 |
@@@@อันนี้ดิฉัน copy บางข้อความและpaste save เก็บไว้ (ต้องขอโทษด้วยที่จำชื่อสมาชิกที่โพสท์ไว้ไม่ได้)@@@@ ยังไงรอท่านอื่นมาแนะนำเพิ่มเติมนะคะ
*******หมวดที่ 1: เสื้อผ้า อาภรณ์ รองเท้า********* แม้เป็นของนอกกาย แต่รายการนี่ละทำเอาคนนำ้หนักเกินมาเยอะแล้ว
-ชุดไทย1ชุดสำหรับงานเทศการไทยๆทั้งหลาย
TIP: OUTLET ของพวก North Face, Columbia, Jack Wolfskin ในเมืองไทย ชื่อ Export อะไรประมาณเนี่ยค่ะ มีอยู่ 3 ที่ ซึ่งถ้ามีโอกาส ไป 3 ที่เลยจะดี เพราะ บางทีแต่ละสาขามี size กับแบบไม่เหมือนกันค่ะ
1. เพลินจิต เซ็นเตอร์ อยู่ชั้น 1 เดินครงไปเรื่อย จะอยู่เกือยสุดตึก 2. ฺBig C สาขาราชประสงค์ ถ้าจำไม่ผิดอยู่ชั่น 2 ใกล้กับบันไดเลื่อนที่ขึ้นมาจากที่จอดรถ 3. ตีนสถานีรถไฟศาลาแดง ใกล้ KFC ลองไปดูค่ะ ไม่ผิดหวัง แน่ๆ
ฝรั่งเศส ควรจะจัดหามาตามสภาพอากาศในช่วงที่จะเดินทางมา คือ
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) อากาศจะคล้ายๆ หน้าหนาวเมืองไทย คือเย็นๆ มีฝนตก และเกือบหนาว แต่ไม่ต้องใส่โค้ท แค่แจ็กเก็ตหรือเสื้อสเวตเตอร์แบบคลุมๆ ก็พอ
ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) อากาศจะร้อนแบบแห้งๆ (เหมือนเดินตากแดดหน้าหนาว) และอุณหภูมิสูงมากๆ บางปีมีคนร้อนถึงตาย ถ้ามาช่วงนั้นก็แต่งตัวได้คล้ายอยู่เมืองไทย และเป็นเสื้อผ้าที่ใส่สบาย เช่น เสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว เสื้อผ้าฝ้ายบางๆ แขนสั้น
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) อากาศจะหนาวประมาณเชียงใหม่หน้าหนาว มีฝนตกด้วย ควรหาเสื้อผ้าที่หนาและกันฝนได้ มีฮู้ดด้วยก็จะดีมาก ลมแรง ควรหาเสื้อที่กันลมได้ ไม่งั้นจะหนาวมาก ร่มที่จะเอามาควรแข็งแรงมากพอสมควร เพราะลมแรงขนาดร่มที่บอบบางสามารถหักพังได้เมื่อต้านลม
ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) อากาศจะหนาวมากๆ ต่ำกว่า 5 ถึง -10 (แล้วแต่พื้นที่) ปกติเสื้อหนาวที่มีขายที่เมืองไทย มักจะไม่ค่อยเจอแบบที่จะสู้กับความหนาวระดับนี้ได้ (เพราะขืนใครสั่งเข้าไปก็ไม่รู้หมีที่ไหนจะมาซื้อ) มาซื้อเอาที่นี่ดีกว่า แม้จะแพง แต่ก็ใช้ได้นาน (ดีกว่าซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ต้องทิ้ง) ช่วงหน้าหนาวต้องใส่เสื้อไม่ต่ำกว่า 3 ชั้น (ไม่รวมชุดชั้นในปกติ) ควรหาซื้อเสื้อกางเกงแบบที่ใส่ข้างในเพื่อป้องกันความหนาว (Long john) มาด้วย ไม่งั้นมีป่วยกันบ้าง
อย่างไรก็ตาม ไม่ค่อยแนะนำให้มาเริ่มต้นชีวิตครั้งแรกในฝรั่งเศสฤดูหนาว (เว้นแต่เคยมีประสบการณ์เคยอยู่ในประเทศเขตหนาวมาแล้ว) เพราะร่างกายที่เคยอยู่ในเขตร้อนจะปรับตัวยากหากเจอกับความหนาวแบบนี้ในครั้งแรกเลย เสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่เอามาจากเมืองไทยก็สู้หนาวได้ไม่ค่อยดี และเราจะป่วยง่าย (และมักจะเป็นหนัก แต่หายช้าด้วย) เมื่อป่วยในขณะที่อะไรๆ ก็ไม่เข้าที่ พลังชีวิตก็ตก พลังใจก็ต่ำ ธุระปะปังต่างๆ ก็คงไม่ราบรื่น หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าไม่มีใครคอยช่วย ในช่วงที่ป่วยในหน้าหนาว และภาษายังไม่แข็ง มันเป็นสภาวะการณ์ที่แย่เกินจินตนาการจริงๆ ขอเตือน
กระนั้น อากาศในศตวรรษนี้ค่อนข้างวิปริต บางครั้งอาจจะไม่เป็นไปตามฤดูเท่าไร (เพราะโลกกำลังป่วย) เช่น หน้าหนาวแต่แดดแจ๋ ฤดูใบไม้ร่วงแท้ๆ แต่หนาวเกือบ 0 นอกจากนี้ก็ยังขึ้นกับพื้นที่ด้วย เช่น ภาคเหนือและปารีสก็จะหนาวมากหน่อย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถวอัลซาด ติดเยอรมัน อันนั้นนะโครตหนาว แถวภาคกลางที่ผมอยู่ (แมสซีฟ ซองทราล) อันนี้หนาวเพราะเป็นภูมิประเทศแบบภูเขาล้อม แถวภาคใต้ มาร์กเซยล์ มองต์เปอลิเย่ อันนี้ไม่ค่อยหนาวมาก (และหน้าร้อนร้อนระงม) แต่ถ้าพวกใกล้เทือกเขาปิเรเน่อย่างตูลูสก็จะหนาวหน่อย ฯลฯ ถ้าใครจะมาช่วงไหน ลองเชคกับเวบไซต์พยากรณ์อากาศดู
รองเท้า ควรหามาสักสองคู่ แบบใส่สบายๆ แบบใส่กระชับเพื่อเล่นกีฬาหรือเดินไปมาตามปกติ และแบบออกงานหรือไปไหนเป็นทางการ อนึ่ง ต้องหารองเท้าที่พื้นไม่ลื่นแม้เดินบนที่เปียก มีการยึดเกาะที่ดี เพื่อไม่ให้มีปัญหากับหิมะ น้ำฝน และเศษใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง
ชุดชั้นใน สำหรับสาวๆขนาดเอเชีย ควรเตรียมเสื้อชั้นในขนาดของคุณมาให้ดี เพราะไม่แน่ใจว่าที่นี่จะมีไซต์ที่คุณใส่ได้พอดีหรือเปล่า ส่วนกางเกงในที่นี่นิยมแบบจีสตริง แต่แบบธรรมดาก็พอหาได้บ้าง ไม่ต่างจากเมืองไทย
*******หมวดที่ 2: คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้า******
- notebook -สติคเกอร์ไทย (ถ้าจะซื้อ notebook ที่ต่างประเทศ) - ปลั๊กไฟ adapter ตัวต่อแยก - กล้อง และที่ชาร์ทถ่านกล้อง - ซีดีเปล่า - ซีดีเพลงและหนังไทย เอาไว้เผื่อคิดถึง แต่เอามาเฉพาะที่ชอบสุดๆ นะ เพราะเดี๋ยวนี้หาดูตาม net ได้ง่าย - ซีดีโปรแกรมที่คาดว่าต้องใช้ เช่น Microsoft Office และ Norton Antivirus (หรือ McAfee ก็ได้) ที่ไทยถูกใช่ไหม? งั้นเอามาโลด **ถ้าเรียนสาย Social Science ก็ควรมี SPSS แล้วถ้าไม่เคยใช้ ก็ซื้อหนังสือคู่มือการใช้ภาษาไทยมาด้วย จะช่วยได้มากเลย และถ้าเจอ Adobe Acrobat ตัวเต็ม (ที่ไม่ใช่แค่ reader) เอามาก็ดี - โทรศัพท์มือถือและที่ชาร์ทถ่าน - เอามาใช้ช่วงแรกที่ยังเปิด contract ไม่ได้เพราะว่าการจะเปิด contract ที่นี่ได้ต้องมีบัญชีธนาคารก่อน และมีบัตรที่ใช้ direct debit ได้นะ โทรศัพท์มือถือนี่ ก่อนจะมา ให้หาข้อมูลดูก่อนครับว่ามันใช้เครือข่ายแบบไหน GSM 800, 1800, หรือ 1900 หรือ CDMA ถ้า GSM ทั้งหลาย ก็น่าจะสบายหน่อย เพราะบ้านเราก็ใช้แบบเดียวกัน ถ้าไม่ลำบากและประเทศที่จะไปใช้ GSMก็ให้เอามือถือไป 2 เครื่อง :-p ก็อันนึงไว้ติดต่อภายในประเทศ อีกอันไว้โทรติดต่อกลับเมืองไทย เพราะโปรแต่ละค่ายไม่เหมือนกัน
- USB thumb drive - มีประโยชน์มาก เพราะต้องมีการส่ง file รับ file - นาฬิกาข้อมือ ฝรั่งเศส -คอมพิวเตอร์ กล้องดิจิตอล เครื่องเสียงพกพา และเมมโมรีต่างๆ ที่นี่ราคาแพงกว่าเมืองไทยมาก ประมาณ 10%-20% (โดยเฉพาะเมมโมรีการ์ดต่างๆ พวก CF,SD,MS,XD, Flash Drive ฯลฯ ในราคาเท่ากัน ซื้อที่นี่ความจุลดลงไปเท่าหนึ่งเลย) ถ้าซื้อมาจากเมืองไทยได้ก็ซื้อมาดีกว่า ยกเว้นถ้าห่วงเรื่องรับประกัน แต่อุปกรณ์ปลีกย่อยจิปาถะแบบ แผ่นซีดีเปล่า ดิสต์ เทปเปล่า ฯลฯ พวกนี้ราคาสูงกว่าบ้าง แต่ก็พอซื้อไหว (CD-R สำหรับเขียนข้อมูล 10 แผ่น 15 ยูโร CD-R สำหรับเขียนเพลง 22 ยูโร) ไม่ต้องหอบหิ้วมามากให้หนักกระเป๋า
-โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มือถือจากประเทศไทยส่วนใหญ่ สามารถเอามาใส่ซิมการ์ดที่ฝรั่งเศสได้ทั้งนั้น ระบบการใช้บริการก็คล้ายๆประเทศไทย คือ แบบเติมเงินกับแบบจดทะเบียนรายเดือน แต่ที่แตกต่างกัน คือแบบเติมเงินจะเสียค่าโทรแพงมาก คือนาทีละ 50 Centimes และคิดอัตราเดียวทั่วฝรั่งเศส ไม่เว้นแม้แต่จะโทรเข้าเบอร์ที่โทรได้ฟรีก็ตาม แต่การใช้บริการมือถือแบบจดทะเบียนก็ต้องมี Titre de séjour (เหมือนบัตรต่างด้าว) แล้วเท่านั้น
*********หมวดที่ 3: ของใช้ส่วนตัว*********
- หวี และกระจกเล็ก - ชุดตัดเล็บ - ยาสีฟันและแปรงสีฟัน เอามาให้ครบปีเลย ที่นี่แพงมาก ถ้าตามหลักการทั่วไป หนึ่งปีจะใช้ยาสีฟันหลอดใหญ่ 4-5 หลอด และตามหลักสุขอนามัยก็ใช้ แปรงสีฟัน 6 อันต่อปี (ทำวิจัยมา
..เว่อร์สะไม่มี เราเนี่ย)
- ชุดเย็บผ้าแบบอันเล็ก เอามาเผื่ออะไรขาดจะได้ซ่อมได้ - ถ้าสายตาสั่นนะ เอา contact lense กับนำ้ยามาด้วยให้ครบปี ที่นี่แพงแบบทำเลซิกได้เลย ถ้าโดยทั่วไป หนึ่งปีจะใช้นำ้ยา 4 ขวดนะ
********หมวดที่ 4: ครัว&ห้องน้ำ&เครื่องนอน*********
หมวดนี่จริงๆ แล้วมาซื้อที่นี่ได้หมด แต่เอาติดไม้ติดมือมา นิดหน่อย ยำ้นิดหน่อยนะ ไว้สำหรับช่วงแรก ส่วนหลังๆ ก็ไปซื้อเอาได้ - ม่าม่า - โลโบ - หมูหยอง - น้ำพริก ถ้าแบบที่เป็นขวดหนักเอามาลำบาก แนะนำให้ซื้อเป็นซอง ยี่ห้อ OJ นะ เราว่ารสชาด หลานๆ นำ้พริกตำจากครกนะ - กะปิ
▪ ***********หมวดที่ 5: เอกสารและสำเนา************ ▪ ▪ รายการนี่สำคัญ เอกสารของเราเท่านั้น หาใหม่ไม่ได้ แล้วค่า xerox ที่นี่ก็แพง เพราะงั้นก็ xerox มาจากไทยเลยนะ ▪ ▪ - passport and visa ▪ - Offer letter and acceptance letter ▪ - offer letter accommodation ▪ - ตั๋วเครื่องบิน ▪ - รูปถ่าย - เอามาเยอะๆ ที่นี่ไม่มีแต่งฟิมล์เหมือนบ้านเรา ถ่ายมาแล้วรับไม่ได้ ▪ - transcript ▪ - IELTS certificate and GMAT or GRE (ถ้าใช้) ▪ - เช็คเดินทาง ดร๊าฟ เงินสด บัตรเครดิต
*********หมวดที่ 6: เครื่องเขียน*******
เอาทุกอย่างที่เป็นเครื่องเขึยนปกติเราชอบใช้เวลาเรียนมาให้หมด มันไม่หนักเท่าไร แทรกไปตามซอกหลืบกระเป่าได้ เพราะที่นี่เครื่องเขียนแพงมาก โดยทั่วไป ก็มี
- ปากกาทุกชนิด พร้อมไฮไลท์เตอร์ - ดินสอกดและใส้ดินสอ - ยางลบ (สัก 2 3 ก้อน) - คัทเตอร์ **แยกโหลด - กรรไกร **แยกโหลด - แม็กส์ พร้อม ลูกแม็กส์ - ถุงใส่ดินสอ - liquid น้ำ แห้ง - แผ่นคั่นหนังสือของ 3 M - กาว uhu - post it - ไม้บรรทัดสั้น ยาว - เครื่องคิดเลข - ปากกาเมจิก - ปากกาเขียน CD
**********หมวดที่ 7: ยา************
เป็นหมวดที่เราเครียมมาแล้วได้ใช้่แบบรู้สึกคุ้มค่า
- ยาหม่อง, para, ยาแก้อักเสบ, ดีคอลเจน, antifect, เบตาดีน - ยาแก้แผลในปาก Kenalog (ที่นี่อากาศแปรปรวน ทำให้เป็นร้อนในง่าย) - ยาธาตุนำ้ขาวตรากระต่ายบิน - เทนโซพลาส, ผ้าก๊อต, เทป 3m - ยาดม,เซียงเพียวอิ๊ว - ยาคลายกล้ามเนื้อ - counterpain, โวทาเลน, เฮรูดอย - ยาแก้ท้องเสีย และผงนำ้เกลือชงแก้ดื่มเวลาท้องเสีย (ยี่ห้อ oreda ดี โดยเฉพาะรสส้ม) - ยาอื่นๆ ตามอาการประจำตัว - พวกยาอื่นๆ ที่ขอจากร้านหมอ เช่น ยาสิว ให้ขอจดหมายมาด้วยนะ ที่คลินิกเตค้ารู้อยู่แล้วละ แต่บอกเค้า เค็าก็ทำให้โดยง่ายดาย คือให้เอามาไว้กันเหนียวนะ เผื่อเค้าตรวจเจอแล้วถาม แต่ปกติก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ
การเตรียมเสื้อผ้า ============= ควรจะจัดหามาตามสภาพอากาศในช่วงที่จะเดินทางมา คือ
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) อากาศจะคล้ายๆ หน้าหนาวเมืองไทย คือเย็นๆ มีฝนตก และเกือบหนาว แต่ไม่ต้องใส่โค้ท แค่แจ็กเก็ตหรือเสื้อสเวตเตอร์แบบคลุมๆ ก็พอ
ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) อากาศจะร้อนแบบแห้งๆ (เหมือนเดินตากแดดหน้าหนาว) และอุณหภูมิสูงมากๆ บางปีมีคนร้อนถึงตาย ถ้ามาช่วงนั้นก็แต่งตัวได้คล้ายอยู่เมืองไทย และเป็นเสื้อผ้าที่ใส่สบาย เช่น เสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว เสื้อผ้าฝ้ายบางๆ แขนสั้น
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) อากาศจะหนาวประมาณเชียงใหม่หน้าหนาว มีฝนตกด้วย ควรหาเสื้อผ้าที่หนาและกันฝนได้ มีฮู้ดด้วยก็จะดีมาก ลมแรง ควรหาเสื้อที่กันลมได้ ไม่งั้นจะหนาวมาก ร่มที่จะเอามาควรแข็งแรงมากพอสมควร เพราะลมแรงขนาดร่มที่บอบบางสามารถหักพังได้เมื่อต้านลม
ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) อากาศจะหนาวมากๆ ต่ำกว่า 5 ถึง -10 (แล้วแต่พื้นที่) ปกติเสื้อหนาวที่มีขายที่เมืองไทย มักจะไม่ค่อยเจอแบบที่จะสู้กับความหนาวระดับนี้ได้ (เพราะขืนใครสั่งเข้าไปก็ไม่รู้หมีที่ไหนจะมาซื้อ) มาซื้อเอาที่นี่ดีกว่า แม้จะแพง แต่ก็ใช้ได้นาน (ดีกว่าซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ต้องทิ้ง) ช่วงหน้าหนาวต้องใส่เสื้อไม่ต่ำกว่า 3 ชั้น (ไม่รวมชุดชั้นในปกติ) ควรหาซื้อเสื้อกางเกงแบบที่ใส่ข้างในเพื่อป้องกันความหนาว (Long john) มาด้วย ไม่งั้นมีป่วยกันบ้าง
อย่างไรก็ตาม ไม่ค่อยแนะนำให้มาเริ่มต้นชีวิตครั้งแรกในฝรั่งเศสฤดูหนาว (เว้นแต่เคยมีประสบการณ์เคยอยู่ในประเทศเขตหนาวมาแล้ว) เพราะร่างกายที่เคยอยู่ในเขตร้อนจะปรับตัวยากหากเจอกับความหนาวแบบนี้ในครั้งแรกเลย เสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่เอามาจากเมืองไทยก็สู้หนาวได้ไม่ค่อยดี และเราจะป่วยง่าย (และมักจะเป็นหนัก แต่หายช้าด้วย) เมื่อป่วยในขณะที่อะไรๆ ก็ไม่เข้าที่ พลังชีวิตก็ตก พลังใจก็ต่ำ ธุระปะปังต่างๆ ก็คงไม่ราบรื่น หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าไม่มีใครคอยช่วย ในช่วงที่ป่วยในหน้าหนาว และภาษายังไม่แข็ง มันเป็นสภาวะการณ์ที่แย่เกินจินตนาการจริงๆ ขอเตือน
กระนั้น อากาศในศตวรรษนี้ค่อนข้างวิปริต บางครั้งอาจจะไม่เป็นไปตามฤดูเท่าไร (เพราะโลกกำลังป่วย) เช่น หน้าหนาวแต่แดดแจ๋ ฤดูใบไม้ร่วงแท้ๆ แต่หนาวเกือบ 0 นอกจากนี้ก็ยังขึ้นกับพื้นที่ด้วย เช่น ภาคเหนือและปารีสก็จะหนาวมากหน่อย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถวอัลซาด ติดเยอรมัน อันนั้นนะโครตหนาว แถวภาคกลางที่ผมอยู่ (แมสซีฟ ซองทราล) อันนี้หนาวเพราะเป็นภูมิประเทศแบบภูเขาล้อม แถวภาคใต้ มาร์กเซยล์ มองต์เปอลิเย่ อันนี้ไม่ค่อยหนาวมาก (และหน้าร้อนร้อนระงม) แต่ถ้าพวกใกล้เทือกเขาปิเรเน่อย่างตูลูสก็จะหนาวหน่อย ฯลฯ ถ้าใครจะมาช่วงไหน ลองเชคกับเวบไซต์พยากรณ์อากาศดู
รองเท้า ควรหามาสักสองคู่ แบบใส่สบายๆ แบบใส่กระชับเพื่อเล่นกีฬาหรือเดินไปมาตามปกติ และแบบออกงานหรือไปไหนเป็นทางการ อนึ่ง ต้องหารองเท้าที่พื้นไม่ลื่นแม้เดินบนที่เปียก มีการยึดเกาะที่ดี เพื่อไม่ให้มีปัญหากับหิมะ น้ำฝน และเศษใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง
ชุดชั้นใน สำหรับสาวๆขนาดเอเชีย ควรเตรียมเสื้อชั้นในขนาดของคุณมาให้ดี เพราะไม่แน่ใจว่าที่นี่จะมีไซต์ที่คุณใส่ได้พอดีหรือเปล่า ส่วนกางเกงในที่นี่นิยมแบบจีสตริง แต่แบบธรรมดาก็พอหาได้บ้าง ไม่ต่างจากเมืองไทย
ส่วนสำหรับผู้ชาย ที่นิยมกางเกงในแบบบิกินี่ ขอบอกว่าหายาก และมักจะสีเห่ย ลายห่วยจนไม่กล้าใส่ เพราะหนุ่มที่นี่นิยมใส่บ๊อกเซอร์ กางเกงในผ้ายืดแบบมีขา หรือพวกกางเกงในเต็มตัว ส่วนกางเกงในบิกินี่มีบ้าง แต่ดันเป็นจีสตริงแบบผู้ชายซะงั้น ถ้าไม่พอใจก็จงเตรียมมาเยอะๆ
พบว่าทั้งปัญหาเรื่องขนาดและรสนิยม ทำให้บรรดาชาวไทยในต่างแดนนิยมสั่งชุดชั้นในมาจากเมืองไทยผ่านทางครอบครัว (หรือฝากคนอื่นหิ้วมาให้) เสียก็มาก ไม่ต้องตกใจ ไม่ใช่เรื่องใหญ่
อาหาร =======
ไม่แนะนำให้เอาอาหารมาด้วยมากนัก สำหรับการเดินทางมาครั้งแรก เพราะหนักกระเป๋าและไม่ค่อยมีประโยชน์ แม้ที่นี่ศุลกากรไม่ซีเรียสเรื่องการนำเข้าผลิตภัณฑ์การเกษตรเหมือนเช่นออสเตรเลียก็ตาม
อาหารแบบที่เราคุ้นเคย มีขายแพร่หลายในซูปเปอร์มาเก็ตชั้นนำทั่วไป ข้าวสาร (ข้าวหอมมะลิไทย) น้ำปลา เปาะเปี๊ยะ (ที่นี่เรียก แนม (nam) ตามแบบเวียดนาม) ปลากระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป (ต้องบางห้างเท่านั้น) ยิ่งถ้าร้านเอเชียในเมืองใหญ่ๆ นึกดูว่าอยากได้อะไร มีเกือบหมด เครื่องแกง น้ำพริก กะปิ ปลาเค็ม ทุเรียน ผักไทยๆ มาม่า ยำยำ ไวไว ส่วนเมืองเล็กๆ ก็อาจจะมีไม่ครบถ้วนมหัศจรรย์ แต่ก็พอหาได้ ราคาก็แน่นอนแพงกว่าบ้านเรา แต่ถ้าเทียบกับค่าครองชีพแล้วก็พอกินได้ เช่น น้ำปลาขวดละ 2 ยูโรกว่าๆ มาม่าซองละห้าสิบถึงหกสิบซองตีม ข้าวสารกิโลละสองยูโร ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำให้หาโจ๊กสำร็จรูปแบบเป็นซองๆ ติดมาด้วยสักประมาณหนึ่ง หรือมาม่ามาสักหาหกห่อก็ได้ เผื่อไว้รับประทานยากขลุกขลักช่วงแรกๆ
สำหรับผมจึงเห็นว่า พวกอาหารแบบไทยๆนี้ไม่ต้องติดมามากมาย ควรจะมาในรูปของเครื่องปรุง ผงเครื่องเทศ หรือน้ำพริกแกงเป็นซองๆมากกว่า สิ่งที่ขาดไม่ได้ อยากแนะนำให้นำหม้อหุงข้าวขนาดเล็ก ที่หุงข้าวได้ราวหนึ่งถึงสามกระป๋องมาด้วย เพราะที่นี้แม้มีขายในร้านเอเชียบางแห่ง แต่ก็ราคาแพงและอาจจะขนาดใหญ่เกินไป หม้อหุงข้าวมีประโยชน์มากมายกว่าที่คิด เช่นหุงข้าว ต้มไข่ หรืออาหารประเภทต้มอื่นๆ (กรณีที่ที่พักไม่มีครัวส่วนตัวให้) ทำหม้อสุกี้ หรือแม้แต่ฟองดูว์ ถ้ากลัวว่าจะเสียเนื้อที่ในกระเป๋า ก็เอาพวกเสื้อผ้าชิ้นเล็กๆ ยัดมาในหม้อก็ได้
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสเป็นประเทศเกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ และขึ้นชื่อด้านอาหารการกินและเมรัย อาหารหรือเครื่องดื่มบางอย่างที่มีราคาแพง หากินยากในบ้านเรา เช่น หอยทากอบเนย ฟัวกรา คาเวียร์ ไก่งวง เนื้อวัวอย่างดีปลาแซลมอน ไวน์ แชมเปญ คอนยัค ฯลฯ หรือแม้กระทั่งอาหารธรรมดาๆ เช่น นม ขนมปัง ขนม ผัก ผลไม้ ก็ล้วนแต่สด ใหม่ หอม อร่อยกว่าบ้านเราแบบที่ต้องยอมรับก็มี ที่พอจะหาซื้อหากินได้ในซูปเปอร์มาเก็ตหรือร้านอาหารในราคาที่พอสมควรแก่อัตภาพ ดังนั้นจึงควรถือเป็นโอกาสในการ เสพย์ สิ่งเหล่านี้ คงน่าเสียดาย ถ้าอุตส่าห์มาถึงฝรั่งเศสแล้วแต่ยังกินข้าวกระเพราไก่ไข่ดาว แกงเขียวหวาน หรือลาบน้ำตก มิใช่หรือ ?
▪ ของที่ระลึก ▪ =========== ▪ ▪ แนะนำว่าให้เตรียมมาพอสมควร สำหรับครูอาจารย์ที่เราประทับใจเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่บางคนที่อาจจะช่วยเหลือเรา เช่นสำนักงานทุน เจ้าของบ้าน ครอบครัวพี่เลี้ยง (La famille daccueil) เพื่อนฝูงที่เราประทับใจหรือถูกชะตา ของที่ระลึกควรจะมีน้ำหนักเบา เช่นเป็นไม้ หรือเป็นผ้า ราคาไม่สำคัญ ขอให้มีสัญลักษณ์ความเป็นไทย (เช่นพวกของรูปช้าง ดอกบัว ปราสาทราชวัง)เป็นใช้ได้ ควรหลีกเลี่ยงของที่มีนัยทางศาสนา เช่น พระ หรือรูปที่เกี่ยวกับศาสนาและความเชื่อ เพราะไม่แน่ว่าถ้าคนรับเขาเคร่งครัดในศาสนาอาจจะอึดอัดได้ ลองไปหาดูตามสวนจตุจักร แต่อยากให้เลือกของที่มีเอกลักษณ์นิดหนึ่ง อย่างพวงกุญแจอแมซซิ่งไทยแลนด์ที่ขายเกร่อๆกันตามสถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่ไหว ของที่ดูธรรมดา แต่คนรับประทับใจมากอย่างคาดไม่ถึง คือแสตมป์ไทย เหรียญเงินไทย กางเกงมวยไทย และ เสื้อยืดกระทิงแดงของแท้จากดินแดนต้นตำรับ !!! ควรเตรียมมาพอแจกคนได้สักห้าถึงสิบคน (มีของดีๆ ไปเลยสักสองสามชิ้น ของเรี่ยๆราดๆ ชิ้นเล็กๆอีกจำนวนหนึ่ง)
จากคุณ |
:
99inparadise
|
เขียนเมื่อ |
:
19 มิ.ย. 54 23:34:40
|
|
|
|
 |