ความคิดเห็นที่ 1 ขณะที่ชาวญี่ปุ่นในหลายจังหวัดทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ กำลังเผชิญผลกระทบหลังจากแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิครั้งร้ายแรงในวันศุกร์ที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา วิกฤตด้านนิวเคลียร์ยังไม่มีทีท่าจะสิ้นสุดและดูว่าจะเลวร้ายขึ้น พร้อมกับความกังวลเกี่ยวกับภาวะการขาดแคลนอาหาร และพลังงาน การคมนาคมเป็นอัมพาต รถไฟโดยสารมากกว่า 100 สายในกรุงโตเกียวปิดให้บริการเป็นบางส่วน หรือทั้งหมด ซ้ำบรรยากาศยังเลวร้ายยิ่งขึ้น เมื่อมีรายงานข่าว ซึ่งอ้างผู้เชี่ยวชาญที่ระบุว่า มีโอกาสมากที่จะเกิดแผ่นดินไหวอีกครั้ง ภาพที่ 2 : ชาวญึ่ปุ่นที่ยืนเข้าคิวเพื่อใช้โทรศัพท์สาธารณะ (ภาพเอเยนซี) จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:46:43

ความคิดเห็นที่ 2 นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง ของญี่ปุ่นกล่าวในวันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า ภัยพิบัติครั้งนี้นับว่าเป็นวิกฤตร้ายแรงที่สุดของประเทศนับตั้งแต่ สงครามโลกครั้งที่ 2             แต่กระนั้น ภาพที่โลกได้เห็นคือ ผู้คนที่มีสีหน้าสงบนิ่ง และมีสติพอที่จะอยู่ในระเบียบวินัย ไม่มีข่าวคราวความวุ่นวายโกลาหล ลักขโมย หรือฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมเอาเปรียบจากเคราะห์กรรมของเพื่อนมนุษย์             ชาวเน็ตฯ จีนส่วนใหญ่ ได้เห็นภาพเหล่านี้ ต่างส่งต่อแสดงความเห็นในทางชื่นชม ว่าแม้สองชาติจะมีประวัติศาสตร์ที่ร้าวฉานกันอย่างถึงที่สุด แต่เราชาวจีนก็คงได้เรียนรู้ และยอมรับในบุคลิกลักษณะนิสัยอันน่ายกย่องโดยเฉพาะจิตสำนึกสาธารณะของคนญี่ปุ่น             ชาวเน็ตฯ จีนจำนวนมาก พบว่าความสงบนิ่งในยามวิกฤติใหญ่นี้ สะท้อนคุณภาพจิตใจที่พัฒนามาอย่างดี พร้อมกันนี้ ต่างพิมพ์ข้อความให้กำลังใจ และขอให้ชาวญี่ปุ่นได้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยดี ในเร็ววัน             ด้านรัฐบาลจีน หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ส่งทีมกู้ภัยชุดแรกไปให้การช่วยเหลือญี่ปุ่น จำนวน 15 คนแล้ว ล่าสุด รัฐบาลส่งมอบเงินให้ญี่ปุ่น 30 ล้านหยวน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ ในเบื้องต้น และเริ่มจัดส่งวัสดุบรรเทาทุกข์ อาหาร เต็นท์ ผ้าห่มต่างๆ จากสนามบินนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตงไปยังญี่ปุ่นแล้วเช่นกัน             นอกจากนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 มี.ค.) ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ยังได้สนทนาทางโทรศัพท์กับองค์จักรพรรดิอากิฮิโตะ เพื่อแสดงความห่วงใย และเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวว่า จีนขอร่วมมือกับญี่ปุ่นในทุกทางเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ ภาพที่ 3 : ภาพเด็กนักเรียนประถมในโรงเรียนแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งได้ทำตามขั้นตอนที่ฝึกซ้อมฯ (ภาพเอเยนซี) จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:47:45

ความคิดเห็นที่ 3 ภาพที่ 4 : ประชาชนที่ตกค้างพลัดที่อยู่ กำลังเฝ้ารอคำแนะนำของทางการฯ โดยต่างไว้วางใจในรัฐบาลและพร้อมให้ความร่วมมือ ในการเผชิญวิกฤติ ขณะเจ้าหน้าที่ฯ เร่งส่งความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และทั่วถึง (ภาพเอเยนซี) จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:48:28

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพที่ 5 : กลุ่มประชาชนที่ถูกจัดให้ไปอยู่อาศัยชั่วคราวในโรงเรียนแห่งหนึ่ง (ภาพเอเยนซี) จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:49:10

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพที่ 6 : ท่ามกลางความยุ่งยาก แต่กลับไม่พบความวุ่นวาย และเด็กกับสตรีจะได้รับความช่วยเหลือก่อนเสมอ (ภาพเอเยนซี) จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:49:48

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพที่ 7 : ประชาชนเหล่านี้ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ซึ่งบางคนอยู่ไกลออกไปถึงเกือบ 20 กิโลเมตร หลังถนนหลายสายถูกตัดขาด และบริการขนส่งสาธารณะเป็นอัมพาตเกือบหมด (ภาพเอเยนซี) จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:50:28

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพที่ 8 : แม้จะเหน็ดเหนื่อยอยากนอนเหยียดเท้า แต่ทุกคนยังคงมีสติพอที่จะเบียดตัวนั่งชิดขอบราวบันได เพื่อไม่ให้กีดขวางทางขึ้น-ลง แม้ว่าจะไม่มีคนเดินในขณะนั้นเลยก็ตาม (ภาพเอเยนซี) จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:51:01

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพที่ 9 : ภาพจากวงจรปิด เผยให้เห็น กลุ่มครูในสถานเลี้ยงเด็กเล็กช่วยกันห้อมล้อม คร่อมตัวป้องกันเด็กๆ ในตอนแผ่นดินไหว (ภาพเอเยนซี) จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:51:31

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนเรื่องนี้เป็นกระทู้แนะนำจากห้องศาลาประชาคม (ความเห็นส่วนตัว อยากเห็นห้องไกลบ้านมีกระทู้แนะนำดีๆบ้าง กระทู้แนะนำส่วนใหญ่มีแต่เรื่องทะเลาะกัน 4 ใน 5 เป็นเรื่องของคนไทยที่ตำหนิคนไทยด้วยกันเอง ถ้าเรามัวแต่ว่า"คนไทย" โดยที่ลืมนึกไปว่าตัวเองก็เป็นคนไทย คิดแต่ว่าเราเองนั้นแตกต่างและดีกว่า "คนไทย" แล้ว มันก็ไม่ได้ช่วยพัฒนาคนไทยรุ่นหลังได้) เรื่องเล่าดีๆ " จากญี่ปุ่น" ในวันแผ่นดินไหว     ผมได้อ่านข้อความจากเพื่อนคนหนึงที่ไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ญี่ปุ่น เป็นข้อความที่นักเรียนไทยแปลมาจากข้อความของ ชาวญี่ปุ่นหนึ่ง หลายคนคงได้อ่านหรือได้ฟังเรื่องราวของชาวญี่ปุ่นในยามที่เขาประสพภัยมาบ้างแล้ว  นี้คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผมได้อ่านแล้วก็น้ำตาซึมอย่างไม่รู้ตัว ก่อนอ่านทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า "ข้าพเจ้า" คือคนญี่ปุ่นที่เป็นคนเขียนเรื่องนี้ขึ้นในสิ่งที่เค้าพบเจอ เรื่องแรก ข้าพเจ้าได้เห็นเด็กน้อยพูดกับพนักงานรถไฟว่า "ขอบคุณค่ะ/ครับ ที่เมื่อวานพยายามอย่างสุดชีวิตทำให้รถไฟเดินรถอีกครั้ง" พนักงานรถไฟได้ฟังแล้วร้องไห้ ส่วนข้าพเจ้าร้องไห้ฟูมฟายไปแล้ว (เพราะคืนวันที่เกิดแผ่นดินไหว รถไฟหยุดวิ่งกว่าจะวิ่งได้ก็หลังเที่ยงคืนไปแล้ว หลายคนไม่ได้กลับบ้าน หลายคนต้องเดินกลับ) เรื่องที่สอง ที่ดิสนีย์แลนด์ คนติด ไม่สามารถกลับบ้านได้จำนวนมากและทางร้านขายของได้เอาขนมใสแจกนักท่องเที่ยว ก็ได้มีนักเรียนม.ปลายหญิงกลุ่มหนึ่งไปเอามาจำนวนมาก มากเกินพอ แว่บแรก ข้าพเจ้ารู้สึกทันทีคือ “อะไรวะ เอาซะเยอะเลย” แต่วินาทีต่อมากลายเป็นความรู้สึกตื้นตันใจ เพราะเด็กกลุ่มนั้นเอาขนมไปให้เด็กๆที่พ่อแม่ไม่สามารถไปเอาเองได้เพราะต้องดูแลลูกๆ เรื่องที่สาม ในซุปเปอร์แห่งหนึ่ง ของตกระเกะระกะเพราะแรงแผ่นดินไหว แต่คนซื้อก็เดินไปช่วยกันเก็บของ แล้วก็หยิบส่วนที่ตนอยากซื้อไปต่อคิวจ่ายเงิน และ ในรถไฟที่เพิ่งเปิดให้ใช้บริการ มีคนที่ตกค้างจำนวนมากกำลังเดินทางกลับก็ได้เห็นคนแก่คนหนึ่งลุกให้สตรีมีครรภ์นั่ง คนญี่ปุ่นแม้ในภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ ก็ยังมีน้ำใจ มีระเบียบ เรื่องที่สี่ ในคืนแรกที่เกิดแผ่นดินไหว รถไฟไม่วิ่ง ทำให้คนจำนวนมากต้องเดินกลับบ้านแทนการนั่งรถไฟ ขณะที่ข้าพเจ้าต้องเดินกลับจากมหาลัยมายังที่พัก ร้านรวงก็ปิดหมดแล้ว ข้าพเจ้าได้ผ่านร้านขนมปังร้านหนึ่งซึ่งปิดไปแล้ว แต่คุณป้าเจ้าของร้านก็ได้เอาขนมปังมาแจกฟรีแก่คนที่กำลังเดินกลับบ้าน แม้ภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ น้ำใจเช่นนี้ทำให้หัวใจข้าพเจ้าอบอุ่น ตื้นตัน เรื่องที่ห้า ในขณะที่รอรถไฟให้กลับมาวิ่งได้ ข้าพเจ้าก็ได้รออยู่ในอาคารสถานีอย่างเหน็บหนาว โฮมเลส (คนจรจัด) ก็ได้แบ่งปันแผ่นกล่องกระดาษให้ โฮมเลสที่ข้าพเจ้ามองด้วยหางตาทุกวันที่มาใช้สถานี คืนนั้นทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด เรื่องที่หก (เรื่องราวคืนรถไฟไม่วิ่งเยอะหน่อยนะครับ) ด้วยระยะเวลาสี่ชั่วโมงที่ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ก็ได้ผ่านหน้าบ้านหลังหนึ่งตาก็ไปสะดุดกับแผ่นกระดาษที่เขียนว่า "เชิญใช้ห้องน้ำได้ค่ะ" หญิงสาวท่านหนึ่งได้เปิดบ้านตัวเองให้แก่คนที่กำลังเดินกลับบ้านได้ใช้ วินาทีที่ได้เห็นแผ่นกระดาษนั้นน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง น้ำใจคนญี่ปุ่น เรื่องที่เจ็ด แม้ว่าไฟดับ ก็ยังมีคนที่สู้ทำงานให้ไฟกลับมาติด น้ำไม่ไหลก็ยังมีคนไม่ยอมแพ้ทำให้น้ำกลับมาไหล เกิดปัญหากับโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ก็มีคนที่พร้อมจะเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมมัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้กลับมาสู่สภาพปกติด้วยตัวมันเอง ขณะที่พวกเราอยู่ในบ้านอันอบอุ่นแล้วก็พร่ำบ่นว่าเมื่อไรไฟมันจะติด น้ำจะไหลน้าา ก็มีคนที่อยู่ข้างนอกท่ามกลางความหนาวเหน็บกำลังพยายามสู้อยู่ เรื่องที่แปด ในจังหวัดจิบะ คนลุงคนหนึ่งที่หลบภัยอยู่ก็ได้เปรยออกมาว่า ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรน้า เด็กหนุ่มม.ปลายก็ตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้ไปเมื่อผมเป็นผู้ใหญ่ พวกผมจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิมแน่นอน (ไม่เป็นไร พวกเรายังมีอนาคต!!!) เรื่องที่เก้า ขณะที่กำลังได้รับความช่วยเหลือ หลังจากที่ติดอยู่บนหลังคาบ้านมากว่า 42ชั่วโมง คุณลุงก็ได้กล่าวว่า "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรครับ เคยมีประสบการณ์สึนามิที่ชิลีมาแล้ว ต่อจากนี้ไปพวกเรามาช่วยฟื้นฟูบ้านเมืองกันนะ" แกกล่าวด้วยรอยยิ้ม (สิ่งสำคัญสำหรับพวกเราคือ ต่อจากนี้ไปเราจะทำอะไรต่างหาก) เรื่องสุดท้าย ก่อนหน้านี้เมืองมันสว่างเกินไป เกินที่จะมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่จริงๆแล้วดาวสวยเช่นนี้เอง ชาวเซนไดทุกคนลองแหงนมองขึ้นไปข้างบนดูซิ (ตรงนี้ไม่มั่นใจว่าแปลว่า ชาวเซนไดทุกคนมองขึ้นไปบนฟ้า รึเปล่า) ขอบคุณ คุณ ฉั่ว Kyoto ในการแปลข้อความพวกนี้เป็นภาษาไทย ให้พวกเราทุกคนได้อ่านกัน ขอบคุณเพื่อนผมที่อยู่ที่นั้น และฝากข้อความมาให้อ่าน และเค้าบอกว่าที่นั้นสบายดี กลายเป็นว่าแทนทีผมจะให้กำลังใจเพื่อนฝ่ายเดียว แต่เค้าได้ให้กำลังใจผมกลับมาจนเต็มหัวใจ สุดท้าย “คนไทยในยามวิกฤต ช่วงน้ำท่วมหรือสึนามิ เราก็เคยได้เห็นน้ำใจคนไทยแบบนี้เช่นกัน” จากคุณ : ชีวิตยิ้มๆ     เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 23:09:00 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 01:03:36 จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 00:57:57

ความคิดเห็นที่ 10 ทุกประเทศล้วนมีทั้งด้านเจริญและเสื่อม ญี่ปุ่นก็เช่นกัน อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ต่างๆทั้งครั้งนี้และที่ผ่านๆมาก็ทำให้เรารู้สึกว่าญี่ปุ่นนับเป็นประเทศที่'เจริญ'แล้วจริงๆ โดยที่ไม่ได้วัดแค่GDP หรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (เพราะถ้าวัดแค่นั้นก็บางชาติก็พอๆกันหรือมากกว่า) แต่ดูองค์รวม ทั้งด้านวัตถุ จิตใจประชาชน และวัฒนธรรม Japan is a true 'developped' country, not just 'industrialised' country. จากคุณ : Akrat เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:39:20

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับคุณ Akrat เรื่องทุกประเทศมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีก่อนหน้านี้ เราได้ยินเรื่องไม่ดีของญี่ปุ่นมาก็มาก เรื่องเด็กเครียดสอบเข้ามหาลัยไม่ได้ จบมาทำงานกันหนักมาก แต่วินัยของคนประเทศนี้เราขอนับถือจริงๆ ตอนที่เกิดเหตุภัยพิบัติที่อเมริกาตอนใต้ ร้านค้าที่ปิดไว้ถูกทำลายเพื่อขโมยข้าวของ ทุกคนต่างก็ดิ้นรนเอาตัวรอดแต่ที่ญี่ปุ่นนี่ผิดกัน มานั่งคิดว่าเพราะอะไร เพราะว่าเค้าเห็นว่าคนในชาติเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกัน ที่ไม่อาจจะคิดเอาเปรียบหรือเปล่า? จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:55:16

ความคิดเห็นที่ 12 อยากดูรูปคนไทยที่แย่งกันซื้อน้ำมันปาล์ม จากคุณ : Nine Cats เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 01:59:40

ความคิดเห็นที่ 13 Sawasdee kha P'pixp, I couldn't agree more with you kha. Even BBC1 news reporters mentioned many times with admiration and respect about how well the Japanese people cope with their situation calmly and orderly. This discipline can't be created within days, months or even years but generations. I think it's time we are taking this matter seriously and start teaching our children about the discipline and integrity. แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 02:18:16 จากคุณ : หมูหนาว เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:06:41

ความคิดเห็นที่ 14 วันนี้เพิ่งคุยกับพี่คนนึงเรื่องความเป็นระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่น (จากภาพข่าวต่าง ๆ ที่ได้เห็น) ว่าเห็นแล้วรู้สึกชื่นชมในความมีระเบียบของเขา จากคุณ : อารีรัตน์ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:07:37

ความคิดเห็นที่ 15 Loyal Japanese dog leads rescuers to mate A spaniel found amid the devastation in Ibaraki Prefecture leads a TV crew to its injured friend. http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/asia/japan/8386123/Loyal-Japanese-dog-leads-rescuers-to-mate.html จากคุณ : หมูหนาว เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:37:55

ความคิดเห็นที่ 16 ช่วยเพิ่มเติมภาพค่ะ ผู้ประสพภัยชาวญี่ปุ่นต่อแถวกันรองน้ำดื่ม (จาก Yahoo News) จากคุณ : NaiChaiyo เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:38:27

ความคิดเห็นที่ 17 May I quote this message from BBC's Twitter "Tokyo is a ghost town tonight. No people on the streets. Even the entertainment districts. Eerily quiet. But Tokyo is amazing. Even with blackouts, train problems, no rioting, no looting, no robberies." จากคุณ : Match Point เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:39:52

ความคิดเห็นที่ 18 ต่อแถวกันชาร์ตแบตมือถือ (from Yahoo News) จากคุณ : NaiChaiyo เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:39:54

ความคิดเห็นที่ 19 ต่อแถวรอรับอาหาร (from Yahoo News) จากคุณ : NaiChaiyo เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:44:11

ความคิดเห็นที่ 20 4. จากคุณ : NaiChaiyo เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:45:06

ความคิดเห็นที่ 21 5. จากคุณ : NaiChaiyo เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:45:43

ความคิดเห็นที่ 22 6. จากคุณ : NaiChaiyo เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:46:12

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นด้วยค่ะว่า คนญี่ปุ่นเป็นแบบอย่างให้คนประเทศอื่นมากๆเรื่องระเบียบวินัย เคารพกฏกติกา แม้ว่าทุกที่จะมีคนดีไม่ดีปนกันไป แต่พอเกิดภัยพิบัติ ทุกคนก็มีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมประเทศกันเอง ไม่บ่นว่า เจ้าหน้าที่ มีความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจกัน จากคุณ : thaiivy เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 02:59:37

ความคิดเห็นที่ 24 คนญี่ปุ่นสุดยอดจริง ๆ เจริญทั้งวัตถุและจิตใจจริง ๆ สงสารคนที่โน่นจังที่ต้องเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ แบบนี้ จากคุณ : Sonnenschein เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 03:48:21

ความคิดเห็นที่ 25 ดูแล้วรู้สึกสงสารมากกว่าเดิมอีก จากคุณ : ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 05:14:46

ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อวานดูข่าว เขาถ่ายไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต แบบต้องรอต่อคิวกันเข้าไปซื้อของ คนที่ยืนปิดประตูกั้นไว้ ก็โค้งแล้วโค้งอีก น่ารักมากๆ เห็นแล้วเศร้าใจจริงค่ะ จากคุณ : ม่านสีม่วง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 05:21:45

ความคิดเห็นที่ 27 ผมขอคารวะชนชาติ ญี่ปุ่น ด้วยครับ พวกท่านสุดยอดดดดด.. จากคุณ : yuanhan49 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 06:07:48

ความคิดเห็นที่ 28 อ่าน "เรื่องเล่าดีๆ " จากญี่ปุ่น" ในวันแผ่นดินไหว" ในคคห.9 แล้วตื้นตัน... จากคุณ : ตกตะกอน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 06:51:08

ความคิดเห็นที่ 29 งดดูข่าว น้ำตาได้เเห้งไปสองวัน วันนี้เข้ามาเจอกระทู้น้อง pixp ได้น้ำตาซึมอีก เมื่อวานไปทำงานหลังจากหยุดไป 5 วัน (ไม่เกี่ยวกับเเผ่นดินไหว) เเจนิเตอร์เข้ามาถามว่าช่วยซื้อน้ำเป็นเเพ๊คๆให้หน่อยได้ไหม ฝากซื้อที่สหกรณ์ในเบสเพราะไม่เเพงเหมือนข้างนอก เราก็ตกใจ อ้าว มีญาติที่เซนไดหรือ? เขาบอกเปล่า เเต่เพื่อนของเขามีพ่อเเม่เเก่มากเเล้วอยู่ที่นั่น บ้านโดนน้ำกวาดลงทะเลไปหมด ตอนนี้สองคนตายายอยู่เชลเตอร์ เพื่อนเขาก็อยากดั้นด้นไปหาพ่อเเม่เขาเสียเดี๋ยวนี้ เเต่ยังขลุกขลักเรื่องเดินทาง ก็หาทางอยู่ว่าจะไปยังไง ระหว่างนี้เพื่อนๆทางโตเกียวนี่เเลยลงขันซื้อน้ำเเละของเเห้งเตรียมฝากไปด้วย เลยบอกว่า ไม่ต้องฝากซื้อหรอก เดี๋ยวจะซื้อมาให้ มากน้อยก็ช่วยกันไป จะเอาอะไรบ้างจดมา เเจนิเตอร์ก็โค้งเเล้วโค้งอีก ทั้งๆที่ไม่ใช่พ่อเเม่ของเขา เป็นพ่อเเม่คนอื่นอีกทีเเท้ๆ มาลองคิดๆดู ตายายสองคน ลูกหลานไปตั้งรกรากอยู่เมืองอื่นกันหมด ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือเเล้ว สิ้นเนื้อประดาตัว ข้าวน้ำก็เเทบไม่มีจะกิน ไหนจะหน้าหนาวเเถมฝนตกลงมาซ้ำอีก หากเป็นพ่อเเม่เรา เราก็คงใจจะขาดเหมือนกัน ไปหาก็ไม่ได้เพราะเรื่องหนทางถูกตัดขาด จะโทรไปหาก็ไม่ได้ต้องรอทางเซนไดโทรมา พ่อเเม่เเก่เเล้ว ต้องไปยืนรอโทรศัพท์เป็นชม.ๆ เมื่อไหร่เรื่องร้ายๆจะจบก็ไม่รู้ ที่โตเกียวนี่ก็ยังไหวอยู่ทุกวัน วันละหลายรอบ บางรอบก็เเรงจนบ้านไกว ไหนจะเรื่องเรดิเอเตอร์ที่กระจายออกมาอีก สาธุ ขอให้ชาวโลกปลอดภัยทุกคนด้วยเถิด จากคุณ : Jennifer Lowclass เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 06:58:41

ความคิดเห็นที่ 30 ดูข่าวทุกวัน วันละหลายรอบเลยค่ะ สงสารพวกเค้า แต่เห็นในข่าว คนที่ประสบปัญหา ล้วนแล้วแต่เข้ามแข็ง มั่นคง เชื่อมั่น เห็นนักข่าวสัมภาษณ์ที่รอเข้าคิวกันหลายชั่วโมงโดยไม่มีใครปริปากบ่น เห็นแล้วชึนชมจังค่ะ ขอให้เรื่องร้ายๆผ่านไปโดยเร็ว ขอให้เจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่ให้เร็วที่สุด ให้ญี่ปุ่นกลับมาเหมือนเดิม เสียใจกับผู้สูญเสียทุกท่านค่ะ อยากไปช่วยด้วยคน คนละไม้คนละมือ จากคุณ : PoomPim..TMB เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 07:30:32

ความคิดเห็นที่ 31 ชื่นชมญี่ปุ่นค่ะในเรื่องความเป็นระเบียบ อดทนและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ขอให้เค้าผ่านความยากลำบากในช่วงนี้ไปได้อย่างรวดเร็วด้วยค่ะ จากคุณ : วิสกี้โซดา เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 07:46:35

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 12     อยากดูรูปคนไทยที่แย่งกันซื้อน้ำมันปาล์ม จากคุณ : Nine Cats   v v จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 08:24:34

ความคิดเห็นที่ 33 :) จากคุณ : LittleCancer เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 08:26:19

ความคิดเห็นที่ 34 ระเบียบวินัยเนี๊ยบมากค่ะ น่าภูมิใจแทนผู้นำ ผู้ปกครอง ผู้หลักผู้ใหญ่ ฯลฯ จริง ๆ เรื่องแบบนี้ ต้องสอนกันมาตั้งแต่เกิด อนุบาล ยัน ทำงาน และัสืบทอดมายาวนาน บรรพบุรุษ พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย คุณครูบาอาจารย์ ต้องปลื้มสุดใจแน่ ๆ เลย กระซิก ๆ จากคุณ : Kryta (Kryta Ja) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 08:52:25

ความคิดเห็นที่ 35 ไทยแลนด์ห่วยมากเลยครับ เรื่อง วินัย เห็นแล้วอดสู จากคุณ : wkiet เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:03:51

ความคิดเห็นที่ 36 นั่งดูทีวีทุกวัน น้ำตาไหลทุกวัน สงสารมาก แต่ก็ชื่นชมคนญี่ปุ่นจริงๆ หลังจากเหตุการณ์สงบ ต่างคนต่างกลับไปซากปรักหักพังบ้านเรือนตัวเองโดยที่ไม่มีภาพการรื้อค้นทรัพย์สินบ้านคนอื่นเลย ที่โตเกียวน้ำมันตามปั๊มเริ่มไม่พอขาย เมื่อวานเจ้าของปั๊มน้ำมันหนึ่งจ่ายน้ำมันรถให้ฟรีๆ  โดยไม่คิดเงิน ซาบซึ้งน้ำใจยามยากนัก ของกินตามมินิมาร์ทก็ยังคงขายราคาปรกติ ไม่มีการขึ้นราคา ฉวยโอกาสแต่อย่างใด มีเสื้อผ้าที่คนมาบริจาค ผู้ประสบภัยก็ค่อยๆ เลือกกันไป ใครเลือกเสร็จก็ออกมา แล้วคนใหม่ก็เข้าไปนั่งเลือกอย่างช้าๆ ใจเย็น ไม่เห็นภาพมะรุมมะตุ้มยื้อแย่งให้เห็นเลย กำลังใจคนญี่ปุ่นเค้าดีมากค่ะ มีสติพอสมควร ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะยังหวาดผวาก็ตาม แต่เพื่อไม่ให้สถานการณ์มันดูแย่และเลวร้ายลง ทุกคนต้องเข้มแข็งและให้กำลังใจซึ่งกันและกันค่ะ จากคุณ : sisser เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:26:18

ความคิดเห็นที่ 37 #32 ดูแล้วรู้สึกอย่างไรคงไม่ต้องบอก....เพราะสังคมเราสบายๆ ตามใจตัวเอง ไร้ระเบียบ เอาเปรียบ เพราะไม่มีการปลูกฝัง ชาวไทยไม่เคยทุกข์ยากลำบากเหมือนใครๆ จะขอยกตัวอย่าง 1. รถติดก็แซงออกเลนสวนแล้วมาเบียดเข้า รถที่รอคิวถ้าไม่ให้เข้าก็จะโดนต่อว่า ว่าไม่มีน้ำใจ (โดนกับตัวเองมาแล้ว) และรถคันนั้นก็มีเด็กๆนั่งมาด้วย เป็นอันว่าเด็กบ้านนี้โตขึ้นคงหมดหวังที่จะมีระเบียบแน่นอนเพราะพ่อแม่ทำให้ดูแบบนี้ 2. เอาตามภาพที่ 32 เลย ถ้าไม่แย่งก็อดเพราะมีคนที่ไม่เคารพกฏเกณฑ์ แย่งชิงเอาก่อนเพราะกลัวไม่ได้ บ้านผมไม่เห็นต้องไปแย่งเลย ทุกวันนี้ก็ยังมีน้ำมันปาล์มทำกับข้าว... 3. ที่ตลาดหน้าบ้าน ถนนก็แคบ แต่มีคนขับรถมักง่าย ไม่ยอมหาที่จอด เค้าจอดมันตรงร้านที่เค้าจะซื้อหรือจะทานข้าวมันนะแหละ ไม่สนว่าถนนมันจะเหลือแค่ไหนรถที่เค้าสัญจรจะผ่านได้ไมีรถจะติดยังไง ไม่สน สนเฉพาะว่า ตัวเองไม่ต้องเดิน...เปิดไฟกระพริบเอา แอบสงสัยว่าไอ้ไฟกระพริบนี้มันไฟสวรรค์หรือไง ถ้าลองเปิดแล้วสามารถทำอะไรก้ได้ไม่ผิด เพราะถือว่าเปิดไฟแล้ว.... 4. เข้าแถวรอขึ้นรถไฟฟ้า 2 แถว พอรถใกล้จะมา จะมีคนมาแทรกตรงหัวแถวเพื่อแย่งขึ้นก่อน...แปลกไม๊ ยืนรอรถได้ตั้งนาน แต่ถ้าขึ้นรถเมื่อไหร่ จะต้องขอนั่งให้ได้ 5. เข้าคิวจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อ จะมีผู้ชายจากไหนไม่รู้เข้าประตูมา ไม่สนใจว่าใครจ่ายเงินอยู่ จะยืนเงินให้ แคชเชียร์แล้วบอกว่า บุหรี่ซอง จะเอาเดี๋ยวนั้น ไม่รอเด็ดขาด 6. ทั้งเด็กผู้ใหญ่ผู้หญิงคนแก่ ข้ามถนนมันใต้สะพานคนข้ามนะแหละง่ายดี 7. ................ไม่สนใจความลำบากของคนอื่นแต่คนอื่นต้องเห็นใจความลำบากความต้องการของตนเอง.......เหมือนพวกที่เคยชุมนุมที่ใจกลางกรุงเทพ ก็เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน.....(จะโดนแบนหรือเปล่าเนี่ย) กลับมาเรื่องชาวญี่ปุ่น 1. ชนชาตินี้เป็นนักสู้ เค้าต่อสู้มายาวนานกับภัยธรรมชาติ พวกเค้าจะกลับมาแน่ และใช้เวลาไม่นานด้วย กลับมาครั้งนี้ เค้าจะมาพร้อมมาตรฐานใหม่ๆ ที่ดีขึ้น 2. การมีระเบียบ ไม่ฟูมฟาย  แต่ตั้งสติ ตั้งหลัก ได้เร็วการฟื้นฟูก็แค่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ไม่มีข้อสงสัยในศักยภาพของชนชาตินี้เลย 3. เรื่อง กัมมันตภาพรังสี  ผมขอเสนอความเห็นนิดนึง  สมัย ญี่ปุ่นโดน ระเบิดนิวเคลียร์ 2 ลูก ที่ฮิโรชิมา กับ นางาซากินั้น เมืองที่โดน อยู่ทางภาคกลางภาคใต้ ของญี่ปุ่น ต่ำลงมาจากโรงไฟฟ้า หลายร้อยกิโลเมตร ตอนนั้น รังสีจากระเบิดแพร่เต็มๆ   ประเทศไทย สมัยนั้น มีบันทึกไม๊ครับว่าเจ็บป่วยล้มตายเพราะรังสีจากระเบิดที่ญี่ปุ่นเท่าไหร่ ถ้าไม่มี ก็อยากให้สงบๆ กันเถอะครับ อย่ากลัวกันจนไม่มีสติ ยิ่งได้ข่าวแถวจังหวัดภาคใต้เอาเบตาดีนมาทาคอทาตัว มันน่าสงสารจนเกือบจะตลก ไม่ได้คิดจะดูถูกหรืออะไร ทุกคนมีสิทธฺ์กลัวและป้องกันตัวเอง แต่มีสติบ้างก็ดี สุดท้าย.....จุดเด่นของเค้าเอามาใช้   ส่วนจุดด้อยก็เอามาเป็นบทเรียน  เราคนไทยก็มีดีหลายอย่างที่ชาติอื่นอยากได้  ที่สำคัญคนไทยต้องภูมิใจกับความเป็นชาติของเราซะก่อนครับ อะไรดีๆถึงจะตามมา แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 10:33:51 จากคุณ : แด่น้อง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:29:23

ความคิดเห็นที่ 38 อยากให้คนไทย เป็นมีมารยาทอย่างญี่ปุนจัง ทุกวันนี้ สอนลูก โอเค ลูกทำได้ดีครับ แต่เวลาลูกออกไปนอกบ้าน กลับโดนคนขี้โกง ขี้เกียจ รังแกเอา..เบื่อมาก... แล้วจะให้ทำยังไง...กับบ้านนี้เมืองนี้ ผมว่าอนาคตเมืองไทยน่าห่วงมากเลยนะครับตอนนี้ จิตสำนึกของความเป็นคนดีกำลังโดนทำลาย ให้กลายพันธ์ ไม่งั้นก็อยู่ในสังคมแย่ๆ ไม่ได้ โดนเอาเปรียบตลอด...ว่ามะ... จากคุณ : foren161 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:38:51

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านกระทู้นี้แล้วร้องไห้ T_T จากคุณ : Bluedonut เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:41:28

ความคิดเห็นที่ 40 สติ   มีสติกันหน่อย จากคุณ : judy_dee เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:44:23

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นภาพคนไทยแย่งกันซื้อนำมันปาล์มแล้วตกใจ อยากจะส่ายหน้าจริงๆ อายเค้ามั๊ยคนไทย แย่งกันซื้อยังไม่พอ เห็นแก่ตัวอีกต่างหาก เล่นยกลังซื้อกันเลย แทนที่จะซื้อกันคนละขวด แบ่งๆคนอื่นเค้ามั้ง 1 ลังมันบรรจุอยู่ข้างในอีกกี่ขวด อีกกี่คนที่ต้องอดซื้อเพราะคุณเอาไปคนเดียว เปลี่ยนนิสัยกันเถอะค่ะ ดูญี่ปุ่น ดูสิ่งดีๆของเค้า แล้วนำเป็นตัวอย่าง จากคุณ : curious-chan เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 09:46:24

ความคิดเห็นที่ 42 จะยาวกี่กิโล ก็ต้องต่อคิวค่ะที่ญี่ปุ่น ไม่มีการแย่งยิ่งสภาวะแบบนี้ ไข่ นม น้ำ แบ่งๆกันซื้อค่ะ เหลือไว้ให้คนที่ไม่ได้บ้าง เห็นใจซึ้งกันและกันค่ะ เห็นคนแย่งซื้อน้ำม้นแล้วพูดไม่ออกค่ะ น่าจะแบ่งๆกันไป แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 10:18:01 จากคุณ : mayosamurai เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:17:27

ความคิดเห็นที่ 43 โดยส่วนตัวไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นเลยครับ รู้แค่ว่าตัวเองชอบอ่านการ์ตูนเมืองเค้าบ้าง ชอบดูหนังที่มีอะไรที่แนวจิตๆจากเค้าบ้าง แต่มาเห็นการที่คนประเทศเค้าเวลาที่เกิดเรื่อง เค้าช่างมีความสงบไม่ยื้อแย่ง ไม่มีการฉกชิงของใคร ยอมรับหมดใจเลยครับ ว่านี่หล่ะประเทศที่พัฒนาจนเต็มที่แล้ว เป็นกำลังใจให้นะครับ ถึงแม้ว่าใจที่มีให้จะเป็นใจที่มีแต่เลือดและเนื้อ สู้สู้..ครับ ชาวญี่ปุ่น จากคุณ : ในฝันฉันรักเทอ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:18:02

ความคิดเห็นที่ 44 เขามีระเบียบมาเป็นร้อยปีแล้วครับ จากการที่ได้สัมผัสคนญี่ปุ่นได้อยู่ อาศัย มาเป็นสิบปี เขาหยิ่งในชนชาติมาก ขนาดเงินทิป  หลายๆตนยังไม่รับเลย เขาบอกว่า เงินเดือนมี ไม่ต้องการ ให้ใส่กล่องบริจาค หรือยามเกิดอุบัติเหตุ  คำแรกที่ได้ยินเลย ในรถมีเด็กไม๊ ให้ความสำคัญกับเด็กก่อนเสมอ  เวลาจูงหมาไปออกกำลัง เจ้าของจะมีอุปกรณ์เก็บอึออกไปด้วย  ไม่เคยปล่อยให้เป็นภาระสังคม และมีอีกเยอะมากมาย เรียกว่าถ้าจะเอาอย่าง คงต้องขุดหลุมเสาเข็มฝังกันทีเดียว จะขุดหลุมตื้นๆ คงได้แค่ช่วงนี้เท่านั้น นานไปก็ลืม จากคุณ : ฟุ้งซ่าน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:44:50

ความคิดเห็นที่ 45 อยากให้คนไทยได้ดูเยอะๆเเล้ว ทำตามแบบคนญี่ปุ่นบ้าง เด้วนี้คนไทยเห็นแก่ตัวแบบน่าใจหาย คลิปข้างบนเป็นตัวอย่างนึง เเต่ที่เลวร้ายกว่าคือ เด้วนี้ไม่พอใจอะไร ชั้นก็จะประท้วง ปิดถนน ปิดบ้า ปิดบอ ปิดอะไรก็ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เเต่ชั้นต้องได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการทันที ตัวอย่างง่ายๆล่าสุด ก็ พวกพ่อค้าเเม่ค้าริมทางเดินสยาม ทั้งปิดถนน ทั้งทำลายข้าวของภาษีประชาชน ทั้งเขียนด่าสรพัด ทั้งๆที่ตัวเองผิด หน้าด้านจริงๆ คนไทยบางกลุ่มชอบมาอ้างว่าตัวเองจน ถูกกลั่นเเกล้ง ดูคนญี่ปุ่นตอนนี้สิ แทบไม่เหลืออะไรเลย ครอบครัวก็เสีย บ้านก็เสีย เเต่เค้าไม่เห็นจะต้องมาทำตัวเห็นแก่ตัวเลย ประเทศเราไม่ต้องไฮเทค GDP สูงๆๆ เหมือนญี่ปุ่นก็ได้ เเต่ขอให้คนไทยมีวินัย รักษาสิทธิผู้อื่น ไม่เอาเปรียบ เหมือนคนญี่ปุ่น เเค่นี้ก็น่าอยู่เเล้ว จากคุณ : prun poa เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:44:59

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นแล้วนับถือ วินัยสร้างชาติจริงๆ วัฒนธรรมบ้านเรายังห่างอีกมาก เหตุผลหนึ่งคือผู้นำเราเป็นแบบใด มันสะท้อนชาติบ้านเมืองก็เป็นแบบนั้น บ้านเราโชคดีที่ภัยธรรมชาติหนักๆ มีไม่มาก แต่โชคร้ายคุณภาพคนเราก็ไม่มากเช่นกัน กลับกันถ้ามันเกิดกับเราในสภาพสังคมแบบนี้ ความสูญเสียอาจมากกว่าญี่ปุ่นหลายเท่า จากคุณ : raimon32 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 10:57:41

ความคิดเห็นที่ 47 วินัยเริ่มต้นที่บ้าน ยังไม่สายเกินไป เชิญชวนชาวพันทิป  แนะนำบุตรหลาน  คนในบ้าน บอกเล่าเรื่องราวชาวญี่ปุ่นครั้งนี้ ให้คนใกล้ตัว ได้รับรู้ ชี้ให้เห็นว่า ดี และ สำคัญอย่างไร อนาคต คนไทยเรา ก็พัฒนาจิตใจ ไปสู่ระดับนั้นได้ ถึงวันหนึ่ง เกิดเหตุร้ายกับชาวไทย พวกเราชาวพันทิป  อาจได้ซาบซึ้งกับพวกเรากันเองบ้าง แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 11:53:46 จากคุณ : premira เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 11:04:31

ความคิดเห็นที่ 49 เห็นคลิปคนไทย แล้วรู้สึกแย่ ถึงขั้นสมเพช แต่ละคน ทำไปได้ มันทำให้ภาพลักษณ์ของไทย หมดกัน ประเทศไทย มีคนดีอยู่เยอะ แต่คนไม่ดีเยอะกว่า :( จากคุณ : EMBER ME เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 11:42:39

ความคิดเห็นที่ 50 ผมเป็ฯหนึ่งในคนที่ต้องเดินเท้ากลับที่พักครับ  โชคดีมากที่บ้านผมไม่ได้ไกลจากที่ทำงานมากนัก  ใช้เวลาประมาณ 3 ชม เท่านั้น  เพื่อนๆที่อยู่รอบนอกใช้เวลาเกิน 5 ชมอีก ถนนหลักเกือบทุกสายติดขัด  ผู้คนเต็มท้องถนนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  แต่น่าแปลกที่เป็นการเดินที่เรียบร้อยมาก  เข้าไปซื้ออาหารก็ต่อแถวจ่ายเงิน  โทศัพท์สาธารณะเต็มไปด้วยผู้คนเข้าแถวรอติดต่อทางบ้าน  ระหว่างทางมีโต๊ะวางขนมปังและน้ำให้ผู้เดินผ่านได้ดื่มกิน   ในวิกฤตเต็มไปด้วยภาพงดงามที่น่าจดจำ จากคุณ : Long time no see เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:24:12

ความคิดเห็นที่ 51 ตัวอย่างคนไทยไม่มีวีวินัย หาดูได้จากในโลกไซเบอร์ ...เอาแค่ในโลกไซเบอร์ เว้บบอร์ดมีกฏ กติกา ให้คนใช้เว้บบอร์ด "พึงปฏิบัติ" ..คนไทยส่วนมากไม่มีระเบียบ ไม่มีวินัย ชอบหาทางแหกกฏ กติกา ... เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:32:14

ความคิดเห็นที่ 52 อยากแบ่งปันเรื่อง เจ้าสุนัขผู้รักเพื่อนสุนัขตัวนี้ด้วยค่ะ T T คนเราควรเอาอย่างด้วยค่ะ พอดีว่า Link ไม่ขึ้นค่ะ http://cnn.com/video/?/video/us/2011/03/16/am.dog.stays.with.injured.dog.cnn http://www.youtube.com/watch?v=uct9Kzjw9XY แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 13:44:42 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 13:42:53 จากคุณ : thaiivy เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:39:00

ความคิดเห็นที่ 53 ใครฟังภาษาญี่ปุ่นออกช่วยแปลด้วยนะคะ ถึงฟังไม่ออกก็เข้าใจ กินใจมากๆเลยค่ะ จากคุณ : thaiivy เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:40:41

ความคิดเห็นที่ 54 ญี่ปุ่นมีวินัยเยี่ยมอันดับหนึ่งของโลก และเชื่อว่าคนญี่ปุ่นมีน้ำใจเป็นอันดับต้นๆ ของโลกด้วย คนญี่ปุ่นมักไม่โทษคนอื่น จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:42:11

ความคิดเห็นที่ 55 ซ้ำค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 13:46:43 จากคุณ : thaiivy เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 13:45:50

ความคิดเห็นที่ 57 มันเป็นวัฒนธรรมของชาติที่สั่งสมมาแต่โบราณด้วยเหตุการณ์และปัจจัยเล็กๆน้อยๆมากมายค่อยๆกล่อมเกลา อาจจะบอกว่าเรามองแง่ร้ายไป แต่ประเทศไทยยากมากหรือไม่มีทางเลยที่จะเป็นแบบนั้นได้ อย่างน้อยก็ใน100ปีข้างหน้า เหมือนที่อเมริกา อินเดีย ปากีสถาน อิรัก ก็มีแนวคิดที่ฝังราก มันแก้ไดียากมาก ประเทศก็ไม่ได้มีประชากรแค่ล้านสองล้าน ดังนั้นการจะอบรมไปทั่วทุกคนมันเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตามเราว่าเราทำให้ประเทศเราดีขึ้นได้อีกเล็กน้อย แต่ต้องอาศัยสื่อ และผู้นำประเทศ ที่ช่วยกันรณรงค์ แต่ว่าตอนนี้ทั้งสองอย่างก็ไม่มีความแข็งแกร่ง สื่อก็เอาแต่ขายข่าวไม่สร้างสรรค์ไปวันๆ จะมีใครมาเริ่มรณรงค์เรื่องแบบนั้น จริงๆประเทศไทยประสบความสำเร็จเรื่องรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ประเทศเราคนสูบบุหรี่น้อยกว่าประเทศอื่นในโลกมาก เรื่องนี้รณรงค์มานานมาก และก็ค่อยๆเห็นผล ดังนั้น เรื่องวินัยและนิสัยคนในชาติก็ต้องใช้เวลาและจริงจังแบบนั้นบ้าง แต่ใครจะเริ่ม? จากคุณ : Akrat เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:24:55

ความคิดเห็นที่ 58 จากลิ้งค์เกี่ยวกับสุนัขสองตัวในคห.ที่ ๕๓ ดิฉันได้เพิ่งดูจาก CNN คือหมาตัวที่เดินไปมาปกป้องหมาตัวที่อ่อนแอที่นอน ...หมาตัวแข็งแรงกว่าเอาขาหน้าไปพาดตัวอ่อนแอเพื่อให้กำลังใจ เพราะหมาตัวอ่อนแอท่าจะไม่รอด ทำหใ้หมาตัวแข็งแรงว้าวุ่นไม่สงบ เขากลัวภัยอันตรายกับเพื่อนหมาอ่อนแอ ใช้เวลาหลายชม. กว่าคนที่พยายามช่วยปลอบให้หมาตัวแข็งแรงสงบลงได้... จากนั้นพาหมาทั้งสองตัวไป... ตัวอ่อนแอพาไปรักษา ส่วนตัวที่แข็งแรงกว่าพาไปดูแล มีองค์กรช่วยสัตว์เลี้ยงช่วยเหลือสัตว์ลำบาก จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:27:44

ความคิดเห็นที่ 59 คุณภาพของคนในประเทศ กำหนดทิศทางได้จริงๆ มองย้อนกลับมาบ้านเราแล้วก็เศร้า โดยเฉพาะในบ้านเราสิ่งที่อันตรายกว่าสารกัมมันภาพรังสี คือ "นักการเมือง" จากคุณ : ปะการังสีเพลิง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:33:26

ความคิดเห็นที่ 60 ได้ดูข่าวสุนัขสองตัวเมื่อคืนนี้เหมือนกัน ดีใจที่ทราบจากคุณ Jidnince คห.58 ว่ามีคนช่วยเขาทั้งสองปลอดภัยแล้ว สึนามิครั้งนี้นอกจากจะสงสารคนที่นั่นแล้ว ยังอดสงสารพวกสัตว์เลี้ยงไม่ได้ค่ะว่าเขาจะรอดกันหรือเปล่า ชื่นชมคนญี่ปุ่นในเรื่องของวินัยและความขยันอดทนเช่นกันค่ะ จากคุณ : Tiwanon48 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 14:49:28

ความคิดเห็นที่ 61 ความมีระเบียบวินัยเนี่ย มันต้องบ่มต้องเพาะกันมานาน ต้องมีการจัดระเบียบ สังเกตุว่าประชาชนญี่ปุ่นจะมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลว่าจะต้องฝ่าสถนการณ์อันเลวร้ายนี้ได้ จะฟูมฟายไปก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ มีแต่จะทำให้เป็นภาระมากขึ้นไปอีก และระเบียบวินัยนี้เค้าไม่ได้เพาะบ่มมาแค่สองสามปี เค้าสั่งสอนกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า จนเหมือนมันซึมเข้าไปในDNAของชาวญี่ปุ่นแล้ว อย่างเรื่องคนไทยแย่งกัยซื้อน้ำมันปาล์มกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เท่าที่ดูในคลิปมีเสียงโหยหวนด้วย อันนี้เราเข้าใจบ้าง เป็นเราอยู่ตรงนั้นก็อาจจะแย่ง ยิ่งถ้าเป็นพ่อค้าแม่ขายด้วยแล้ว เพราะถ้าไม่แย่งก็ไม่มีโอกาส มันไม่มีการจัดระเบียบตั้งแต่ต้น เราต้องค่อยๆเริ่มจัดระเบียบกันใหม่ อย่าโกรธเคืองกัน อย่าเจ้าคิดเจ้าแค้นมากมาย ไอ้ที่ผ่านๆมาก็ปล่อยวางลงไปบ้าง เมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นเมื่อไหร่ คนไทยก็จะช่วยกัน จากคุณ : ปอน้อยๆน่ารัก (gwyndapooh) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 15:22:44

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณสำหรับความเห็นต่างๆจากเพื่อนสมาชิก ดิฉันก็พยายามนึกในหลายๆเรื่องว่าทำไม ความมีวินัย ในญี่ปุ่นถึงได้งดงามเช่นนี้ ถึงแม้ในยามหน้าซิ่วหน้าขวาน ได้ข้อคิดไปหลายข้อทีเดียว การที่หลายคนหันมามองญี่ปุ่นและพยายามเอาเป็นตัวอย่างที่ดี นั่นเป็นเรื่องดี อย่างน้อยก็ตื่นตัวได้ว่า มันมีโอกาสเกิดขี้นได้นะ ถึงแม้จะไม่ใช้ระยะเวลาอันสั้นก็ตามที การรณรงค์เป็นสิ่งที่ดี ที่เริ่มต้นจากตัวเอง ครอบครัว คนใกล้ตัว ครูบาอาจารย์ ที่พยายามปลูกฝังวินัยให้กับลูกหลาน ต่อจากนั้นก็เป็นพวกสื่อ เดี๋ยวนี้อินเตอร์เน็ตก็เป็นสื่อที่เข้าถึงวัยรุ่นได้ดีน่าจะนำมาใช้เป็นประโยชน์ได้ จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:16:07

ความคิดเห็นที่ 63 เป็นเหตุการณ์ประทับใจของเราเมื่อวานนี้ ระหว่างคุยกะอาจารย์หรือเซนเซ คือเรามาเรียนปริญญาเอกอยู่ที่ญี่ปุ่นนะคะ เรา --> "เซนเซคะ เกิดเหตุการณ์ร้ายๆแบบนี้ขึ้น แล้วปีนี้ช่วงดอกซากุระบาน คนญี่ปุ่นจะยังมีการฉลองที่เรียกว่า O-hanami อยู่หรือเปล่า??" เซนเซ --> "แน่นอนสิ ยังไงก็ต้องมี เพราะการฉลองจะทำให้พวกเราไม่อยู่กับความเศร้า และพร้อมจะต่อสู้กันต่อไป.... เท่านั้นแหล่ะ จุก อึ้ง...ยอมรับในเลือดนักสู้ของคนญี่ปุ่นจริงๆ มิน่าประเทศนี้เค้าถึงได้ฟื้นตัวจากวิกฤติสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้รวดเร็วมาก เพราะเค้าไม่จมอยู่กับความโศกเศร้ากันนานนั่นเอง จากคุณ : sweet lion เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:29:30

ความคิดเห็นที่ 64 ผมว่า วินัยที่ดีของเค้า เริ่มมาจากการสั่งสม สั่งสอน กันมาแต่เด็ก โดยเฉพาะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเค้า "เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน" เพราะพวกเค้าคิดถึงส่วนรวมเสมอๆ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:33:20

ความคิดเห็นที่ 65 ไม่แปลกใจเลยค่ะ เพราะคนญี่ปุ่นมีวินัยแบบนี้มาตั้งแต่สมัยซามูไรแล้ว จิตใจเค้าเข้มแข็งและอดทนมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เอิ่มม เห็นแล้วอยากให้คนไทยเป็นแบบนี้บ้างจัง จากคุณ : Nivi เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 16:46:53

ความคิดเห็นที่ 66 มั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถยืนผงาดขึ้นได้อีกครั้งหลังหายนะคราวนี้ จากคุณ : คนไกล เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:02:38 A:90.224.231.55 X: TicketID:159141

ความคิดเห็นที่ 67 มีคลิปมาฝากค่ะ เค้าอธิบายเรื่องเตาปฎิกรณ์ได้น่ารักมากเลย ^^ จากคุณ : shadows lee เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:15:24

ความคิดเห็นที่ 68 เดิมเคยคิดว่า ถ้าเราแพ้สงครามไปพร้อมกับญี่ปุ่น คนไทยคงสามารถสร้างชาติกลับมาได้เหมือนคนญี่ปุ่น  วันนี้รู้แล้วว่า มันไม่ใช่เรื่องแพ้สงครามที่ผลักดันให้คนญี่ปุ่นกลับขึ้นมาได้แบบนี้ แต่มันอยู่ในสายเลือดคนญี่ปุ่นอยู่แล้ว ต่างหาก ถ้าเป็นไทย อย่างดีคงเหมือนตอนที่ฟื้นฟูบ้านเมืองหลังเสียกรุงฯเท่านั้น จากคุณ : Darkvider เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:21:41

ความคิดเห็นที่ 69 รักญี่ปุ่นขึ้นมากค่ะ..คนญี่ปุ่นอย่ายอมแพ้นะคะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : กุโบ๊ส เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 17:50:20

ความคิดเห็นที่ 70 แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 18:57:50 จากคุณ : http://www.youtube.com/watch?v (หมูหนาว) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 18:57:01

ความคิดเห็นที่ 71 I can't stop crying over this clip. Want to share it with everyone here kha. จากคุณ : หมูหนาว เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 18:57:35

ความคิดเห็นที่ 72 กระทู้ที่คุณป้าพนอจัน โพสต์ในห้องก้นครัว ความคิดเห็นที่ 14   วันนี้แค่จะหาขนมปังสำหรับอาหารเช้า สักหนึ่งแพค ต้องไปถึงสามซุปเปอร์ เหลืออยู่หกแพค ไม่หยิบคนเดียวหมด เหลือ ให้คนอื่นเขาบ้าง ซึ่งปรกติอาจจะซื้อสองแพค แต่วันนี้ซื้อพอสำหรับทานได้หนึ่งสัปดาห์ เหลือให้คนอื่น ต้องเตือนตัวเองว่าอย่าเห็นแก่ตัว http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D10351755/D10351755.html จากคุณ : ploydee เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 20:32:30

ความคิดเห็นที่ 73 เรามาอยู่ญี่ปุ่นได้สองปีแล้ว ตอนมาแรกๆก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่พออยู่ๆไปก็รู้สึกดีในหลายๆเรื่อง ทั้งการมีวินัยเหมือนจขกท.และคห.อื่นๆบอก ทั้งความไม่เห็นแก่ตัว มีกฏระเบียบ เสียสละ ฯลฯ ก็ตั้งใจว่าจะอยู่ช่วยญี่ปุ่นซึ่งเหมือนบ้านที่สอง เพราะเรามาทำมาหากินที่ี่นี่ค่ะ ช่วยได้เท่าที่เรามีกำลังจะช่วย เราอยู่โอซาก้า ไม่ได้โดนผลกระทบอะไร ตอนนี้ก็ได้แค่ช่วยประหยัดพลังงาน ไปซื้อของก็ไม่กักตุนเช่นกันค่ะ ไปบริจาคเงินที่ไปรษณีย์ และถ้ามีอะไรที่เราพอจะช่วยได้เราก็จะทำค่ะ ขอให้ญี่ปุ่นจงพ้นวิกฤติการณ์ครั้งนี้ในเร็ววันด้วยเทอญ จากคุณ : เหมียวเหมียว (wichayen) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 22:12:47

ความคิดเห็นที่ 74 ดูข่าวทุกวัน อึ้งมากกับความอดทนของคนประเทศนี้ ความมีระเบียบวินัย ความเสียสละ ความรัก มิตรไมตรี ตอนนี้คนทั่วโลกต่างยกนิ้วให้ประชาชนประเทศนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของโลก. แต่พอมาดูคลิปของ คห.32 เศร้าจิตค่ะ       - -" จากคุณ : จิงโจ้ยักษ์ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 22:17:43

ความคิดเห็นที่ 75 แทนที่จะโพสเรื่องไม่ดีในไทย เรามาหาเรื่องดีๆกันบ้างดีกว่า แทนที่จะเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความโกรธ เรามาเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความปรารถนาดีกันนะคะ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 54 22:21:09 จากคุณ : Akrat เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 22:19:16

ความคิดเห็นที่ 76 . จากคุณ : Akrat เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 22:20:09

ความคิดเห็นที่ 77 ^ ^ จากคุณ : Akrat เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 54 22:20:34

ความคิดเห็นที่ 78 ยกมาจาก http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H10336602/H10336602.html ขอแปะ * ディズニーランドでの出来事 http://twitter.com/unosuke/status/46376846505426944 ディズニーランドでは、ショップのお菓子なども配給された。ちょっと派手目な女子高生たちが必要以上にたくさんもらってて「何だ?」って一瞬思ったけど、その後その子たちが、避難所の子供たちにお菓子を配っていたところ見て感動。子供連れは動けない状況だったから、本当にありがたい心配りだった * At Tokyo Disneyland They distributed sweets that are part of their merchandise. High school girls with heavy makeup took away more candies than they would possibly eat and that raised my eyebrows. Later, I saw those girls giving the candies to kids at evacuation areas. Families with kids had limited mobility and couldn't get to where the candies were distributed. Go girls! ______________________________________________________________________________ * 渋滞した交差点での出来事 http://twitter.com/micakom/status/46264887281848320 一回の青信号で1台しか前に進めないなんてザラだったけど、誰もが譲り合い穏やかに運転している姿に感動した。複雑な交差点で交通が5分以上完全マヒするシーンもあったけど、10時間の間お礼以外のクラクションの音を耳にしなかった。恐怖と同時に心温まる時間で、日本がますます好きになった。 * At a jammed crossing I was driving home after the quakes. Streets were extremely jammed and at many crossings only one car could cross the street per green light. At a spaghetti crossing, all traffic was paralyzed for more than 5 min. All drivers, I encountered, waiting to cross streets were calm, giving way to others. All thru my 10 hr driving, I didn't hear any honking except those showing gratitude to others. Of course this travel was scary but also heart warming. This experience made me like Japan all the more. ______________________________________________________________________________ * 段ボールに感動 http://twitter.com/aquarius_rabbit/status/46213254376210432 ホームで待ちくたびれていたら、ホームレスの人達が寒いから敷けって段ボールをくれた。いつも私達は横目で流してるのに。あたたかいです。 [by Ms. Arakawa] Transport facilities were dead and I was so tired waiting so long. Then, a homeless guy gave me a cardboard saying "use this, it can warm you up". I used to pass homeless people by even when they were begging... Although what he did to me was such a sweet stuff. ______________________________________________________________________________ * 父親の行動 http://twitter.com/s_hayatsuki/status/46386255767937024 1階に下りて中部電力から関東に送電が始まってる話をしたら、普段はTVも暖房も明かりもつけっぱなしの父親が何も言わずに率先してコンセントを抜きに行った。少し感動した。 * My father I told my father what I saw in the news, that Chubu Electric Power, the company supplying power to the central part of Japan, was now supplying power to the Kanto area, to avoid shortage in Kanto, where Tokyo metropolitan area is. He didn't say a thing. Stood up, walked around the house and pulled out power plugs of appliances we weren't using. Normally, he doesn't care a thing about energy conservation and leaves TVs and lights on even when he's not using them. His silent action touched my heart. ______________________________________________________________________________ * 整列する日本人 http://twitter.com/HASUNA_Natsuko/status/46331839136276480 日本人すごい!!こんな時にも山手線ホームできれいに整列してる 涙。有楽町駅を上から眺む。 * At the station Look! People are forming lines so orderly, waiting for a train on the Yamanote Line, the ring train circling the center of Tokyo. Proud to be Japanese. Looking down at Yuraku-cho Station (near Tokyo Station). http://twitpic.com/48kn1u ______________________________________________________________________________ * パン屋 http://twitter.com/ayakishimoto/statuses/46403599743451136 昨日の夜中、大学から徒歩で帰宅する道すがら、とっくに閉店したパン屋のおばちゃんが無料でパン配給していた。こんな喧噪のなかでも自分にできること見つけて実践している人に感動。心温まった。東京も捨てたもんじゃないな。 * Bakery In the middle of the night, I was walking home from college. A lady at a bakery was giving out bread. She kept her bakery open till late hours and was doing what she could do to help others. I was so touched. Tokyo is still not a bad place to live! Such a heart-warming scene. ______________________________________________________________________________ * スーパーでの出来事 http://twitter.com/endless_6/status/46395420523503616 スーパーで無事買物出来ましたヽ(´o`; でもお客さんのほとんどが他の人の事を考えて必要最低限しか買わない感じだったのが感動しました(涙) * At a supermarket I was able to do necessary grocery shopping after the quake. I was moved when I saw most people showed consideration for others by NOT buying more than what they absolutely need for the time being. Their act of conscience brought tears to my eyes. ______________________________________________________________________________ มีอีกเยอะค่ะ คุณลุงที่ออกมาแจกกาแฟร้อนให้คนที่ต้องเดินกลับบ้านหลายๆชั่วโมง คุณป้าที่ทำซุปมาเผื่อชาวบ้านและคนแปลกหน้าที่ต้องการ ออฟฟิศที่เปิดประตูทิ้งไว้ถึงแม้จะเกินเวลา แล้วมีพนักงานออกมาเชิญให้คนเข้าไปใช้ห้องน้ำและพักผ่อนค้างคืนได้ ถ้าเดินกลับบ้านไม่ไหว เด็กประถมที่อยู่บ้านคนเดียวตอนเกิดเหตุ แล้วรีบขี่จักรยานออกมาแถวๆบ้านเพื่อดูว่า เพื่อนบ้านส่วนใหญ่ที่เป็นคนแก่นั้นปลอดภัยดี อยากเห็นทุกสังคมเป็นแบบนี้บ้าง คนไม่เห็นแก่ตัว และคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ ยังมีคนลำบากกว่าเราอีกเยอะ เท่านี้แหละค่ะ :) จากคุณ : pray for Japan เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 00:44:10 A:75.85.9.207 X: TicketID:309639 เนื้อหาคล้ายๆกับที่คุณ pixp แปะไว้ข้างบน แต่อันนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษ (แอบชอบสำนวนการแปลอันนี้ด้วย) ขอบคุณ คุณ pray for Japan มากครับ อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ จากคุณ : Gaignun เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 00:07:33

ความคิดเห็นที่ 79 ดูวิดีโอคนไทยที่แย่งกันซื้อน้ำมันปาล์ม โอ๊ยๆๆ...ไม่อยากเชื่อเลยว่านี้หรือวินัยของคนไทย แตกต่างกับวินัยคนญี่ปุ่นที่เข้าแถวยาวเยียดในท่ากลางสายฝนและหิมะกำลังตก มีน้ำใจ ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน ไม่ท้อแท้ในยามวิกฤต ให้เกียรติซึ่งกันและกัน นี้แหละวินัยคนญี่ปุ่น จากคุณ : น่ายกย่อง (Hachisu) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 14:08:12

ความคิดเห็นที่ 80 อ่านแล้วดูภาพก็ขนลุกไปด้วย เค้าเจ๋งจริง ๆ  ค่ะ ไม่รู้จะใช้คำไหนมาชมแล้ว มันแบบว่าสุดยอดจริง ๆ ประทับใจจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : ไม่มีความหมาย เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:09:42

ความคิดเห็นที่ 81 เราก็ไปต่อแถวกะเขา จากคุณ : CherryBlossom669 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:59:25

ความคิดเห็นที่ 82 เคยอ่านเจอห้องศาลา ตอนที่เมืองไทยข้าวสารขาดตลาด คนก็ไปออกัน ขนาดมีคนเสนอให้เข้าคิว แต่ไม่มีใครยอมเข้าคิวสักคน ไปออกันเนืองแน่นจนประตูเปิด แล้ววิ่งเข้าไปตะลุมบอนแย่งซื้อ (น่าจะประมาณแร้งลงได้) แล้วคนที่แข็งแรงก็โกยซื้อไปเยอะๆ พวกสูงวัยที่แย่งไม่ทันก็ยืนร้องไห้เนื่องจกาไม่ได้ข้าวสารเลยแม้แต่ถุงเดียว น่าจะอนาถไม่แพ้แย่งซื้อน้ำมันปาล์มหรอก จากคุณ : กระปุกตังฉ่าย เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 18:06:57 A:220.237.174.244 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 83 ดูคลิปที่ คห.32 แปะ คนไทย(แย่งกันซื้อน้ำมัน) กับ คนญี่ปุ่นรอคิว นี่ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหวเสียจริง ๆ ในสภาวการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนไทยขาดน้ำมันยังอยู่ได้สบาย แต่คนญี่ปุ่นความเป็นความตาย 50:50 หลายสิ่งหลายอย่างซึ่งญี่ปุ่นอยู่ในภาวะขาดแคลน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำ แทบจะทุกอย่าง เห็นคลิปแล้ว "อนาถ" คำเดียวสั้น ๆ ...ชาตินี้สาบานต่อฟ้า ว่าไม่เคยไปแย่งใครซื้อของได้น่าเกลียดเท่านี้มาก่อนเลย แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 54 18:56:42 จากคุณ : Nivi เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 18:56:01

ความคิดเห็นที่ 84 ยามนี้คำว่า สุโค่ย ต้องมอบให้คนญี่ปุ่นเท่านั้นคะ ขอชื่นชมจริงๆ Japan, We Pray For You :) จากคุณ : SAMNOMUS (SAMNOMUS) เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 19:38:00

ความคิดเห็นที่ 85 ได้ยินมานานเรื่องความอดทนมีวินัยของคนชาติญี่ปุ่น บททดสอบอันหนักหน่วงไม่ได้แค่พิสูจน์ให้คนญี่ปุ่นด้วยกันเองเห็นว่าเค้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ทำให้คนทั่วโลกได้เห็นด้วยว่ามันไม่ได้เป็นแค่คำล่ำลือ  คนไทยตอนเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงก็มีน้ำใจ ละ วินัยบ้างอย่างที่เห็น แต่คงไม่เป๊ะอย่างญี่ปุ่น  แต่คลิปใน 32 นั่นเห็นแล้วอึ้งมาก นั่นมันไม่ใช่วิกฤตนะ แต่คือคนที่ไม่ได้ก็ไม่ตายไง คนที่ได้ไปคือสะใจมาก T_T จากคุณ : หญิงป้า เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 21:07:32

ความคิดเห็นที่ 86 จะว่าไป คนไทยก็ต่อแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นนะคะ ก็ตอนซื้อ"คริสปี้ครีมโดนัท" ไง แถวยาว 3 ช.มอัพ ก็รอต่ออย่างอดทนไม่ย่อท้อ จากคุณ : NaiChaiyo เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 00:05:48

ความคิดเห็นที่ 87 ช่างงดงาม ถ้าจะตายก็ต้องตายแบบผู้ดีที่มีจิตใจสูงส่ง ทำให้โลกนี้สวยงาม จากคุณ : คนบ่น เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 00:43:03

ความคิดเห็นที่ 88 ขอนับถือเรื่องความมีวินัยให้ชาวญี่ปุ่นจริงๆ ค่ะ เราว่า แผ่นดินไหว สึนามิ บ้านเมืองพังทลาย ชาวญี่ปุ่น เค้าสร้างใหม่ได้ค่ะ เด็ก ๆมีวินัยถูกปลูกฝังให้รักชาติ รักเกียรติยศ รักศักดิ์ศรี ตอนนี้ลำบาก แต่เค้าเก็บเอาไว้เป็นบทเรียน แล้วผนึกกำลัง สู้กันต่อไป สิ่งนึงที่ทำให้เราร้องให้ทุกครั้งที่ได้ดูข่าว หรืออ่าน ก็คือ เรื่อง พนักงานในโรงงานนิวเคลียร์ที่จะต้อง ไปทำงาน ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ล่าสุดมีข่าวว่า เค้าให้ติดต่อกับ พนักงานสูงอายุ ของบริษัทนี้ กลับ เข้ามาทำงานนี้ เราร้องให้เลยค่ะ แบบว่า เข้าใจอารมณ์ ญาติพี่น้อง ภรรยา ของพนักงาน แต่ก็ ต้องยอมรับสภาพ เพราะพนักงานเหล่านี้ เค้าทำเพื่อชาติ รู้ว่า กลับมาต้องตายแน่ๆ ไม่ช้าก็เร็ว เค้าถึงเลือกผู้สูงอายุ กลับมาทำงาน บางคนอีกแค่ 6 เดือน จะรีไทร์แล้ว แต่เราว่า เค้าเต็มใจค่ะ เพื่อชาติ เพื่อบ้านเมือง เพื่อลูก เมีย เพื่อคนอีกเป็นล้าน ๆ คน เพื่อ ระบบนิเวศน์วิทยา คนเหล่านี้ เค้าเป็นฮีโร่ สำหรับเราจริง ๆ ค่ะ ไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไร เราขอ นับถือ จิตใจ ของคนเหล่านี้ ด้วยใจเลยค่ะ ทุกคนที่ทำงาน ตำรวจ ทหาร พนักงาน ทุกคนปฏิบัติหน้าที่กันต่อไป กลัวก้อกลัวสารรังสี ไม่รู้ว่า มันจะแผ่กระจาย ในระดับที่อันตรายเมื่อไหร่ แต่ทุกคนต้องทำงาน เพื่อให้ประเทศชาติ ขับเคลื่อนไปได้ ทุกคนต้องทำหน้าที่ ของตนเองให้ดีที่สุด... เราขอเป็นหนึ่งในกำลังใจที่ส่งไปให้ประเทศญี่ปุ่น ให้ผ่านภาวะวิกฤติ นี้ไปให้ได้นะคะ และเราเชื่อว่า เด็กญี่ปุ่น รุ่นใหม่ กำลังของชาติ เค้าจะสร้างชาติญี่ปุ่นให้กลับมายิ่งใหญ่ได้ค่ะ.. จากคุณ : เป็นกำลังใจให้นะคะ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 01:24:08 A:75.80.63.119 X: TicketID:074895

ความคิดเห็นที่ 89 ดูคนญี่ปุ่นแล้วก็สะท้อนมาถึงคนไทย บางทีแซงคิวแล้วยังหันมาค้อนใส่คนที่ตัวเองไปแซงเค้าอีก ประมาณว่าไม่ยอมหลบให้ชั้นแซง เห็นแล้วก็เออนะ ทำไปได้คนเรา ต้องกลับมาฝึกวินัยกันใหม่อย่างแรงนะเนี่ย จากคุณ : แมวบนหลังคา เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 22:56:05

ความคิดเห็นที่ 90 ขออนุญาตแซวการเมืองหน่อยนะคะ ..................................................... จาก...ความคิดเห็นที่ 59     คุณภาพของคนในประเทศ กำหนดทิศทางได้จริงๆ มองย้อนกลับมาบ้านเราแล้วก็เศร้า โดยเฉพาะในบ้านเราสิ่งที่อันตรายกว่าสารกัมมันภาพรังสี คือ "นักการเมือง" จากคุณ : ปะการังสีเพลิง   ........................................... ที่น่าจะเป็นอันตรายมากกว่านักการเมือง คือ ประชาชนที่เลือกนักการเมืองเหล่านั้นไปเป็นผู้แทนฯ จากคุณ : จิน ณ จันทร์ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 23:46:07

ความคิดเห็นที่ 91 ลองอ่าน reviews บางอันในห้อง BluePlanet สิ จะเจออะไรที่... - ถ่ายรูปมาให้ดู เสร็จแล้วบอกว่าตรงนี้ห้ามถ่ายรูป แต่แอบถ่ายมาได้ - มาถามหรือเล่าเรื่องการแอบเข้าห้องพักเกินจำนวนคนที่เขาอนุญาต - มาเล่าเรื่องวิธีการทำผิดกฎต่างๆ (ดูเหมือนคนเล่าภูมิใจด้วย) เช่น ทำ ID หรือ บัตรปลอมต่างๆ ที่ถนนข้าวสาร แล้วเอาไปใช้ที่ต่างประเทศได้ หรือเล่าเรื่องเช่ารถ หรือ มอเตอร์ไซด์ หรือจักรยานโดยไม่ยอมจ่ายค่า extra/additional driver (หรือ extra passenger ในกรณีจักรยานบางที่) คือ เวลาเราอ่านก็รู้สึกขอบคุณนะ ที่เขาเสียสละเวลามารีวิวให้ดู แต่เรื่องที่ไม่ค่อยถูกกฎเนี่ย มีความรู้สึกว่าไม่น่าเอามาเล่าเลยอะ เดี๋ยวพวกเด็กๆจะทำตามกันหมด ปล. ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นมีแต่คนไทยทำนะ (กลัวโดนด่า อิ อิ แบบว่าเห็นบางคนชอบว่ากันแรงๆ หยาบๆ อะ) จากคุณ : ZT1260 เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 05:04:01

ความคิดเห็นที่ 92 อ่านคห.91แล้วนึกขึ้นได้ คนไทยหลายคนจะด่าคนที่ว่าประเทศไทยว่าที่อื่นก็มีคนไม่ดีเหมือนกัน ทำไมดูถูกประเทศตัวเอง ทำให้หลายๆคนไม่กล้าเตือนกันเพราะกลัวโดนด่าแบบคห.บนนี่แหละ แต่เราว่าน่าจะปรับทัศนะนิดนึง อย่าปกป้องตัวเองนัก ถ้าคุณผิดคุณก็ผิด ไม่ต้องไปหาพวก ถ้าเห็นคนไทยทำไม่ดีน่ะ ควรด่า ด่าไว้เยอะๆเลย จะได้รู้ไว้และไม่ทำ ส่วนชาติอื่นถ้าจะแย่ก็ปล่อยให้เค้าแย่ไป จากคุณ : Akrat เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 05:32:29

ความคิดเห็นที่ 93 ลองเกิดขึ้นในไทยซิครับ...คงมีเหยียบกันตายไปแล้วแหงๆ.... (คิดดู...ขนาดแค่ต่อคิวซื้อของที่ 7-11 ยังแซงกันหน้าด้านๆเลย) จากคุณ : Elanez เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 16:35:49

ความคิดเห็นที่ 94 ขอชื่นชมความมีวินัยของคนญี่ปุ่นเช่นกันค่ะ อยากให้คนไทยเอาเป็นแบบอย่างบ้าง ขอเล่าประสบการณ์ที่ไปเขาคิชฌกูฎมาค่ะ ก่อนไป ก็หาข้อมูลต่างๆ จากเน็ตบ้าง จากคนที่ไปมาแล้วบ้าง คนที่ไปมาแล้วแนะนำเรื่องที่ขึ้นรถสองแถว เค้าแนะนำว่า เมื่อซื้อบัตรขึ้นรถแล้ว ให้มายืนรอขึ้นรถสองแถวเลย ไม่ต้องรอเรียกตามคิว แบบว่า แนะนำให้เราลักไก่ มั่วนิ่มขึ้นไปเลย ตอนแรกก็คิดจะทำอย่างที่เค้าแนะนำมา แต่ปรากฏว่า พอไปถึง เห็นคนรอกันเยอะมาก ส่วนใหญ่เช่าเสื่อนอนรอกันเลย เราเลยบอกกับคนในคณะที่ไปด้วยกันว่า รอตามคิวเถอะ บางคนเหมือนจะไม่ยอม อยากจะลัดคิว เราเลยพูดออกไปว่า เราตั้งใจมาทำบุญกัน แล้วถ้าไปแซงคิวคนอื่นเค้า มันจะได้บุญมั้ย เค้าก็เลยเงียบ และยอมที่รอไปตามคิวโดยดี ^^ ถ้ามีลูกมีหลานจะสอนให้เค้ามีวินัย คิดว่า สอนกันตั้งแต่เด็กๆ นี่แหละดีที่สุด จากคุณ : โบริน (โบริน) เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 18:31:05

ความคิดเห็นที่ 95 ดู คห.32 แล้วพูดไม่ออก ความรู้สึกเเหมือนสิ่งมีชีวิตกำลังแย่งส่วนบุญยังไงก็ไม่รู้ -*- จากคุณ : AKiNdO เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 13:00:10

ความคิดเห็นที่ 96 ยี่ปุ่น สามารถผ่านเรื่องร้ายๆไปได้ง่ายๆ เพราะวินัยและ น้ำใจของเขา จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 54 10:08:40