ความคิดเห็นที่ 1 ประสบการณ์ครั้งนึงในชีวิตค่ะ จากคุณ : azur เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 17:06:33

ความคิดเห็นที่ 2 เราว่าเค้าเจอเมนูอาหารไทย กับที่อยู่ร้านอาหารไทย มันลยชวนให้คิดอ่ะค่ะ   ก่อนไปน่าจะศึกษาข้อมูลที่ พันทิพก่อนว่า อะไรที่ไม่ควรเอาไปบ้าง น่าสงสาร  จขกท  มากเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะมีผลกับครั้งต่อไปมั้ย  เค้ายกเลิก VISA เลยป่าวคะ ตัวเรา ไปปีละ 3 ครั้ง  ผ่าน  ตม.แบบ ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่  ถ้าลง JFK ที่ New York อาจจะง่ายกว่านี้  เคยลง แทบไม่ถามอะไรเลย ที่ LA ก้อผ่านง่ายค่ะ  เพราะ ตม. มีคนไทยเยอะ กระเป๋าไม่เปิดตรวจเลย ที่ยากที่สุดเราว่า ที่ San Fran ค่ะ  โดนเปิดกระเป๋าทุกรอบ  ตรวจละเอียดยิบ  ทุกซอกทุกมุม  สิ่งของทุกชิ้น แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 17:09:24 จากคุณ : cool_girlgang เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 17:06:46

ความคิดเห็นที่ 3 cool_girlgang ถามว่า ไม่แน่ใจว่าจะมีผลกับครั้งต่อไปมั้ย  เค้ายกเลิก VISA เลยป่าวคะ ตอบ เค้าบอกผมว่า ถ้าคุณจะมาอีกคุณต้องขอวีซ่าใหม่แต่เค้าลงในคอมว่าผมพยายามเข้าไปทำงานประเทศเค้าผมคงไม่ได้ไปเจอพี่สาวแล้วใช่ไหมครับ ในวีซ่าผมโดนขีดกากบาท แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 17:14:12 จากคุณ : supersasa (supersasa) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 17:13:08

ความคิดเห็นที่ 4 1. การที่คุณยืนงงๆ เค้าอาจจะคิดว่าคุณมีพิรุดอะไรสักอย่าง 2. การค้นเจอ ตำราอาหาร พร้อมกับที่อยู่ร้านอาหารของลุง ยิ่งเป็นจุดสงสัยด้วย ซึ่ง ตม. เค้าจะอ้างสิ่งนี้เป็นหลักฐานในการแอบลักลอบเข้ามาทำงานได้ 3. ตอนนี้ที่นี่ ตม. เคร่งมากครับ ถ้าใครมีพิรุดว่าจะเข้ามาทำงาน เค้าจะส่งกลับทันที ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขึ้นกับว่า คุณตอบเค้าไปหรือไม่ว่า จะอยู่เที่ยวนานเท่าไหร่ และจำนวนเงินที่คุณมีพอหรือไม่ (ข้อนี้ยังไม่เท่าไหร่) แต่ที่น่าสงสัยที่สุดคือ การพบตำราอาหาร และที่อยู่ร้านอาหารที่จดไว้พร้อมกัน ทำให้ ตม อาจคิดว่าคุณมิสิทธิ์ที่จะแอบทำงานในระหว่างที่อยู่ใน USA ได้ ปล. ภาษาค่อนและบุคลิกสำคัญนะครับ เพราะ ผมเพื่อนผม ก็ภาษาไม่ค่อยดี ได้ VISA ไปเที่ยว 10 ปี เพราะพี่เค้าจบโท ที่เมกาและส่งจดหมายเชิญไปเลี้ยง graduate ceremony แต่ก็แอบไปทำงาน แล้วก็ hood อยู่ที่นั่นเลย แต่ตอนเค้าผ่านตม เค้ามั่นใจ ตอบฉะฉานว่ามาเที่ยวที่ไหน plan เป็นยังงัย พักยังงัย ตั๋วกลับก็หยิบให้เค้าดู เค้าก็ stamp ให้ 6 เดือน (คนนี้เป็นผีมาจะ ปีละ) แต่ในเหตุการณ์ของคุณต้องแสดงความเสียใจด้วยจิงๆ ตม. ที่นั่นมีสิทธิปฎิเสธ และส่งกลับได้หากพบข้อสงสัยว่า ผู้ที่เข้าประเทศอาจจะลักลอบทำสิ่งผิดกฏหมาย จากคุณ : m เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 17:15:50 A:124.121.120.183 X: TicketID:279133

ความคิดเห็นที่ 5 ไปที่อื่นชิครับ ผมมีคนรู้จักคนหนึ่งเข้าออกอเมริกาหลายเที่ยว ครั้งหลังบอกว่าไม่ได้ทำ แต่มีใบสมัครงานเพื่อทำงานในเรือมาด้วย เลยชวด จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 17:16:36 A:71.114.49.147 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่อง VISA ที่ถูกยกเลิกนั้น เวลาคุณไปขอ VISA ใหม่ ที่สถานฑูตจะพบ record ดังกล่าวแสดงขึ้นมาทันที ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการพิจาณาการขอ VISA ใหม่ของคุณด้วย จากคุณ : m เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 17:18:27 A:124.121.120.183 X: TicketID:279133

ความคิดเห็นที่ 7 ผมมีโอกาสอีกไหมที่จะขอวีซ่าไปพบพี่สาวอีกถ้ามีผมต้องทำขั้นตอนไหนได้บ้างครับที่จะสามารถไปได้อีก แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 18:04:20 แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 54 18:03:07 จากคุณ : supersasa (supersasa) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 17:30:44

ความคิดเห็นที่ 8 ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ เป็นเพราะคนไทยกลุ่มนึงแท้ๆ ที่ไปสร้างวีรกรรมเอาไว้ ไปโดดวีซ่าบ้าง ใช้วีซ่าผิดประเภทบ้าง คนจะไปเที่ยวแบบไม่มีเจตนาแอบแฝงเลยพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย นึกๆ แล้วคนไปโดดเยอะเหมือนกันนะ เพื่อนสมัยเรียนเราสองคนก็ยังไปหนีวีซ่า ลูกชายเพื่อนแม่กับภรรยาเขาก็ไปโดด ก็น่าเห็นใจ ตม กับกงสุลเหมือนกัน จากคุณ : กระปุกตังฉ่าย เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 17:38:49 A:58.110.103.241 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 9 ขอโทษนะครับ คุณ supersasa ซื้อตั๋วกลับรึยังครับ และ บอกเค้าว่าจะไปเที่ยวนานเท่าไหร่ครับ เค้าอาจจะสงสัยเรื่องเงินที่นำมา ใช้จ่ายรึเปล่าครับ เมนูอาหารเค้าก็อาจสันนิษฐานได้ว่าจะเข้ามาทำงาน ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจและรู้สึกเห็นใจมากๆครับ จากคุณ : better weather เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 17:49:41 A:192.168.51.135 X:110.164.241.170 TicketID:281707

ความคิดเห็นที่ 10 ผมมีตั๋วกลับด้วยครับ พกเงินไป สามพันห้าร้อยเหรียญ อยู่เกือบ สามอาทิตย์ จากคุณ : supersasa (supersasa) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 18:06:06

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องเอกสารต่างๆ ตอนนี้ตรวจเข้มมากค่ะ  บางคน ตม. ค้นเจอ ทะเบียนบ้าน  เอกสารสำคัญต่างๆ  เค้านึกว่าไปจดทะเบียนแต่งงานก้อมี ดังนั้นตอนเราเดินทางเราพกไปหมด  แม้แต่บัตรพนักงาน  ปฎิทินวันทำงานที่บริษัทแจกให้ นามบัตรตัวเอง  นามบัตรเจ้านาย  เอกสารทำประกันระหว่างเดินทางว่ามีระยะคุ้มครองเท่ากับจำนวนวันที่เราไป เราว่าความหวังที่จะกลับไปค่อนข้างริบหรี่ แต่ไม่ลองก้อไม่รู้ใช่มั้ยคะ ไม่มีอะไรจะเสีย  ลองเว้นสักระยะ  รวบรวมหลักฐานการทำงานที่เมืองไทยเยอะๆ ไปขออีกรอบแล้วพยายามอธิบายให้กงสุลฟัง  ถ้าโดนยกเลิก Visa นะคะ แต่ไม่รู้ครั้งต่อไปที่ ตม. จะมีปัญหาอีกหรือเปล่า  สู้ๆค่ะ จากคุณ : cool_girlgang เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 18:08:23

ความคิดเห็นที่ 12 เสียใจด้วยนะคะ เพื่อนเราก็ถูกส่งกลับ เหตุเพราะค้นกระเป๋าเจอนามบัตรร้านอาหารไทยในอเมริกา เลยถูกสงสัยว่าจะไปทำงาน จากคุณ : mw-sept เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 18:15:35

ความคิดเห็นที่ 13 น่าเห็นใจมากค่ะ คงด้วยบุคลิกภาพแบบว่าอาจดูตื่นๆลุกลี้ลุกลน ประกอบกับภาษาอาจไม่เก่งพอที่จะอธิบายชัดเจน รวมถึงการมีรายการอาหารที่อยู่ร้านอาหารไทยรวมเข้าไปอีก องค์ประกอบครบ คราวนี้เลยไปกันใหญ่ แต่ไม่ต้องท้อค่ะ ขอใหม่ได้ค่ะ ถึงจะมีเรคอร์ทขึ้นมาแต่ตั้งต้นใหม่คราวนี้เตรียมใหม่ค่ะ เรื่องการนำเมนูอาหารไปด้วยนี่ว่าไปแล้วก็ไม่น่าจริงๆสุ่มเสี่ยงเกินไปค่ะ มันไม่จำเป็นสักสักนิดสำหรับคนที่จะไปเที่ยวหรือเยี่ยมใครสักคนในอเมริกา สู้เอาของฝากจากไทยไปจะดูสมเหตุสมผลมากกว่าอีกค่ะ เป็นใครก็เดาได้ง่ายๆว่าคุณจะไปทำงานร้านอาหารชัวร์ ลองเปลี่ยนจากเมนูอาหาร เป็นรูปถ่ายคุณกับพี่สาว กับครอบครัวคุณ ของฝากพี่สาวที่จะทำให้ตม.รู้สึกและสัมผัสได้ว่าคุณจะมาเยี่ยมพี่สาวคุณจริงๆดีกว่าค่ะ ตอนเราไปตอนสัมภาษณ์ที่สถานทูตบอกว่าไปไม่รู้จักใครที่นั่น (ที่จริงไปเยี่ยมแฟน) พอไปถึงเข้าแถวรอตรวจพาสปอร์ต เจ้าหน้าที่เดินมาแต่ไกลนึกว่าจะหิ้วเราเข้าห้องเย็นเพราะเราก็ตื่นเต้น นึกว่ามีพิรุธอะไรที่แท้เดินมา "ไหว้" เราและทักทายเป็นภาษาไทย ถามว่าเป็นคนไทยใช่มั้ย บลาๆๆๆ ทำเอางงไปเลย แต่พอไปตรวจพาสปอร์ต คนถามหน้านิ่งมาก พอเค้าถามว่ามาอะไร ดั๊นบอกว่ามาเยี่ยมเพื่อน ตอบเสร็จนึกได้ อ้าว เราบอกว่าไม่รู้จักใครนี่หว่า แต่ก็เฉยๆ เค้าถามว่ามีของฝากอะไรมั้ย ก็บอกว่ามี บลาๆ ก็ผ่านมาได้ อีกเคสพี่ที่สนิทกันไปเยี่ยมแฟน เพิ่งกลับมาได้สองอาทิตย์ แต่แฟนดั๊นขาหักหรือแขนหักนี่แหละพี่เค้าต้องกลับไปใหม่ ตม.ก็เชิญเข้าห้องเย็นสัมภาษณ์ไปมาสักพัก พี่เค้าก็หวั่นจะถูกส่งกลับเพราะไปกลับอเมริกาในเวลาสองอาทิตย์มันก็แปลกๆ แต่โชคดีที่ตม.ยอมให้คุยกับแฟนและแฟนก็มาคุยกับตม. ได้ เลยผ่านมาได้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลมากค่ะหลายคนเคยผ่านประสบการณ์เฉียดๆหรือแม้กระทั่งครั้งนึงมีน้องที่ห้องไกบ้านปรึกษาเราเรื่องจะขอวีซ่าท่องเที่ยว เพื่อไปแต่งงานหมั้นที่อเมริกา เราก็บอกไปว่าก็ทำได้นะหากแฟนมีสถานะที่นั่นมั่นคง ก็ยื่นอะไรได้ และมั่นใจว่าจะผ่านลองดู แต่ลืมบอกไปว่าอย่านำเอกสารการแต่งงานไปด้วย ปรากฎว่าน้องเค้าถูกค้นเจอเอกสารมากมายในประเป๋าสุดท้ายก็ถูกส่งกลับ เรายังรู้สึกผิดเลยว่าน่าจะบอกให้เค้ารอบคอบมากกว่านี้ น้องเค้าก็เศร้า แต่ตอนนี้เห็นว่าทำวีซ่าคู่หมั้นไปแล้วค่ะ น่าจะไปอยู่อเมริกาแล้วค่ะ ลองทำใหม่นะคะ จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 18:22:07

ความคิดเห็นที่ 14 ดู ตม. อเมริกา ก็ทึกทักเอาจากหลักฐานที่เห็นแบบ ตรรกะ กำปั้นทุบดินเหมือนกันนะครับ..  สูตรอาหาร ปริ๊นจากเน็ตก็ได้ เอกสารจะแต่งงาน ส่งทางไปรษณีย์ ดีเฮชแอล ไปก่อนก็ได้หนิ ถ้าคนคิดจะมาจริงๆ   ผมว่า ตม.แบบนี้ มันแหวี่ยงแห มั่วนิ่ม เกินไปครับ จากคุณ : pipe (Nokia3310) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 19:31:39

ความคิดเห็นที่ 15 เคยดูทีวีอยู่รายการนึง สาวเมกันไปอังกฤษ ตอนผ่าน ตม ที่ฮีทโธรว์ ตม ค้นเจอเรซูเม่ เท่านั้นแหละเป็นเรื่อง ตม ยังถามว่า มาเที่ยว ทำไมต้องพกเรซูเม่มาด้วย เธอก็ตอบไม่ได้ เลยโดนส่งกลับ ส่วนเรื่องกงสุล เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขามีหลักพิจารณายังไงกันแน่ หรือว่าแล้วแต่ดวง ขนาดคนทำงานบริษัทข้ามชาติหลายปี ตำแหน่งหน้าที่การงานมั่นคง เงินเดือนหกหลัก บริษัทส่งไปดูงานที่เมกา ตอนไปขอวีซ่า ถูกซักว่ามีคนรู้จักอยู่ทางโน้นมั้ย เขาก็ตอบไปตามความจริงว่าน้องไปเรียน กงสุลพูดสรุปเอาเองเลยว่า แล้วแอบไปทำงานที่ร้านอาหารไทยด้วยใช่มั้ย แล้วก็ยังว่า ถ้าไม่ใช่เพราะบริษัทคุณส่งไปดูงาน เราจะไม่ให้วีซ่าคุณ แล้วก็ได้มาหนึ่งเดือน บ่นอุบเลยว่า นึกว่าจะได้สิบปี เราก็แซวไปว่า เขากลัวแกจะทิ้งเงินเดือนเป็นแสน โดดไปล้างจานอยู่ที่โน่นน่ะ จากคุณ : กระปุกตังฉ่าย เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 20:06:53 A:58.110.103.241 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องตม.ตรวจเจอเมนูอาหาร หลักฐานที่น่าจะเป็นไปได้ว่าจะไปมัครงาน ไปทำงานร้านอาหารนั้นหากเราเป้นตม.ก็ไม่ฝห้ผ่าน น่าเสียดายแทน จขกท.นะคะเจตนาดีแท้ๆ และตั้งใจจะไปเยี่ยมพี่สาวและกลับตามกำหนดไม่ได้จะไปทำงาน แต่เผอิญว่าพกสิ่งเหล่านี้ไปเลยโดน แถมไม่ได้มีโอกาสคุยกับพี่สาวเลยด้วย น่าหดหู่ที่สุดค่ะ แต่ยังไงคราวหน้าเตรียมตัวไปใหม่นะคะ ขอให้ได้ไปเยี่ยมพี่สาวสมใจค่ะ จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 20:28:48

ความคิดเห็นที่ 17 ตกลง พก สูท ไปนี่อันตรายเหรอครับ ผมกำลังจะไปเรียนภาษาที่นู่น หก เดือนว่าจะพกสูท ไปด้วย ยังงี้ไม่พกไปจะดีกว่าใช่ไหมครับ จากคุณ : Broxigar เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 20:32:48

ความคิดเห็นที่ 18 ไปเรียนภาษาก็น่าจะมีหลักฐานว่าไปเรียนจริงๆเราว่าไม่น่าห่วงกังวลเท่าไรนะเราว่า ในความเห็นเรานะเพราะบางทีมันก็อาจจะมีกิจกรรมที่เป็นทางการบ้าง เพราะไปเรียน แต่เมนูอาหาร ที่อยู่ร้านอาหารเนี่ย ตรวจเจอซักหนักแน่เราว่า จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 20:50:18

ความคิดเห็นที่ 19 ..อืมขอแสดงความเสียใจด้วย นะ ค่ะ  อันี้เป็นบทเรียนอันดี สำหรับคนที่จะเข้ามาอเมริกา...ใครที่มาวีซ่าท่องเที่ยว  อย่าพก ตำรานวด เมนูอาหาร และอื่นๆ ที่จะให้เค้าสงสัยว่ามาทำงาน เป็นอันขาด พวกตำราพวกนี้ มาหาเอาในเน็ต ได้ง่ายๆ เลย...และถ้ามาวีซ่าท่องเที่ยว ก็ ให้มี รายการท่องเที่ยวติดตัวมาด้วย ยิ่งดี...เช่น จะไปเที่ยวที่ไหน บ้าง วันเวลาที่จะไป ....และถ้ามีญาติที่เปิดร้านอาหาร ก็ไม่ต้องบอก ตม. เป็นอันขาด...และต้องพยายามอย่าตื่นเต้นถ้า ตม. เรียกเข้าไปคุย .... จากคุณ : ข้ามฟ้ามาหารัก เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 20:57:47

ความคิดเห็นที่ 20 ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ รอซักพักแล้วลองใหม่ค่ะ เราก็กำลังจะไปเดือน มีนาเหมือนกัน พาพ่อแม่ไปเยี่ยมน้องสาวที่โน่น น้องก็ทำร้านอาหารเหมือนกันค่ะ ไม่รู้ว่าต้องตอบยังไงเหมือนกันค่ะ จากคุณ : mueyleknoi เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:35:05 A:180.180.123.129 X: TicketID:287393

ความคิดเห็นที่ 21 จากที่เล่ามา ถ้าผมเป็นตม.ก็รู้สึกเชื่อได้ยากจริงๆว่าจขกท.จะไม่ได้มาแอบทำงาน หลักฐานแวดล้อมมันช่างส่อเหลือเกิน จากคุณ : คามิยามะมาเยือน!!! เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:40:47

ความคิดเห็นที่ 22 ทำไมจขกทเอาตำราอาหารกับชุดสูทไปคะ งงตรงนี้เพราะเห็นบอกว่าจะไปเที่ยวกับเยี่ยมพี่สาว แถมมีดิคชันนารีกับที่อยู่ร้านอาหารอีก จดเป็นชื่อร้านเลยหรือคะ จากคุณ : Maroon Bells (Maroon Bells) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:50:36

ความคิดเห็นที่ 23 ถูกใจความเห็นที่ 14 จากคุณ : เด็กน้อยปิ้งแมวบนทางด่วน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:52:17

ความคิดเห็นที่ 24 เราก็เคยโดนคล้ายๆกันค่ะ โดนเข้าห้องเย็นเหมือนจขก ถูกยึดโทรศัพท์ ถูกยกเลิกวีซ่าสิบปีเหมือนกัน แต่ของเราเค้าให้เราอยู่ในอเมริกาได้สองอาทิตย์นะคะ แต่ยึด passport เราไว้ และครบสองอาทิตย์เมื่อไหร่ให้มารายงานตัวที่ ตม เช้าวันที่ต้องบินกลับค่ะ แล้วก็มีเจ้าหน้าที่คุมตัวเรามาส่งจนขึ้นเครื่อง ตั้งแต่อเมริกาจนถึงไทยเลย เท่ห์ซะไม่มี (แต่ตอนนั้นเท่ห์ไม่ออกค่ะ เศร้ามาก การงานที่ไทยเราก็ดีแต่ไหงโดนยัดข้อหาหนีไปทำงานที่นู่น ฮ่าๆๆ) กลับมาเศร้าและขยาดอยู่ปีนึง แล้วก็ทำใจกล้าไปขอวีซ่าใหม่ ถูกสัมภาษณ์ถึง 3 รอบ เราก็อธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นและแสดงหลักฐานการทำงานต่างๆของเรา รวมทั้งจดหมายจากเจ้านายยืนยันว่าเราไปเที่ยวเฉยๆ เจ้าหน้าที่พิจารณาอยู่พักใหญ่สุดท้ายได้วีซ่าสิบปีกลับมาใหม่ และเพิ่งไปอเมริกาอีกครั้ง แต่คนละรัฐกับครั้งที่โดนยกเลิกวีซ่า และได้แสตมป์ให้อยู่ได้หกเดือนค่ะ อย่าท้อนะคะ ถ้าเราบริสุทธิ์ใจซะอย่าง ก็มีสิทธิ์ได้วีซ่าใหม่ค่ะ สู้ๆ จากคุณ : คนเคยโดน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:57:32 A:58.10.12.75 X: TicketID:102408

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วถ้าพกใบขับขี่สากล จะเป็นไรมั้ยนี่...กัวจิงๆๆ จากคุณ : numbanna เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:58:44

ความคิดเห็นที่ 26 ตม มั่วนิ่ม *************เอ่อ ถามหน่อยครับ เป็นบทเรียน ถ้าหาจังหวะนั้น กดปุ่มโทรไปthai embassy ก๋อนเขาจะยึดมือถือไป จะทำได้มั้ยครับ เรียก thai embassy มาช่วยยินยัน หรือทำให้อะไรเย็นขึ้น โวยๆไปก่อน****************** เปรียบเทียบกับ SG ที่ไปมา ไปถ่ายรูปตึกสวยๆจน รปภ เห็นแล้วเรียกตำรงจมาจับ เคยถูกล่ามมือ เรียกเข้าห้องสืบสวน ที่ดูเหมือนคุกเช่นกัน แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น จะคุยกันนานมากๆ ถ้าmem เบอร์ thaiembassy แล้วรีบกดไปหา เชื่อว่าอาจไม่ต้องมีปัญหาไปคุยกันในตาราง จากคุณ : คนบ่น เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 23:00:36

ความคิดเห็นที่ 27 เจอกระทู้นี้เข้าไปเล่นเอาปอด ๆ เลย ผมกำลังจะเดินทางวันสองวันนี้ แต่ก็ได้ข้อคิดจากกระทู้นี้ครับ ยังไงต้องขอแสดงความเสียใจกับจขกท.ด้วยนะครับ จากคุณ : มือใหม่ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 23:19:30 A:58.8.17.85 X: TicketID:301769

ความคิดเห็นที่ 28 ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ จริงๆสูตรอาหาร ที่อยู่ เบอร์โทร พิมพ์ใส่ในเมล์น่าจะปลอดภัยกว่า ครั้งล่าสุดที่ป้าเราไปก็โดนเข้าห้องเย็นเหมือนกัน ป้าเราอายุ60กว่าๆไปอเมริกามาแล้วหลายครั้ง พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ถูกค้นกระเป๋ารื้อทุกอย่างออกมากอง ของส่วนใหญ่มีแต่ของกินที่หอบไปฝากลูกหลาน ตม.ถามอะไรแกก็ตอบไม่ได้ สุดท้ายนึกถึงกระดาษที่เราพิมพ์ไว้เผื่อถูกตม.เรียก ซึ่งเราพิมพ์บอกสาเหตุที่ป้าไป เบอร์พี่เขยที่เป็นทนาย แล้วป้าก็โชว์รูปถ่ายลูกหลานให้ตม.ดู สุดท้ายตม.ก็ขอโทษแล้วช่วยจัดกระเป๋าให้ใหม่ นั่นขนาดคนแก่มีประวัติเข้าออกหลายครั้ง ไม่เคยอยู่เกินกำหนด ยังไม่วายถูกสงสัย ป้าเรานี่เสียขวัญไปเลย ทำใจให้สบาย รอให้เวลาผ่านไปก่อน ถ้าอะไรหลายๆอย่างลงตัวค่อยยื่นขอใหม่นะคะ ทุกวันนี้ป้าเราเข็ดไม่ยอมไปอเมริกาอีกเลย วีซ่ายังเหลือหลายปีแต่ถ้าหมดจะไม่ต่อ  ถ้าลูกหลานคิดถึงให้เป็นฝ่ายมาหาที่ไทยเอง จากคุณ : จะเอาอะไรกับลมปาก เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 23:36:32

ความคิดเห็นที่ 29 ช่วยกันโวทหน่อย จะได้มีคนอ่าน มีคนออกความเห็นกัน เรื่องแบบนี้ จะโทร ไปหา สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย คงไม่สะดวก และ เขาคงช่วยเหลืออะไร ไม่ได้นะ จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 00:07:53

ความคิดเห็นที่ 30 VISA คุณสามารถขอใหม่ได้ แต่การพิจารณาอนุญาต VISA อาจจะยากขึ้นหว่าเดิมครับเช่นหากคุณขอ VISA ท่องเที่ยว โอกาสได้อีกอาจจะยากครับ และทางที่ดีควรเว้นระยะห่างสักพักประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ก่อนไปขอ VISA ใหม่นะครับ ไม่งั้นเค้าจะยิ่งคิดว่าคุณพยายามไปอเมริกาอย่างผิดสังเกตุ ครับ สู้ๆครับคุณ จขกท. จากคุณ : m เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 00:28:53 A:124.121.120.183 X: TicketID:279133

ความคิดเห็นที่ 31 คคห. ๒๕ พกใบขับขี่สากล ไม่น่าเป็นปัญหา นักท่องเที่ยวเช่ารถขับเที่ยวเอง เรื่องธรรมดา เสริมนิดว่า ควรพกใบขับขี่ไทยไปด้วย เพราะไม่กี่รัฐหรอกที่รับรองใบขับขี่สากล นอกนั้นเขาให้ใช้ใบขับขี่ของประเทศนั้น ๆ ได้เลย โหวตแล้วนะครับ จากคุณ : นายคลิค เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 00:29:21

ความคิดเห็นที่ 32 สงสารจัง นึกถึงตัวเองหลายปีก่อนโดนที่ดีทรอยซ์ คนมากมายเเถวยาวเหยียด ถามหลายคำเหมือนกัน รื้อกระเป๋าหมดเลย หยิบของเราเเต่ละอย่างใส่ถุงมือ หยิบปลายนิ้วเเบบกลัวเชื้อโรคน่ะ อีตาคนพาเข้าห้องพลิกพาสละเอียดยิบทุกหน้าเลย (เคยเข้าออกหลายเที่ยวเเล้ว เเต่ไม่เคยอยู่เกิน)ถามหลายคำเหมือนกัน หาความผิดไม่เจอเลยโยนพาสให้เพื่อนอีกคนหนึ่งเช็คเเทน จนต้องไปเรียกสามีข้างนอกมาคุยกับคนใหม่ ถึงให้เข้า ตกเที่ยวบินเที่ยวนั้นไป มีหลายคนที่โดนเยอะมาก บางคนก็ร้องไห้เเกล้งจะเป็นลมหรือเป็นจริงๆก็ไม่รู้ ขอเเสดงความเสียใจด้วยค่ะ เข้าใจเลยว่าอยู่ในนั้นนานๆรู้สึกเเย่เเค่ไหน จากคุณ : เวนิซ (เวนิซ) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 01:00:59

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้ามั่นใจ ว่าเราไม่ผิด ไปยื่นขอใหม่เลยค่ะ แล้วก็อธิบายให้จนท.ฟัง ว่าเหตุการณ์มันเป็นอย่างไร เตรียมเอกสารไปให้พร้อม ว่าทำไมโดนส่งกลับเพราะอะไร อธิบายเป็นฉากๆได้ เราว่าโอกาสได้วีซ่าคืนสูงนะ ถ้าให้พี่สาวเขียนจม.แนะนำตัวมาด้วยจะดีมาก ประกอบการยื่นวีซ่ารอบใหม่ไปเลย ถ้าได้วีซ่าอีกครั้ง ไปรอบหน้า ก็ไปแบบนักท่องเที่ยว ไม่ต้องเอาเอกสาร หรืออะไร ให้ตม.เค้าระแวงคุณอีก พวกที่ขนไป มันส่อเจตนาจริงๆนะ เอาแค่ที่อยู่ เบอร์โทรพี่สาว เงินติดตัว แค่นี่ไม่น่าจะมีปัญหาแล้วค่ะ เคยกรอกเอกสารเข้าเมืองให้พี่คนลาว เค้ามาเมกาแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย ได้วีซ่ามางานแต่งน้องชาย พูดอังกฤษไม่ได้สักคำ เราก็เลยเขียนอธิบายเป็นภาษาอังกฤษให้เค้ายื่นให้จนท.อ่าน เพื่อติดต่อน้องชายที่จะมารับแทน ก็ยังเข้าเมกาได้ไม่มีปัญหานะคะ คุณจขกท. กลับมาทำใจสักพักแล้ว ถ้าอยากจะไปอีกรอบ ก็รีบจัดการเลยค่ะ อย่าให้เรื่องล่วงเลยไปนาน เวลาอธิบายให้จนท.ฟัง จะได้ใส่อารมณ์ได้เต็มที่ ในเมื่อคุณมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ต้องห่วงค่ะ จากคุณ : dcapar เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 01:01:19

ความคิดเห็นที่ 34 ความคิดเห็นที่ 28 ที่คุณบอกว่า สูตรอาหาร เบอร์โทร พิมพ์ใส่ใน e-mail ดิฉันขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมว่าไม่ควรทำ เคยอ่านในห้องไกลบ้าน มีน้องผู้หญิงไปอเมริกาโดน ตม.ตรวจละเอียดหมด ขอเช็ค e-mail ส่วนตัวปรากฎว่า  มีการคุยกับผู้ชายที่อยู่อเมริกาว่าจะมาแต่งงานและปรับสถานะที่ี่เลย มีการนัดกับเจ้าของร้านอาหารจะขอทำงาน โดนส่งกลับ ขอให้ระวังมากๆค่ะ จากคุณ : BeauUSA เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 01:01:52

ความคิดเห็นที่ 35 งงนิดนึงครับว่า เหตุเกิดที่ แองโกล่า มันเป็นประเทศใช่ไหมครับ อยู่ส่วนไหนของโลกครับ ที่แองโกล่านี้เป็นการเปลี่ยนเครื่องใช่ไหมครับ แล้วทำไมถึงโดนส่งกลับที่ แองโกล่า มีเจ้าหน้าที่ตม.ของ us. ด้วยเหรอครับ ทำไมไม่โดนตอนที่ไปถึงอเมริกาแล้ว ขอบคุณครับ จากคุณ : มือใหม่ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 02:04:26 A:58.8.17.85 X: TicketID:301769

ความคิดเห็นที่ 36 คิดว่า...น่าจะเป็น  Anchorage International Airport, ในรัฐ Alaska ครับ จากคุณ : ThaiJoe เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 02:36:17

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่น่าจะใช่ ประเทศแองโกล่า แต่คงเป็นเมือง Anchorage,Alaska ของเมกา สิ่งที่ทำให้ จขกท ถูกส่งกลับ คิดว่า เมนูอาหารไทย มีที่อยู่ลุงที่เปิดร้านอาหารไทย มีชุดสูตรในกระเป๋าใหญ่ เพราะคนไปเที่ยวทั่วๆไป เขาไม่มีครบ ๓ อย่าง เพียงแค่ ๒ อย่างแรก ก็ยากแล้ว แล้วที่ว่า ต้องรอกลับตีสองอีกวันนั้น กลับด้วย ไช่น่าแอร์ไล หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็คงเป็นเที่ยวที่เคยบิน ไช่น่าแอร์ไล มาไทยไวๆ เลิกงาน ค่ำๆก็ขึ้นเครื่องเลย เที่ยวนั้นเครื่องเขาไปลงที่สนามบิน ANC ด้วย ลงไม่นาน ไม่เห็นคนขี้นลง ชอบ ไช่น่าแอร์ไล ราคาถูก ต่อเครื่องที่ไทเป ชม เดียว ก็ไม่มีปัญหาอะไร บินอยู่ ๒ ๓ ปี ที่ล้อกกระเป๋าหลุด เขาก็จ่ายค่าซ่อมให้อย่างดี จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 02:43:29

ความคิดเห็นที่ 38 ปีนี้ ไช่น่าแอร์ไล บวกค่าประกัน ๑๐๐ กว่าดอลเข้าไปในตั๋ว เลยทำให้แพงขึ้น ประกอบกับได้ตั๋วของยูไนเต็ด เลยซื้อกระเป๋าใหม่ มี TSA Lock อาทิตย์หน้า ก็จะบิน แล้วจะเล่ามาให้ฟัง จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 02:50:46

ความคิดเห็นที่ 39 ............................... เราก็เคยพกตำราอาหารมาสามเล่ม หนังสือพระด้วยสามเล่ม เราก็ผ่านตมมาด้วยดี แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 54 04:27:57 จากคุณ : ^_^ (คนห่างบ้าน) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 04:15:33

ความคิดเห็นที่ 40 ความคิดเห็นที่ 39คุณ : ^_^ (คนห่างบ้าน) ตกลงไปมาเมื่อไร ลงสนามบินไหน เขาเปิดตรวจเจอหนังสือหรือเปล่า ของเราขนาดถือพาสปอร์ตมะกัน เข้าออกไม่รู้กี่ครั้ง ของเรา ขนอาหาร ที่เขาไม่ห้าม แต่ก็สำแดงทุกครั้่ง บางครั้ง ผ่านฉลุย ไม่ถูกตรวจอะไรเลย บางครั้ง ถูกเอกซ์เรย์ บางครั้งให้เปิดกระเป๋า บางครั้งโดนครบชุด ขนาดขอเปิดกระป๋องดู ปลาทอดกรอบ เมื่อเดือนสิงหาโดนครบชุด คิวก็ยาว เอาขนุนสด เป็นยวง ไม่มีเม็ด ใส่กล่องปลาสติก จนท ขอดู แล้ว ก็ลืมคืน เราก็ลืมทวง ศก เอาพาสปอร์ตมะกัน ไปสะแกนอีก กลาง กภ ขากลับ คราวนี้เลยหลบ ไปลงสนาบินอื่น ซื้อกระเป๋าใหม่ กันไม่ให้มีกลิ่นเก่าๆติด ก็ไม่รู้จะลงเอยอย่างไร จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 08:13:03

ความคิดเห็นที่ 41 #26 สถานทูตไทยไม่ได้มีหน้าที่ช่วยหรือยืนยันว่าคุณมาทำอะไรหรือช่วยให้คุณหลุดออกมาจากห้องสอบสวนได้ มันคนละเรื่องและไม่มีอำนาจหน้าที่อะไรที่จะไปเกี่ยวข้องได้ เว้นแต่คุณเป็น ขรก เดินทางในหน้าที่แล้วมีปัญหา เค้าถึงจะช่วย ถ้าคุณเป็นคนธรรมดา สถานทูตเค้าคงไม่ช่วยคุณ จากคุณ : ชาติ 4300 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 08:14:33

ความคิดเห็นที่ 42 คุณคนห่างบ้าน เจ้าของกระทู้เขาพกเมนูอาหารมาค่ะ ไม่ใช่ตำราอาหาร ถ้าเป็นตำราอาหารไม่น่าจะเป็นไร เราเองก็เคยเอาเข้ามาหลายครั้ง ถ้าเป็นตำราทำกับข้าว ตม น่าจะเข้าใจว่า หอบหิ้วเอามาหัดทำกับข้าวกิน แต่พกเป็นเมนูอาหารมา มันเลยน่าสงสัย ขนาดสาวไทยสองคนขอวีซ่าท่องเที่ยว พอ ตม ซักว่าพักที่ไหน เธอตอบว่าร้านอาหารไทยของเพื่อน พอขอดูเงิน ปรากฎว่ามีคนละร้อยกว่าเหรียญ เท่านั้นแหละ โดนส่งกลับเมืองไทยเที่ยวต่อไปทันที มันเป็นสิทธิ์ขาดของ ตม เขา ถ้าเขามีเหตุให้ชวนสงสัย เขาก็ต้องทำหน้าที่ของเขา จากคุณ : กระปุกตังฉ่าย เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 08:36:50 A:58.110.124.115 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 43 เราเคยเข้าห้องเย็นครั้งหนึ่งค่ะ เหตุเพราะตอนนั้นมาบ่อยเกิน อยู่นานเกิน ( แต่ไม่เคยเกิน I 94 )  รู้สึกว่าโชคดีมากๆ ไม่โดนค้นอะไรเลย  แต่ถึงค้นก็ไม่เจออะไรค่ะ มีแต่เสื้อผ้า อาหารแมว ( ตอนนั้นขนแมวไปด้วย เพราะไม่มีคนเลี้ยง)   เราคิดว่า ตอนที่เราโดนนั้น เราตอบแบบมั่นมากๆ และก็มีหลักฐานครบว่ามาทำอะไรยังไง เค้าเลยปล่อยเราไปอย่างรวดเร็วค่ะ ได้มาหกเดือน อยู่ไปสี่เดือนก็กลับเพราะหมดธุระ ปล ไม่ส่งเสริมให้ทำแบบนี้ค่ะ คุณอาจไม่โชคดีแบบเรา อยากจะฝากให้จขกท ทำใจดีๆนะ เราไม่ได้ทำอะไรผิดอย่าไปเสียใจ อยากฝากถึงคนอื่นๆที่ถือวีซ่าท่องเที่ยว ว่าไปทำอะไรยังไงให้ตอบให้ชัดเจน มั่นใจนะ ตอบให้มันดูเป็นเหตุเป็นผล ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ ที่มีหลักฐานครบเค้าก็น่าจะให้เราเข้า แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 54 08:46:31 จากคุณ : cardiogenic เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 08:45:14

ความคิดเห็นที่ 44 มาเมื่อสองปีที่แล้วค่ะ ลงที่ Wachington DC ค่ะ โดนเปิดตรวจกระเป๋าเหมือนกัน ที่รู้เพราะว่ามีโบรชัวร์อยู่ในกระเป๋าว่าจนทมีสิทธิจะเปิดตรวจหากสงสัย แต่ตอนผ่านตมเราไม่ถูกถามอะไรเลยเป็นคนสุดท้ายด้วย จนทก็ปล่อยผ่านไป   แต่เคยได้ยินมาว่า คนที่มีญาติหรือพี่น้องที่นามสกุลเดียวกัน ถ้าบุคคลเหล่านี้เคยโดดวีซ่าหรือมาเป็นโรบินฮูด ถึงแม่จะได้กรีนการ์ดหรือได้เป็นซิติเซ่นแล้ว แต่เรคคอร์ดจะยังมีอยู่ค่ะ แล้วถ้าคนนามสกุลเหมือนกันเดินทางเข้าประเทศนี้อาจถูกตรวจสอบเข้มงวดกว่าคนอื่น ๆ แค่จะบอกว่าคนจะถึงคราวดวงไม่ดี ไปเจอพวกเหยียดคนเอเชียเข้าก็อาจเป็นเรื่อง (เรื่องเหยียดเชื้อชาตินี้เราได้อ่านมาจาก Survey ของ....จำชื่อไม่ได้เค้าทำการวิเคราะห์ออกมาเป็นตัวเลขออกมา) อย่างการยื่นต่อวีซ่าของเราได้ Approved ก่อนของแฟนอีก (แฟนเป็นคนเอเชียมาจากประเทศอื่น หน้าตาคล้ายคนจีน) อย่างต่อใบขับขี่เราไม่เคยมีปัญหา แต่ของแฟนมีปัญหาตลอด รอเป็นเดือนไม่มาบ้าง ต้องไปอีกรอบบ้าง แต่ของเราต่อใบขับขี่สองรอบแล้ว สองอาทิตย์ก็ถึงบ้านแล้วไม่มีปัญหา จากคุณ : ^_^ (คนห่างบ้าน) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 08:48:15

ความคิดเห็นที่ 45 อ่ะ เพิ่งเหลือบเจอ คห 42 อิอิ อ้าวไม่เหมือนกันเหรอะ เราก็ตีความว่ามันคือหนังสือสอนทำกับข้าว อืมไม่รู้อ่า ถ้าเราเจออย่างจขกทเราว่ามันเป็นประสบการณ์ที่แย่มาก ๆ อ่ะ คงเกลียดประเทศนี้ไปเลย จะว่าไปก็ไม่อยู่นานหรอกที่นี่อ่ะ เก็บเกี่ยวประสบการณ์พอแล้วก็จูงมือกันกลับบ้านแล้ว จากคุณ : ^_^ (คนห่างบ้าน) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 09:20:24

ความคิดเห็นที่ 46 เสียใจกับ จขกท. ด้วยนะคะ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ดิฉันบินมาอเมริกาพร้อมกับสามีครั้งแรกและลงเครื่องที่สนามบิน JFK. ดิฉันก็โดนเชิญเข้าห้องสอบเหมือนกันค่ะ.....สอบละเอียดยิบเลย...กระเป๋าก็ค้นละเอียดยิบเช่นกันค่ะ......จนดิฉันประหม่าไปหมดเลย.....แต่ก็มีหลักฐานทุกอย่างครบ....ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร......แต่ก็เสียเวลารออยู่ในห้องรอประมาณชั่วโมงครึ่ง.....ทำเอาดิฉันใจหายหมดเลย ดิฉันเห็นด้วยกับคห.ที่ 8 นะคะที่ว่า..... "เป็นเพราะคนไทยกลุ่มนึงแท้ๆ ที่ไปสร้างวีรกรรมเอาไว้ ไปโดดวีซ่าบ้าง ใช้วีซ่าผิดประเภทบ้าง คนจะไปเที่ยวแบบไม่มีเจตนาแอบแฝงเลยพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย นึกๆ แล้วคนไปโดดเยอะเหมือนกันนะ เพื่อนสมัยเรียนเราสองคนก็ยังไปหนีวีซ่า ลูกชายเพื่อนแม่กับภรรยาเขาก็ไปโดด ก็น่าเห็นใจ ตม กับกงสุลเหมือนกัน จากคุณ : กระปุกตังฉ่าย " จากคุณ : thaibo_pa เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 10:01:58

ความคิดเห็นที่ 47 อืม อ่านแล้วกลัวตัวเองเจอแบบนี้บ้าง คราวก่อน เราลง JFK ก็สบาย ๆ ไม่มีปัญหาอะไร เดือนมีนา เรากับแฟนจะไปเยี่ยม ครอบครัวแฟนที่ Detroit คราวนี้ต้องไปลง Detroit เลย ถ้าถูกเรียกเข้าห้องเย็น เราคงช็อคไปเลย อ่าน กระทู้นี้ แล้วเริ่มกลัว..... จากคุณ : Rainny7 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 10:43:27

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นใจค่ะ แต่เราว่าที่คุณพกเมนูอาหารไทยไปด้วย แล้วคุณบอกว่าเตรียมไปเพื่อใช้พูดคุยภายในอเมริกา เราเองฟังที่คุณว่ามา มันก็ไม่เมคเซ็นส์ค่ะ ถ้าเราจะไปเที่ยวไปเยี่ยมพี่สาว นามบัตรลุงอันนี้เราเข้าใจ มีที่อยู่คนรู้จักเอาไว้ แต่เมนูนี่ จะพกไปทำไม จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 11:08:58

ความคิดเห็นที่ 49 #42 คนไปเที่ยวที่ไหนเค้าจะพกตำราทำกับข้าวไปด้วยครับ เค้ามีแต่จะไปซื้อเอาข้างหน้า ระหว่างพกตำราทำกับข้าว กับ แผ่นรายการเมนูเฉยๆ ผมว่าตำรานั่นน่าสงสัยกว่าอีกครับ เพราะมันส่อว่าต้องการจะเอามาหัดทำ (แล้วคนเที่ยวที่ไหนเขาจะมามีเวลาหัดทำกับข้าว) จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 11:22:35

ความคิดเห็นที่ 50 จขกท เขาไปเยี่ยมพี่สาวนะคะ คุณดอส เขาคงเอาไปฝากพี่สาวน่ะ ตอนญาติพี่น้องเรามา เราก็ฝากซื้อประจำ ทั้งนิยาย ทั้งตำราทำอาหารไทยๆ จนคนใกล้ตัวบ่นว่าไม่มีที่เก็บแล้ว ถ้ามีพวกจิวกวกแบบบ้านเรา สงสัยจะแอบเอาไปชั่งกิโลขายตอนเราไม่อยู่ จากคุณ : กระปุกตังฉ่าย เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 11:37:29 A:58.110.124.115 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าผมเป็น ตม.ที่อเมริกา ผมก็คิดว่าคุณจะเข้ามาทำงาน จากคุณ : จักกิด เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 12:24:36

ความคิดเห็นที่ 52 คราวหน้าพกแผนที่ USA, Lonely planet, กล้องถ่ายรูป, ใบขับขี่สากล, เบอร์ติดต่อทนาย ฯลฯ จากคุณ : Ultraguy เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 13:02:56

ความคิดเห็นที่ 53 ถ้าจะหัดทำอาหาร เปิดหาตามเน็ทได้เยอะแยะจะตายไป  ไม่เห็นต้องพกตำราอาหารมาเลย (ซึ่งทำให้ จนท สงสัย)   แล้วก็ไม่รู้เป็นไงนะ คนส่วนใหญ่ที่ไปเมกา ต้องมีคนรู้จักทำงานอยู่ร้านอาหารไทย ไปซะหมด ๆๆๆ เอะอะ ก็ เพื่อนทำงานอยู่ร้านอาหารไทย  ถ้าตัดประเด็นออกว่าไม่รู้จักใครเลย ในวงการร้านอาหารไทยคงน่าจะดีกว่า อย่าง จขกท บอกว่ามาเยี่ยมพี่ ซึ่งพี่มีวีซ่าถูกต้อง แทนที่จะพก ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ หรือนามบัตรของพี่ (อาจจะพก แต่เขาดันไปเห็น นามบัตรเกี่ยวกับร้านอาหารซะก่อน) จากคุณ : Freedom of Life เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 13:07:41

ความคิดเห็นที่ 54 เราขอแสดงความเสียใจกับ จขกท ด้วยนะค่ะ แต่เราว่าเหตุผลที่มันเป็นแบบนี้เพราะว่าคุณพกสิ่งที่ไม่ควรนำไปด้วย อีกอย่างคุณดูไม่น่าวางใจมั้งค่ะเราว่านะ การที่จะผ่าน ตม. ของอเมริกาได้นั้นสิ่งที่ต้องมีคือความมั่นใจ พูดอังกฤษได้เยอะหรือไม่นั้น ค่อยๆอธิบายค่ะ แล้วก็ตอบคำถามแบบฉะฉาน บอกไปเลยว่ามาท่องเที่ยวมีเงินมา 3500 เหรียญ พอเที่ยวเสร็จก็จะกลับ ที่เขียนไว้นี่เผื่อไว้คราวหน้านะค่ะ ตอนเรามาที่นี่ครั้งแรก(ก็เกือบจะปีล่ะ) เรามาเวกัส แต่เรามาเพื่อมาเรียนภาษาจริงๆนะค่ะ ต้องการเรียนต่อเอกค่ะ แต่ภาษาอ่อนแอเหลือเกิน เรามาต่อเครื่องที่ซานฟราน ก็ไม่ได้โดนถามไรมากจากตม.เลยนะค่ะ แต่ดันมีผู้หญิงเอเชียคนนึง ที่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นพวกหน่วยรักษาความปลอดภัยหรืออะไรซักอย่างก็ไม่รู้อะค่ะ มาถามคำถามเราเยอะมาก แต่ทางตม.ไม่ค่อยถามไรเพราะเรามีจดหมาย มีอะไรชัดเจนมากๆค่ะ... แค่อยากจะบอกว่าคราวหน้าให้ไปขอด้วยความมั่นใจ แล้วเวลามาอเมริกันให้ผ่านตม.ด้วยความมั่นใจเช่นกันค่ะ... จากคุณ : MoonTerrace เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 13:49:03

ความคิดเห็นที่ 55 ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ญาติเพื่อนผมไปอังกฤษก็โอนเหมือนกัน รู้สึกว่าตอนกรอกขอวีซ่า ใส่ชื่อคุณลุงคนไทยที่รู้จักที่นั่นไว้ซึ่งเค้าอยู่ที่อังกฤษมานาน อายุก็พอสมควรแล้วครับ ทาง ตม อังกฤษ โทรไปถามคุณลุงว่ารู้จักคนนี้ไหม คุณลุงตอบว่าไม่รู้จัก..สงสัยแก่แล้วเพราะก่อนไปก็เตือนแกแล้ว สุดท้าย ตม ก็ให้กลับไทยเหมือนกันครับ โดนกักไป 12 ชั่วโมง...เซ็งเลย.. ของผมรอสัมภาษณ์วีซ่าเมกาอาทิตย์หน้าแล้ว ยิ่งเสียวเลย ต้องเจอหลายด่าน ...แต่สู้ครับ จากคุณ : Schwein เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 14:23:45

ความคิดเห็นที่ 56 ช่วงนี้ไม่ใช่หน้าท่องเที่ยว อากาศหนาวมาก ต.ม.มีสิทธิ์คิดได้ต่างๆนาๆ จากคุณ : Ultraguy เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 14:37:33

ความคิดเห็นที่ 57 ปกติแล้วเวลาที่ US จะแบนผู้โดยสารที่ถือวีซ่าระยะยาวต่างๆ เค้าจะส่ง Fax ยังสายการบินต่างๆที่มีไฟลท์ไป US และ system ของสายการบินต่างๆก็มีระบบที่ป้องกัน โดยหลังจากรูด APIS แล้วข้อมูล ชื่อวันเดือนปีเกิดไปตรงกันพอดีค่ะ เราคิดว่า คุณเจ้าของกระทู้น่าจะโดนแบนหรือโดนยกเลิกวีซ่ามาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่กราวด์ที่สนามบินขาดความรอบคอบและไม่อ่าน warning message ที่ขึ้นมา จึงรับ check-in คุณเจ้าของกระทู้ค่ะ จากคุณ : Th( SG ) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 14:40:39

ความคิดเห็นที่ 58 สงสารจังคะ เรากลับไทยทีไรคุณแม่ก็ชอบฝากหนังสือตำราทำกับข้าวมาให้ไม่เห็นแปลกเลย มันสะดวกกว่ามานั่งหาเอาในเนต แต่ที่ตม.ตัดสินใจแบบนั้นเพราะองค์ประกอบหลายๆอย่างมันทำให้เค้าคิดว่าคุณจะเข้าไปทำงาน ทั้งๆที่ตั้งใจมาเที่ยวเฉยๆ เหมือนที่ความเห็นข้างบนบอกอ่ะค่ะ เพราะปลาเน่าไม่กี่ตัวทำให้น้ำเน่าไปทั้งบ่อ จากคุณ : OtteR เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 14:53:30

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าคุณเป็นผู้ใหญ่พอ พูดจาด้วยเหตุด้วยผล เตรียมความพร้อมด้านภาษาก่อนไป เวลาพูดอย่าร้องไห้ อธิบายช้า ๆ ให้เข้าใจ เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นกับคุณ มันอาจเป็นโชคชะตาที่เลวร้าย แต่ขอให้ทำใจให้เร็วที่สุด อยู่เมืองไทยดีที่สุดในโลกแล้ว จากคุณ : TheRosenberg เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 15:18:37

ความคิดเห็นที่ 60 ของเราได้มา 3 เดือน เมื่อ 2 ปีที่เเล้ว เเต่ปรากฎว่าความที่สงสารลูกน้องเค้าจะไปเที่ยวอังกฤษเเต่ขอวีซ่าไม่ผ่าน เลยชวนเรากับลูกสาวไปเที่ยวอังกฤษด้วยกัน เราก็อืม ไปก็ไป เปลี่ยนจากอเมริกาเป็นอังกฤษ คงไม่เป็นไร พอไปยื่นที่อังกฤษ ระหว่างรอผลวีซ่า ทางสถานฑูตอเมริกาก็โทรมาบอกว่าให้เราเอาพาสปอร์ตไปให้เค้าใหม่ เค้าทำบางอย่างผิดพลาด เราก็บอกว่า พาสปอร์ตอยู่ที่สถานฑูตอังกฤษ ยังไม่ได้คืน เค้าก็บอกว่าถ้าได้คืนให้รีบเอาไปให้เค้า ไม่งั้นเราเข้าอเมริกาอาจจะมีปัญหา เราก็บอกว่าไม่ได้ไปแล้วค่ะ เปลี่ยนไปอังกฤษเเทน .. สรุปว่าพอได้พาสปอร์ตคืนมาจากสถานฑูตอังกฤษ (วีซ่าไม่ผ่านทั้งเราและลูกสาว) เเต่ของลูกน้องยังไม่ได้คืนนะคะ เราก็รีบเอาไปให้ที่สถานฑูตอเมริกา ปรากฎว่าเค้ายกเลิกวีซ่าเรา ด้วยเหตุผลที่ว่า เรายอมให้ลูกน้องใช้เอกสารการเงินคือ เหมือนกับว่าเราจงใจใช้เอกสารซ้ำ ซึ่งเราก็งงมาก ก็เถียงกันอยู่นาน เพราะเราไม่เข้าใจจริงๆกับการที่เค้าพยายามให้เรายอมรับในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ เราก็บอกคุณจะคิดอะไรก็เรื่องของคุณ ดิฉันบริสุทธิใจ ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ( กลับมาเราก็มาถามเด็ก เค้าก็ยอมรับว่าใช้เอกสารการเงินของเรา เราก็เลยไล่เค้าออกไปเเล้วตั้งเเต่นั่น ซึ่งมันผ่านมา 2 ปีกว่าเเล้ว) เราก็ไปเที่ยวที่อื่นมา ฮ่องกง เกาหลี ฮังการี เเต่ไม่แน่ใจว่าถ้าจะขอไปอเมริกา หรืออังกฤษนี่จะผ่านหรือเปล่า จริงๆไม่ซีเรียสเท่าไหร่เเต่ก็อยากลองดู ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร มีอีกหลายประเทศให้เที่ยว . เล่ามาเพื่อเป็นอีกหนึ่ง ประสบการ์ณนะคะ . เห็นใจ จขกท อุตส่าห์ได้มาตั้ง 10 ปี จากคุณ : กานต์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 15:20:47 A:223.206.112.206 X: TicketID:242293

ความคิดเห็นที่ 61 เสียใจด้วยค่ะ การวางตัว การตอบคำถาม ต.ม ก็สำคัญค่ะ เมื่อ 5-6 ปี ได้วีซ่ามาเที่ยว uk 6 เดือน ก็บินมาเที่ยว 2 ครั้งห่างกัน 3 เดือน ตอนนั้นไม่รู้จักพันทิปแต่ถามน้องพนักงานที่บินไปทำงานต่างประเทศเพื่อทำงานบ่อยๆเพราะบริษัทเรา มีสาขาทั่วโลก ก็ทำการบ้านโดยท่องที่อยู่แฟน ที่ทำงานเขา โรงแรมที่จะไปพักหรือเที่ยว พอถึง ต.ม  heathrow เขาถามเรากลับไปกลับมาในคำถามเดิมๆเพื่อดูว่าเราจะสับสนไหมและมองหน้าเราบ่อยๆเพราะตอนนั้นยังไม่แต่งงาน ก็ผ่านมาทุลักทุเล ทำไมเค๊าซักเราจัง ...    พอวีซ่าท่องเที่ยวใกล้จะหมดอีก 7-8 วัน เราก็จะกลับมาเยี่ยมแฟนช่วงหลัง ม.ค     แฟนก็รอลุ้นมากส่วนเราฉี่จะแตก ตอนนั้นกลัววีใกล้หมดนี่แหละ พอมาถึงพี่เค๊าก็ซักถามว่ามาทำไหมวีฯใกล้หมดแล้ว เราบอกวันเกิดแฟนจะมาฉลองปีใหม่ด้วย เค๊าก็ซักประวัติการทำงานเราว่าทำมากี่ปี บลาๆ อยากบอกว่าเวลาคนสงสัยเรายิ่งซักเรายิ่งกลัว อุตส่าห์ท่อง relax หายใจลึกๆ มือเท้าก็เย็น ดีที่เรามองตา ต.ม ไม่หลบ      นานมากค่ะสุดท้ายเขาก็ให้ผ่านและขอให้มีความสุข โอ้ย....เหงื่อมาแอบแตกซิกๆหลังผ่าน  ส่วนใหญ่เวลาเดินทางเราชอบใส่สูทและแว่นสายตาดูขรึมๆดี  ทั้งที่ร้อนตับแตกก็ต้องทน ตอนนี้แต่งงานแล้วค่อยยังชั่วใส่กางเกง cargo ไปเลย     อีกรายพี่คนไทยแต่งงานแล้วค่ะ เวลาแกกลับเข้า uk จะโดนตรวจตลอดทั้งขาเข้าไทยหรือ uk เพราะพี่เขาจะใส่กางเกงรัดรูปแต่งหน้ามาก ถึงไปกับสามีก็โดนประจำ พอถึงไทยพี่เขาก็เงอะงะ พอเข็นรถมาประตูที่คนออกเยอะๆ แกชอบนึกได้และเข็นกลับไปซื้อของในดิวตี้ฟรีอีก..ทีนี้ต.ม ก็จ้องเลยค่ะ  พี่แกเปลี่ยนใจไปออกประตูที่คนไม่ค่อยออกกัน เลยโดนค้นกระเป๋าอีก    เราเลยแนะนำพี่เขาไปว่าพี่ลองแต่งตัวธรรมดาและเวลา เข็นรถจะออกอยู่แล้วให้รีบออกเพราะใครๆกลับมาเยี่ยมบ้านก็รีบออกมาเจอญาติ พี่เขาชอบเออระเหย...ไม่รู้รอบหน้าพี่เขาจะโดนอะไรอีก จากคุณ : โค้งหักศอก เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 15:58:06

ความคิดเห็นที่ 62 พูดถึงเรื่องการแต่งตัวเราว่าก็มีส่วนเนอะอย่างที่คุณโค้งหักศอกบอกมา โดยเฉพาะผู้หญิงเรา ไม่ว่าชาติไหน เค้าก็มีสิทธิสงสัยได้ ขนาดจะออกไปจากไทยเพื่อไปสิงคโปร์เอง ผู้หญิงคนนึงตรวจเอกสารข้างๆเราคนละเคาน์เตอร์เราพาหลานไปเที่ยวสิงคโปร์ พี่เค้าเดินทางไปคนเดียว แต่งตัวจัดมากตม.ไทยถามใหญ่เลยค่ะว่าไปทำไม ไปหาใคร ซักเสียงเครียดเลยค่ะ สุดท้ายไม่ได้ไปมั้งเพราะมีเจ้าหน้าที่เชิญไปสอบต่ออีก เราก็พาหลานไปก็หวาดเสียวหลัวเค้าจะสงสัยว่าจะพาเด็กไปขาย ต้องให้พ่อแม่หลานไปทำเรื่องรับรองที่อำเภอแบบว่ากันไว้ก่อน สุดท้ายก็ไม่มีปัญหาอะไร ยังไงก็สู้ๆค่ะ ทำวีซ่าใหม่ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:37:22

ความคิดเห็นที่ 63 หลายอย่างที่คุณพกไปชวนให้คิดค่ะ แถมยังพกเงินสดเยอะเกินไปอีก เค้าต้องสงสัยแน่นอน เพราะในอเมริกาใช้เครดิตการ์ดซะส่วนมากค่ะ ตอนเราไปมีเงินสดไปแค่700เอง อย่าเสียใจไปเลยนะคะ ลองขอใหม่ไปเรื่อยๆ เราก็เคยโดนยกเลิกวีซ่ามาแล้ว (เรื่องยาวมาก ) ยังขอใหม่ได้10ปีเลย สู้ สู้ค่ะ จากคุณ : hppy2gthr เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 18:06:44

ความคิดเห็นที่ 64 ถ้าคิดถึงพี่มาก ให้พี่เป็นฝ่ายกลับมาเยี่ยมที่ไทยไม่ง่ายกว่าหรือคะ ถ้าไม่ให้เข้าก็อย่าไปง้อ มีศักดิ์ศรีหน่อย คุณไปบ้านใคร เขาไล่คุณกลับ ไม่ให้เข้าบ้าน คุณจะยังอยากไปบ้านคนนั้นอีกหรือ จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 18:06:53

ความคิดเห็นที่ 65 มันก็น่าสงสัยอยู่หรอกครับ ที่คุณทำอะนะ คือมันเหมือนมีเจตนาจริงๆ ทั้งตำราอาหาร ทั้งชื้อร้านอาหาร และแถมร้านนั้นเป็นญาติกันอีก นี้ถ้าคุณอ่านกระทู้ที่ห้องไกลบ้านบ่อยๆคุณจะรู้ว่า ไม่ควรพูดเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่ ตม. ฟังเลย ถึงแม้คุณจะรู้จักคนที่ทำงานร้านอาหาร ญาติเปิดร้านอาหาร ต่างๆน่าๆ เพราะมันทำให้เห็นว่า คุณมีแนวโนม คุณก็ต้องเห็นใจเจ้าหน้าทีด้วย เพราะเค้าก็ว่าไปตามหลักฐาน จะให้เค้ามานั่งทางในก็ไม่ได้หรอก เคยมีเพื่อนคนนึงว่าให้ ตม. ตรวจอะไรมากมาย เจ้าหน้าทีว่า ให้ผมทำตามหน้าที่เถอะ 5555 จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 18:42:42

ความคิดเห็นที่ 66 ไม่เข้าใจตรงที่เจ้าหน้าที่บังคับให้จขกท.เซ็นชื่อยอมรับในสิ่งที่เค้าไม่ได้ทำ แถมทำกันในที่ลับ จะเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้ เห็นใจค่ะ จากคุณ : LittleBlueTwingo เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 20:44:09

ความคิดเห็นที่ 67 เมนูอาหาร แบบlist รายชื่ออาหาร หรือปล่าวคะ พี่สาวจากเมืองไทยไปนาน อาจจะ มีเมนูที่อยาก กินเยอะเยอะไปหมด อาจจะมีตกหล่นเลย ลิสไปใช่ไหมอ่ะ จากคุณ : มาวิกา เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 21:30:06 A:10.42.107.155 X:202.28.182.12 TicketID:303594

ความคิดเห็นที่ 68 เพิ่งเคยได้ยินไปเที่ยวแล้วพกเมนูอาหารไทยไปด้วย ตำราอาหารเฉยๆยังเข้าใจ อาจจะพี่ฝากซื้อก็ได้ เมนูอาหารไทยเพื่อใช่พูดคุยภายในอเมริกา จะเอาไปใช้พูดคุยอะไรในอเมริกา? เมนู + ตำราอาหาร + ชื่อร้านอาหาร + เจ้าของเป็นญาติกัน แล้วที่อยู่เบอร์โทรศัพท์พี่สาวไม่พกไว้ในกระเป๋าด้วยหรือ เราว่า ของคุณมีแต่ข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร ร้านอาหาร ข้อมูลอย่างอื่นไม่มี เขาไม่รู้หรอกว่าคุณจะไปหาพี่สาวจริงหรือเปล่า หรือพี่สาวทำร้านอาหารอีก ให้พี่สาวกลับไปเที่ยวเมืองไทยสะดวกกว่า จากคุณ : JT เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 21:40:34 A:74.103.123.144 X: TicketID:071236

ความคิดเห็นที่ 69 อันนี้เป็นประสบการณ์ของพี่คนรู้จักเล่าให้ฟังเรื่องตัวเค๊าเองนะคะ พี่คนนั้นเป็นสาวประเภทสอง แต่ไม่ได้แปลงเพศ พกรูปถ่ายตอนที่อยู่เมืองไทยแต่งตัวเป็นผู้หญิง 10 กว่ารูปติดไปด้วย เจ้าหน้าที่เจอรูปนั้นแล้วพาไปห้องเย็น สอบถามกันอยู่นานมาก ตม. ยังคงยืนยันว่าพี่คนนี้ต้องการไปขายบริการ ส่วนพี่เค๊าก็ตอบเสียงแข็งยืนยันกลับว่าไม่ได้มาขาย จะมาเที่ยวมาหาเพื่อน ส่วนรูปก็จะมาโชว์เพื่อน แต่โชคดีที่ตม ยอมโทรสอบถามเพื่อนที่อ้างอิงถึงนะคะ เข้าเลยได้เข้าประเทศอเมริกา จากคุณ : เด็กดีแม่รัก เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 23:06:48

ความคิดเห็นที่ 70 เมนูอาหารไทยกับชุดสูท ตม.น่าจะต้องสงสัยอย่างแรงนะครับว่าเอามาทำไม แต่ถ้าไม่มีเจตนาจริงๆ ก็เสียใจด้วยครับ ปล. กระทู้อ่านยากมากครับ เขียนติดกันยาวไปหมด กว่าจะอ่านจบตาเลยทีเดียว จากคุณ : BlackPack เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 23:58:59

ความคิดเห็นที่ 71 แปลกใจตอนที่ เขาบังคับให้ยอมรับเนี่ย คนไทยคนนั้นอยู่รึเปล่าครับ จริงๆแล้วเขาทำหน้าที่อะไรหรอครับ ถ้าเป็น SG ทางตำรวจเขาจะแต่งตั้งคนที่รักษาผลประโยชน์แทนเรา ซึ่งทำหน้าที่ร่วมกับตำรวจนั่นหละ เขาจะถามว่าต้องการติดต่อสถานทูตหรือไม่ และเขาจะอยู่กับเราเวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ และในการที่เราจะต้องเซ็นอะไรบางอย่างลงไปนั้น ในเอกสารใบนั้น ถ้าเเป็นของประเทศ SG  เขาก็จะถามว่าเราต้องการติดต่อกับสถานทูตด้วยหรือไม่ เพราะเราอาจไม่มั่นใจในกฎหมายของเขาครับ usa อาจไม่มีแบบนี้  แต่ผมคงไม่นั่งจ๋อยให้ตม.อยากทำไรก็ทำ ผมคงทำทุกทางถ้าหากโทรได้ ไม่ว่าจะพี่สาว หรือสถานทูต ถ้าต้องรู้ว่าจะถูกบังคับในสิ่งที่ไม่ได้ทำ จากคุณ : คนบ่น เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 00:17:23

ความคิดเห็นที่ 72 สงสารจับใจไม่รู้จะปลอบอย่างไรดี ฝึกภาษาอังกฤษเยอะๆ ฟังให้รู้เรื่องและโต้ตอบให้ได้ คราวหน้าขอให้โชคเข้าข้างคุณนะ จากคุณ : อย่าพึ่งท้อ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 01:20:27 A:90.224.230.109 X: TicketID:159141

ความคิดเห็นที่ 73 เสียใจด้วยนะคะ เอาไว้รอสักพักแล้วลองขอใหม่ดู (ว่าแต่อ่านกลับไปกลับมาแล้วก็ยังงงอยู่ดี ว่าเมนูอาหารเอามาทำไม???) จากคุณ : พริม @ Santa Monica เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 02:50:30

ความคิดเห็นที่ 74 " ลงจากเครื่องบินก็จะมีช่องต่อแถวสองช่องผมก็ไปต่อ แต่ด้วยภาษาอังกฤษผมไม่เก่งก็เลยไม่รู้ว่าผมต้องไปยืนช่องไหนผมก็พยายามมอง จนกระทั้ง ตำรวจ ตม มาเรียกผมให้ผมเข้าไปเค้าเตอร์โดยไม่ได้ต่อแถวแล้วก็ถามผมว่าพูดอังกฤษได้ ไหมผมก็ตอบว่านิดหน่อย" เราว่าเป็นเพราะว่าคุณมีท่าทีที่ดูเหมือนมีพิรุธหรือเปล่าคะ พวกเจ้าหน้าที่ ตม เค้าเจอมาเยอะ เค้าก็สกรีนคนจากบุคลิกอันดับแรกนะคะ เหมือนกับบางคนที่ทำผิดหรือว่าตอนที่ขอวีซ่าวัตถุประสงค์ไม่ได้มาเที่ยวจริงๆ พอตอนเข้ามาถึงก็จะกลัวตื่นเต้น ว่า เจ้าหน้าที่จะstamp ให้ไหม เลยทำให้เค้าเรียกคุณเข้าไปตรวจ "หลังจากนั้นก็เรียกผมเข้าห้องเย็น ค้นกระเป๋าผม สิ่งของทั้งหมดตัวผมเปิดเจอหนังสือแปลภาษาอังกฤษเป็นไทย เมนูอาหารไทยที่ผมเตรียมไปเพื่อใช่พูดคุยภายในอเมริกา" จนท ต้องสงสัยอยู่แล้วเอาเมนูอาหารไทยไปพูด พูดอะไรคะ มาเที่ยว หรือว่าจะมาเผยเเพร่อาหารไทยเหรอ? "มาเที่ยวมาเยี่ยมพี่สาวนำเงินมาเท่าไรผมก็บอกตามจิงเค้าบอกว่าผมมีชุด สูตรในกระเป๋าใหญ่ แล้วในกระเป๋าเงินผมมีที่อยู่ลุงผมที่เปิดร้านอาหารไทยอยู่ซึ่งผมจดไว้เพื่อ ที่จะไปหายามมีปัญหาเมื่อผมไปแล้วไม่เจอพี่สาวในสนามบิน" จะมาหาพี่สาว หากไม่เจอพี่สาวในสนามบิน ทำไมไม่พกเบอรโทรพี่สาวไว้เผื่อโทรหาเพื่อติดต่อ หรือที่อยู่หากคลาดกันจริงๆ จะได้เดินทางไปหาที่บ้านได้ อ่านแล้วไม่เคลียร์ค่ะ แล้วแบบนี้เจ้าหน้าที่ ตม เค้าจะไม่สงสัยได้ยังไงคะ จากคุณ : Beminds เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 03:25:15

ความคิดเห็นที่ 75 เสียใจกับ จขกท ด้วย แต่ มีวีซ่า ไม่ได้การันตีว่าคุณจะได้เข้าประเทศปลายทาง เจ้าหน้า ตม.ปลายทาง สามารถปฎิเสธการเข้าประเทศของคุณได้ถ้าเค้ามี เหตุผลมากพอ ที่จะตัดสินได้ว่าคุณอาจจะไม่ได้มาเที่ยว อันนี้ก็น่าจะขึ้นอยู่กับว่าคุณมีพิรุธอะไรบ้าง การตอบคำถามต้องตอบอย่างมั่นใจ ไม่หลุกหลิก เรื่องติดต่อสถานทูตไทยในต่างประเทศ ลืมไปได้เลย แค่โทรให้ติดไม่รู้จะติดหรือปล่าว อีกอย่างสถานทูตไม่ได้มีหน้าที่ในตรงจุดนี้ นอกเสียจากว่าคุณเป็น เจ้าขุนมูลนาย ขรก หรือ พวก วีไอพี จากคุณ : Rainbowhunter เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 03:46:45

ความคิดเห็นที่ 76 ผมเคยเกือบงานเข้าที่เจเอฟเคครับ พอดีวีซ่ามันอยู่เล่มเก่า  เค้าถามว่าทำไมมีสองเล่ม  แล้วถามอีกว่า  มีเอกสารยืนยันมั้ยว่าเป็นคนเดียวกัน  ผมก็ชี้ให้เค้าดูหน้าที่สองของพาสปอตเล่มใหม่ซึ่งผมให้กระทรวงต่างประเทศแสตมป์รับรองมาแล้ว  แล้วเค้ายังจะขอเปเปอร์อีก ทีนี้เหงื่อแตกเลยครับ เค้าพาไปห้องกักตัว ซักพักเค้าก็เอาพาสปอตทั้งสองเล่มมาคืนโดนไม่ได้ถามอะไร รอดตัวไป แต่เข้าใจความรู้สึกคุณเจ้าของกระทู้ครับ  จากคุณ : Blue Begins With You เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 04:11:31 A:65.220.90.74 X: TicketID:271866

ความคิดเห็นที่ 77 แฟนเราอยากรู้วันเวลา และตม.ไหนที่คุณเข้า อยากรู้ข้อมูลว่าทำไมปฎิเสธคุณแบบนี้ มันง่ายจัง ที่นี้ให้มาทางตม.ทางอื่น อย่าไปทางนั้นอีก จากคุณ : เสียงซึง เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 05:54:02

ความคิดเห็นที่ 78 แล้วคุณยอมเซนต์อะไรไปหรือเปล่าละครับ เป็นผม ส่งกลับก็กลับ ไม่สนครับ แต่ถ้าจะให้เซนต์ไร ไม่เซนต์เด็ดขาด ภาษาเราก็ไม่ใช่ อย่างว่าประเทศนี้ใคร ๆ ก็ง้อเขา อยากไปกันมากมาย เคยมีความคิดจะไปเที่ยว แต่พอเห็นการขอวีซ่าแล้ว อนาจ แถวยาวเป็นกิโล เลยมานั่งคิด ตรูจะทำไปเพื่อ?????????? ถึงแม้จะมีญาติพี่น้องอยู่ก็ตาม ไม่ไหว อยากเห็นหน้าก็มาเองละกัน เพราะที่นี่บ้านเรา ไม่ต้องให้ใครมานั่งขู่ ตะคอก สัมภาษณ์ (ตรูขอวีซ่านะ ไม่ได้สมัครงาน) แต่ก็แปลกไปประเทศไหน ส่วนใหญ่ทางยุโรป ไม่ยักกะต้องสัมภาษณ์ หรือว่ามันมีแต่เมกาที่สัมภาษณ์ แล้วประเทศนี้ไปเที่ยวอะไรกันเหรอครับ ผมว่าประเทศเขาใหม่มาก ประเพณีวัฒนธรรม หรือภูมิหลังก็ไม่น่าสนใจเท่าประเทศที่เก่าแก่ มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ แต่การท่องเที่ยวของแต่ละคนอาจมีความสนใจไม่เหมือนกันก็ได้ แต่หากไปเยี่ยมญาติ ก็เปลี่ยนให้ญาติมาเยี่ยมเราซะ เงินจะได้ไม่รั่วไปให้กับประเทศที่ไม่อยากให้เราเข้า แค่ค่าวีซ่าก็สยิวแล้ว เสียดายตังค์ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 54 09:19:05 จากคุณ : SPORTERO (SPORTERO) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 09:02:42

ความคิดเห็นที่ 79 เสียใจกับ จขกท. ด้วยนะคะ แพลนว่าจะไปเที่ยวเร็วๆนี้เหมือนกัน จะได้จำไว้ว่าไม่ควรเอาอะไรไปด้วย จากคุณ : spaghettina เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 09:54:07

ความคิดเห็นที่ 80 I wonder only about your Thai food menu.... You will not be there alone, no need to bring... or if this shown your consideration for a trifle thing..I guess the US Custom might thing this is too much..till it became suspecious.. Your sister there, surely can support you for this small thing.. I've been to some countries that  I can read non of the languages, but never ever thought about bringing a menu! แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 13:47:12 แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 13:46:36 แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 54 13:45:59 จากคุณ : In Lost Angel'sList เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 11:22:05

ความคิดเห็นที่ 81 เรื่องติดต่อสถานทูตไทยในต่างประเทศ ลืมไปได้เลย แค่โทรให้ติดไม่รู้จะติดหรือปล่าว อีกอย่างสถานทูตไม่ได้มีหน้าที่ในตรงจุดนี้ นอกเสียจากว่าคุณเป็น เจ้าขุนมูลนาย ขรก หรือ พวก วีไอพี จากคุณ : Rainbowhunter ...................... ขอร้องว่าให้แฟร์ๆกันหน่อย เบาๆหน่อย การตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ระดับต่ำในเรื่องนี้ มีอานาจพอกับผู้พิพากษา ทำตามกฏหมาย ไม่ใช่ใครจะเข้าไปจุ้นจ้านได้ง่ายๆ หรือเขาจะมั่วๆ เจ้าหน้าที่ตมเองก็มีคนคอยจับตาอยู่แล้ว จะมาโทษสถานทูตไทยว่าไม่ช่วยไม่ได้ แม้แต่ สส ของเราบางคนยังขอวีซ่าไม่ได้เลย ทั้งที่มีเงินเป็นร้อยเป็นพันล้านอีกต่างหาก จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 13:01:08 A:71.114.49.147 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 82 น่าจะได้ออกรายการ border security เร็วๆนี้นะ แต่เสียดายแถวบ้านเราเค้าออกอากาศแต่ของออส นิว ยูเค คงอดดูฝั่งเมกาเลยว่าเป็นยังไง ใครได้ดูที่จขกท.(อาจจะได้)ออกทีวี มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะจ้ะ จากคุณ : cc เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 13:55:23 A:60.241.161.11 X: TicketID:271602

ความคิดเห็นที่ 83 บอกแล้วว่า ตม ของอเมริกานี่ถูกฝึกมาให้ขี้สงสัย คงตั้งโจทย์สมมุติฐานเป็นตุเป็นตะไปเรื่อย เรื่องที่เรามองว่าเป็นเรื่องขี้ประติ๋ว แต่พวกเขาสามารถมองต่อยอดไปไกลได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปจุดชนวนให้เขาตั้งโจทย์ได้เป็นดีค่ะ จากคุณ : ##ขออภัยป้ายหน้าไม่จอด## เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 15:32:19

ความคิดเห็นที่ 84 #82 ของเมกาก็มีครับ ชื่อ Homeland Security http://www.youtube.com/results?search_query=homeland+security&aq=f จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 18:13:07

ความคิดเห็นที่ 85 ได้มาแล้ว 10ปี กำลังจะไปเดือนหน้านี้แล้วเหมือนกันค่ะ อ่านแล้วกลัวเลย ขอถามบ้างละกัน พอดีมีเพื่อนอยู่โน่นด้วย แต่ยื่นวีซ่าบอกว่าไม่รู้จักใครเลย ไปเที่ยวเฉยๆ 2-3 อาทิตย์ เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนฝากซื้อแปลยวล เรากะจะยัดกระเป๋าโหลดไปใต้เครื่อง แล้วว่าจะโดนตรวจด้วยหรือเปล่าคะ หรือว่าเค้าค้นแต่กระเป็าที่ถือติดตัว จากคุณ : tikky เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 20:32:27 A:110.164.148.13 X: TicketID:291417

ความคิดเห็นที่ 86 มาแสดงความเสียใจกับเจ้าของกระทู้ค่ะ กำลังสงสัยว่าที่โดนค้นละเอียดยิบเพราะว่า มีญาตินามสกุลเดียวกันติดแบลคลิสต์หรือเปล่าค่ะ ปกติเค้าไม่น่าค้นละเอียดขนาดนี้ จากคุณ : meddy เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 22:20:03

ความคิดเห็นที่ 87 #83 ภรรยาของผมแอบไปฝึกกับต.ม.อเมริกามาแน่ๆ .. ... ...ขี้สงสัยไปซะทุกเรื่อง... ต่อยอดเก่งอีกต่างหาก ผมคงต้องรีบไปหัดวิธีการ"ดับชนวน"แล้วหละครับ จากคุณ : sleepless night เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 22:27:31

ความคิดเห็นที่ 88 เค้าไม่มีเกณฑ์อะไรมาวัดว่าคุณจะมาทำงาน แต่ แค้าก็ไม่มีเกณฑ์อะไรมาวัดว่าคุณไม่ได้จะมาทำ มีก็แต่หลักฐานในการครอบครองของคุณ และท่าท่างพิรุธ ทำให้ ตม เค้า "สงสัย" ว่าคุณจะมาทำงาน เราเชื่อว่าคุณเจตนาบริสุทธิ้ แต่มันพิสูจน์ไม่ได้ จากคุณ : Pammeluff เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 03:29:27

ความคิดเห็นที่ 89 คุณ sleepless night แต่ภรรยาคุณคงใจดีไม่ยกเลิกวีซ่าง่าย ๆ ละมั้ง 555555 จากคุณ : ##ขออภัยป้ายหน้าไม่จอด## เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 04:04:04

ความคิดเห็นที่ 90 เคยไป ตม.ที่นี่เหมือนกันค่ะ โดนล๊อคเข้าไปตรวจคนเดียวเลย วีซ่าท่องเที่ยว  เราเป็นผู้หญิงบินคนเดียว ตรวจละเอียดมาก จนเกือบตกเครื่องบิน ขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้ายเลย  ค้นทุกอย่าง ดูทุกนามบัตร ถามว่านามบัตรนี้ที่ไหน อย่างไง แล้วก็ไปตรวจในคอมอีกที ดูกระเป๋าตังเราอย่างละเอียด ดูใบเสร็จในนั้นด้วย เราซื้อเข็มขัดจากสนามบินที่ไทเปเห็นใบเสร็จก็ยังถามอีก แุถมขอดูเข็มขัดด้วย ตรวจเข้มจริง ๆ นึกว่าจะูถูกส่งกลับเหมือนกันค่ะ แต่ก็คิดว่าเราไม่มีเจตนา เลยผ่านมาได้ มาเห็นกระทู้นี้แล้ว เห็นใจจริงๆ ค่ะ เข้าใจสุดๆ จากคุณ : น้าปลิม เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 10:52:43

ความคิดเห็นที่ 91 เสียใจกับเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ ตอนนี้เมกาเข้มงวดกับการตรวจมาก ๆ เลยล่ะ ขนาดถือกรีนการ์ด ยังโดนหลายคำถามเหมือนกัน จากคุณ : sa_bkk เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 10:59:09

ความคิดเห็นที่ 92 ตอนเราไปอเมริกาเราก็พกตำราอาหารไปนะคะ จดสูตรอีกเล่มนึง เพราะว่าจะเอาไปทำให้โฮสแฟมิลี่กิน ซึ่งพอไปถึงก็ไม่ได้ทำหรอก ส่วนใหญ่ทำก็เปิดดูทางเน็ตอีกที เพราะฉะนั้นจขกท ทำก็ไม่แปลกหรอกค่ะ จากคุณ : ก้าวไปตามใจฝัน เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 11:01:59

ความคิดเห็นที่ 93 คุณ ก้าวไปตามใจฝัน ถือวีซ่าอะไรครับตอนเข้าประเทศ ผมเดาว่าวีซ่านักเรียนเพราะบอกวจะเอาไปทำกับข้าวให้ "โฮสแฟมิลี่" กิน ดังนั้นสถานการณ์ก็ต่างกันครับ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 12:34:07

ความคิดเห็นที่ 94 ถือกรีนการ์ดก็ยังโดนอีกเหรอค่ะ....ล่าสุดถือกรีนการ์คเข้ามา JFK ตม.ก็น่ารักดี มีชวนคุยนิดหน่อย แล้วก็ welcome home folks! จากคุณ : มา เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 14:39:00 A:24.215.241.179 X: TicketID:236456

ความคิดเห็นที่ 95 ขอแสดงความเสียใจกับจขกทด้วยค่ะ  ดิฉันก็เคยผ่านตม.ที่ซานฟราน ปรกติจะไม่เคยเจอตรวจกระเป๋าเลย แต่เที่ยวนั้นเจอตม.ที่เป็นคนจีนขอให้เปิดกระเป๋า ก็ไม่เจออะไรที่ผิดปรกติ เจอแต่เครื่องใช้ผู้หญิงน่ะ อิอิ ตรวจช้ามากจนเกือบจะต่อไฟลท์ไปโคโรลาโดไม่ทัน ก็เลยต้องบอกตม ว่าจะไม่ทันเครื่องแล้ว นั่นแหละถึงได้ปล่อยเราไป เผอิญว่าดิฉันไม่ได้พกตำราอาหารอะไรไป มีแต่ชื่อพวกผงปรุงอร่อยชัวร์ แล้วก็เครื่องแกงสำเร็จรูป ของโลโบ และมีชื่อของเพื่อน กับที่อยู่ที่จะไปพักกับเขา ตม.ก็ถามว่าเพื่อนที่จะไปพักชื่ออะไร หลังจากนั้นก็จบ จากคุณ : redrose (rose_of_north) เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 21:11:21

ความคิดเห็นที่ 96 กำลังจะไปมีนา นี้ค่าาาา เกิดความกลัวขึ้นมาตะหงิดๆ T.T แต่มั่นใจๆไว้ก่อน จากคุณ : bikini bottom beach เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 23:37:45

ความคิดเห็นที่ 97 ตอนเราไป ไปลงที่ Minneapolis นะคะ เจอ ตม.เป็นผู้หญิงค่ะ เราตอบตามตรงว่าเราไปหาแฟน (แต่เป็นคนอังกฤษ) ซึ่งเขาก็ไปเยี่ยมแม่ที่โน่นเหมือนกัน เราบินคนเดียวค่ะ เตรียมเอกสารเอาไว้ที่กระเป๋าหมด หนังสือเชิญจากแม่ ที่อยู่ นามบัตรที่ทำงานของเรา เอกสารจากที่ทำงานติดตัวว่าเราลาพักร้อนไปเทีียวจริงๆ ไม่ได้โดนค้นกระเป๋า แต่เจอตม.น่ารัก เขาถามว่ารู้จักกันแฟนได้อย่างไร เราก็บอกว่าเจอกันที่บ้านเรา (พัทยาด้วยนะคะ เหอเหอ) ถามเราทำงานอะไร (เอ็นจีโอ) แล้วเขาก็บอกว่า เป็นรักระหว่างประเทศที่โรแมนติกมากนะคะ คิดว่า อยู่ที่การแสดงออกแต่ละบุคคลด้วยนะคะ ว่าเราถูกมองภายนอกแล้วเป็นอย่างไร (จริงๆ เราหน้าตาออกไปแนวผู้หญิงทำงานเหมือนกันนะคะ เอิ๊ก) เขาอาจจะสงสัยว่าเราไปทำงานได้ คงต้องตอบด้วยความมั่นใจ และศึกษาจากเพื่อนๆ ในห้องนี้แหละค่ะ ยังไง ให้กำลังใจในการขอวีซ่าครั้งหน้านะคะ  ^ ^ จากคุณ : เค้าว่าหนูเป็น borderline เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 15:23:23

ความคิดเห็นที่ 98 ถ้าเป็๋นผม มีเดือด จากคุณ : liltonie เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 19:39:00

ความคิดเห็นที่ 99 เสียใจด้วยครับ แต่ด้วยเอกสารทำให้ ตม สงสัยได้แน่ๆ จากคุณ : pukkhom เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 20:18:12

ความคิดเห็นที่ 100 เล่าประสบการณ์ขาสั่น เพิ่งเมื่อสามวันนี้เอง เข้าด่านตม ที่ดีทรอยท์ ถูกตำรวจหญิงผิวหมึกร่างใหญ่พาเข้าห้องสอบสวน เข่าอ่อนเลย แต่กรณีดิฉันก็น่าสงสัยจริงๆ - พาสปอร์ต 2 เล่ม มีวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาอยู่ในเล่มเก่า รับรองมาในเล่มใหม่ที่ว่างเปล่า -ผู้หญิงตัวคนเดียว เข้าสหรัฐ 3 ด่าน ภายใน 5 ปีที่แล้ว มีข้อมูลบันทึกในพาสเก่าที่หมดอายุแล้ว -จะอยู่นานถึง 4 เดือน เพราะ eary retire มา ในห้องมีราว 20 คน ทั้งจีนทั้งแขก ดิฉันถูกซักละเอียด ขอดูทะเบียนสมรส ตรวจสอบข้อมูล โทรถามสามี ระยะการคอย 2 ชั่วโมงครึ่ง อยากร้องไห้ อยากกลับบ้านมาก กลัวติดคุก กลัวถูกซ้อม กลัวสารพัด แต่ต้องทำใจให้เข้มแข็ง เรามาดี มีเหตุผล เขาคงไม่ใจร้าย อย่างไรคุณตำรวจก็ช่วยโทรบอกสามีทีเถิด อิฉันจะเผ่นกลับเมืองไทยล่ะ กระป๋งกระเป๋า รื้อแล้ว เอาไปเลยก็ได้ เจ้าหน้าที่สุภาพมาก ไม่ดูถูกดูแคลนอะไรเลย ไม่ยิ้ม ไม่บึ้ง แต่เหมือนพร้อมรับฟังหลักฐาน สุดท้ายเขาก็ประทับตราให้อยู่ 6 เดือน ดิฉันอยากต่อรองว่าขอแค่ 10 วันก็ได้ ขอแค่เจอสามีแล้วจะรีบกลับทันที จริงๆนะ ไม่อยากอยู่หรอก อเมริกา หนาวก็หนาว มีแต่คนตัวโตๆ ออกมาได้เป็นคนสุดท้าย หนาวเยือกหัวใจ อยากกลับบ้านมาก น้ำตาคลอ ตอนเขาปล่อยตัว เขาคงเวทนา เลยพามาส่งที่ช่องศุลกากร และทางต่อเครื่อง รีบจ้ำอ้าว แต่ก็ทันเห็นแววตาปรานี และยิ้มมุมปากของตำรวจคนนั้นแว่บหนึ่ง จึงได้ทราบว่า จนท ด่านมีสิทธิสงสัย มีสิทธิตรวจค้น มีสิทธิไม่ให้เขาประเทศถ้าไม่อยากให้เข้าโดยมีเหตุผลมากพอ และเคสดิฉันก็สมควรแล้วที่เขาจะกักตัวสอบสวน เขาทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว จากคุณ : jeejeeberry เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 20:44:22

ความคิดเห็นที่ 101 เมื่อปี 2003 ไปฮาวาย โดนสัมภาษณ์ประมาณ 45 นาที ด้วยข้อสงสัยทำไมใน Passport มีการเดินทางเข้าออก ประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางมากมายหลายๆครั้ง แต่ก็ผ่าน ได้มาหกเดือน และเมื่อปีที่แล้วโดนกรณีเดียวกันที่สนามบิน LA ถูกส่งเข้าห้องสัมภาษณ์ แต่ก็รอดพ้นจากการถูกส่งกลับ แสตมป์ให้หกเดือน ผมเดินทางเข้าอเมริการ่วมสิบครั้ง มีสองครั้งเท่านั้นที่โดนสัมภาษณ์ เพราะในพาสปอร์ตมีตัวถั่วงอกเยอะเกินขนาด จากคุณ : จำปาลาว เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 21:50:03 A:58.11.79.222 X: TicketID:255218

ความคิดเห็นที่ 102 มาเยี่ยมพี่สาว  พี่สาวทำงานร้านอาหาร  และลุงก็เปิดร้านอาหาร .... พี่ไม่กลับไทย 4-5 ปีแล้ว มันก็ชวนคิดอยู่แหละจ้ะ.............. แต่สงสัยอยู่ว่า ทำไม จนท ถึงไม่ให้ติดต่อพี่สาวคุณ จากคุณ : Piano Player เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 01:14:36

ความคิดเห็นที่ 103 พูดตามตรงนะ เราเป็นตม. เจอแบบคุณ เราก็ส่งกลับค่ะ น่าสงสัยอย่างแรง จากคุณ : blackbillaz เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 01:54:05

ความคิดเห็นที่ 104 ขอแสดงความเสียใจต่อ จขกท ด้วย คิดเสียว่า เป็นประชาชนไทยถือหนังสือเดินทางไทย ต้องทำใจ คนอเมริกันและอีกหลายประเทศ มาเที่ยวและพักในเมืองไทยได้ไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า จากคุณ : บอนเนอร์ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 02:56:04

ความคิดเห็นที่ 105 ผมว่าถ้าเจ้าของกระทู้พูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่านี้ ถามอะไรมาตอบได้หมด ก็น่าจะ ok แล้วนะ ... จากคุณ : ผัดไทยกุ้งสด เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 04:11:28

ความคิดเห็นที่ 106 เสีียใจด้วยค่ะ แต่ฟังที่เล่ามา เราว่าก็น่าสงสัยจริงๆ นั่นล่ะค่ะ ไม่เกี่ยวกับเอาเสื้อสูทไปหรืออะไรหรอกนะคะ เอาเมนูอาหารมาแล้วบอกว่าจะเอามาไว้พูดคุย???   คงจะมีรายละเอียดอะไรที่มากกว่านี้ เท่าที่ทราบมา ถ้าไม่น่าสงสัยจริงๆ เขาไม่ส่งกลับหรอกค่ะ จากคุณ : Pacosan เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 06:03:40

ความคิดเห็นที่ 107 ตอนนี้ตม.เข้มมากค่ะ เรามาหาแฟนที่อเมริกาทุกปี (ตั้งแต่ 2006-ปัจจุบัน) ไม่ เคยมีปัญหา มีครั้งนี้แหละค่ะ ครั้งแรกที่โดนส่งไปสัมภาษณ์เหมือนกันแต่ไม่ใช่ห้องเย็นค่ะ เป็นห้องที่มีเจ้าหน้าที่ที่เปิดดูเอกสารเราอย่างระเอียด แล้วก็เรียกเรามาสัมภาษณ์ที่หน้าคอมพิวเตอร์ จนท.ในห้องนี้กะในกล่องที่เจอตอนเข้าแถวทีแรกเค้าถามเหมือนๆกัน เค้าถามว่าแฟนชื่ออะไร ทำอะไร เจอกันยังงัย หาแฟนคนไทยไม่ได้เหรอ (อันนี้ปรี๊ดมาก ขอบอก ตอนที่ได้ยินชักตะหงิดๆและ) คราวที่แล้วอยู่กี่เดือน เราบอกสามเดือน คราวนี้จะกลับเมื่อไร ไหนตั๋วกลับ เราไม่ได้ปริ๊นตั๋วกลับมาด้วย แล้วให้เราสแกนมือแต่ข้างเดียว เท่าที่จำได้เราจะต้องสแกนมือทั้งสองข้าง พอเค้าบอกให้เรารอ จนท มาพาไปเราใจแป้วเลย  เต่เชื่อมั๊ยคะ จนท ในห้องนี้ เค้าสุภาพกว่า เค้าพยายามพูดให้เราหาหลักฐานมายืนยันว่ามาเที่ยวขอดูในตั๋วอีเมลล์เราอ่ะ เราเลยเปิดให้เค้าดูว่าเรามีตั๋วกลับจริงๆ เสร็จแล้วเค้า ก็ ปั๊มมาให้ 6 เดือน แต่ในใบเล็กที่เราต้องกรอกเค้าปั๊มให้เป็น ปีกะหกเดือน เราคุยกะแฟน คิดว่าเค้าน่าจะทำกับดักๆ เราอ่ะค่ะ แฟนบอกไม่หรอกเค้างง ปี ก็เล่นปั๊มมา 4 July 2012 จริงๆ ต้องปั๊มว่า 2011 ตอนที่เค้าปั๊มให้แล้วเราก็ถามเค้าว่า เราไม่ได้จะ ไม่สุภาพนะแต่ต้องการทราบว่าทำไมเราถึงถูกส่งมาห้องนี้ เพราะเราไม่เคย อยู่เกิน 6 เดือน คราวที่แล้วเราอยู่แค่สามเดือน เค้าบอกนั่นแหละ สามเดือนอ่ะถือว่านาน หูย เข้มค่ะ เราว่าเรารอดมาอีกอย่าง เพราะ เล่มเรา(สองเล่ม) มีปั๊มว่าเราเที่ยวไปทั่ว เป็นคนรักการท่องเที่ยวจริงๆ :) ขอแนะนำว่า อย่าพกอะไรที่ส่อว่า จะมาอยู่ อย่างเช่น เมนู ชุดไทย ชุดสูท ทรานสคริป ทะเบียนบ้าน อะไรพวกนี่ จนท ค้นเจอก็ต้องคิดว่มาทำงานค่ะ แผนการท่องเที่ยว เอกสารจองโรงแรม หรือ ตั๋วกลับควรจะปริ๊นติดตัวไว้ด้วยนะค่ะ จากคุณ : sabine (Sabine) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 10:32:22

ความคิดเห็นที่ 108 มาร่วมแชร์และขอแสดงความเสียใจ ขอใหม่ค่ะ ถ้าไม่โกรธหรือใจฝ่อจนหมดแรง เข้าออกอเมริกาและบินในประเทศนี้มาทั้งทางเรือและทางอากาศหลายรอบ มีถูกตรวจค้น 60 เปอร์เซนต์ ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ก่อนไปพักร้อนที่ฟอริด้ากับแม่สามี ป้าและยาย ขนลูกหนีหนาว แค่จากสนามบินบ้านนอกในนิวยอร์คไปฟอรดลอเธอเดลเอง โดนทั้งตอนขาขึ้นกับขาล่อง ตอนขาขึ้นมันบอกว่าเรามีของที่เหิดตรวจสอบไม่ได้คือกล่องนม (เอาไว้ให้ลูกดื่มตอนเครื่แงขึ้นแก้หูอื้อ) มันตรวจทุกกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่อง ตอนขากลับมานิวยอร์ เราก็เอานมใส่ขวดนมแทนเพราะใครๆก็ทำกัน ไอ้ครอบครัวที่อยู่หน้าเราเค้าก็ผ่าน ของข้าโดนตรวจอีกแล้ว เราเลยถามเจ้าหน้าที่ว่าอะไรที่ทำให้คุณต้องตรวจครั้งหน้าจะได้ไม่เอามา เค้าก็บอกว่าไม่ใช่ของหรอกกระเป๋าน่าสงสัย ไม่มองหน้า เราก็เดาออกว่าคงเป็นที่ข้ากระมัง เพราะ มานั่งคิดๆๆ ที่เข้าออกในประเทศก่อนหน้านี้ที่ไม่มีปัญหาคงเป็นตอนที่เราอ้วนเหมือนเป็นอีป้าอายุ 40 ลูกน้อยขนาบซ้ายขวา แต่ตอนที่โดนตรวจหนัก แถมโดนกักและพูดต่อหน้าก็เป็นตอนที่ข้าผอมสวย คงคิดว่าเรามาทำอะไรอื่นๆ ครั้งแรกที่เข้ามาประเทศนี้โดนแบบเอ๋อมากเพราะไม่คิดว่าเข้าประเทศนี้จะเรื่องมากขนาดนี้และเราก็ไม่ได้อยากมาสักเท่าไหร่แค่มาตามคำสั่งกรมฝึกงาน เราทั้งโกรธทั้งอายเพราะไม่คิดว่าจะโดน เพราะเข้าช่องตรวจก็บอกว่ามาฝึกงาน เรามีเอกสารเป็นแฟ้มจากที่ฝึกงานทั้งของทางรัฐและของที่นี่ มันถามว่าเราทำอะำำไรก็บอกว่าเป็นข้าราชการนักจิตวิทยา มันตอบว่า ไม่เชื่อว่าเราเป็นนักจิตเพราะอายุน้อยดูไม่สม พี่พยาบาลอีกคนก็โดนกักพอเข้าห้องมาเจอกัน(ตอนเข้าตอมอเข้าแยกช่องมากันเป็นคณะ)พี่เค้าบอกว่าตอมอว่าพี่เค้าสวยเกินกว่าที่จะเป็นพยาบาล แต่ท้ายที่สุดเค้าก็ปล่อย เพราะเค้าโทรไปตวจกับสถานที่เราจะไปฝึกงาน สาบานว่าพอกันทีกับประเทศนี้ไม่มาอีกแล้ว เพราะไปที่อื่นๆไม่เคยมีปัญหามีความสุขสนุกสบาย กลายเป็นว่าต้องมาอยู่และก็มีอีกเรื่อยๆๆ หลายรอบ ขี้เกียจเล่าเบื่อมัน เลยทำใจ ก็ว่าปีนี้จะไปทำซิติเซ่น ดูซิว่าถ้าเราเป็นซิติเซ่นแล้วมันจะมีปัญหากับเราอีกไหม จากคุณ : Haniballector เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 21:26:27

ความคิดเห็นที่ 109 555 ฟังแล้วขำตัวเอง เพิ่งโดนส่งตัวกลับมาเหมือนกัน ตม.ANCHORAGE ที่เดียวกันเลย China airline ไปถึง21/01/11 คล้ายๆกันเลย จำได้ว่าแถวยาวมากแต่เรียกเราเหมือนจะลัดคิวให้เราก็ดีใจโห้ใจดีจัง ถามเราจะอยู่กี่วันจะไปไหนบ้างเราก็ตอบไป แล้วก็เรียกเข้าห้องสัมพาดค้นทุกอย่างในกระเป๋า เจอทรานสคริปเราก็ถามว่าเราจะมาทำงานเหรอ แต่เราทำตั๋วมาสองใบ ใบหนึ่งกลับหนึ่งเดือนอีกใบกลับสี่เดือน ก็เลยโกหกไม่ออก ก็เลยบอกไปว่าเออชั้นโกหก ชั้นจะมาเรียนภาษาอังกฤษสี่เดือน เค้าก็บอกว่างันต้องทำวีซ่านักเรียน เราต้องส่งตัวคุณกลับ เค้าก็ถามถามทุกอย่าง ต่อไปนี้คุณต้องตอบตามความจริง ไม่งันคุณจะติดคุก เราก็อ้าวแล้วที่กรูโกหกไปก่อนหน้านี้ล่ะ เค้าบอกไม่เป็นไรแต่ต่อนี้ไปห้ามโกหก จะไปเรียนที่ไหน ค่าเรียนเท่าไหร่ พักที่ไหน รู้จักใครบ้าง มีแฟนไหม มีเงินเท่าไหร่เราเอาไป 8000us เค้าเลยให้เราพกกระเป๋าตังติดตัวตลอดเวลา นอกนั้นยึดหมด เราก็บอกเค้าว่าดูสิตอนเรียนโทไม่มีเรียนภาษาอังกฤษ แค่จะมาเรียนภาษาอ่ะผิดด้วยเหรองันเอาอย่างนี้ได้ไหม ให้ชั้นไปเรียนแล้วเด้วขอเอกสารจากมหาลัยแล้วมาเปลี่ยนเป็นวีซ่านักเรียนได้ไหม เค้าก็บอกไม่ได้ เราก็เลยขอใหม่เอางี้ได้ไหมชั้นมีวีซ่าท่องเที่ยวชั้นขอไปเยี่ยมเพื่อนสักเดือนหนึ่งได้ไหม เค้าก็บอกไม่ได้ เราก็เลยขอใหม่สุดท้ายแล้วขอเที่ยวเล่นที่อลาสก้าสักอาทิตย์หนึ่งได้ไหม ชั้นยังไม่เคยเห็นแสงออร่าเลยอ่ะอยากเห็น555 แต่เดือนนี้ไม่มีนะ คิดดูนะมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นเทือกเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะเป็นสีขาวโพนไปหมดสวยมากกกกกก เค้าก็ไม่ให้เซ็ง.....แต่ตอนอยู่ในห้องสอบอ่ะ โทรศัพท์เรามันอยู่บนโต๊ะ เราก็เลยแทงโก้หาเพื่อนอ่ะ เป็นวีดีโอคอลอ่ะ เวรกำบอกเพื่อนๆดันไม่เชื่ออ่ะ เพราะไรรู้ไหม เรามาอ่านกระทู้นี้ก่อนแล้วพูดเล่นกับเพื่อนว่าเด้วก็โดยส่งกลับขำๆๆ แต่ดันโดนจริง เพื่อนมาเชื่อตอนที่เราเอากล้องถ่ายรอบห้องให้ดู แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าห้ามใช้โทรศัพท์ เพื่อนได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ก็เลยเชื่อ เราอยากรู้ว่าคุณเจ้าของกระทู้นี้ได้เอกสารอะไรไหม เค้าให้เอกสารอะไรคุณมาไหม เค้าดูแลคุณดีหรือป่าวระหว่างอยู่ที่นั่น......เรื่องมันยาวขอเล่าแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะค่ะ จากคุณ : Burger เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 22:51:59 A:58.8.21.148 X: TicketID:304188

ความคิดเห็นที่ 110 เน้น ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 20:32:11

ความคิดเห็นที่ 111 บางครั้งการเข้มงวดของตม.ที่จะตรวจเข้าประเทศสร้างปัญหาให้กับผู้เดินทางก็จริงค่ะ ในกรณีจขกท น่าเห็นใจเป็นอย่างมากค่ะ แต่หากคิดในทางกลับกันการเข้มงวดเช่นนี้ จะทำให้คนที่ถูกหลอกมาทำงานอะไรก็แล้วแต่ ได้ผลประโยชน์นะคะ เป็นกำลังใจและขอสนับสนุนให้ขอวีซ่าใหม่ค่ะ จากคุณ : fahtsuki เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 54 16:09:04

ความคิดเห็นที่ 112 ไอคนช่วยแปลภาษามันพูดให้ผิดๆป่าว?  ถ้าพูดดีๆไม่น่าโดนหรอก  ผมว่ามันพูดผิด จากคุณ : SKYWOLF เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 09:20:25

ความคิดเห็นที่ 113 ถ้าไม่เซ็นต์ไปด้วยธุระ จรืงๆ ต้องห้ามเซ้นต์ แต่ติืดคุกเดือนจนไปพบศาล อาจจะชนะ จากคุณ : หลุงหลลิง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 54 14:42:46 A:71.204.164.111 X: TicketID:147542