ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจากการเดินทาง ทานตะวันแนะนำว่าอย่าขับรถไปเลยค่ะ เพราะหาที่จอดยากมาก ตอนที่ทานตะวันกำลังต่อคิวเช็คใบนัด เห็นรถต่อกันยาวเหยียดที่เข้าไปในสถานฑูต ทานตะวันแนะนำว่าให้นั่ง BTS ค่ะ ลงที่สถานีเพลินจิตนะคะ และอย่าไปเชื่อแม่ค้าแถวนั้นค่ะว่าไม่ไกล ทานตะวันเดินมาแล้วค่ะ จาก BTS. ถึงสถานทูต เหนื่อยค่ะ ยิ่งใส่ส้นสูง ยิ่งเหนื่อยค่ะ แต่ถ้าเป็นผู้ชายอาจเดินชิวๆได้ค่ะ ของกินตลอดทาง จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 16:07:50

ความคิดเห็นที่ 2 เดินไปค่อนข้างไกล ก็จะเจอแถวยาวๆหน้าตึกๆนึง นั่นแหละค่ะถึงแล้ว ด่านนี้เค้าจะตรวจพาสปอร์ต ใบนัด และค่าทำเนียบที่เราไปจ่ายที่ไปรษณีย์นะคะ ต้องเตรียมให้พร้อม คุณพี่หน้าทานตะวันไม่ได้ดึงออกมาจากซอง หนูคนตรวจท่าทางหงุดหงิดนิดนึง ขนาดยังเช้านะคะ ถ้าบ่ายๆ เริ่มร้อนคาดว่า... จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 16:13:33

ความคิดเห็นที่ 3 จากนั้นเป็นป้อมยามค่ะ ฝากอุปกรณ์อิเล็กโทนิคที่คุณมีในนั่น เดินไปอีกก็จะถึงด่านตรวจเอกสารค่ะ ด่านนี้เค้าถามคุณนิดหน่อยว่า เคยไปอเมริกามายัง ไปทำไม หลังจากนั้น คุณน้องเสื้อชมพู ก็จะดึงเอกสารที่เกี่ยวออกมาจากปึกเราค่ะ ของทานตะวันดึงมาแค่ 4 แผ่นค่ะ เสียใจเตรียมไปเยอะมาก มีหนังสือรับรองเกี่ยวกับการเรียนปริญญาโท หนังสือรับรองการทำงาน จดหมายเชิญ พาสปอร์ต ใบยืนยันนัดสัมภาษณ์ที่เราปริ๊นมา แค่นั้นค่ะ ทานตะวันเสียใจมาก เตรียมมาอย้างเยอะ เอาของตูไปดูแค่นั้น จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 16:18:49

ความคิดเห็นที่ 4 ผ่ายด่านนี้ไป ก็จะไปเจอขั้นตอนตรวจเอกสารอย่างละเอียดค่ะ จะมีสัมภาษณ์ย่อย อย่างเช่นไปทำไม ทำงานอะไร เรียนอย๔่เหรอ และสแกรนนิ้ว เราว่าเราสัมภาษณ์ตรงนี้ นานกว่าสะมภาษณ์กะกงสุลอีกอ่ะ ของเราเจ๊ที่สัมภาษณ์ สัมภาษณ์นานมาก และนานทุกคน จนปลายแถวที่เป็นดารา คือคุณนิน่า ย้ายไปอยู่แถวอื่นเลยทีเดียว อ้อ ในขั้นตอนนี้เค้าจะถามด้วยค่ะ ว่าเลือกภาษาอะไร เราคิดอยู่นานทีเดียว จนสุดท้ายตอบว่า ภาษาไทยค่ะ มีเหตุผลค่ะ สำคัญทีเดียว เดี๋ยวเล่าให้ฟัง จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 17:44:42

ความคิดเห็นที่ 5 รีบมานะคะ  เค้ารออ่านอยู่   อิอิ   จะไปเหมือนกัน  กลัวมาก   ภาษาปะกิดไม่ค่อยได้  แล้วถ้าเจอฝรั่ง  จะต๊กใจไหมน้อ จากคุณ : งามใส้ (โซ้ยตี๋) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 18:33:18

ความคิดเห็นที่ 6 ดีใจจังมีคนรออ่านด้วย นึกว่าไม่มีซะแล้ว อิๆๆ จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 01:44:51

ความคิดเห็นที่ 7 มาต่อนะคะ เพิ่งสังเกตว่าพิมผิดมากมาย พอดีเล่นกับมือถือแล้ว มันพิมยากค่ะ อย่างที่ทานตะวันบอก ขั้นตอนการเลือกภาษามันเหมือนเป็น pre interview เลย เพราะนานจริงจัง คนข้างหน้าทานตะวันก็สัมภาษณ์นานเหมือนกันจนแถวยาวเหยียด พอถึงคิวทานตะวันก็สัมภาษณ์นาน คำถามก็เหมือนที่กงสุลถามเลยค่ะ แต่เป็นภาคภาษาไทย โดยคนไทย ก็ถามว่า ไปทำไม ไปกี่วัน ไปช่วงไหน เรียนโทอยู่เหรอ เคยเปลี่ยนชื่อเปล่า และมีการนั่งอ่านและพิจารณาเอกสารเราด้วย อ่นไปสักพัก ก็ถามว่ามีคนรู้จักอยู่ที่นั่นไม๊ พอทานตะวันบอกว่ามี เค้าก็เอา จดหมายเชิญเรามาอ่าน จนทานตะวันชักงง ว่าเป็นการสัมภาษณ์รึเปล่า เห็นเจ๊อ่านนานมาก ทานตะวันก็กลัวจะมีปัญหา เพราะจำได้ว่าเบอร์โทรศัพท์ของแฟนทานตะวันในจดหมายเชิญเค้าใส่มาผิดนิดนึง เกินมา 1 หลัก ก็เลยถามแกว่าจะดูเอกสารเกี่ยวกับคนเชิญเพิ่มไม๊คะ แกโบกมือบอกว่าไม่ต้องค่ะ ซึ่งเท่าที่ทานตะวันสังเกตดู เจ๊แกค่อนข้างเคี่ยวนะคะ แอบได้ยินแก ว่าคนที่อยู่ข้างหน้าทานตะวันไป 2 คนเสียงดังเชียวค่ะ บอกว่า ที่อยู่ที่ทำงานคุณ ทำไมไม่มีเบอร์โทรศัทพ์ เสียงดังเชียวค่ัะ ออกไมค์ด้วย น่ากลัวมาก ทานตะวันเลยหันไปถามคนที่ต่อแถวข้่างหลัง นี่เริ่มสัมภาษณ์แล้วเหรอ เค้าไม่ให้เราเลือกภาษาก่อนเหรอ คนที่ต่อหลัง เค้าก็บอกว่าไม่น่าจะใช่ เพราัะเรากงสุลที่จะสัมภาษณ์เราต้องเป็นฝรั่ง ตอนนั้นทานตะวันมัวแต่ตื่นเต้น จนเพิ่งมาคิดวิเคราะห์ทีหลังดูว่า ก็มาคิดรอบนี้น่าจะสำคัญเหมือนกัน คิดว่าเค้าน่าจะมีบทบาทในการ comment นะคะ เพราะเห็นมีถามเราแล้วมีขีดๆ เขียนๆอะไรด้วย และอ่านเอกสารของทานตะวันแต่ละอันนานมาก พิจารณาแล้วก็เขียนอีก (แต่อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ เดาล้วนๆ) แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 11:17:51 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 02:02:25 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 01:57:21 จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 01:55:22

ความคิดเห็นที่ 8 ต่อเลยค่ะรออยู่เงียบๆตั้งแต่ต้นแล้วค่ะ ลุ้นๆ^^ จากคุณ : แมววัด เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 06:30:46

ความคิดเห็นที่ 9 ต้องขอโทษเพื่อนๆที่ให้รอนะคะ พอดีพิมๆจนเสร็จแล้ว พอโพสต์ข้อความมันหาย ทานตะวันเลยงอน ไปนอนดีกว่า ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน (แม้จะมีสองคนก็ตาม หลังว่าพอจะเป็นประโยชน์ได้บ้างนะคะ) จากนั้นก็รอคิวเรียกสัมภาษณ์กะกงสุลค่ะ มีดาราปรากฎกายมารอคิวด้วยกันหลายคน ดีค่ะรู้สึกเสมอภาคกันดี ประมาณสักพักได้ก็เริ่มสัมภาษณ์ อย่างที่บอก ทานตะวัน เลืิอกสัมภาษณ์ภาษาไทยซึ่งได้คิวเร็วมาก งงมากทำไมเร็วจัง คนที่เลือกภาษาอังกฤษหลายคนที่ pre-interview ( ขอเรียกอย่างนี้แล้วกัน) เสร็จก่อนทานตะวันยังไม่ได้ถูกเรียกเลย อ้อ เล่าข้ามไปนิดนึงค่ะ ก่อนจะเล่าตอนไปสัมภาษณ์กะกงสุลนะคะ ที่ทานตะวันสังเกตอีกอย่างในรอบนี้ มีอย่างนึงที่น่าสนใจ ซึ่งทานตะวันไม่รู้เหตุผลว่าทำไมค่ะ คือหลังจากที่คนไทยสัมภาษณ์กับเราเสร็จ และให้เลือกว่าจะสัมภาษณ์กับกงสุลภาษาอะไรดี ผู้ถูกสัมภาษณ์จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มค่ะ กลุ่มที่ 1 เจ้าหน้าที่เก็บเอกสารเราไปเลย และเอาไปให้กงศุลเองเลย คนส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มนี้ค่ะ รวมทั้งทานตะวันด้วย กลุ่มที่ 2 เจ้าหน้าที่คุยเสร็จก็คืนเอกสารกลับให้เรา และให้ถือไปให้สัมภาษณ์กับกงสุลพร้อมเจ้าตัวเลย ซึ่งทานตะวันก็ไม่รู้ค่ะ ว่ามันแตกต่างหรือหมายความว่ายังไง ไม่รู้คิืดมากซับซ้อนไปรึเปล่า ใครรู้ก็ลองแชร์ข้อมูลกันดูนะคะ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 11:09:00 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 11:01:20 จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:59:57

ความคิดเห็นที่ 10 ที่ทานตะวันลังเลว่าจะเลือกภาษาอะไรดี ตั้งแต่ต้น เพราะ สองอย่างนี้มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันค่ะ พิมๆแล้สข้อความมันหาย ทานตะวันเลยงอน ไปนอนดีกว่า ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน (แม้จะมีสองคนก็ตาม หลังว่าพอจะเป็นประโยชน์ได้บ้างนะคะ) เรื่องเลือกภาษา ทานตะวันขอตอบคุณงามใส้นะคะ ข้อดีของภาษาอังกฤษคือ ฟังง่ายค่ะ ฝรั่งที่มาสัมภาษณ์เราสำเนียงดี ชัดเจน ส่วนคำถามก็เป็นคำถามง่ายๆที่มั่นใจว่าเพื่อนๆน่าจะฟังได้ ตอบได้ เว้นแต่ข้อมูลใน DS160 ของคุณจะไม่ได้เขียนเองค่ะ เพราะเค้าจะมีบางคำถามที่เหมือนกับใน DS160 ที่เรากรอกไว้ เพื่อเป็นการ recheck ว่าเราโกหกรึเปล่าค่ะ (อย่าตอบไม่ตรงกันนะคะ เดี๋ยวจะซวย)ก่้อนสัมภาษณ์ทานตะวันก็อ่านทวนดูอีกรอบค่ะ ขนาดทานตะวันกรอกเองนะคะ แต่ทานจะวันจำวันที่กรอกว่าจะไปไม่ค่อยได้ค่ะ เพราะประมาณเอา ยังไม่ได้ fix วันกับสายการบิน เลยกรอกคร่้าวๆไปก่อน คำแนะนำตรงนี้ อยากให้เพื่อนๆปริ๊น รายละเอียดที่เพื่อนๆกรอกใน DS160 เตรียมไปด้วย ก่อนสัมภาษณ์ก็กวาดสายตาดูสักรอบ เพื่อความมั่นใจค่ะ (อันนี้ศึกษามาจากเวปคำแนะนำมาอีกทีค่ะ ไม่รู้ว่ามันจริงรึเปล่าที่เค้าจะ recheck เรา แต่กันไว้ก่อนก็ไม่เสียหายนะคะ จะได้ไม่ต้องมาใหม่ เสียเวลา เสียสุขภาพจิตเปล่าๆค่ะ) กลับเข้าเรื่องต่อค่ะ ส่วนทานตะวัน ที่ตัดสินใจเลือกภาษาไทย มีข้อเสียอย่างร้ายกาจ คือฟังฝรั่งพูดไทยไม่รู้เรื่องอย่างแรง (จริงๆเธอพูดเก่งนะคะ แต่พอมาใส่สำเนียงแล้วมันฟังยากค่ะ ภาษาไทย เสียงใกล้กัน ถ้าออกเสียงผิด ก็ชวนให้งงแล้วค่ะ) ทานตะวันจึงขอให้เธอพูดภาษาอังกฤษค่ะ กลายเป็นสนทนาภาษาอังกฤษกัน หลังจากคุยไทยกันอยู่ไม่กี่ประโยค ทานตะวันเองก็ไม่ได้เป็นฝรั่งจ๋านะคะ แต่สื่อสารพอใช้ได้ อย่างที่บอกค่ะ คำถามก็ไม่ได้ยากอะไร ถามมาตอบไป ไม่ได้ไป present งานที่จะต้องเล่ายาวเป็นพรืดๆ ซึ่งถ้าคุณไม่ได้โกหก ตอบความจริง คุณตอบได้อย่างแน่นอน และจงตอบไปอย่างมั่นใจค่ะ อย่าไปกลัวค่ะ จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 11:34:11

ความคิดเห็นที่ 11 ข้อดีที่ทำให้ทานตะวันเลือกภาษาไทยในตอนแรกที่ทานตะวันคิดเองคือ 1 ทานตะวันคิดว่าฝรั่งที่พูดภาษาไทยได้น่าจะอยู่เมืองไทยมานาน และพอจะรู้ข้อมูลเมืองไทย ทั้งเรื่องมหาลัย และบริษัทต่างๆบ้างค่ะ ทานตะวันเอง ตอนแรกเลย ตั้งใจจะเลือกภาษาอังกฤษค่ะ แต่พอเห็นน้องที่เตรียมเอกสารดึงเอกสารของทานตะวันไปแค่ 4 แผ่น เกี่ยวเนื่องกับข้อมูลทานตะวันเองแค่ 3 แผ่น อีก 1 แผ่น เป็นใบ application ทานตะวันก็นอยแล้วค่ะ คิดในใจว่า คุณเอาแค่นี้เองเหรอ statement ชั้นล่ะ ใบเสียภาษี สัญญาซื้อขาย(บวกเงินกู้)บ้าน รถ ปริญญาบัตร และอีกมากมายที่ทำให้แน่ใจว่าเรามีที่อยู่แน่นอน มีชีวิตที่ดี(พอประมาณ)ที่เมืองไทย ไม่ดูของเราสักอย่าง ทานตะวันเลยคิดว่า เอาละว๊า จุดแข็งเดียวที่เรามีในเอกสาร 3 แผ่นนั้น คือ หน้าที่การงานค่ะ ทานตะวันอยู่ในบริษัทที่ดีมาก ติดอันดับบริษัทที่คนอยากเข้าทำงานบริษัทหนึ่งของเมืองไทยค่ะ เพราะฉะนั้น ทานตะวัน กลับมาแน่นอน ไม่ต้องกลัว แต่ก็นั่นแหละ คุณฝรั่งเค้าจะรู้จักบริษัทตูป่าวว๊าาาา คิดไปคิดมาหลายตลบเลย เอาวะภาษาไทยก็ภาษาไทยวะ อย่้างน้อยๆ ฝรั่งที่พูดไทยได้ น่าจะอยู่เมืองไทยมานาน อาจจะพอรู้จักหรือได้ยินชื่อบ้างละว๊า จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 11:49:57

ความคิดเห็นที่ 12 โทษทีค่ะที่ปล่อยให้รอ (ใครรอ555)ทานตะวันทำงานไปด้วยค่ะ มาถึงตอนสัมภาษณ์นะคะ มาถึงแกให้ทานตะวันสแกนนิ้วมือก่อนคะ แค่แกพูดว่าให้สแกนนิ้วกลางภาษาไทยกับทานตะวัน แกต้องพูดตั้งหลายรอบค่ะ ฟังไม่ออกจริงๆ สุดท้ายทานตะวันเลยคุยภาษาอังกฤษกับแกค่ะ เราเลยเปลี่ยนภาษากัน ณ.บัดนั้น คำถามนะคะ ไปทำไมที่อเมริกา (คำถามยอดฮิต) ตอบ ไปเที่ยว มีคนรู้จักอยู่ที่นั่่นไม๊ ตอบ มี แฟนอยู่ที่นั่น คนไทย หรือ อเมริกัน ตอบ คนไทย แฟนไปทำอะไรที่นั่น ตอบ ไปเรียนปริญญาโท เค้าไปนานยัง ตอบ ประมาณ 1 ปีมาแล้ว เป็นแฟนกันมากี่ปี (แอบคิดในใจ นี่มันวีซาคู่หมั้นป่าวเนี๊ย ถามแต่เรื่องแฟน) ตอบ 4 ปี (หลังจากนั้นเค้าก็หยิบ จดหมายของแฟนเรามาอ่านค่ะ แล้วก็คลิกๆอะไรดูจากจอคอมก็ไม่ทราบ แล้วก็อุทานอยู่คนเดียวว่า เรียนที่.... คณะ.... น่ะเองอะไรประมาณนั้นค่ะ คืออยากจะบอกมหาลัยแฟนเราไม่ได้ไฮโซอะไรหรอกค่ะ คณะที่เรียน ก็ธรรมดาค่ะ แต่ต้องขอบคุณเค้าค่ะ เพราะในจดหมายเชิญเค้าเขียนมาค่อนข้างละเีอียดมีรหัสนักศึกษา ที่อยู่ mailbox พร้อม ) เจ๊แหม่มคลิกๆเมาส์ จากคอมข้างหน้าเจ๊อยู่นานพอควรเลยค่ะจึงเปลี่ยนไปถามเรื่องอื่น คุณทำงานที่ไหน ตอบ ...... ตำแหน่งอะไร ตอบ ตำแหน่งและแผนกไป ทำอะไรบ้าง ตอบ ..เกี่ยวกับเนื้องาน.... นี่คุณเรียนอยู่้ด้วยเหรอ ตอบ ใช่ิ เรียนปริญญาโทอยู่ที่..... คณะ.... คุณทำทั้งงานด้วยและเรียนด้วย เอาเวลาที่ไหนไปเรียน ตอบ เรียนวันเสาร์ อาทิตย์ค่ะ เป็นวันหยุด (หยุดคิดให้เราเสี่ยวเล่นๆอีกแล้ว คิด แล้วก็อ่านหนังสือรับรองเราทั้ง 2 ใบของเรา เลื่อนเมาส์ดูอะไรก็ไม่รู้ เจ๊คิดนานนะเนี๊ย กว่าจะผ่านไปแต่ละเรื่อง)พร้อมกับได้ยินเสียงกงสุลตู้ข้างๆบอกผู้ที่มาสัมภาษณ์ ให้เราใจสั่นว่า เสียใจ เราออกวีซาให้คุณไม่ได้ พยายามไม่หันไปมองทำไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปค่ะ สักพักนึงชีก็ถามต่อ ไปครั้งนี้ใครเป็น sponsor ให้คุณ ตอบ ตัวเองค่ะ (แต่ในจ.ม.เชิญเรา แฟนเขียนมาว่าจะออกตั๋วเครื่องบินขากลับให้ 1 เที่ยว แต่เรากลัวว่าเค้าจะหาว่าแฟนเราแอบทำงาน ซึ่งจริงๆแล้วแฟนเราไ่ม่ได้ทำงานหรอกค่ะ เรียนอย่างเดียว แต่เค้ามีเงินเก็บ จากการงานประจำที่เมืองไทย ก่อนลาออกไปเรียนต่อจำนวนหนึ่งค่ะ)เราเลยอธิบายต่อค่ะว่า จริงๆแฟนจะออกค่าตั๋วให้ เพื่อตอบแทนที่มาเยี่ยมเค้า แต่เราคิดว่าตอนนี้เค้าไม่มีรายได้ แต่เรามี เราเลยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอง หมดคำถามค่ะ เค้าบอกว่า ยินดีด้วยค่ะ ฉันออกวีซ่าให้คุณได้ เรายิ้มหน้าบาน กำลังจะเดินไปแล้ว กงสุลเรียกไว้อีกค่ะ เราแอบเครียด "เปลี่ยนใจเหรอวะ" ชีอุตส่าห์มีอีก 1 คำถามค่ะ (เจ๊ยังคาใจอะไรหนูอีกล่ะค่ะ) ที่พักที่อยู่ตอนนี้ ใครเป็นเจ้าของ ตอบ ของตัวเอง คราวนี้หมดคำถามจริงๆค่ะ เจ๊ดูมั่นใจมากขึ้นจะให้วีซายายคนนี้ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราเลยใจกล้าถามเจ๊แกกลับบ้างว่า - กี่ปีคะ ชีตอบ 10 ปี ชั้นให้คุณได้ 10ปี แล้วก็พูดต่อเรื่องให้ไปจ่ายเงินที่ไปรษณีย์และวีซาจะส่งไปให้อาทิตย์หน้า แต่เราตอนนั้นลอยละลิวตัวลอยไปเดินออกไปแล้ว จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 14:10:51

ความคิดเห็นที่ 13 ดีใจด้วยนะคะ เก่งมาเลยค่ะคุณทานตะวัน  ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ (ได้เจอคุณแฟนด้วย) ส่วนเรื่องตอนแรกที่เค้าแยกออกเป็นสองกลุ่มอาจจะเพราะแบ่งพวกที่เคยไปอเมริกามาก่อนแล้วรึเปล่าคะ จากคุณ : แมววัด เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 15:05:49

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณ คุณแมววัดนะคะ ที่อยู่เป็นเพื่อนกัน ไม่ให้เหงา ทานตะวันไม่ได้เก่งหรอกค่ะ แค่หาข้อมูลมาเยอะ ส่วนเรื่องตอนแรกที่แยกคนเคยไปกับไม่เคยไปอเมริกาในช่วง pre interview ทานตะวันคิดว่าไม่น่าจะใช่ค่ะ เพราเค้าแยกตั้งแต่ตอนน้องเสื้อชมพู หน้าใสตรวจเอกสารข้างนอกแล้วค่ะ เค้าจะถามตอนนั้น แล้วเอาคลิปหนีบกระดาษเล็กมาแปะ ถ้าไม่เคยไปกระดาษเล็กๆใบนั้นจะเป็นสีเขียวค่ะ (ถ้าจำสีไม่ผิดนะคะ) คุณแมววัดจะไปสัมภาษณ์เมื่อไหร่ค่ะ ไปจ่ายเงินที่ไปรษณีย์แล้วยัง อย่าลืมเช็คใบเสร็จดีๆนะคะ ใบเสร็จต้องเป็นตัวจริงเท่านั้น เพราะมีคน ไปรษณีย์เค้าใช้ใบเสร็จผิดมาเป็น ใบเสร็จสำเนา สถานทูตเค้าก็ไม่ยอมให้เข้าไปสัมภาษณ์ค่ะ ต้องรอไปรษณีย์เปิดแล้วไปเอาตัวจริงที่ไปรษณีย์ ตอนทานตะวันออกมา พี่เค้ายังนั่งรออยู่เลย น่าสงสารมาก แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 17:58:37 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 17:57:10 จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 17:55:27

ความคิดเห็นที่ 15 แมววัดอยู่แค่ขั้นตอนซื้อ pin เองค่ะ ยังหาสีเขียวไม่ได้เลย จะเดือนนึงแล้ว ไม่ทราบว่ามีเทคนิกยังไงที่จะจองได้คะ เพราะมันเต็มถึงเดือนหน้าเลยน่ะ เศร้ามากเลย เรื่องที่เค้าแบ่งเป็นกลุ่มนี่ถ้างั้นก็งงด้วยค่ะ หรือว่าจะเป็นขั้นตอนที่เค้าเพิ่มเข้ามานะ น่ากลัวจัง แล้วสถานฑูตเค้าก่อสร้างเสร็จรึยังอ่ะคะ เห็นก่อนหน้านี้บอกว่าที่สัมภาสณ์เก่าเค้าก่อสร้างอยู่น่ะค่ะ จากคุณ : แมววัด เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 18:07:34

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนเข้าไป ไม่เห็นการก่อสร้างนะคะ แค่ตอนนั่งรอ เห็นป้ายไฟเป็นตัววิ่งว่าขออภัยในความไม่สะดวกเกี่ยวกับการก่อสร้างอ่ะค่ะ ก็งงเหมือนกันว่าอยู่ตรงไหน ไม่เห็น ส่วนเรื่องจองวันสัมภาษณ์แล้วแต่ดวงเลยค่ะ ทานตะวันใช้เวลาประมาณ 3 อาทิตย์ ช่วงเวลาที่เจอก็ประมาณบ่ายโมงกว่าๆค่ะ บางคนที่นั่งคุยกันวันนั้นก็บอกว่าเจอประมาณ 5 ทุ่มค่ะ จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 19:29:59

ความคิดเห็นที่ 17 <P><FONT style="BACKGROUND-COLOR: #222244">อยากถามคุณ ทานตะวัน ว่า จะบอกเค้าตอนไหนว่าเราขอสัมภาษณ์เป็นภาษาไทย เพราะ</FONT><FONT style="BACKGROUND-COLOR: #222244">พ่อกับแม่จะต้องไปสัมภาษณ์ศุกร์นี้แล้วและท่านมาจากต่างจังหวัด กลัวท่านจะงงกะขั้นตอน&nbsp;ต้องเตรียมตัวอะไรหรือป่าวค่ะ&nbsp; </FONT></P> <P><FONT style="BACKGROUND-COLOR: #222244">ขอเป็นวีซ่าท่องเที่ยวเพราะเค้าจะไปงานรับปริญญาของลูกชายที่โน้น </FONT></P> จากคุณ : chocolate_vo (chocolate_vo) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 22:35:26

ความคิดเห็นที่ 18 อยากถามคุณ ทานตะวัน ว่า จะบอกเค้าตอนไหนว่าเราขอสัมภาษณ์เป็นภาษาไทย เพราะพ่อกับแม่จะต้องไปสัมภาษณ์ศุกร์นี้แล้วและท่านมาจากต่างจังหวัด กลัวท่านจะงงกะขั้นตอน ต้องเตรียมตัวอะไรหรือป่าวค่ะ   ขอเป็นวีซ่าท่องเที่ยวเพราะเค้าจะไปงานรับปริญญาของลูกชายที่โน้น จากคุณ : chocolate_vo (chocolate_vo) เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 22:35:51

ความคิดเห็นที่ 19 คุณทานตะวันค่ะ ปุ๊กอยากปรึกษาหน่อยค่ะ ตอนที่เรากรอก DS160 ค่ะ ปุ๊กแจ้งไปว่าไม่เคยเปลี่ยนชื่อ เพราะใบเปลี่ยนชื่อมันหายและหาไม่เจอ แต่เมื่อวานไปค้นมันดันเจอและก็เขามาอ่านที่คุณทานตะวันกระทู้ไว้ด้วยตเนนี้ก็เลยเครียดมากเลยค่ะ ว่าเคสของปุ๊กเนี้ยจะต้องทำยังไงดีค่ะ ถ้าไม่ลำบากจนเกินไป อยากจะโทรหาคุณทานตะวันจะสะดวกหรือเปล่าค่ะ แจ้งไปที่เมลปุ๊กก็ได้นะค่ะ pook_lex@hotmail.com ขอบคุณค่ะ จากคุณ : pukphilip เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 14:52:02 A:125.25.83.72 X: TicketID:304840

ความคิดเห็นที่ 20 ปุ๊กจะมีสัมภาษณ์ วันที่ 3 มี.ค 2554 เวลาบ่ายโมงค่ะ รบกวนด้วยนะค่ะ จากคุณ : pukphilip เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 14:54:57 A:125.25.83.72 X: TicketID:304840

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบคุณปุ๊กค่ะ พอดีเพิ่งเห็นอ่ะคะ ไม่ได้เข้ามาดูกระทู้ตัวเองเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะ เรื่องเบอร์โทรส่งให้ทาง E-Mail แล้วนะคะ คุณ chocolate_vo คะ ขอโทษทีนะคะ ที่ตอบช้า ไม่รู้ทันรึเปล่า บอกเค้าว่าสัมภาษณ์ภาษาไทย ตอนที่หลังจากตรวจเอกสารแล้ว จะเจอเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนไทยสัมภาษณ์ในช่องๆอ่ะค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ เค้าจะถามทุกคนในขั้นตอนนี้อยู่แล้ว ว่าอยากสัมภาษณ์ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษค่ะ ขอให้โชคดีทั้ง 2 คนนะคะ จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 14:27:19

ความคิดเห็นที่ 22 ตอบคุณปุ๊กค่ะ พอดีเพิ่งเห็นอ่ะคะ ไม่ได้เข้ามาดูกระทู้ตัวเองเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะ เรื่องเบอร์โทรส่งให้ทาง E-Mail แล้วนะคะ คุณ chocolate_vo คะ ขอโทษทีนะคะ ที่ตอบช้า ไม่รู้ทันรึเปล่า บอกเค้าว่าสัมภาษณ์ภาษาไทย ตอนที่หลังจากตรวจเอกสารแล้ว จะเจอเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนไทยสัมภาษณ์ในช่องๆอ่ะค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ เค้าจะถามทุกคนในขั้นตอนนี้อยู่แล้ว ว่าอยากสัมภาษณ์ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษค่ะ ขอให้โชคดีทั้ง 2 คนนะคะ จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 14:27:53

ความคิดเห็นที่ 23 คุณปุ๊กค่ะ เรื่องเปลี่ยนชื่อ ถ้าตอนกรอก DS160 บอกว่าไม่เคยเปลี่ยนชื่อ แต่จริงๆเคยเปลี่ยนชื่อ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ให้เตรียมเอกสารการเปลี่ยนชื่อยื่นให้เจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ และถ้าเค้าถามว่าทำไมตอบไม่เหมือนกับใน DS160 ก็บอกเค้าไปค่ะว่าพอดีเลือกผิดช่อง แต่ก็เตรียมมาให้ดูในวันนี้ แสดงความบริสุทธิ์ใจค่ะ เรื่องเปลี่ยนชื่อเราก็มีปัญหานิดนึงค่ะ คือชื่อเราแปลก เจ้าหน้าที่ถามย้ำหลายครั้งมากว่าเคยเปลี่ยนชื่อรึเปล่า เราบอกว่าเปล่า สักพักเค้าก็ถามอีก ถามประมาณ 3 ครั้งจนกว่าจะแน่ใจ เราบอกว่าไม่เคยจริงๆ ใช้ชื่อนี้มาตั้งแต่เกิดค่ะ ยื่นยันด้วยความจริง เราว่ายังไงแววตาและท่าทางความมั่นใจของเรา เค้าก็ต้องเชื่อค่ะ คนโกหก หรือ พูดความจริงดูไม่ยากค่ะ อยากย้ำให้เพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่านให้ พูดความจริงดีที่สุดนะคะ เพราะการกรอก DS160 ไปก่อนล่วงหน้า คิดว่าเจ้าหน้าที่น่าจะดูข้อมูลและหาข้อมูลเราล่วงหน้าในระดับหนึ่งแล้วค่ะ เพราะตอนที่กงสุลถามเรื่องแฟน เค้าก็เหมือนจะคีย์ข้อมูลเข้าไปเช็คดูว่าแฟนเราเรียนอยู่ที่นั่นจริงรึเปล่าค่ะ และมีหลายๆหลายที่เรารู้สึกเหมือนว่าเค้ารู้อยู่แล้วน่ะค่ะ (ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะคะ) แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 14:40:17 จากคุณ : ทานตะวันสีเหลือง เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 14:38:39