|
1. เรียนก่อนว่า M.B.A. ในอเมริกาส่วนใหญ่ต้องใช้ประสบการณ์การทำงานนะครับ โดยเฉพาะ Top-ranked Business Schools ควรมีประสบการณ์การทำงานประมาณ 4-6 ปีครับ
M.B.A. in Finance ในคณะบริหารธุรกิจ จะเน้นศึกษาเนื้อหาในส่วนของ Financial Management และ Investment Management เป็นหลักครับ โดยรูปแบบในการเรียน จะใช้ Case Studies หรือเน้นการเรียนแบบภาคปฏิบัติเป็นพิเศษครับ และรูปแบบการเรียนได้รับการออกแบบมาให้ผู้เรียนได้ฝึก Presentation, Negotiation, Communication, Practical, Leadership etc. Skills ไปในตัวด้วย ส่วนเนื้อหาในการเรียนไม่ได้ยากขนาดที่ว่าคนทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้ครับ (ไม่มีคณิตศาสตร์ หรือสถิติขั้นสูง และไม่ได้เรียนทฤษฎีระดับสูง) และจะได้ศึกษาถึงหลักในการบริหารธุรกิจโดยทั่ว ๆ ไปด้วยครับ เช่น การตลาด การบัญชี การบริหารทรัพยากรบุคคล การบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ฯลฯ ถ้าจบหลักสูตรนี้ เหมาะที่จะเป็น Investment Banker, Management Consultant, Equity Research Analyst, CFO, CIO, Financial Manager, Fund Manager, Portfolio Manager, etc. ครับ
M.S. Finance จะเน้นศึกษาทฤษฎีทางการเงินโดยใช้เครื่องมือทางคณิตศาสตร์และสถิติมาอธิบายครับ เนื้อหาครอบคลุมทฤษฎีทางการเงินหลัก ๆ เกือบทั้งหมด (Corporate Finance, Asset Management, Quantitative Finance, Financial Markets, Financial Risk Management, Financial Statement Analysis) ใช้คณิตศาสตร์ตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับสูงครับ (ส่วนใหญ่ก็ Linear Algebra, Differential Calculus, Integral Calculus, Differential Equations, Mathematical Statistics, Financial Econometrics) โดยทั่วไปแล้ว หลักสูตรนี้จะมีเนื้อหาทับซ้อนกับ CFA Level 1-3 มากกว่า 70% ครับ ถ้า จบหลักสูตรนี้ ทำงานได้เกือบทุกตำแหน่งใน Finance Sector เลยครับ (แต่เห็น(คนไทย)ส่วนใหญ่เป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และผู้จัดการกองทุนกันครับ)
2. M.S. Finance ใน US มีเยอะจริงครับ แต่ถ้าเอา Business Schools ระดับท็อบ มีน้อยมากครับ เห็นแค่ MIT, UIUC เองครับ ส่วนใหญ่เขาจะเปิดเป็น Financial Engineering, Mathematical Finance, Financial Mathematics, หรือ Computational Finance หมดครับ
3. ดูในความคิดเห็นที่ 3 ครับ
จากคุณ |
:
Rifle D.
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ก.ค. 54 13:20:12
|
|
|
|
|