ความคิดเห็นที่ 1 1 ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ หากว่าต้องการที่จะทำเสียอย่างเดียว 2ใช้ Visa นักเรียนภาษาไงล่ะ 3 ไม่รู้ดิ จากคุณ : hollywop เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 13:38:32

ความคิดเห็นที่ 2 พี่นี่เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันหรือว่าญาติครับ? คนไทยหลายคนที่ยังไม่เคยไปอเมริกา ยังมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการไปหางานทำตามร้านอาหารเพื่อเก็บเงิน เก็บภาษา ขอบอกว่ามันเป็นไปได้ยากครับ เพราะไม่มีวีซ่าตัวไหนรองรับ (ยกเว้นถ้าคุณเรียนสายกุ๊กและมีประสบการณ์ และใบผ่านงาน ฯลฯ สถานทูตคงพิจารณาออก Work Permit ให้) ไอ้ที่เห็นหรือเคยได้ยินมาว่าเค้าทำกันได้น่ะ ทำจริงครับ แต่ส่วนมากก็มาแบบวีซ่าท่องเที่ยวมั่ง นักเรียนมั่ง แล้วมาทำ ซึ่งมันผิดกฎหมายครับ การเรียนต่อต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกาถ้าไม่เก่งเวอร์จนได้วีซ่านักเรียนทุน (J-1) ก็ต้องมีเงินพอสมควรกับค่าใช้จ่ายแหละครับ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นตัวถูกพิจารณาอย่างมากเวลาขอวีซ่านักเรียนทุนทรัพย์ส่วนตัว (F-1) ผมเองก็อยากเรียนต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อเมริกา เคยไปมา 2 ครั้งกับโครงการ W&T และรู้สึกว่าไลฟ์สไตล์ของผมเข้ากับที่นั่น แต่เคสของผมก็คล้าย ๆ คุณคือที่บ้านไม่ค่อยมีเงิน ผมไม่อยากให้พ่อแม่ลำบากเลยต้องตัดใจไปก่อนช่วงนี้ ไว้ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ ไม่ตายคงเจอกันอีกอเมริกา แต่ผมจะไม่ไปอยู่อย่างผิดกฎหมายและต้องให้คนที่บ้านลำบากแน่นอน จากคุณ : Death Of Heretic Angels เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 13:45:03

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องความเป็นไปได้ไหม คคห ๒ ตอบถ้วนดีเเล้ว อยากเพิ่มให้ว่า อย่าให้ความฝันของคุณ แลกมาด้วยทุกสิ่งทุกอย่างของพ่อแม่เลย ถ้าเขาจะต้องส่งจนหมดตัวขนาดนั้น เห็นใจพ่อแม่มั่งก็ได้ จากคุณ : mrs.night owl เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:01:11

ความคิดเห็นที่ 4 มันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกค่ะ ยิ่งในภาวะแบบนี้.. ถึงมีงานรองรับ แต่รายได้ก็ลดลงไปมากแล้ว.. เพราะชาวอเมริกันเกือบๆ ถังแตก ประหยัดกันสุดฤทธิ์ ค่อยๆ คิดนะคะ อย่าผลีผลาม จากคุณ : ลำเนา เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:05:27

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ hollywop : วีซ่านักเรียน เวลาของวีซ่า 6เดือน 1 ปี ขึ้นอยู่กับอะไรหรอคะ เวลาในการเรียนที่โรงเรียนนั้น หรือ statement ของเรา คุณ Death Of Heretic Angels : พี่ที่ว่าเป็นญาติฝั่งพ่อค่ะ คนละนามสกุล ที่หวังอยากไปทำงานกับพี่เพราะคิดว่าถ้าทำกับญาติจะไม่โดนกดค่าแรงเท่ากับร้านที่ไม่รู้จักอ่ะค่ะ หวังว่าคงได้เงินมาบ้าง Death Of Heretic Angelsสู้ๆนะคะ ^^ ขอบคุณ hollywop และ Death Of Heretic Angels มากๆค่ะ จากคุณ : hope เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:08:51 A:58.9.146.250 X: TicketID:296131

ความคิดเห็นที่ 6 "ขอไปทำงานอย่างเดียวสัก1ปี โดยคิดว่าจะพยายามกอบโกยภาษาให้ได้มากที่สุด" ----> ไม่มีทางได้ภาษาหรอกค่ะ... 1. ถือวีซ่าท่องเที่ยว ทำงานไม่ได้ ---> ผิดกฎหมาย 2. ถือวีซ่านักเรียน ทำงานได้เฉพาะใน campus เท่านั้น ---> ได้ค่าขนมนิดหน่อยเพราะทำได้ไม่เกิน 20 ชม.ต่อสัปดาห์เท่านั้น 3. ถือวีซ่านักเรียน ทำงานตามร้านอาหารที่ ---> ผิดกฎหมาย โดนจับได้ก็ถูกส่งกลับประเทศ 4. การอ้างว่ามีญาติเปิดร้านอาหารไทยอยู่ในอเมริกา ---> อดได้วีซ่าเพราะมีช่องทางไปแอบทำงาน จากคุณ : BlackmagicW เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:12:46

ความคิดเห็นที่ 7 mrs.night owl ยอมรับค่ะ แต่ตอนนี้มันตัดสินใจยากจริงๆ คือพ่อกับแม่เราเค้าความเห็นไม่ตรงกันมาตลอด(ตอนนี้ก็แยกกันอยู่) พ่อเราเค้าอยากให้เราไปมากๆ คือพ่อเราใจร้อนเอาการค่ะ พ่อบอกว่าอยากส่งเราไปเรียนให้สำเร็จ เค้าจะได้สบายใจสักที (คือพ่อเราเค้าทิ้งเรากับแม่มาหลายปี ไปอยู่กับคนใหม่ เราเลยคิดว่าการที่พ่ออยากส่งเราไปขนาดนี้ เพราะอาจอยากชดเชยเวลาที่ไม่ได้ดูแลลูกค่ะ) ส่วนแม่เราเค้าเป็นคนคิดมากอยู่แล้ว ยิ่งถ้าไปเงินก็ไม่น้อย อีกอย่างเราก็ไม่เคยไปอยู่ไกลบ้าน ก็ต้องเป็นห่วงเป็นธรรมดา ซึ่งเราเลยคิดว่าถ้าเราไปแล้วเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หาเงินมาฝากแม่ฝากยายได้บ้าง แม่เค้าคงไว้ใจเรามากกว่านี้ค่ะ ps.ที่ที่เอาไปค้ำกับผู้ใหญ่ที่รู้จักกันดีค่ะ ขอบคุณคุณ mrs.night ow มากค่ะ จากคุณ : hope เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:18:11 A:58.9.146.250 X: TicketID:296131

ความคิดเห็นที่ 8 จะจบปี4 ไม่รู้ว่าพอจะไป work&travel ได้หรือเปล่านะ หรือไม่ทำไมไม่ไป Aupair เรื่องไปทำงานร้านอาหาร คงไม่ต้องบอกว่าทำได้ไม่ได้ เพราะก็เห็นแอบทำงานกันอยู่แต่ปัญหามันจะอยู่ตรงที่หวังไปเก็บเงินเป็นกอบเป็นกำคงยากเพราะ จขกท มั่นใจญาติตัวเองว่าเขาจะจ่ายค่าจ้างเยอะขนาดนั้นเลยหรือค่ะ อีกอย่างคุยกันหรือยังว่าตัว จขกท เองจะอยู่ยังไงกินยังไง เขาช่วยค่าใช้จ่ายตรงนี้ไหม?? ขอวีซ่าไปทำงานร้านอาหารนอกจากกุ๊กกับเชฟ ตำแหน่งอื่นขอวีซ่าไม่ได้อยู่แล้วค่ะ เหมือนที่ คห.2 บอกคือขอวีซ่านักเรียนไปเรียนภาษาแล้วถึงไปแอบทำ แต่ตราบใดที่ขอวีซ่าไปเรียนก็หมายถึงต้องมีที่เรียนจริง อาจจะต้องจ่ายค่าเรียน(ก่อนขอวีซ่า) ด้วย อีกอย่างระยะเวลาที่จะไปเรียน(ภาษา) ถ้าคิดจะไป 1 ปีเงินในบัญชีต้องมีไม่น้อยเลยนะ ที่เหลือ 3 เดือน 6 เดือน จะคุ้มหรือเปล่ากับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป แต่ระวังตรงที่ว่าแอบไปทำงานก่อน ยังไงก็เป็นการเข้าเมกาแบบไม่ถูกกฏหมายถ้าโชคร้ายไม่ว่าจะกรณีอะไรก็แล้วแต่อาจจะมีผลต่อการขอวีซ่าไปต่อโทได้นะค่ะ ที่เหลือก็ตัดสินใจเองว่าจะกล้าเสี่ยงไหม ยังไงพี่ก็สนับสนุนให้ไป Aupair เพราะปี4 แล้วไป work อาจจะยากหน่อย ไปออร์แพร์ก็ได้ไปทำงานตั้งปีแน่ะ (เห็นบางคนครบปีหาโฮสใหม่ได้ก็ได้ทำงานต่อป็น 2 ปี) แต่อย่างที่บอกออร์แพร์คืองานเลี้ยงเด็ก จะไหวไหม?? คิดดีๆนะเพราะถ้าตัดสินใจทำอะไรไปแล้วก็หมายถึงความยากง่ายกับอนาคตข้างหน้า จากคุณ : คิดดีๆ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:18:40 A:182.232.162.172 X: TicketID:203091

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณ คุณลำเนา และ คุณBlackmagicW ด้วยนะคะ ตอนนี้เข้าใจแล้วว่ามันไม่ง่ายจริงๆ (แต่แอบสงสัยว่าถ้าญาติไปเปิดร้านอาหารแบบนี้ เค้าจะไม่อนุญาตให้ญาติคนอื่นไปช่วยทำได้เลยหรอคะ คือต้องจ้างคนอื่นไปช่วยทำเท่านั้นใช่มั้ยคะ) จากคุณ : hope เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:23:52 A:58.9.146.250 X: TicketID:296131

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นไปได้ ถ้าใจตัวเองอยากจะไป  แต่ไปแล้วจะไปดีหรือไม่ดีมันอีกเรื่อง ****  เพราะว่ามันผิดกฎหมาย คำว่า " พี่ " ที่อยู่ Orlando ไม่น่าจะใช่พี่ที่แท้จริง ดังนั้นลองค้นหาอ่านในกระทุ้เก่าๆดูนะคะ ว่าการที่มาทำร้านอาหารที่อเมริกาด้วยวีซ่าผิดกฎหมาย แล้วมาอยู่กับพี่ที่อาจจะไม่ใช่พี่ที่แท้จริง ( มีเพื่อนเคยมาอยู่และทำงานกับพี่น้องแท้ๆนี่แหละ ปัญหายังมากมาย เรื่องเอารัดเอาเปรียบนี่แหละ  ยังทำกันไม่รอดเลย ) การมาอยู่อเมริกาแล้วคิดว่าจะมาทำงานร้านอาหารหาเงินอย่างเดียว มันไม่ง่าย หมู เหมือนที่คิดหรอก คนที่เค้าทำงานถูกกฎหมายที่อเมริกา ณ เวลานี้ยังลำบากยากเข็ญ แล้วคิดหรือว่าคนที่ทำผิดกฎหมาย สามารถถูกกดขี่ได้ตลอดเวลา โดยไม่สามารถมีปากมีเสียง มันจะอยู่ได้ง่ายๆ มันมีทั้งเรื่อง การรักษาพยาบาลเวลาไม่สบาย การถูกเอาเปรียบโดยคุณก็ไม่สามารถต่อรองอะไรได้ และอื่นๆอีกมากมาย ตอนนี้มีน้องผู้ชายที่รู้จัก มาเรียนจบโทแล้วด้านบริหาร แต่เป็นมหาวิทยาลัยแบบไม่ดัง เป็นมหาวิทยาลัยของผู้ใหญ่ที่ทำงานแล้วมาเรียนหลังเลิกงาน ยังเรียนตั้ง 2 ปี เวลาที่อยู่ที่นั่นก็อยู่กับกลุ่มคนไทย ตอนนี้ก็อยู่ช่วง OPT ยังหางานทำตรงสายไม่ได้เลยและคิดว่าคงหาไม่ได้แน่ เพราะสายที่จบ บริหาร มันเป็นสายงานที่ไม่เฉพาะเจาะจง คนอเริกาเองก็จบเยอะมาก ก็ทำงานร้านอาหารนี่แหละ กับร้านไทย ค่าแรงไม่ได้ ได้แต่ค่าทิป ก็ยังต้องยอมทำอยู่จนตอนนี้ คิดให้ดีแล้วกัน พ่อแม่น่ะรักลูก อยากทำอะไรหมดเนื้อหมดตัวก็ทำได้เพื่อลูก แต่ความอยากของลูกมันจะคุ้มค่าไม๊กับการทำให้พ่อแม่เดือดร้อน หมดเนื้อ หมดตัว ถ้าอยากเรียนภาษา เรียนที่ไทยก็ได้ แค่ฟังหนังที่พูดภาษาอังกฤษ ให้ฟังรู้เรื่องก่อน ดีกว่าไม๊ ซื้อหนังมาดูมาฟังที่บ้าน หลายๆเรื่อง หลายๆรอบ คุ้มและถูกกว่าให้พ่อแม่มานั่งกลุ้ม แล้วอาจต้องวิ่งเต้นหาเงินส่งให้เรา เมื่อชีวิตที่เราอยากมันไม่เป็นอย่างที่คิดแล้วมีปัญหา ตอนนี้ถึงจะจนก็ยังอยู่ได้ พร้อม พ่อ แม่ ลูก มีความสุขอย่างพอเพียง จะดิ้นรนเพราะความอยากของตัวเอง ทั้งๆที่ไม่พร้อม ไม่มีจุดหมายที่แน่นอน ที่นี้แหละ ความทุกข์มาเยือนกันทั้งครอบครัว จากคุณ : Imperio เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:27:28

ความคิดเห็นที่ 11 ได้คุยกับญาติแล้วค่ะ เค้าบอกขั้นต่ำ 60 ต่อวันแล้วก็ให้ไปอยู่กับเค้าอ่ะค่ะ แต่รายละเอียดอื่นยังไม่ได้คุยกันเลย เพราะล่าสุดหนูบอกเค้าว่าจะไปเรียนค่ะ โครงการ Aupair น่าสนใจดีค่ะ เดี๋ยวจะลองหารายละเอียดดูนะคะ ^^ ขอบคุณคุณ คิดดีๆ มากๆค่ะ จากคุณ : hope เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:29:40 A:58.9.146.250 X: TicketID:296131

ความคิดเห็นที่ 12 #9 ญาติหรือแม้แต่พี่น้องสายเลือดเดียวกัน ถ้าคุณสมบัติไม่ได้ก็ไม่ได้หรอกครับ การพิจารณาวีซ่าขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนามสกุลเหมือนกัน มีวีธีอื่นที่จะไปหาประสบการณ์และเงินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนอกจากเรียนต่ออยู่นะครับ คุณกำลังจะจบปี 4 ก็สามารถไป W&T ได้ และจะได้อยู่นานกว่าชั้นปีอื่น ๆ (นักศึกษาปีสุดท้ายสามารถอยู่ได้ประมาณ 4-5 เดือน บวกกับระยะเวลา 30 วันสำหรับการท่องเที่ยวในอเมริกา) Aupair ก็ระยะยาวเป็นปี แต่ต้องเก็บ ชม. เลี้ยงเด็กจากไทยไปให้ได้ 200 ชม. หรือว่าไงผมไม่แน่ใจ ที่สำคัญคุณรับมือกับการเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้มั้ย Internship ปีนึงสำหรับคนที่เรียนจบในสาขาดังต่อไปนี้ไม่เกิน 1 ปี 1.Marketing 2.Business Management 3.Information Technology 4.Hotel/Travel Management ( 12 months maximum) 5.Architecture (12 months maximum) 6.Civil Engineering (12 months maximum) ผมอยากไป Internship มาก แต่เสียดายที่ไม่ได้จบตามสาขาที่เค้าต้องการเลยอดไป ลองไปพิจารณาดูครับ จากคุณ : Death Of Heretic Angels เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:33:44

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณคุณ Imperio มากๆค่ะ (เรื่องพ่อแม่ของหนู คือพ่อหนูอยากให้ไป แต่แม่ไม่อยากให้ไป หนูเลยสับสนและตัดสินใจลำบากมากค่ะ หนูจะพยายามคิดให้รอบคอบที่สุดนะคะ) จากคุณ : hope เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:35:05 A:58.9.146.250 X: TicketID:296131

ความคิดเห็นที่ 14 มุมมองส่วนตัวนะครับ ตอบคำถามก่อน 1)-2) ไปทำงานร้านอาหาร ไม่มีวีซ่ารองรับครับ ส่วนใหญ่ที่เค้าทำกันคือ ต้องสมัครโรงเรียนเรียนภาษา จ่ายค่าเทอม แล้วขอวีซ่านักเรียน แล้วไปแอบทำ แบบผิดกม เอา ... เงินที่ได้มากน้อยแล้วแต่ชม การทำงาน แต่เท่าที่เห็น ยิ่งทำแล้วได้เงินเยอะ ... เราเองแหละครับที่จะขี้เกียจเรียน เอาแต่ทำงาน ไม่ได้ทบทวน ไม่ได้อ่านหนังสือ 3) เรื่องเรียนภาษาที่ U นั้นๆ แล้วเข้า U ต่อ ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง แต่จะให้ดีควรจะสอบ toefl ไปให้คะแนนใกล้เคียงกับที่เค้าจะรับก่อน หากคะแนนไม่ถึง ก็ไปต่อรองกับเค้าว่าจะเรียนภาษากับเค้า 1- 2 คอส แล้วสอบใหม่ ก็ว่ากันไป เพราะบางที่ พอเรียนภาษากับเค้าเราก็จะมีโอกาสพูดคุยกับอาจารย์ในคณะที่เราอยากเข้า ทำให้เค้ารู้จักเรา และเค้าอาจจะมีโอกาสพิจารณาเรามากขึ้น หากคะแนนสอบยังไม่ถึง แต่ก็ไม่ได้รับประกันเสมอไปนะ คำแนะนำส่วนตัว จากประสบการณ์เห็นว่า คนที่มาเรียนภาษาที่อเมริกา ถ้าไม่ตั้งใจจริงๆ ก็ยาก ยิ่งเรียนด้วยทำงานไปด้วย เวลาทำงานจะบดบังเวลาเรียน  ทำให้เสียเวลาเรียนหลายคอส สอบหลายรอบ เสียเงินเสียทอง มากขึ้นไปอีก ผมไม่รู้ว่า พื้นฐานภาษาอังกฤษคุณเป็นอย่างไร  แต่ไม่อยากให้คิดว่ามาเรียนภาษาเมืองนอก แล้วจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว  มันไม่จริงเลย ผมมีเพื่อนหลายคน เรียนภาษาอยู่มาเป็นปี ภาษาอังกฤษยังง่อยๆ พูดผิดๆ ถูกๆ สิ่งที่อยากแนะนำคือ เรียน TOEFL ที่เมืองไทย แล้วสอบให้ได้ที่เมืองไทย ระหว่างเรียน ก็ทำงานไปด้วยก็ได้ จะ full time, part time ก็แล้วแต่ความสามารถ สอบให้ได้อย่างที่หวัง แล้วสมัคร U ถ้าอยากไปแล้วได้ทำงานพิเศษด้วย ก็เลือก U ที่อยู่แถวบ้านญาติคุณ สิ่งที่จะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายพอได้บ้างคือ ขอทุน มหาลัย อันนี้ต้องเช็คเงื่อนไข  บาง มหาลัย เค้ามีทุนให้ waive ค่าเทอม แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องทำเกรดให้เกิน 3.5 และก็ต้องช่วยงานมหาลัย หรือคุณอาจจะไปทำงานร้านอาหารแทน โดยไม่ขอทุนมหาลัยก็ได้ แต่ต้องแบ่งเวลาดีๆ แต่วิธีนี้คงต้องมีเงินเตรียมพร้อมไว้ก่อน เพราะขั้นตอนขอวีซ่า เค้าจะเช็ค statement ว่าคุณมีเงินเพียงพอต่อการไปเรียนครั้งนั้นๆ รึเปล่า แต่พอคุณทำงานได้เงิน คุณก็ใช้เงินของคุณ เงินที่เมืองไทยก็ไม่ต้องส่งมา เก็บไว้ที่คุณแม่ อีกทางหากจนปัญญา ลองไปคุยกับธนาคารเรื่องเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาไหม ผมไม่แน่ใจว่ามันมีเงื่อนไขอย่างไร แต่ยังไงคุณก็ต้องสอบ TOEFL และสมัคร U ให้ได้ก่อน โชคดีครับ จากคุณ : The Fisher เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:36:02

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณ Death Of Heretic Angels มากๆค่ะ ไม่ได้จบตามสาขาที่เขาต้องการเหมือนกันเลย เสียดายด้วยค่ะ จากคุณ : hope เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:37:48 A:58.9.146.250 X: TicketID:296131

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณคุณThe Fisher มากๆค่ะ ความเห็นของคุณ เป็นการย้ำความคิดที่แม่แนะนำเราว่าให้เรียนที่เมืองไทยจนสอบ toefl ให้ได้ก่อน แต่เราแย้งแม่ว่าเรียนเมืองไทยไม่ได้ใช้ภาษาตลอดเวลา เลยอาจช้ากว่าถ้าไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ พอมาเห็นความเห็นของคุณ เลยเริ่มเข้าใจค่ะ ภาษาของเราอยู่ระดับกลาง เลยตั้งใจว่าจะพยายามทำให้ได้ค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ^^ จากคุณ : hope เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:44:59 A:58.9.146.250 X: TicketID:296131

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าสนใจโครงการ Aupair ลองเข้าไปศึกษาเว็บนี้ดู http://www.thaiaupairclub.com/ เพราะไปโครงการประเภทนี้อาจจะมีแค่เงินก้อนจ่ายให้เอเจ้น ไม่จำเป็นต้องมีเงินในบัญชีเข้า-ออก 6-7 หลัก เหมือนไปเรียนภาษาหรือต่อ ป.โท ออร์แพร์อาจเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งเหมาะสำหรับคนทุนทรัพย์น้อย เราว่าไปออร์แพร์ยังพอได้ใช้ภาษาอยู่บ้างเพราะถ้าทำงานร้านอาหารไทย ส่วนใหญ่เพื่อนร่วมงานก็คือคนไทยก็คงต้องได้ใช้ภาษาไทยกันทั้งวัน แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 15:19:22 จากคุณ : sapuknik79 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:46:11

ความคิดเห็นที่ 18 ฝึกภาษาโดยการดูซีรีย์  gossip girlครับ ดูทั้งวันยังไงก็เก่งครับ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 14:49:22 จากคุณ : ชีวิตคือชีวิต เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:48:37

ความคิดเห็นที่ 19 พึ่งได้อ่าน " พ่อบอกว่าอยากส่งเราไปเรียนให้สำเร็จ เค้าจะได้สบายใจสักที " อย่างนั้นพ่อต้องมีเงินเพียงพอที่จะลงทุนให้ การไปทำร้านอาหาร ไม่สามารถเหลือเงินมาไว้เป็นค่าเรียน หรือ แม้กระทั่งพอเอาตัวเองรอด ก็อาจไม่พอด้วยซ้ำ " เราเลยคิดว่าถ้าเราไปแล้วเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หาเงินมาฝากแม่ฝากยายได้บ้าง แม่เค้าคงไว้ใจเรามากกว่านี้ค่ะ " อันนี้เป็นความฝัน การมาอเมริกา ไม่ได้หาเงินได้ง่ายเหมือนหมู จริงๆจบปี 4 ที่เมืองไทย หางานทำ อยากเรียนภาษา เรียนไปก่อนที่เมืองไทย เรียนด้วยตัวเองให้มาก เรียนพิเศษบ้าง ให้ฟังหนังที่พูดอังกฤษให้รู้เรื่องก่อน รู้ตัวเองว่าจะเรียนอะไร ที่จะเป็นประโยชน์กับอนาคต แล้วค่อยมาก็ไม่สาย อยู่เมืองไทยทำงานเก็บเงินให้แม่กับยายก็ได้ ค่าจ้างอาจจะถูกแต่ค่าความเป็นอยู่ก็ถูก  หรือไม่ก็ลองไปสมัคร Work and Travel ก็น่าจะดีกว่า " (แต่แอบสงสัยว่าถ้าญาติไปเปิดร้านอาหารแบบนี้ เค้าจะไม่อนุญาตให้ญาติคนอื่นไปช่วยทำได้เลยหรอคะ คือต้องจ้างคนอื่นไปช่วยทำเท่านั้นใช่มั้ยคะ) " เค้าไม่ให้หรอกค่ะ ยกเว้นวีซ่าที่ทางร้านพี่ที่อเมริกาจะขอให้เป็นแบบ Working permit ให้กับผู้ที่ (ยกเว้นถ้าคุณเรียนสายกุ๊กและมีประสบการณ์ และใบผ่านงาน ฯลฯ สถานทูตคงพิจารณาออก Work Permit ให้) อย่างที่ คห 2 บอกไว้  ส่วนคนที่เค้าแอบทำอยู่ที่โน่น อย่าคิดว่าเค้าได้เงินที่ได้จากการทำร้านอาหารเหลือเป็นค่าเรียนหรือเหลือส่งกลับบ้าน แค่ค่าเอาตัวเองให้รอดยังแทบจะไม่พอ อาจจะเป็นพวกนักเรียนที่ทางบ้านเค้ามีเงินส่งค่าเล่าเรียน ค่าส่วนตัวจำกัดส่วนหนึ่ง หรือ พวกที่อยากทำงานหาประสบการณ์ได้พบปะคน ระหว่างเรียน แต่พ่อแม่มีเงินส่งให้หมด แต่เค้ามาหาเงินพิเศษที่จะกิน เที่ยว ส่วนตัว ซึ่งมันก็ไม่ค่อยจะพอหรอก ยังไงก็ชักทางบ้านมาใช้เพิ่มตลอด แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 15:31:11 จากคุณ : Imperio เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 14:53:55

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาฉายอีกรอบหนึ่ง (เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้) การจะไปอยู่ทำมาหากินในเมกาได้อย่างถูกต้องตามกฏหมายมีดังนี้ 1. แต่งงานกับคนเมกัน 2. มีพ่อแม่พี่น้องที่เป็นซิติเซ่นขอใบเขียวให้ 3. ขอลงทุนโดยถือวีซ่าลงทุน 4.สมัครล็อตโต้ใบเขียว 5. ขอลี้ภัย (อันนี้คนไทยหมดสิทธิ์) 6. มีนายจ้างๆงานแล้วขอให้ ในสาขาอาชีพที่เมกาเขาขาดแคลน จขกท ใฝ่ฝันที่จะมาแบกจ๊อบแล้วเรียนไปด้วย ขอบอกว่ามันเป็นไปได้ยากมากๆในสถานะการณ์ปัจจุบัน คนท้องถิ่นเอง (คนเมกัน คนถือใบเขียว) ยังเดินหางานกันขาขวิด ถ้าเป็นเมื่อง 20 ปี ก่อน ก็โอเค นร ไทยเรียนฟูไทม์แต่ทำงานพาร์ทไทม์ เห็นขี่รถป้ายแดงได้สบายๆ ถ้าหากว่าเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยก็คงได้แค่ค่าเช่าบ้านและค่าขนมนิดหน่อย ประเภทคิดจะเหลือส่งกลับมาเมืองไทยไม่มีทาง ซำเมื่อไปทำงานแล้วการเรียนจะไปรอดหรือไม่ หากเทอมไหนเรียนไม่ไหวก็ต้องดรอป ไปๆมากลายเป็นโรบินฮู๊ดไปโดยปริยาย เพราะเวลาเรียนไม่พอ ต่อวีซ่า นร ไม่ได้ ที่กล่าวมานี่ไม่ใช่จะดับความหวังของ จขกท แต่เตือนกล่าวไว้เพื่อให้มองในแง่ความเป็นจริง ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับที่ จขกท ไปได้รับรู้มา ถ้ายังสงกะสัยจะ Break down ค่าใช้จ่ายการที่จะต้องทั้งเรียนและอยู่ในเมกาให้ดู จากคุณ : Rapier (Rapier) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 15:23:02

ความคิดเห็นที่ 21 อีก 1 เสียงที่แนะนำเป็น Internship program ครับ จขกท.เรียนสายไหนมาครับ ลองปรึกษา จนท. workwest(.co.th) ดูก็ได้ครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าเรามีนายจ้างเองอยู่แล้วจะประหยัดค่าใช้จ่ายลงอีกเยอะเลยครับ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 15:43:41 จากคุณ : MiNiJung เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 15:42:43

ความคิดเห็นที่ 22 จะมาคิดให้ดีๆค่ะเพราะว่าตอนนี้ที่อเมริกามีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและคนตกงานเยอะมาก บ้านที่เค้าขาย ๆ กันก็เพราะว่าไม่มีปัญหาผ่อนต่อไปสำหรับคนที่ไม่มีงานทำแบงค์ยึดอย่างบอกว่าเยอะมาก ๆ ตัวดิฉันเองเพิ่งมาได้สองเดือนกว่า ๆแต่มาด้วยวีซ่าแต่งงานแล้วได้กรีนการ์ดกับหมายเลขประกันสังคมยังหางานไม่ได้เลย ภาษาดิฉันไม่ได้แย่เพราะว่าเรียนสายภาษามาโดยตรงแต่พอมาถึงอเมริกาต้องเซ็ทชีวิตใหม่เลย ทุกอย่างเริ่มจากศูนย์ ต้องมานั่งพัฒนาภาษาใหม่ ชีวิตที่อเมริกามันไม่ได้ง่ายเหมือนที่เมืองไทยนะ ยิ่งถ้าอยู่นอกเมืองละก็ต้องมีรถแหละ การขับรถที่นี่ก็ไม่เหมือนที่เมืองไทยที่นี้เค้าเร่งกว่าเยอะ ทางที่ดีรอเรียนให้จบหางานที่เมืองไทยทำก่อนดีไหมมีประสบการณ์การทำงานก่อนแล้วค่อยมามันก็ยังไม่สาย ไม่ได้ดูถูกเจ้าของกระทู้หรอกแต่ว่าถ้าไม่เก่งจริงมาแล้วลำบากมา ขนาดเราประสบการณ์การทำงานที่กรุงเทพมาห้าปี มานี่ยังหางานทำยาก อีกอย่างวีซ่านักเรียนทำงานได้แค่ 20 ชั่วโมงแหละ ถ้าเค้าจับได้ว่าทำงานข้างนอกแล้วเกินชั่วโมงที่เค้ากำหนด โดนส่งกลับเมืองไทยแล้วอย่าหวังว่าจะได้กลับมาเหยียบอเมริกาอีกเลย เพราะว่าอะไรน่ัะเหรอ เพราะว่ากฎกติกาของบ้านเมืองนี้มันเข้มงวดกว่าเมืองไทยเยอะ แล้วถ้าจะทำงานก็ต้องทำใจไว้เลยภาษีที่นี่โหดมาก แฟนเราทำงานได้ปีละ 50,000 $ จ่ายภาษีทีก็ปาเข้าไปเกือบ 20,000 $ แล้ว ถ้าเป็นเราจะรอให้ภาวะวุฒิ ประสบการณ์มากกว่านี้ก่อน เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากเมืองไทยมาบ้าง มาที่นี่จะได้ไม่ลำบาก อยากให้เคลียร์ตัวเองก่อนว่าอยากทำอะไร คิดอะไรให้รอบครอบ เมื่อก่อนสมัยเราเรียนมหาลัยก็อยากมาเมืองนอกใจแทบขาด เรียนภาษาต่อ แต่แล้วดันมาเจอสามีอเมริกันก็สมหวังไปได้มาเมืองนอกเมืองนา แต่ว่าเบื่อเพราะไม่ได้ทำงาน อยู่เมืองไทยไปไหนก็ไปได้ แท็กซี่เรียกเอาตามท้องถนน มานี่เหรอจะขึ้นทีคิดแล้วคิดอีก ค่าแท็กซี่ก็แพง อะไรก็แพง ไข่ไก่โหลนึ่งหกสิบบาท น้ำปลาขวดนึงหกสิบบาท เนื้อหมูไม่กี่กรัมปาเข้าไปสองร้อยถึงสามร้อยบาท ไปกินร้านอาหารกะแฟนสองคนล่อไปซะสี่สิบเหรียญ เป็นเงินไทยก็พันสอง มันก็สเต็กเหมือนกันแต่พันสองกินที่เมืองไทยได้หลายจานอ่ะ อ้อลืมบอกไปผู้ชายบางคนที่นี่นิสัยแย่ ๆ ก็มี แล้วที่เด็ดกว่านั้นมีขอทานเหมือนบ้านเราเลย จากคุณ : วรรณี เกสต์ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 16:24:06 A:174.69.144.134 X: TicketID:298064

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณคุณ sapuknik79, ชีวิตคือชีวิต, Imperio, Rapier, MiNiJung, วรรณี เกสต์ มากๆค่ะ ทุกความเห็นช่วยให้เราตัดสินใจได้แล้วล่ะค่ะว่าเราควรเตรียมความพร้อมให้ได้มากที่สุด ทั้งภาษา เงิน และความพร้อมของพ่อแม่และเรา ตอนนี้เลยตัดสินใจว่าพอเรียนจบแล้ว จะพยายามตั้งใจเรียนภาษาให้ดีที่สุด และจะลองหางานที่ใช้ภาษาทำดูค่ะ ทุกความเห็นมีค่ามากจริงๆ ขอบคุณนะคะ ^^ จากคุณ : hope (ปังบัน) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 17:19:50

ความคิดเห็นที่ 24 แต่ตอนนี้ลองไป Work and Travel อยู่ได้รวม 6 เดือน แต่จะตัดสิทธิ์ตัวเองที่พ่อจะส่งไปเรียนหรือเปล่า และฟลอริดา  ระวังนะ  ปีนี้กวาดล้างนักเรียนไทยที่ไปแบบไม่ถูกต้อง แบบยังไม่จบ ฟ้องรร้องกันอยู่จนปัจจุบัน จากคุณ : MAOK เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 17:45:48

ความคิดเห็นที่ 25 จุดประสงค์ของจขกท คงมีไม่กี่อย่าง 1 เรียนภาษา 2 หาเงินให้ได้เป็นกอบเป็นกำ ถ้าต้องการแค่สองอย่างนี้ แนะนำ ให้ไปทำงานทางใต้หรือกับชาวต่างประเทศที่มาท่องเที่ยวในไทย จะได้ไปเต็ม ๆ หรือไม่ก็ทำงานโรงแรมซึ่งต้องใช้ภาษาจริง ๆ เข้าใจว่าอยากได้ภาษาแกร่ง ๆ และหาเงินเป็นเรื่องรอง   อายุคุณยังน้อย ยังมีทางอีกหลายทาง ค่อย ๆ เริ่มไป อย่าใจร้อน จากคุณ : this is jenni เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 17:45:59

ความคิดเห็นที่ 26 ที่ว่า หนูเลยมีความคิดที่จะขอไปทำงานอย่างเดียวสัก1ปี โดยคิดว่าจะพยายามกอบโกยภาษาให้ได้มากที่สุด อย่างนี้แปลว่า หวังที่จะกอบโกยเงินไม่ใช่กอบโกยภาษา สำหรับคนที่มีเงินน้อย อยากไปจริงๆ เรื่องภาษาควรจะเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย เดี๋ยวนี้มีเครื่องทุ่นแรงเยอะ เรียนด้วยตนเองที่เมืองไทยจนใช้การได้จึงไป ค่าใช้จ่ายก็ไม่มากได้ผลพอๆกัน ไม่ใช่จำนองบ้านแล้วไปเรียนภาษาแล้วยังต้องเสี่ยงสารพัด ควรเรียนภาษาให้ใช้การได้จริงๆ หากไปแอบทำงานแล้วโดนจับจะได้พูดกันรู้เรื่อง เรียนโทก็จะได้จบเร็วๆ เรื่องเอาที่ดินมาค้ำนี่ผมไม่เคยคิดจะแนะนำใคร นอกจากจะบอกว่าไม่เห็นด้วยอย่างยิง จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 18:27:33 A:71.114.75.107 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ทราบว่าจขกท.เรียนสาขาอะไรคะ ถ้าเป็นสายวิทยาศาสตร์ แนะนำให้สมัครเป็นปริญญาเอกไปเลย ฟิตสอบโทเฟลให้ได้ดีๆ ส่วนใหญ่เรียนปอเอกสายวิทย์เนี่ยจะได้เรียนฟรี ได้เงินเดือนด้วย เพราะถือว่าเราไปช่วยทำวิจัย สมัครไปหลายๆมหาลัย แล้วเลือกเอาที่ที่มี financial support ดีที่สุด ไม่ต้องไปลำบากทำงานนอกกฎหมาย ที่ว่าให้สมัครเอก เพราะถ้าเป็นปริญญาโท โอกาสได้เงินช่วยเหลือจะน้อย จากคุณ : din เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 19:12:08 A:172.17.112.86 X:192.108.70.121 TicketID:105079

ความคิดเห็นที่ 28 ที่นั่งอ่านมา เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 2 กะ 6 เราว่า อันนี้ เป็นคำตอบที่ค่อนข้างแน่น   ทำไมไม่ลองไป internship หละค่ะ ถ้าคะแนน toeic ไม่ถึง  เราแนะนำว่า คุณควรจะไป เป็น ออแพร์ ก่อน อย่างน้อยๆ นายจ้างก็ยังให้เราเลือกเรียนอะไรก็ได้  แล้วเราก็เลือกเรียนภาษา  อีกอย่างคลุกคลีกับคนต่างชาติทุกวันเด๋วภาษาก็ดีเอง เสร็จแล้วกลับมาสอบโทอิค แล้วไป  internship ก็ยังไม่สายน่ะค่ะ  ส่วนที่ว่าให้ทำงานที่โรงแรมแล้วจะได้ภาษา คุณต้องเลือกทำเป็นแบบรีสอร์ท ที่มีนักท่องเที่ยว มาเที่ยวเป็นจำนวนมากดีกว่า ถึงจะได้ฝึกภาษา แต่ถ้าให้เลือกโรงแรมที่อยู่ในตัวกรุงเทพจริงๆแล้ว การใช้ภาษาน้อยมาก  ถ้าเทียบกับการทำงานรีสอร์ท   ส่วนเรื่องเรียน เราว่าค่อนข้างยากน่ะ   คิดทบทวนดูเอาดีกว่าค่ะ  ว่าสิ่งใหนคือสิ่งที่คุณต้องการเป็นอันดับแรก  อย่าเพิ่งให้เรื่องเรียนหรือเรื่อ่งงาน เป็นตัวถ่วงอันใดอันหนึ่ง จากคุณ : Baby_Talk เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 00:12:56

ความคิดเห็นที่ 29 สมัยพี่ไปเรียนที่ออสเตรเลีย ก็มีคนที่เก็บเงินเรียน จนได้เงินพอส่งตัวเองเรียนยูได้นะคะ (  รู้แต่เก็บเงินอย่างเดียวเลย2ปี ลงเรียนพวกcertificate ถูกๆเอาไว้สำหรับวีซ่า) อย่างที่พี่ๆข้างบนบอก ตอนนี้เศรษฐกิจอเมริกาแย่ และเวลาไปแล้ว คนที่นั่นอาจไม่น่ารักอย่างที่คิดไว้ ปัญหาต่างๆที่ไม่ได้คาดอาจมีมากมาย ก็ต้องทำใจยอมรับและสู้ให้ผ่านไปให้ได้ คนที่เขาทำได้มี ทำไม่ได้ก็มีเช่นกัน ตอนพี่ไปเรียน ก็ทำเสริฟ์ไปด้วย หาเงินตามปกติ ไม่ได้มากกว่าปกติ แต่เจ้าของฝรั่งชอบให้กะดับเบิ้ลในวันหยุด เพราะคาเฟ่คนมาก เหนื่อยแสนเหนื่อย บอกไม่อยากทำ ก็โดนขอให้ทำ เพราะเราคุมsectionเราดี .มีservice mind คนเขาขาด ยิ่งก่อนกลับปิดเทอม โดนยัดกะให้เยอะแยะ จนเงินออกตกใจเลย ทำไมเยอะจัง ฝรั่งเจ้าของเขาก็ทำหลบภาษีให้นะ เพราะวีซ่านักเรียมีชม บังคับอยู่ แต่จ่ายให้เราตามชม ทำงาน ตามปกติ ถามว่าอดทนไหม ก็ต้องอดทน จนกว่าจะลงตัวนั่นแหละ โอกาสแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนไม่มีงานทำ เพราะมีมาแต่ค่าเรียน ไม่มีค่าที่อยู่ต้องกลับเมืองไทยก็มี   ถ้าคิดว่า มาหาประสบการณ์ ถ้าผ่านไปได้ ก็ผ่านไปได้ ไม่ได้ก็กลับ น่าจะเลือกประเทศที่เศรษฐกิจดีๆ ที่สำคัญถ้ามีเพื่อน ญาติเป็นเจ้าของกิจการ มีงานรออยู่ก็ดีกว่าเข้าไปอีก (แต่ต้องอาศัยจมูกเขาหายใจ คิดเอาเองแล้วกัน) และภาษาพูด ฟัง อ่าน ควรได้ในระดับ upper intermediate ขึ้นไป ไม่งั้น คงได้แต่งานล้างจาน ดูดฝุ่น เงินน้อย ตัวเลือกงานก็น้อยลงไปอีก ขอให้ฝันเป็นจริงนะคะ จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 00:37:47

ความคิดเห็นที่ 30 ลืมไป น้องที่ทำงานเก่า เขามีเงินไม่ถึงล้าน เลยเลือกไปเรียนโทแถบสแกนดิเนเวียแทน ทางนั้น มีทุนให้เยอะ แต่ทุนจ่ายให้ทั้งหมด มีน้อย เขาได้แบบต้องออกเอง สามแสน ซึ่งมันก็น้อยมากเมื่อเทียบกับ อเมริกา หรือ อังกฤษ ที่สวีเดน เคยให้เรียนฟรี แต่เพิ่งเก็บค่าเรียนโทจากนร ต่างชาติเมื่อปี-2ปีที่ผ่านมาเอง ดูไปหลายๆตัวเลือกซิคะ จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 00:41:29

ความคิดเห็นที่ 32 คนอื่นก็มาให้ข้อมูลเยอะแล้ว จะมาเพิ่มอย่างเดียวแล้วกันนะ ถ้าีมีความตั้งใจว่าจะเรียนต่อจริงๆ แนะนำว่าฝึกภาษาอยู่เมืองไทย สอบ TOEFL ใ้ห้ผ่านก่อนดีกว่านะ ตอนเตรียมสอบ TOEFL อยู่เมืองไทยก็ทำงานได้ ต้องขยันหน่อยเท่า่นั้นเอง ให้ดีคือสมัครมหาวิทยาลัยให้ได้ก่อน แล้วจะ defer เพื่อจะเสี่ยงไปทำงานแบบผิดกฎหมายหรือไม่ก็ว่ากันไป เห็นบางคนมักจะไปเรียนภาษาที่เมืองนอกแล้วค่อยสมัครเข้ามหาวิทยาลัย ทำอย่างนั้นจะเปลืองเงินมากกว่า แถมข้อเสีย คือ บางคนเรียนไปทำงานไป ทำไปทำมา ทำงานมากกว่าเรียน สอบ TOEFL เท่าไหร่ก็ไม่ผ่านเพราะไม่มีเวลาอ่านหนังสือ อันนี้เห็นเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าพ่อแม่ถึงขนาดต้องเอาที่ไปจำนองเพื่อให้ จขกท.ไปเรียนต่อเมืองนอก ลองบวกลบคูณหาร วางแผนดูนะ ว่าการไปเรียนเมืองนอกจะมีประโยชน์แค่ไหน จบแล้วควรจะต้องทำงานเพื่อใช้หนี้ให้พ่อแม่ให้ได้ ถ้าทำอย่างนั้นไม่ได้ คุ้มหรือเปล่าที่ไป จากคุณ : Pacosan เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 09:09:01

ความคิดเห็นที่ 33 แค่อ่านว่า "คิดจะเอาโฉนดที่ไปค้ำ" ก็มึนตึ๊บแล้วค่ะ ถ้าพ่อแม่มีโฉนดหลายผืนก็ไม่เป็นไร   แต่มีแค่ผืนนี้ผืนเดียวน้องอย่าเพิ่งมาเลยค่ะ ท่านส่งให้ถึงปริญญาตรีนี้ก็เกินพอแล้วค่ะ  ที่เหลือน้องต้องวางแผนชีวิตด้วยตัวเอง ด้วยตัวเองคือต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองก่อน   ขาดเหลือค่อยไปปรึกษาท่านอีกที มาอยู่ต่างถิ่นต่างที่ถ้าไม่พร้อมลำบากค่ะ  พ่อแม่ก็จะทุกข์ใจด้วย   คิดทบทวนดูนะคะ จากคุณ : ตกตะกอน เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 09:54:21

ความคิดเห็นที่ 34 มีเพื่อนอยู่คน พ่อแม่เขาขายที่ดินส่งลูกเรียนต่างประเทศ ทุกวันนี้ บ่นใหญ่เลยว่าไม่น่าเลย เพราะตอนขายที่ดินมันไม่แพงมาก ตอนหลังที่มันขึ้นพรวดๆๆ เป็นเงินหลายสิบล้าน ส่งลูกไปเรียน กลับมาได้งาน แต่เงินเดือนที่ได้ก็ไม่คุ้มกับที่ผืนนั้นที่ขายไป เราว่าถ้าเป็นเพียงทรัพย์สินชิ้นเดียวของพ่อแม่ล่ะก้อ น้องเรียนในประเทศดีกว่านะ บ้านเรา มหาวิทยาลัยดีๆ เพียบ ต้องเล่าซ้ำอีกครั้งนะ มีนิสิตมหาวิทยาลัยคนนึง ที่บ้านฐานะไม่ดีพอที่จะส่งไปเรียนต่างประเทศได้ แต่เธอไม่ย่อท้อนะ เอาเทปภาษาอังกฤษ อัดเสียงพวกข่าว เช่าวีดีโอหนังฝรั่งมาดู (สมัยนั้นยังไม่มีอินเตอร์เน็ต โรงเรียนสอนภาษาบ้านเราก็มีแต่เอยูเอ กับบริติชเคาน์ซิล ไม่มีผุดเป็นดอกเห็ดแบบสมัยนี้) พอดูหนังฟังข่าวไป เธอก็จะกรอเทปกลับ หัดพูดเลียนแบบตามจนเหมือน ตอนเรียนจบไปสมัครงาน นายฝรั่งนึกว่าจบนอก ทั้งที่เธอไม่เคยย่างเท้าออกจากประเทศไทยเลย เธอเลยได้งาน ตอนหลังนายส่งไปอบรมที่อังกฤษหรือเมกาด้วยซ้ำ จะได้ภาษาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความขวนขวายของน้องเป็นสำคัญค่ะ สมัยนี้วิทยาการก้าวหน้ากว่าสมัยก่อนตั้งแยะ ควรฉกฉวยโอกาสทอง เพิ่มเติมความรู้ด้านภาษาให้ตัวเอง โดยไม่ต้องรบกวนพ่อแม่นะคะ จากคุณ : กระปุกตังฉ่าย เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 11:00:08 A:110.32.94.185 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 35 คาดว่าน่าไปลำบากมากกว่า หากพี่คุณจขกท บอกว่า อย่างน้อย ค่าแรงวันละ60บาท เพราะ1. ออแลนโด เป็นเมืองใหญ่        2. ขนาดที่ร้าน อยู่ในฟลอริดา เป็นเมืองเล็กๆ หากทำกลางวัน-เย็น อย่างต่ำๆก็เป็นร้อยอัพแล้ว  หรือแค่เย็นบางวัน ยังร้อยอัพ.. คิดดูว่า พี่คุณเค้ากดค่าแรงคุณหรือเปล่า.. คนไทย ยังติดคำว่า ข้าวแดงแกงร้อน..บุญคุณ จากคุณ : larata เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 11:15:12

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้ามีแรงพอไหว ไป ออสเถอะ ซิดนีย์ รายได้ดีกว่า เมกาอีก ใกล้ไทยกว่าด้วย แต่ทำงานเกินก็เสี่ยงหน่อย  ส่วนรายได้ก็ตั้งแต่ 150-1000 กว่า ขึ้นอยู่กับความสามารถในการหางาน จากคุณ : aui2222 (aui2222) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 53 20:02:41

ความคิดเห็นที่ 37 การไปเรียนเมืองนอก ไม่ใช่คำตอบของชีวิต มันคล้ายๆ กับ เอ็นทรานซ์ นั่นแหละค่ะ สถานการณ์ และสถานภาพ ที่ จขกท เล่ามา ถ้าเป็นอิฉัน อิฉันไม่ไปค่ะ เรียนต่อ หรือทำงาน ให้ตัวเองตกผลึกกว่านี้อีกนิด ค่อยหาทุน (หรือเก็บเงินตัวเอง) ไปเรียนต่อ ไปอบรมอะไรก็ว่าไป จากคุณ : letsgokrabi เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 12:43:38

ความคิดเห็นที่ 38 พี่แนะนำลองไปดูโครงการ  aupair รึ work & travel ก่อนดีมั๊ย ใช้เงินไม่มากเท่าไปต่อโท ไปแล้วจะได้ไอเดียว่าต่อไปควรจะทำยังไง เพราะการไปต่อโท ด้วยทุนที่ไม่พร้อม ค่อนข้างลำบาก พี่เคยไปอยู่เมกามา ร้านอาหารเคยทำมาแล้ว เรียนก้อเรียนที่เมกา  ชีวิตต่างเมืองมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ยิ่งสำหรับคนที่ไม่เคยไกลบ้าน อยากให้ลองคิดดูดีๆ มหาลัยที่ไทย แบบภาคอินเตอร์ สอนดีๆ ก้อมีให้เรียน ถ้าตั้งใจ เรียนภาอินเตอร์ ภาษาได้แน่นอนค่ะ มีไร หลังไมค์มาได้ค่ะ จากคุณ : g_nait (g_nait) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 14:05:49

ความคิดเห็นที่ 39 บ้านอยู่ไหน กรุงเทพป่าว... ระหว่างรอสอบโทเฟล ก็ไปหางานแถวข้าวสารทำดิ มีทั้งงานออฟฟิซ งานโรงแรม ถ้าคิดจะเอาภาษานะ พวกพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้น พูดภาษาอังกฤษเก่งกว่าพวกเรียนมหาลัยอีก เรื่องจริงนะเออ.... จากคุณ : Mrs.Reda เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 53 23:42:23

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่รู้ว่าเข้าประเด็นรึเปล่านะคะ แต่ว่าเราเป็นคริสเตียน ลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติของคริสเตียน พอจะจบมอ.6 มหาวิทยาลัยคริสเตียนทางอเมริกาก็ส่งใบสมัครมาให้เผื่อสนใจ ค่าเรียนรวมค่า boarding ในแคมปัสก็ถูกมาก คือตกปีละประมาณ 200,000 บาท ยกเว้นค่ากิน มีงานให้ทำในมหาวิทยาลัย มีหลายสาขาวิชาให้เรียนค่ะ แต่ว่าอาจต้องเป็นคริสเตียน จากคุณ : ดลฤทัย เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 53 17:56:37