ความคิดเห็นที่ 1 จะต้องเดินทางไปไหนมาไหนตลอดเวลาหรือเปล่าคะ  ถึงต้องการสัญชาติญี่ปุ่น  เพราะการเป็นคนไทย ก็ไม่ได้เดินทางไปไหนยากมาก ถ้ากรณีเอกสารการเงินและการทำงานดี ไม่มีปัญหาและผิดเงื่อนไขการเข้าเมืองประเทศนั้นๆ   การได้สัญชาติญี่ปุ่นแล้วจำเป็นต้องสละสัญชาติไทยนั้น  น่าจะพร้อมสำหรับคนที่ต้องการมีบั้นปลายชีวิตที่ญี่ปุ่น หรือจำเป็นต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่ญี่ปุ่นค่ะ เพราะเอื้อประโยชน์ต่อสวัสดิการต่างๆ รวมถึงหน้าที่การทำงานที่นี่ แต่ถ้ารู้แล้วว่าจะต้องย้ายไปอยู่ไทย....แล้วจะไปอยู่ในฐานะสัญชาติญี่ปุ่น เชื้อชาติไทย.....หมายถึงการไปอยู่ในฐานะคนต่างชาติ.....ต้องขอวีซ่าอยู่ไทยเช่นกันนะคะ  แล้วคุณจะเบื่อไหมที่ต้องไปต่อวีซ่าหลายๆครั้ง  ซื้อบ้านชื่อตัวเองไม่ได้ค่ะ เพราะต้องเป็นคนไทยซื้อเท่านั้น.....  ทำธุรกรรมต่างๆต้องพกพาสปอร์ตและใบอนุญาตทำงาน....อายุเกิน 60 ปีแล้วก็อยู่ไทยในเงื่อนไขที่ตม.ไทยกำหนด ไปอ่านที่ห้องแม่บ้านต่างแดน....สรุปได้ว่า การเป็นภรรยาต่างชาติแล้วอยู่ต่างประเทศกับสามีนั้น ขั้นตอนวีซ่าและการได้สิทธิพำนักนั้น  สะดวกกว่าการที่สามีย้ายกลับมาอยู่กับภรรยาที่ไทยมาก โดยเฉพาะสามีที่ไม่ได้ทำงานแล้ว...... จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 05:44:21

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าไม่ได้แต่งงาน ทำงานอย่างเดียวในญี่ปุ่น มีความรู้เรื่องในภาษาญี่ปุ่น อ่านได้ เขียนได้ พูดเก่ง ลองยื่นเอกสารเกี่ยวกับภาษีที่คุณทำงาน รายได้ต่อปี และเอกสารต่างๆที่บริษัท ไปขอวีซ่าถาวรดูที่นิวคัง พิจารณาแล้วโชคดีอาจจะได้วีซ่าถาวรดั่งใจค่ะ เพราะถือว่าคุณนำรายได้ให้ประเทศเขา ถ้าคุณคิดว่าอนาคตอยู่ประเทศไทยแน่นอนก็ต้องขอวีซ่าถาวรค่ะ ไปติดต่อหรือจะเดินทาง ไป กลับ ออกนอกประเทศกี่ครั้งก็ได้ หรือจะไปต่างประเทศ บางประเทศที่หน้าพาสฯไทยต้องขอวีซ่า ก็สะดวก ส่วนใหญ่ขอวีซ่าได้เสมอ ในทางกลับกันค่ะ คนญี่ปุ่นก็ต้องขอวีซ่าไปต่างประเทศเหมือนกัน ในขณะที่พาสฯไทยไม่ต้องขอวีซ่าค่ะ ข้อความตรงนี้ของคุณขอก๊อปมาอีกที ตรงนี้ขอค้านเลย แต่ในใจก็ยังรู้สึกอยากได้เพราะว่าจะไปไหนก็ไม่ลำบาก ไม่ต้องขอวีซ่าในหลายๆประเทศ ถ้าขอสัญชาติญี่ปุ่น สมัยนี้ขอยาก เมื่อก่อนนะของ่ายๆค่ะ ได้สัญชาติญี่ปุ่นมาแล้ว มีบ้าน มีที่ดิน ก็ต้องจ่ายภาษีทุกปี ปีนึงไม่ใช่น้อยๆ ถ้าจะถอนการเป็นสัญชาติญี่ปุ่น ก็ต้องเดินเรื่องยุ่งยาก ไม่ให้ถอนได้ง่ายๆนะคะ คุณรู้ไหม!!ชีวิตบั้นปลายคนญี่ปุ่นอยากมาอยู่เมืองไทยก็มี เป็นคนไทยดีกว่า มีบ้านได้คนละหลัง เสียภาษีครั้งแรกที่จดทะเบียนว่ามีบ้านเท่านั้น ต่อจากนั้นก็อยู่บนผืนเนื้อที่ดินเราอย่างมีความสุข ไม่ต้องเสียอะไรอีกแล้ว ญี่ปุ่นดีอยู่ตรงที่ชีวิตบั้นปลายค่ะ รัฐบาลเลี้ยงดูดี อย่างที่เรามองเห็นได้ทั่วไป บางครอบครัวญี่ปุ่น ลูกที่ให้กำเนิดมาไม่ต้องการมาดูพ่อแม่ซะด้วยซ้ำ ส่วนค่านิยมสำนึกของคนไทยเราต้องดูแลพ่อแม่ของเราเมื่อยามแก่เฒ่าเป็นส่วนใหญ่ เพราะรัฐบาลไทยให้คนละ 500 บาทต่อเดือนก็ไม่พอหรอก แต่ก็ดีกว่านิ่งเฉยค่ะ กระทู้ของคุณขอความเห็น อยากอ่านหลายความเห็น ก็อยากให้โชคดีขอวีซ่าถาวรได้ดั่งใจปรารถนาค่ะ ขออวยพรให้สำเร็จในปีหน้า นี่ก็จวนใกล้ปีใหม่แล้ว มีความสุขแล้วกันค่ะ จากคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan) เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 09:18:35

ความคิดเห็นที่ 3 อ่านแล้ว  ขอวีซ่าถาวร ครับ   รายได้แบบญี่ปุ่น  แล้วอยู่เมืองไทยนี่อยู่อย่างราชาเลย โดยเฉพาะเรื่องการรักษาพยาบาล จากคุณ : CocoaChocolate เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 09:42:23

ความคิดเห็นที่ 4 วีซ่าถาวร ก็เพียงพอเเล้วค่ะ คิดว่าวีซ่าถาวรเสียเปรียบเเค่โหวตหรือลงสมัครเลือกตั้งไม่ได้เท่านั้น จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 10:36:59

ความคิดเห็นที่ 5 ทำงานที่นี่ ถือวีซาถาวร ก็อยู่ได้อย่างสะดวก สบาย มีเงินสวัสดิการเอาไปอยู่เมืองไทยได้อย่างเพียงพอ เวลาไปเมืองไทย ถ้าไม่ใช่พลเมืองไทย ปัญหามากกว่านะคะ ยิ่งเราพูดไทยได้ ไม่มีบัตรประชาชนเนี่ย .... โห ...  นึกภาพ ความขลุกขลัก ... จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 11:24:42

ความคิดเห็นที่ 6 สามี(แคนาดา)ของเพื่อน(ไทย)ค่ะ           พูด  เขียน ญี่ปุ่นไม่ได้   อยู่ญี่ปุ่นเกิน 5 ปีเขาก็ขอวีซ่าถาวรค่ะ          ตอนนี้เพื่อนก็รอขอวีซ่าถาวรอยู่ค่ะ จากคุณ : อะไรก็ไม่ได้ เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 18:35:13

ความคิดเห็นที่ 7 /\ /\ เป็นผู้ชายทำมาหากินในประเทศญี่ปุ่น มีรายได้มาก จ่ายภาษีให้ประเทศเขาเยอะ ขอวีซ่าถาวรได้เร็วกว่าค่ะ เหมือนคนไทยที่เขาเป็นเจ้าของร้านอาหารไทย เขาก็มีวีซ่าถาวรนะคะ คนที่เป็นภรรยาหรือจะมีลูกด้วยกัน นิวคังจะพิจารณาให้วีซ่าถาวรได้ไม่ยากแล้ว หรือแม้แต่ภรรยาของผู้ชายคนญี่ปุ่นเอง ไม่ต้องแสดงความสามารถ อ่านออก เขียนได้ พูดเก่ง ก็จะได้วีซ่าถาวรติดตามตัวสามี ยังไงก็ขึ้นอยู่กับภายใต้ภาษีที่ต้องจ่าย รวมหน้าที่การงานที่มั่นคงของคนญี่ปุ่นเอง และ ตัวภรรยาก็ต้องมีความเป็นอยู่พำนักในญี่ปุ่นมีมากกว่า ที่จะเดินทางออกนอกประเทศของคุณภรรยาเอง เรียกว่ามีวิถีชีวิตในญี่ปุ่นมากเท่าไหร่ ก็จะได้วีซ่าถาวรได้ไม่ยาก นิวคังเน้นพิจารณาตรงจุดนี้มากเลยค่ะ เจ้าของกระทู้เป็นผู้หญิงโสด มีรายได้ที่รัฐบาลญี่ปุ่นจักได้มากน้อยแค่ไหน รวมด้วยถ้าคุณมีความสามารถแสดงให้เห็น การได้วีซ่าถาวรเห็นร่ำไรเลยล่ะค่ะ ยังไงคุณได้สอบสัมภาษณ์แน่ ถ้าเอกสารพิจารณามาแล้วครึ่งนึง จากคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 08:58:45

ความคิดเห็นที่ 8 ขอวีซ่าถาวร ของ่ายกว่าขอสัญชาติ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ สัญชาติญี่ปุ่น ไม่เหมาะถ้าคิดจะกลับไปอยู่เมืองไทย ปั้นปลาย จากคุณ : อดีตนักกินจุก เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 10:47:46

ความคิดเห็นที่ 9 ขอขอบพระคุณสำหรับทุกข้อความเลยนะคะ ขอบคุณสำหรับมิตรภาพและความคิดเห็นที่มาจากใจจริงๆทั้งที่เราไม่เคยคุยกันมาก่อนเลย แอบซึ้งค่ะ :D หลังจากที่อ่านความคิดเห็นทุกท่านแล้ว ดิฉันก็ไม่ต้องคิดหนักอีกต่อไปเลยค่ะ จะทำงานอีกสักสองปีแล้ว apply permanent visa ดูนะคะ ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ ^_^ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 19:41:03 A:111.217.106.73 X: TicketID:069495

ความคิดเห็นที่ 10 http://www.pref.kanagawa.jp/osirase/kokusai/tagengo/thai/thai-jirei.pdf ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยื่นขอวีซ่าถาวรนะคะ จากคุณ : อดีตนักกินจุก เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 21:53:34

ความคิดเห็นที่ 11 เหมือนเคยได้ว่า ถ้าได้วีซ่าถาวร แล้วจะไม่สามารถ ขอเนนคินคืน กรณีที่จะกลับไทยก่อนแก่ เท็จจริงเป็นอย่างไร รอคำตอบจากท่านผู้มีประสบการมาตอบครับ จากคุณ : ganemochi เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:34:57

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ รอผู้รู้มาตอบด้วยคนค่ะ เท่าที่เห็นคนที่อยู่ยาวแบบถาวร มักมีคู่สมรสเป็นญี่ปุ่น และมีเนทเวิร์คในญี่ปุ่นพอสมควร คิดเอาเอง ว่า ... ไม่น่าจะสำคัญว่า เราอยู่ที่ไหน สิทธินั้นยังอยู่ ถึงเวลาก็มากรอกใบสมัครขอคืน มีเรท ว่า ... ขอคืนตอนอายุเท่าไรจะได้กี่เปอร์เซนต์ ของจำนวนที่เราจ่ายไป   ถ้าอายุน้อยมาก ก็คงแทบไม่ได้ รู้สึกว่า ถ้าขอรับก่อน อายุ ๖๕ จะได้น้อยกว่าจำนวนที่จ่ายไปแล้ว  อ่ะค่ะ (ตามกฎหมายใหม่ ที่เปลี่ยนเเปลง ... เมื่อปีไหนไม่ทราบ) จำได้แต่ว่า ถ้าขอคืนตอน อายุ ๗๐ จะได้เป็น ๑๘๘ เปอร์เซนต์ ของเงินต้นหรือไง -------- ไม่เคยทราบว่า ถ้าวีซ่าไม่ถาวร จะขอคืนได้ แต่เคยเห็นเคส มีเพื่อนร่วมงาน อังกฤษ สองคน คนนึงไม่จ่ายประกันเลย ประกันแรงงานอะไรก็ไม่เอา เค้ารับเงินเดือนเต็มๆ หักแต่ภาษี เพราะเค้าเคยประจำบริติชเคาน์ซิล มากอน จึงอาจจะย้ายไปประเทศอื่น ถ้าไม่อยากอยู่ญี่ปุ่น อีกคนจ่าย หรือ ถูกหักเหมือนคนญี่ปุ่นทุกประการ เค้าก็กังกลว่า เหมือนจะต้องถูกบังคับให้อยู่ญี่ปุ่นไปจนกว่าเกษียณ .... อีกคน เป็นสวิส จ่ายทุกอย่างเหมือนคนที่ ๒ แต่อายุทำงานประจำของเค้า  ไม่กี่ปี (เค้าเคยเป็น เฟลโล่ได้เงินเยอะมาก พอมาทำประจำ รายได้ลดฮวบ) ต่อมาเค้า  ป่วยเสียชีวิต ครอบครัวได้เงินน้อยมากๆ อีก หนึ่งอเมริกัน (และ ฟิลิปปินส์)  ก็เข้าระบบญีุ่่ปุ่น ... ซึ่งก็จะต้องกัดฟันทำงานไปจนอายุ ๗๐ เพื่อได้บำเหน็จ บำนาญ เต็มเม็ดเต็มหน่วย เอ ... คุยคนละเรื่องเดียวกันปะคะ ... เขียนไปงงไป .... เหะ เหะ .... จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 17:01:30

ความคิดเห็นที่ 13 /\ /\ วรรคสุดท้าย ของคุณ mijja กล่าวไว้ถูกต้องเลยค่ะ ป้าซิ่งว่า (ลึกๆแล้วเรื่องเดียวกันนะ) สรุปใครทำรายได้ดี ประเทศญี่ปุ่นนี้ยินดีต้อนรับทุกคน จนตายกันไปข้างนึง จากคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 18:14:05

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับทุกข้อความนะคะ ฟังไปฟังมา เริ่มกลุ้มใจเรื่องเนนคินซะแล้ว ถ้าไม่ได้เศร้าเลยนะเนี่ย โดนหักเยอะทุกเดือนเลยค่ะ T_T จากคุณ : เจ้าของกระทู้ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 23:44:40 A:111.217.101.239 X: TicketID:069495

ความคิดเห็นที่ 15 สัญชาติญี่ปุ่นถ้าย้ายกลับต่างประเทศแล้วก็ไม่ได้เนนคินคืนค่ะ แฟนเราเป็นอเมริกัน แต่ถือสัญชาติญี่ปุ่นด้วย จ่ายไปแล้วก็ไม่ได้คืนจนกว่าจะเกษียณ จากคุณ : แพนด้าหน้าใส เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 53 01:30:44