::::::F-1 Visa แชร์ประสบการณ์::::::::
|
|
ก่อนอื่นต้องขอบคุณ ความรู้ทุกๆท่านในห้องไกลบ้านนี้ ที่ทำให้เราคนนึงจากที่แอบเก็บข้อมูลเรื่องวีซ่านักเรียนอเมริกามาเงียบๆ จนกระทั่งวีซ่าผ่าน เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นการเผยแพร่ให้กับคนอื่นต่อไปค่ะ เราไปสัมภาษณ์มาวันจันทร์ที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมาค่ะ
ประวัติ จขกท.นะคะ
เคยไป work มาตอนจบปี 4 ปี 2008 กลับมาไทยทำงานออฟฟิศปกติ ใช้คุณอาเป็นสปอนเซอร์ จะไปเรียนภาษาก่อนเพื่อต่อโทค่ะ โดยเราลงคอร์ส TOEFL ไป 3 เดือน
เอกสารตัวเรา (ที่พี่ๆเสื้อชมพูแยกออกมาใส่แฟ้มให้นะคะ) พาสปอร์ต I-20 DS 160 แผ่นแรกแผ่นเดียว ที่กรอกๆเป็นข้อๆไม่เอา ใบเสร็จค่าวีซ่า สลิปสีขาว ส่วนใบสีฟ้าที่กรอกที่ไปรษณีย์ไม่ใช้ค่ะ ใบเสร็จชำระค่า SEVIS FEE ปริ้นท์จากเว็บเลย Transcript ใบรับรองงานภาษาอังกฤษ พี่เค้าถามว่ายังทำงานอยู่รึเปล่า ตอบไปว่าใช่ค่ะ เพราะยังไม่ได้แจ้งลาออก กะว่าวีซ่าผ่านค่อยแจ้ง
เอกสารสปอนเซอร์ (คุณอาเขยค่ะ ทำงานกฟผ.ที่เราเตรียมไป) สำเนาบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ที่แต่งงานกะอาหญิงเรา ใบรับรองทำงานจากกฟผ.เป็นภาษาอังกฤษ ใบรับรองเงินในกองทุนพนักงานกฟผ. 3,xxx,xxx
คุณอา ไม่มีเงินในสเตทเม้น เงินคงเหลือแค่ 2 แสนกว่าบาท กรี๊ด จะรอดมั้ยเนี่ย แต่ก็ลองยื่นดู....
เริ่มต้นที่ฝากมือถือไว้ที่ Security Check แล้ว เข้าไปให้พี่ๆเสื้อชมพูแยกเอกสาร เอาแค่ของเราที่ list ไว้ด้านบนแล้วค่ะ
แยกใส่แฟ้ม (ใจดีจังให้แฟ้มอันใหม่เราด้วยแฮะ)
ที่เหลือเก็บเข้ากระเป๋าค่ะ
จากนั้นเดินไปสู่ประตูด้านในห้องสัมภาษณ์ ประตูเหล็กหนักมาก เมื่อก่อนเป็นประตูไม้ ด้านในแอร์เย็นดีค่ะ ด้านนอกร้อนๆอบอ้าว แต่ที่นั่งรอเยอะกว่าเพราะด้านในตอนนี้ ปิดปรับปรุงส่วนหนึ่ง
ด่านแรก ต่อคิวช่อง 14-15 เท่านั้น trick คือให้ต่อช่อง 14 นะคะจะมีเจ้าหน้าที่คนไทยสัมภาษณ์ก่อนรอบแรก วันนั้นเจ๊ช่อง 15 เหวี่ยงมากเลย เสียงไมค์ก็ดังกว่าเพื่อน ดุไปหลายคนเลยค่ะ แต่ก็ไม่แน่ ช่อง 14-15 จะสลับกันค่ะ
เดินเข้าไป เรายกมือไหว้ค่ะ ถือเป็นการให้ความเคารพที่ดี
เจ้าหน้าที่ : ไปทำอะไรที่อเมริกาคะ จขกท : ไปเรียนคอร์ส TOEFL ค่ะ เจ้าหน้าที่ : เรียนจบแล้วจะทำอะไรต่อคะ จขกท : สอบ TOEFL แล้วก็จะต่อ Master ค่ะ เจ้าหน้าที่ : ได้ตอบรับจากยูรึยัง จขกท : ยังค่ะ เพราะผล TOEFL ยังไม่ได้ เจ้าหน้าที่ : ใครออกค่าใช้จ่ายให้คะ จขกท : คุณอาค่ะ เจ้าหน้าที่ : คุณอาทำอาชีพอะไรคะ จขกท : ทำงานที่ กฟผ. ค่ะ เจ้าหน้าที่ :โอเคค่ะ อ่านเงื่อนไขที่แปะข้างหน้าต่าง แล้วเอานิ้วชี้ซ้าย ขวา วางที่สแกนลายนิ้วมือค่ะ
สแกนนิ้วเสร็จ เค้าก็ให้บัตรคิวมา รอเรียกสัมภาษณ์ตามหมายเลขคิวค่ะ เชิญท่านต่อไป
จากนั้นก็ เดินไปเดินมา รอในห้องเย็น ไม่อยากไปรอด้านนอกเพราะด้านนอกร้อน เจอคุณแพท สุทธาสินีด้วย รู้สึกเท่าเทียมๆ อิอิ
วันนี้ ช่องวีซ่าชั่วคราวเปิดทั้งหมด 4 ช่อง 11 12 13 14 โดยช่อง 11-13 เป็นฝรั่งหมดเลย ช่อง 14 เป็นผู้หญิงเอเชีย ไม่แน่ใจว่าเป็นคนฟิลิปปินส์ หรือเวียตนาม หรือสิงคโปร์ แต่สำเนียงอังกฤษเปรี๊ยะมาก ยืนฟังจากแต่ละคนที่เข้าไปสัมภาษณ์ เจ๊แกถามเยอะเหมือนกันแฮะ เราจะโดนช่องนี้ไหมน้อออ...
ปรากฎว่า ได้ช่อง 11 ค่ะ ผู้ชาย ท้วมๆ ตัวใหญ่ ใส่แว่นกรอบดำ ใจดีๆ เดินเข้าไป เราก็ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ฝรั่ง แล้วเค้าก็ยกมือไหว้ตอบด้วยแฮะ แล้วก็ยิ้มให้
เจ้าหน้าที่ : Hello How are you? จขกท : Hi sir. I am good, thanks. And how are you? เจ้าหน้าที่ : ยิ้มๆ (นานๆจะมีคนทักทายเค้าทีต้องเห็นใจนะคะ วันๆถามแต่คำถามเดิมๆซ้ำๆซากๆ) I'm ok. Thanks. เจ้าหน้าที่ : Ms. xxxxxxx จขกท : Yes sir. เจ้าหน้าที่ : Why do you want to go to America? จขกท : I would like to study English course เจ้าหน้าที่ : Where are you going to study? จขกท : San Francisco เจ้าหน้าที่ : But I think your English is pretty good. Why do you want to study English? (ซวยละตู) จขกท : It's a TOEFL course, sir. (-*-)
แล้วเค้าก็พิมพ์ๆๆๆ คลิกๆๆ ดูข้อมูลที่หน้าจอ ตลอดเวลา โอเค ตรงกับฟอร์ม DS ที่เรากรอกไปว่าเป็นคอร์ส TOEFL
เจ้าหน้าที่ : Oh ok. How long do you intend to study English? จขกท : The TOEFL course will take 3 months and I will continue another 3 months of GMAT and apply for the Master Degree. เจ้าหน้าที่ : ไม่พูดอะไรค่ะ พิมพ์ๆๆๆๆ อย่างเดียว แล้วก็ดูที่จอตลอด Who's paying for your trip? จขกท : My uncle. เจ้าหน้าที่ : And what does your uncle do? จขกท : He works at EGAT. Electric อารายซักอย่างจำไม่ได้แล้ว
เจ้าหน้าที่ก็พยักหน้า Ok. ยื่นใบสีฟ้าให้ไปกรอกที่อยู่ Go to the post office and pay 75 Baht.
O_o Thank you so much sir ! And have a great day ! แล้วเค้าก็ยิ้ม Thank you and you too. เย้ๆ ได้มาแล้วค่ะ
สรุปเอกสารคุณอา ไม่ดูอะไรเลยค่ะ เตรียมไปตั้งเยอะ -*- Trick ให้สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษค่ะ เพราะถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพูดภาษาไทยได้แต่ พูดแบบฟังแล้วยิ่งเข้าใจยากเข้าไปใหญ่ อารมณ์เหมือนคุณนายแหม่ม ที่บ้านแม่เรยารับใช้พยายามจะพูดไทยตามสคริป ถ้าพูดอังกฤษไม่ได้ เจ้าหน้าที่จะพูดไทยเองค่ะ
โชคดีค่ะ
จากคุณ |
:
Hopeful Gal
|
เขียนเมื่อ |
:
27 พ.ค. 54 01:17:21
|
|
|
|