ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น  คุณ(น้อง)หย่าแล้ว  จะเปลี่ยนวีซ่าเป็นติดตามลูก (คุณจะอยู่ญี่ปุ่น ได้จนลูกอายุครบ 20ปี)   ไปติดต่ออำเภอที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน  ขอเงินช่วยจาก อำเภอรายเดือนจะเรียกว่าโบชิคะเทะ  (ถ้าเรียกผิดขออภัยเพราะหย่ามาหลายปีแล้ว) ลูกจะได้ค่าช่วยเลี้ยงดู   หรือจะปรึกษาขอความช่วยเหลือจากอำเภอเรื่องหย่า แต่และที่จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำปรึกษาได้        แต่อย่างไรเสียอดทนเพื่อลูกไปก่อนถ้า ยังไม่มีทางไปที่ดีกว่านี้    ค่อยๆคิดนะคะ จากคุณ : ผ่องอำไพ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 13:19:01

ความคิดเห็นที่ 2 //3. ตอนนี้ครอบครัวอยู่ประเทศไทย ถ้ากรณีที่เขาหนีกลับญ๊่ปุ่น และไม่ส่งเสียเงินเลี้ยงดูบุตร เราสามารถฟ้องตามกฏหมายญี่ปุ่นได้ไหม// เรื่องฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดู ไม่ค่อยอยากให้หวัง เพราะขนาดเป็นญี่ปุ่นด้วยกัน อยู่ในญี่ปุ่น ถ้าเค้าไม่จ่าย ก็ตามตัว ตามเอาเงินยากมาก ... อยากให้มุ่งแนว หางาน หาทางเลี้ยงดูตัวเองโดย ใช้เงินของเค้าให้น้อยที่สุดก่อน อาจคุยกันดีๆว่า ถ้าหย่าตอนนี้ คุณและลูกลำบากหลายอย่าง ขอให้เค้าชะลอก่อนได้ไหม ...   เรื่องค่าใช้จ่าย ก็เเจงให้ค้าเห็นว่า ใช้จ่ายไปอย่างไรบ้าง คุยกันใจเย็นๆ .... อย่าดันทุรังว่าไม่หย่า ... อย่างเดียว การแยกกันอาจจะดีกับทุกฝ่ายก็เป็นได้ ฟังดูปัญหาคือการเงินด้วย คุณจึงต้องอดทน พูดดีๆ .... อย่าใจร้อนนะคะ .... จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 13:50:20

ความคิดเห็นที่ 3 คือว่าตอนนี้อยู่เมืองไทยค่ะ บ้าน และ รถสองคัน เป็นชื่อเราทั้งหมด เมื่อก่อนดิฉันก็ทำงานเงินเดือนหลายหมื่น แต่คุณสามีบอกว่าลูกต้องเลี้ยงเอง ตอนแรกทำงานไปด้วยเลี้ยงไปด้วยไม่ไหวก็เลยลาออกมาเลี้ยงลูก แต่สามีคิดว่าเขานอกใจค่ะ หรืออาจจะเรียกว่า เที่ยวคาราโอเกะ แล้วติดพัน เพราะภรรยาอาจจะบกพร่องไปช่วงเลี้ยงลูก แล้วพอทราบว่าเขานอกใจ ก็เลยเกิดการทะเลาะต่อเนื่อง สะสมปัญหามาเรื่อยๆ จริงเรื่องฟ้อง เราก็ไม่อยากทำ อยากให้กลับมาเหมือนเดิม เราพร้อมจะปรับตัว เพียงแต่ว่าถ้าเขายังยืนยัน เราก็คงต้องปกป้องสิทธิของเรา และลูก ที่ทำงาน บริษัทก็ใกล้บ้าน เรารออยู่ว่าแฟนจะปรับตัวไหม ถ้าไม่ปรับเราก็คงต้องเคลียร์ยาว ขอบคุณทุกท่านค่ะ เรื่องเงินจริงๆ ไม่ใช่ประเด็นสำหรับดิฉัน เพียงแต่ดิฉันอยากจะทำให้เขาไม่มีเงิน แล้วเขาจะได้รู้ว่าถ้าไม่มีเงิน คนที่เขาไปกิ๊กด้วยจะยังรักเขาอยู่ไหม เพราะเขาทำแบบนี้ ดิฉันสงสารลูกมากค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 15:01:46 จากคุณ : gungungirl เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 14:59:39

ความคิดเห็นที่ 4 1. ถ้าเขาขอหย่า แล้ว เราไม่ยินยอมหย่า แต่เขาใช้วิธีไม่กลับบ้าน ไม่ส่งเสียเงินทอง เราควรจะทำอย่างไรดี 2. ตอนนี้เขากำลังหางานใหม่เพื่อไปจากบ้าน ให้ไกลจากที่ทำงานเดิม ถ้าเขาได้งานใหม่ และหนีไปไม่ส่งข่าวทำอย่างไรดี ```````````````` ... ทบทวนดูระยะเวลาที่เรื่องต่างๆเกิดขึ้น ... เท่าที่ คุณเล่ามา ประมาณว่า ลูกคงจะสองขวบ น่าจะเป็นวัยที่น่ารักน่าชัง สำหรับพ่อแม่ สงสัยว่า เค้าเเสดงความรักลูก ตั้งแต่เกิดหรือเปล่า คุณบอกว่าพยายามจะปรับตัว ...หมายความว่า คุณเข้าใจว่า ... ส่วนหนึ่งมาจากการ +ไม่ปรับตัว+ ของคุณ .... ที่จริงแล้ว สามีก็ควรต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน .. คนเป็นแม่ ตอนลูกยังเล็ก ต้องเลี้ยงลูกเอง จะมีคนช่วยหรือไม่มีก็เป็นความลำบากทั้งสิ้น ร่างกาย ผลิตฮอร์โมน ที่ทำให้ อารมณ์แปรปรวนอยู่เป็นปีๆ  ค่อยๆ พูดให้สามีเข้าใจว่า ชีวิตคู่ต้องเปลี่ยนไปบ้างไม่มากก็น้อยเมื่อมีลูก ... เมื่อเป็นพ่อคนแม่คน  สงสัยว่า สามีไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อหรือเปล่าคะ เค้ายังรักสนุกเหมือนตอนไม่มีลูกหรือเปล่า ถ้าคุณกับสามี เลยจุดที่จะพูดจากันดีๆได้แล้ว ... น่าจะพยายาม พูดให้น้อยลง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ ของคุณกับเค้า หรือเค้ากับคนอื่น ... ไม่มีประโยชน์ที่จะท้าวความ หรือคิดหวังให้วันคืนแบบเก่าๆหวนคืนมา .... ถ้าจะกลับเป็นดังก่อนได้ก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน .... ถ้าเค้าพูดเรื่องขอหย่า ฟังเฉยๆ ไม่โต้ตอบให้เค้ารู้ว่า จะหย่าหรือไม่หย่า อาจผัดผ่อนว่า ขอเวลา คิดดูก่อน ขอปรึกษาผู้ใหญ่ .... รออีกหน่อยให้ลูก เข้าโรงเรียนก่อน ฯลฯ ในเมื่อใจคุณยังไม่พร้อม ก็ยังไม่ต้องฝืนใจตัวเอง ... อยากร้องไห้ก็ร้อง แต่ร้องเงียบๆ ไม่ตีโพยตีพาย ฟูมฟาย ที่สำคัญ ไม่ทะเลาะเป็นปากเสียง พยายามทำใจว่า คนเรานั้น มีการเปลี่ยนแปลง ... เรื่องเงิน ถ้าเค้าไม่ส่งเสีย ก็ตามไปถึงที่ทำงาน อยู่เมืองไทย น่าจะมีลู่ทางทำได้ เพราะคุณไม่มีงานทำ และมีลูก อาจขอพบหัวหน้าของเค้าเป็นต้น ... เค้าคงต้องขอวีซ่า มีกระบวนการทาง กม. บางอย่างที่ จะหนีจากครอบครัวไม่ได้ง่ายๆ  การตามหาตัวในเมืองไทย ไม่น่ายาก การหนีกลับญี่ปุ่น ไม่น่าง่าย ถ้าไม่ใช่บริษัทส่งกลับ เค้าต้องหางานทำซึ่งก็ไม่ง่ายเลย มีอะไร คุยๆออกมา ... เพื่อความสบายใจนะคะ  แม้ไม่มีคนตอบ แต่เชื่อว่า มีคนรับฟัง ให้กำลังใจคุณอยู่ ... จากคุณ : nijja เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 21:32:05

ความคิดเห็นที่ 5 ว่าจะให้กี๊ฟคุณ nijja แต่เดือนนี้แจกกี๊ฟเพลินไปหน่อย หมดแต่กลางเดือน ก็เลยขอแจมด้วยหน่อย เห็นด้วยกับคุณ  nijja ทุกข้อ เพราะมีประสบการณ์มาแล้ว ขี้เกียจเล่าซ้ำ ไหนๆก็มีลูกด้วยกัน ไม่อยากให้ครอบครัวต้องขาดใครไป ชายญี่ปุ่นหลายๆคนไปใจแตกที่เมืองไทย เพราะสิ่งแวดล้อมเป็นใจ ยังมีสาวๆอีกมากที่คิดว่า มีสามีญี่ปุ่นแล้วจะสามารถเปลี่ยนสถานะได้ ก็เลยเป็นเป้าหมาย หนุ่มญี่ปุ่นเองก็เถอะ อดใจกับความสวยงามล่อตาล่อใจของสาวไทยไม่ได้ ก็มีเผลอไผลไปบ้าง บางคนก็กู่กลับ บางคนก็กู่ไม่กลับ ไปแล้วไปลับ ป้าเคยสู้มาอย่างถึงที่สุด ไม่ยอมเสียสามีไปง่ายๆ เพราะสามีเป็นคนดี เคยดีกับเรามากๆ แล้วถ้าเขาหลงผิดไปบ้าง เพราะอ่อนประสบการณ์ เห็นผิดเป็นชอบ เห็นหญ้าอ่อนๆน่าลิ้มลองกว่า หญ้าแก่ๆที่เหี่ยวแห้ง ให้เวลาเขาคิดและสำนึกผิด ก็สามารถกลับมาครองรักกันได้เหมือนเดิม อาจจะทำใจยากสักหน่อยตอนแรกๆ ขอให้ จขกท ลองอดทนอีก พูดคุยทำความตกลงกันให้เข้าใจ ถ้าเขาไม่หน้ามืดตามัวจนเกินไป ขอให้เห็นกับลูก ข้อบกพร่องที่ผ่านๆมา เราจะพยายามปรับปรุงตัวใหม่ พบกันคนละครึ่งทาง ขอให้โชคดี ได้สามีกลับมาโดยเร็ว ถ้าคู่ต่อสู้ของเราเป็นสาวคาราโอเกะ เราก็หันมาปรับปรุงตัวให้ชวนมอง อย่าปล่อยตัว เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้ได้ครอบครัวกลับคืนมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน จากคุณ : พนอจัน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 18:52:04

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณค่ะ เราอายุมากกว่าสามี 3-4 ปี คุณพนอจันพูดแล้วแทงใจค่ะ "หญ้าแก่ๆ ที่เหี่ยวแห้ง" เราไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นสาวที่ไหน เพราะโกหกตลอด แต่เราก็ไม่ได้สนใจที่จะติดตามหรอกค่ะ เพราะเข้าใจว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับสามีของเรา..สักวันความลับที่ปิดไว้ก็จะเปิดเผย .. ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ และกำลังใจ สู้ๆ ค่ะ เพื่อลูกตัวน้อย.......... (พยายามทำความเข้าใจให้ได้ว่า ไม่รักแม่มันแล้ว แต่ทำไมเขาไม่คิดถึงลูกเลยเหรอ แย่จัง) จากคุณ : gungungirl เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 19:26:08

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นกำลังใจให้ครอบครัวของคุณกลับมามีความสุข และรักกันมากขึ้นกว่าเก่านะคะ ชีวิตคนเราอาจพบเจออุปสรรคบ้าง แล้วมันจะผ่านไปค่ะ สู้ๆ นะคะ จากคุณ : baby_cherry เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 18:06:00

ความคิดเห็นที่ 8 ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ขอให้กำลังใจนะครับ สู้ๆ ครับ จากคุณ : ฟุตลอง เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 18:06:38