ความคิดเห็นที่ 1 เชื่อว่าคุณอยู่วงในจรืงครับ ผมมีเพื่อนคนไทยเรียนจบแล้ว อยู่กินกับอมีโกซึ่งขับแทกซี่ในนิวยอร์กคนหนึ่ง ได้ใบเขียวไปแล้ว และอายุมากกว่าคุณหลายปี เรื่องการทำใบขับขี่ปลอม ใบโซเชี่ยลปลอม เขาชำนาญราคาไม่ดุร้าย จขกท เล่าต่อซิครับ จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 12:14:49 A:71.114.49.147 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 2 น่าสนใจนะครับ น่าจะเขียนหนังสือซักเล่มจริงๆ สนับสนุน จากคุณ : กานท์ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 12:19:33

ความคิดเห็นที่ 3 ขอโทษนะคะ อมีโก้ นิ คือชาติไหนคะ เค้าเป็นใครคะ ไม่รู้จริงๆค่ะ จากคุณ : มู๋หวานอ้วน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 13:14:42

ความคิดเห็นที่ 4 อมีโก้ คือ พวกที่ใช้ภาษาสแปนิส ( Spanish ) เป็นภาษาหลัก เช่น แมกซิโก ลาตินอเมริกา เปอโตริโก้ แต่ไม่เกี่ยวกับพวก Spain แถบยุโรปแต่อย่างใด คนไทยแถวนิวยอรค์จะเรียกพวกแมกซิโก ว่า ไอ้โก้ ย่อมาจาก อมิโก้ แปลว่า เพื่อน ส่วนคนไทยแถบอื่นๆ จะเรียกพวกนี้ว่า ไอ้แม็ค จากคุณ : McMullence เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 14:02:52

ความคิดเห็นที่ 5 Top Anchorage Police Officer Identified as Illegal Alien, This ‘Excellent Employee’ Now in Jail Published at 10:01 am, April 23, 20117 Anchorage, Alaska law man Rafael Espinoza is actually Rafael Mora-Lopez an illegal alien from Mexico working here illegally and with false credentials. Mora-Lopez had been a police officer for six years and took a false identity that no one seemed to question and that passed police department review.  It helped that his peers and Police Chief Mark Mew saw him as an excellent employee who doesn’t appear to have ever broken the law except for how he got the job he loves http://www.hispanicallyspeakingnews.com/notitas-de-noticias/details/top-anchorage-police-officer-identified-as-illegal-alien-this-excellent-emp/ จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 14:19:29

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านความเห็นที่ 5 แล้วเศร้าจังค่ะ ถึงจะรู้ว่าเค้าทำผิดกฏหมายแต่ก็สงสารเค้าอยู่ดี จากคุณ : immeeLy เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 14:36:17

ความคิดเห็นที่ 7 ตามอ่าน จากคุณ : timtam_yummy เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 15:52:10

ความคิดเห็นที่ 8 ้เห็นมีบางกระทู้ที่ถามเกี่ยวกับพวกที่อยู่เกิน (overstay) ที่อเมริกา เวลาเขาเดินทางด้วยเครื่องบิน เขาจะกังวลไ่ม่แ่น่ใจว่าจะปลอดภัยจากตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไหม ถ้ามีเรื่องราวที่น่าสนใจ เกี่ยวกับแบบนี้ อย่าลืมมาเล่าให้ฟังนะคะ ตามมาอ่านค่ะ จากคุณ : redrose (rose_of_north) เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 17:21:22

ความคิดเห็นที่ 9 ได้ง่ายกันจัง เราอยู่รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปทำตั้งนานแระยังไม่ผ่านเลย ผ่านเฉพาะสอบภาคทฤษฏี เหลือก็แต่ภาคปฏิบัติ (ขับรถ)นี่แหละ  กว่าจะได้ไปไม่รู้กี่รอบ อิอิ จากคุณ : vanessa-eva เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 20:25:19

ความคิดเห็นที่ 10 สามีเป็นคุณครูค่ะ บอกว่าเกินครึ่งของนักเรียนที่โรงเรียนเค้า เป็น undocumented จากคุณ : ~~FrOm NoW oN~~ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 20:34:19

ความคิดเห็นที่ 11 มองอีกแง่นะ เด็กๆ ที่ไม่มีเอกสารเหล่านี้ ถ้า กม. ฝันเป็นจริงผ่าน อเมริกามีเเต่ได้ประโยชน์จากเด็กพวกนี้นะ เพราะเขาให้กับเด็กที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อจะได้หางาน มีเงินประกอบอาชีพที่ได้เงินมาก ได้เงินมากก้เสียภาษีให้ประเทศมาก ดีกว่าเรียนจบไฮสคูล หรือไม่ต้องจบก้ได้ ไม่รู้จะเรียนไปทำไม เรียนให้จบไฮสคูลก็เรียนต่อไม่ได้อยู่ดีเพราะไม่มีใบ เเล้วมันก็มาเป็นเเรงงานขั้นต่ำ ที่รัฐต้องชาวยเหลืออยู่ดี หรือเป็นอาชญากร ที่รอวันเข้าคุก เราคนเสียภาษีก้เสียเงินค่าคุก ค่าข้าวให้เขาอยู่ดี จากคุณ : ก เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 22:22:24 A:98.197.83.77 X: TicketID:106991

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ totally agree with Khun  ก จากคุณ : Joshika (Joshika) เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 23:13:17

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณ จขกท. ที่มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ... ตอนนี้เขาออก Real ID Act แล้วพวก amigos หรือคนที่อยู่อย่างผิดกม.ทั้งหลายคงทำใบขับขี่ยากขึ้นค่ะ ส่วนรัฐยูท่าห์ประกาศ Utah New Immigration Law เมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมา สามารถอนุญาตให้คนในยูท่าห์จ้างแรงงานต่างชาติได้แต่ต้องดำเนินเรื่องตามกฎหมาย อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ตำรวจสามารถตรวจเอกสารสถานภาพได้เหมือน Arizona จากคุณ : BlackmagicW เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 02:21:30

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณทุกท่านนะคะ ที่ให้ความสนใจ ช่วงนี้เรียนจบแล้วรอรับปริญญาอย่างเดียว เลยค่อนข้างว่างมากถึงมากที่สุด เด็กแถวบ้านเราเข้าสู่ช่วงสคูลเบรค แม่บ้านอมีโก้ทั้งหลายพร้อมใจกันมาเคาะประตูบ้านเราประมาณว่าช่วยเลี้ยงลูกให้ชั้นที ชั้นจะไปซักผ้า ชั้นจะไปตลาด ชั้นจะไปโบสถ์ ชั้นมีธุระด่วน แล้วอย่าลืมสอนการบ้านให้ลูกชั้นด้วยนะ เราเป็นขวัญใจเด็กๆแถวนี้เพราะเขาเห็นว่าเราเป็นของแปลก บางคนวิ่งเอานิ้วมาจิ้มๆแล้วก็วิ่งหนีไป ซะงั้น(-_-") วันนี้เลยทำการกุศลอีกหนึ่งวันโดยการเลี้ยงลูกชาวบ้าน พาเล่นเกม แล้วตบท้ายด้วยการพาขึ้นรถไฟไปดูนั่งโรงหนังสแปนนิชถูกๆใกล้ๆบ้าน ถ้าวันนี้ใครเห็นผู้หญิงเอเชีย ผมยาวๆทั้งอุ้มทั้งจูงทั้งลากเด็กๆละตินแปดคนบนรถไฟสาย7นั้น เราเองนั่นแหละค่ะ (-_-") ต้องนับตลอดเวลากลัวเอาลูกเขาไปหาย ไม่รู้จะไปเอาที่ไหนมาคืนเขา เข้าเรื่องต่อนะคะ จากความเห็นของคุณก. เราก็ยอมรับในส่วนหนึ่งนะคะ สำหรับการให้สถานะของนักเรียนที่เรียนจบปริญญา ซึ่งก็ถือว่าเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันกำลังมีช่องว่างให้อมีโก้ทั้งหลายที่อายุยังรุ่นๆอยู่เริ่มมองเห็นช่องทางมีใบ วันที่โอบาม่าให้สัมภาษณ์สดกับรายการเทเลมุนโด้เมื่อไม่นานมานี้ วันนั้นแถวบ้านเราเงียบไปถนัดตา ทุกบ้านทุกเรือนรวมตัวกันดูรายการนี้ เราเองก็นั่งดูอยู่กับเขาด้วยเหมือน ภาษาสเปนนิชงูๆปลาๆบวกกับโอบาม่าสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษเลยพอเข้าใจมาได้บ้าง หลังจากรายการนี้จบลง บ้านไหนที่มีอมีโก้อายุรุ่นๆที่เพิ่งจบไฮสคูลหรือว่ายังไม่จบบ้าง เริ่มๆเข้ามาถามเราว่าอยากเข้าคอลเลจ ทำไงดี ไอ้เราก็ถามว่าอยากเรียนเป็นเรื่องที่ดี แต่อยากเรียนอะไรละจะได้แนะถูก ส่วนใหญ่ก็ตอบว่า เรียนอะไรก็ได้ แต่ขอให้อยู่ในระบบคอลเลจเพราะโอบาม่าจะให้สถานะ โอ้ๆๆ เราก็อธิบายว่ามันไม่ใช่แล้วมั้ง เข้าเรียนไม่ใช่ง่ายๆหรอก สำหรับคนที่ยังไม่จบไฮสคูลมาจากประเทศตัวเองก็ต้องไปเรียนGED ส่วนคนที่จบไฮสคูลจากประเทศตัวเองแล้วก็ต้องผ่านการทดสอบอังกฤษขั้นพื้นฐานหรือไม่ก็ต้องสอบโทเฟลเอา ไม่งั้นใครเขาจะรับเข้าเรียน ถึงแม้เข้าเรียนได้แล้ว ปัญหาหลายอย่างจะตามมา ค่าเล่าเรียนก็กู้ไม่ได้เพราะไม่มีโซเชียล กว่าจะจบกันได้ก็ต้องมั่นใจว่าอยากเรียนจริงๆ เพราะถ้าเลิกกลางคันเงินที่เสียไปจะเสียดายเปล่าๆ บางคนพอฟังแล้วก็เห็นด้วยบอกขอกลับไปคิดดูก่อน บางคนก็คยั้นคะยอให้เราพาไปสมัครเรียนให้ได้ LaGuardia หรือไม่ก็ Bronx Community College เป็นโรงเรียนที่เราจะพาคนที่อยากเรียนไปดูรายละเอียดในเทอมต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็ต้องเรียนภาษากันก่อนแหละค่ะ ที่นี้แหละกว่าจะผ่านไปเลเวลสุดท้ายได้จะได้เป็นการทดสอบว่าพวกเขาเหล่านี้จะเรียนไหวไหม แต่ก็มีหลายคนนะคะ ที่จบได้Diploma จากCommunity Collegeเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้เรียนต่อค่ะ เพราะปัจจัยหลายๆอย่าง ไอ้ที่เรียนมาก็ทิ้งหมด กรณีแบบนี้เราไม่แน่ใจว่าโอบาม่าจะให้สถานะหรือไหม ใครทราบ รบกวนบอกเล่าให้ฟังบ้างนะคะ แต่ก็มีเด็กอยู่กลุ่มหนึ่ง เกิดที่นี่ โตที่นี่ พ่อแม่ผิดกฎหมายบ้าง ถูกกฎหมายบ้าง แต่ไม่มีเวลาดูแลลูก ตัวเองถือว่าเป็นพลเมืองอเมริกันเต็มขั้นกลับไม่สนใจไปเรียน จับกลุ่มตามบ้านเพื่อนบ้าน มุมถนนบ้าง ในรถบ้าง เราเห็นแล้วก็รู้สึกขัดหูขัดตาว่าทำไมไม่ไปเรียนหนังสือ บางคนเห็นเป็นเด็กๆอยู่เลยไม่น่าเกิน14ปี 2-3เดือนต่อมาก็ท้องซะแล้ว คิดอะไรกันง่ายเหลือเกิน เรารู้จักผู้หญิงคนหนึ่งเกิดที่นี่พ่อแม่ไม่มีใบและอายุเพิ่งจะ20ไปได้ไม่กี่อาทิตย์ แต่เพิ่งคลอดลูกคนที่4เมื่ออาทิตย์ก่อน ที่สำคัญเด็กแต่ละคนก็คนละพ่อ แถมพ่อคนละสัญชาติด้วยสิ ลูกชายคนโตอายุเกือบแปดขวบแล้ว สำหรับเรื่องโรงเรียนน่ะหรอ เราว่าเธอไม่ได้เรียนมาตั้งแต่ลูกคนแรกแล้วละ เห็นแล้วก็กลุ้มใจแทนชาวบ้านจริงๆ นึกจะมาทำองค์กรนานาชาติกันหรืออย่างไร วันนี้เป็นวันแรกที่นิวยอร์กอากาศดีมาก สาวๆแถวบ้านแทบจะไม่ใส่อะไรกันเดินอยู่แล้ว เราใส่กางเกงยีนส์กับเสื้อแขนยาวบางๆออกจากบ้านพาเด็กไปดูหนัง คนแถวบ้านบอกเราว่าไม่อึดอัดหรือไรใส่แบบนั้น ร้อนจะตาย (-_-") หันกลับไปดูเสื้อผ้าที่พวกนางใส่ แล้วเลยบอกว่า ไม่ร้อนหรอก อากาศกำลังดี กลัวเป็นปอดบวมแบบพวกเธอ แต่ละคนนี้ เราเห็นแล้วก็อึดอัดและหนักแทน ความเห็นเราเยิ่นเย้อ ออกทะเลไปนินทาเรื่องชาวบ้านซะแล้ว ไปละค่ะ เดี๋ยวนึกอะไรออก จะกลับมาเล่าใหม่ แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 54 08:19:22 จากคุณ : VEVARA เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 08:11:43

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องราวของคุณน่าสนใจดีค่ะ น่าจะทำเป็นหนังสือเลยนะคะ จากคุณ : ขนตางอน เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 08:50:45

ความคิดเห็นที่ 16 ว่าจะเข้านอนแล้วนึกนิยายผจญภัยได้เรื่องหนึ่ง อมีโก้ทั้งหลานที่เดินข้ามพรมแดนหรือลอดอุโมงค์กันมานั้นไม่ได้มีแค่เม็กซิกัน บรรดาชาติละตินทั้งหลายก็เดินข้ามกันมาได้เช่นกันโดยใช้เม็กซิโกเป็นทางผ่าน แต่ละประเทศก็มีกฎเกณฑ์ กติกา และราคาต่างกันไป เส้นทางซิกแซกไปซิกแซกมา ชีวิตกลางทะเลทรายน่าสนใจค่ะ ฟังแล้วก็สนุกดี ชีวิตคนพวกนี้สมบุกสมบันกันเหลือเกิน แม้แต่คนที่ถูกจับส่งกลับประเทศไปแล้ว ก็ยังเดินกลับเข้ามาได้อีก เกือบทุกอาทิตย์เราจะได้เห็นคนใหม่ๆมาอยู่เพิ่มขึ้น บางทีก็ไม่เห็นหรอกค่ะ แม่บ้านอมีโก้ทั้งหลายชอบเล่า ไอ้เราก็ชอบฟัง ไว้วันหลังจะมาต่อนะ เพราะเรื่องนี้ท่าจะยาวจริงๆ แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 54 10:27:22 จากคุณ : VEVARA เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 10:26:50

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องอะมีโก้ หรือ ม.ม้าทั้งหลายที่ไม่มี Paper หลบหนีเข้าเมืองมาอยู่ เป็นปัญหาก้างขวางคอรัฐบาลเมกามาทุกยุคทุกสมัย หากมองในมุมของผู้เสียภาษีอย่างถูกต้อง ก็ต้องบอกว่าไม่เห็นด้วยและไม่เป็นธรรม ที่ต้องจ่ายภาษีทุกเพนนีเพื่อคนที่ไม่ต้องเสียภาษี ซ้ำยังออกลูกออกหลานมาเต็มบ้านเต็มเมือง เรียนฟรี กินฟรี (ด้วยฟู๊ดแสตมป์บ้าง ด้วยคูปองที่ รร บ้าง)ต้องยอมรับว่าประชากร ม. ม้าที่หลบหนีเข้าเมืองเหล่านี้ เป็นพันธุ์ลูกดกทั้งนั้น เห็นได้ในแอลเอแถวๆ Panorama City, Van Nuys ซึ่งเป็นแหล่งชุมชน ม. ม้าใหญ่ เวลาคุณขับรถติดที่ไฟแดง จะมีคุณแม่ ม.ม้าเดินข้ามทางม้าลาย โดยเข็นรถเข็นมีลูกนั่งอยู่ 1 คน เดินตามหลังมาอีก 1 คน อุ้มท้องในตัวคุณแม่อีก 1 คน อายุคนเป็นแม่อย่างมากก็ไม่น่าเกิน 21-22 ปี คิดไหมว่ากว่าคุณแม่แกมีอยุย่างเข้า 30 จะมีลูกอีกกี่คน? หากเศรษฐกิจของเมกาแข็งแรง ฟู่ฟ่า มั่นคงก็ยังไม่เป็นไรมาก เพราะผู้คนหางานทำได้ทั่วไป แต่ในภาวะเศรษฐกิจเมกาตกต่ำ ผู้คนหางานกันขาขวิด ผู้ที่อยู่อย่างผิดกฏหมายและไม่จ่ายภาษีให้รัฐ ซ้ำยังมาเพิ่มภาระให้กับรัฐบาล ที่ภาระนี้ก็มาตกอยู่กับผู้เสัยภาษีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เปรียบเหมือนกาฝาก สมควรอย่างยิ่งที่ทางการต้องมีมาตราการทางกฏหมายเข้าเมืองมาจัดการแก้ไขในระดับชาติ อย่าง ปธน โอบาม่าพูดไว้ตอนหาเสียงว่า นโยบายกฏหมายเข้าเมืองในรัฐบาลเขา จะไม่ปิดกั้นเรื่อง Immigration แต่ผู้ที่จะเข้ามาอยู่ต้องมาและอยู่อย่างถูกต้อง โดยต้อง Get in line (to be migration by procedure) จากคุณ : Rapier เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 10:55:38

ความคิดเห็นที่ 18 เล่าต่อค่าาาาาาาาาาาาาา ชอบอ่าน สนุกดี จากคุณ : pearlperla เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 21:08:22