ความคิดเห็นที่ 1 พอดีได้อ่านบทความนี้โดยบังเอิญ  ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นทนายความอันดับ 1 กลับเป็นหมอวางยาสลบ    อันนี้เป็นรายได้ต่อปี  หรือว่าต่อเดือนคะ ส่วนตัวเคยคิดว่าหมอผ่าตัดน่าจะรายได้เยอะสุด  เพราะเคยได้ยินมาอย่างนั้น   และคิดว่าเรียนยากด้วย  พอเป็นหมอวางยาสลบ  เลยงงๆนิดหน่อย จากคุณ : Diary_Of_Love เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 16:12:43

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้างั้นก็เหลือแต่ CEO ให้เลือกนะสิ เพราะไม่ได้เรียนหมอมา จากคุณ : the_puppylove เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 16:21:57

ความคิดเห็นที่ 3 I thought Neurosurgeon and Cardiovascular surgeon would be on the top naka nia. It's per year salary ka. จากคุณ : fm@co เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 17:50:14

ความคิดเห็นที่ 4 ไล่ดูอาชีพต่างๆเเล้ว จะพบว่ากว่าค่อนหนึ่งของอาชีพที่มีรายใด้สูงที่สุดนี้คือพวกที่ทำงานเกี่ยวกับร่างกายคนคือหมอ จึงเเสดงให้เห็นว่าสุขภาพร่างกายของคนสำคัญที่สุด ร่างกายคนประกอบด้วยหลายๆส่วนเข้าด้วยกัน เมื่อส่วนใดส่วนหนึ่งเสีย คือทำหน้าที่บกพร่อง เปลี่ยนเเปลงไป จึงต้องพาร่างกายคนไปให้หมอรักษา ถึงเเม้เเต่เป็นหมอเองก็เถอะ ป่วยใด้เหมือนกัน การเจ็บไข้ใด้ป่วย บางครั้งถึงกับทำให้ครอบครัวเป็นหนี้เป็นสิน เพื่อนำเงินมารักษาตัว การจัดการการวางเเผนที่ดี ช่วงเเบ่งเบาภาระนี้ใด้ คือการทำกระกันสุขภาพ เเละการตรวจร่างกายประจำปี งดทำตัวเองให้เสี่ยงต่อการรับเชื้อต่างๆ ร่างกายคนเปรียบเสมือนรถ ถอยออกมาใหม่ๆเหมือนวัยหนุมวัยสาว ขับไปขับมา เดี๋ยวอันโน่นเสียเดี๋ยวอันนี้สึก เปรียบเหมือนสังขาลที่ผ่านไปเข้าสู่วัยเเก่ การเสื่อมของเซลล์จะเกิดขึ้น ส่งผลทำให้ร่างกายทำหน้าที่บกพร่อง เป็นเหมือนกันหมดทุกคน ไม่มีการยกเว้น! จากคุณ : Quel เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 17:53:48

ความคิดเห็นที่ 5 Pediatrist = หมอเด็ก ไม่ใช่หมอรักษาเท้านะ จากคุณ : พิณณ์อวี เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 18:02:24

ความคิดเห็นที่ 6 แปลให้เองดีกว่า 1. Anesthesiologists หมอดมยา,วิสัญญีแพทย์ $184,340 2. Surgeons หมอผ่าตัด $184,150 3. Obstetricians And Gynecologists หมอสูติ,สูตินรีแพทย์ $178,040 4. Orthodontists $176,900 หมอจัดฟัน 5. Oral And Maxillofacial Surgeons ทันตแพทย์ช่องปากและกระดูกโครงหน้า(มั้ง ปกติเรียกหมอแม๊กซิลโลเฉยๆ) $164,760 6. Internists, General แพทย์จบใหม่,แพทย์ใช้ทุน,แพทย์ทั่วไป$160,860 7. Prosthodontists หมอทำฟันปลอม $158,940 8. Psychiatrists จิตแพทย์ $149,990 9. Family And General Practitioners หมอเวชปฏิบัติครอบครัว,หมอแฟมเมด,หมอทั่วไป $149,850 10. Chief Executives หัวหน้าผู้บริหาร $144,600 11. Physicians And Surgeons, All Other หมอ หมอผ่าตัดอื่นๆ $142,220 12. Pediatricians, General หมอเด็ก $141,440 13. Dentists, General หมอฟัน $140,950 14. Airline Pilots, Copilots And Flight Engineers กัปตันนักบิน และวิศวกรสายการบิน $140,380 15. Podiatrists หมอรักษาเท้า $118,500 16. Lawyers ทนายความ $113,660 17. Air Traffic Controllers เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ $110,270 18. Engineering Managers ผู้จัดการวิศวกรรม $110,030 19. Dentists, All Other Specialists หมอฟันเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอื่นๆ $108,340 จากคุณ : พิณณ์อวี เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 18:07:21

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อกี้ดูผิด Podiatrist สงสัยจะเป็นหมอรักษาเท้าจริงๆ ไม่เคยเจอมาก่อน จากคุณ : พิณณ์อวี เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 18:08:13

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าต่อปี ถือว่าต่ำมากนะครับ ญาติผมเป็นหมอ..... ในไทยเรานี่แหละ ตจว.ด้วย รายได้ต่อปีเยอะกว่าเบอร์หนึ่งของ จขกท เยอะมากๆ จากคุณ : จริงๆ เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 20:15:09 A:110.49.243.219 X: TicketID:038237

ความคิดเห็นที่ 9 คห 8 ค่ะหมออะไรคะ รายได้มากกว่า 5, 530,200 บาทต่อปีเลย ญาติคุณยังโสดหรือเปล่าคะเนี่ย จังหวัดอะไรเอ่ย เพื่อไปเที่ยวแล้วไม่สบาย อิอิ ล้อเล่นขำๆๆนะคะ จากคุณ : ฉันทนาหัวสูง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 20:20:52

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นแค่รายได้ อย่าตาลุกเป็นไฟ หมอดมยา หมอศัลย์ หมอสูติ รายได้สูงก็จริงค่ะ แต่ค่าประกัน Malpractice น่ะ สูงมาก  เพราะคนอเมริกันชอบฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายนะ ศาล และคณะลูกขุนมักจะ ตัดสินให้จ่ายคนฟ้องร้อง ทีละจำนวนมากด้วย หมอที่จบจากต่างประเทศ มักจะแหยมเข้า สาขาที่ทำเงินสูงๆ แบบนี้ยากมาก หมอจากต่างประเทศจำนวนมาก จึงได้เข้าฝึกตามโรงพยาบาลเล็กๆที่ไม่ค่อยมีทุนมาก ในเขตยากจนกลางเมืองใหญ่ หรือ ตามชนบท  ต้องเก่งมากๆ หรือ ต้องจบแพทย์ที่อเมริกาเท่านั้น ถึงมีโอกาสเข้าฝึกตาม คณะแพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ที่อิลลินอยส์ กำลังขาดแคลนหมอสูตินะ เพราะหนีไปรัฐอื่น หรือ เลิกรักษาคนไข้ไปเลย เพราะสู้ค่าประกันไม่ไหว ขนาดรายได้ยังงี้ หมอบางสาขา หรือ เขตชนบท หรือเขตเมืองใหญ่ทีคนรายได้น้อย จะ ขาดแคลนหมอมากๆ จากคุณ : ป้านี่เอง (ป้านี่เอง) เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 20:22:14

ความคิดเห็นที่ 11 เค้าหมายถึงรายได้จากการเป็น residential ที่โรงพยาบาลแต่ละปีหรือเปล่า ไม่รวมรายได้ที่หมอเหล่านี้ไปเปิดคลีนิคส่วนตัวเองต่างหาก เดาเอานะคะ จากคุณ : ash the best เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 20:23:09

ความคิดเห็นที่ 12 /me เตรียมอ่านชีวะใหม่หมด ... เตรียมลงเรียนหมอ! จากคุณ : ผัดไทยกุ้งสด เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 20:26:07

ความคิดเห็นที่ 13 หมอวางยา วางผิดก็ตาย....วางน้อยคนไข้ก็เจ็บอีก คือมันต้องพอดีเด๊ะอะคะเลยยากมั้ง จากคุณ : นางเอกตัวจริง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 20:30:57

ความคิดเห็นที่ 14 หมอดมยาต่อเคสจะได้น้อยกว่าหมอผ่าตัด สมมุติวันหนึ่งในห้องผ่าตัดผ่าใส้ติ่ง 6 ราย หมอหนึ่งคนอาจผ่าสองราย หรือรายเดียว แต่หมอดมยาคนเดียวดมหกราย รายได้หมอดมยาเลยเยอะ แต่ในบ้านเราไม่แน่ใจครับ อ้อ เรื่องหมอสูติ อนาคตในประเทศไทยก็คงขาดแคลน ตอนนี้คนเก่งๆไม่อยากรับทุนสูติกันแล้ว มีเด็กมหาลัยรังสิตบ้างที่ไปเรียน อนาคตคงต้องคลอดกับหมอตำแยแน่ ถ้ายังฟ้องกันแบบไม่มีเหตุผล เห็นหมอเป็นปลาที่มากับรถที่คว่ำที่พัทลุงอยู่ละก้อ อีกไม่นานก็คงต้องเป็นตามกรรม(การกระทำ) จากคุณ : สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 21:24:55 A:115.87.56.160 X: TicketID:068526

ความคิดเห็นที่ 15 แสดงว่าคุณหมอ House ก็รวยน่ะสิ จากคุณ : Paura eh? เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 21:27:26

ความคิดเห็นที่ 16 Internists, General ขอแก้เป็นหมออายุรกรรมนะคะ เพราะที่อเมริกา จบ รร แพทย์ ยังไม่สามารถประกอบอาชีพหมอเองโดยลำพังได้ ต้องผ่านการเทรนเป็นแพทย์เฉพาะทางก่อนค่ะ จากคุณ : cardiogenic เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 21:49:42

ความคิดเห็นที่ 17 ต้องไม่ลืมด้วยนะครับว่านี่คือรายได้เฉลี่ย มันมีคนที่ได้เยอะกว่านี้มากๆหรือน้อยกว่านี้มากๆอีกด้วย ยิ่งถ้าเป็นพวก contractor ทั้งหลายนี่บางคนไม่ได้ทำอาชีพที่อยู่ใน list นั้นแต่มีรายได้ต่อเกือบ 2 เท่าของอันดับหนึ่งใน list นั้นด้วยซ้ำไป จากคุณ : VeryBadman เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 22:09:46 A:67.180.27.26 X: TicketID:310253

ความคิดเห็นที่ 18 เมืองที่อยู่ไม่มีหมอเด็ก เลยค่ะ คนเก่ามาจากซีเรียย้านไปทางนิวยอร์ค หาหมอเด็กมาอยู่เมืองนี้ยังไม่ได้ เด็กๆเลยต้องข้ามรัฐไปหาหมอ เวลาเจ็บไข้ไม่สบายไปหาหมอเป็นวันๆเลย จากคุณ : เสียงซึง เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 22:17:06

ความคิดเห็นที่ 19 คงค่าเฉลี่ยจริงๆ คงหารหมดเหมือนรายได้ประชากรของประเทศ เพราะระดับซีอีโอจริงๆไม่ใช่เมเนเจอร์ได้แสนห้านี่ถือว่าแค่ผู้บริหารระดับกลาง เงินเดือนเมืองไทยเราก็สูสีนะในระดับคนที่เก่งๆ ซีอีโอเมืองไทยบริษัทใหญ่ๆก็เกือบล้านต่อเดือน ญาติเราที่เป็นหมอเด็กที่เมืองไทยรายได้จากรพ เอกชนเดือนละ3แสนบาทนะ ยังไม่นับรวมคลินิกอีก รุ่นพี่อีกคนทำงานด้านกม เมืองไทย บริษัทอินเตอร์ เงินเดือนห้าแสนแล้วล่ะ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 54 22:53:59

ความคิดเห็นที่ 20 อืม แล้วก็ขึ้นกับว่า practice อยู่ที่ไหนด้วยค่ะ ถ้าเป็นใน California เท่าที่ดูๆจะทำเงินได้มากกว่าค่าเฉลี่ย 2-4 เท่าค่ะ แล้วก็ขึ้นกับว่าทำงานราชการหรือว่าทำเอกชน full-time หรือ part-time ด้วย แต่ในรัฐที่ทำเงินได้สูง ก็เสีย income tax สูงเช่นกัน และค่าครองชีพก็สูงด้วย รวมถึงต้องจ่ายค่า malpractice  insurance, disability insurance,  และอื่นๆ ด้วยอย่างที่ คคห. 10 บอกค่ะ หักลบไปแล้วก็ไม่ได้รวยเว่อร์ค่ะ คนส่วนใหญ่ต้องเอาเงินไปลงทุน (property, stock, etc) ซึ่งจะได้ profit ระยะยาวมากกว่าการได้รายได้จากการ practice อย่างเดียวค่ะ จากคุณ : Little Red Riding Hood เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 01:36:50

ความคิดเห็นที่ 21 เคยอ่านในเว็บนึงไม่ได้บอกค่าเฉลี่ย แต่บอกรายได้สูงสุด หมอกระดูก แบบผ่า spine ได้มากสุดปีละ 1.7 ล้าน นี่ข้อมูลประมาณสี่ปีแล้ว ตอนนี้น่าจะมากกว่า จากคุณ : superkoy เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 01:43:22

ความคิดเห็นที่ 22 ดูแล้วไม่เชื่อเลยจริงๆ CEO เอย investment banker เอย stock broker เอย ได้เงินเยอะกว่านี้เป็นไหนๆ และแม้แต่เงินของหมอดมยาที่เอามาก็ต่ำมากๆ จบใหม่ๆยังได้ offer 250-300K เลย หมอสาขาอื่นๆอีกมากที่มีรายได้มากกว่านี้ Radiology, Derm, Neurosurgery, Spine Ortho, Cardiology (interventional และ ทั่วไป) ล้วนทำรายได้มากกว่า Gas ทั้งสิ้น ทำไมไม่ติดอันดับ? ผมว่าดูแล้วไม่น่าเชื่อถือเท่าไร ปล. Internal Medicine เป็น specialty นะครับ ไม่ใช่ตำแหน่งหมอจบใหม่ ใช้เวลาอยู่ใน residency 3 ปี คนที่อยากจะต่อ sub-specialty เช่น cardio หรือ GI ต้องผ่าน internal med ก่อน จากคุณ : Rennis เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 08:24:27

ความคิดเห็นที่ 23 เท่าที่ตามไปอ่าน อันนี้น่าจะเฉพาะค่าตอบแทนในรูปเงินเดือน (salary) มั้งครับ ไมได้นับรวมค่าตอบแทนในรูปอื่นๆ เช่น entrepreneurial benefits, stock options, capital  gain, annuities, etc. จากคุณ : <> Giggs <> เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 22:28:59

ความคิดเห็นที่ 24 อืม เค้าก็คงเฉลี่ยๆเอา แต่ละอาชีพคงมีคนที่ทำเงินได้มากกว่าหรือน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั้งนั้นแหล่ะค่ะ อย่างทนาย ถ้าเริ่มต้น ทำงาน สำนักงานเล็กๆ เมืองเล็กๆก็อาจจะได้ หกเจ็ดหมื่นก็ได้ ในขณะที่ นิวยอร์คหรือแคลิฟอเนียร์อาจจะเริ่มเกือบสองแสน แฟนเราพึ่งเริ่มปีเดียว เมืองไม่เล็กไม่ใหญ่ก็ได้เยอะกว่าค่าเฉลี่ยนี้นะ จากคุณ : คนไทยไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 23:27:36 A:74.110.138.138 X: TicketID:306602

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบเหมือนคุณ Rennis กับคุณป้านี่แหละนะคะ สำหรับหมอสาขาต่างๆ อันนี้ไม่ค่อย accurate เท่าไหร่ค่ะ อีกอย่าง subspecialty ต่างกันก็ได้เงินต่างกันด้วย อย่างเช่น หมอศัลยกรรมประสาท กับหมอศัลยกรรมทั่วไป ก็ได้เงินไม่เท่ากันค่ะ ที่ Illinois ตอนนี้ขาดหมอสูติจริงๆค่ะ เพราะเค้าเปลี่ยนกฎ ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงขึ้นหลายเท่า หมอสูติเลยหนีไปอยู่รัฐอื่นกันเยอะ ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นก็เยอะ อย่าลืมว่ากว่าจะเรียนจบ เทรนนิ่งจบก็ใช้เวลาเป็นสิบๆปีเลยค่ะ รุ่นน้องเรา(เด็กอเมริกัน)จบทุกอย่างออกมาก็เป็นหนี้หลายแสนเหรียญแล้วค่ะ ขอท้วงคุณป้านี่แหละนิดนึงค่ะ สาขายากๆก็มีคนต่างชาติอยู่เรื่อยๆนะคะ ยากแค่ไหนผลสุดท้ายก็มีเด็กต่างชาติเข้าได้อยู่ดีค่ะ อีกอย่าง.. เวลาเข้าเรียนเฉพาะทาง ต่อให้ได้ในสถานที่เล็กๆ แต่ตัวบุคคลคนนั้นขยัน นิสัยดี และเก่ง เวลาทำสาขาต่อยอดก็จะได้ที่ท้อปของประเทศนะคะ.. ลองดูได้เลยค่ะ มีเด็กไทยหลายคน อยู่ในที่ดังๆนะคะ มีหมอจบจากเมืองไทยเป็น staff ในโรงเรียนแพทย์หลายคนด้วย แค่ใช่ชิคาโกก็หลายคนมากเลยค่ะ จากคุณ : ลูกแม่ดอกบัว เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 03:18:48

ความคิดเห็นที่ 26 ตอบ คห 9 ครับ พี่ผมเขาแต่งงานแล้วครับ คืองี้ครับ ลองคิดกันง่ายๆนะครับ เปิดคลีนิคตอนเย็น สามสี่ชั่วโมง สมมติว่ามีคนไข้เข้ามา 50 คน จ่ายแน่ๆคนละ 300 บาท 50x300=15,000 บาท/วัน ใช่ไหมครับ คิดเล่นๆว่าเปิดทุกวัน ก็ 15,000x30=450,000 บาท/เดือน ใช่ไหมครับ ทำงานมันทุกเดือนทั้งปี (สมมตินะครับ) ก็เอา 450,000 x 12 = 5,400,000 บาท/ปี คิดเล่นๆนะครับ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ผมแทบไม่เห็นใครมาคลีนิคแล้วจ่ายต่ำกว่า 300 เลยอ่ะ แล้วก็ไม่มาแค่ 50 คนต่อวัน แล้วก็ยังเปิดวันเสาร์เต็มวันอีก ยังไม่นับเงินเดือนที่ รพ. และยังไม่นับเคสยากส์ๆหรือเร่งด่วน ที่ รพ.เอกชน เรียก(หลังๆไม่รับ) ผมก็เลยไม่ทราบรายได้ที่แท้จริงของพี่เขาอ่ะนะ (จริงๆก็พอทราบแต่ไม่ชัวร์) รู้แต่ว่า ยังมีหมอท่านอื่นๆในประเทศไทย ที่มีรายได้มากกว่าแกหลายเท่าตัว อีกนับไม่ถ้วน เคสของแกถือว่าทั่วๆไป แกบอกเอง จากคุณ : เห็นทำงานแล้วเหนื่อยแทน เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 15:14:28 A:110.49.249.33 X: TicketID:038237

ความคิดเห็นที่ 27 หมอเด็กคือ Pediatrician ค่ะ ส่วน pOdiatrist คือคนรักษาเกี่ยวกับเท้า (ไม่มี MD title ไม่ได้เรียนโรงเรียนแพทย์ แต่เป็นโรงเรียนเกี่ยวกับการรักษาเท้าโดยตรง) จากคุณ : chimerism เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 23:27:15

ความคิดเห็นที่ 28 หมอความงามบ้านเรา รายได้ก็น่าจะมากอยู่นะครับ แต่ดูอันดับแล้ว หมอซะเยอะ นึกถึงเรื่อง grey's anatomy เลย กลับไปดูดีกว่า จากคุณ : Juneboyz เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 54 08:26:03

ความคิดเห็นที่ 29 หมอพลาสติค เสริมความงามรายได้มากมาย บางท่านเกือบ ๆ ล้านตือเดือนครับ เยอะมาก โดยความเห็นส่วนตัวแล้วคิดว่าความเครียดและโอกาสเสี่ยงก็สูงตาม เนื่องจากไมได้เป็นการรักษาแต่มันอยู่ที่ความพอใจ หมออื่นรักษาโรคถ้าหายก้อถือว่าสำรเ็จ แต่หมอเสริมความงานนี่ พูดยากครับ หมอว่าสวย แต่คนไข้ไม่พอใจ เรื่องความสวยงามหามาตรฐานยาก  ปล ตอนเด็ก ๆ อยากเป็นหมอพอเกเรเลยอด ตอนนี้มีแฟนเป็นหมอเด็ก ก้อพอใจละ ^^ จากคุณ : ทนายแฟนหมอ (Atemiz) เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 54 10:05:15