แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่า H1B

อยากเล่าประสบการณ์ขอวีซ่า H1B ไว้เผื่อให้กับหลายๆท่านที่ต้องการขอวีซ่า H1B เป็นข้อมูลประกอบนะคะ เพราะว่าตอนที่ตัวเองจะขอวีซ่านี้ ได้ search ข้อมูลเก่าๆในพันทิบ, เว็บ usvisa4thai.com , เว็บอื่นๆ รวมถึง google ด้วยแล้ว ก็ไม่ค่อยมีข้อมูลที่อัพเดทให้อ่านมากนัก

เครียดมาเป็นเดือนแล้ว เพราะอ่านตามบอร์ดต่าง ๆ ยิ่งอ่านยิ่งเครียดรวมถึงคืนก่อนจะไปสัมภาษณ์ยิ่งเครียดมาก เพราะลุ้นมากมาย เราเคยโดน ตม. เรียกเข้าห้อง passport control มาแล้วที่อเมริกาครั้งหนึ่งก็ไม่ได้เครียดเท่านี้ เพราะตอนที่โดนเรียกนั้นไม่รู้ว่าเราได้ทำผิดขั้นตอนบางอย่างเกี่ยวกับวีซ่า ก็โดนสอบถามต่างๆ แล้วเราก็ตอบไปตามความเป็นจริง ก็ได้รับการยกเว้นให้ผ่านเข้าอเมริกาได้โดยไม่ถูกส่งกลับหรือเสียค่าปรับใดๆ

เมื่อใกล้จะจบปริญญาโทก็ขอ OPT โดยทางมหาวิทยาลัยก็ทำเรื่องให้ ในวันที่จบก็มีบริษัทสนใจงานที่เราทำก็เสนอให้เราเข้าไปทำงานในบริษัท โดยจ้างให้เราทำงานเป็น full time แล้วก็จะขอ work permit ให้ ( ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนิด การจะได้งานที่อเมริกาภาษาต้องแข็งแรงจริงๆ ต้องสื่อสารได้อย่างดีมาก ถึงแม้ว่าเกรดที่เรียนจะดี แต่บริษัทก็จะสัมภาษณ์เราเพื่อตรวจสอบการสื่อสารทางภาษาของเราด้วย )

เราก็ได้ทำงานตั้งแต่วันแรกที่ได้บัตร OPT อนุญาตให้ทำงาน ของเราขอ OPT ให้ทำงานตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนปี 2010 จนถึงมิถุนายนปี 2011 ราวๆเดือนพฤศจิกายน 2010 ทางบริษัทก็ให้ทนายทำเรื่องขอ work permit ให้ คงจะขอแบบ premium processing เพราะได้รับ approve เร็วมาก work permit ที่ได้ก็มีผลให้ทำงานได้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2011 ถึง เดือน พฤษภาคม 2014 คือ 3 ปี

เดือนนี้คือ เดือนมิถุนายน 2011 เราต้องกลับไทยเพราะคุณย่าเสีย ก็เลยต้องทำวีซ่า H1B ให้เรียบร้อยเลย แล้วก็ทำพาสปอร์ตไทยใหม่ด้วย เพราะของเราก็เหลืออีกประมาณ 1 เดือนก็หมดอายุแล้ว ช่วงก่อนที่จะกลับไทยนี่แหละที่หาข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์ในการขอ H1B ในเว็บต่างๆ พออ่านแล้วก็ได้รู้ว่า

- มีคนได้ I-797 ได้รับ approve ที่อเมริกาแล้ว ก็กลับมาไทย มาทำวีซ่า H1B แต่ไม่ผ่าน ทางกงศุลอเมริกาก็บอกแต่ว่าเรื่องยัง in processing เค้าก็เลยกลับไปทำงานที่อเมริกาไม่ได้ ข้าวของต่างๆ ก็ไม่รู้จะกลับไปจัดการอย่างไร

- เท่าที่ค้นหาในเว็บก็มีข้อมูลว่าการที่บริษัทจะขอ work permit ให้ลูกจ้าง จะต้องขอให้ทันในวันที่ 1 เมษายน ของทุกปีที่จะเปิดรับสมัครวีซ่าทำงานของอเมริกา แล้วก็มีโควต้าด้วย และหลังจากได้รับการ approve แล้ว ก็สามารถเริ่มทำงานได้ในวันที่ 1 เดือนตุลาคม ซึ่งสำหรับนักศึกษาที่จบในเดือนพฤษภาคม ของปีที่ขอ OPT จะมีปัญหาเรื่อง gap ของอายุวีซ่าฝึกงานกับวีซ่า H1B ที่จะเริ่มเดือนตุลาคมด้วย

ตอนก่อนกลับไทยก็ให้ที่บ้านซื้อพินเพื่อจองคิววันสัมภาษณ์ไว้ก่อน ต้องรีบจองวันสัมภาษณ์เพราะเท่าที่อ่านในเว็บ เห็นว่าวันสัมภาษณ์จองยากมาก ทั้งๆที่พาสปอร์ตเราก็เหลือเวลาอีกแค่ 1 เดือน เราก็ใช้ข้อมูลจากพาสปอร์ตเล่มเดิมนี้แหละในการกรอกข้อมูล แต่ปรากฏว่าวันสัมภาษณ์ของวีซ่า H1B มีเขียวแบบสบายๆ ไม่ต้องแย่งจอง จองวันสัมภาษณ์เอาวันที่เร็วที่สุดที่มาถึงไทยก็ไปสัมภาษณ์ทำวีซ่าเลย เผื่อไว้ว่าเกิดมีอุบัติเหตุใดๆเกิดขึ้นยังเหลือเวลาที่อาจจะแก้ไขอะไรได้

กลับมาไทยแล้วก็ยังเครียดกับเรื่องที่ต้องลุ้นต่างๆดังที่กล่าวมาแล้ว เพราะว่าทำไมเคสของเราไม่เห็นเข้ากฏที่เราค้นหาในเว็บที่อ่านๆมา แต่เรื่องเอกสารต่างๆ เราคิดว่าเตรียมมาอย่างดี เพราะทนายที่บริษัทก็จัด package เอกสารที่ต้องใช้มาให้ แล้วเรายังขอจดหมายลางาน จดหมายรับรองตำแหน่งงานที่ทำพร้อมทั้งเงินเดิน นำใบรีเทิร์น tax มาด้วย

วันที่สัมภาษณ์ก็ไปรอตั้งแต่ 7 โมงเช้า ที่จริงคิวเราเป็นเวลา 8 โมง กว่าจะได้เข้าไปตรงยามที่ตรวจฝากของ ก็ 8.30 น. แล้ว ปรากฏว่าต้องไปรอเข้าแถวด้านในรวมทั้งหมดเป็นเวลา 6 ชั่วโมงเต็มๆ ไม่ได้นั่งด้วย เพราะเน็ตของภายในกงศุลดาวน์ทำให้คิวก่อนหน้านั้นก็ต้องรอให้เน็ตทำงานได้ ก็เลยมาพอกคิวที่เราอีก พอถึงตอนคิวของเราปรกฏว่าเจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลจากฟอร์ม DS160 ของเราเข้าคอมพิวเตอร์ก็สามารถเช็คพบข้อมูลที่ approve จากอเมริกา update ในคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว เค้าก็บอกแค่ว่า

- You're all good.

- แล้วก็ชวนคุยอีก 2 ประโยค แล้วก็ขอโทษที่คิวเข้าแถวมันยาวมากๆ

ซึ่งใช้เวลาตรงนี้แค่ 3 นาที เป็นอันเสร็จ เค้าไม่ขอดูเอกสารหรือจดหมายจากบริษัทที่เตรียมมาเลย เอาไปแต่เอกสารที่เป็น package จากทนายที่บริษัทเตรียมมาให้เท่านั้น แล้วก็ไปจ่ายเงินไปรษณีย์แล้วมารอรับพาสปอร์ตที่บ้าน วันนี้ได้รับพาสปอร์ตที่มีวีซ่า H1B เรียบร้อยแล้ว ก็เลยมาแชร์ข้อมูลเผื่อให้ท่านอื่นๆที่จะทำวีซ่า H1B ได้อ่านบ้าง จะได้ไม่ต้องเครียดมากเหมือนเรา เพราะเคสของเรามันก็ไม่ได้ตรงกับกฏที่ได้อ่านมาหลายๆเรื่องด้วยกัน

ในสมุดพาสปอร์ตก็มีใบ I-797 กับ ใบเล็กๆที่เขียนว่า Detach This Half For Personal Records แนบติดคืนมา

หลังจากนี้ก็จะไปทำพาสปอร์ตไทยเล่มใหม่แล้วให้เค้า endorse ข้อมูลวีซ่า H1B จากพาสปอร์ตเล่มเก่ามาไว้ที่เล่มใหม่ แล้วเราก็ต้องถือพาสปอร์ต 2 เล่ม

สุดท้ายเหลืออีกไม่กี่วันที่ลางานมาก็จะเป็นวันที่เราล่าหาของกินที่อยู่ใน list ให้หมดก่อนกลับไปทำงานอเมริกานะคะ

ขอให้ทุกๆคนโชคดี

จากคุณ	: วีซ่า H1B ค่ะ
เขียนเมื่อ	: 22 มิ.ย. 54 12:43:47 A:115.87.194.34 X: TicketID:261171