.
.
ประเทศที่เราอยู่ มันก็มีมุมที่ดีกว่าไทย แต่ก็มีไม่น้อยนะคะที่ไทยเราดีกว่า
ขอเม้าท์ด้านไม่ดีแล้วกัน ...
เบื่อเวลาติดต่อธุระทางราชการที่นี่มาก ๆ เพราะต้องเสียเวลาคอยไปทั้งวัน
นานที่สุดที่เคยเจอคือตอนไปทำบัตรประจำตัว เริ่มรับบัตรคิวตอนแปดโมงครึ่ง ได้อันดับที่ 40
ตอนแรกก็หลงดีใจว่าได้คิวต้น ๆ ( อุตส่าห์มารอเข้าคิวตั้งแต่ฟ้าสาง )
ไป ๆ มา ๆ กลับต้องใช้เวลาตั้งแต่แปดโมงครึ่งจนถึงห้าโมงเย็นนู่นกว่าจะถึงคิวตัวเอง
เทียบกับที่ไทย การติดต่อราชการทำบัตรประชาชน ต่อใบขับขี่ ทำพาสปอร์ต
แม้แต่ไปรษณีย์ ธนาคาร หรือเวลาไปพวกศูนย์โทรศัพท์เครือข่ายต่าง ๆ
จากประสบการณ์คิดว่าพวกระบบคิว ขั้นตอนการดำเนินการเวลาติดต่อธุรกรรม หรือการทำงานของพนักงานต้อนรับ
จะทั้งเอกชนหรือสถานที่ราชการ ล้วนแต่ดูแลลูกค้าดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เสร็จธุระได้อย่างรวดเร็ว
เรื่องเหลื่อมล้ำทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสถานนะทางสังคมที่นี่ก็มี ไม่ใช่ไม่มีนะคะ ....
เมืองที่เราอยู่เป็นสถานที่ตากอากาศอันดับต้น ๆ ของโลก ปี ๆ นึงนักท่องเที่ยวแห่กันมาไม่รู้ต่อเท่าไหร่
มีคนรวยล้ำฟ้าขับรถสปอร์ตเลียบทะเลผ่านไปผ่านมา เรือยอร์ชลำโต ๆ จอดกันเต็มท่า
ติดทะเลก็เป็นสนามบิน มีเจ๊ทส่วนตัวขึ้นลงกันให้พรึ่บ ...
แต่ลองมองไปที่บริเวณติด ๆ กันสิ ...
จะเจออาคารเหมือนแฟลตเคหะแออัดยัดเยียด ทัศนียภาพไม่โสภา คนที่อยู่โซนนั้นสภาพชีวิตก็ไม่ได้ดีอะไร
แม้แต่คนที่นี่เองก็ยังเตือนให้เลี่ยงไปโซนนั้นเพราะเผลอ ๆ จะโดนดักปล้นไม่รู้ตัว
ในเมือง ย่านช๊อปปิ้งที่ขายแต่ของแบรนด์เนม ....
ผู้คนก็แต่งตัวเก๋ ๆ ประหนึ่งหลุดมาจากแมกกาซีน คนนั้นก็หล่อคนนี้ก็สวย เหลียวมองกันจนคอเคล็ด
แต่เดินเลี้ยวเข้าซอยออกไปอีกหน่อยก็เจอของก๊อปปี้วางแบกะดินขายเย้ยตำรวจ
คนจรจัดขอทานร้องเรียกขอเศษเงิน และหนุ่มแว๊นสาวสก๊อยต์หัวทองก็เยอะแยะไป
กลางคืน ณ ริมทะเล ที่บรรดาคู่ฮันนีมูนทั่วโลกลัดฟ้ามาเดินทอดน่องดื่มด่ำความโรแมนติก
เดินข้ามถนนมาอีกหนึ่งบล๊อค ก็จะเจอน้อง ๆ ผีเสื้อราตรี แต่งตัววับ ๆ แวม ๆ คอยโบกรถเรียกแขก
เคยเจอคนบางคนในสังคมไทยบอกว่า
"สมัยนี้ต้องแข่งกันเรียน แค่ ป.ตรี ไม่พอแล้ว
ใครเรียนสูง ใครเรียนโรงเรียนดัง มหาลัยดังจะได้เปรียบ
ไม่เหมือนเมืองนอก เขาวัดกันที่ความสามารถ ไม่สนใจดีกรี ไม่บ้าปริญญา บลา ๆ ๆ .... "
แต่ที่นี่ก็ไม่เห็นต่างกัน แม้แต่คนที่เป็นพลเมืองที่นี่ก็ยังหางาน(ดีๆ)ยาก เพียงเพราะเรียนมหาลัยไม่ดัง เรียนไม่สูง เกรดไม่สวย
.
.
สมัยที่เราและสามีอยู่กทม ...
ก็อยู่ในหมวดชนชั้นกลางที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่โอเค ซึ่งคงไม่ต่างจากชีวิตที่คุณเล่ามา
แต่สามีมาเรียนต่อและมีโอกาสได้งานที่นี่ เราก็หอบหิ้วย้ายชีวิตมาด้วยกัน
ถามว่ามีความสุขกับการใช้ชีวิตต่างแดนไหม มันก็มีค่ะ ...
คุณภาพชีวิตโดยรวม การศึกษา ประกันสุขภาพ อากาศ อาหารการกิน-วัตถุดิบที่นี่ดีจริง ต้องยกให้เขา
แต่ยังไม่ถึงขนาดคิดว่าตั้งใจปักหลักตั้งรกราก มีลูก หรือขอซิตีเซ่น และก็ไม่ได้สรรเสิญเยินยอจนลืมว่าเมืองไทยเราก็มีดี
ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองไทย หรือประเทศที่เจริญแล้วทั่วโลก .. เหรียญมันมีสองด้านเสมอค่ะ ^_^
แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 05:19:42