Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ไปสัมภาษณ์มาแล้วครับ ผ่านเรียบร้อย F-1 มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังครับ ติดต่อทีมงาน

สวัสดีครับ ผม G.T.S. มีช่วงหนึ่่งที่ผมตั้งกระทู้ถามนู่นนี่เยอะมาก หลายคนอาจจำได้ ตอนนี้ผมผ่านสัมภาษณ์เรียบร้อย และน่าจะได้ visa ไม่เกินวันพุธหรือพฤหัสนี้ ผมก็เลยจองตั๋วไปเรียบร้อย ประมาณปลายเดือนหน้าก็จะบินแล้ว ผมเคยสัญญาเอาไว้(ถึงใครจะจำไม่ได้ แต่ผมจำได้) ว่าจะเอาประสบการณ์มาแชร์ให้ฟังว่า เป็นอย่างไรบ้าง

ผมได้รับช่วยเหลือจากเพื่อนๆในห้องนี้ช่วยจองวันให้ เพราะว่า ตัวเองนั่ง refresh ทุกวัน จนมึน ก็เลยมีหลายคนพยายามเข้ามาแนะนำคนที่น่าจะจองวันได้ สุดท้ายผมก็เลือกไปคน ซึ่งเค้าจองได้เร็วมาก ไม่เกิน 2 วัน ถ้าจำไม่ผิด (พอดีเค้าบอกว่า ทำตอนว่างๆก่อนไปเรียนเหมือนกัน) และราคาก็ถูกมาก จนผมเกรงใจ ก็ขอบคุณด้วยนะครับ

ผมจะเรียงเป็นข้อๆไปละกันนะครับ
1. (ด่านแรก)   มาถึงวันสัมภาษณ์ครับ ผมสัมภาษณ์ ศุกร์ที่ 17 มิ.ย. สดๆ ร้อนๆ เวลา 07.45 น. ผมไปถึงสถานทูตประมาณ 6 โมงครึ่ง ก็พบว่า แถวยาวจนน่าตกใจ เลยมาจนถึง สะพานลอย และผมก็อยู่หางแถวตรงสะพานลอยพอดี
ตอนนั้นก็งงๆ ทำอะไรไม่ถูกครับ ว่า แล้วเราจะเข้าไปยังไง จะทันวลามั้ย แต่ก็ต่อแถวกับเค้าไปก่อน
ซักพักใหญ่ๆ มีนางฟ้ามาโปรดครับ เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูต หน้าตาจิ้มลิ้ม 2 คน มาช่วยกัน จัดแถว แล้วก็บอกเราว่า จะต้องเตรียมอะไรออกมาบ้าง
เอกสารที่ต้องเอาออกมาเตรียมไว้ครับ มี 3 อย่างครับ (ส่วนอย่างอื่น เก็บไว้ก่อน)
  1) ใบ confirmation DS-160 ครับ
(ผมเองตอนแรกใจไม่ดี เพราะว่า น้องผู้ชายที่อยู่ข้างหน้า เล่น print DS-160 มาด้วย แต่ผมกับน้องผู้หญิงอีกคนไม่ได้ print มา เค้าก็บอกว่า visa นักเรียนใช่มั้ยครับ ต้อง print มาด้วย (หน้าตาเค้ามั่นใจมาก จนน่ากลัว) น้องผู้หญิงหน้าเสีย เลย พยายามมองหน้าผม แต่ผมก็ไม่แน่ใจ ก็เลยทำใจดีสู้เสือ ต่อแถวไป  ....  เอิ่ม สุดท้าย ก้ไม่ได้ใช้ ผมก็กะแล้ว เพราะมันกรอก online ไปแล้ว จะ print มาทำแมวน้ำไรอีก เฮ้อ ตกใจแทบแย่)
 2) ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า (ก็ที่จ่ายไป 4,340  นั่นแหละครับ) เอามาทั้งหมดที่ไปรษณีย์ให้มา
 3) Passport
น้องเค้าก็จะเช็ค ชื่อเราว่า มีใน list มั้ย แล้ว เค้าก็จะเอาปากกา highlight มาเขียนที่ใบ confirmation  ของเราว่า เป็น visa ประเภทไหน
จบด่านที่ 1

เพิ่มเติมนิดนะครับ เจ้าหน้าที่เค้าจะพยายามจัดให้เราเข้าไปตรงเวลาครับ การที่เราไปก่อน ไม่ได้แปลว่าจะได้เข้าก่อน เค้าจะให้คนที่ได้คิวเวลาก่อนเราเข้าก่อน แต่การไปก่อนก็ต่อคิวเพื่อได้เข้าก่อนคนในคิวเวลาเดียวกันนะครับ แต่ผมว่า ถ้าเราไปตรงเวลาก็น่าจะสบายดี เพราะว่า ไม่ต้องไปยืนรอให้ขาแข็งเป็นชั่วโมงเหมือนผม (แต่ร้อยทั้งร้อยเชื่อว่า ไปกันก่อนเป็นชั่วโมงๆ ชัวร์ จริงไหมครับ)

2. ด่านที่สอง
ด่านนี้ก็คือ ประตูทางเข้าสถานทูต จะมี รปภ.คอยเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พวกมือถือ กุญแจรถ โน้ตบุ๊ค ฯลฯ อ้อ small talk ก็เก็บครับ ตรงนี้เราต้องให้บัตรประชาชนหรือใบขับขี่ไปด้วยครับ
ส่วนพวกกระเป๋าเอาเข้าไปได้ครับ ไม่ต้องห่วง เค้ามีให้ผ่านเครื่องตรวจ แล้วเราก็เข้าไปในตัวสถานทูตได้
ตรงนี้มีส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่ควรลืม คือ ใบสีฟ้าๆ ที่ให้เขียนว่าจะให้ส่งวีซ่าให้เราอย่างไร
ตรงนี้ จะให้กรอก ชื่อ-สกุลเป็นภาษาอังกฤษครับ
ถัดไปก้จะให้เลือกว่า จะให้ส่งไปที่อยู่เราหรือไปรับเองที่ไปรษณีย์กลางครับ (กรอกภาษาไทยได้)
สุดท้ายก็จะให้กรอกเลข passport เรา
ตรงนี้สำคัญอย่างไร สำคัญ เพราะว่า ถ้าสัมภาษณ์เสร็จแล้วเราได้ใบสีฟ้า แปลว่า เราได้วีซ่าแน่นอน ถ้าเป็นสีอื่นก็ต้องกลับมาใหม่ตามแต่เจ้าหน้าที่จะบอก เช่นได้สีเหลืองก็หอบหลักฐานที่เค้าต้องการมาใหม่

จากคุณ : G.T.S.
เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 54 23:30:18




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com