจจะซื้อให้หน่อย ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
อีกเรื่องก็คือ ถ้ามีรถรุ่นและปีที่มองไว้ ควรจะโทรไปถามบริษัทประกันว่าจะเสียค่าเบี้ยเท่าไหร่ องค์ประกอบที่เขาเอามาคิด (ที่เรารู้) ก็คือ เพศ-ชายมักจะแพงกว่าหญิง อายุ-ยิ่งน้อยเบี้ยยิ่งสูง ประเภทของรถ-ซีดาน/ซิ่ง/ราคาสูง มีอุปกรณ์กันขโมยหรือไม่ ประวัติของคนขับ-เคยมีอุบัติเหตุหรือไม่ เขตที่อยู่-จอดรถที่ไหน-มีโรงรถหรือเปล่า ระยะทาง-ขับมาก/น้อย
ส่วนควรจะใช้จี๊ปไหม อันนี้ไม่ทราบ เพราะส่วนตัวแล้ว ยังไม่มีเงินจะไปลองเสี่ยงขับรถอเมริกันหรือยุโรป ใช้รถญี่ปุ่นคันเล็ก ๆ นี่แหละ dependable, reliable แล้วเวลาเติมน้ำมันก็สบายใจ (กว่า)
โชคดี
จากคุณ |
:
Genuine XXX
|
เขียนเมื่อ |
:
วันสิ้นปี 53 02:45:53
|
|
|
|
 |