ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องกฏหมายเมกาไม่รู้นะค่ะ ขอแนะนำแค่ว่าก่อนเซ็นสัญญาต้องคุยกันค่ะ  เพราะหลายๆคู่ที่มีสัญญาก่อนแต่งแต่อ่านสัญญาแล้วไม่เป็นธรรม  เราก็ลองคุยกับแฟนดูว่าพอจะแก้ไขหรือทำยังไงให้เหมาะสมกับเราได้บ้าง เราก็บอกเขาไปเลยว่าอย่างน้อยก็เป็นหลักประกันให้เราถ้าเราแก่ตัวไป  ฝรั่งเขาชอบคนพูดตรงๆอยู่แล้ว จากคุณ : sapuknik79 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 13:50:27

ความคิดเห็นที่ 2 เซ็นต์อะไร Prenup ? ถ้า Prenup จริงๆก็แล้วแต่เขาเขียน และก็มีโอกาสที่จะไม่ได้อะไรด้วยครับ จะแต่งกับใคร ก็ขอให้รักเขาจริงๆ อย่ารักแค่เงินของเขาเถอะครับ เขาจะยกอะไรให้หรือไม่ยกอะไรให้ก็คงจะเป็นสิทธิของเขา ถ้าเราอยากได้ก็ขอเอา มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่รักกันจริงๆ แม้แต่กฎหมายไทย สินทรัพย์ที่เขาได้มาก่อนแต่ง ยังไม่ถือว่าเป็นสินสมรสเลยครับ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 15:45:35 จากคุณ : ข้าวหลามอร่อย เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 15:35:41

ความคิดเห็นที่ 3 ที่ว่าเป็นนักบินนี่ นักบินของอะไรคะ? ถ้าหมายถึงเป็นข้าราชการทหาร บำนาญของเขาจะถูกภรรยาเก่าเเบ่งครึ่งไป เพราะเขาอยู่ด้วยกันมาเกิน 10 ปี ถ้าเขาเคยเเต่งงานมากกว่า 1 ครั้ง ทั้งสองครั้งนาน 10 ปีขึ้นไปหน ทางหลวงจะเอา 50% ของบำนาญเขา ไปเเบ่งให้ภรรยาเก่าสองคน คนเเรกจะได้มากกว่า ที่ว่ามีลูก 4 คน อายุเท่าไรกันบ้าง? นอกเหนือจากเงินบำนาญที่ต้องเเบ่งกับภรรยาเก่าเเล้ว หากลูกอายุไม่ครบ 18 ปี ต้องจ่าย Child support เพิ่มอีกต่างหาก เเค่นี้เงินบำนาญก็เเทบจะไม่เหลือให้ตัวเขาใช้เองเเล้วมั๊ง คุณ จขกท ลองตรองดูเเล้วกัน หากรักเขา ก็ต้องอดทน จนหน่อยเเต่ได้อยู่กับคนที่เรารักก็ไม่เป็นไร เเต่หากคุณ จขกท ห่วงอนาคตของตัวเอง (ซึ่งคุณก็มีสิทธิ์จะห่วง) ก็ต้องทบทวนหน้าหลังให้ดี เเต่งไปเเล้วจะรอดไหม อย่างน้อยได้สุขสบายตามอัตภาพหรือเปล่า ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : Jennifer Lowclass เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 16:21:21

ความคิดเห็นที่ 4 แต่งเพราะเงินจริงๆ -.- จากคุณ : STRESSI เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 16:27:00 A:91.2.59.19 X: TicketID:323912

ความคิดเห็นที่ 5 ^^ ^^ who doesn't want money ...? ! ? ...or you ! จากคุณ : normal passion เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 17:06:44 A:138.188.100.254 X: TicketID:322214

ความคิดเห็นที่ 6 เราเห็นด้วยที่ต้องคุยกัน เพราะธรรมเนียมฝรั่งกับไทยนั้นไม่เหมือนกัน ถ้าคุณมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอย่างเช่นส่งให้ที่บ้านก็ต้องบอกไปแต่เนิ่นๆให้เค้าทำความเข้าใจไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นปัญหา ใครจะว่าเห็นแก่เงินก็ไม่ต้องสนใจ ถ้าคุณรักเค้า เค้ารักคุณก็ต้องทำสิ่งที่ให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกดี คุณยอมจากบ้านจากครอบครัวไปแต่สามีคุณไม่ได้ดูแลอย่างที่ควรจะเป็น ตอนรักกันใหม่ๆโลกก็สดใสแต่นานๆไปรักกันไปไม่ยืดยาว ไปอยู่ใหม่ๆก็ต้องปรับตัวเยอะ งานก็หายากขนาดคนท้องถิ่นยังตกงาน  สิบปีผ่านไปเลิกกัน  งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี แก่อีกตังหาก รักกันไม่ใช่ที่เงิน แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าเงินไม่สำคัญ ไม่ใช่เหรอ? จากคุณ : Stupid is as stupid does เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 17:18:00

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกความเห็น คงต้องคุยกันก่อน เพราะต้องลาออกจากงานบริษัทญี่ปุ่นที่ทำอยู่ด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหางานทำที่นั้นได้หรือเปล่า แต่งด้วยความรักค่ะ คบกันมา 3 ปีแล้ว แต่อนาคตเงินก็สำคัญถ้าเกิดเค้าทิ้งเราตอนแก่ล่ะ จะทำยังไง เพราะฉะนั้นก่อนเซ็นต์ก็เลยต้องขอคำแนะนำจากชาวพันทิพก่อน จากคุณ : Boomsy (Boomsy17) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 18:07:23

ความคิดเห็นที่ 8 เราก็ไม่ทราบกม.เมกานะคะ แต่แนะนำคุณจขกท.นิดนึงว่าขอคำแนะนำจากชาวพันทิพแล้ว อย่าลืมหาทนายของคุณเองไปเป็นตัวกลางคุยกับเขานะคะ ถ้าคุณไม่รู้กม.ใช้ทนายดีกว่าค่ะ จากคุณ : ##TUKTA## เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 18:22:19

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยกับ คห ที่ 6 ใครจะว่าคุณว่าแต่งงานเพื่อเงิน อย่าได้ไปสนใจเลยครับ เราก็ต้องนึกถึงอนาคตตัวเองด้วย การแต่งงานกันไม่ใช่ว่าจะอยู่กันไปจนตายทุกคู่ ถ้าพูดว่ารักกันจริงถึงแต่ง แล้วทำมั้ยฝ่ายชายต้องการให้คุณเซ็นต์ Prenuptial agreement ด้วย การที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดขอให้คู่รักเซ็นต์สัญญาแบบนี้ เพราะเค้ามีทรัพย์สินมาก แล้วกลัวคุณมาปอกลอก มันฟังดูเหมือนเป็นการดูถูกคุณนะ เรื่องนี้มันละเอียดอ่อนมาก ต้องคุยกันให้ดี ทำความเข้าใจกันให้ซึ้งก่อนที่คุณจะเซ็นต์ และต้องหมั่นใจก่อนที่คุณจะแต่ง สาเหตุนึงที่ผมคิดว่าเค้าต้องการให้เซ็นต์เพราะเค้าต้องการ protect ลูกของเค้า สัญญาอันนี้เค้าจะเขียนยังไงก็ได้ คุณก็ต้องดูด้วยว่ามันยุติธรรมกับการที่คุณต้องลาออกจากงาน แล้วมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเค้ามั้ย เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : LeePablo773 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 19:26:33

ความคิดเห็นที่ 10 เอาใจเขามาใส่ใจเรานะคะ คนมีลูกก็ต้องห่วงลูกเป็นธรรมดาค่ะ จะให้เค้าไม่ยกอะไรให้ลูกเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งทรัพย์สินเงินทองที่เค้ามีมาก่อนแต่งงานกับคุณก็ควรจะเป็นสิทธิของเค้า เพราะถ้าคุณมีลูก  คุณก็ต้องห่วงลูกของคุณ อีกทั้งจะให้คุณยกหรือแบ่งทรัพย์สินที่มีมาก่อนของคุณให้กับสามี ถ้าหากว่าไปกันไม่ได้ คุณเองก็คงจะไม่ยอมเหมือนกัน การทำ prenuptual agreement ไม่ใช่เรื่องเสียหายค่ะ แต่เป็นการป้องกันเหตุสุดวิสัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในชีวิตคู่ การหย่าร้างโดยใช้ทนายความนอกจากจะเสียเวลา เสียเงินแล้ว ยังต้องเจอะเจอกับภาวะกดดันด้านจิตใจด้วย  ดิฉันมีเพื่อนร่วมงานที่ต้องจ่ายค่าทนายในการหย่าร้างไปไม่ต่ำกว่า $30,000 เหรียญและใช้เวลาถึง 2 ปี บำนาญในส่วนของ pension และ social จากการทำงาน  โดยทั่วไปแล้วก็คงต้องทอนลงไปตามระยะเวลาที่เค้าสมรสกับภรรยาเก่า  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับข้อตกลงตอนที่เค้าหย่าร้างกับภรรยาเก่าค่ะ ถ้าตัดสินใจจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ก็ควรจะคุยกันค่ะ  แล้วลองสมมุติตัวคุณเองเป็นฝ่ายชายด้วย  ว่าถ้าคุณอยู่ในฐานะตัวเค้า คุณจะให้ได้แค่ไหน โชคดีค่ะ จากคุณ : MCCGO เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 19:58:48

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าแฟนมีสมบัติมาก ก็ให้เขาแบ่งให้กับลูกให้เรียบร้อย ส่วนทรัพย์สินหลังแต่งงานก็ให้เป็นสินสมรส คุณมีสิทธิ์ทุกอย่างครึ่งนึง แบบนี้จะดีกว่าไหมคะ ส่วนเงินบำนาญ เงินโซเชียล พวกนี้ภรรยาเก่าเขามีสิทธิ์ด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 20:23:39 จากคุณ : หมูหวาน เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 20:15:13

ความคิดเห็นที่ 12 อาจจะไม่ช่วยอะไรมาก แต่อยากจะบอกว่าถ้าเป็นไปได้ควรจะทำงานเมื่อมาอยู่ที่นี่ค่ะ เพราะถ้าคุณไม่ทำงานเลย สังคมก็จะไม่มี ถ้าสามีคุณเกิดต้องการจะปิดหูปิดตาคุณ เค้าก็ทำได้อย่างไม่ยากเลย. หลายๆคู่ที่เห็นมาก็มีปัญหาเรื่องการเงิน คุณเคยทำงานมาก่อน อยากจะซื้ออะไรก็ไม่เคยต้องขอ คราวนี้มาอยู่แล้วไม่ได้หาเงินด้วยตัวเองอาจจะอึดอัดได้ค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (CaliGirl) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:48:51

ความคิดเห็นที่ 13 หาทนายตัวเองเข้าสักคนแล้วอ่านดูว่า พรีนัพน่ะว่าอย่างไร คุณต้องถามสามีคุณด้วยว่า ตอนหย่ากับเมียมาน่ะ ด้วยข้อตกลงอะไร จ่ายค่าเลี้ยงดูหรือไม่ อย่างไรเท่าไหร่ เพราะเขามีสิทธิได้บำนาญและได้ส่วนหนึ่งในรายได้ เเล้วลูกสี่คนนี้ อายุเกินวัยเรียนไปหรือยัง ต้องส่งเสียใครเรียนหรือไม่ เพราะบอกตรงๆ ว่า ได้เงินเดือน เดือนละหมื่นกว่าๆ แค่นี้ ภาระมีอะไรบ้างเราไม่รู้ บำนาญที่จะได้ก็ยิ่งไม่มากเข้าไปใหญ่ มีญาติเป็นนักบิน มีลูกสี่คน และกำลังจะหย่ากับภรรยา ทำงานเดลต้าเหมือนกัน หวังว่าจะไม่ใช่คนเดียวกัน จากคุณ : ก เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 21:51:13 A:98.199.17.239 X: TicketID:000072

ความคิดเห็นที่ 14 ตัวหนังสือสัญญาจะต้องยินยอมทั้งสองฝ่าย หากคุณไม่พอใจ อย่าเซ็น และตัวคุณเองจะต้องมีทนายมา review เอกสารให้คุณด้วย จากคุณ : น้ำแดงโซดา เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 22:12:35

ความคิดเห็นที่ 15 คนเราถ้ารักกันจริง ๆ ต่อให้ไม่ได้อะไรเลย บางคนก็ยอม แต่เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ เค้าอาจจะแก้ใขPrenup ตอนหลังก็ได้ อ่าน Prenup แล้วคิดดูให้ดีว่าเราจะอยู่ได้มั้ย ถ้าในอนาคตต้องมีการหย่าร้างกัน ถ้าคุณไม่ได้อะไรจากเค้ามาก ก็หางานทำเอง เก็บเงินของตัวเอง แต่ส่วนใหญ่เค้าไม่อยากให้คุณทำงานหรอก เพราะคุณอาจจะไม่ได้เงินมากมายอะไรนัก แล้วไปเพิ่มรายได้ของเค้าอึกเวลาเสียภาษี ต้องไปเสียฐานที่สูงของเค้า ทำให้เค้าต้องเสียภาษีมากขึ้น แต่ถ้าคุณได้รายได้ดีมาก ๆ ก็อีกเรื่องนึง ลูกตั้ง 4 คน คุณคงไม่ได้อะไรมากหรอก เงินที่หามาได้ต้องยกให้ภรรยาเก่าไปแล้วอย่างน้อยครึ่งนึง  แล้วถ้าลูกยังอยู่ college เค้าก็ยังต้องรับผิดชอบอยู่ จากคุณ : Route 63 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 22:23:05

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ทราบเรื่องกฎหมายอเมริกาค่ะ แต่แนะนำให้คุณทำงานเมื่อมาอยู่ต่างแดน พยายามยืนด้วยขาของตัวเองให้ได้  เรารู้จักคนที่แต่งงานมาอยู่ต่างประเทศเป็นสิบยี่สิบปี วันดีคืนดีสามีไปมีกิ๊ก ตอนนี้ลูกก็โตแล้ว อีกไม่นานลูกคงย้ายออกไปอยู่เอง  แต่ฝ่ายหญิงต้องกล้ำกลืนฝืนอยู่ต่อไปเพราะถ้าหย่ากันไปก็ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร เพราะไม่เคยทำงานจริง ๆ จัง ๆ ตั้งแต่แต่งงาน จะกลับเมืองไทยเค้าคงคิดว่าเสียหน้า เสียดายแทนเพราะฝ่ายหญิงเป็นคนมีความรู้ มาอยู่ต่างประเทศตั้งแต่ยังอายุไม่มาก ถ้าขวนขวายเรียนเพิ่มเติมและพยายามหาหนทางประกอบอาชีพตั้งแต่เมื่อมาถึงใหม่ ๆ ก็คงไม่ต้องทนอยู่กับคนที่ไม่รักกันแล้วต่อไปแบบนี้ จากคุณ : Sonnenschein เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 22:41:52

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่มีพ่อดี ๆ คนไหนรักเมียใหม่มากกว่าลูกตัวเองหรอก เหอะ ๆๆ ปล ตอนเราให้สามีเซ็นพรีนัพก่อนแต่ง (เรีื่องมรดกของฝ่ายเรา) ก็ไม่เห็นเค้าจะมีปัญหาอะไร มาคิด ๆ ดูถ้าเค้าเป็นฝ่ายให้เราเซ็นเราก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว เพราะเรากำลังจะมีหน้าที่การงานที่ดีและไม่ได้หวังจะได้ทรัพย์สมบัติอะไรจากเค้า แค่อยากมีคนรู้ใจที่จะแก่ไปพร้อม ๆ กัน แล้วคุณล่ะหวังอะไรจากการแต่งครั้งนี้ ? แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 00:55:12 แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 00:20:34 แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 00:18:59 จากคุณ : Severus' Lover เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 00:06:51

ความคิดเห็นที่ 18 โอ้ว...ลูกสี่ เมียอีกหนึ่ง เงินเกษียรจะเหลืออะไรมั่งเนี่ย ถ้าคุณทำงานบริษัทญี่ปุ่นมั่นคงอยู่แล้ว ลองคิดดูดีๆนะ รักก็ส่วนรัก เงินก็สำคัญ แต่งมาอยู่ต่างประเทศ ถ้าไม่ได้ทำงานเอง แบมือขอเงินสามี มันลำบากนะ ถ้าเขาเข้าใจก็ดีไป แต่บางคนไม่อย่างนั้นสิ ลองคิดดูนะคะ ปล. สามีอายุเท่าไหร่คะ จากคุณ : มิอากะจัง เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 01:30:38

ความคิดเห็นที่ 19 คิดให้รอบครอบนะคะ ก่อนตัดสินใจทิ้งงานทิ้งอนาคตของคุณมาอยู่กับคนที่คุณ "จะไม่มีวัน" เป็นที่หนึ่งของเขา เรื่องนี้ตอนแรกๆ อาจทนได้แต่นานๆไปมันจะทำให้คุณเสียใจและน้อยใจไม่มีวันสิ้นสุดค่ะ หากเป็นดิฉัน ดิฉันจะหาคนใหม่ไม่มีพันธะผูกพัน จนรวยไม่สำคัญ เราช่วยกันสร้างอนาคตได้ค่ะ ดิฉันว่ามีความสุขกว่ากันเยอะคะ จากคุณ : ยาแดง เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 01:42:16 A:76.185.72.119 X: TicketID:008843

ความคิดเห็นที่ 20 ทั้งคูเคยอยู่ด้วยกันประมาณ 20 ปี  และหย่าขาด ก็คิดดูให้ดีว่า ทำไมจึงจะแต่งกับเขา ไปหาทนายให้อธิบายเรื่องสัญญา ให้เข้าใจก่อนเซ็นต์ด้วย จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 02:33:27

ความคิดเห็นที่ 21 แนะนำว่า ถามและพูดคุยตรง ๆ กับแฟนไปเลยคะ เรื่องพวกนี้ อย่าได้คิดว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ เอาแต่ได้ เพราะหลายคู่ไม่เคลียร์ให้จบก่อนแต่ง พอแต่งไปแล้ว ไม่นานก็เลิกก็เพราะเรื่องเงินเนี่ยแหละคะ อย่างที่เคยบอกใคร ๆ "เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับชีวิต แต่หากขาดมันไป ชีวิตจะอยู่ดีได้อย่างไร? " ถ้าเขารักคุณจริง เขาก็ต้องแสดงความมั่นใจให้คุณได้เห็น จะให้คุณแต่งไป ลาออกจากงานไปอยู่ที่นู้น เขาจะเลี้ยงดูคุณได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่สูบเงินเขา แต่พูดกันตามจริง อเมริกากำลังย่ำแย่ แถมคุณยังเพิ่งไปใหม่ ๆ เลิกหวังได้เลยว่า ไปปุ๊บจะมีงานรองรับ แล้วจะเอาอะไรกิน ถ้าสามีไม่มีปัญญาเลี้ยงคุณ? จากคุณ : วิหคลม เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 02:47:00

ความคิดเห็นที่ 22 ทำไมคุณ Severus's Lover ไม่เคยมองคนในแง่ดีเลยคะ เวลามีคนมาตั้งกระทู้แนวนี้ ชอบพูดเป็นนัยๆอยู่เรื่อยว่า จขกท เค้าแต่งงานเพราะเรื่องเงิน หัดเปิดใจให้กว้างบ้างนะคะ เผื่อโลกที่คุณยืนจะได้สูงขึ้นบ้าง  ด้วยความเคารพค่ะ  จากคุณ : มู๋หวานอ้วน เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 02:51:52

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นใจน่ะค่ะ แต่ ว่าต้องคุยกับสามี ไปเลยค่ะ เอา แบบชัดเจนไปเลย เพราะคนจำนวนมาก ที่มาอยู่ ต่างประเทศแล้ว ผิดหวัง มี มากมายค่ะ จากคุณ : ตนเป็น ที่พึงแห่งตน (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 03:32:18

ความคิดเห็นที่ 24 money isn't the most important thing in this world, but it's neccesary thing to live in this material world. ....whoever wants to live with her husband without his any money support, let that one does. ... but not me, i'm not slave wife. i live in the real world, not in the fantasy world. จากคุณ : madame not slave เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 03:44:14 A:138.188.100.254 X: TicketID:322214

ความคิดเห็นที่ 25 #24 whoever wants to live with her husband without his any money support, let that one does. หลาย ๆ คนที่มาเรียนหรือทำงานที่นี่ไม่ได้มาแบบตายอดตายอยาก หลาย ๆ คนมีปัญญาหางาน white collar ทำ ไม่ต้องขวนขวายหาสามีเพื่อ support หรอกค่ะ อย่าคิดว่าคนอื่นเค้าง่อยเปลี้ยเสียขาเหมือนตัวเองไปซะหมดนะคะคุณเมีย GI #22 เห็นประโยคนี้แล้วก็หงายเงิบค่ะ "กลุ้มใจมากเลยเพราะกลัวว่าเราจะไม่ได้อะไรเลย แล้วต้องมาหางานทำตอนแก่อีก" เขียนยังงี้แปลว่ากะมานั่งกินนอนกินเงินสามีอย่างเดียวอยู่แล้ว สงสารผู้ชายแทนที่จะได้ภรรยาที่จะมาช่วยกันสร้่างเนื้อสร้างตัว (เงินเดือน $10,000 นิด ๆ ไม่ได้มากมายเลย โดน child support, alimony, ค่าเทอมลูกเข้าไป ไม่รู้เหลือเท่าไหร่) ดันมาได้ผู้หญิงที่อยากได้สินก่อนสมรสและเงินบำนาญ (ที่เป็นสิทธิ์ที่ควรได้ของลูกสี่คนกับภรรยาเก่าของเขา) แต่อย่างน้อยผู้ชายคนนี้ฉลาดและมีสติพอที่จะให้ จขกท เซ็นพรีนัพก่อนแต่ง แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 05:05:11 แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 04:42:37 จากคุณ : Severus' Lover เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 04:40:13

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้ารักกันจริงก็ไม่ต้องกังวลเรื่่องเงินให้มากมายนัก เพราะ่ว่าเอกสารพวกนี้เปลี่ยนแปลงได้ ถ้าทำตัวดี น่ารัก ไม่แสดงให้เค้าเห็นว่าเป็นคนหน้าเงิน เดี๋ยวเค้ามีอะไรก็ยกให้หมดหละค่ะ ยิ่งคนอายุมากแล้ว ยิ่งอยากให้คนรักและเข้าใจ เงินสำคัญและจำเป็นแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะคุณก็อาจจะหาเองได้ ซึ่งจะทำให้ใช้ได้สะดวกใจกว่าใช้เงินของสามี ยิ่งเคยทำงานมาแล้วยิ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ คนรักความเจริญก้าวหน้า อยู่ไหนก็ไม่อดตายหรอก ขอเป็นกำลังใจนะคะ นี่คือทุกข์ของคนจะมีสามีรวยอย่างหนึ่งเช่นกัน จากคุณ : Cutie_May เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 06:17:10

ความคิดเห็นที่ 27 เข้าใจว่าคุณคงจะห่วงอนาคตตัวเอง มีใครที่ไม่ห่วงเรื่องของอนาคต ใครอยากแต่งแล้วกัดก้อนเกลือกิน ถ้าเซ็นต์พรีนับ ก็อย่างที่หลายท่านบอก ให้หาทนายและอ่านสัญญาดีๆ มีอะไรที่เราเสียเปรียบหรือเปล่า ถึงแม้เราไม่มีสิทธิในทรัพย์สมบัติก่อนแต่ง แต่อย่าให้เสียเปรียบในสิ่งที่เราควรจะได้ในอนาคต ความรักอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะดิฉันว่า ใครๆก็ต้องห่วงตัวเองทั้งนั้น ลูกสี่คนนี่ คิดว่าคุณอาจจะมีปัญหาภายหลังนะ อย่างไรเค้าก็คงจะรักลูกมากๆ ภรรยาหย่ากันแล้วก็เป็นอื่น แต่ลูกเขานี่คงตัดไม่ขาด แต่งกับคนมีพันธะ มันจะเสียใจทีหลังได้ เคยได้ยินเพื่อนเล่ามา ว่า คุณยาย(เค้าอายุเยอะแล้วอ่ะ) อยู่อีกประเทศหนึ่ง สามีเสียชีวิตมาหลายปีแล้ว ไม่อยากกลับไปเมืองไทย เลยหาเพื่อนทางเน็ต แล้วก็มาเจอคุณตา ซึ่งภรรยาเสียชีวิตมาสองปีได้มั๊ง สุขภาพคุณตาก็ไม่ค่อยดีมาก ป่วยเป็นอะไรไม่ทราบ อยากได้คนดูแล เลยให้คุณยายมาอยู่ด้วย(สองคนนี้อยู่คนละประเทศนะคะ) เป็นสามีภรรยากัน ลูกๆไม่เห็นด้วย เพราะกลัวคุณยายจะมาเอาสมบัติเพราะพ่อคงจะอยู่ได้ไม่นาน แต่คุณตาเหงาและต้องการคนดูแล คุณตาทำพินัยกรรมยกบ้านพร้อมเงินสดที่เหลือให้คุณยายหมด ทั้งๆที่มาอยู่ด้วยกันได้แค่เดือนสองเดือน ลูกๆไม่พอใจ แต่คุณตาไม่สน เพราะร้อยวันพันปีไม่มาดูดำดูดี พอพ่อจะมีเมียใหม่รีบมาห้ามเลย เค้าคงจะกลัวคุณตาตอนหลอก แต่ที่เห็นๆคุณยายเป็นคนดีค่ะ เค้าแค่ไม่อยากกลับเมืองไทย อยากมีเพื่อนตอนแก่ และอยากมาอยู่ประเทศนี้ ที่เล่ามาคือจะบอกว่าคงจะมีบ้างที่คนบางคนอาจจะรักเมียใหม่มากกว่าลูก แต่คงจะน้อย แต่อย่างไรก็แล้วแต่ มันอยู่ที่ครอบครัวของเขาคนนั้นว่าพื้นฐานเป็นกันมาอย่างไร แล้วกรณีของคุณ สามีอายุเท่าไหรคะ ลูกๆโตกันหรือยัง คิดว่าคงจะอยู่ในวัยเรียน เพราะแต่งงานมายี่สิบปี ลูกๆคงจะเป็นวันรุ่นกันอยู่ ค่าใช้จ่ายก็คงจจะเยอะนะ รายได้ของสามีคงจะไปหมดกับลูกๆและเมียเก่าหมดแหละ คิดให้ดีๆหาคำตอบให้ตัวเองเยอะๆ แล้วค่อยตัดสินใจค่ะ จากคุณ : PoomPim..TMB เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 06:59:34

ความคิดเห็นที่ 28 ลูกๆ เค้ามีงานทำกันหมดทุกคนค่ะ อายุเกินวัยเรียนแล้ว ทุกคนก็เป็นห่วงอนาคตเหมือนกันทุกคน คบกันมา 3 ปีไม่เคยขอเงินจากเค้าสักบาทเดียว แต่เรื่องสัญญาก่อนแต่งเราก็ไม่รู้จริงๆ เป็นคนอื่นก็ต้องคิดกันทุกคนก่อนจะเซ็นต์อะไร ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ จากคุณ : Boomsy (Boomsy17) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 08:19:18

ความคิดเห็นที่ 29 อะไรนะ? เงินเดือนหมื่นกว่าเหรียญ!!? จริงเหรอคะ? เดี๋ยวๆ นี่ต่อเดือนจริง หรือต่อปีคะเนี่ย ถ้าต่อเดือนนี่นับว่ารวยมากเลยนะเนี่ย เอาที่ไหนมาพูดว่าเงินน้อย (ถ้าต่อปีอ่ะ น้อยโคดๆจริง แต่คิดว่าไม่ใช่หรอก นั่นมันพวกเวท part time แล้ว) เท่ากับปีนึงได้ 120,000 เหรียญโดยประมาณ!!? นี่มันเงินเดือนเยอะระดับเดียวกับที่เราอ่านนิตยสารแล้วเค้าจัดอันดับ อาชีพที่เงินดีที่สุด 1 ใน 20 อันดับของเมกาเลยนะ ถ้าหักให้ภรรเมียหรือลูกไปอาจจะเหลือน้อยจริง (ก็ลดไปตั้งครึ่ง) แต่ถ้าบอกว่านี่เงินเดือนน้อย เอ่อ แล้วต้องเท่าไรถึงจะเรียกว่าเยอะคะเนี่ย? คนที่พูดว่าเงินน้อยนี่อยู่เมกากันรึเปล่าคะ? สงสัยนิดๆ จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 14:11:08

ความคิดเห็นที่ 30 ทำไมบางความเห็นต้องประชดประชันเหน็บแนมด้วย ไม่เข้าใจ จากคุณ : Freedom of Life เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 14:26:27

ความคิดเห็นที่ 31 รายได้ต่อ เดือน 10000 ขึ้น ไม่น้อยนะคะ เขาเสียภาษีเยอะด้วย ถ้าทำงานส่วนตัว เมื่อสิ้นปี คิดรายได้ต่อปีอีก คำนวณภาษีเพิ่มอีก จ่ายภาษีอีกรอบหนึ่ง แฟนเรารายได้ต่อเดือน 20000 ขึ้น บางเดือน 30000 ยูโร แต่เสียภาษีเยอะมากค่ะ แต่แฟนไม่ทำสัญญาก่อนแต่งค่ะ เราว่าคุณทำงานที่ไทยมีรายได้เองใช้เองจะดีกว่าค่ะ อย่าเพิ่งออกจากงานเลย จากคุณ : แม่คนไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 16:27:54 A:90.146.93.246 X: TicketID:276525

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ : พีพี.พูพู เงินปีละแสนสอง ไม่น้อย แต่ไม่ใช่คนที่จัดว่ารายได้มาก ยิ่งเป็นคนในวัยที่เกินสี่สิบไปแล้ว ยิ่งไม่มากเข้าไปใหญ่ เพราะโอกาสที่หน้าการงานจะก้าวหน้า ได้เงินเดือนมากขึ้นมันเหลือไม่มากเเล้ว เดือนละหมื่น หักโน่นหักนี่ เอากลับบ้านจะถึงเจ็ดพันหรือเปล่า อาจจะเเค่หกพันเศษๆ แต่ถ้าแก่เเล้ว ไม่ต้องผ่อนบ้าน ไม่มีหนี้ ไม่มีภาระเรื่องลูกเมีย ก็อยู่ได้สบายหน่อย เงินเท่าไหร่ถึงจะเยอะเหรอ สมัยนี้นะ รายของคนๆหนึ่ง สองแสนห้าขึ้นไป ถึงจะเรียกว่ามาก จากคุณ : ก เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 21:24:11 A:98.199.17.239 X: TicketID:000072

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณทุกความเห็นและคุณ ก เห็นแฟนบอกว่าหักทุกอย่างแล้วเหลือไม่ถึงแสนบาทต่อเดือน มีบ้านต้องผ่อนและให้ภรรยาเก่าด้วย แต่ลูกมีงานทำหมดทุกคนแล้ว จากคุณ : Boomsy (Boomsy17) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 21:59:11

ความคิดเห็นที่ 34 เข้ามาอ่านกระทู้เพื่อเป็นข้อมูล เห็นด้วยกับ คห. 22 มากค่ะ อาจไม่เกี่ยวกับข้อมูลในกระทู้ แต่มีบาง คห.ที่แสดงความคิดเห็นที่คับแคบด้านจิตใจ แทนที่จะให้สาระ หรือข้อมูลเป็นประโยชน์ในทางสร้างสรร กับเหน็บแหนม ซะงั้น บางที่แค่อ่านข้อความ ไม่ต้องดูชื่อด้านล่าง ก็รู้เลยว่า โพสลักษณะนี้เป็นใคร  อยากให้รู้ว่าทุกคนเกิดมาไม่ได้มีโอกาสหรือโชคดีเหมือนกันทุกคน ฉนั้น กรุณามีเมตตาและเห็นใจคนอื่นๆ ด้วยความจริงใจ อย่าได้ดูถูกเหยียดหยาบ เยาะเย้ยเขา เพียงเพราะเขา ไม่มีอะไรดีไปกว่าคุณ ซึ่งคุณเองที่จริง ก็แค่มนุษย์ธรรมดา ในสายตาคนอื่นอาจจะมีปมด้อยในชีวิตก็เป็นได้ ใครจะรู้ จากคุณ : baby (plano54) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 22:13:05

ความคิดเห็นที่ 35 บ้านเป็นหลังหรือเป็นอพาทเม้นท์ค่ะ เราก็ชื้อบ้านเหมือนกัน จ่ายธนาคารต่อเดือน 700 ยูโรค่ะแสนบาทประมาณ 2500 ยูโร ค่ะ คุณลองคำนวณดูนะค่ะ ว่าจะเหลือเท่าไหร่ และจ่ายให้แฟนเก่าเท่าไหร่ต่อเดือนหักออกจาก 2500 ค่ะ ถ้าคุณไป แฟนต้องให้เงินคุณใช้คุณต้องคุยเลยเท่าไหร่ต่อเดือน เพราะว่าเขาจะให้คุณเช็นต์ คุณต้องพูดกับเขาเหมือนกันนะ คุณบอกว่าจะออกจากงาน คุณไม่มีรายได้แล้ว คุณมีภาระให้เงินพ่อแม่หรือเปล่า ส่งน้องเรียนหรือเปล่า เราไม่ได้พูดกับแฟนนะ ทุกอย่างแฟนให้เราด้วยตัวของเขาเอง แต่กรณีของคุณมันแตกต่างกัน ดังนั้นคุณต้องป้องกันตัวเองด้วย ยิ่งอยู่ต่างประเทศมันเหงานะ ยังไม่มีเพื่อนด้วย จากคุณ : แม่คนไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 23:20:52 A:90.146.93.246 X: TicketID:276525

ความคิดเห็นที่ 36 จาก #29: คนที่พูดว่าเงินน้อยนี่อยู่เมกากันรึเปล่าคะ? Ans   อยู่ค่ะ เอ่ออออ จะบอกว่าเงินเดือนของอาจารย์จบใหม่ไม่มีประสบการณ์ของมหาลัยรัฐเดี๋ยวนี้เกือบ $8,500 แล้วนะคะ แล้วเงิน $10,000 สำหรับคนที่ทำงานมาเป็นสิบ ๆ ปีมันเยอะตรงไหนเนี่ย?? คนที่พูดว่า $10K เยอะนี่วัน ๆ ได้ออกมาจากร้านอาหารมั่งป่ะคะ สงสัยจริง ๆ  แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 23:46:59 จากคุณ : Severus' Lover เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 23:44:02

ความคิดเห็นที่ 37 คุณ จขกท ถ้าเหลือเนท หลังผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ส่งเสียเมียเก่าเเล้ว เหลือไม่ถึงแสนบาทไทย ตีเสีย สามพันเหรียญ อยู่กันสองคน อยู่ได้ไม่ลำบาก แต่ไม่ถึงกับไม่ต้องกังวล เพราะค่าใช้จ่ายจุกจิกมันเยอะ น้ำไฟ โทรศัพท์อินเตอร์เนต รถ ซ่อมแซมต่างๆ ต้องทำบัญชี คือถ้าทุกวันนี้คุรเงินเดือนเเสนหรือเกือบแสนในเมืองไทย คุณแต่งงาน ลง ไม่ได้เเต่งขึ้น จากคุณ : ก เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 00:13:00 A:98.199.17.239 X: TicketID:000072

ความคิดเห็นที่ 38 รายได้ที่ออสเตรีย คนที่มีเงินเดือน 1800 ยูโร ถือว่าพอมีพอกินค่ะ 1600 ยูโร กระเบียดกระเสียดค่ะ ผจก 2000 ยูโรขึ้นไป ถ้าไม่มีลูกต้องส่งไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีเมื่อไหร่ โดยหักไม่เหลือเหมือนกันค่ะ ที่เยอรมัน เงินเดือนรวมกัน 2 คน 5000 ยูโร เยอะค่ะ อยากได้อะไรชื้อ อยากกิน กิน มีเงินใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ดูในทีวีค่ะ บางครอบครัวรายได้ต่อเดือน 2500 ยูโร ประหยัดมาก เพราะมีลูกหลายคน ค่าใช้จ่ายเยอะค่ะ ดูในทีวีค่ะ ถ้าเงินเดือน มากกว่า 5000 ขึ้นไป เศรษฐีค่ะ ต้องดูด้วยว่ามีค่าใช้จ่ายเยอะมััย 8500 และ 10000 ยูเอส หรับสำหรับเราเยอะนะค่ะ เทียบกับเงินยูโรแล้ว มากกว่า 5000 แน่นอน ถือว่าเป็นผู้มีรายได้เยอะค่ะ เขาจะมีกราฟสำหรับผู้มีรายได้ค่ะ ตั้งแต่ ขั้นต่ำ จนถึงสูงสูดประจำประเทศนั้น ๆ อยู่แล้ว ผู้มีรายได้ตั้งแต่ 5000 ยูโร ขึ้นไปถือเป็นผู้ที่มีรายได้แยะค่ะ จากคุณ : แม่คนไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 00:55:57 A:90.146.93.246 X: TicketID:276525

ความคิดเห็นที่ 39 ลูกเรียนจบแล้วคงตัดค่าใช้จ่ายตรงนี่ไปได้ เงินเดือนที่รับคงจะใช้กันสองคน(แล้วแต่รายละเอียดที่สามีคุณตกลงกับครอบครัวเก่าค่ะ) จากที่คุณพูดถึง สามีมีบ้านและคอนโดคิดว่าสามีคุณคงนำเงินไปลงทุนด้วยมั้งคะ ถ้ามีบ้านหรือคอนดโให้เช่า ก็ถือว่ามีรายได้เพิ่มจากตรงนี้ด้วย เท่าที่ดูจากรายละเอียดที่เราเดาเอาจากที่คุณเล่า เราว่าโอเคนะคะ ขึ้นอยู่กับการใช้เงินและการบริหารเงินนะ บางคนมีการบริหารจัดการที่ดี เงิน๑๐๐ดอลลาร์ก็สามารถทำให้แตกตัวเป็นอมีบามากกว่า๑๐๐ก้ได้นะคะ ตอนนี้ที่สำคัญมาก ขอให้คุณอ่านรายละเอียดเอกสารทุกอย่าง ทำความเข้าใจอย่างละเอียด แน่ใจแล้วถึงเซ็นต์ชื่อนะคะ มีข้อสงสัยอะไรถามเพื่อนๆที่ห้องนี้ก็ได้ค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : wheel of forture เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 01:06:47 A:68.127.147.103 X: TicketID:048459

ความคิดเห็นที่ 40 ในเมกา หากยังรายได้ไม่ถึง สองแสนห้า เขาเรียกคนชั้นกลาง สองแสนห้าขึ้นไปเขาถึงจะเรียกว่า พอจะรวยบ้าง คำจำกัดความ คำว่า รวย ในสายตาเฟดเดอรัลกัพเวอร์เมนต์ รายได้ตั้งแต่ สองแสนห้าหมื่นเหรียญต่อปีขึ้นไป จากคุณ : ก เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 01:22:44 A:98.199.17.239 X: TicketID:000072

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ Severus' Lover คงแล้วแต่สาขานะ ดิฉันเคยเสริชในเนตหาเรตเงินเดือนอาจารย์จบใหม่ มหาวิทยาลัยรัฐสักสองปีก่อน ทั่วไปสตาร์ทแค่ $4,500 เองค่ะ ถ้าได้แปดพันห้าจะขอไปทำงานแล้วให้สามีออกจากงานมาเลั้ยงลูกแทนเลย ตอบเจ้าของกระทู้ เหลือแสนหนึ่ง สามพันเหรียญ สองคนอยู่ได้นะคะ แต่ขึ้นกับไลฟ์ไสตล์ด้วย ฟุ่มเฟืิอยมากไม่ได้ แสนนึงในอเมริกาน้อยกว่าแสนนึงในไทยค่ะ เรื่องเงินทองพูดกันให้ดี จะดีกว่า พี่ที่รู้จักแต่งงานมายี่สิบปี สามีเสียกะทันหัน เปิดพินัยกรรม พี่เค้าไม่ได้อะไรเลย ฝ่ายชายยกให้ลูกหมด พี่เค้าบอกว่าลูกของผู้ชายเห็นใจว่าแต่งมานานจะแบ่งให้มั่ง พี่เขาหวังว่าความดีที่ทำมาจะช่วยได้ ฟังแล้วเสียใจแทนนะ พี่เขามีกิจการส่วนตัว คงไม่ลำบาก แต่สามีอยู่มายี่สิบปี ไม่ยกมรดกให้เลย มันก็ทำร้ายจิตใจกันนะ คุยให้เคลียตอนที่ยังคุยได้ดีกว่า ถ้าไม่คุยตอนนี้ แต่งไปแล้วแฟนคุณดีก็โชคดีไป แต่ถ้าแต่งแล้วแฟนคุณไม่ดีขึ้นมา มันจะยุ่ง จากคุณ : โตช้าแก่เร็ว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 01:45:00

ความคิดเห็นที่ 42 #41 $4500 นี่เป็น tenure-track หรือ lecturer ธรรมดาเหรอคะ? แล้วโรงเรียนที่ถามเป็น college หรือ state university คะ? อาจารย์ใหม่ที่เราคุยด้วยเป็น tenure-track (Assistant Professor) สอน 2-3 sections ต่อ semester ค่ะ ปล เข้ามาดูอีกทีเราว่าเลิกเถียงกันเรื่อง $10,000 เยอะหรือน้อยเหอะ จขกท มาบอกเองแล้วว่าหักทุกอย่างแล้วเหลือไม่ถึง $3000 (แสนบาทไทย) แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 07:38:28 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 02:22:38 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 02:20:35 จากคุณ : Severus' Lover เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 02:20:05

ความคิดเห็นที่ 43 เงินเดือนเดือนละ $10,000 เหรียญถือว่าไม่น้อยค่ะ เยอะทีเดียว แต่ก็อยู่ที่ว่าหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว เหลือเท่าไหร่ และ life style เป็นอย่างไร ถ้าคุณยังอายุไม่มาก  ถ้าตัดสินใจว่าจะมาแล้วควรจะพยายามยืนบนขาของตัวเองค่ะ ถ้ามีโอกาสกลับไปเรียนหนังสือได้ก็ขอให้รีบๆไปนะคะ อาชีพบางอาชีพเช่นพยาบาล อายุ  50 กว่าๆ กลับไปเรียน ก็ยังไม่สายเกินไปค่ะ  ถ้าคุณสามารถเลี้ยงตัวเองได้  ความมั่นใจในการใช้ชีวิตในต่างแดนของคุณก็จะมากขึ้น ดิฉันเคยผ่านการหย่าร้างมาแล้วกับอดีตสามีชาวอเมริกัน ระยะเวลาที่ใช้ในการหย่าเบ็ดเสร็จรวมแล้ว 18 เดือนเต็ม  ยืนยันว่าการ prenuptual agreement ไม่ใช่เรื่องเสียหายเลยค่ะ หากแต่เป็นการป้องกันความขัดแย้งด้านทรัพย์สิน ที่มีมาก่อนการสมรสทั้งของฝ่ายคุณเองและของฝ่ายชาย   และเป็นการตกลงกันว่าการจัดสรรปันส่วนของทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมรสจะเป็นอย่างไร คนเราถ้าหากว่าจะไม่ซื่อต่อกัน  ตอให้แต่งงานกันโดยไม่มี prenuptual ก็สามารถยักยอก แอบซ่อน ปกปิดทรัพย์สินที่หามาได้ระหว่างสมรสได้ค่ะ โชคดีในการตัดสินใจนะคะ จากคุณ : MCCGO เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 04:05:21

ความคิดเห็นที่ 44 การทำพรีนัพไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรคะ ถ้าเนื้อหามีว่าถ้าหย่ากันแล้วเราจะได้ค่าเสียเวลาอะไรบ้าง เราเคยแปลพรีนัพให้ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งค่อนข้างรวย มีบ้านที่อเมริกาหลายหลัง บ้านฤดูร้อน ฤดูหนาว มีคอนโดที่ไทย มีรถหลายคัน แต่ไม่ได้ให้ทรัพย์สินอะไรภรรยาคนไทยเลย นอกจากกรมธรรม์ประกันชีวิตมูลค่า 1 ล้านเหรียญ (ให้ไปเพื่อ?) คือถ้าเขาไม่ตายก็อย่าหวังว่าภรรยาคนนี้จะได้อะไรจากเขาเลย นี่คือเราอ่านคร่าวๆ แล้วยังโมโหแทนผู้หญิง คิดในใจว่าจะแต่งกับผู้ชายคนนี้ไปทำไม โดยส่วนตัวเราก็จดพรีนัพเหมือนกัน เนื้อหาหลักจะคุ้มครองทั้งสองฝ่าคือ ฝ่ายชายจะไม่ต้องสิ้นเนื้อประดาตัวถ้าหย่ากับเรา และคุ้มครองเราว่าถ้ามีการหย่าร้างเราก็มีค่าเสียเวลาเสียโอกาสกลับไปเริ่มต้นใหม่ คือ ต้องเอื้อกันทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เอื้อแต่ประโยชน์ของฝ่ายชาย เราก็แนะนำเหมือนความเห็นอื่นๆ ให้คุยกันให้เคลียร์ก่อนจะแต่งงาน บอกเค้าไปว่าแต่งงานไม่ใช่แค่รักและดูแลแค่ตอนมีชีวิตอยู่ รักแท้มันต้องดูแลแม้จะตายไปแล้ว สามีเราบอกเองตั้งแต่หมั้นกันว่าจะดูแลอย่างดีแม้ตัวจะตายก็ต้องมั่นใจว่าเราอยู่ดีมีสุข เราถึงเต็มใจทิ้งหน้าที่การงาน รายได้ มาอยู่ต่างแดน และเขาก็พิสูจน์แล้วด้วยการทำพินัยกรรมให้เราอุ่นใจ ผู้หญิงแต่งงานแล้วควรรู้สึกมั่นคงขึ้นนะคะ ถ้ารู้สึกตุ๊มๆ ต่อมๆ กลัวจะโดนทิ้ง กลัวไม่มีตังค์ กลัวลำบากตอนแก่จะแต่งไปทำไมคะ? ทำงานหาเลี้ยงตัวเองการันตีความมั่นคงให้ตัวเองดีกว่า จากคุณ : littlebitlittlemore เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 05:06:00

ความคิดเห็นที่ 45 #36 ยังค่ะ ยังไม่เคยออกจากร้านอาหาร แต่ต่อให้เราทำงานในสายของเรา (ดีไซน์) ก็ใช่ว่าจะทำเงินได้ถึง 100k ต่อปีได้ง่ายๆค่ะ ตอนนี้เราก็จะไปสมัครทำงานบริษัทดีไซน์เล็กๆ หาประสบการณ์เหมือนกันค่ะ แม้จะจ่ายถูก แต่เราต้องการประสบการณ์มากกว่า ณ ตอนนี้ นิยามความรวย-จนของคุณกับเราคงไม่เท่ากันมั้งคะ แต่ว่า 100k นี่ก็ถือว่าเป็น upper middle-class เหมือนกันนะคะ ไม่ใช่ไก่กาแบบที่คุณพยายามจะพูด เราก็ไม่รู้เรื่องเงินเดือนของนักบินกับ professor หรอกค่ะ แต่ดูจากเว้บนี้ http://www.salarylist.com/jobs/Pilot-Salary.htm ในเมื่อเฉลี่ยนักบินได้กัน 40-60k แสดงว่าแฟนคุณ จขกท ที่ทำงานมาเป็น 10 ปี ได้เท่านั้น ก็ฟังดูสมเหตุสมผลไม่ใช่เหรอคะ? แหม คุณก็พูดซะยังกะผ่านไป 10 ปีเงินเดือน professor จะพุ่งกันไปซะคนละล้าน อิชั้นว่าคุณออกจากฮอกวอร์ตมาอยู่ในโลกแห่งความจริงก็ดีค่ะ ปล. แต่จริงๆ เราไม่สนับสนุนให้คุณ จขกท ออกจากงาน มาหาเค้าเลยอ่ะค่ะ เพราะเราทำงานได้ มันก็เงินของเรา อยากซื้ออะไรก็ซื้อ ไม่ต้องมารอ ซึ่งก็ไม่รู้จะได้รึเปล่า? แล้วจะได้เท่าไร? จากคุณ : พีพี.พูพู เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 06:29:19

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ ขอบคุณคุณ ก และคุณพีพี เราคงต้องหางานทำและเรียนอะไรสักอย่างหนึ่ง เพราะแฟนเราให้เรียนได้เค้าจะส่ง เห็นบอกว่าอยากให้เรียนพยาบาล mid wife แต่เราจะดูก่อนว่าอันไหนที่เหมาะกับเรา เราคงต้องออกจากงานทำที่เมืองไทยเพราะแฟนไม่อยู่เมืองไทยแน่นอน แต่จะหวังให้ได้งานที่ทำเหมือนอยู่เมืองไทยคงไม่ได้ คงเรียนวิชาชีพเอาค่ะ แต่เราก็ได้ความรู้จากพันทิพเยอะเหมือนกัน จากคุณ : Boomsy (Boomsy17) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 08:28:10

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ : Boomsy อย่าไปเรียนเลยพยาบาลน่ะ เดี๋ยวนี้มันไม่ได้ขาดเเคลนขนาดนั้นหรอก เห้นพยาบาลจบใหม่หางานลำบากนะ ไม่รู้คุณมีความรู้ด้านไหนมา แต่ถ้าชอบทำกับข้าว หรืออยากลองเรียนดู ไปเรียนวิชาการอาหารหลักสูตรแบบ CIA หรือจะเป็นหลักสูตร เก้าเดือน ปีหนึง ตามคอมมิวนิตี้คอลเลจ จบปุ๊บมีงานทำ ไม่แพงมาก เรียนไม่เหนื่อยนัก แต่ทำงานเหนื่อยหน่อย จากคุณ : ก เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 09:44:26 A:98.199.17.239 X: TicketID:000072

ความคิดเห็นที่ 48 เรียนคุณ ก ขอบคุณมากเลย เราก็คิดว่าเหมือนกันว่าจะเรียนอะไรดี คงต้องคิดนิดหนึ่งว่าเราชอบอะไร ที่คุณแนะนำมาก็น่าสนใจค่ะ แต่คงเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มก่อนไปค่ะ เดื่อนหน้าเราจะไปเยี่ยมบ้านแฟนก่อนสักอาทิตย์หนึ่ง ไปอยู่จริงๆปีหน้าค่ะ ขอบคุณคุณ ก จากคุณ : Boomsy (Boomsy17) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 10:49:57

ความคิดเห็นที่ 49 ขอให้คุณเจ้าของกระทู้โชคดีนะคะ จากคุณ : วิหคลม เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:09:17