|
M.S. Finance จะเน้นศึกษาทฤษฎีทางการเงินโดยใช้เครื่องมือทางคณิตศาสตร์และสถิติมาอธิบายครับ เนื้อหาครอบคลุมทฤษฎีทางการเงินหลัก ๆ เกือบทั้งหมด (Corporate Finance, Asset Management, Quantitative Finance, Financial Markets, Financial Risk Management, Financial Statement Analysis) ใช้คณิตศาสตร์ตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับสูงครับ (ส่วนใหญ่ก็ Linear Algebra, Differential Calculus, Integral Calculus, Differential Equations, Mathematical Statistics, Financial Econometrics) โดยทั่วไปแล้ว หลักสูตรนี้จะมีเนื้อหาทับซ้อนกับ CFA Level 1-3 มากกว่า 70% ครับ ถ้า จบหลักสูตรนี้ ทำงานได้เกือบทุกตำแหน่งใน Finance Sector เลยครับ (แต่เห็นส่วนใหญ่เป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และผู้จัดการกองทุนกันครับ)
M.S. Financial Engineering (focuses on application) M.S. Computational Finance (focuses on application) M.S. Mathematical Finance (focuses on modeling and derivation) M.S. Financial Mathematics (focuses on modeling and derivation)
สี่ ปริญญาด้านบน คล้ายกันมากครับ ในสายตาคนไทย มักเรียกรวมกันว่า Financial Engineering หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรพี่น้องกับ Financial Economics ครับ เน้นศึกษาในเรื่องการกำหนดราคาหลักทรัพย์ โดยเฉพาะอนุพันธ์ทางการเงิน และการสร้าง Financial Products ใหม่ ๆ ออกมาครับ (เช่น พวก Derivatives Warrant) Financial Engineering ถือเป็นสาขาใหม่ที่เกิดขึ้นได้ไม่นาน เป็นการนำความรู้ทางการเงิน ความรู้ทางคณิตศาสตร์และสถิติ และความรู้ทางภาษาคอมพิวเตอร์ (พวก C หรือ C++) มาประยุกต์ใช้ด้วยกันครับ โดยจะใช้คณิตศาสตร์ และสถิติขั้นสูงพวก Stochastic Calculus, Brownian Motion ในการศึกษาทฤษฎีการกำหนดราคาตราสารอนุพันธ์ เหมาะสำหรับทำงานเป็น Trader, Quant, Hedge Fund Manager, Financial Risk Manager ครับ อ่านเพิ่มเติม http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2007/11/H6000809/H6000809.html
*มหาวิทยาลัยที่อเมริกาส่วนใหญ่ จะนับเฉพาะ Post-university work experience ว่าเป็นประสบการณ์ทำงานนะครับ ก่อนหน้านั้นอาจจะเป็น Extracurricular Activities
จากคุณ |
:
Rifle D.
|
เขียนเมื่อ |
:
30 มี.ค. 54 19:51:13
|
|
|
|
|