|
ขอแชร์ประสบการณ์ด้วยคนนะครับ เพราะประสบการณ์คล้ายๆ กับ จขกท. ครับ ผมเคยสอบ TOEFL แบบ Computer-based TOEFL (CBT) ครั้งหนึ่งครับ สมัยนี้ไม่มี CBT แล้ว แต่ CBT จะคล้ายๆ กับ Paper-based TOEFL (PBT) เพียงแต่ในส่วนของการฟังข้อสอบจะยากขึ้นเรื่อยๆ ตามความสามารถ
เข้าเรื่องนะครับ ผมเคยได้ Essay rating (Writing) 5.5 จากเต็ม 6.0 ซึ่งถือว่าสูงมาก (เกือบเต็ม แบบว่าฟลุ๊คได้ไงไม่รู้) ตอนนั้นที่ผมเขียนมี Introduction, Body Paragraph (เขียน 2 BP) แล้วก็ Conclusion แต่คิดว่าตัวเองไม่น่าจะได้คะแนนสูงด้วยซ้ำ เพราะใช้ศัพท์ง่ายๆ ไม่ได้ใช้ศัพท์ยากเลย ประโยคก็ง่ายๆ นะครับ แต่ผมเขียนให้ถูกหลักไวยากรณ์ (ตอนนั้นผมได้ part Structure 26 ส่วน 30) จึงคิดว่าเขาให้คะแนนจากส่วนที่เป็นไวยากรณ์ว่าเขียนไม่ผิดหลักไวยากรณ์และก็ดูจากการแสดงความคิดเห็น และก็การวางโครงเรื่อง ผมถึงได้คะแนนสูง แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ศัพท์ที่ยากๆ อะไร ประโยคก็เขียนไม่ได้ซับซ้อนมากนะครับ
ส่วนหลายปีต่อมา ผมมาสอบ IELTS ได้การเขียน 6.0 ทั้งๆ ที่ผมเขียนได้ดีกว่าตอน TOEFL ด้วยซ้ำ เพราะหลังจากที่ผมสอบ CBT ไว้นั้นผมเอาไปสมัครเรียนโทครับ พอผมจบโท มีประสบการณ์การเขียน Thesis เป็นภาษาอังกฤษ และทำวิจัยเขียน paper มาบ้าง จึงทำให้ผมรู้ศัพท์หลากหลายขึ้นและเขียนประโยคซับซ้อนหรือแบบ complex sentences ได้
แต่ผลลัพธ์ที่ได้แค่ 6.0 น่าจะเป็นเพราะ
1. การเขียน essay (task 2) ไม่ใช่การเขียนรายงานการวิจัยหรือวิทยานิพนธ์ จึงต้องจับประเด็นของโจทย์ให้ได้ ถ้าหลงประเด็นต่อให้เก่ง grammar หรือแต่งประโยคเก่ง ก็จะได้คะแนนน้อย
**** 2. การเขียน essay (task 2) ของ IELTS นั้นจะต่างจาก TOEFL ตรงที่ เขาไม่ต้องการให้ผู้เขียนแสดงความคิดเห็นแบบโน้มเอียงฝ่ายเดียว ถ้าเป็นโจทย์ agree หรือ disagree ต้องนำเสนอความคิดเห็นทั้งสองด้านครับ โดยในส่วนของ Introduction ควรเปิดประเด็นไว้ก่อนเลยว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะ ซึ่งฉันจะอธิบายและยกตัวอย่างให้ดูใน essay นี้อะไรแบบนี้ แล้วพอเข้า BP แรก ก็ต้องแสดง Topic sentence (TP) ของด้านใดด้านหนึ่งก่อน (สมมติเลือก agree ก่อน) แล้ว BP สอง ถ้ายังมี agree อีก ก็ยกตัวอย่างเพิ่มอีก แต่ต้องมี cohesion กับ BP แรกนะครับ หรือถ้าหมด agree แล้ว BP ที่สอง ก็ต้องเปิดประเด็นของ disagree ด้วย TP ที่น่าเชื่อถือและมีประโยคขัดแย้งให้ต่างกันกับ BP แรก
ส่วนพอสรุป Conclusion ก็แสดงความคิดเห็นทั้งสองมุม (คล้ายๆ สรุปจาก Intro + BP1 + BP2) แต่เราก็จะระบุว่ามันก็มีทั้งด้านดีหรือไม่ดียังไง บอกแบบกลางๆ ไว้ หรือจะฟันธงก็ได้ แต่ต้องเปิดประเด็นให้เห็นอีกมุมไว้ด้วย ประมาณนี้น่ะครับ
ข้อข้างต้นนี้สำคัญมากๆ ครับว่าไม่ควรฟันธงด้านเดียว อธิบายด้านเดียวไปเลย ไม่งั้นจะได้คะแนนน้อย ซึ่งต่างจาก TOEFL นะครับ เพราะตอนผมสอบ TOEFL ผมก็เทความคิดเห็นไปฝั่งเดียวไปเกือบ 90% ไปเลย พร้อมหาเหตุผลมาสนับสนุน และยกตัวอย่างประกอบ
พอมาสอบ IELTS ผมก็ยังคิดว่าเราเคยได้ TOEFL ส่วน essay สูงมาก ก็เลยใช้วิธีคิดแบบเดิมๆ คือเทความคิดเห็นไปด้านเดียวเป็นหลัก ผลสุดท้ายก็คืออย่างที่เห็นล่ะครับ แม้ว่าจะเขียนประโยคได้เก่ง หรือ ใช้ศัพท์ได้หลากหลายและศัพท์ยากๆ ได้ก็ตาม เพราะ examiner ของ IELTS เท่าที่เคยได้ยินมา เขามองประเด็นการแสดงความคิดเห็นเป็นหลักครับ ต้องตอบแบบมีสาระและตรงประเด็นและต้องมี 2 มุมมอง ส่วนศัพท์และไวยากรณ์ก็สำคัญครับ แต่ถ้าเราไม่สามารถแสดง position หรือ idea ที่เป็น 2 มุมมองออกมา คะแนนจะน้อยทันทีครับ
อย่างไรก็ดี task 1 ก็สำคัญนะครับ อย่าลืมให้ความสำคัญด้วยนะครับ แม้ว่าเขาจะให้น้ำหนัก task 2 มากกว่าก็ตาม แต่มันก็คือคะแนนรวมกันนะครับ ถ้าเราทำ task 1 ไม่ดี ก็อาจส่งผลต่อคะแนนได้ครับ
ขอเอาใจช่วย จขกท. นะครับ
ปล. ผมไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมากมายอะไรหรอกนะครับ แต่เอามุมมองที่เคยประสบพบเจอมามาเล่าให้อ่านครับ และก็เอามาจากอาจารย์ชาวต่างชาติเขาแนะนำมาอีกทีครับ ^_^
จากคุณ |
:
ภาพสะท้อนของกระจกเงา
|
เขียนเมื่อ |
:
13 พ.ค. 54 22:18:33
|
|
|
|
|