ความคิดเห็นที่ 1 งงที่คุณเล่า ขอให้เล่าให้กระจ่างด้วยว่า ตามาในฐานะวีซ่าอะไร ทำไม่ปีแรกทำงานได้ ที่เรียกเก็บเงินบ่อย ๆ อย่างที่คุณว่าหนะ ถ้าคุณผ่านชี้นตอนการขอใบเขียว คุณก็จะรู้ว่ามันไม่มีขี้นตอน เรียกเก็บเงิน บางครั้ง $80, $50 บ้าง จากคุณ : Hula Girl เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 13:26:56

ความคิดเห็นที่ 2 ขอรายละเอียดค่ะ  ที่สงสัยคือตอนมาปีแรกทำไมไม่ทำเรื่อง รออะไรอยู่  และที่ว่ามีจม.เรียกเก็บเงินเพิ่มอยุ่ตลอด บางครั้ง $80, $50 บ้าง ฯลฯ  น่ะ ความจริงไม่มีนะคะ  ถ้าจ่ายเงินไม่เต็มจำนวน เขาก็จะคืนเรื่องมาทั้งปึกพร้อมทั้งคืนเช็คมาด้วย  ที่ต้องทำคือเขียนเช็คใหม่และส่งเอกสารไปใหม่ สงสัยว่าตอนยื่นเรื่องน่ะ ทำเองหรือเปล่า สามีเอาไปส่งให้จริงหรือเปล่า ที่ถามเพราะเคยมีแฟนห้องไกลบ้านน่ะแหละค่ะ สามีบอกว่าส่งเรื่องไปแล้วแต่จริงๆ ไม่ได้ส่ง เพราะกลัวว่าถ้าเมียได้ใบเขียวแล้วจะทิ้งตัวเองไปหาคนใหม่ จากคุณ : Lawanwadee เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 14:32:49

ความคิดเห็นที่ 3 เอ่อ แต่งงานกับคนดีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขอโทษนะคะ ไม่มีงานทำหรือทำงานไม่เป็นหลักแหล่งเนี่ยไม่น่าคิดเรื่องจะใช้ชีวิตคู่นะ ถ้าในชีวิตไม่สามารถการันตีความมั่นคงได้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซนต์เนี่ย อยู่คนเดียวง่ายกว่าไหม ส่วนเพื่อนคุณมาวีซ่าท่องเที่ยวหรือนักเรียน ถ้ามาวีซ่าสองอย่างนี้แล้ว แต่งงานแล้วไม่ทำกรีนคาร์ดหรือใบเขียวให้ได้เลยในทันที ยุ่งยากนะคะ เราว่าเพื่อนคุณตัดสินใจผิดแล้วล่ะนะที่แต่งกับผู้ชายหลักลอยแบบนี้ ขอโทษนะคะ แต่งงานมีลูกกันเพราะอะไร ไม่ได้ดูถูกแต่ผู้หญิงไทยบางคน บางคนเท่าน้้นนะ ไม่ได้เจาะจง ก็นิยมจับฝรั่งหรือคนที่เกิดที่อเมริกาเหมือนกัน คิดว่าฝรั่งทุกคนที่นี่จะสามารถชุบตัวชุบกรีนคาร์ดให้ตัวเองได้หมด ใครมาเล่นด้วยก็เอาหมด พอถึงเวลาทำเรื่องโดนหลอกซะงั้น ผู้ชายไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งถึงต้องมีสปอนเซอร์ร่วมเนี่ยไม่ไหวค่ะ แต่งเองก็สปอนเซอร์ตัวเองไปสิ ขอโทษนะคะเราว่าเรื่องนี้มันฟังดูแปลกๆนะ แต่เพื่อนคุณเลือกทางนี้เองก็ต้องยอมรับไป จากคุณ : อัมพิกา เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 15:34:52 A:98.215.67.106 X: TicketID:295138

ความคิดเห็นที่ 4 สามีตาไม่มีรายได้ถึงพอที่จะโชว์ว่าเค้ารับรองตาได้   เลยไม่ได้green card ค่ะ   คงไม่ได้เเล้ว นอกจากผู้ชายมีงานทำรายได้ถูกต้องตามที่กำหนด เเล้วก็ยื่นเรื่องใหม่หมดเลยค่ะ จากคุณ : remy&chanel เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 17:39:03

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าตาทำงานจะมีปัญหา เพราะ  ผิดกฏหมาย ดังนั้น ยื่นเรื่องใหม่หมด ให้แม่สามีช่วยอีก เรื่องกลับไทย อย่าไปคิด เพราะลูกอยู่เมกา แต่ที่ไทย ถ้าร่ำรวย จะกลับก็ได้นะ จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 22:25:17

ความคิดเห็นที่ 6 ขอเล่าเพิ่มเติมน่ะค่ะ คือ ตามาด้วยวีซ่า J-1 ค่ะ เป็นออร์แพร์มาก่อน แล้วก็มาพบรักและแต่งงานกับสามี ตอนที่แต่งงานก็ยังมีวีซ่าอยู่ค่ะ ตาทำเรื่องขอใบเขียวหลังจบโครงการออร์แพร์ ตาทำเรื่องเองค่ะ แล้วเรื่องที่โดนเรียกเก็บเงินเพิ่ม อันนี้เราไม่ค่อยรู้เรื่องมากเท่าไหร่ จำได้คร่าวๆอย่างที่เล่าไป ตอนเราทำเรื่องก็ไม่เคยโดนเรียกเก็บเงินเพิ่มเลย  ตอนแรกก็บอกตาไปว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง เพราะเพื่อนเราอีกหลายคนก็จ่ายแค่ครั้งเดียว รอเรื่องไม่นานก็มีนัดสัมภาษณ์แล้ว แต่ตาก็ยื่นยันว่าโดนจริงๆ ตาจะโทรมาปรึกษาว่า เคยโดนเรียกเก็บเงินเพิ่มมั้ยอยู่หลายๆครั้ง   ตอบคุณอัมพิกาค่ะ คือเรื่องมันก็มาถึงป่านนี้แล้ว ถ้าจะเหยียบกันให้ลงดินไปอีกก็คงไม่ทัน ที่เราต้องเอาเรื่องเพื่อนมาลงในห้องนี้ เพราะต้องการขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือเรื่องข้อมูล ไม่ได้อยากให้ใครมาทมลงดิน คือแค่นี้เพื่อนเราก็กลุ้มพอตัวอยู่แล้วด้วย ขอโทษน่ะค่ะถ้าข้อความของเรามันฟังหรืออ่านแล้วเหมือนไปเถียงหรือทำให้คุณไม่พอใจ แต่ในเมื่อคุณออกความคิดเห็น เราก็ขอออกความคิดเห็นบ้าง แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 11:26:19 จากคุณ : หม่ามี้และน้องเป็นปลื้ม (thanda6) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 11:02:53

ความคิดเห็นที่ 7 เงินค่าธรรมเนียมอิมมิเกรชั่นต่างๆ เมื่อส่งธนานัติ ลงชื่อให้อิมมมิเกรชั่น แล้ว... non refundable ไม่ว่าจะส่งผิดจำนวน มีแต่ทางอิมมิเกรชั่นจะส่งจดหมายบอกให้ส่งเพิ่มไปใ้ห้ตรงจำนวน สมัยดิฉันทำเรื่องขอใบเขียว... ให้ทนายทำและดิฉันซื้อธนานัติให้ทนายส่งแนบไปกับเอกสาร สมัยนั้นค่าธรรมเนียม ๑๖๕ ดอลฯ... ทนายถ่ายเอกสารใบธนานัติให้ดิฉันเก็บสำเนา และให้ซองจดหมายเอกสารพร้อมแนบเงินธนานัติให้ดิฉันเป็นคนส่งเอกสารเองโดย certified จดหมาย ไม่นานต่อมา ทางอิมมิเกรชั่นส่งจดหมายไปยังทนายแจ้งว่า "ไม่ได้รับค่าธรรมเนียม ๑๖๕ ดอลฯ" ให้ส่งธนานัติ ๑๖๕ ดอลฯไป เพื่อจะได้ดำเนินเอกสารได้ ดิฉันไปไปรษณีย์เพื่อให้ไปรษณีย์เช็คได้ว่า ธนานัติใบแรกมันไปอยู่ที่ไหน เสียค่าธรรมเนียมในการค้นหา ๓ หรือ ๕ ดอลฯ (จำไม่ได้แล้ว) ...ไปรษณีย์ส่งสำเนามาให้ดิฉันว่าธนานัติที่ส่งไปครั้งแรกยังไม่ได้ขึ้นเงิน ดิฉันจึง "จำต้อง" ซื้อธนานัติใหม่อีก ๑๖๕ ดอลฯ ส่งไปอิมมิเกรชั่น... ไม่กี่วันต่อมา... ทั้งธนานัติทั้งสองใบ เพื่อทำเรื่องใบเขียวเดียวกันได้ถูกขึ้นเงิน ในวันไล่ๆกัน... ดิฉันจึงติดต่อไปยังอิมมิเกรชั่นร้องเรียนว่า ทำไมถึงกักเงินธนานัติใบแรกไว้ ไม่ขึ้นเงิน และเรียกร้องเอาเงินจำนวนเดิมอีกครั้ง จนท.อิมมิเกรชั่นตอบว่า... ค่าธรรมเนียมที่ส่งไปยังอิมมิเกรชั่น ไม่ว่าจะส่งผิด หรือส่งซ้ำ หรือทางอิมมิเกรชั่นเรียกร้องให้ส่งอีก... ไม่มีการคืนเงินให้ และไม่ใช่ความผิดของอิมมิเกรชั่น คือกฏมันบอกไว้แล้วว่า NON REFUNDABLE อิมมิเกรชั่นเป็นหน่วยราชการที่ทำรายได้เข้าประเทศมากถึงมากที่สุด แก้ไขตกหล่น แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 12:11:47 จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 12:09:30

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านแล้วเราว่าแปลกๆมากเลยล่ะค่ะ อย่างแรกก็คือเรื่องเรียกเก็บเงินเพ่ิมอย่างที่เพื่อนๆพูดไว้ข้างต้น กรณีที่เราจ่ายเงินไม่ครบแล้วมีเรียกเก็บเงินเพ่ิมอย่างที่คุณ JidNince ว่าเป็นไปได้ค่ะ แต่ตามที่คุณว่าเรียกเก็บเงินเพ่ิมตลอดทีละ $50 บ้าง $80 บ้าง เราว่าอันนี้มันแปลกมากเลย เพราะปกติค่าธรรมเนียมจะถูกตรวจเช็คตั้งแต่ก่อนเร่ิม process แล้ว ถ้าขาดเหลืออย่างไรเราก็ต้องจ่ายให้ครบถ้วนก่อนจึงจะเร่ิม process กันได้ ไม่ใช่ว่าทำๆไปแล้วเรียกเก็บเพ่ิมทีละนิดละหน่อย คุณเห็นจดหมายเรียกเก็บเงินเพ่ิมนั้่นด้วยตัวเองหรือเปล่าคะ อย่างที่สองคือจู่ๆเรื่องของคุณตามันจะหายไปง่ายๆยังงั้นเลยหรือคะ คือเอกสารหายไปหรืออย่างไร เพราะอย่างพวก Employment Based Green Card ของบางชาติ อย่างอินเดียเนี่ย ใช้เวลา process กันเป็นสิบปีเค้ายังไม่หายกันเลยนะคะ จากคุณ : เม เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 12:58:19 A:76.238.129.113 X: TicketID:077556

ความคิดเห็นที่ 9 เพ่ิมเติมนิดนึงว่า ส่วนตัวเราค่อนข้างสงสัยว่าคุณแม่/สามีคุณตาได้ยื่นเรื่องจริงรึเปล่า คุณตาเคยคุยกับ immigration ว่าเคสของเค้ามีอยู่จริงๆใช่ไม๊คะ คือเรารู้สึกว่าจู่ๆเจ้าหน้าที่ไม่น่าจะมาพูดได้ง่ายๆน่ะค่ะว่า เคสหายไปแล้ว ต้องทำใหม่อะไรอย่างนี้ เว้นแต่จะถูกปฏิเสธด้วยคุณสมบัติไม่ถึงก็ว่าไปอย่าง กรณีของเราที่เคยเจอมานะคะ ของเราเป็น Employment Based Green Card เคยส่งเอกสารไป แล้วทางนั้นบอกว่าไม่ได้รับ แต่เรามีต้นขั้วเอกสารทุกอย่าง ว่าเอกสารได้ส่งถึงที่แล้ว ทางทนายก็เลยจัดการส่งหลักฐานไปให้ สุดท้ายเค้าก็ไปตามหากันจนเจอค่ะ จากคุณ : เม เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 13:11:53 A:76.238.129.113 X: TicketID:077556

ความคิดเห็นที่ 10 เข้าใจคุณ คหท 3 นะคะ แต่ไหนๆเรื่องมาถึงตรงนี้แล้วก็ต้องเดินหน้าสู้ต่อไปคะ คนเราไม่แปลกหรอกคะที่อยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ในเมื่อมันสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่เหมือนที่เราหวังไว้ ก็คงต้องมาหาทางแก้เอา เมื่อก่อนตอนที่เราส่งทำเรื่องใบเขียว เราไม่เคยโดนเรียกเก็บแบบนี้เลย เคยแค่ส่งเช็คไปผิด เค้าตีกลับมาหมดทั้งปึกพร้อมทั้งคืนเช็คมาด้วยเหมือนที่คุณLawanwadee บอกคะ และเค้าก็จะแจ้งว่าเราทำอะไรผิดไป ให้ทำใหม่ ส่วนตัวคิดว่าคุณต้องรู้รายละเอียดของเพื่อนคุณมากกว่านี้ถึงจะสามารถแนะนำเค้าได้ถูกต้อง สู้ๆคะ เอาใจช่วย จากคุณ : AA (Pinky_th) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 13:29:49

ความคิดเห็นที่ 11 Note; I have not read other comments besides the first one nor I am an expert therefore my comment may not be accurate. Have your friend and/or husband file the Partition for Write of Mandamus? แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 18:49:21 จากคุณ : เรือน้อยสามลำ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 18:41:28

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีค่ะ ทุก ๆ ขอบคุณคนมากๆ นะค่ะ รวมถึงขอบคุณเพื่อนรักที่ตั้งกระทู้ขึ้นมาช่วยเรานะ  เราเองนะค่ะ ตาที่เพื่อนมาขอความช่วยเหลือ ที่เพื่อน ตา เขียนมาข้างตนเป็นอย่างที่เพื่อนว่าทั้งหมดค่ะ จะขอเพิ่มเติ่มตรงเรื่องจำนวนเงินค่ะ ตอนที่ตาจ่ายมีเชค 1000 กว่านิด ๆ หนึ่งใบ แล้วก็ 300 กว่า ๆ ค่ะ ตามที่เพื่อนบอกเรื่องถูกส่งออกไป จนถึงพิมพ์รอยนิ้วมือ และทุกอย่างมีใบเสร็จหมดค่ะ หลังจากไปพิมพ์รอยนิ้วมือกลับมาเพื่อนหลาย ๆ คนบอกว่าเดี๋ยวเค้าก็จะเรียกสัมภาษณ์ เราก็เตรียมตัวรอค่ะ จนจากนั้นประมาณ 3-4 วีค ไม่แน่ใจนะค่ะ มีจดหมายส่งมาขอเก็บเงินเพิ่ม $80 บอกว่าค่าพิมพ์นิ้มมือค่ะ เราก็ส่งไป แต่อีกไม่กี่วันก็ส่งกลับมาบอกไม่ต้องจ่ายแล้วค่ะ ส่งมาทั้งเอกสารปึก ๆ ค่ะ จากนั้น เราก็รอ ๆ เพราะคิดว่าคงจะเรียกสัมภาษณ์ค่ะ แต่ก็ไม่ตอนนั้น ตาท้องประมาณ 5-6 เดือนตอนไปพิมพ์นิ้วมือค่ะ จากวันที่ได้ $80 กลับคืนมา ก็มีจดหมายเรียกเก็บเงิน ประมาณ 900 กว่าเหรียญค่ะ ซึ่งตรงนี้ตานั่งเปิด speaker phone กะสามีแม่สามีโทรหา อิมมิเกรชั่น เลยค่ะ ซึ่งก็หลายต่อหลายครั้งที่บอกจะจัดการดูให้ เราก็เชคเคสเราทางเวปไปด้วยค่ะ เราก็ไม่ยอมจ่ายอันหลังเพราะ เราก็โทร ๆ จนวันนึงแม่สามีโทรเจอหนึ่งคน เค้าบอกว่าเค้าเป็นหัวหน้าแต่ไม่แน่ใจว่าฝ่ายไหนค่ะ แนะนำให้ตา เขียนจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่ง และไม่ต้องจ่ายเงิน และพูดประมาณว่า ต้องไม่ใครสักคนที่นั่นไม่รู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ และบอกให้อ้างชื่อของเค้าลงไปในจดหมายด้วยค่ะ เราก็ทำตาม แล้วเราก็รอ ครั้งสุดท้ายก็บอกว่าเคสตาหมดอายุแล้วค่ะ ตาจะไปจ้างทนาย ก็โดนทนายคนจีนขูดเลือดซะ บอกว่า 3000 ค่าเคส ค่ายค่าใบเขียวต่างหาก จ่ายไปแล้ว 800 จ่ายรายเดือน ๆ ละ 200 พอทนายส่งจดหมายบิลมาให้ดูข้อตกลงในจดหมายแบบว่า เป็นการแก้ใช้ลิควิดลบจาก 2000 เป็น 3000 ค่ะ แล้ว ตาโทรหาทนายก็ไม่เคยได้คุยจึงตัดสินใจยกเลิกและขอเงินคืน สามีแจ้งเรื่องไป นานมากกว่าได้เรื่องค่ะ ตาก็พยายามหาทนายใหม่แต่สามีก็อย่างที่เพื่อนว่าค่ะ ตกงานได้งานอยู่อย่างนี้ และตาก็คิดว่าคำว่าครอบครัวไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะการใด ๆ เราคงไม่ทิ้งกันบางความเห็น บอกกว่าจับฝรั่งค่ะได้ยินมาจนชิน แต่ก็ไม่สามารถทำให้เครอบครัวเราแตกแยกได้ เพราะจริง ๆ ถ้าตาอยากอยู่ที่นี่โดยที่ไม่รักสามีคงเลือกแต่งกับคนอื่นที่เลี้ยงเราได้ค่ะ ตอนก่อนแต่ง เค้าก็มีงานทำแม้จะไม่ร่ำรวยมาก แต่เค้าเป็นคนดี เพราะเค้ากับตาก็นั่งร้องไห้ด้วยกันหลายต่อหลายครั้งกับกองกระดาษตรงหน้า ถ้าต้องแต่งกับคนรวย ๆ แล้วไม่มีความสุข ก็คงไม่ดีนะค่ะ ตาเชื่อว่าชีวิตคนเราคงไม่ตกต่ำตลอดไป ขอขอบคุณทุก ๆ คนที่ช่วยเหลือเป็นอย่างมากนะค่ะ แม้บางข้อความจะทำให้เราเสียใจแต่ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตา เข้าใจค่ะ   สุดท้ายนี้โทรหาทนายอีกคนเค้าคิด $700 ค่ะ เค้าฟังเรื่องเค้าบอกเลยว่า เตรียมเอกสารใหม่หมด บวกให้แม่สามีช่วยโดยแนบทะเบียนบ้าน รวมถึงส่งเงินทุกอย่างใหม่หมดค่ะ ทางทนายจะช่วยดูเรื่องเอกสาร ซึ่งอยากจะขอบคุณทนายคนนี้ ตาโทรหาเค้า 3 ครั้งเห็นจะได้ค่ะ เงินก็ยังไม่เคยจ่ายแถมเค้ายังบอกลายละเอียดให้คำปรึกษาส่วนคนแรกถามอะไรไม่ได้เลยค่ะ รอก่อน เค้าจะจักการเองอะไรเงี้ยค่ะ โทรไปไม่เคยรับ ยังไงถ้าใครพอจะช่วยแนะนำตาได้จะขอบคุณมากเลยนะค่ะ ตาควรจะทำใหม่หรือยังคงสามารถรื้อเรื่องเก่า ๆ มาๆได้ค่ะ (รอบแรก ตาไม่เคยส่งทะเบียนบ้านบ้านแนบไปค่ะเพราะไม่ทราบ) ขอบคุณทุกคนจริง ๆ ค่ะ และขอบคุณเพื่อนรักมากนะ จากคุณ : ตา (ramiluv) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 22:15:06

ความคิดเห็นที่ 13 ลองทำด้วยตัวเองก่อนดีกว่านะคะ เท่าที่อ่านมาลองโทรตามอีกสักรอบ 1.โทรไปตามเคส อาจจะใช้เวลานานหน่อย จำหมายเลขเคสคุณ แล้วก็ ขอทราบชื่อ จนท.ที่คุณติดต่อไป จำชื่อให้แม่นๆนะคะ โทรไปรอบหน้า จะได้อ้างได้ ต้องจี้บ่อยๆด้วยนะคะ 2. ถ้ามั่นใจว่า เคสหมดอายุ แล้วเค้าให้คุณทำใหม่ ก็คงต้องทำใหม่ บางทีอาจไม่ต้องจ้างทนายเลยก็ได้ค่ะ ที่สำคัญ อย่าลืม สแกนเอกสารทุกอย่างใหม่หมดนะคะ ส่งแต่ตัวก๊อปปี้ไป เวลาเอกสารหาย หรือเค้าเรียกใหม่ จะได้ส่งไปอีกรอบได้ 3. เราไม่ค่อยแน่ใจว่า ตอนนี้สามีคุณไม่มีงานทำ แต่ยังยื่นเสียภาษี แล้วมีรายได้ตามที่เค้ากำหนด ก็น่าจะยื่นใหม่ได้นะคะ เอาเป็นว่า ลองโหลดเอกสารจากเวปเค้าโดยตรง แล้วลองดูอีกรอบนะคะ  เห็นมี คำถามที่ถามประจำด้วย ลองเข้าไปอ่านดู http://www.uscis.gov/portal/site/uscis เอกสารที่โหลดมา ให้อ่านท้ายเอกสารดีๆนะคะ ว่าเค้าต้องการอะไรแนบบ้าง อีกอย่างที่เราไม่แน่ใจก็คือ ถ้ายังขอกรีนการ์ดไม่ได้ เราขอwork permit ก่อนได้มั้ย คือเรามาวีคู่หมั้น เค้าให้จ่าย 1010 แล้วบังคับให้ทำ ใบทำงาน ใบขอออกนอกประเทศ แล้วก็กรีนการ์ด ไปในตัวตัวเลย ก็เลยคิดว่า ไม่ว่ามาด้วยวีซ่าแบบไหน ถ้าจดทะเบียนแล้ว ขอใบทำงานอย่างเดียวได้หรือเปล่า เราว่าน่าจะได้นะ ลองดูนะคะ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวจริงๆค่ะ ไม่ทราบว่าเคยเข้าเวป  2 เวปนี้หรือเปล่าค่ะ เราอ่านผ่านตาว่า มีเคสคล้ายๆคุณด้วย ลองเข้าไปอ่านดูนะคะ http://www.usvisa4thai.com/board/viewforum.php?f=79 ภาษาอังกฤษ ลองให้แฟนช่วยๆกันนะคะ ลองก่อนจะไปเสียเงินให้ทนาย http://www.visajourney.com/forums/ ขอให้เรื่องผ่านไปด้วยดีค่ะ บอร์ดสาธารณะ อย่าเอาใจไปใส่เยอะเลยค่ะ อ่านแต่คำแนะนำดีๆก็พอ อะไรที่อ่านแล้วเสียความรู้สึก ก็ข้ามๆไป สบายใจเราดีที่สุด เพิ่งได้คำคม ดีๆมา เอามาแบ่งให้อารมณ์ดี ^ ^ อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนโง่ อย่าต่อความยาว อย่าสาวความยืด อย่าฟังคนโม้ อย่าโอ้อวดตน... เราก็จะอยู่ดี มีสุข ~ ~ จากคุณ : dcapar เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 04:19:41

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณทุกคนน่ะที่เข้ามาตอบ ที่เข้ามาให้ข้อมูลค่ะ จากคุณ : หม่ามี้และน้องเป็นปลื้ม (thanda6) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 08:32:50

ความคิดเห็นที่ 15 จากข้อมูลที่คุณตาให้เพ่ิมเติมในคห.ที่ 12 นะคะ เราคิดว่ายังงี้ค่ะ ก่อนอื่นเลย เช็คเรื่องระยะเวลาการหมดอายุของเคสก่อน ว่าเคสหมดอายุได้จริงไหม หมดอายุในระยะเวลาเท่าไหร่ และถ้าหมดอายุจะทำอย่างไรได้บ้าง เอาแบบข้อมูลทั่วๆไป search เอาจาก google ก็น่าจะได้นะคะ จากนั้นก็ลองมา เทียบกับเคสของคุณเองนะคะ ว่าของเรามันหมดอายุจริงรึเปล่า แล้วเรามี option อะไรได้บ้าง ลองโทรจิกเคสเราดูอีกซักที ก็ดีอย่างที่คุณ dcapar ว่านะคะ ถ้าเคสหมดอายุจริง และไม่มีทางอื่นแล้วนอกจากทำใหม่ ลองศึกษาวิธีการยื่นเรื่องด้วยตัวเองดูรึยังคะ คนรู้จักเราที่ขอ green card จากการแต่งงาน ส่วนมากยื่นเรื่องทั้งนั้นเลยค่ะ เพราะเค้าบอกว่ามันค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่ของคุณตา นี่เราก็เข้าใจว่ามีปัญหาเรื่องงานของสามีนะคะ อาจจะจำเป็นต้องใช้ทนาย แต่จากประสบการณ์ของเรานะคะ ต่อให้จ้าง ทนายแพงๆยังไง ศึกษาด้วยตัวเองไว้ให้ย่ิงมากย่ิงดีค่ะ จะได้ไม่เสียรู้ทนาย และแม้แต่ทนายดีๆก็พลาดได้ค่ะ ถ้าเรามี ความรู้อยู่บ้าง อย่างน้อยก็จะได้ถามทนายได้ถูกจุดค่ะ ขอแนะนำเวบบอร์ดเกี่ยวกับ green card เวบนึงที่ดีมากๆนะคะ คือ www.trackitt.com เป็นเวบบอร์ดของ ผู้ร่วมชะตากรรมขอ green card -_- ทั้งแบบ family-based และ employment -based ค่ะ เป็นบอร์ดที่ active มาก อารมณ์ประมาณพันทิบเวอชั่นกรีนการ์ด ลองไปตั้งคำถามดูนะคะ จะมีคนมาช่วยตอบมากมาย คนที่นั่นส่วนมากความรู้ดีค่ะ เพราะผ่านประสบการณ์มาโชกโชน ตอนที่เรากำลังยื่นเรื่องนี่เราเข้าไปบ่อยมาก เวลาเครียดๆก็เข้าไปค่ะ เข้าไปบ่นบ้างอะไรบ้าง ขอคำปลอบใจบ้างก็มี บางทีอ่านเจอเคสที่แย่ๆกว่าเรามากมาย ก็ทำให้รู้สึกดีค่ะ ลองดูนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : เม เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 10:30:39 A:76.238.129.113 X: TicketID:077556