PANTIP.COM : H10359240 เข้ามาแชร์คะ ส่งของทาง UPS กลับไทยเสียภาษีจริงๆ [ชีวิตในต่างแดน]

การนำเข้าสิ่งของทางไปรษณีย์

สิ่งของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยทางไปรษณีย์ จะถูกเปิดตรวจโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรร่วมกับเจ้าหน้าที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อตรวจคัดแยกในการปฏิบัติพิธีการศุลกากร ก่อนส่งมอบให้กับผู้มีชื่อรับของ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1 : ของยกเว้นอากร คือ ของที่มีหลักเกณฑ์ ดังนี้

ของแต่ละหีบห่อมีราคา ไม่เกิน 1,000.- บาท หรือ
ตัวอย่างสินค้าที่ใช้ได้แต่เพียงเป็นตัวอย่างและไม่มีราคาในทางการค้า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นผู้นำของไปส่งมอบให้แก่ผู้มีชื่อรับของตามที่อยู่ที่ผู้ฝากส่งระบุไว้ ที่หน้าหีบห่อ

ประเภทที่ 2 : ของต้องชำระอากร คือ ของที่ส่งจากผู้ส่งคนหนึ่งถึงผู้รับคนหนึ่งในคราวเดียวกัน หรือเข้ามาถึงพร้อมกัน ไม่ว่าจะมีกี่หีบห่อ หากมีราคา FOB ( Free On Board ) รวมกันไม่เกิน 40,000.- บาท (สี่หมื่นบาทถ้วน) และ ไม่เป็นของต้องห้าม ต้องกำกัด หรือ ไม่เป็นของต้องส่งตัวอย่างวิเคราะห์สินค้าก่อนปล่อย
เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะประเมินราคาและค่าอากรแล้วส่งมอบของให้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด นำส่งไปที่ที่ทำการไปรษณีย์ปลายทางเพื่อส่งมอบให้แก่ผู้มีชื่อรับของและ เรียกเก็บอากรแทนกรม ศุลกากร โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะออก “ ใบแจ้งให้ไปรับสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ” และส่งไปให้ผู้มีชื่อรับของเพื่อแจ้งให้ไปรับของและชำระอากร ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ระบุไว้ในใบแจ้งฯ โดยที่ทำการไปรษณีย์จะเป็นผู้ออกใบเสร็จรับเงินแทนกรมศุลกากร

ประเภทที่ 3 : ของอื่นๆ นอกจากประเภทที่ 1 และ 2
เจ้า หน้าที่ศุลกากรจะส่งมอบของให้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ในคลังสินค้า และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะออก “ ใบแจ้งให้ไปรับสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ”( NOTIFICATION TO COLLECT TNTERNATIONAL POSTAL ITEMS ) แล้วส่งไป ให้ผู้มีชื่อรับของ เพื่อแจ้งให้ไปปฏิบัติพิธีการศุลกากรและขอรับของ ณ ส่วนบริการศุลกากร ไปรษณีย์และอากาศยาน ถนนรองเมือง หรือด่านศุลกากรที่ระบุไว้ในใบแจ้งฯ

การปฏิบัติพิธีการศุลกากรสำหรับของประเภทที่ 3 สามารถดำเนินการได้ 2 แบบ คือ

กรณีของมีราคาเกินกว่า 40,000.- บาท (สี่หมื่นบาทถ้วน) ผู้รับของจะต้องจัดทำใบขนสินค้าขาเข้า และส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าระบบคอมพิวเตอร์กรมศุลกากร (ส่วนบริการศุลกากรไปรษณีย์และอากาศยาน จัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำการจัดทำใบขนสินค้าขาเข้าและมี Service Counter ให้บริการส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์)
กรณีของมีราคาไม่เกิน 40,000.- บาท (สี่หมื่นบาทถ้วน) ผู้รับของไม่ต้องจัดทำใบขนสินค้าขา เข้า โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรจะประเมินราคาและจัดเก็บค่าภาษีอากร ณ จุดเดียวกัน

เอกสารที่ใช้ในการติดต่อขอรับสิ่งของ

1. กรณีขอรับสิ่งของด้วยตนเอง

1.1 “ ใบแจ้งให้ไปรับสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ”

1.2 บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรที่ทางราชการออกให้ของผู้มีชื่อรับของที่ระบุในใบแจ้ง

2. กรณีมอบอำนาจให้ผู้อื่นขอรับสิ่งของแทน

2.1 “ ใบแจ้งให้ไปรับสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ” โดยให้ผู้มีชื่อรับของบันทึก รายละเอียดการมอบอำนาจให้แก่ผู้รับมอบอำนาจ พร้อมลงลายมือชื่อรับรองทั้ง 2 ฝ่าย ที่ด้านหลังใบแจ้งฯ

2.2 สำเนา บัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ ( ลงนามรับรองสำเนา )

2.3 บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

3 . กรณีผู้มีชื่อรับของเป็นนิติบุคคล เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด

3.1 “ ใบแจ้งให้ไปรับสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ” และให้ผู้มีอำนาจลงนามพร้อมประทับตราบริษัทฯ ที่ด้านหลังใบแจ้งฯ

3.2 สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของหรือผู้จัดการ หรือสำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามในเอกสารผูกพันนิติบุคคลนั้นๆ ( ลงนามรับรองสำเนา ) และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

3.3 สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ห้างฯ ร้าน และลงนามรับรองสำเนาพร้อมประทับตราบริษัทฯ

หมายเหตุ : ผู้รับมอบอำนาจจะมอบอำนาจต่อให้บุคคลที่สามอีกไม่ได้

การโต้แย้งการประเมินค่าภาษีอากร (ของประเภทที่ 2)

กรณีที่ผู้รับของไปติดต่อขอรับสิ่งของที่ที่ทำการไปรษณีย์ และมีค่าภาษีอากรที่จะต้องชำระสำหรับสิ่งของนั้นๆ หากผู้รับของประสงค์ที่จะโต้แย้งการประเมินค่าภาษีอากร

ให้ทำคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษร (สามารถพิมพ์แบบคำร้องได้ที่ www.postalcustoms.com ) พร้อมแนบ “ ใบแจ้งให้ไปรับสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ” และเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ส่งคำร้องถึง ส่วนบริการศุลกากรไปรษณีย์และอากาศยาน สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ กรมศุลกากร โดยตรงหรือส่งผ่านที่ทำการไปรษณีย์ที่ไปติดต่อรับของ
ผู้รับของจะต้องยังไม่ชำระค่าภาษีอากร เมื่อมีการยื่นคำร้องอุทธรณ์แล้วที่ทำการ ไปรษณีย์จะจัดส่งสิ่งของที่ได้อุทธรณ์นั้น ไปยังส่วน บริการศุลกากรไปรษณีย์และอากาศยาน เพื่อพิจารณาคำร้องอุทธรณ์ค่าภาษีอากรนั้นต่อไป
ต่อมาให้ผู้ยื่นคำร้องอุทธรณ์ไปติดต่อขอรับของพร้อมชำระค่าภาษีอากรที่ ส่วนบริการ ศุลกากรไปรษณีย์และอากาศยาน ถนนรองเมือง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

http://www.customsclinic.org/index.php?option=com_content&view=article&id=215&Itemid=195&lang=th

การอุทธรณ์การประเมินอากร คืออะไร ?

การอุทธรณ์การประเมินอากร เป็นกระบวนการให้ความเป็นธรรมอย่างหนึ่ง ในกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับการประเมินอากรเพิ่ม ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2543 กำหนดให้ผู้อุทธรณ์ สามารถใช้สิทธิอุทธรณ์การประเมินอากรของพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ต่อคณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์ตาม มาตรา 112 ฉ

ใครบ้างมีสิทธิ์อุทธรณ์การประเมินอากร และสามารถให้ผู้อื่นกระทำการอุทธรณ์แทนได้หรือไม่ ?

ผู้มีสิทธิอุทธรณ์การประเมินอากร ได้แก่

(1) ผู้นำของเข้า

(2) ผู้ส่งของออก

ผู้นำของเข้า / ผู้ส่งของออก ไม่อาจมอบอำนาจให้ผู้อื่นกระทำการอุทธรณ์แทนได้

การอุทธรณ์การประเมินอากรจะต้องทำอย่างไร ?

หากต้องการอุทธรณ์การประเมินอากรของพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้อุทธรณ์จะต้องยื่นคำอุทธรณ์เป็นหนังสือโดยใช้คำอุทธรณ์ (กศก 171) ตามแบบที่อธิบดีกำหนด โดยให้รายละเอียดให้ชัดแจ้ง เช่น อุทธรณ์คัดค้านการประเมินภาษีตามใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่เท่าใด หนังสือแจ้งการประเมิน (แบบ กศก 114 , แบบ กศก 115) ฉบับใด เป็นจำนวนเงินภาษีเท่าใด และสิ่งสำคัญที่ต้องระบุคือ ไม่เห็นด้วยกับการประเมินในประเด็นใดพร้อมเหตุผลทุกประเด็นและแสดงหลักฐาน ประกอบเหตุผลนั้นด้วย เป็นต้น

แบบคำอุทธรณ์ที่อธิบดีกำหนด ได้แก่แบบใดบ้าง ?

แบบคำอุทธรณ์และคัดค้านการประเมินภาษีอากร (กศก 171) ใช้การอุทธรณ์เพื่อคัดค้านการประเมินภาษีอากรของพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยให้ยื่นต้นฉบับ 1 ชุด หากยื่นอุทธรณ์คัดค้านการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม และหรือภาษีสรรพสามิต เฉพาะที่เรียกเก็บไว้ตาม พรบ. ภาษีสรรพสามิตพ.ศ. 2527 ด้วย ให้ยื่นสำเนาตามจำนวนประเภทภาษีที่ขออุทธรณ์

แบบคำขออุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์สามารถพิมพ์ได้จากระบบเครือข่าย Internet ของกรมศุลกากร customs.go.th หรือจะขอรับได้ที่ด่านศุลกากรหรือสำนักงานศุลกากรภาคก็ได้ หรือ ที่สำนักมาตรฐานพิธีการและราคาศุลกากร (ชั้นที่ 12) อาคาร 120 ปี กรมศุลกากร

คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ประกอบด้วย

- อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานกรรมการ

- ผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการ

- ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นกรรมการ

- ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งอธิบดีแต่งตั้งอีกไม่น้อยกว่าห้าคน แต่ไม่เกินเจ็ดคน เป็นกรรมการ

- เจ้าหน้าที่ศุลกากรเป็นเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ

ท่านที่มีสิทธิ์อุทธรณ์ / คัดค้านการประเมินภาษี อะไรบ้าง? ยื่นอุทธรณ์ได้ที่ไหน?

ท่านมีสิทธิอุทธรณ์การประเมินอากรศุลกากรหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ คัดค้านการประเมินภาษีสรรพสามิตเฉพาะที่เรียกเก็บไว้ตาม พรบ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 โดยใช้สิทธิพร้อมกันในคราวเดียวได้ ตามแบบ กศก 171 ได้ดังนี้

(1) อากรศุลกากร ให้ยื่นอุทธรณ์ตามแบบ กศก 171 ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ได้ที่กรมศุลกากร ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ ตาม มาตรา 112 ฉ แห่งพรบ. ศุลกากร พ.ศ. 2469 ดังนี้

(1.1) กรณีอุทธรณ์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินเพิ่มภาษีอากร เกี่ยวกับราคาศุลกากรให้ยื่นคำขออุทธรณ์และคัดค้านการประเมินภาษีอากรที่ ส่วนอุทธรณ์ราคาศุลกากร สำนักมาตรฐานพิธีการและราคาศุลกากร ชั้นที่ 12 อาคาร 120 ปี กรมศุลกากร โทร. 0-2667-7175

(1.2) จังหวัดอื่นกรณีเป็นการนำของเข้า หรือส่งของออกในจังหวัดอื่น อาจอุทธรณ์การประเมินอากร โดยยื่นผ่านด่านศุลกากรหรือสำนักงานศุลกากรภาค ก็ได้

(2) ภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้ยื่นคำอุทธรณ์ตามแบบ ภ.ส. 6 ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ กรมสรรพากรได้ที่สำนักงานสรรพากรภาค หรือ สำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ ตามมาตรา 30 แห่งประมวลรัษฎากร

(3) ภาษีสรรพสามิต ตาม พรบ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ภาษีเพื่อมหาดไทย ตาม พรบ.จักสรรเงินภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ให้ยื่นคำคัดค้านการ45 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ ตามมาตรา 86 แห่ง พรบ. ภาษีสรรพสามิตสรรพาสามิต พ.ศ. 2527

(4) การเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมตาม พรบ. สุรา พ.ศ. 2493 , พรบ. จัดสรรภาษีสุรา พ.ศ. 2527พรบ. ยาสูบ พ.ศ. 2509 , พรบ. ไพ่ พ.ศ. 2486 , พรบ. กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 กรณีดังกล่าว จำนวนภาษีอากร หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มหรือลด เป็นผลของกฎหมาย มิใช่เป็นการใช้อำนาจประเมินตามกฎหมายแต่ละฉบับข้างต้น และไม่มีบทบัญญัติในเรื่องการอุทธรณ์ไว้

การยื่นอุทธรณ์มีกำหนดเวลาหรือไม่ อย่างไร?

ผู้จะใช้สิทธิอุทธรณ์จะต้องยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ภายใน 30 วันนับแต่วันได้รับหนังสือแจ้งการประเมินอากรจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หากไม่ยื่นอุทธรณ์การประเมินอากรภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าสิ้นสิทธิในการอุทธรณ์ ตัวอย่าง เช่น

- ได้รับหนังสือแจ้งการประเมิน วันที่ 1 ตุลาคม 2550 จะต้องยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2550 หรือ

- ได้รับหนังสือแจ้งการประเมิน วันที่ 2 สิงหาคม 2550 จะต้องยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 1 กันยายน 2550 แต่เนื่องจากวันที่ 1-2 กันยายน 2550 เป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ จึงยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 3 กันยายน 2550 ได้ เป็นต้น

หลักฐานที่ต้องยื่นพร้อมกับการยื่นอุทธรณ์มีอะไรบ้าง ?

(1) สำเนาหนังสือแจ้งการประเมิน (แบบ กศก 114 หรือ แบบ กศก 115)

(2) สำเนาภาพถ่ายใบเสร็จรับเงินอากร และหรือชำระเงินประกันแล้วแต่กรณี

(3) สำเนาภาพถ่ายใบขนสินค้า พร้อมบัญชีราคาสินค้า

(4) สำเนาภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อุทธรณ์ (ผู้นำของเข้า/ผู้ส่งของออก) กรณีเป็นนิติบุคคลให้แนบหนังสือรับรองของกระทรวงพาณิชย์ ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้จัดการ หรือหุ้นส่วนผู้จัดการพร้อมประทับตรานิติบุคคลกำกับการลงชื่อของผู้มีอำนาจ ลงนามแทนนิติบุคคล

(5) เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี) เช่น สัญญาซื้อขาย Proforma Invoice, Price List หรือCatalogue ฯลฯกรณีมิได้มายื่นอุทธรณ์ด้วยตนเอง ให้จัดทำหนังสือมอบอำนาจกระทำการโดยปิดอากรแสตมป์ 10 บาท ถ้ากระทำการครั้งเดียว หรือถ้ากระทำการมากกว่าหนึ่งครั้งปิดอากรแสตมป์30 บาท พร้อมภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจที่ลงลายมือชื่อ รับรองว่าสำเนาถูกต้อง ประเมินตามแบบ ภ.ษ. 01-25ต่ออธิบดีกรมสรรพสามิต ได้ที่สำนักงานสรรพสามิตภาค หรือ กรมสรรพสามิต ภายใน

(6) เอกสารประกอบที่ใช้แนบคำอุทธรณ์และคัดค้านการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มและหรือ ภาษีสรรพสามิต ตาม พรบ ภาษีสรรพสามิต พ.ศ 2527 ให้เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรและหรืออธิบดีกรมสรรพสามิตกำหนดกรมสรรพากร ดูรายละเอียดได้ที่ www.rd.go.th กรมสรรพาสามิต ดูรายละเอียดได้ที่ www.excise.go.th

ผลการพิจารณาอุทธรณ์เป็นอย่างไร?

คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จะพิจารณาและ วินิจฉัยข้อโต้แย้งตามคำอุทธรณ์ เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว จะส่งผลเป็นคำวินิจฉัยอุทธรณ์ฉบับผู้อุทธรณ์ ให้แก่ผู้อุทธรณ์

หากไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ควรทำอย่างไร ?

ผู้อุทธรณ์ที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณา อุทธรณ์ มีสิทธิอุทธรณ์ โดยฟ้องเป็นคดีต่อศาลภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ เว้นแต่ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ยกอุทธรณ์ตาม มาตรา 112 ทวาทศ คือกรณีที่ผู้อุทธรณ์ไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียกของคณะกรรมการ ในการให้ถ้อยคำโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

กฎหมาย และ ประกาศกรมศุลกากรที่เกี่ยวข้อง

(1) มาตรา 10, 13, 112 ตรี, 112 จัตวา แห่งพรบ. ศุลกากร พ.ศ. 2469

(2) มาตรา 88, 88/2 , 88/5 , 88/6 , 89(4), 89/1 แห่ง ประมวลรัษฎากร

(3) มาตรา 79, 136, 137 , แห่ง พรบ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527

(4) มาตรา 4 แห่ง พรบ. จัดสรรเงินภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527

(5) มาตรา 8, 8 (ฉ) แห่ง พรบ. สุรา พ.ศ. 2493

(6) มาตรา 4 แห่ง พรบ. จัดสรรเงินภาษีสุรา พ.ศ. 2527

(7) มาตรา 10, 10 ทวิ แห่ง พรบ. ไพ่ พ.ศ. 2486

(8) มาตรา 5 , 5 ตรี , 5 เบญจ แห่ง พรบ. ยาสูบ พ.ศ. 2509

(9) มาตรา 11, 12 แห่ง พรบ. กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544

(10) มาตรา 55 แห่ง พรบ. ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520

(11) ประกาศกรมศุลกากรที่ 29/2549 เรื่อง ระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการอุทธรณ์การประเมินอากร