|
คห. และ 75 - 77 พรบ.สัญชาติ พ.ศ.2508 หมวด 2 "การเสียสัญชาติไทย" "มาตรา ๒๒ ผู้ซึ่งมีสัญชาติไทยและได้แปลงสัญชาติเป็นคนต่างด้าว หรือสละสัญชาติไทย หรือถูกถอนสัญชาติไทยย่อมเสียสัญชาติไทย"
"มาตรา ๕ การได้สัญชาติไทยตามมาตรา ๙ มาตรา ๑๒ หรือมาตรา ๑๒/๑ การเสียสัญชาติไทยตามหมวด ๒ หรือการกลับคืนสัญชาติไทยตามหมวด ๓ ให้มีผลต่อเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้มีผลเฉพาะตัว"
คห. 27 และ 37 พรบ.สัญชาติ พ.ศ.2508 2 "การเสียสัญชาติไทย" "มาตรา ๑๔ ผู้มีสัญชาติไทยซึ่งเกิดในขณะที่บิดาหรือมารดาเป็นคนต่างด้าวและได้สัญชาติของบิดาหรือมารดาด้วยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติของบิดาหรือมารดา หรือผู้ซึ่งได้สัญชาติไทยตามมาตรา ๑๒ วรรคสอง หรือมาตรา ๑๒/๑ (๒) และ (๓) ถ้ายังประสงค์จะถือสัญชาติอื่นอยู่ต่อไป ให้แสดงความจำนงสละสัญชาติไทยตามแบบและวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่มีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์" คห.26, 48, 44 ที่อเมริกา กฎหมายอเมริกันมีผลบังคับใช้ ถ้ากฎหมายอเมริกันยินยอมให้ประชาชนถือสองสัญชาติได้ ประชาชนอเมริกันที่อาศัยอยู่ในอเมริกาจะถือสองสัญชาติก็ไม่ผิดกฎหมายอเมริกันแต่อย่างใด กฎหมายไทยไม่มีอำนาจศาล (jurisdiction) การที่เจ้าหน้าที่สถานฑูตตอบอย่างนั้นถูกต้องแล้วตามกฎหมายอเมริกัน
แต่ในประเทศไทย กฎหมายไทยมีผลบังคับใช้ และมี jurisdiction ดังนั้น การที่เจ้าหน้าที่ตม. เตือน จขกท. ว่า "อย่าให้เห็นหนังสือเดินทางของเมกาอีก" และ บันทึกลงในเล่มพาสปอร์ตไทยของ จขกท. เป็นลายลักษ์อักษร ถือเป็นหลักฐาน สามารถนำไปใช้ในกระบวนการศาลต่อไปในอนาคตได้
การที่บุคคลผู้มีสัญชาติไทย ใช้หนังสือเดินทางของต่างประเทศ เดินทางเข้า-ออกไทย เป็นการสำแดงว่าบุคคลผู้นั้น "กระทำการยอมรับว่าตนเป็นคนต่างด้าว" และอาจทำให้ "บุคคลนั้นไม่สามารถถือสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นได้ในขณะเดียวกัน" (ข้อความในเครื่องหมายคำพูดนำมาจากลิ้งค์ของก.ต่างประเทศที่ จขกท. ให้มา)
ดังนั้นจึงอาจเข้าข่าย "การเสียสัญชาติไทย" ตามมาตรา 22 ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ในดุลพินิจของศาล และมีผล "ต่อเมื่อได้ประกาศในราชกิจานุเบกษา" ตามมาตรา 5 ของ พรบ.นี้
จากคุณ |
:
หัวหมอ
|
เขียนเมื่อ |
:
2 มิ.ย. 54 18:26:50
A:101.108.21.115 X: TicketID:319458
|
|
|
|
|