ความคิดเห็นที่ 1 ย่าของสามีดิฉัน อายุราวๆ แปดสิบ หลังจากสามีท่านเสียได้เกือบปี ท่านก็ไปออกเดทมีแฟนใหม่ ไม่กี่เดือนก็วางแผนจะแต่งงานกัน ดิฉันพูดกับแม่สามีว่า เนี่ยะ แฟนใหม่ย่าหน้าตาดีนะ(สำหรับคนอายุแปดสิบ) แม่สามีบอกว่า "ใช่หน่ะสิ เมื่อก่อนตอนยังไม่เป็นแฟนย่า ฉันยังเคยบอกให้แม่ฉัน(ยายของสามี) ลองไปเดทกับคนนี้ดูสิ เค้าหน้าตาดีนะ แต่แม่ฉันบอกว่าเค้าเดทกับอีกคนหนึ่งอยู่ ฉันเลยบอกไปว่า ตามใจ เสียโอกาสแล้วหล่ะ เธอหน่ะ" ฟังแล้วปวดตับ แม่กับลูกอายุแปดสิบกับหกสิบปีคุยกัน แต่บทสนทนาเหมือนเพื่อนสาววัยสิบหกคุยกัน จากคุณ : โตช้าแก่เร็ว เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 11:58:10

ความคิดเห็นที่ 2 การสั่งน้ำมูกในที่สาธารณะหรือแม้แต่ในที่ๆแสนจะเงียบอย่างในโรงหนัง ในห้องสมุด เป็นเรื่องปกติ เข้าใจว่าเพราะอากาศหนาว จมูกชื้นง่าย ขอเพิ่มอีกข้อ คือเรื่องการพูดจาแบบตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อมของฝรั่งส่วนมาก เคยเจอเพื่อนฝรั่งถามตอนเราไปบ้านเค้า ว่าไม่อยากมาบ้านเค้าเหรอ เห็นทำหน้าไม่ค่อยดี ตอบแก้ตัวแทบไม่ทัน หรืออย่างสามีเราช่วยตรวจแก้ไขธีสิสให้เพื่อนคนไทยเรา พอตรวจเสร็จเพื่อนเราบอกว่าเค้าน่าจะเอามาให้สามีเราตรวจแก้ให้ตั้งแต่ต้นๆจะได้ไม่ต้องแก้เยอะขนาดนี้ สามีเราตอบใช่ เพื่อนคนไทยเราอึ้ง แหม ยูนี่เป้ฯคนจริงใจมาก ไม่มีการตอบปลอบใจไอเลย ฮาๆ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 12:34:27 จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 12:30:17

ความคิดเห็นที่ 3 คนจีนอ่ะ ชอบพูดทั้งๆที่ข้าวเต็มปาก บางที่ก็กระเด็นมาทางเรา แก้ปัญหาโดยไม่ร่วมวงด้วย ตะโกนคุยกันเสียงดัง เหมือนทะเลาะกัน ไอ้เราก็ยืนฟัง คอยลุ้นว่าจะตีกันไหม เปล่า!!!!! มันคุยกัน!!! แถม ชอบ เรอ ตด ขาก ถุ๋ย สูบบุรี่ในที่สาธารณะ กรี๊ด!!!!!!! คนไทยรับไม่ได้ ตอนมาอยู่ที่นี่(เซี่ยงไฮ้) ร้องอยากกลับบ้านทุกชั่วโมง ตรูจะอยู่ร่วมกับพวกเขาได้ไหมหนอ ยังไงก็ต้องอยู่ เดี๋ยวนี้ชินค่ะ เด็กวัยรุ่นจีนชอบแต่งตัวเป็นสีรุ้ง นึกออกไหมคะ กระโปรงแดง เสื้อฟ้า รองเท้า ม่วง ถุงน่องสีต่างๆ ป.ล สาวจีนชอบใส่ถุงน่องมากมาย จากคุณ : มันเป็นส่วนผสมในใจ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:19:28

ความคิดเห็นที่ 4 พฤติกรรมที่ชอบถามตรงเกินไป เช่นว่า How short are you? (เธอเตี้ยเท่าไหร่เนี๊ยะะะ??) แรก ๆ ไม่เท่าไหร่ แต่เจอบ่อยครั้งจึงต้องเสยกลับไปบ่อยครั้งว่า นี่เธอ... proper English น่ะ ต้องถามว่า How tall are you? (เธอสูงเท่าไหร่) สิยะ คำก็เตี้ย สองคำก็เตี้ย คำนี้มันเจ็บกระดองใจนะยะ ยังมีหน้่าทะลึ่งมาถามส่วนสูงความ"เตี้ย"อีก จากคุณ : Kryta (Kryta Ja) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:25:39

ความคิดเห็นที่ 5 ที่เราเจออาจไม่อึ้งที่สุดนะคะ แต่ก็เหวออยู่ ที่ซาอุฯ ผู้หญิงลากเก้าอี้ที่ฟูดคอร์ท ไปให้ลูกปีนขึ้นไปนั่งบนเค้าเตอร์ของ KFC สั่งเสร็จอะไรเสร็จ ก็เดินสะบัดก้นจากไป ทิ้งเก้าอี้ไว้สองตัวที่หน้าเค้าเตอร์ ที่ซาอุฯ สัญญาจราจรไฟแดงแล้ว บางครั้งยังมีรถผ่านไปได้อีกราว ๆ 5-10 คัน จะข้ามถนนตอนไฟแดง ต้องรอให้รถอีกฝั่งวิ่งมาเต็มถนนเสียก่อน ที่ซาอุฯ คนแม่ให้ลูกสาวฉี่กลางสนามหญ้า ทั้ง ๆ ที่ห่างออกไปราว ๆ 100  เมตรทั้งทางซ้ายและทางขวา เป็นห้องน้ำ ที่ซาอุฯ แม่นั่งคุยอยู่กับกลุ่มแม่ ๆ ปล่อยให้เด็กโตราว ๆ 5-6 ขวบ ตีเด็กอายุราว  2-3 ขวบ แล้วลากไปกับสนามหญ้า เด็กเล็กก็กรีดร้อง แม่ก็ไม่สนใจ เห็นแล้วอึ้งมาก อีกเยอะค่ะ จากคุณ : คุณนายเหรียญบาท เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 13:55:11

ความคิดเห็นที่ 6 ที่ผมเจอที่อังกฤษนะครับ - ของกินตกพื้นแล้วหยิบขึ้นมากินใหม่ แบบธรรมดามาก - พอฝรั่งบอกหิวน้ำ ก็เดินเข้าไปกินน้ำจากก๊อกในห้องน้ำเลย (ตอนแรกผมไม่รู้ว่า น้ำปะปาบ้านเค้ากินได้) แต่ผมก็รับไม่ได้อะ กินจากในห้องน้ำ (-___-") เพราะปกติผมจะกินจากก๊อกในห้องครัว - ใส่เสื้อผ้าตัวเดิม ซ้ำๆ กันเป็นอาทิตย์ ยิ่งพวกเสื้อกันหนาว ใส่ตลอด season แล้วค่อยซักทีเดียว - เอาขนมปังมากิน แล้วมีส่วนที่มีเชื้อรา ถ้าเป็นเราคงทิ้งทั้งชิ้น แต่ฝรั่งดึงเอาเฉพาะส่วนที่มีเชื้อราออก แล้วกินต่อ - ทำบาบีคิวกินกัน เด็กฝรั่งเอาของกินพวกใส้กรอก มันฝรั่ง เบอร์เกอร์มาโยนเล่น เควี้ยงใส่กัน ตกพื้น แล้วก็เอาไปย่างกินต่อ - คนแก่ๆ อายุ 70-80 ออกมาทำสวน ขุดดิน ปลูกต้นไม้กัน (เพราะคนอังกฤษ ชอบทำสวนมาก) ผมทึ่งอะ คนอายุขนาดนี้มาขุดดินเองเลย ถ้าเป็นเมืองไทย เราคงจ้างคนงานมาขุดแทน - กินข้าวแล้วมีหมาแมววิ่งๆ อยู่รอบๆ โต๊ะอาหาร ระหว่างกิน ก็ยื่นให้หมากินด้วย แล้วก็เอาจานนั่นมากินต่อ (เพราะคนที่อังกฤษบางคน ถือว่าหมาเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว) แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 16:54:54 จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 16:52:08

ความคิดเห็นที่ 7 นึกไม่ออกอะ แบบที่อึ้ง แต่พอนึกออกแบบที่รู้สึกว่ามันต่างจากที่เมืองไทย - หยุดให้คนข้ามถนน (แต่เราเคยไปเมืองนึง ไม่เอ่ยถึงแล้วกัน เราขับรถอยู่ แล้วหยุดให้คนข้าม โดนเพื่อนคนไทยที่เมืองนั้นบอกว่า ที่เมืองนี้ไม่ต้องหยุดให้คนข้าม ไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่เราก็หยุดอยู่ดี กลัวโดน ticket + เพื่อนคนนั้นไม่ได้ขับรถด้วย + เพื่อนคนนั้นตอนเราบอกให้คาดเข็มขัดเราถึงจะออกรถ ก็ว่าเราเรื่องมาก เราก็เลยให้ credit เขาน้อย เรื่องที่บอกว่าเมืองนั้น ไม่ต้องหยุดให้คนข้าม ขนาดตรงนั้นเป็นทางม้าลายนะ) - เรื่องห้องน้ำมีรอยแยกโหว่ ตอนแรกเราก็รู้สึกว่ามันไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย แต่พออยู่ๆไปก็ชิน บวกกับบางคนเขาห้องน้ำแล้วทำเสียงดังมาก เขายังไม่อายเลย (แต่พอกลับไปเมืองไทย เราก็ว่าที่เมืองไทย บางคนเข้าห้องน้ำก็เสียงดังเหมือนกันแฮะ มานึกดู ตอนเด็กๆ เราไม่กล้าใช้ห้องน้ำนอกบ้านเท่าไหร่เลย) - เรื่องขึ้นรถเมล์ แล้วเวลาจะลงคนชอบขอบคุณคนขับรถกัน (แล้วแต่คนนะ ไม่ใช่ทุกคน) นึกออกเท่านี้ ตอนนี้ จากคุณ : ZT1260 เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 18:45:12

ความคิดเห็นที่ 8 คือ ที่บ้านเราเมืองไทย ค่อนข้างจะเลี้ยงลูกแบบประคบประหงมนะ แล้วเท่าที่เห็นเลยคนอื่นก็เหมือนกันข้ามถนนจะอุ้มลูกไม่ก็จูงมือข้าม จับมือตลอด แต่ที่ได้เห็นที่นี่ เขาเลี้ยงลูกแบบ ปล่อยมากให้เดินอย่างอิสระ ตัวเท่ากระเปี้ยกไม่กี่ขวบเดินขึ้นบันไดเลื่อน แถมยังไปยืนรอพ่อแม่อยู่ข้างบนอีกเป็นบ้านเราโดนด่าตาย แต่ที่อึ้งอีกก็คือ เด็กน่าจะประมาณสองสามขวบเขา นั่งควบจักรยานแบบพลาสติกที่ต้องใช้เท้าคู่ยันและถีบพื้นให้ส่งแรงไปข้างหน้า ถ้าเห็นตามฟุตบาทหรือสนามเราก็เฉยๆนะ แต่นี่ข้ามไฟแดงถนนสี่เลน น่องเด็กแค่คืบมือเอง แต่ถีบๆไปจนทันไฟเขียว แม่เด็กเดินชิวๆ นำหน้าไปก่อนแล้ว มันอเมซิ่งสำหรับเรามากเพราะเราเป็นผู้ใหญ่เดินข้ามถนนยังต้องเดินแบบรีบๆกึ่งวิ่งเลย แต่เด็กเล็กมันทันข้ามได้ ทึ่ง.. คนแก่ที่แข็งแรง ชอบออกกำลังกาย เดินๆ คนทีนี่กินอาหารง่ายด้วย มะเขือเทศลูกหนึ่ง แครอทอันหนึ่ง หนมปังก้อนเล็กๆ เขาอยู่ได้ละ เป็นเราถ้าจะหน้ามืดไม่มีแรงแน่ถ้าได้กินอย่างนั้น ^^ จากคุณ : ลูกชุปมะนาว เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 18:46:15 A:62.168.0.15 X: TicketID:255237

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อเช้าผมเห็นมีคนเลียรองเท้าด้วย แบบว่าทำความสะอาดรองเท้าหนังให้มันวับบบ จากคุณ : phurich เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:51:31 A:182.52.129.25 X: TicketID:083381

ความคิดเห็นที่ 10 สี่แยกไฟจราจร ตอนที่เห็นไฟเขียว มีแม่เป็ดพาลูกๆเดินข้ามถนน รถทั้งสองฝั่งหยุดให้ข้าม มีคนออกมาช่วยเดินไปด้วย พี่เขยเป็นสมาชิกสมาคมล่าเป้ด อยากติดตั้งโทรศัพท์ที่สมาคม โทรไปขออนุญาต หน่วยงานที่รับผิดชอบบอกว่าให้รอไปก่อน ตอนนี้แถวนั้นเป็นช่วงที่งูชนิดนึงกำลังลอกคราบ ไปขุดแถวนั้นจะเป็นการรบกวนงู หมดฤดูลอกคราบแล้วค่อยดำเนินการ ฟังแล้วรู้สึกดี ไปฟิตเนตที่นั่นมีคนจีนไปออกกำลังกายหลายคน ที่ห้องอาบน้ำเห็นคนจีนหลายคนหลังอานน้ำจะยืนใส่กางเกงในตัวเดียว ยกขาชึ้นสูงไปจ่อที่เครื่องเป่าลมให้มือแห้ง จากคุณ : wheel of forture เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 20:29:27 A:68.127.149.137 X: TicketID:048459

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับ คห6 ค่ะ - พูดไปแล้วอย่ารังเกียจเรา เราก็ใส่เสื้อหนาวต่างๆ 2-3 ปี ซักทีค่ะ  แหะๆ   - พ่อแฟนเรา  อายุ 70 กว่าๆ ละ   ยังทำสวนทุกวัน   เค้าบอกว่าชอบค่ะ  ชอบมากกกไม่เหนื่อย - ตอนแฟนเรายังสูบบุหรี่   เวลาทำบุหรี่ตกพื้น (ซึ่งตกบ่อยมาก)  ก้มเก็บมาสูบต่อ  เรางงเลย   หรือว่าคนไทยก็ทำกัน เราก็ไม่รู้ค่ะ ไม่เคยเห็น   - เรื่องขนมปังขึ้นรา ใช่ค่ะ เราก็ทำ  ฮ่าๆ  เวลาเห็นราขึ้น เราก็จะตัดส่วนที่ขึ้นราทิ้งไป  แล้วก็กินต่อค่ะ  งุงิ - เราค่อนข้างชื่นชมผู้สูงอายุที่นู่นนะคะ (อังกฤษ) เค้าเป็นคนแก่ที่มีค่าในตัวเองมาก  หลายคนที่อายุเหยียบ 90   ยังมานั่งทำงานแคชเชียร์ต่างๆ  (ไม่มีใครบังคับให้ทำ แต่เค้าอยากทำเวลาว่าง)  ชื่นชมจริงๆค่ะ  แข็งแรงมากๆ   อากงอาม่่าเรา อายุยังไม่ถึง 80 ก็เดินไม่ไหวแล้วค่ะ - คนที่นู่นมีระเบียบค่ะ โดยเฉพาะการจราจร   ที่นู่น แย่งกันให้ทางคนข้าม   แต่ที่ไทย แย่งกันไป    แง้วววว - ฝรั่งจะไม่ทานข้าวแบบเราๆ คือคนไทย จะแชร์อาหารกัน แต่ฝรั่ง (เวลาทานอาหารไทย) เค้าจะสั่งอย่างนึงให้ตัวเค้าเลย โดยไม่แบ่งกับคนอื่น เราจึงต้องแนะนำบ่อยๆ ว่าให้สั่งหลายๆอย่างมาแชร์กัน จะได้กินหลากหลาย และอีกเยอะแยะค่ะ  ^^ จากคุณ : aimeramm เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 20:44:24

ความคิดเห็นที่ 12 ฝรั่งตักอาหารขายในจานอาหารเยอะมาก แต่แปลกทำไมเรากินหมดทุกที อิ อิ (มาแชร์) จากคุณ : เสียงซึง เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 21:32:34

ความคิดเห็นที่ 13 - กินอาหารบางมื้อกันบนเขียงนั่นแหล่ะ แบบไปเห็นแรกๆงงมาก ซอสเคทชัพก็บีบลงเขียงเลย - ไม่อาบน้ำก่อนนอน บางทีหลายวันด้วยซ้ำ อันนี้สามีกับครอบครัวสามีไม่เป็น เราเลยคิดว่าน่าจะเฉพาะบุคคล - คนตุรกีแต่งงาน ต้องขนคนรู้จัก+ญาติๆขึ้นรถเก๋งหลายๆคัน บีบแตรสนั่นไปทั่วเมือง ป่าวประกาศให้โลกรู้ - การ x-ray ที่ออสเตรียต้องถอดเสื้อและบราออกด้วย ส่วนคนตรวจเป็นผู้ชายซะเยอะ อายแบบเลิกอายแล้ว - ตอนคลอดลูกใหม่ๆต้องปั๊มนมก็นอนในห้อง(ห้องรวม3เตียง)ปั๊มๆอยู่ญาติๆเตียงข้างๆมาเยี่ยม จะปิดยังไงละคะ มือ2ข้างก็ต้องปั๊ม แถมไม่มีผ้าม่านกั้น ก็นะต้องปั้นหน้าปั๊มต่อให้เสร็จไวๆ จะเลิกปั๊มก็ไม่ได้เพราะหน่มน้มจะระเบิด - หน้าร้อนฝรั่งหลายๆคนชอบเดินเท้าเปล่า ไม่ว่าจะบนถนนหรือตามซุปเปอร์ - หน้าร้อน(อีกละ)แมลงวันเยอะมากแบบว่าตามร้านอาหารดีๆก็มีแมลงวัน แล้วก็เหมือนคนเค้สชินๆกันแค่เจอก็ปัดๆเอา - บนถนนใหญ่จะมีที่กั้นกบ แบบจะเป็นแผงอลูมิเนียมยาวๆ สูงประมาณเกือบเข่า กั้นระหว่างทางดินกับถนน เพื่อไม่ให้เวลาฝนตกน้องกบจะออกมาโดดดึ๋งๆออกไปที่ถนนแล้วโดนรถเหยียบ อันนี้ซึ้งใจแทนกบ ที่คิดออกมีแค่นี้อ่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 21:46:05 จากคุณ : Mona...Da Vinci เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 21:40:13

ความคิดเห็นที่ 14 การสั่งน้ำมูกค่ะ สั่งได้ทุกที่ทุกเวลา สั่งได้เสียงดังกังวาล บางทีสามีมาทำต่อหน้าเราจะส่งเสียงยี้ๆแล้วไล่ให้ไปสั่งที่อื่น เราไม่ชอบอ่ะมาสั่งน้ำมูกต่อหน้าแบบนี้มันเสียมารยาทนะรู้ไหม แต่เขาบอกว่าการที่เราพยายามซู๊ดน้ำมูกนั่นล่ะไม่ดี น้ำมูกเป็นของเสียควรจะสั่งออกมา ไม่ใช่ทำเสียงฟืดฟาดตลอดเวลา อุนจิหมา ปกติที่นี่จะปรับแพงมากถ้าใครไม่เก็บอุนจิเวลาพาหมาเดินเล่น เราชอบสังเกตุคนค่ะ บางคนเขาก็เตรียมถุงดำมาด้วย แต่บางคนมักง่ายหันซ้ายหันขวาไม่เห็นใครก็ปล่อยหมาถ่ายมันตรงนั้นแล้วเผ่นแนบ ชิส์ นึกว่าไม่มีใครเห็นหรอ เราไงเราเห็น ฝรั่งบางคนก็มักง่ายเหมือนกันถ้าหาโอกาสได้ การซื้อผัก เวลาเราไปซื้อผักตามซูเปอร์ฯหรือตลาด ถ้าเจอผักเหี่ยวๆช้ำๆ เราจะไม่เอาเลย แต่คนที่นี่ซื้อได้หน้าตาเฉย ยิ่งหอมใหญ่ด้วยแล้ว บางทีราขึ้นเป็นจุดดำๆเต็มไปหมด คนที่นี่ก็ยังซื้อไปกินได้สบาย เราเห็นแล้วใจหวิวๆแทน นี่สินะถึงได้เป็นมะเร็งกันนัก ถึงจะเอาไอ้ส่วนที่เป็นราออกสะบัดกับน้ำ2-3ที เราก็ไม่กล้ากินอ่ะ เมื่อก่อนน้องสามีเคยมาพักด้วย เธอจะชอบซื้อผลไม้มากองๆไว้ บางทีถ้าเราเห็นว่ากล้วยดำจะหมดหวีแล้ว กีวี่ช้ำหมดแล้วเหมือนมีน้ำใสๆไหลออกมาด้วย เราก็จะโยนทิ้งเพราะมีกลิ่น เธอก็สงสัยว่าทิ้งทำไม ของยังดีๆอยู่ 0_o โอ้วว ดีตรงไหน ดำ ช้ำแบบนั้นแถวบ้านฉันไม่กินโยนทิ้งสถานเดียว การอาบน้ำ คนที่นี่จะอาบแค่ครั้งเดียวต่อวัน พอคนรอบข้างรู้ว่าเราอาบวันละ2ครั้งก็พากันแปลกใจว่าจะอาบอะไรมากมาย แต่เราสิแปลกใจมากกว่า อย่างบางทีเขาอาบกันตอนเช้าทำกิจกรรมมาทั้งวัน ตอนเย็นเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้านอนน้ำท่าไม่อาบ ไม่คันยิกๆบ้างหรอ ขนาดหน้าหนาวตี1ตี2เรายังต้องอาบเลย หนาวก็หนาวแต่มันนอนแบบไม่อาบไม่ได้ แม่ที่นี่จะรักลูกมากและมองลูกเป็นเด็กเล็กๆเสมอ แม้ว่าลูกจะอายุไม่ต่ำกว่า40ก็เถอะ เพื่อนเราอายุ40นิดๆตัวโตใหญ่เป็นยักษ์ หน้ามีหนวดเคราเฟิ้ม ดูเผินๆเหมือนมหาโจรแต่แม่ถนอมเหมือนลูกแมวน้อยๆก็ไม่ปาน เวลาที่เพื่อนคนนี้แวะมาที่บ้านเรา พอ4-5ทุ่ม แม่เขาก็จะเริ่มโทรมาล่ะ อยู่ไหนลูก อย่ากลับบ้านดึกนะ  กินข้าวหรือยัง ถ้าบอกว่ากินที่บ้านเราแล้ว แม่ก็จะ โอ้วว อย่ากินเผ็ดมากนะเดี๋ยวจะท้องผูก แล้วจะเข้าบ้านเมื่อไหร่ ได้เอากุญแจบ้านไปไหม ถ้ามาถึงแล้วกดกริ่งเรียกนะแม่จะมาเปิดประตูให้  และก่อนจะออกจากบ้านแม่ก็จะบอกว่า  อากาศมันเย็นต้องใส่เสื้อกันหนาวด้วยนะ สีนั้นดีไหมหรือชอบสีนี้ แล้วแม่ก็จะดูแลจัดแจงทุกอย่างงงงงงง กว่าจะได้ออกจากบ้านปาไป20นาที อิอิ แต่ครอบครัวที่นี่จะอบอุ่นมากๆพ่อแม่จะบอกสอนกอดเล่นแม้ลูกจะอายุ30-40และลูกบางคนก็จะอยู่ร่วมบ้านกับพ่อแม่ไม่ยอมแต่งงานแต่งการซะที จากคุณ : จะเอาอะไรกับลมปาก เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 21:48:00

ความคิดเห็นที่ 15 ต่อๆเกือบลืม เรื่องการให้นมเด็กทารก บางทีเราอยู่ในที่ๆมีคนพลุ่นพล่านก็จะเจอกับภาพแม่ควักนมออกมาให้ลูกดูดจ๊วบๆ แรกๆเราไม่ชิน เขิลมาก อยู่ๆมีใครก็ไม่รู้ควักหน้าอกหน้าใจออกมา ไม่กล้ามอง ไม่กล้าเผลอสบตา สามีก็จะบอกว่านี่เรื่องปกตินะ เขากำลังทำหน้าที่แม่อยู่ อนาคตถ้าเธอมีลูกเธอจะควักนมให้ลูกดูดที่ไหนเมื่อไหร่ตรงไหนก็ได้ อีกเรื่อง เย็นๆเราชอบเดินเล่นแถวบ้าน บางทีก็จะจ๊ะเอ๋กับหนุ่มสาววัยรุ่นที่เพิ่งเลิกเรียน มานั่งกอดจูกลูบไล้กัน ก็เข้าใจอ่ะนะว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา แต่เล่นมานั่งตักจ๊วบกันตรงขอบฟุตบาทสี่แยกนี่มันก็เกินไปหน่อยนะ ไม่แคร์คนก็แคร์รถที่วิ่งไปมาบ้างเถอะ เดี๋ยวถูกเสยไปทั้งคู่หรอก จากคุณ : จะเอาอะไรกับลมปาก เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 21:57:00

ความคิดเห็นที่ 16 ที่อึ้งน่าจะเป็นเวลาเขาสั่งพิซซ่ากันน่ะค่ะ คือถ้าเป็นที่บ้านเราพิซซ่าถาดนึงอันใหญ่เท่ากะด้งก็ต้องแบ่งกันทาน แต่ฝรั่งสั่งพิซซ่าของใครของมันค่ะ ไม่มีการแบ่งกันทาน และพวกเขาก็ทานกันหมดซะด้วย ไทยๆอย่างเราแค่ 2 ชิ้นก็แน่นท้องแล้วค่ะ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 22:09:28

ความคิดเห็นที่ 17 อาจารย์เราชาวอังกฤษเค้าบอกว่าชอบทานกาแฟมาก  เค้าเคยนั่งทานกาแฟที่สตาร์บั๊ค  16  แก้ว  เค้าบอกมีคนมองเต็มเลย  = ="    ไม่มองก็แปลกล่ะ จากคุณ : honey_khun เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 22:16:04

ความคิดเห็นที่ 18 เล่นหัวคนที่อาวุโสกว่า และก็พูดจากะพ่อแม่อย่างกะเพื่อนเล่น f*** word เต็มไปหมดเลย(แต่เค้าบอกว่าไม่หยาบอ่ะ) -_-" จากคุณ : knotstank เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 22:23:33

ความคิดเห็นที่ 19 นึกได้เพิ่ม เอามาเล่าให้ฟัง กระทู้นี้ไม่ได้บอกว่าใครถูกผิดนะครับ เล่าสู่กันฟังถือว่าวัฒนธรรมต่างกันแล้วกัน - หน้าร้อนเจอฝรั่ง ผู้ชายใส่กางเกงขาสั้น เสื้อไม่ใส่ ผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำ มานอนอาบแดดตามสวนสาธารณะ - มื้อเที่ยงฝรั่งกินอาหารกันน้อยมาก หรือบางคนกินแปลกมาก ที่เคยเจอ ผู้หญิงคนหนึ่งกินแตงกวาครึ่งลูก มะเขือเทศ แล้วก็ขนมปังก้อนหนึ่ง ผู้ชายอีกคนกินแค่ซุปซอง ชงน้ำร้อน ผู้หญิงอีกคนหนึ่งกินขนมปังสองแผ่นกับชีส ฝรั่งกินแค่นี้ เค้าบอกว่าอิ่มแล้ว แต่เค้าตกใจมาก ที่เห็นผมกินข้าว แกงเขียวหวานกับไข่เจียว บอกว่าผมกินเยอะมาก (-___-") - คนอังกฤษชอบดื่มชา ดื่มกาแฟกันเยอะมากกกกก กินกันได้ทั้งวัน - อันนี้เรื่องแปลกๆ ของเพื่อนร่วมบ้าน คนแรกฮังการี คนนี้จะอาบน้ำเฉพาะตอนเช้า แล้วก็ไปทำงาน กลับบ้านมาสกปรกแค่ไหนก็ไม่อาบน้ำ อาบอีกทีตอนเช้า คนที่สองเป็นสเปน ตื่นมา ล้างหน้าแปรงฟันอย่างเดียว แล้วก็ไปทำงาน กลับมาบ้านตอนเย็น ตัวสกปรกค่อยอาบน้ำ ส่วนผมคนไทย อาบทั้งเช้าและเย็น ไม่ว่ามีหรือไม่มีเหงื่อก็อาบหมด แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 22:52:16 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 22:47:28 จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 22:23:36

ความคิดเห็นที่ 20 ที่ฮิวสตันรถตำรวจปิด freeway 6 เลน นานประมาณ 30 นาที เพื่อช่วยชีวิตหมา ที่หลุดเข้ามาในถนน ดูแล้วอยากให้เมืองเราทำบ้าง 1 หมาก็ 1 ชีวิต ทุกคนรอได้ไม่มีปัญหา :) จากคุณ : คนไกลบ้าน (sagga18) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 22:25:11

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านของคุณKrytaแล้วนึกได้ ชอบทักกันจัง ลูกสาวดิฉัน สิบแปดเดือน She is so small. She is so tiny.  มีคนหนึ่งว่า My baby is 3 times of her size. บางคนก็พูดไม่เกรงใจเลย She is so short. She will be little person. แถมมีต่ออีก just like her mommy. (เออ ตรูมันเตี้ย) แม่สามีก็พะยักพะเยิด ทำหน้าภูมิใจ ยิ้มรับ She is below 25 percentile รู้แล้วลูกฉันมันตัวเล็กเหมือนแม่ ย้ำกันอยู่ได้ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 22:47:24 จากคุณ : โตช้าแก่เร็ว เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 22:46:33

ความคิดเห็นที่ 22 - คุณลุงญี่ปุ่นยืนฉี่ที่โถคงไม่น่าอึ้ง...ถ้าแกไม่ยืนฉี่ด้วยการถอดกางเกงไปกองที่เท้าอย่างสบายใจ...ให้ลมโกรกตูดขาวๆ ในห้องน้ำ - คนเกาหลีใช้เท้าชี้ของแทนมือ...ดังนั้นกรุณาอย่าให้คนเกาหลีหาเรื่องชี้หน้าตอนเค้ามือไม่ว่าง - ทำมือถือหล่นในรถไฟญี่ปุ่น ผ่านไป 4 ชม.กลับไปหา...วางอยู่ที่เดิมเป๊ะ - ทัวร์คนจีนต้องมีคนถือธงนำ แล้วลูกทัวร์จะเดินตาม...วันนั้นคนนำเผลอเดินถือธงเข้าห้องน้ำ...ผู้ตามอีก 30 คนเลยเข้าไปด้วย - ถ้าคนแขกส่ายหัว แปลว่า ใช่ ถ้าพยักหน้าก็ ใช่อยู่ดี...สรุปอย่าไปดูการส่ายหัวส่ายหน้าเวลาคุกกะแขก - คนอินเดียแต่งส่าหรี โชว์สะดือ เปิดหน้าท้องอวบ  เป็นเรื่องปกติ...ชุดแอร์โฮสเตสศรีลังกาแอร์ไลน์ ก็เปิดหน้าท้อง...เป็นปกติ - ไปเกาหลีแล้วจะรู้ว่า หน้าตาคนเกาหลีแบบพระเอก นางเอกในหนัง...ช่างหายากจริงๆ - แอร์โฮสเตสโซนเอเชีย หนุ่มๆสาวๆหน้าใสเป็น มาตรฐาน...แอร์โซนยุโรป หน้าตาดูมากประสบการณ์ ร่างกายกำยำ...ก็เป็นมาตรฐานแอร์เช่นกัน - ที่ญี่ปุ่น ราคา น้ำดื่ม(ใส่ขวด) เบียร์กระป๋อง และน้ำส้ม 1ลิตร ราคาใกล้ๆกัน...ไม่ต้องคิดนานก็รู้ว่า ซื้ออะไรดื่มดี มีอีกเยอะเลยเดี๋ยวค่อยมาต่อ ุ จากคุณ : ผ่านมาแซว (ไผ่แผ่วพริ้ว) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 23:00:41

ความคิดเห็นที่ 23 ใหม่ ๆ ที่เจอฝรั่งทำแล้วต๊กกะใจมากเลย คือพี่ท่านทั้งหลายใช้เท้าทำอะไรหลาย ๆ อย่างแทนมือ ทั้งใช้หยิบของหรือชี้บอกที่ทางอะไรก็ตาม แถมถ้าเรานั่งเหยียดขาอยู่กับพื้นก็เดินข้ามซึ่ง ๆ หน้า แบบก้นเกือบจะเฉี่ยวซึ่ง ๆ หน้าทีเดียว โหย เป็นเมืองไทยคงได้ลุกไปฉะกันแล้ว จากคุณ : ##ขออภัยป้ายหน้าไม่จอด## เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 23:01:58

ความคิดเห็นที่ 24 ที่อึ้งมากกก คือ  หน้าร้อนผู้หญิง และผู้ชาย เค้าจะใส่ บิกินนี่ และกางเกงว่ายน้ำ ทำสวนค่ะ นอกจากทำสวนในบริเวณบ้านตัวเองแล้ว ยังเดิน เอาขยะไปทิ้ง อีกด้วย   คนอื่น ๆ เค้าก็เฉย ๆ กัน แต่เราอึ้งค่ะ และตามสวนสาธารณะ ก็จะมีพวกใส่บิกินนี่ นอนอาบแดด กันประจำ บางที สวนสาธารณะ ก็อยู่ริมถนน จากคุณ : หมู (ตัว) อ้วน เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 23:37:05

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านเรื่องจากแถบยุโรป อเมริกากันมาบ้างแล้ว ลองฟังเรื่องตอนที่เคยไปเวียตนามนะคะ เมื่อ 5-6 ปีที่แล้วได้ไปเวียตนามค่ะ ตอนนั้นอยู่ที่ตลาดเบียนถัน แล้วเกิดปวดฉี่ 555 จะรอเข้าที่โรงแรมก็ไม่ได้ เลยเอาก็เอา เข้าที่ตลาดนี่แหละ เสียตังค์นิดหน่อย หน้าห้องน้ำ จะมีอ่างล้างหน้าสองอัน แต่ข้างใน ด้านซ้าย(เห็นได้จากข้างนอก) จะเป็นเรื่องรางยาวๆเข้าไป ก็เห็นสาวๆเค้าล้างหน้าอะไรตรงนั้น ตอนนั้นก็ได้แต่งงว่า ทำไมต้องมีอ่างล้างหน้าอะไรซ้ำซ้อน 555 พอเข้าไปเท่านั้นแหละ ด้านขวามือก็จะเป็นห้องน้ำหลายๆห้องยาวไป แต่จะเว้นพื้นที่ด้านหน้า ประมาณห้องน้ำสองห้องรวมกัน เป็นลานยกขึ้นไป เห็นสาวเวียตนามทั้งแก่ทั้งสาว ฉี่โชว์กันอยู่ค่า (อึ้งที่หนึ่ง) 555 เห็นแค่นั้นเริ่มทำตัวไม่ถูกละ เขินแทน แต่คนอื่นเค้าไม่เขินกันเลย 555 เราก็เดินเข้าไป เพื่อที่จะเข้าห้องน้ำธรรมดา ซึ่งเป็นแบบนั่งยองๆ แต่ ในห้องน้ำไม่มีอ่างน้ำ หรือก๊อกให้เราราดน้ำได้เลย (อึ้งที่สอง) งงหนักค่ะ ฉี่ก็ปวด ทำตัวไม่ถูกแล้ว แต่โชคดีที่น้องสาวคนนึงบอกใบ้ให้ ชี้ๆไปที่ถังเล็กๆบอกให้ตักเข้าไปราดเอง เรารอจนมีถังเล็กๆว่างแล้วตักน้ำเข้าไป อ่าาาา เรียบร้อยแล้ว เราก็ราดลงไป จริงๆคือสะอาดแล้ว แต่ติดนิสัยที่ต้องราดอีก เราก็จะกลับไปตักน้ำ แต่ๆๆๆๆ แต่ก็มีสาวใหญ่เดินสวนเทคโอเวอร์ ทำความสะอาดห้องน้ำในอัตโนมัติ 555 (แต่จริงๆแล้วปกติเค้าใช้เสร็จ ไม่ค่อยราดกันนะคะ คนต่อไปจะมาดูแลเองค่ะ 555 (ตอนแรกคิดว่าห้องน้ำในตลาดจะสกปรก แต่จริงๆแล้วสะอาดมากค่ะ เพราะเค้าราดน้ำกันกระหน่ำมาก ทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็นเลย) ประสบการณ์ครั้งนี้เล่าไปไม่รู้กี่ครั้ง เพราะมันทึ่งจริงๆ ไปเที่ยวที่ไหนมา ไปอยู่ที่ไหนมานานๆ ยังไม่เคยอึ้งเท่าเข้าห้องน้ำที่ตลาดที่นี่เลยซักครั้งค่ะ เป็นครั้งแรกที่เรารู้ว่า Culture Shock จริงๆเป็นไง 555 จากคุณ : ชิงหมูเกิด เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 00:02:36

ความคิดเห็นที่ 26 คนนิวซีแลนด์ล้างจานด้วยน้ำยาล้างจานเสร็จแล้วไม่ล้างน้ำเปล่าอีกทีให้หมดฟองเหมือนบ้านเรา แต่ใช้ผ้าเช็ดแห้งแล้วเก็บในตู้เลย ไปทีแรกงงมากๆ  เคยถามเค้าว่าแล้วมันไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพเวลาใส่อาหารกินเหรอ เค้าว่าไม่  สงสัยคงกินกันแบบนี้ตั้งแต่เด็กจนมีภูมิคุ้มกันไปแล้วมั้ง จากคุณ : คนไม่หลับไม่นอน เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 00:05:25

ความคิดเห็นที่ 28 มาอยู่อเมริกาไม่นานประสบการณ์น้อยแต่มีอึ้งและทึ่ง คือเวลามีรถดับเพลิงหรือรถพยาบาลมาพวกเขาจะขับรถชิดขวาแล้วก็หยุดกันหมดทำให้เลนซ้ายว่างเปิดทางให้รถพวกนั้นวิ่ง เป็นระเบียบมากๆ ตอนแรกไม่รู้ไม่เห็นรถได้ยินแต่เสียงหวอข้างหลังแต่คนขับไปทางขวาหมดแล้ว ทึ่งมากๆ อีกอย่างเรื่องการกินอาหารฝรั่งเขาจานใครจานมันแถมเยอะและกินหมดซะด้วย จากคุณ : chole เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 00:24:51 A:71.202.245.130 X: TicketID:303896

ความคิดเห็นที่ 29 -ไปหาเห็ดต้องเอาไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจ ไม่ตรวจมีสิทธิ์........  นอกจากจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเองแล้ว -ดื่มกาแฟเสร็จ จากนั้นสั่งน้ำมูกต่อ.....................เริ่มชิน เพราะตัวเองก็เริ่มทำเหมือนกัน -ถ้าไม่มีใครถามอะไรห้ามตอบกลับ...............ไม่งั้นมีค้อนกลับมาแน่นอน -แขกผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำเหมือนชุดประดาน้ำ เล่นน้ำในสระกัน (แอบร้อนแทน) -ห้องอาหารในอาหรับ จะแยกห้องครอบครัว ห้องเฉพาะผู้หญิง ห้องเฉพาะผู้ชาย แถมบางห้องก็ปูเสื่อให้กินกันเฉยๆ -ฮอลแลนด์มีแต่คนถีบจักรยาน แถมมีช่องทางจราจรสำหรับผู้ถีบจักรยานด้วย -อาหารที่อเมริกาจานใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก แถมใส่กลับบ้านได้ด้วย  ในยุโรปจานเล็กนิดเดียว ถ้าเหลือจะห่อกลับบ้านโดนคนมองว่าแปลก -คนสวิสที่คุยด้วยส่วนมากไม่อยากอยู่ที่สวิสกัน อยากไปอยู่เมืองไทยหรือเอเชียเป็นส่วนใหญ่ (นอกจากคนหัวโบราณจริงๆ ที่ไม่อยากจะย้ายและทำอะไร) -เพื่อนบ้านเจอแดดออก เอาเก้าอี้ออกมารับแดดพร้อมใส่กุงเกงลิงตัวเดียว อ้ายยยยอายแทน -เวลาได้ใบขับขี่ปีแรกแล้ว ปีถัดไปต้องไปทดสอบการขับรถอีกรอบกับขนส่ง -คนได้ใบขับขี่รถยนต์เกียร์ออโต้ ไม่สามารถไปขับรถเกียร์ธรรมดาได้ -เด็กอนุบาลเรียนครึ่งวันเช้า แล้ววันพุธตอนบ่ายเด็กนักเรียนส่วนมากจะไม่มีเรียน -มีสถานที่ให้ยืมของเล่นไปเล่นที่บ้านได้ในราคาถูกๆ -ที่โรงภาพยนต์มีพักครึ่งให้คนออกมาเข้าห้องน้ำ หาไอติมกินกัน 15 นาที จากนั้นถึงจะฉายต่อ -ที่สวิสมีขนมปังประมาณ 400 ชนิด กินยังไม่ถึง 20 ชนิดเลย T_T -วันไหนแดดออก วันนั้นคือวันที่แต่ละครอบครัวส่วนมากจะทำกันคือ ย่างบาร์บีคิวกัน โอกาสอย่างนี้หายาก อิอิอิอิ -ที่สำคัญที่สุดตอนมาสวิสวันแรก 4 ทุ่ม แดดยังออกอยู่ อึ้งมากไม่เคยรู้มาก่อนเลย จากคุณ : bear hunt เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 00:45:41

ความคิดเห็นที่ 30 ไปเมืองจีนปวดฉี่เดินจะเข้าห้องน้ำที่คิดว่าว่างแน่ๆ ผลักประตูเข้าไปปุ๊บ เจอถีบประตูกลับดังปัง! พร้อมกับเสียงด่าดังลั่น ฟังไม่ออกว่าด่าว่าอะไรแต่จากสัญชาตญาณคงประมาณว่า นังนี่ไม่เห็นรึงไงว่าตรูอึ๊อยู่ เปิดมาทำไม เสียมารยาท ก็ใครจะไปรู้ฟะเพราะเจ๊แกไม่ล็อคประตู แง้มไว้อีกต่างหาก ทั้งๆที่ทุกห้องมีกลอนให้ อึ้ง ปนโมโหสุดๆ ฝรั่งไม่แชร์อาหารกับคนอื่น (จากประสบการณ์กับแฟนตัวเอง) คือใครอยากกินอะไรก็สั่งมา นั่งโต๊ะเดียวกันแต่ไม่ได้ตักอาหารกินด้วยกันเหมือนคนไทยเรา แต่พอมาคบกับคนไทยอย่างเราตอนนี้แย่งเรากินง่ะ แม่ค้าที่ตลาดบินทันห์ (น่าจะใช่)  เวียดนาม อารมณ์เสียได้โล่ห์ เกิดมาไม่เคยเห็น จะหงุดหงิดไปไหน เช่น เราถามราคาของในร้าน แบบปกติของคนอยากซื้อของ ก็ต้องถามเพราะไม่ได้ปิดป้ายไว้บอก ชี สวนกลับเหวี่ยงๆเป็นภาษาอังกฤษว่า จะซื้อรึเปล่า ไม่ซื้อก็ออกไปซะ อึ้งมั้ยล่ะ เจอแบบนี้ แทบทุกร้านค่ะนิสัยเดียวกันหมด นี่ก็เกี่ยวกับคนเวียดนามค่ะ เรายืนรอเช็คพาสปอร์ตที่ดอนเมือง ระหว่างรอตามคิว ก็สังเกตเห็นนางหนึ่งยืนเบียดๆแทรกๆเข้ามาทั้งๆที่เดิมเป็นคู่สามี ภรรยา เพราะพวกเราต่อติวกันแต่แรก พอถึงคิวเรา นางเดินมาวางพาสปอร์ตปาดหน้าเราไปแบบไม่แคร์โลก เราก็ เฮ้ย อะไรวะ ฉุน มองหน้าเจ้าหน้าที่ แบบขอคำตอบ นางคนนั้นทำท่าไม่พอใจอย่างแรง พยายามจะพูดอะไรสักอย่างแบบโวยวายๆ เราบอกไมยอมนะตามคิวสิ พอเจ้าหน้าผายมือไปบอกว่าคิว พลีส ชีชักสีหน้ากว่าเก่า กระชากพาสปอร์ตกลับไปต่อแถว อึ้งสิ มาโมโหอะไรตรูเนี่ย แฟนอเมริกัน อยู่แอตเลนต้ามา 10 กว่าปี ไม่เคยเข้าไปพิพิธภัณฑ์โคคา โคลา เพิ่งรู้เมื่อกี๊เอง ตอนเราไปเยี่ยมไปไม่ทันปิดก่อนเลยแห้ว เรารู้ขำก๊ากเลยว่ายูมัวแต่ไปไหนเนี่ยอยู่มาตั้งนานไม่เคยไป อึ้งไปเลย คิดออกแค่นี้ นึกอะไรออกจะมาแชร์ต่อ จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 01:01:36

ความคิดเห็นที่ 31 ที่จริงก็ชินๆแล้วนะกับชีวิตที่อังกฤษไม่ค่อยเจออะไรที่คิดว่าแปลก แต่พอจำเป็นต้องย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสช่วงหนึ่ง ตอนหน้าร้อนเนี่ยอึ้งมากๆเวลาไปนอนตากแดดชายทะเลแถวๆเมือง cannes เมือง nice หรือ st tropez เพราะนมหกเต็มหาด topless กันเป็นแถวๆ แต่ไอ้ที่โดนมองมากที่สุดคือขะเจ้าเอง เพราะใส่ชุดเต็มยศแล้วดันไปนอนอาบแดดอยู่ท่ามกลางดงนมเด้ง จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 03:18:58

ความคิดเห็นที่ 32 พูดกับตัวเองแล้วออกท่าออกทางด้วยเนี่ย กี่ปีกี่ปีก็ยังทำใจไม่ได้... จากคุณ : หญิงป้า เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 03:27:44

ความคิดเห็นที่ 33 คห. ๒๘ ที่ต้องหลบมันเป็นกฏไม่ใช่เหรอคะ มันอยู่ในเล่มๆ ที่อ่านก่อนสอบใบขับขี่น่ะค่ะ ที่อึ้งจริงๆก็เพื่อนเล่าให้ฟัง คนเวียดนามรูมเมทเพื่อนไม่เคยใช้น้ำยาล้างจาน ทำกับข้าว  กินข้าวเสร็จ  หม้อชาม แกว่งๆน้ำเปล่าแล้วเช็ดเก็บเลย แถมชอบทำกับข้าว ปาร์ตี้ ชวนเพื่อนต่างชาติมากินข้าวตลอดเวลา พอดีเพื่อนเราไม่ทำกับข้าว  ไม่กินข้าวบ้านมันเลยไม่เคยเอะใจ จนหลายเดือนผ่านไป  มันก็เอ๊ะ  ทำไมบ้านเราไม่มีน้ำยาล้างจาน  ๕๕๕ มันก็เลยไปซื้อมาขวดนึง  จนมันย้ายออกมา น้ำยาล้างจานก็ยังเต็มขวด หลังจากนั้นมันก้ไปเวียดนาม  ไปหาคนรู้จัก แล้วก็ค้นพบว่า  บ้านนัันก็ไม่ใช้น้ำยาล้างจานเหมือนกัน ....เอิ้ก ส่วนเรา ที่ช๊อคที่สุดคือ ไปกินติ่มซำกับฝรั่ง  แล้วฝรั่งจะให้คิดเงินแยก เพราะติ่มซำ แต่ละอย่างก็ราคาไม่เท่ากันใช่มะ  แล้วในเข่ง  ก็มีของไม่เท่ากัน เขาจะให้เราชี้ว่าเรากินนี่ไปกี่คำ กินนั่นไปกี่คำ  แล้วคำนวนจากราคาต่อเเข่ง พอคนอื่นๆบอกให้หารเท่ากันง่ายๆไปเหอะ  เขาด่ากลางโต๊ะเลยว่าไม่แฟร์ (รู้แหละ  ว่าปกติฝรั่งไม่ได้เป็นอย่างนี้หรอก  คนนี้มันประสาท) จากคุณ : na na' เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 03:33:29

ความคิดเห็นที่ 34 สนุกดี ขอเล่าบ้างนะคะ - มาอยู่ที่เดนมาร์ก รู้แต่แรกแล้วว่าเป็นเมืองจักรยาน แต่ไม่คิดว่าจะจักรยานขนาดนี้ แต่ละคนปั่นแบบชิงแชมป์โลกมาก รถไฟใต้ดินกับรถไฟทุกสถานีต้องมีที่จอดจักรยาน บางทีซ้อนสองชั้นด้วยแหละ - นักเรียนกับอาจารย์ที่นี่เวลาเรียกกันเค้าจะไม่เรียกตำแหน่งกัน เช่นครูของเราบอกว่า ถ้าจะเรียกเค้าให้เรียกชื่อเค้าไปเลย ส่วนเค้าก็เรียกชื่อเล่นเรา ถือว่าเป็นเพื่อนกัน สถานะเท่ากัน - ถึงจะไม่สนิทกัน แต่ถ้าเจอกันหรือจากกันจะเข้ามากอดทุกที มาใหม่ๆ นี่งง เขินด้วย 555 - คนเดนมาร์กชอบคนไทยมากกก ย้ำว่ามากถึงมากที่สุด พอรู้ว่าเรามาจากเมืองไทยนี่จะชวนคุยใหญ่เลย และแทบทุกคนรู้จักเกาะสมุย เกาะพีพี เสม็ด ภูเก็ต และ Fullmoon Party - มาวันแรกขึ้น metro ตกใจมาก ทำไมไม่มีแผงกั้นแบบ bts บ้านเรา คนที่นี่ซื่อสัตย์มาก ขึ้น metro ไม่ทันไม่เป็นไร ขอฉันต๊อกบัตรก่อนนะ (ตอนหลังพอไปประเทศอื่นก็ไม่มีแผงกั้นเหมือนกันแฮะ) นานๆ ถึงจะมีเจ้าหน้าทีมาขอตรวจบัตรโดยสาร - คนที่นี่ถึงไม่รู้จักกันแต่เจอนานกันจะทักกันตลอด เดี๋ยวเราก็ติดทักสวัสดีคนอื่นไปแล้วเหมือนกัน 555 - ที่เยอรมัน ตอนนั้นไปนั่งกินอาหารกับเพื่อนชาวเยอรมันที่ร้านอาหาร แล้วโต๊ะติดกันเป็นกลุ่มผู้หญิงมานั่งกินข้าว กินไปกินมา เพื่อนเราไปคุยกับกลุ่มนั้นอย่างสนิทสนม ตอนท้ายแลกเบอร์กัน แล้วก็มีนัดเจอกันอีกด้วย (เพื่อนเราเป็นผู้หญิงค่ะ เค้าบอกว่าที่นี่เป็นเรื่องปกติ) เดี๋ยวนึกออกจะมาเล่าใหม่นะคะ จากคุณ : Cho2Cho เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 07:51:33

ความคิดเห็นที่ 35 อ้อ มีอีกอันนึง ที่นี่คนชอบวิ่งออกกำลังกายนอกบ้านกัน แต่ที่อึ้งที่สุดคือวิ่งไปด้วยเข็นรถเข็นที่มีเด็กนั่งอยู่ข้างในไปด้วยอะ แถมวิ่งไม่สะดุดอีกต่างหาก สุดยอดดดด จากคุณ : Cho2Cho เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 07:52:47

ความคิดเห็นที่ 36 ทู้นี้ตลกดี ขอแจมล่วยยยย เราว่าฝรั่งแถวเมืองเราเลี้ยงลูกเหมือนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวเลยอ่ะ 1.) เห็นพ่อแม่หลายคน ให้ลูกใส่เป้แบบที่มีสายจูง ลูกก็เดินไป แม่ก็จูงสายไป ดูเผินๆเหมือนจูงหมาไม่มีผิด 2.) ครั้งนึงไปเดินพาร์ค มีหนูน้อยตัวกะเปี๊ยก อายุน่าจะประมาณ 6-7 ขวบ ขี่จักรยานสี่ล้อนำหน้าคุณพ่อคุณแม่ที่เดินตามมาข้างหลัง สักพัก คุณพ่อคงรู้สึกว่าลูกสาวขี่นำไปไกลเกินแล้ว คุณพ่อก็เป่านกหวีดปรี๊ดๆ แล้วลูกสาวก็หยุดรถรอพ่อทันที! เพื่อนที่เดินไปด้วยยังบอกเลยว่า แหม่ เทรนลูกกันมายังไงน๊า อยู่ในโอวาทเป็นบ้า 3. ไปเดินถนนวันฮัลโลวีน เจอเด็กสามขวบ แต่งคอสตูมดัลเมเชี่ยน วิ่งกระโดดสี่ขา กลิ้งไปกลิ้งมากับน้องหมาตัวจริง ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน -*- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 08:08:46

ความคิดเห็นที่ 37 แจมมั่ง สมัยสาวๆ โรบินสัน รัชดาฯ เค้าปรับปรุงห้างใหม่ แผนกเสื้อผ้าผู้หญิงน่าเดินมั่กๆ ดีไซน์เก๋ ไม่แพ้สยาาม ราคาสมเหตุสมผล อ่านต่อไปคะ ดิฉันต่อไม่ผิดกระทู้ 55 ที่ห้างเค้าสร้างห้องลองเสื้อผ้าใหม่ด้วย เป็นวงกลมๆ มีม่านล้อมรอบ ห้องลองนี้ อยู่บริเวณไข่แดงของแผนกเลยแหละ ตะแรกที่ดิฉันไปลอง ก็รู้สึกแปลกๆ ปนตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมา เรื่องผิดธรรมเนียม มาเกิดที่ห้องลองนี้แหละคะ คือ ที่ห้างจะมีทัวร์จีนมาช้อปบ่อยๆ ... ฮั่นแน่ เดาตอนต่อไปได้แล้วละซี่ อิอิ พนักงานห้างเค้าเม้าท์เรื่องนี้กันมากเลยก่ะ ที่พบหย่อมน้ำเหลืองๆ ในห้องลองนี้ ผ่านมาสิบปีได้ละ ไม่รู้ ปัจจุบันนี้ ห้องลองนี้ยังอยู่หรือเปล่าเน๊าะ เรื่องที่สอง เกิดที่ห้างเหมือนกัน แต่เป็นห้างในลอนดอน ดิฉันว่าผู้ดีอังกิตนี่แปลกๆ เหมือนกันนะ เรื่องไม่ควรโชว์ จะโชว์กันจัง สมัยก่อนทำงานการตลาด ก็ไปดูงานที่นั่น เทรนด์ที่ฮือฮาของนักการตลาดตอนนั้นคือ เอาคนไปใส่วินโดว์ดิสเพลย์ แล้วก็ทำเหมือนไลฟ์โชว์ ส่วนใหญ่คนที่ไปอยู่ในนั้น ก็มักจะใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น (จ้างมาคุ้มจิงๆ อ่า)  จำได้ว่า หลังจากนั้นไม่นาน เมืองไทยก็รับมาทำ ถ้าจำไม่ผิด ให้ผู้หญิงขึ้นในรถแล้วอาบน้ำโชว์หรือไงเนียะแหละ ชักมัน อีกสักเรื่องนะคะ อันนี้ เกิดที่บ้านในเมกา แต่ก่อนเคยแปลกใจว่า เด็กฝรั่งนี่ช่วยตัวเองทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องกินข้าว ดิฉันเลี้ยงลูกก็คอยป้อนข้าวป้อนน้ำน่าดูเหมือนกัน ลูกเลยนิสัยเสีย ปัจจุบันนี้ นู๋มรรคยังนึกครึ้ม "แม่ป้อนนู๋หน่อย" ขอหน้าตาเฉย ไม่ละอายเลยนะลูก ตอนนี้ ดิฉันรู้แล้วคะว่า วิธีสอนให้เด็กกินเอง คือ เค้าจะมีเก้าอี้ทานอาหาร ถึงเวลาเค้าก็จะยกอาหารให้เด็กๆ จัดการด้วยตัวเอง เรี่ยราดกันไป เนียะ เวลาดิฉันไปเสริฟอาหารแล้วเจอ ลูกค้าที่เป็นครอบครัวมาทาน ถ้าเจอเบบี๋นี่จะเซ็งมั่กๆ เพราะแม่เค้าก็จะโปรยอาหารบนโต๊ะ ให้ลูกจัดการอ่ะคะ (ไม่รู้หรืองาย ฉันเช็ดโต๊ะม่ายสะอาด 55) แล้วแม่ๆ ยังชอบบ่นเวลาเจอ gratuity charge ลูกค้ามักบ่นว่า นับเบบี๋เป็น 6 คนได้ยังไง เบบี๋ไม่ได้กินอะไรสักหน่อย จากคุณ : มรรคณิชา เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 08:53:47

ความคิดเห็นที่ 38 เราเคยเจอคุณลุงที่สวิส คือแมลงวันอยู่บนโต๊ะอาหาร ลุงแกเอานิ้วจับเลย แล้วบี้ เช็ดมือ กินข้าวต่อ เรานี่แบบกินไม่ลงแล้วอะ หน้าก้ออกแนวพะอืดพะอม ลุงบอกเธอนับถือพุทธล่ะสิ รับไม่ได้ที่ฆ่าแมลงใช่ไหม ได้แต่กรีดร้องในใจ โอ๊ย ไม่ช่ายยยย รับไม่ได้เพราะที่ลุงทำอะมันโสโครกกกกกว้อยยยยยยย - -" จากคุณ : PADAPA--DOO เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 09:49:51

ความคิดเห็นที่ 39 ^ | | | ต่อจากคุณข้างบน (37) -- ขอนอกเรื่องนิดนะคะ ดิฉันโปรยเหมือนกันอ่ะ แต่เอาเบบี้ไวพ์เช็ดก่อนนะ เพิ่งนึกหลังจากอ่านความเห็นคุณว่าคนเสิร์ฟเค้าคงเซ็งเหมือนกันนิ ต้องมาตามเช็ดใต้โต๊ะเรา อืมม์ ๆ ๆ แต่บนโต๊ะนี่ หลังทานเสร็จ ดิฉันเช็ดให้เรียบร้อยเลยนะคะ ว่าแล้วก็... ครั้งต่อไปว่าจะ โปรยต่อค่ะ ;) ทำไงได้ ลูกชายกะลังหัดกิน(เอง) จากคุณ : คิม (NYgirl) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 09:55:21

ความคิดเห็นที่ 40 Hanover เยอรมัน-กำลังเดินอยู่ริมถนนใกล้ๆทางม้าลาย จู่ๆรถก็หยุดกันหมดเลยเค้าคงนึกว่าเราจะข้ามถนน สุดท้ายก็เลยวิ่งข้ามไปกลัวจะเสียน้ำใจ ในเมืองไทยคงไม่มีทางเจอแบบนี้แน่ จากคุณ : fog_tgr เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 10:31:50

ความคิดเห็นที่ 41 ผู้ชายเกาหลี กินมาม่า(ไซส์เกาหลี) หมดภายในสองนาที ทั้งร้อนๆลวกๆนั่นแหละ โดยไม่สะทกสะท้าน เพื่อนที่รู้จัก มีความสามารถด้านนี้เกือบทุกคน จากคุณ : JinHanNa เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 11:18:46

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนมาแรก - ช้อคเรื่องค่าเครื่องดื่มเหมือนกัน pepsi กับน้ำเปล่าราคาไม่ต่างกันเลย ที่ไทยรู้สึก pepsi จะแพงกว่าน้ำเปล่านะ - นั่งรถไฟที่นี่ บางคนก็ซื่อสัตย์มาก เคยเห็นคนขึ้นรถไฟแล้วไม่ได้ซื้อตั๋วก่อน เค้าลงสถานีเดียวกันกับเรา เค้าเดินไปซื้อตั๋วแล้วค่อยเดินออกไป บอกก่อนว่าสถานีรถไฟที่นี่แถวๆนอกเมืองไม่มึคนเฝ้า มีแต่เครื่องตอกบัตรออก คือถ้าซื้อตั๋วกระดาษก็เดินออกได้เลย แต่บางคน(โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น)ก็พยายามขึ้นฟรี - roundabout ที่ไทยไม่ค่อยมี แต่ที่นี่ใช้แทนไฟแดงเลยทีเดียว แต่ก็ดีขับรถง่ายดี - ในตัวเมืองบริสเบน ริมฝั่งทะเลปลอมๆที่ southbank มีสาวๆนุ่ง bikini มานอนอาบแดดกันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่แน่ใจว่าอยู่ในเขตมหาลัยหรือเปล่า แต่มีมหาลัยอยู่แถวนั้น - ห้างที่นี่ปิด 5 โมงเย็น หรือห้าโมงครึ่ง ยกเว้นวันพฤหัสเปิดถึงสามทุ่ม แถบบริสเบน QLD นะ ที่อื่นอาจแตกต่าง จากคุณ : TimePassBy เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 11:27:19

ความคิดเห็นที่ 43 ขอร่วมแชร์มั่งนะคะ - เคยทานข้าวร่วมโต๊ะกับนศ.จีนที่ปักกิ่ง เวลาทานเค้าจะ ถุ0ยเศษอาหารทุกอย่างลงบนโต๊ะอย่างกระจัดกระจาย ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของที่นั่น เพราะทั้งร้านเค้าก็ทำกันแบบนั้น ส่วนเราจะเอากระดาษทิชชู่ปูรองเศษกระดูกไว้ข้างจาน พอเค้าเห็นเราทำแบบนี้ เหมือนเค้าจะอายขึ้นมา เลยหยุดถุ0ยเกลื่อนลงโต๊ะหันมาทำตามเราหมดเลย - ที่เมกา: ถ้ารถโรงเรียนจอดส่งนักเรียน รถที่ขับอยู่ทั้ง2เลนต้องหยุดวิ่งทันที เพราะเค้าเผื่อให้เด็กข้ามถนนด้วย ต่อให้เด็กไม่ข้ามก็ต้องหยุดรถจนกว่ารถรร.จะส่งเด็กเสร็จ - ที่อิตาลี: ถ้าขึ้นรถไฟแล้วมีคนเสนอตัวมาช่วยยกกระเป๋าให้ อย่าคิดว่าเค้ามีน้ำใจ เพราะพอยกเสร็จเค้าก็จะแบมือขอเงินคุณทันที - ที่ญี่ปุ่น: คนญี่ปุ่นไม่ค่อยเดินกินกัน ถ้าอยากซื้อแล้วกินเลย แต่ร้านไม่มีที่นั่ง ก็จะยืนกินที่หน้าร้านนั้นแหละ กินหมดแล้วค่อยไป - ที่ญี่ปุ่น: เคยลืมคู่มือท่องเที่ยวไว้ที่บริษัทที่ตจว. จริงๆมันไม่ได้สำคัญอะไรเลย แต่เค้าส่งคืนกลับมาให้เราที่รร.ในโตเกียวถูก(เคยบอกชื่อรร.ไปแค่ครั้งเดียว) ที่สำคัญเราเพิ่งออกจากที่นั่นตอนเช้า แต่ของมาถึงก่อนเราเข้าเช็คอินตอนเย็นซะอีก แอบงงว่าส่งมาได้ยังไงแค่ครึ่งวัน เท่าที่นึกออกนะ จากคุณ : นีโม (หนึ่งในใจคุณ) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 12:27:20

ความคิดเห็นที่ 44 เล่ามั่ง 1. เราเดินเล่นกับแฟน เดินไปใกล้ทางม้าลาย จริง ๆ อยากดูดอกไม้ที่ปลูกแถว ๆ นั้นอย่างใกล้ชิด ปรากฎว่า รถทุกคัน เบรค เพราะคิดว่าเราจะข้ามถนน 2. ตอนนั้นเราทานอาหารว่าง ใช้จาน 2 ใบ เราก็เลยไม่อยากเอาไปใส่เครื่องล้างจาน เลยล้างเอง พอ host ฝรั่งเห็นเราล้างจานแล้ว เค้าตกใจมาก เพราะเราล้างแบบเปิดน้ำจากก๊อกแล้วล้างทีละใบ เค้าบอกว่าเดี๋ยวชั้นจะทำให้ดู แล้วเค้าก็เอาผ้าที่ใช้สำหรับล้างจานมาถู ๆ เล็กน้อย เป็นอันเสร็จพิธี 3. ยังมีเรื่องใส่รองเท้าที่เดินจากข้างนอกเข้าบ้านเลย แล้วบ้างคนก็ใส่เดินเข้าห้องนอน แล้วล้มตัวนอนซะงั้น แต่อันนี้ไม่ใช่ทุกบ้าน จากคุณ : Eve_in_Eden เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 13:08:03

ความคิดเห็นที่ 45 ... เน้น ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 13:25:21

ความคิดเห็นที่ 46 ตอนมาเป็นเด็กแลกเปลี่ยนอยู่กับโฮสชาวอเมริกัน มัมล้างจานเสร็จไม่ล้างน้ำเปล่า เอาผ้าเช็ดเก็บเข้าตู้ (เหวอ) นึกว่าใช้น้ำยาล้างจานไฮโซเพราะอยู่เมกาแบบไม่ต้องล้างน้ำ ที่ไหนได้ยี่ห้อที่เค้าใช้กับเราใช้ตอนนี้ก็อันเดียวกันนี่นา เข้าบ้านไม่ถอดรองเท้ากัน ขนเสื้อผ้าเราไปซักให้แม้กระทั่งเสื้อในกับกางเกงใน เรารีบหยิบมาคืนแทบไม่ทันบอกขอซักเอง เค้าทำหน้างงๆบอกโฮสเด็กยุโรปมาสามคนแล้วมีเราคนแรกที่ไม่ยอมให้ซักให้ ฝรั่งกินข้าวกับเนย หรูหน่อยก็ซีอิ๊วเกือบทุกคน แถมใช้ส้อมกินอีก เราอาบน้ำเช้าครั้งเย็นครั้ง เค้าบอกให้อาบวันละครั้งพอ เปลือง จากคุณ : OtteR เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 13:56:46

ความคิดเห็นที่ 47 งงเหมือนกัน ตรงที่ อะไรที่ คนเกาหลีกิน เหมือนกินตอนไฟไหม้บ้าน จะรีบไปถึงไหน อะไรที่ ฝรั่งUSA มันใช้Teen แทนมือนี่สิ งง ทำแบบนี้อยู่เมืองไทยโดนต่อยเเน่ๆ(เช่น ปิดประตูรถกรุ) แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 54 11:26:47 จากคุณ : bobby the great เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 14:09:43

ความคิดเห็นที่ 48 รัสเซียใช้ส้อมทานข้าว พุ้ยใหญ่ดูแล้วลำบากน่าดู บอกว่าที่นี่ใช้ช้อน เค้าบอกช้อนไว้ทานซุปเท่านั้น ป้าจีนๆ ขาก:-)แบบแรงๆลงพื้นถนน แกมากับลูกสาว ลูกสาวน่ารักมากอย่างกับนางแบบ แอบคิดไม่ได้ว่าชีจะขาก:-)แบบแม่แกป่าวน้า~~ คนอเมริกัน ชอบนั่งดูทีวีมาก วันๆไม่ทำไร นั่งอยู่ที่โซฟา ดูทีวีดูทีวีและดูทีวี โดยเฉพาะกีฬา คนอเมริกันมีขนมขบเคี้ยวรสยา ย้ำรสยา แบบยาเม็ดขมๆ หยิบกินกันอร่อยปาก เราก็ว่ามันอร่อยตรงไหน แต่กินไปเรื่อยๆก็เริ่มติดปากขึ้นมา คนอเมริกันจะชอบทำเสียงทำหน้าใส่อารมณ์แบบอเมซิ่ง โอ้วว้าว~~ โอ้วก๊อด~~ ตลอดเวลา สาวเกาหลีดูดบุหรี่ขาก:-) (อันนี้คนไทยก็เป็นไม่ได้ว่าอะไร แต่ภาพพจน์มันไม่เหมือนในทีวีเลยอ่ะ 555) จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 14:11:11

ความคิดเห็นที่ 49 ยังทำใจไม่ได้กับกรณียืนขวางทางคุยกันของฝรั่ง   ไม่ว่าจะที่ตลาดนัด  ห้างสรรพสินค้า  แม้แต่ริมฟุตบาท    ยืนคุยกันอย่างไม่แคร์โลกว่าขวางทางเดินคนอื่น ที่ทำงานตอนนี้มีปัญหาเรื่องระบบคอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก   เพราะอาคารที่ติดตั้งComputer Server ที่เป็นศูนย์ปฏิวัติเน็ตเวิร์กดันมี "ค้างคาว" มาอาศัยซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองซะด้วย    ถ้าจะไล่ค้างคาวหนีเหมือนบ้านเราก็ไม่ได้    เพราะเจ้าหน้าที่และกลุ่มอนุรักษ์ค้างคาวเขาขู่มาแล้ว่าโดนติดคุกแน่ๆ....ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้    ต้องย้ายออฟฟิทไปที่อาคารอื่นชั่วคราว   รอให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองสัตว์เขามาสำรวจตัดสินว่า   จะให้ค้างคาวอยู่    แล้วย้ายเซิฟเวอร์ไปติดตั้งที่อื่น(ต้องใช้เงินหลายหมื่นปอนด์แน่ๆ) หรือยังพอจะมีโอกาสที่จะย้ายค้างคาวไปที่อื่นได้???   รอฟังผลอีกวันสองวันข้างหน้านี่แหละ อีกเรื่องหนึ่ง    เรื่อง "หัวเราะ"    คนไทยเราชอบหัวเราะยิ้มแย้มแจ่มใสในแทบจะทุกสถานการณ์     บางทีเรื่องซีเรียสมากๆ อัดอั้นตันใจจนพูดอะไรไม่ออกก็จะแค่นหัวเราะออกมา     ผมเคยโดนต่อว่าบ่อยเรื่องนี้    บางทีโดนฝรั่งใส่ความในเรื่องที่ไม่เป็นจริง   เจ้าคนที่ใส่ความก็รู้ว่าไม่เป็นจริง  เราก็รู้ว่าไม่เป็นจริง......และเวลานั่งอยู่ต่อหน้าหัวหน้าเขาก็ยังใส่ความเดิมๆ อยู่........เราก็ถึงจุดๆ หนึ่งที่พูดอะไรไม่ออกหรือไม่อยากจะพูดไปให้เหนื่อยก็ได้แต่หัวเราะหรือยิ้ม    ฝรั่งเขาไม่ค่อยชอบ  It's not funny!  เขามักจะต่อว่าเราตรงนี้    และผมก็เปลี่ยนแปลงยากซะด้วยตรงนี้    เจอเรื่องซีเรียสๆ และคับขันส่วนใหญ๋ก็จะยิ้มหรือไม่ก็แค่นหัวเราะ (สมนำหน้าตัวเองก็ได้) เรื่องสั่งน้ำมูกในที่สาธารณธนี่...ใหม่ๆ ผมก็รังเกียจ...ไปๆ มาๆ  ผมก็เอาด้วยเลย อิ อิ อิ........จะว่าไปแล้วตอนผมเป็นครูดอยอาสาสมัครที่เชียงใหม่   ไปอยู่กินกับเผ่ามูเซอดำ    เวลาร่วมวงนั่งกินข้าวอยู่ดี   พี่แกก็ขากทุ้ยลงพื้นปล่องฟากไม้ไผ่ในวงข้าวนั่นแหละ   ตัวเสลดเหนียวติดพื้นพี่แกก็เอานิ้วเขี่ยลงปล่องแล้วมาจกข้าวต่อ!!   เรื่อง "ขอบคุณ" เวลาซื้อของหรือเวลาใครเปิดประตูให้ หรือคนหลีกทางอะไรให้ก็แล้วแต่   ตอนแรกๆ....ผมก็คิดในใจว่า "ไม่เห็นต้องขอบคุณอะไรนี่"   ไปๆ มาๆ  ผมก็ติดขอบคุณ     ประมาณว่าวันหนึ่งๆ คิดว่าใช้คำว่า "ขอบคุณ" ไม่ต่ำกว่ายี่สิบครั้ง    ตอนอยู่เมืองไทยอาจจะเดือนละครั้ง!!     แต่ก็ดีนะ...สอนให้เรามีน้ำใจสนองตอบ    คำดีๆ  อย่างนี้พูดสักกี่ร้อยครั้งพันครั้งต่อวัน  มีแต่จะสร้างสรรสมานมิตร  ดอกพิกุลก็ไม่น่าจะร่วงจากปากหรอก   จริงไหม?? จากคุณ : วัชรานนท์ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 14:20:38

ความคิดเห็นที่ 50 เด็กอเมริกัน ทานหมากฝรั่งแล้ว แปะทิ้งไว้ พออยากกินอีกก็ หยิบมากินอีก หรือส่งต่อให้เพื่อน แล้วก็แปะโต๊ะ เรียน เยอะ มากกกกกกก บ้านเราจะเป็นลิกขิว จากคุณ : Summerlife เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 14:31:15

ความคิดเห็นที่ 51 เอาเท่าที่จำได้ก่อนนะคะ - เพื่อนร่วมงานชาวออสเตรเลีย ปฏิเสธการรับของขวัญทุกชนิด(ยกเว้นพวกของกิน/เครื่องดื่มและดอกไม้) จากความเข้าใจคือเค้าถือว่ามันเหมือนเป็น"สินบน"ในด้านการทำงาน - บางประเทศห้างปิดเสาร์+อาทิตย์ -*- - ปริมา๊ณข้าวในจาน/ถ้วยที่ญี่ปุ่นเยอะ+ใหญ่มากกกกกกกกกก แอบดูคนอื่นเค้าก็กินหมดอยู่...แต่กระเพาะคนไทยเราได้1ใน3ก็เก่งแล้ว - ออนเซ็นญี่ปุ่นต้องโป๊ เอาผ้าผืนเท่าผ้าขนหนูที่เค้าบริการให้เข้าได้เท่านั้น..ไม่งั้นไม่ต้องเข้า -*- จากคุณ : แค่นี้จิ๊บจ๊อยน่า... เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 15:08:23

ความคิดเห็นที่ 52 มีมาแชร์เล็กๆน้อยๆค่ะ - ไปทำงานที่เบลเยี่ยมช่วง Summer ของที่นั่น 5ทุ่มยังไม่มืด งง...! เดินเล่นมันอยู่นั่นหล่ะจนตำรวจมาถาม แต่ก็คุยกับเค้าไม่รู้เรื่องอีก เพราะเค้าพูดฝรั่งเศส เอ้างงอีก - ถนนหนทางที่เมืองที่ไปทำงานงงมากค่ะ คือคนที่นั่นเองยังหลง แทบจะต้องมี GPS กันเกือบทุกคัน ฝรั่งที่เราทำงานด้วยจะพาไป dinner ขับรถวนรอบเมืองอยู่ 3 รอบจนเริ่มเหนื่อย (ขนาดว่า print แผนที่จาก Google map มาแล้วก็หลง) จนเค้าหันมาถามเราว่า ไม่ต้องไปร้านนั้นก็ได้เนอะ กินร้านแถวๆนี้กันเหอะ - -" - ไปซื้อแมค หรืออาหารฟ้าดฟู้ด กินต้องใช้วิธีจิ้มรูปเอา เพราะเขาไม่พูดอังกฤษกับเราและก็ฟังไม่ได้ด้วย งงอีก... - -" (เมืองที่ไป คนพูดอังกฤษได้น้อยค่ะ ส่วนใหญ่พูดได้หลายภาษา ยกเว้นอังกฤษ....) - 25 องศาฝรั่งที่ทำงานด้วยเหงื่อแตกพลั่กเขาบอกว่าทำไมวันนี้มันร้อนอย่างนี้ไม่ไหวๆ เอ่อ.... บ้านชั้นจะ 40องศาอยู่แล้ว - -" - อันนี้อาจจะไม่แปลกกับคนอื่น แต่กับเรางงค่ะ คือเวลาไปกินอาหารฝรั่งแบบเต็มครอสเนี่ยต้องเริ่มด้วยน้ำก่อน ทีนี้เราจะมาสั่งน้ำเปล่าไก่กาก็ไม่ได้อีก ต้องเป็น ไวนน์ เบียร์ etc. พอเราบอกขอแค่น้ำเปล่าพอ เขาว่าเรามันน่าเบื่อเปลี่ยนจากน้ำเปล่าเป็นโซดามั้ย ไอ้เราก็ไม่เอาก็ไม่ชอบกินอ่ะจะกินนำเปล่าหิวน้ำโฟ้ย.... --" - ฝรั่งชอบกินโซดาอ่ะ เข้าซุปเปอร์จะหยิบน้ำเปล่าได้โซดาทุกที อันนี้เป็นความโง่ส่วนตัว (จริงๆก็ควรจะกินอะไรที่มีประโยชน์กว่าน้ำเปล่า เพราะที่นั่นมันแพงกินอย่างอื่นดีกว่าแต่เราดันเป็นคนชอบกินน้ำเปล่าจะหาที่กินฟรีก็หาไม่เจอ.... - -") - สนามบินที่ Brussel ป้ายบอกทางจะมี 4 ภาษาเสมอ(ดัชต์, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ) ถามที่ทำงานเขาบอกว่าคนที่นี่ใช้หลายภาษา แต่ภาษาทางการจะเป็นดัชช์ค่ะ  manager แผนกที่เราทำงานด้วยพูดได้ 8 ภาษา (โค-ตระ-ระ เทพ) - รถไฟใต้ดินที่ออสเตรียต้องเปิดประตูเองอ่ะ งงอีก ฝรั่งมองหน้าประมาณว่าเอ็งไม่เปิดประตูแล้วจะมายืนขวางทำไม เดี๋ยวลงไม่ทัน (เอ้า.... ก็ที่บ้านตรูประตูมันเปิดเองนี่หว่า) - ไปเที่ยวปักกิ่ง เจอวิธีถนอมเนื้อเสัตว์ที่นั่นแล้วอึ้งเล็กๆ พอดีว่าตอนไปนั้นเป็นหน้าหนาวค่ะ หนาวมากประมาณ -15 - -20 องศา เค้าถนอมเนื้อสัตว์โดยหั่นแล้วเอามาแขวนไว้ข้างนอก ให้น้ำแข็งมันเกาะเท่านั้นจบ ไม่แน่ใจว่าเป็นวิธีถนอมของเค้าหหรือเปล่านะ - -" - ไปปักกิ่ง ไปกับทัวร์อ่ะค่ะ เพิ่งรู้ว่าคนที่นั่นไปเรียนภาษาไทยกันอย่างจริงจังมีแบบรัฐส่งมาเรียนกันเป็นเรื่องเป็นราว เพื่อเอามาทำงานนี่หล่ะ อยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยว พูดไทยไปเถอะค่ะ เค้าฟังรู้เรื่อง และอยากคุยกับเราด้วย ^^ - ไปนั่งคุยกับน้องพนักงานที่ปักกิ่ง ถามเค้าว่าบ้านอยู่ไหน เค้าบอกอ๋อ.... อยู่ไม่ไกลหรอกค่ะ ใกล้นิดเดียวเอง นั่งรถไฟ 24ชั่วโมงก็ถึง ใกล้มากๆ - -" เพื่อนคนอื่นบ้านอยู่ไกลหน่อยก็นั่งรถไฟประมาณ 3-4 วัน เอ่อ.... เลยบอกเค้าว่า 24 ชั่วโมงนี่นั่งจากเหนือสุดของไทยไปใต้สุดเลยนะ เอาเท่านี้ก่อน นึกออกจะมาต่อใหม่ค่ะ ^^ เข้ามาแก้ไขสรรพนามเรียกตัวเองค่ะ  ขอโทษด้วยค่ะที่ไม่ระวัง...... */\* แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 54 09:34:09 แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 54 09:31:58 จากคุณ : Once agin in SEPTEMBER เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 15:42:04

ความคิดเห็นที่ 53 ขออนุญาตขัดจังหวะนิดหนึ่งนะครับคุณ  Once agin in SEPTEMBER.   ผมว่าใช้สรรพนามเรียกตัวเองว่า ฉัน หรือว่า  เรา   จะดีกว่าไหมครับ?    ผมคลุกคลีอยู่กินและรู้จักชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงเยอะ    ผมรู้ว่าพวกเขาไม่สบายใจหรอกครับที่คำๆ นี้ถูกนำมาใช้ในลักษณะนี้    ขอโทษอีกครั้งที่ขัดจังหวะ จากคุณ : วัชรานนท์ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 16:02:26

ความคิดเห็นที่ 54 อืม อ่านเรื่องขอบคุณของคุณ วัชรานนท์ กระทู้ที่ 49 แล้วรู้สึกแปลกๆ จริงๆ เรื่องขอบคุณนี่ เป็นนิสัยคนไทยนะครับ แต่ก่อนผู้หลักผู้ใหญ่เขาสอนกันมาแบบนี้ เดินเข้าโรงหนัง จะผ่านเข้าไปนั่งก็ขอโทษ ขอบคุณ เด็กเสริฟ เอาข้าวมาให้ก็ขอบคุณ ฯลฯ มีแต่สมัยหลังๆ เนี่ยแหละ ไม่รู้ครูสอน พ่อแม่บอกแล้วเด็กมันไม่ฟัง หรือไม่เคยมีใครสอนก็ไม่รู้ ขอโทษก็ไม่เคยจะมี ขอบคุณทีเหมือนพิกุลจะร่วงจากปากกันจริงๆ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 16:18:01

ความคิดเห็นที่ 55 ที่สเปน สั่งอาหารแต่ปรากฎว่ามีเมนครอสสองจาน อิ่นจนท้องจะแตก ที่อินเดีย ไปดููหนัง ฉายๆไปตอนพระเอกเอาชนะผู้ร้ายคนดููเฮกันเหมือนเชียร์มวย  ฉายๆไปกลางเรื่อง หยุดและเปิดไฟเฉย และมีคนเอาของขบเคี้ยวใส่ถาดมาเดินขาย ทิ้งให้เรากับ ฝรั่งคนอื่นๆที่เข้าไปดููมองตากันปริบๆว่าเกิดอะไรขึ้น อ้อ หยุดให้คนดููไปทำธุระส่วนตัวนั่นเอง ทำบาร์บีคิว บ้านเราใช้ขี้เถ้ากลบถ่านที่ร้อนเกิน บ้านเค้าเอาขวดเจาะรููฉีดน้ำใส่ ขี้เถ้างี้ฟุ้งเชียะ เพื่อนห้องเรียนภาษา เป็นคนตุรกี กลับบ้านทีต้องขับรถไปจากฝรั่งเศส บ้านอยู่ทางพรมแดนอิหร่าน ขับไปใช้เวลาห้าวัน เปลี่ยนกันขับสองคนผัวเมีย แค่คิดก็เจ็บก้นแทน ไปกินข้าวข้านเพื่อน ตอนท้ายมีผลไม้มาเสริฟ มีองุ่นน่ากิน กำลังเอื้อมมือไปหยิบเจ้าของบ้านบอกเดี๋ยวก่อน แล้วลุกไปเอาถ้วยเล็กๆใส่น้ำมาให้เพราะองุ่นไม่ได้ล้าง เราต้องเอาองุ่นไปจุ่มๆล้าง งงๆสงสัยว่าทำไมไม่ล้างก่อนจัดใส่จานฟ่ะ ปรากฎว่าหลังๆก็เจออีกหลายบ้านที่เหมือนกัน เลยคิดว่า อืมม์ คงเป็นกันแบบนี้ แก้ไขเพิ่มข้อความ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 54 04:33:37 จากคุณ : Stupid is as stupid does เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 16:37:16

ความคิดเห็นที่ 56 อยู่อังกฤษค่ะ มาอยู่แรกๆรับไม่ได้ ขอมั่ง กินข้าวด้วยมีดกับส้อม ไปซื้อของ คนขายเป็นผู้ชาย ส่งเงินทอนให้ "Here you go, my love" อยู่ไปนานๆแล้วจะรู้สึกว่าทุกๆคนรักเรา ทั้ง darling, honey, my love, sweet heart มากันเป็นพรวน 555 ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหาร ลูกค้าจีนเกือบทุกคนคายกระดูก ก้างปลา และอะไรที่เค้าไม่กินไว้บนโต๊ะแบบไม่มีห่อทิชชู่ แหวะ coconut rice (ข้าวสวยคลุกกะทิ) เป็นที่นิยมมากๆ คนแก่บางคนกินแกงเขียวหวานกับ chips ใส่เสื้อซ้ำกัน 3 วัน อาบน้ำ 2 วันครั้ง สุดท้าย ใครไม่รู้ไปฝังหัวฝรั่งว่าอาหารจีนและไทยทุกประเภทต้องมีพริกหยวก จะบ้าตายยยยยย จากคุณ : กรอบนอกนุ่มใน เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 17:10:21

ความคิดเห็นที่ 57 1 สามีฝรั่งเศส ชอบวางอาหารลงบนโต๊ะ ไม่ใช้จาน อยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปีแล้ว เราก็ยังไม่ชินกับพฤติกรรมนี้ ส่วนสามีเองก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมนี้ เราต้องคอยบ่นตลอดว่าบรรพบุรุษอุตส่าห์คิดค้นจานชามขึ้นมา ทำไมไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ 2 ครอบครัวของสามีที่ฝรั่งเศสกินข้าวนานเกินไป ถ้าเป็นวันหยุดจะเริ่มตอนเที่ยงครึ่งแล้วกินเรื่อยๆไปจนถึงบ่ายสามครึ่ง แต่เราไม่เคยร่วมโต๊ะกับเค้าได้จนถึงวินาทีสุดท้าย ต้องขอตัวก่อนทุกที บ้านนี้ทั้งกินทั้งคุย เป็นครอบครัวที่อบอุ่นเกินเหตุ ไม่รู้ว่าหาเรื่องคุยมาจากไหนได้ขนาดนั้น 3 งงพฤติกรรมคนไทย ที่บ้านเราจะมีญาติๆจากเมืองไทยมาเยี่ยมเยียนทุกปี ไม่ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหนญาติๆจากเมืองไทยจะอาบน้ำวันละสองหนเช้าเย็น ทุกวันไม่มีเว้น เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากสำหรับเราเพราะถ้าเป็นหน้าหนาวเราจะไม่อาบน้ำทุกวัน (ญาติพี่น้องเราก็ทึ่งเราเหมือนกันว่าสกปรกมากกก) 4 เราเข้าโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่น ต้องนอนนานหนึ่งเดือนเพื่อคลอดลูกเพราะเป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่ค่อยปกติ เห็นที่เมืองไทยมีธรรมเนียมซื้อของขอบคุณให้หมอให้พยาบาลหลังออกจากโรงพยาบาล เราเลยไปซื้อมาบ้างแล้วเมื่อถึงวันที่ออกจากโรงพยาบาลก็นำไปมอบให้แผนกสูติฯ แต่ทางโรงพยาบาลปฏิเสธของ บอกว่ารับไม่ได้แม้จะเป็นของกิน ราคาถูกก็ตาม สุดท้ายเค้าขอรับไว้แต่การ์ดขอบคุณ จากคุณ : สาวไทย เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 17:39:03 A:114.181.194.161 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 58 สาวจีนไว้ขน จั๊กกุแร้ อย่างไม่แคร์สายตาใคร รู้สึกกระอักกระอ่วนใจบอกไม่ถูก อิอิ จากคุณ : la..la..means เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 17:43:39

ความคิดเห็นที่ 59 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 54 17:44:09 จากคุณ : la..la..means เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 17:43:40

ความคิดเห็นที่ 60 อยู่เดนมาร์กค่ะ เห็นเด็กอายุ12ปี อยู่เกรด6 กอดจูบกันในโรงเรียน โดยที่ครูไม่ว่าอะไรเลย เด็กสาวอายุ 17 ปี พาแฟนเข้ามาอยู่กินกันในบ้านโดยที่พ่อแม่ไม่สามารถตำหนิ หรือว่าอะไรได้เลย(ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจก็เถอะ) ความรู้สึกของเด็กและเยาวชนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก คนที่นี่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากพอสมควรค่ะ -___-" จากคุณ : รองเท้ากับนาฬิกา เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 17:57:55

ความคิดเห็นที่ 61 แฟนเราเป็นชาวอเมริกันคะ ชอบ ตด เรอ แบบไม่มีอายคะ ก็แค่ excuse me ตอนนั้นมาบ้านเรา ดีนะมีแค่พ่อแม่เรา (พ่อแม่เราหัวสมัยใหม่หน่อยคะ ยังหนุ่มอยู่) แฟนเราก็เรอคะ ฮากันทั้งบ้านเลย (ชินแล้วเพราะตาเป็นบ่อย) แล้วแม่เราก็บอกว่าที่ไทยเค้าไม่ทำกัน มันน่าอาย เค้าก็เขินคะ เวลา skype กันถ้าเค้านั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะ จะได้ยินเสียงพ่อเค้าเรอดังมากคะ อย่างกะมอนสเตอร์แหนะ เค้าก็บอกว่าไม่เห็นหน้าอายเลย มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แถมชอบใจเวลาเราหลุดเรอ หรือ ตด (แหะๆ) เพื่อนเราหาว่าแฟนโรคจิตแหนะ แต่แฟนเราบอกว่าปกติที่สาธารณะใหญ่ๆก็ไม่ทำ แต่กับครอบครัวก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะสุดท้ายก็ excuse แล้ว เค้าทำอะไม่เป็นไรหรอกคะ แต่พอเราหลุดเรอมาปรบมือชอบใจกันแหนะ ก็เหมือนแซวนั่นแหละคะ แต่เราก็เขินอะนะ อิอิ จากคุณ : white brownie เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 18:29:19

ความคิดเห็นที่ 62 .....ที่อเมริกา .... - ขึ้น ลง รถเมล์ ต้องSay Hello  เวลาขึ้นรถ และลงรถ ก็ต้อง say Thank you ทุกครั้ง  ที่ไทยไม่มี อันนี้เราว่าดี ค่ะ ไม่กระเป๋ารถเมล์  ด้วย... - เวลา กิน อาหารที่ร้าน กินไม่หมด ห่อ กลับบ้าน ได้  ต้องทริป ต่างหาก...15-20% ของราคาอาหาร  และ แบบว่า ไป แบบถลุ่ม นะ  จะ แบบว่ามี บิล ของใคร ของมัน เลย ที่ไทย ไม่มี  บิลอันเดียว และ ไปหารกันเอาเอง.... - ฝรั่งกินปลา แบบ ทั้งตัวกันไม่ค่อย เป็น ....ปลาที่ขาย ที่ห้างฯ แล่มาเรียบร้อย ไม่มีก้าง มีแต่ เนี้อปลา..... - มาที่แรกทึ้งมาเลย เวลาผมยุ่ง ฝรั่งผู้ชาย จะเอามือแตะน้ำลาย แล้วลูบๆ ผมที่ยุ่งๆ  อ่ะ... จากคุณ : ข้ามฟ้ามาหารัก เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 18:53:13

ความคิดเห็นที่ 63 ในโตเกียว  เราท้องโตแล้วต้องนั่งรถไฟไปทำงาน  ไม่มีผู้ชายลุกให้นั่งมีแต่ผู้หญิงด้วยกันลุกให้นั่ง  เขาว่ากันว่าผู้ชายญี่ปุ่นขี้อายซะเกิ็น ตอนอยู่ออสเตรเลียกิจกรรมร่วมของเด็กที่พ่อแม่ต้องเกี่ยวข้องมีแยะ เรามันคนไม่เอาถ่านทำอะไรไม่ค่อยเป็นเวลาจดหมายจากโรงเรียนมาทีไรแม่อึ้งทุกที   มีคราวหนึ่งต้องตัดเสื้อผ้าชุดแฟนซีให้ลูก  พ่อแม่คนอื่นเขาประดิษฐ์ประดอยให้ลูกซะสวยงาม  เราเย็บผ้าไม่เป็นเลยให้ลูกใส่กางเกงลิงตัวเดียว(ลูกชายค่ะ)แล้วเอาถ่านทาตัวให้มอมแมม  เหน็บมีดพลาสติกห้อยเอวไป1อัน  บอกว่าเป็น"เมาคลี"   โอ๊ยเด่นซะไม่มีดี   ได้เป็นเมาคลีครั้งเดียวค่ะ  พอโตหน่อยไม่ยอมเป็นเมาคลีแล้ว  เลยให้แต่งเป็นโจรสลัดแทน จากคุณ : อาคิคุุน เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:00:01

ความคิดเห็นที่ 64 ในรถไฟใต้ดินที่จีน อากงอาม่าคุยโทรศัพท์ที นึกว่าตะโกนคุยกับเพื่อนอีกสิบโบกี้ถัดไป แกคงนึกได้ว่าปลายสายอยู่ไกล กลัวเสียงไปไม่ถึง เลยต้องจัดเต็มที่ ไม่ได้แคร์คนร่วมโบกี้ด้วยเลย จากคุณ : JinHanNa เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:00:19

ความคิดเห็นที่ 65 สามชาติ ที่เราเคยเจอ ชาติแรก=ส่วนใหญ่(ไม่ใช่ทั้งหมด)จะขยัน เรียนเก่ง ทำงานเก่ง อดทน เสียที่ชอบพูดเสียงดัง แม้ในที่สาธารณะที่ไม่ควรรบกวนผู้อื่นก็ตาม กินมูมมาม กินไปพูดไป เคี้ยวดังจุ๊บๆจั๊บๆ ซดน้ำซุปเสียงดังมาก ชาติที่สอง=ขยัน เรียนเก่งเหมือนกัน ความรับผิดชอบล้นเหลือ ซื่อสัตย์แถมท่าทางมีสง่า ไม่เคยเห็นทำอะไรงกๆ ไลฟ์สไตล์ประนีตบรรจงน่าชื่นชม เราว่าชาตินี้ค่อนข้างหาที่ติได้ยากสุดแล้วในโลก ชาติสุดท้าย= ผู้ชายแต่งตัวสะอาดเรียบร้อยแทบทุกคน แต่ขี้หลีมาก และเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแต่กำเนิด ไม่น่าไว้ใจ และมีความคิดหลายอย่างแตกต่างกับชาวไทยอย่างเรามากๆ และค่อนข้างเรื่องมาก ทั้งสามชาตินี้อยู่ในเอเชีย  มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ศิลปวัฒนธรรมวิจิตรเลื่องลือ ชาติแรกกับชาติที่สามมีอิทธิพลต่อไทยอย่างมาก แต่อยากบอกว่า ทุกชาติมีที่มาต่างกัน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรก็ต่างกัน ทำให้นิสัยใจคอต่างกันเป็นธรรมดา ถ้าไม่เอาเปรียบกัน รู้จักพอ ก็น่าจะอยู่ร่วมกันได้อย่างราบรื่น จากคุณ : ธิดาชาวสวน เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:01:23

ความคิดเห็นที่ 66 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 54 19:04:54 จากคุณ : ธิดาชาวสวน เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:03:43

ความคิดเห็นที่ 67 ที่เยอรมันนี ทึ่งเรื่องความสะอาด   บ้าน นอกบ้านสะอาดเป็นระเบียบดีถึงดีมาก แต่ของกินตกพื้นก็หยิบกินต่อ เอาผ้าไปเช็ดพื้นเปียกน้ำ แล้วเอามาเช็ดจานต่อ กินผัก ผลไม้ไม่ล้าง ที่ทำงาน หัตถการที่ต้องทำกับคนไข้  ไม่ระวังเรื่อง aseptic technique กันเลย อย่างจะใส่สายสวนหลอดเลือดดำใหญ่  ไม่ใช้ผ้าช่อง ไม่ใช้ถุงมือปลอดเชื้อ เจาะหลังก็เหมือนกัน ไม่มีผ้าช่องปลอดเชื้อ  โอยรับไม่ได้ เวลาเจาะเลือด หลังพ่นแอลกอฮอล์แล้ว เอานิ้วที่ไม่สะอาดไปจับ คลำเลือดเลือดตรงนั้นอีก   โชคดีอากาศและความชื้นไม่เป็นใจ ไม่งั้น ติดเชื้อระนาว  ถ้าอยู่บ้านเรา จะทำอะไรพวกนี้ สะอาดแล้วสะอาดอีก ถ้ามือเผลอไปโดนอะไร ต้องเปลี่ยนเซทกันเลย จากคุณ : pha-sea-pha เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:31:25

ความคิดเห็นที่ 68 ฝรั่่งไปหลายบ้าน กี่บ้านก็ล้างจานแบบจุ่มๆๆน้ำ เช็ดจบ ไม่ก็ลงน้ำยาล้างจานเฉยๆๆ แล้วก็เช็คๆๆ ไม่ก็คว่ำจานเลย อ่านข้างบน เพื่อนบ้านเราหลายปท ก็ไม่นิยมน้ำยาล้างจาน แค่จุ่มๆๆน้ำเฉยๆๆก็มี เลยสงสัยกลับว่า พวกเขาเหล่านั้นจะตกใจ อึ้งทิ่ง กับการล้างจานเต็มสูตรของพวกเราบ้างไหมน้อ คิดเล่นๆๆสงสัยเหมือนกันค่ะ จากคุณ : tikkiki เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:33:33

ความคิดเห็นที่ 69 อึ้ง  สาวจีนสวยมาก แต่ ไว้ขนจั๊กกุแร้  วันนั้นเธอใส่เสื้อแขนกุด เอ่อ มันยาวกว่าขนจักกุแร้กระผมอีกนะ จากคุณ : DekChaiDam เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 19:49:27

ความคิดเห็นที่ 70 ทาย คห.65 1.จีน 2.ญี่ปุ่น 3.อินเดีย จากคุณ : Friday13th เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 20:13:12

ความคิดเห็นที่ 71 ตอนไปปักกิ่ง ก็พอจะได้ยินชื่อเสียงทางด้านห้องน้ำของจีนมาบ้าง  แต่วันนั้นไปเข้าห้องน้ำในมหาลัยที่เรียน เจอประตูห้องน้ำแง้มดู เราเลยเปิด นึกว่าไม่มีคน ที่ไหนได้มีคนนั่งอยู่ แถมคนนั้นคือเหล่าซือฉันเองด้วย ไมไม่ปิดประตูคะ กินมื้อเช้าที่มหาลัยจัดให้ มีเมนูเฟรนฟราย และถ้วยเล็กๆมีเกล็ดขาวๆคล้ายเกลือ ลองจิ้มดูมันน้ำตาลหนิหว่า ตอนแรกนึกว่าเขาเทผิด  หลังๆมา เขากินกับจิ้มกับน้ำตาลจริงๆ รถไฟใต้ดิน มีขอทานมาเดินขอเงินด้วย แต่คนจีนส่วนมากไม่สนใจให้เงินเลย จากคุณ : jadeleaf เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 20:35:12

ความคิดเห็นที่ 72 ไปห้องอาบน้ำสาธารณะที่ญี่ปุ่น โป๊เป็นโป๊ ไม่ยอมแ้พ้สาวญีปุ่นอยู่แล้ว แต่ไหนสาวญี่ปุ่น พกมีดโกนกับกรรไกร จ๊ากส์ เล็มกันสด ๆ ต่อหน้าฉันเลย แบบนี้ ยกธงขาว จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 20:55:26

ความคิดเห็นที่ 73 ฮ่าๆๆๆ ยิ่งอ่านยิ่งขำ - เพื่อนร่วมบ้าน (คนฮังการี) ซักผ้าแบบรวมหมดทุกอย่าง ทั้งเสื้อ กางเกง (อันนี้ไม่แปลก) แต่บางทีรวมพรมเช็ดเท้า ปอกหมอน ถุงเท้า ซักพร้อมกันเลย เค้าบอกว่าไม่เป็นไร ใส่เครื่องแล้วก็ซักเหมือนกัน - ส่วนคนสเปน จะทอดไส้กรอกกิน แล้วบนใ้ส้กรอกมีเชื้อรา เค้าก็ทอดไปเลย บอกไม่เป็นไร คนสเปนทำกันแบบนี้หล่ะ เพราะโดนความร้อน เชื้อราก็ตายแล้ว - คนอังกฤษ อันนี้คนแก่ โทรให้รถดับเพลิง 3-4 คันมาช่วยเอาแมวลงจากต้นไม้ คนอื่นจะอาสาก็ไม่ได้ เพราะจะขึ้นที่สูง ต้องมีใบอนุญาต และมีอุปกรณ์ที่เหมะสม จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 21:05:15

ความคิดเห็นที่ 74 เรื่องอาบน้ำเหมือนกันค่า เคยทะเลาะกับโฮสท์ตอนไป WAT เรื่องอาบน้ำ โฮสต์ไม่ยอมให้อาบน้ำตอนกลางคืนเวลาพวกเรากลับมาจากทำงานแล้วน่ะคะแต่มันร้อนมาก ทนไม่ไหวจริงๆ เพราะทำงานกันหน้าเตาพิซซ่า หน้าเครื่องชงกาแฟ มันร้อนมากจริงๆ ค่ะ จนต้องแอบไปปิดไฟอาบน้ำ ไม่เปิดไฟเพื่อที่พัดลมดูดอากาศจะได้ไม่ติด จากคุณ : Untranslatibility เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:03:43

ความคิดเห็นที่ 75 ใช่ค่ะคุณna na #33 ตอนมาแรกๆเราไม่รู้หรอกว่าเป็นกฏหมาย มารู้ตอนหลังแต่ก็ชื่นชมในความเคารพกฏระเบียบของเขานะ....อ้าวตอบไม่ตรงกระทู้แล้วเรา จากคุณ : chole เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:12:53 A:71.202.245.130 X: TicketID:303896

ความคิดเห็นที่ 76 อินเดียไงครับ นั่ง( ^o^ )งถนน จะจะ ยามเช้าของทุกวัน จากคุณ : suntoryboy เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:31:19

ความคิดเห็นที่ 77 เหตุเกิดที่จีนค่ะ ทัวร์พาไปกินอาหารจีน คณะเราโหยอาหารไทยเผ็ดๆ เรานึกไอเดียขอพริกน้ำปลา ไกด์คนจีนจัดให้ พนักงานทำท่าเข้าใจอย่างดี  แต่ออกจากครัว He ถือซอสกะพริกสดมา คนไทยอย่างเรา ก็อึ้งสิคะ สุดท้ายเราเข้าครัวทำเองค่ะ (น้ำปลาเค้ามีแต่ไม่ได้หยิบมาซะงั้น) ไปเวียดนามกินอาหารเช้าไปหมด เหลือเยอะพวกแซนวิชน่ะค่ะ พนักงานถามว่าจะแพ้คกลับไปกินด้วยมั้ย เราก็เออ ดีจังบริการดีบอกโอเค พนักงานผู้หวังดีเดินไปหลังเคาน์เตอร์ สักพักได้ยินเสียงฉีกกระดาษดังแคว้กกกกกกก พนักงานเดินตรงมาที่เรา พร้อมกับกระดาษหนังสือพิมพ์ค่ะ ใช่แล้วเธอห่อแซนวิชให้เราด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์เหลือใช้ อึ้งพอมั้ย ไปเที่ยวสิงคโปรืหลงทาง ถามนักศึกษากลุ่มนึงว่าจะกลับโรงแรมไปยังไงกางแผนที่ให้ดุค่ะ เด้กๆบอกไม่รู้จัก งงๆ เราก้อ อืมม ขอบคุณมากค่ะ แต่เด็กๆเหล่านั้นไม่ยอมแพ้เปิดจีพีอาร์เอสให้เราดุ คือมีความพยายามกันมากในการช่ยเรากลับที่พัก จนเราบอกว่าไม้เป้นไรไอนั่งแท้กซี่ไปเองดีกว่า แบบว่าเสียเวลาน้องเค้าเกือบครึ่งชม.คือเราบอกว่าไม้เป้นไรเค้าก้บอก It's ok ตลอดเราก้เกรงใจ 555 อึ้งในความมีน้ำใจสุดๆ นึกออกจะมาแจมใหม่ จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 00:49:18

ความคิดเห็นที่ 78 อึ้งแบบชื่นชม ออกจาก pub ที่ Finland มาตอนตี 3 รถในถนนไม่มีให้เห็นสักคัน อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -15 เห็นเด็กวัยรุ่นสี่คนยืนรอไฟเขียวอยู่ที่สี่แยก อึ้งแบบเซ็ง เรื่องพักเที่ยงที่ Netherlands พักเต็มที่ครึ่งชั่วโมง หลายๆ คนพอเที่ยงควักแซนวิชจากกระเป๋าขึ้นมากินไปทำงานไป ลงไปกินข้าวกับระดับ Director พี่แกเปิดกล่องข้าวหยิบแซนวิชที่ทำมาเองจากบ้านมากินสองชิ้น ซื้อซุปหนึ่งถ้วย กินแบบนี้แทบทุกวัน จริงๆ มีอีกหลายเรื่องแต่ไว้เดี๋ยวค่อยมาต่อ จากคุณ : Roby เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 01:53:15

ความคิดเห็นที่ 79 นึกออกอีกเรื่อง  อันนี้เกิดในประเทศไทย ตอนนั้น๒ทุ่มได้  ท่าเรือฝั่งศิริราช จริงๆเราก็เห็นญี่ปุ่นกลุ่มใหญ่กลุ่มนี้มาตั้งแต่ฝั่งท่าพระจันทร์แล้ว และรำคาญมาก  เพราะเดินไป  ถ่ายรูปไป เกะกะมาก ลงเรือข้ามฟากมาพร้อมกัน  ก็วิ่งกระจายถ่ายรูปรอบเรือ   พอลงมาถึงท่าเรือ  คนที่ทำท่าจะเป็นคนนำก็พุ่งมาหาเรา คว้ามือเราไป  เอาแผนที่ยื่นใส่มือให้ดู ถามว่าเกสเฮาส์อันนี้ไปยังไง เราก็บอกว่าเดินตรงไป พอถึงสะพานก็เลี้ยวขวา  เดินไปอีกนิดก้ถึง เค้าตอบมาด้วยเสียงดังฟังชัดว่า we follow you............ อ้าว  เฮ้ย  ซะงั้น  มืดแล้ว  ชั้นจะรีบกลับบ้าน สุดท้ายก็เลยต้องเดินไปส่ง  เพราะลูกเป็ดทั้งขบวนไม่ยอมขยับเขยื้อน แล้วเดินกลับมาขึ้นรถตัวเองที่จอดไว้ตรงที่ท่าเรือ อึ้ง....คิดได้นะ  ว่าชั้นจะต้องเดินไปส่ง  (แล้วชั้นก็ต้องเดินไปส่งจริงๆ  เฮ้อ) กลับมาเล่าให้เพื่อนฟัง  เพื่อนบอกว่า   ก็คนไทยชอบปลื้มเวลาหลงทางแล้วคนญี่ปุ่นลากไปส่งถึงที่ คนญี่ปุ่นก็เลยมาเอาคืนกะแกไง  .....  ซะงั้น จากคุณ : na na' เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 02:15:15

ความคิดเห็นที่ 80 ร่วมแจมด้วยคนค่ะ - โทรทัศช่องเช่าสัญญาณของที่นี้(คล้ายๆ กับ HBO บ้านเรา)  หลังเทียงคืน ปล่อยหนังโป๊แทบทุกช่องเลยค่ะ มาแรกๆ กดเจอ เฟว่ยยย  อิอิ - คนที่นี้ขึ้นบันได้ชิดขวาทันทีค่ะ ด้านซ้าย ปล่อยให้คนรีบๆ วิ่งค่ะ แรกๆ ก็งงๆ เพราะบ้านเราไม่ได้ทำ คอนนี้ชินค่ะ เป็นไปโดยอัตโนมัติ - ร้านกาแฟ ร้านอาหาร จ่ายก่อน ทานทีหลังค่ะ  และการเข้าแถวเป็นเรื่องสำคัญของคนที่นี้ค่ะ (เท่าที่สัมผัสนะค่ะ) - โรงพยาบาลที่นี้  ถ้าไม่ป่วยแบบย่ำแย่ไม่ต้องไปหาหมอนะค่ะ เพราะเข้าเน้นให้ร่างกายสร้างภูมิขึ้นมาเองค่ะ จากคุณ : beuysliv เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 03:40:52

ความคิดเห็นที่ 81 เราติดนิสัยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เวลาขึ้นรถลงเรือ จะใกล้ จะไกล เราจะขอนั่งไว้ก่อนค่ะ - แต่ที่ฮังการี คนที่นี่ชอบยืนค่ะ ต่อให้มีที่ว่างเหลือเฟือก็ไม่ค่อยจะนั่งกัน ไม่รู้ทำไม แปลกดี อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเค้าไม่ชอบนั่งกัน ( แฟนเราก็เป็น) ขนาดคนแก่อายุมากแล้ว ขึ้นไปลงตั้งหลายป้าย ที่ก็ว่าง เค้ายังไม่ยอมนั่ง บางทีคนเต็มรถแล้วมีคนลุกให้คนแก่นั่ง หลายๆ ครั้งที่เค้าปฏิเสธที่จะนั่งค่ะ - ไปเที่ยวที่สเปน ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ที่ว่างปุ๊บ คนไหนเร็วกว่า คนนั้นได้นั่งค่ะ เหมือนแต่ละคนแทบจะแย่งกันหาที่นั่งกันก็ไม่ปาน (ทำให้คิดถึงฮังการีขึ้นมาจับใจ !!) - มายืนยั่งอีกเสียงเรื่องคนกีวี่ เรื่องล้างชามแล้วไม่ล้างน้ำยาออก แฟนเก่าเราก็ทำ เราเคยถามเค้า คำตอบคือ แม่เค้าสอนมาแบบนั้น จากคุณ : InDy QuEeN เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 03:51:46

ความคิดเห็นที่ 82 ตอกไปที่ 42 ตอนไปบริสเบน งง อ่า จะกินข้าวเย็นไปห้างตรงไปที่ฟูดส์คร์อด 5โมงแล้ว ไม่มีอะไรเหลือเลย พี่เมค ก็กำลังจะปิด แง แง พี่เมค ไม่มี24ช.ม รึ เพื่อนบอกว่า คนออสซี่นิยม กินข้าวที่บ้าน ปาร์ตี้ที่บ้าน มิน่าล่ะเราไปถึงวันแรกคนมาที่บ้านเพื่อนเต็มเลย ไอ้เราก็คิดว่า เลี้ยงต้อนรับ เปล่าค่ะ มาหา แล้วก็กินข้าวด้วยกัน ปรกติ อย่าว่าแต่คนกีวี่ เรื่องล้างชามแล้วไม่ล้างน้ำยาออก ออสซี่ก็เป็นมันกินกันไปด้าย.. คนไทยไม่ชินง่า.. จากคุณ : มันเป็นส่วนผสมในใจ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 09:27:18

ความคิดเห็นที่ 83 ไม่ได้เห็น แต่เพื่อนชาวกาน่าเขาเล่าให้ฟัง.... ในประเทศเขาเวลาได้รับเชิญไปร่วมงานแต่งงาน ที่หน้างานเขาจะเปิดซองเงินช่วยเหลือที่นั่นเลย และพาไปนั่งในโต๊ะที่แบ่งไว้ตามจำนวนเงินที่ใส่ซอง ถ้าให้มากก็จะเป็นโต๊ะที่ใกล้เวที มีสุราอาหารพร้อมบริบูรณ์ โต๊ะที่ห่างออกมาก็จะลดอาหารและเครื่องดืมลงไปตามลำดับ จนถึงโต๊ะนอกสุดที่มีแต่เครื่องดื่มอย่างเดียว ไม่มีอาหาร... เพื่อชาวกาน่าบอกว่า เป็นประพณีปฏิบัติที่ทุกคนยอมรับกัน... และยุติธรรมที่สุด.... อ้อ...แถมด้วยว่าประเทศนี้หากคุณไปเยี่ยมเพื่อนในเวลาอาหารถือว่าเสียมารยาทอย่างยิ่ง เขาจะไม่เปิดประตูรับให้คุณเข้าไปในบ้าน...ต้องรอจนเขารับประทานอาหารเสร็จสิ้นเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 54 09:30:19 จากคุณ : หมู4X เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 09:29:12

ความคิดเห็นที่ 84 ญี่ปุ่น กลางสถานีรถไฟที่หนาแน่นที่สุดในโตเกียว ชินจูกุ - ถ้าจะหยุดเดินต้องรีบหลบติดกำแพงทันทีไม่งั้นโดนผลักตาย ที่ทำงาน - ตั้งแต่อยู่มาไม่เคยเจอคนญี่ปุ่นคนไหนแช็ทระหว่างทำงานเลยอ่ะ เมลมือถือก็ไม่เช็ค (เก็บไปเช็คในรถไฟ) รถไฟ - ทุกคนพร้อมใจหยิบมือถือมาดูราวกับเป็นกฎ บ้าน - แยกขยะแบบที่ว่าล้างขยะ (เช่นกล่องโยเกิต) และดึงฉลากออก ขวดน้ำก็ดึงฉลากออกและแยกฝาขวดให้เรียบร้อย ถ้าเป็นกล่องนมก็ล้างแล้วทำให้แบนให้สวยงาม งานแต่งงาน - แทบจะเขียนบอกเลยว่าต้องใส่ซองเท่าไหร่ เพราะเป็นธรรมเนียม จากคุณ : midori_p เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 10:42:39

ความคิดเห็นที่ 85 ล้างจานแบบฟอกฟองเสร็จ จุ่มน้ำเปล่าหน่อย เก็บเลย ฟองยังเกาะจานอยู่เลยง่ะ เอาชามข้าวให้หมาเลีย บอก thank you เวลาซื้อของ ลงรถ และอื่นๆ เคยเจอครั้งนึง ไปสมัครงานร้านอาหารกับเพื่อน กลับมาก็สองทุ่ม ขึ้นTram ตอนละลงบอกThank you ลุงคนขับตอบมา u r welcome young ladies! have a good night! ไม่เคยเจอคนขับตอบกลับน่ารักแบบนี้ ชอบมากค่ะ เคยเจอพวกเหยียดผิวบนรถไฟที่เมวเบิ้น เราพูดภาษาไทยกับเพื่อนในรถ ด่าเรากับเพื่อนซะกระจาย แต่ดันคิดว่าเรากับเพื่อนเป็นคนจีน คนมองกันทั้งโบกี้เลย น่ากลัวมาก ก็ได้แต่เงียบๆไม่อยากมีเรื่องค่ะ หน้าร้อน เป้นเรื่องปกติที่คนละนุ่งน้อยห่มน้อยเดินบนถนน หรือแม้กระทั้ง นั่งรถไฟไปสถานีที่มีทะเล ชีก็บิกินี่ท่อนบนให้ดูไปพลางๆก่อนถึงหาด สาวๆที่เมวเบิ้น นิยมเลกกิ้งมาก แต่เล้กกิ้งกะเสื้อสั้นๆ เราว่าโป๊อยุ่นะ เลี้ยงหมา ต้องพาไปเดินเล่น ถ้าที่เมกา คนจะเก็บอึ ที่สวนสาธารณะ ก็จะมีเสาที่มีกล่องใส่ถุงพลาสติกไว้ให้เก็บด้วย อยากสมทบทุนค่าถุงก็บริจาคให้ส่วนเค้ามีหน่วยงานรับอยู่ แต่ที่ออส เราไม่ค่อยเห็นเค้าเก็บกันนะ แต่ก็ยังสะอาดกว่าบ้านเรา ที่ออส รถไฟบางสถานีก็ไม่มีที่กั้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะซื่อสัตย์ บางคนไม่ตอกตั๋ว โดนจับก็หลายคน และคืน วันศุกร์กับเสาร์ รถไฟเที่ยวดึกๆ จะเต็มไปด้วยขี้เมา สายที่เราขึ้นนี่ถึงขนาดต้องมีตำรวจเดินตรวจกันตลอดเลยทีเดียว จากคุณ : วันนี้วันอะไร เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 11:07:04

ความคิดเห็นที่ 86 อันแรก ไม่ได้เห็นกับตาครับ แต่อาจารย์สอนภาษาเยอรมันเล่าใหัฟัง อารมณ์คล้ายๆ กับคคห. ที่ 6 ก็คือเรื่องน้ำดื่ม อาจารย์เล่าว่า ที่เยอรมัน ถ้าอยากกินน้ำเปล่า ให้สั่งว่า mineral wasser (น้ำแร่) เพราะถ้าไปสั่ง wasser (น้ำ = water) เฉยๆ เค้าจะแก้วไปรองน้ำก๊อกมาให้ -_- ส่วนอันนี้เห็นกับตา เพื่อนญี่ปุ่นในที่ทำงานเก่า เวลาไปถ่ายรูปหมู่ แล้วจะต้องยืนบนเก้าอี้เพื่อต่อตัวให้สูงขึ้น กล้องจะได้ถ่ายได้หมด คนญี่ปุ่นเค้าเป็นชาติเดียวที่ถอดรองเท้าออก แล้วยืนบนเก้าอี้ พี่ไทย เกาหลี แขก ฝรั่ง ไม่มีใครถอดเลย เห็นแล้วรู้สึกทึ่งจริงๆ ครับ ในความ humble ของเขา จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 12:37:22

ความคิดเห็นที่ 87 ไปเที่ยวที่ประเทศจีนบ่อยเพราะชอบดูละครจีนโบราณสมัยที่ละครฮ่องกง ไต้หวัน เฟื่องฟูในเมืองไทย และชอบในศาสตร์ ศิลปะ วิทยาการ การแพทย์ สถาปัตยกรรม ฯลฯ ในสมัยโบราณของจีน ก่อนไปก็อ่านหนังสือ ค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ต รวมทั้งมีคนที่กลับจากประเทศจีนเล่าประสบการณ์ต่าง ๆ ให้ฟัง จึงพอรู้ว่าประเทศจีนปัจจุบันนี้ไม่ได้มีอะไรที่น่าดู น่าสนใจ แต่ด้วยความที่อยากไปเที่ยว ไปเห็น ไปสัมผัสด้วยตัวเอง โอ้! ซึ้งเกินบรรยาย 1. ห้องน้ำที่จีน ทั้ง ๆ ที่ก่อนไปก็ทำใจแล้ว แต่พอเจอของจริงสติแตกค่ะ เดินเข้าไป  2 ฝั่งซ้าย - ขวา ซอยเป็นห้อง ๆ ก่อปูนคั่นเตี้ย ๆ มีรางยาวข้างล่างรองรับทุกข์ของทุกคน มีกระป๋องน้ำฝูกเชือกไว้ที่ห้องแรก คนที่ดูแลห้องน้ำจะดึงเชือกที่กระป๋องน้ำเพื่อราดทุกข์ของทุกคนเมื่อทุกข์นั้นได้ทับถมกันจนสุกงอมได้ที่ ต่างก็ปลดทุกข์มีทั้งหนักทั้งเบา ยังไม่พอ คุยโทรศัพท์มือถือกันอีก เสียงดังลั่นไปหมด ไม่มีใครสนใจกัน แต่เราซิ อายมาก เดินก้มหน้าไปที่ห้องสุดท้าย ยืนข่มความอายอยู่นานมาก แต่ด้วยความที่ไม่มีทางเลือก ปวดฉี่มาก กลั้นไม่ได้แล้ว ปลดทุกข์เสร็จเดินก้มหน้าออกมาข้างนอก ยืนนับ 1 - 10 นับ 10 - 100 สมอง มึน งง ไปหมด ในที่สุดก็ได้ประสบการณ์ตรง 5555 2. เข้าห้องน้ำที่สถานีขนส่งทางไกลเมืองคุนหมิง เราใช้มือค่อย ๆ ดันประตู ทันใดนั้น !@#$%&*+!@#$%^&* โอ้ย! เวียนหัว กลุ้ม ทำไมไม่รู้จักล๊อคกลอน เครียด! 3. เรากับเพื่อนหิวข้าว ไปหาอะไรกินกันเถอะ อ่ะ! ร้านนี้ล่ะกัน ดูดีหน่อยเนอะ  แต่ว่าทำไมบนโต๊ะจึงเต็มไปด้วยเศษอาหาร กระดาษทิชชู่ กระดูกหมู เป็ด ไก่ ฯลฯ พนักงาน !@#$%&*!@#$%^&* พร้อมกับใช้ไม้กวาด กวาดโต๊ะ เรากับเพื่อน มองหน้ากัน เอาล่ะซิ เศษอาหาร กระดาษทิชชู่ กระดูกหมู เป็ด ไก่ ฯลฯ หล่นลงพื้น แล้วก็ใช้ไม้กวาดอันเดิมนั่นแหละกวาด กรี๊ด! ไม่เอาแล้ว ไม่กิน สุดท้ายเข้าซุปเปอร์มาเก็ตซื้อขนมปังกับน้ำผลไม้ แล้วก็ยอมทนกินอาหารร้านแมคโดนัลด์แทน ไม่เข้าใจว่าพวกเขาไม่กลัวเชื้อโรค ไม่รักษาสุขอนามัยกันเลยหรือ? งง ค่ะ   3. สาวจีนแต่งตัวเหมือนกับจะไปงานราตรีสโมสรกันตลอดเวลา เฮ้อ! เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ? ตลก อ่ะ 4. ออฟฟิสเราอยู่ติดกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ต.ม.) วัน จ - ศ จะมีชาวต่างชาติมาติดต่อเพื่อดำเนินการเรื่องขออนุญาตพำนักอยู่ต่อในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว หนึ่งในก็คือชาวจีนค่ะ 5555 ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องคุยกันเสียงดังข้ามหัวกัน ทั้ง ๆ ที่อยู่กันเป็นกลุ่ม ทำยังกับว่าอีกคนหนึ่งอยู่มณฑลกวางตุ้ง อีกคนอยู่ฮาร์บิน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เรากำลังจะเดินไปกินข้าวกลางวัน ก็เดินผ่าน ต.ม. มีผู้ชายกับผู้หญิงเดินออกมาจาก ต.ม. เสียงผู้หญิงตวาดดังลั่น 2 - 3 ประโยค (ภาษาจีนกลาง) ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น รวมทั้งเราต่างหันไปมอง ทุกคนทำหน้า งง อะไรกัน เกิดอะไรขึ้น ฝ่ายชายบอกให้ฝ่ายหญิงหยุดเสียงดัง พร้อมกับรีบเดินอย่างเร็ว ฝ่ายหญิงยังไม่สนใจ ไม่แคร์สายตาใคร เกาหลี - เข้าห้องน้ำที่เกาหลี มีคนเคาะประตู เออ! รู้แล้ว ฉันมีมารยาท ไม่ต้องเคาะ ฉันไม่นอนในห้องน้ำหรอก เซ็ง จากคุณ : Empress Wu เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 14:05:07

ความคิดเห็นที่ 88 ไปเที่ยวที่ประเทศจีนบ่อยเพราะชอบดูละครจีนโบราณสมัยที่ละครฮ่องกง ไต้หวัน เฟื่องฟูในเมืองไทย และชอบในศาสตร์ ศิลปะ วิทยาการ การแพทย์ สถาปัตยกรรม ฯลฯ ในสมัยโบราณของจีน ก่อนไปก็อ่านหนังสือ ค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ต รวมทั้งมีคนที่กลับจากประเทศจีนเล่าประสบการณ์ต่าง ๆ ให้ฟัง จึงพอรู้ว่าประเทศจีนปัจจุบันนี้ไม่ได้มีอะไรที่น่าดู น่าสนใจ แต่ด้วยความที่อยากไปเที่ยว ไปเห็น ไปสัมผัสด้วยตัวเอง โอ้! ซึ้งเกินบรรยาย 1. ห้องน้ำที่จีน ทั้ง ๆ ที่ก่อนไปก็ทำใจแล้ว แต่พอเจอของจริงสติแตกค่ะ เดินเข้าไป  2 ฝั่งซ้าย - ขวา ซอยเป็นห้อง ๆ ก่อปูนคั่นเตี้ย ๆ มีรางยาวข้างล่างรองรับทุกข์ของทุกคน มีกระป๋องน้ำฝูกเชือกไว้ที่ห้องแรก คนที่ดูแลห้องน้ำจะดึงเชือกที่กระป๋องน้ำเพื่อราดทุกข์ของทุกคนเมื่อทุกข์นั้นได้ทับถมกันจนสุกงอมได้ที่ ต่างก็ปลดทุกข์มีทั้งหนักทั้งเบา ยังไม่พอ คุยโทรศัพท์มือถือกันอีก เสียงดังลั่นไปหมด ไม่มีใครสนใจกัน แต่เราซิ อายมาก เดินก้มหน้าไปที่ห้องสุดท้าย ยืนข่มความอายอยู่นานมาก แต่ด้วยความที่ไม่มีทางเลือก ปวดฉี่มาก กลั้นไม่ได้แล้ว ปลดทุกข์เสร็จเดินก้มหน้าออกมาข้างนอก ยืนนับ 1 - 10 นับ 10 - 100 สมอง มึน งง ไปหมด ในที่สุดก็ได้ประสบการณ์ตรง 5555 2. เข้าห้องน้ำที่สถานีขนส่งทางไกลเมืองคุนหมิง เราใช้มือค่อย ๆ ดันประตู ทันใดนั้น !@#$%&*+!@#$%^&* โอ้ย! เวียนหัว กลุ้ม ทำไมไม่รู้จักล๊อคกลอน เครียด! 3. เรากับเพื่อนหิวข้าว ไปหาอะไรกินกันเถอะ อ่ะ! ร้านนี้ล่ะกัน ดูดีหน่อยเนอะ  แต่ว่าทำไมบนโต๊ะจึงเต็มไปด้วยเศษอาหาร กระดาษทิชชู่ กระดูกหมู เป็ด ไก่ ฯลฯ พนักงาน !@#$%&*!@#$%^&* พร้อมกับใช้ไม้กวาด กวาดโต๊ะ เรากับเพื่อน มองหน้ากัน เอาล่ะซิ เศษอาหาร กระดาษทิชชู่ กระดูกหมู เป็ด ไก่ ฯลฯ หล่นลงพื้น แล้วก็ใช้ไม้กวาดอันเดิมนั่นแหละกวาด กรี๊ด! ไม่เอาแล้ว ไม่กิน สุดท้ายเข้าซุปเปอร์มาเก็ตซื้อขนมปังกับน้ำผลไม้ แล้วก็ยอมทนกินอาหารร้านแมคโดนัลด์แทน ไม่เข้าใจว่าพวกเขาไม่กลัวเชื้อโรค ไม่รักษาสุขอนามัยกันเลยหรือ? งง ค่ะ   3. สาวจีนแต่งตัวเหมือนกับจะไปงานราตรีสโมสรกันตลอดเวลา เฮ้อ! เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ? ตลก อ่ะ 4. ออฟฟิสเราอยู่ติดกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ต.ม.) วัน จ - ศ จะมีชาวต่างชาติมาติดต่อเพื่อดำเนินการเรื่องขออนุญาตพำนักอยู่ต่อในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว หนึ่งในก็คือชาวจีนค่ะ 5555 ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องคุยกันเสียงดังข้ามหัวกัน ทั้ง ๆ ที่อยู่กันเป็นกลุ่ม ทำยังกับว่าอีกคนหนึ่งอยู่มณฑลกวางตุ้ง อีกคนอยู่ฮาร์บิน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เรากำลังจะเดินไปกินข้าวกลางวัน ก็เดินผ่าน ต.ม. มีผู้ชายกับผู้หญิงเดินออกมาจาก ต.ม. เสียงผู้หญิงตวาดดังลั่น 2 - 3 ประโยค (ภาษาจีนกลาง) ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น รวมทั้งเราต่างหันไปมอง ทุกคนทำหน้า งง อะไรกัน เกิดอะไรขึ้น ฝ่ายชายบอกให้ฝ่ายหญิงหยุดเสียงดัง พร้อมกับรีบเดินอย่างเร็ว ฝ่ายหญิงยังไม่สนใจ ไม่แคร์สายตาใคร เกาหลี - เข้าห้องน้ำที่เกาหลี มีคนเคาะประตู เออ! รู้แล้ว ฉันมีมารยาท ไม่ต้องเคาะ ฉันไม่นอนในห้องน้ำหรอก เซ็ง จากคุณ : Empress Wu เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 14:05:54

ความคิดเห็นที่ 89 ของเราที่เยอรมันนะคะ เคยเห็นคนตุรกีที่อยู่ในเยอรมันบางทีก็คนเยอรมันเองเลยเอาลูกใส่รถเข็นออกมาเดินเล่นข้างนอกพร้อมกับลูกเล็กๆไม่เกินห้าหกขวบสองสามคน คุณแม่ก็สูบบุหรี่ไปด้วยพ่นใส่หน้าลูกๆนั่นแหละ อะไรจะสูบจัดขนาดนั้น คนเยอรมันที่เราเคยเจอ เกินแปดสิบเปอร์เซนต์สูบบุหรี่ทั้งนั้นแล้วก็สูบกันตั้งแต่อายุสิบห้าสิบหก เหมือนเป็นค่านิยมในการเข้าสังคมยังไงไม่รู้ คนที่ไม่สูบมีน้อยมาก หมอในเยอรมันจะเน้นให้รักษาตัวเอง ไม่ค่อยให้ยาถ้าไม่จำเป็น ถ้าเป็นหวัด ไอ บางทีหมอก็จะให้กลับบ้านโดยไม่สั่งยา บอกให้กลับไปดื่มชาอุ่นๆ ทานผลไม้เยอะๆ ทานวิตามินซีเยอะๆ เดี๋ยวก็หายเอง ไอ้เราก็อุตส่าห์ลางานมาหาหมอเพราะน้ำมูกไหลไอหนัก ดันไม่ให้ให้ยาบรรเทาอาการซักกะอย่าง แถมจู่ๆจะไปหาเลยเนี่ยบางทีไม่ได้พบนะ ต้องโทรไปนัดล่วงหน้าซึ่งบางครั้งใช้เวลาเป็นอาทิตย์ ป่วยจนหายป่วยแล้วนั่นแหละถึงจะได้พบ เพื่อนที่รู้จักจะชอบซื้อกีวี(ผลไม้)ติดบ้านตลอด ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเป็นหวัดก็จะกระหน่ำกินกีวี เพราะเค้าบอกว่ามีวิตามินซีเยอะ เรากินไม่ค่อยได้เพราะกรดมันกัดปากเป็นร้อนในทุกที เรื่องทางม้าลาย คห.บนๆเล่าไปแล้วแต่อยากเล่าอีก เพราะประทับใจมาก เราเคยเดินไปเฉียดๆทางม้าลายในเยอรมัน รถจะจอดให้ทันทีจนบางทีเราต้องเดินข้ามทั้งที่ไม่อยากข้าม กลัวเค้าจะเขิน อิอิ ซึ่งวินัยอันนี้ทำให้คนเยอรมันเดินข้ามถนนแบบไม่ค่อยมองรถเลย พอเห็นว่าเป็นทางม้าลายปุ๊บก็ข้ามเลย ไอ้เรามาแรกๆก็มองซ้ายขวาทุกทีจนเพื่อนแปลกใจ แต่ถ้าทางม้าลายไหนมีสัญญาณไฟก็จะรอสัญญาณกันถึงแม้จะไม่มีรถเลย วินัยดีมากจริงๆ ตอนนี้นึกออกเท่านี้ เดี๋ยวนึกอะไรได้อีกจะเอามาเพิ่ม จากคุณ : เด็กหญิงในห้องสี่เหลี่ยม เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 15:00:58

ความคิดเห็นที่ 90 กระทู้นี้ยิ่งอ่านยิ่งสนุกแฮะ ดิฉันไม่เคยไปเมืองนอกหรอกคะ แต่ทำงานได้มีโอกาสเจอหลายชาติ ที่เด่นๆคือ ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ กินได้มูมมาม เสียงดังมาก นับจากวันนั้นมาดิฉัน บอกกับตัวเองเลยว่าจะไม่มีแฟนเป็นคนจีน (แอบกลัวว่าจีนในไทยจะเหมือนกัน) คนญี่ปุ่น ซดน้ำซุปเสียงดัง สุดๆ เวลาเขานานๆเจอกันทีก็เสียงดังไม่แพ้ชาติใดในโลก ผู้หญิงรัสเซียอาบแดดโชว์นม เวลาไปซื้อเสื้อผ้าในห้าง เข้าห้องลองเสื้อแต่ไม่ยักกะปิดผ้าม่านแฮะ แปลกๆ ทั้งหญิงและชายเลยหล่ะ ส่วนคนฝรั่งเศส วางขนมปังบนโต๊ะหน้าตาเฉย ( จานมีทำไมไม่วางว่ะ ) หรือมันเป็นวัฒนธรรมของเขา ( เราก็เสร่อ หยิบไปวางในจานให้เขาๆก็หยิบไปวางบนโต๊ะเหมือนเดิม สงสัยเราผิดแฮะงานนี้ อิอิ ) นึกไม่ออกแระ จากคุณ : ดอกผีเสื้อ (ดอกผีเสื้อ) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 15:18:58

ความคิดเห็นที่ 91 ใช้เท้ากดชักโครก -*- จากคุณ : enscience เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 16:36:12

ความคิดเห็นที่ 92 เจอที่ไทย อาจจะแตกต่างจากทุกคน บอกเราว่า "เธอเป็นเพื่อนผม แต่ผมก็นอน [sex] กับเธอ เธอเป็นแค่เพื่อนจริง  ๆ นะ เธอเป็นเพื่อน" โอ๊ยยย ช็อกไปเลย จากคุณ : ดึ่งดึ้ง (ดึ่งดึ้ง) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 16:55:20

ความคิดเห็นที่ 93 หน้าหนาวที่ฟินแลนด์ กินอาหารเสร็จ แม่ก็ยกเนื้ออบที่เหลือครึ่งจาน ใส่กล่องกระดาษ แล้วยกออกไปไว้ที่ระเบียง ... เราก็นึกว่าทิ้ง มื้อเย็นวันรุ่งขึ้น เนื้ออบครึ่งจานนั้นกลับมา !!! คนในบ้านกินต่ออย่างเอร็ดอร่อย แม่ขำ แล้วบอกว่า ก็นอกระเบียงนั่นมัน ลบสิบองศา ในตู้เย็นนั่นมันตั้งบวกห้าองศาเชียวนะ !!! จากคุณ : teaseah เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 17:00:26

ความคิดเห็นที่ 94 -ไปร้านอาหารเกาหลีที่นิวยอค จ่ายทิป 10% เจ้าของร้านบอกว่าน้อยไป ควรจะให้ทิป 15% -เดินห้างที่เซี่ยงไฮ้ เจอหนุ่มจีนขาก:-)อยู่กลางห้าง แถมตามขึ้นบันไดเลื่อนขาก:-)อยู่ข้างหลังตลอดทางด้วย -ตามหาร้านเนื้อย่างที่เกาหลี เจอร้านนึงไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ โดนไล่ออกจากร้าน -เจอสาวๆวัยรุ่นประมาณ 8-10คนเป็นคนไทยบนเครื่อง(เป็นแอร์ค่ะ) พร้อมด้วยสัมภาระเพียบ ประมารว่าไปช๊อปปิ้งกระเป๋าแบรนแนมจากปารีสกันมา กำลังหาที่ใส่ของบน overhead bin แต่ที่เต็ม ดิฉันเดินถอยหลังกลับไปดูว่ามีที่ว่างที่อื่นมั้ย ผู้โดยคนไทยก็พูดขึ้นมาว่า E แอร์ Mung มารับผิดชอบเลย(น้องๆคิดว่าไม่ใช่คนไทย) ดิฉันพูดไทยกลับไป บอกให้เอาของมาใส่อีกที่นึง อึ้งกันทั้งกลุ่มเลย จากคุณ : BornToBeASupermodel เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 18:00:01

ความคิดเห็นที่ 95 นิวซีแลนด์กับเรื่องล้างจานนี่จริงมากค่ะ เมื่อสองปีที่แล้วไปเรียนภาษาที่โน่นก็อยู่กับ family แน่นอนว่ามีการแบ่งงานบ้านให้เราทำซึ่งก็ไม่ได้ว่าอะไรมาอยู่กับเขาก็ต้องช่วยอยู่แล้ว และ หน้าที่เราคือล้างจานค่ะ พอกินข้าวเสร็จมื้อแรกโฮสต์ก็มาสอนวิธีล้างจานให้เรา (ฮาจริงอะไรจริง)ขั้นแรกเปิดน้ำ(เย็น)ล้างเศษอาหารก่อนหนึ่งรอบ จากนั้นก็เปิดน้ำ(อุ่น)แล้วก็เอาน้ำยาล้างจานใส่ลงไป เอาแปรง (เหมือนแปรงล้างห้องน้ำมาก - -;)ถู ๆ เสร็จแล้วเอาผ้าเช็ดให้แห้ง เก็บจานเข้าตู้ พระเจ้าช่วยกล้วยทอดเราทนไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ในเมื่อเป็นหน้าที่เรา เราก็เลยบอกว่า เราขอล้างจานในแบบของเราแล้วกันนะ ลงทุนซื้อฟองน้ำล้างจานเอง ล้างน้ำเปล่าหนึ่งรอบ ล้างน้ำยาล้างจานหนึ่งรอบ แล้วก็ล้างน้ำเปล่าอีกหนึ่งรอบ เช็ดแล้วเก็บเหมือนที่ทำที่บ้าน เค้ามามอง ๆ เราล้างจานแล้วก็แอบอึ้งว่ามันจะเยอะอะไรขนาดนั้น แล้วปกติเค้าต้องใส่ถุงมือยางด้วยนะ บางทีน้ำมันร้อนมันเย็นจัด แต่เราไม่ใส่ค่ะ มันไม่ได้สัมผัสว่าจานชามรามไหมันสะอาดรึยัง ยังมัน ๆ อยู่รึเปล่า ก่อนเรากลับก็เห็นว่าเปลี่ยนจากใช้แปรงเป็นฟองน้ำแล้วนะ สงสัยเห็นว่าใช้การได้ดี มีเรื่องเล่านิดนึงกับเรื่องล้างจานนี่แหละ บ้านโฮสต์เรารักความสะอาดมากกกกกกก พอล้างจานเสร็จแล้วต้องขัดซิงค์ต่อ เอาผ้าเช็ดให้แห้งด้วย ดังนั้นกระบวนการล้างจานจะไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง นอกจากจานข้าวที่กินแล้วก็รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องครัวที่ใช้ทำกับข้าวด้วยเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำความสะอาดเหมือนกัน จำได้ว่ามีอยู่ครั้งนึงโฮสต์จัดปาร์ตี้ที่บ้านแขกมามากมาย เราก็ได้รับเชิญร่วมทานข้าวด้วยมีเด็กจีนเพื่อนร่วมบ้านด้วยอีกคนหนึ่ง วันนั้นเป็นวันแห่งชะตากรรมการล้างจานเลยค่ะ เพื่อนโฮสต์มานับรวมหัวแล้วเกือบ ๆ 10 คนวันนั้นจัดเต็ม มีทั้งของคาวของหวานไวน์กาแฟ คิดดูแล้วกันว่าจานกองพะเนินขนาดไหน พออิ่มของคาวหวานกันแล้วแขกกับโฮสต์ไปคุยต่อดื่มกาแฟกัน เรากับเมตจีนมองหน้ากันมหกรรมล้างจานแน่นอนวันนี้ เครื่องครัวที่ใช้ จานชาม แก้วน้ำ แก้วไวน์ วันนั้นเนี่ยหลังจากเก็บโต๊ะอาหารแล้วเรากับเมตจีนเริ่มล้างจานกัน เสร็จตอนแขกลากลับบ้านพอดีเกือบ ๆ สองชั่วโมงเฉพาะล้างจาน วันรุ่งขึ้นเรากะเมตนินทาโฮสต์ไปสามบ้านแปดบ้านเลยค่ะ ทุกคนในชั้นเรียนเพื่อนฝูงรู้กันหมด เพื่อนซาอุฯบอกว่า นี่ยูควรจะบอกโฮสต์ยูนะว่ายูมาเรียน ยูไม่ได้เป็นคนใช้ (เอ่อ ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แค่มาบ่นระบายอารมณ์ อิ อิ) จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 19:30:19

ความคิดเห็นที่ 96 ลอนดอนนะคะ รถเมล์ต้องโบกถ้าจะขึ้น ไม่งั้นเค้าไม่จอด ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่เสียเวลาคนในรถที่ไม่ได้จะลงป้ายนี้ แต่บางทีเราก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์รออยู่ เงยหน้าขึ้นมาอีกที อ้าวมันวิ่งเลยเราไปแล้ว เสียใจ รถเมล์มีชื่อป้ายทุกป้าย บอกทุกป้ายว่าจะถึงป้ายอะไรแล้ว เราว่าทำให้เดินทางสะดวกดี ถ้าอ่านแมพรถเมล์ได้นะ อยากไปไหนในลอนดอนได้สบายมากไม่ต้องกลัวหลงทางเลย รถเมล์มีเวลาวิ่งว่ามาเมื่อไร ทุกกี่นาที คันแรกเมื่อไรคันสุดท้ายเมื่อไร บางสต็อปมีป้ายบอกด้วยว่าคันไหนจะมาแล้วบ้าง เคยเจอคนแอบกดปุ่มเปิดประตูฉุกเฉินจากด้านนอก ขึ้นประตูหลังมานั่งรถเมล์ฟรี คนขับก็ไม่ทำอะไร เค้าไม่ออกมาจากห้องคนขับเด็ดขาด รถเมล์สองชั้น ชั้นบนห้ามยืน บางครั้งรถแน่นแล้ว คนขับก็ไม่จอดรับคนเพิ่ม เป็นเมืองไทยสิ อัดกันเข้าไป บันไดเลื่อนในทูบทุกคนชิดขวา เลนซ้ายเอาไว้ให้คนเดิน (แต่อันนี้ทุกคนน่าจะรู้แล้วเนอะ) ห้างปิดเร็วมาก สองทุ่มปิดแล้ว ซัมเมอร์อาจจะเปิดนานขึ้นอย่างมากก็สามทุ่ม ส่วนวันอาทิตย์ยังไงก็ปิด ห้าโมง ประทับใจออยสเตอร์ การ์ดมาก ใช้ขึ้นอะไรก็ได้ ทูบ บัส ดีแอลอาร์ สะดวกมากที่สุด น้ำยาล้างจานที่นี่เค้าก็ล้างไม่ได้ล้างฟองหมดค่ะ เค้าบอกว่าน้ำยาล้างจานไม่มีสารเคมีเลย มีแค่ตัวสลายความมันเท่านั้นเอง (มิน่าล่ะ เรามือไม่ลอกเลย ปกติอยู่เมืองไทยล้างจานมือลอกจริงจัง) ประทับใจบัตรเดบิตด้วย จะซื้ออะไรที่ไหนก็สะดวก ไม่ต้องพกเงินสด ไม่คิดค่าธรรมเนียมด้วย กดรหัสพินเอาสะดวกกว่าต้องเซ็นชื่อตั้งเยอะ คนที่นี่อาบน้ำน้อยจริง ๆ ด้วย เรากลายเป็นอาบวันละครั้งเหมือนกัน เพราะเหงื่อไม่ออกจริง ๆ คนที่นี่ทิ้งกระดาษทิชชูลงโถส้วม ไม่ทิ้งลงถังขยะข้างนอก บางทีชักโครกลงไม่หมด กระดาษลอยอยู่อย่างนั้นก็เป็นเรื่องปกติ คนที่นี่ชอบนั่งตากแดด ตอนแรกมาก็งง ตอนนี้เป็นกับเค้าเหมือนกัน แดดออกแล้วมันทนอยู่ในบ้านไม่ได้ต้องหาเรื่องออกไปเล่นข้างนอก ซื้อข้าวไปกินในสวน คนนั่งกันเยอะมากเหมือนรอดูหนังกลางแปลง นึกภาพสวนจตุจักรคนเยอะแบบนั้นไม่ออกเลยจริง ๆ คริสป์ หรือ มันฝรั่งแผ่นทอด ๆ เป็นอาหารมีประโยชน์แฮะ ที่เมกาก็เป็นแบบนี้จริง ๆ แล้ว บ้านเรากินทีไรแม่ว่าทุกที อาหาร น้ำ แพง เสื้อผ้า ของใช้เลยแลดูถูกไปเมื่อเทียบกับราคาอาหาร แต่ก่อนกินอะไรไม่ลง ตอนนี้ชินละ แต่พ่อแม่คนให้ตัง ยังไม่ชิน ฮ่าๆ ปารีส กราฟฟิติเยอะมากกกกก จนตกใจ ต้องเปิดประตูเมโทรเอง ดีนะเห็นคนอื่นเค้าทำก่อน ตอนเราจะลงเลยไม่เสล่อเท่าไร มีแต่คนบอกว่า คนปารีสไม่มีมารยาท เจอหลายคนที่ก็ใจดีช่วยเราถือกระเป๋าที่เมโทรนะ (เพิ่งมาจากสถานีรถไฟของเยอะมาก ๆ) เบเกอรี่ทุกร้าน อร่อยมาก เดินเข้าร้านนี้ เดินกิน หมด เดินเข้าร้านใหม่ ก็อร่อยหมดเลย เวลาไปหอไอเฟลแล้วมีคนมาขายพวงกุญแจที่ระลึก อย่าเพิ่งรีบซื้อ เค้าจะให้ราคาต่ำลงเรื่อย ๆ เราเคยเห็นคนซื้อได้ เก้าอัน หนึ่งยูโร (ตอนแรกขาย ห้าอัน หนึ่งยูโร) เข้าปารีสไปได้ นอกจากที่สถานีรถไฟแล้ว ไม่มีภาษาอังกฤษเลย เดินทางไปไหนมาไหน สั่งอาหาร สนุกดี เหมือนได้ผจญภัยเลย เบลเยี่ยม กิน ชิปส์ (ฟรายส์) เป็นอาหารหลัก กินกับทุกอย่างจริง ๆ แปลกใจอีกนั่นแหละ เมืองไทยเราว่ากินมากมันไม่ดี บรัสเซลล์ ถนนหนทางงงได้อีก แต่ยังดีมีคนพูดภาษาอังกฤษได้เยอะ ภาษาหลักเค้าเราว่าฝรั่งเศสนะ ในบรัสเซลล์ แต่พอออกไปเกนท์นี่ มีแต่คนพูดดัชท์ บรูจก็เมืองท่องเที่ยว ป้ายอังกฤษและคนพูดอังกฤษได้เยอะกว่าในบรัสเซลล์อีก เมโทรเปิดประตูเองเหมือนกัน ไม่่มีประตูกั้น เดินเข้ากันไปได้เลยฟรี ๆ แต่เราซื้อตั๋ววันไปแล้วก็เลยไม่ได้สนใจ ยังคงสอดบัตรใส่เครื่องก่อนเข้าทุกครั้ง ในฝรั่งเศสยังไม่เท่าไร ที่เบลเยี่ยมนี่คนเอเชียคงเด่นมาก เรากับเพื่อนเดินไปไหนมีแต่คนมองเหลียวหลังกันหมดจริง ๆ แต่ก็ไม่ค่อยเห็นคนเอเชียเท่าไรเลยจริง ๆ นั่นแหละ บางคนก็มาเจโปแน กับเราและเพื่อน ๆ อยู่ได้ ไม่ใช่ เป็นคนไทยโว้ยยยย ถ้าไม่งั้นก็จะหนีห่าว เราว่าหน้าเราก็ไม่จีนนะ จากคุณ : PuppyPower (PuppyPower) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 21:56:27

ความคิดเห็นที่ 97 เยอรมัน -  กินหมูบดผสมเครื่องเทศป้ายขนมปังทั้งยังดิบๆ เราเลยประยุกต์หมูที่ว่านี่มาทำบะช่อใส่แกงจืดแทน - ผู้คนเกลียดกลิ่นกระเทียม เพื่อนของเพื่อนเคยโดนฝรั่งตำหนิในรถรางว่า คนไทยมีกลิ่นกระเทียมระเหยออกมาจากตัว ทำให้เขาต้องทนสูดอากาศเหม็นๆ เพื่อนคนนี้เลยสวนกลับว่า แล้วเนยแข็งที่คนเยอรมันชอบนักหนาล่ะ กลิ่นอย่างกับของเน่าฝรั่งยังกินไปได้เลย พวกคุณก็เหม็นเหมือนกัน  งานนี้ฝรั่งอึ้ง - ล้างจานโดยไม่ล้างคราบน้ำยาล้างจานอีกที - พบแพทย์ต้องนัดล่วงหน้า (เราเลยพกยาแก้อักเสบติดตัวไปเลย อย่างน้อยแน่ใจว่าไม่ตายก่อนถึงมือหมอ) - เคยนำของฝากไปให้โปรเฟสเซอร์ โดนถามกลับว่า "อยากจะติดสินบนฉันหรือไง" หน้าชาไปเลยอายมาก แต่ก็อธิบายจนอ.เข้าใจ - ลุกจากเก้าอี้ในรถรางให้คนแก่นั่ง แต่เขาก็ไม่ยอมนั่งกัน    - ในทีวีไม่มีการเบลอเซ็นเซอร์ภาพ คำว่าอนาจารคือต้องเห็นอวัยวะเพศ ตอนดึกๆ บางช่องมีหนังโป๊อีกต่างหาก - โฆษณาบริการนางทางโทรศัพท์ในทีวีตอนดึกๆ ที่หลอนสุดๆ คือ  มีคุณย่าคุณยายมาโฆษณาด้วย (โปรดไปเลี้ยงหลานเถอะ อย่าพยายามเซ็กซี่ใส่เสื้อหนัง หรือ แต่งหน้าจัดๆ เลย ขนลุก) - กุญแจหอดอกเดียว ไขได้ตั้งแต่ ประตูตึก ประตูห้อง ห้องเก็บของ ห้องซักรีด เลิศมากๆ - มีการเก็บเงินค่าคลื่นโทรทัศน์ ประมาณว่า ถ้าคุณมีเครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ก็ต้องจ่าย เพื่อเป็นการอุดหนุนรัฐ  ซึ่งเราแอบคิดว่าไม่แฟร์ เพราะเห็นช่องเอกชนก็โฆษณาเพียบ ซึ่งเขาก็ต้องจ่ายค่าสัญญาณให้รัฐแล้วไม่ใช่หรือไง - เวลาไปเข้าห้องน้ำในห้างต้องให้ทิปคนทำความสะอาด เราก็ว่าไม่แฟร์ เพราะฉันก็ซื้อของห้างคุณแล้ว มันไม่ได้บวกไปในราคาของแล้วหรือไง สเปน - เปิดฮีตเตอร์ตอนเช้าห้องอุ่น และ ปิดตอนกลางคืน หนาวทรมานสุดๆนอนแทบไม่หลับไม่รู้ทนกันเข้าไปได้ยังไง - ผู้คนดีดก้นบุหรี่ทิ้งลงพื้นภายในอาคารสนามบิน อิตาลี - รถไม่หยุดตรงทางม้าลาย หวิดโดนรถชนตรงหน้าวาติกัน ไอ้เราก็นึกว่าเขาจะหยุดให้อย่างที่เยอรมัน อเมริกา - ณ ปาร์ตี้บาร์บีคิว  เจ้าภาพบอกอย่างภาคภูมิใจว่าไม่เคยล้างเตาปิ้งเลย อึ้งครั้งที่ 1 ถ้วยและจานกระดาษปลิวตกดิน เราจะเอาไปทิ้ง เขาบอกว่าไม่ต้อง พร้อมใส่กลับห่อรวมกับของที่ยังสะอาด  อึ้งครั้งที่ 2 แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 54 22:16:46 จากคุณ : Rotkaeppchen เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 22:14:36

ความคิดเห็นที่ 98 เราไป "ปากีสถาน" ก่อนไปหวั่นๆว่าจะเจออะไรที่น่ากลัวรึเปล่าเพราะเคยได้ยินมาตลอดว่าเหตุการณ์ไม่ค่อยสงบนัก โรงแรมที่เราพักหรูหรามากค่ะ แต่ทางเข้ามีเครื่องตรวจระเบิด อาวุธที่เข้มงวดมาก ทหาร ตำรวจ อาวุธสงครามครบมือล้อมรอบโรงแรม เห็นแล้วอึ้งไปเลยว่าชั้นจะรอดมั้ยเนี่ย เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่านี่คือเหตุการณ์ปกติ อึ้งไปเลย นึกว่าจะมีสงคราม ที่เดียวกัน ปากีสถานนั่นแหละตื่นเช้ามาเราก้ไม่รุ้จะทำอะไร เลยออกไปเดินเล่นสวนสาธารณะใกล้โรงแรม ลองเสียงออกไปเจรจากับคุณทหาร ตำรวจว่าได้มั้ย จากการเจรจาเค้าอนุญาตค่ะ บอกว่าไม่อันตรายหรอก แถมคุณๆหน้าโหดๆเหล่านี้ใจดีมาก ยิ้มแย้ม คุยเก่งมาก แถมขี่อายสุดๆ เป้นอะไรที่ทำให้เราอึ้ง ทึ่งสุดๆค่ะ ที่ปากี เช่นกันคณะของเราเดินทางออกไปตัวเมืองอิสลามาบัดเพื่อไปอีกเมืองนึง สองข้างทางเปล่าเปลี่ยว เว้งว้างมากๆ ระหว่างที่คนขับรถขับไปเรื่อยๆ เราก้สังเกตเห็นว่ามีรถบรรทุกคันนึงขับกวดตามรถพวกเรามาร่วมชั่วโมง ใจเรางี้ลงไปตาตุ่มกลัวค่ะ คิดไปสารพัด คนขับรถของพวกเราก็นิ่งมากไม่พูดอะไรสักคำ กระทั่งถึงจุดพักรถ คณะเราก็จอดพัก เพราะมีคนอยู่เยอะ รถบรรทุกคันนั้นจอดป๊าบ ใกล้ๆรถของคณะ คนในรถสองสามคนเดินยิ้มออกมาหาพวกเราเพือถามเราว่ามาจากไหนกัน เป้นคนประเทศไหน จากนั้นก็อวดรถบรรทุกคันงามให้พวกเราถ่ายรูป (ที่นั่นเค้าจะแต่งรถบรรทุกสีสันลวดลายได้แจ่มๆทั้งนั้นค่ะ) สักพัก เรานึกได้ว่าก่อนหน้านั้นเราเคยไปถ่ายรูปรถบรรทุกคันนึงไว้แต่ถ่ายไม่อีกภาพนะคะ เพราะรีบ แต่หลังจากได้คุยกับลุงคนขับรถบรรทุก ปรากฎว่าเป็นคนเดียวกันกับคันที่เราถ่ายไว้ ลุงบอกว่าเห็นเราถ่ายรถเค้าไว้แต่รีบๆลุงเลยขับตามมาให้ถ่ายเพิ่ม ลุงแกอวดรถแบบว่าภูมิใจมากกกกกกกกกกก เจอแบบนี้อึ้ง ในความพยายามค่ะ จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 23:25:25

ความคิดเห็นที่ 99 เยอรมันครับ - ถนนที่เยอรมันต้องมีชื่อทุกเส้น ไม่ว่าสั้นยาว ใกล้ไกล ถนนเข้าที่พักสั้นๆ ประมาณห้าสิบเมตรก็มีชื่อ - ไปเยอรมันใหม่ๆ วันแรกเดินออกไปซื้อของกินวันอาทิตย์ ซื้อแล้วเดินกลับดันหลงทาง ไปถามทางหนุ่มสาวเยอรมันคู่หนึ่ง เขาก็ไม่ทราบ แต่พาเดินหาเกือบชั่วโมงจนกลับมาถูก ซึ้งใจมาก - รถเมล์ที่เยอรมันเมื่อผ่านป้ายแม้ไม่มีคนยืนรออยู่ คนขับก็จะขับชะลอจนเกือบหยุดตอนถึงป้าย แล้วค่อยออกรถต่อ - รถเมล์เหมือนกัน ผมยืนรอที่ป้าย มีมาคันนึงแต่คนละสาย คนขับก็ขับมาจอด แล้วพอไม่มีคนขึ้นถึงขับออกไป - วันหนึ่งยืนกินเบียร์อยู่ข้างทางตอนงานเบียร์ที่มิวนิค วัยรุ่นเยอรมันสองคนเดินมาขอเบียร์กิน ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง จะให้กินจากขวดที่ยกอยู่ได้เปล่า ก็ถาม เขาก็บอกไม่เป็นไร แต่ผมก็เกรงใจ เลยให้ตังค์ไปซื้อเบียร์ บอกให้ซื้อมาฝากด้วย ให้ตังค์ไปสิบออยโร รอดูว่าจะกลับมาหรือเปล่า ปรากฎว่ากลับมาจริงๆ พร้อมเบียร์หกขวด ฮ่าๆๆ - วัยรุ่นเยอรมันเมาแล้วเดินกันเป็นกลุ่มๆ แล้วมันชอบตะโกน ไม่รู้อะไรกันนักหนา พอเดินผ่านเราก็ทักว่า Hallo Mister ทำไมต้องมิสเตอร์ด้วย งงครับ เจอสี่ครั้งแล้ว - ยืนเรากดเงินที่ตู้ มีผู้ชายคนนึงยืนแถวนั้นแต่ไม่ได้เข้าแถว พอผมจะกดก็บอกว่า ผมรออยู่ก่อนแล้วครับ อ้าว จะรู้เร้อว่านายยืนรอกดตังค์ - ผมย้ายจากมิวนิคไปอยู่เกิ๊ตทิงเกน เมืองมหาลัย วันก่อนผมจะไปศุลกากรเยอรมัน ปั่นจักรยานพร้อมเอาแผนที่มาดูแว็บนึงตอนกำลังปั่น เจอคนนึงปั่นจักรยานอยู่คนละเลนส์ ร้องบอกว่า ระวังอันตรายนะคะ โชคดีค่ะ - สถานการณ์เดียวกันกับข้างบน ไปจอดจักรยานรอข้ามถนนพร้อมเอาแผนที่มาดู ลุงคนนึงปั่นจักรยานมาพร้อมขวดพลาสติกเต็มถุงใหญ่ (คงกำลังจะเอาไปขายคืนที่ร้าน) ถามว่า จะให้ช่วยอะไรมั๊ย ผมก็เลยถามทาง เขาก็บอกว่า บอกไปก็กลัวว่าผมจะหลง เดี๋ยวเขาจะพาไป แล้วก็พาผมปั่นจักรยานไปไกลราวห้ากิโลเมตรจนถึงที่ หูยย ซึ้งใจมาก ประเทศเดียวก่อนครับผม จากคุณ : ไอ้คุณแหลม เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 04:59:36

ความคิดเห็นที่ 100 ไปเที่ยว sentosa จะไปเข้าห้องน้ำ ไปเจอป้าคนหนึ่ง นั่งทำธุระอล่างฉ่างไม่ปิดประตู เราตกใจถอยแทบไม่ทัน ไปเดินเล่น แล้วเดินผ่านลิฟท์ มีคนเดินเข้าลิฟท์ไปแล้วเค้ากดรอเรา เลยจำเป็นต้องเข้าไป ทั้งๆที่บ้านตรูก็ไม่ใช่ และก็ไม่ได้อยากเข้าด้วย แต่ไม่อยากให้เขาเสียน้ำใจ  พอคนๆนั้นเค้าออกจากลิฟท์ไปแล้ว เราก็กดลงแล้วไปเดินเล่นต่อ -*- นั่งๆกินข้าวอยู่ โต๊ะข้างๆเดี๋ยวขากถุ... เดี๋ยวขากถุ... กลืนแทบไม่ลง บอกสามีย้ายโต๊ะด่วนเลย มีเพื่อนเป็นคนไทยด้วยกันนี่แหละ แต่วันหนึ่ง ได้ยินสามีเค้าพูดว่า ไม่อยากให้เมียเค้าสุงสิงกับคนไทยมากเกินไป เดี๋ยวจะพาเมียเค้าเสียคน เพราะคนไทยขี้เมา เจ้าชู้ ชอบเที่ยวหัวราน้ำ เอ่อ เราได้ยินก็หน้าชาไปเลย ตั้งแต่นั้นเราไม่คบเพื่อนเราอีกเลย เลิกติดต่อด้วย เพื่อนโทรมาก็คุยด้วยตามมารยาท แล้วก็จะตัดบทว่าเราจะไปทำธุระแล้ว ไม่ว่างแล้ว คือมันเสียความรู้สึกน่ะนะ เล่นเหมารวมแบบนี้ มันใช้ได้ที่ไหน ทางม้าลายที่สิงคโปร์ ก่อนจะข้ามคุณต้องดูให้ดีๆ ว่ารถเค้าหยุดให้คุณแล้ว เพราะไม่งั้นคุณมีสิทธิ์ถูกรถชนเอาได้ง่ายๆ เพราะบางคันจะไม่หยุดให้คุณข้าม แถมถูกด่าและกดแตรไล่อีกแน่ะ ตกลงตรูผิดเหรอเนี่ย -*- จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 09:08:52

ความคิดเห็นที่ 101 แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 54 09:32:15 จากคุณ : Once agin in SEPTEMBER เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 09:16:10

ความคิดเห็นที่ 102 อาหมวยเมืองจีน "ของแท้" ต้องมีขนจุ๊กกุแร้ ฟู่ๆ นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เพราะวันนี้ไปจอดรถหน้าเครื่องเอทีเอ็ม พอเปิดประตูผลัวะ ก็เจอเสลดสองกองใหญ่ เกือบจะถอยรถไปหาที่จอดใหม่แล้วละ แต่เห็นน้ำมันแพง อย่าเรื่องมากเลยเรา ก็ก้าวข้ามไป รู้สึก "หยะแหยง" บอกไม่ถูก ขณะที่พิมพ์อยู่นี้ ยังรู้สึก จี๋ยๆ อยู่แลยอ่า ฮือๆๆ ทำให้นึกถึงเมืองจีนขึ้นมาทันใด เป็นที่มาของเรื่องอึ้งๆ มาแบ่งกันจึ๋ยหน่อยเน๊อะ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 54 10:22:29 จากคุณ : มรรคณิชา เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 10:16:57

ความคิดเห็นที่ 103 ชุกประจำชาติของเด็กน้อยชาวจีน คือต้อง ผ่าตรูด ค่ะ ปวดขึ้นมาได้ไม่ต้องเสียเวลาถอดใส่ นั่งยองปล่อยมันตรงนั้นล่ะ ไม่สนว่าเป็นที่สาธารณะหรือไม่ แม้แต่ในงานShanghai World Expo ในพาวิลเลี่ยนไทยเรา เจอเป็นหย่อมๆอยู่ทุกวัน จากคุณ : JinHanNa เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 11:40:22

ความคิดเห็นที่ 104 แม่สามีเราอายุประมาณ 50 กว่าชอบฟังเพลงของ lady gaga มาก แถมมีรูปนักร้องคนนี้เป็นภาพพักหน้าจอคอมซะด้วยนะ งึม งึม ......................................................................... เราต้องการประหยัดก็เลยบอกสามีเราว่าเปลี่ยนจากครีมอาบน้ำมาใช้สบู่ดีกว่าเพราะสามีเราใช้ครีมอาบน้ำได้เปลืองมาก   สามีเราตกใจรีบห้ามใหญ่เลยบอกว่าใช้สบู่ไม่ได้มันอันตรายมากนะเธอ เราทำหน้าเหรอหราก่อนจะปล่อยกร๊าก บ้าเหรอเธอ มันอันตรายตรงไหนกัน หัวเราะซะจนปวดท้องเลย ก็ถ้าตกพื้นแล้วไปเหยียบเข้าจะเกิดอุบัติเหตุได้น่ะสิ เออ มันก็น่าคิดนะ แต่นี่ที่เมืองไทยคนส่วนใหญ่ก็ใช้สบู่นะ ยังไม่เคยได้ยินว่าใครเป็นอะไรเพราะเหยีบสบู่เลย แล้วถ้ามันตกพื้นเธอก็หยิบขึ้นมาทันทีสิ จะได้ไม่เผลอไปเหยีบมัน โธ่ .......................................................................... สามีเราเป็นคนรักษาความสะอาดม๊ากกกกก ทำให้เรารู้สึกเลยว่าตัวเราเป็นคนเกือบสกปรก แต่เวลาพ่อคุณอาบน้ำเสร็จเมื่อเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวแล้วก็จะเอาผ้าผืนนั้นแหละวางลงบนพื้นห้องน้ำ ถึงแม้จะมีพรมผืนเล็กวางที่ผืนอยู่แล้ว แล้วก็ออกจากอ่างมาเหยียบบนผ้าเช็ดตัว เขาบอกว่าต้องทำอย่างนี้ไม่งั้นลื่น จากนั้นก็เช็ดพื้นห้องน้ำที่มีหยดน้ำประปรายกับผ้าเช็ดตัวผืนเดิม ใช้เท้าเหยีบผ้าเช็ดตัวแล้วถูไปมาตามพื้นซะด้วยนะ วันต่อๆมาอาบน้ำอีกก็ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเดิมนั่นแหละเช็ดตัว  ผ้าเช็ดตัวหรือผ้าคลุมอาบน้ำเขานี่มอมแมมมากเลยอ่ะ ที่น่าโมโหคือบางทีเขาก็ใช้ผ้าเช็ดตัวของเราทำแบบนั้น เราไม่รู้ก็เอามาเช็ดตัว เช็ดหน้า เช็ดหัว มิน่าบางทีรู้สึกว่ากลิ่นมันเปลี่ยนไป๋ เมื่อรู้ความจริงเราก็เลยต้องคอยถามก่อนเสมอว่าได้ใช้ผ้าเช็ดตัวเรารึเปล่า แล้วตอนหลังก็เลยหาผ้าเช็ดตัวผืนนึงมาวางไว้บนพื้นให้เขาเหยียบไปเลย จากคุณ : piscellino เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 12:51:38

ความคิดเห็นที่ 105 อ่านคห.104 ที่บอกว่าสามีรักความสะอาดจนต้องเอาผ้าเช็ดตัวเช็ดพื้น อันนี้เข้าใจได้ แต่ที่ขัดกันก็ตอนเอาผ้าเช็ดตัวที่เช็ดพื้นมาเช็ดตัวนี่แหละ ทำปายด้าย จากคุณ : Friday13th เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 13:51:22

ความคิดเห็นที่ 106 คห. 104 เรื่องเอาผ้าเช็ดตัวเช็ดรองที่พื้นกันลื่นนั้น เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะคนที่บ้านท่านจะเดินบนผ้าเช็ดตัวถูกไปเรื่อย ๆ กลัวว่าพื้นจะเปียกหรืออย่างไร และไอ้ผ้าผืนนั้นก็เช็ดหน้า เช็ดหัว เช็ดทั้งตัว อันนี้ ยืนยัน เรื่องสั่งน้ำมูก ทำมันได้ทุกที่ ทุกเวลาซิน่า คงอื่นเค้ากำลังทานข้าว ท่านเล่นสั่งต่อหน้าผู้คน ทำไปได้ จากคุณ : Win Preston เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 15:02:00

ความคิดเห็นที่ 107 ตู้ ATM ได้บัตรคืน ก่อนรับเงิน กลับไปเมืองไทยกดเงินที่สุวรรณภูมิ รับเงินแล้วเดินตัวปลิว กว่าจะรู้ตัวว่าลืมบัตร ก็บ่ายแก่ๆ แล้ว T_T จากคุณ : GuGam เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 15:06:44

ความคิดเห็นที่ 108 ครั้งเเรกที่ไปเยี่ยมบ้านเเฟนที่ต่างประเทศ พอไปถึงรู้สึกกระหายน้ำมากมาย เลยบอกเเฟนว่าเอาน้ำให้ดื่มหน่อยซิ เเฟนก็เทใส่เเก้วมาให้ ไอ้เราก็กะจะดื่มให้ชื่นใจซะหน่อย พอเข้าปากเท่านั้นเเหละ คายกลับทันที เเละด้วยความโง่ ไปต่อว่าเเฟนว่า ขอน้ำเปล่านะไม่ได้ขอโซดา เเฟนบอกนี่เเหละน้ำ เเต่เป็นน้ำเเร่อัดเเกส เเป่ววววว ................................................................................................................. ไปทานอาหารที่ร้านอาหารฝรั่งเศส เขาจะมีขนมปังมาให้ในระหว่างที่รออาหาร เราก็หยิบขนมปังมาเเล้วเเบ่งครึ่งนึง อีกครึ่งเอาไว้เผื่อคนอื่น เเต่ที่ไหนได้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำซะงั้น ควรจะหยิบไปวางบนจานตัวเองทั้งชิ้นเลย ................................................................................................................. เพื่อนชาวเกาหลีกับญี่ปุ่นกดชามาจากเครื่องหยอดเหรียญเเล้วดื่มเลย ไม่มีการเป่าใดๆทั้งสิ้น ขนาดเราเป่าเเล้ว 2 ทียังลวกปากลวกลิ้นพองเลย ทึ่งมากๆ จากคุณ : เเบม (Chip_biscuit) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 15:11:01

ความคิดเห็นที่ 109 ดูแล้วเมืองไทยสบายที่ซู้ด~~~ เย่ๆๆๆๆ จากคุณ : Darth Aiglatson เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 16:18:11

ความคิดเห็นที่ 110 คห.107 แก้มตรงกันข้ามกับพี่อ่ะ พี่ยืนรอให้ตังค์ออกมาก่อน บัตรเลยโดนยึด คนอาหรับขับรถ มือซ้ายถือหนังสือพิมพ์ มือขวาถือแก้วชา?????? แล้วคนอาหรับชอบขับรถพร้อมทั้งเอาเท้ามาพาดไว้ที่ขอบหน้าต่าง มีครั้งนึงเชคของที่นี่ขับรถสวนกันเจอคนเอาเท้าพาดไว้ที่หน้าต่างเวลาขับเลยออกกฏหมายมาว่า ถ้าตำรวจเจอให้ปรับได้เลยเพราะอันตราย จากคุณ : O_NeG เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 16:37:45

ความคิดเห็นที่ 111 เรื่องคนจีนนี่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน มารยาทบนโต๊ะอาหารเหมือนกันหมด เพื่อนเรามาจากชาติพวกนี้ ไปกินข้าวกันแรก ๆ เพื่อนก็กินไป:-)กระดูกไป (บนโต๊ะ) เราก็....ถามตรง ๆ ว่า มันแอบไม่มีมารยาทนิดหนึ่งเปล่า...เพื่อนบอกว่า กินแบบนี้แหละถูกแล้ว ออสซี่ขับรถมีมารยาทมาก แค่เปิดไฟเลี้ยว คุณก็จะเปลี่ยนเลนได้อย่างทันที แม้ว่าจะมาผิดเลน แล้วแทรกแถวที่แสนยาว (เค้าก็ให้เข้า) คนข้ามถนนเป็นใหญ่ ตรงทางม้าลาย...ไม่มีไฟ แต่ทุกคนก็ยังหยุดรถให้ข้าม (กลับเมืองไทยไปรอบที่แล้ว เกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะเห็นทางท้าลายก็ข้ามเลย) ออสซี่ใส่รองเท้าจนถึงห้องนอนเลยทีเดียว ไปบ้านเพื่อนพอถอดรองเท้าเพื่อนถามว่า ถอดทำไม จากคุณ : sanow (sanow) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 20:20:03