ความคิดเห็นที่ 1 - อายุ 30 ปี ถ้าเป็นโครงการ WAT มันเกินนะึคะ แต่เราไม่แน่ใจว่าคุณ จขกท. ไปกับโครงการอะไร ยังไงลองเช็กดูค่ะ ถ้าอายุยังอยู่ในเกณฑ์ของโครงการและไม่ผิดกฏ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอกค่ะ อาจจะถูกซักไซ้มากกว่าคนอื่นนิดหน่อย แต่ถ้าเตรียมคำตอบไปชัดเจน ก็ผ่านได้ไม่ยาก ^^ - หลักฐานผูกพัน จะพกไปเผื่อก็ได้ค่ะ แต่ปกติเค้าไม่ดูนะคะ เค้าจะดูแค่เอกสารที่เค้าสั่งให้เตรียมไปเท่านั้น - เรื่องสาขาที่เรียน ก็เตรียมคำตอบไปเช่นกันค่ะ ช่วยได้ทุกปัญหา ><~ จุดสำคัญคือตอบให้ดูน่าเชื่อถือ ทำยังไงก็ได้ให้เค้ามั่นใจว่าเราไม่ได้ไปแล้วไปลับเน้อ เอาใจช่วยค่า สู้ๆ ^^ จากคุณ : Hell Horizon เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 09:28:49

ความคิดเห็นที่ 2 เขาสอบได้ทุนไปเรียนต่างประเทศครับ ไม่เกี่ยวกับ WAT จากคุณ : aPriciTaS เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 12:42:15

ความคิดเห็นที่ 3 - อายุไม่มีผลต่อวีซ่านักเรียนทุน J-1 ครับ - ไม่มีที่ดิน รถ บ้าน แล้วทุกวันนี้คุณอยู่ยังไงครับ พอมีสินทรัพย์เช่นเงินฝาก หรืออะไรทำนองนี้มั้ย เพราะทะเบียนบ้าน , บัตรประชาชน และ รูปถ่ายของพ่อแม่คุณ ไม่ได้ช่วยอะไร - ประสบการณ์ทำงานของคุณช่วยได้ แต่เตรียมตอบคำถามกงสุลเรื่องจะไปเรียนไม่ตรงสายให้ดี ถึงขั้นสอบได้วีซ่านักเรียนทุนแบบนี้ ไม่ต้องกลัวเรื่องวีซ่าจะไม่ผ่านหรอกครับ ผมเชื่อว่าคุณภาษาอังกฤษดีในระดับนึงเลยล่ะ วีซ่านักเรียนทุนส่วนใหญ่แล้วก็จะออกค่าใช้จ่ายในการศึกษาไม่บางส่วนก็ทั้งหมด รวมถึงค่าครองชีพแต่ละเดือนด้วย ลองดูว่าใน DS-2019 เค้าระบุว่าอย่างไร ปล. ฝากถึงคนที่เข้ามาอ่านแล้วอาจจะงง J-1 วีซ่ามี 2 ชนิดครับ แบบ W&T กับแบบนักเรียนทุน จากคุณ : Death Of Heretic Angels เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 14:23:45

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณทุกคนที่ช่วยแนะนำค่ะ เราสอบได้ทุนค่ะ และทุนนั้นเป็นของโบสถ์ค่ะ เราเป็นคริสต์ มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่ดีมากและเป็นที่ยอมรับในสถาณฑูตค่ะ ทุนจ่ายให้70%(35%เป็นทุนให้เปล่าค่ะแต่อีก35% เป็นLoanค่ะ แต่ส่วนที่เป็นLoanจะยกให้ทันทีที่เราเรียนจบและกลับมาอยู่ประเทศไทยครบ4ปีค่ะ) ส่วนอีก30% เราทำงานในมหาวิทยาลัยและจ่ายส่วนนี้เองค่ะ ทั้งหมดนี้คือรวมค่าเล่าเรียน ค่ากิน3มื้อ และค่าหอพักในมหาวิทยาลัยและค่าครองชีพแล้วค่ะ เราได้ทำสัญญารับทุนและโอนค่าตั๋วเครื่องบินค่ากลับให้มหาวิทยาลัยไปแล้วค่ะ(เป็นเงื่อนไขที่ต้องโอนค่าตั๋วกลับก่อนค่ะ เพราะถ้าเราทำผิด มหาวิทยาลัยจะส่งเรากลับทันทีค่ะ) คุณ Death of Heretic Angels คะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ เราไม่มีที่ดินหรือบ้านเป็นของตนเองค่ะ รถก็ไม่มีค่ะ ครอบครัวเราเช่าบ้านอยู่ค่ะ เรามีรถมอเตอร์ไซค์แต่ไม่มีรถยนต์ค่ะ เงินฝากเรามีค่ะตอนนี้มีเงินเหลือในบัญชีประมาณ 70000บาทค่ะ (เงินที่เหลือทั้งหมดจากหักค่าจ่ายสำหรับการไปเรียนจ่ายหมดแล้วเหลือแต่ค่าตั๋วเครื่องบินขาไปค่ะ) สินทรัพย์เรามีแค่นี้ค่ะ สิ่งที่เรากังวลคือในการขอวีซ่า เขาระบุว่า ผู้สมัครต้องแสดงหลักฐานความผูกพันนอกสหรัฐ คือผู้สมัครไม่จงใจไปอยู่ที่นั่นถาวร  เจตนาของเราคือไปเรียนจริงๆ กลับมาเป็นครูสอนภาษาอย่างที่เรารัก ดูแลพ่อแม่ และเราตั้งใจจะสอนภาษาอังกฤษฟรีให้คนที่ตั้งใจจะเรียนแต่ยากจนด้วยค่ะ  นั้นคือเหตุผลที่เรามีและเป็นความจริง (ตอนนี้เรามีสอนภาษาอังกฤษฟรีให้คนอื่นด้วยค่ะ)  แต่เราไม่มีหลักทรัพย์ใดๆที่จะเอายื่นกับทางสถาณฑูตเลยค่ะ เราก็เลยกังวลเรื่องนี้ ถ้าถามว่าอะไรคือหลักฐานความผูกพันที่ประเทศไทย เรามีแต่พ่อแม่ที่นี่ที่เรารักและทำทุกอย่างเพื่อพวกเขาค่ะ ในDS2019 ระบุว่าไปเรียนTESOL ค่ะ ค่าใช้จ่ายในแต่ละีปีมหาวิทยลัยระบุไว้ว่ามหาวิทยาลัยจ่ายให้เกือบทั้งหมด โดยเราต้องรับผิดชอบจ่ายเอง 1300USD/ปีค่ะ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างDS2019 ครอบคลุมไว้หมดแล้วค่ะ รบกวนช่วยแนะนำเพิ่มเติมด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ส้มเจี๊ยบ เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 15:08:21

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ Hell Horizon คะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจค่ะ ^^ จากคุณ : ส้มเจี๊ยบ เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 15:10:25

ความคิดเห็นที่ 6 70,000 เหลือเฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินขาไป ส่วนค่าใช้จ่ายต้องรับผิดชอบเอง 1,300USD ต่อปี ไม่ได้เยอะครับ คุณจ่ายได้แน่นอน งั้นคงต้องถามว่ามีหนี้ที่ยังต้องชำระหรืออะไรพวกนี้มั้ยครับ ไม่ต้องอายฮะ ยิ่งเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะมันเป็นเอกสารสำคัญ ในการที่จะบ่งบอกว่าคุณต้องกลับมาชำระหนี้แน่นอน ถ้าไม่มีหนี้ผมก็คิดไม่ออกแล้วครับ คงต้องไปตั้งกระทู้หน้าห้องหลัก ซึ่งตรงนั้นมีคนให้คำตอบคุณได้ชัดเจนกว่าผมแน่นอนครับ จากคุณ : Death Of Heretic Angels เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 15:59:27

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนนี้จขกท.ทำงานอยู่ไหมคะ ถ้าทำงานอยู่ ก็จะช่วยเรื่องใบรับรองได้ดีขึ้นว่ากลับมาแน่ๆ แต่ถ้าไม่ จากที่อ่านมา คิดว่าก็คงต้องเน้นเรื่องว่า ยังไงเราก็กลับมาดูแลพ่อแม่แน่นอน จากที่เขียนมาคิดว่าหลักฐานก็แน่นระดับหนึ่งนะ เพราะยังไงทางโบสถ์ก็สามารถช่วยรับรองได้ในระดับหนึ่ง หากทางสถานฑูตจะโทรไปถาม ทางโบสถ์คงยืนยันได้ว่าคุณเสียเงินนู่น นี่ นั่น ไว้แล้ว และหากมีปัญหา คุณโดนส่งกลับแน่นอน ปัญหาอีกนิดที่อาจจะมีคือ เงินทุนของคุณ ที่อาจจะโดนถามได้ว่ามันจะพอเหรอ หรือถ้าพอคุณอาจจะกลับมาแล้วตัวเปล่าเลย เขาก็จะไม่ให้คุณไป จากคุณ : Wisther เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 23:01:32

ความคิดเห็นที่ 8 เราจะไปวันที่4 เหมือนกันค่ะ^^ จากคุณ : ปอยปอย (Fum_up) เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 12:57:55