ความคิดเห็นที่ 1 3) ใครบินไปแอลเอ ไฟล์ท..... วันที่.... มั้ยคะ หาเพื่อนบินค่ะ อันนี้ผมไม่ได้หาเรื่องนะครับ แต่ผมสงสัยจริงๆ ถ้าสมมุติว่าบังเอิญมีคนในพันทิปเดินทางไฟล์ทเดียวกัน คุณจะนัดเจอ เช็คอิน แล้วนั่งข้างเค้าไปตลอดเลยเหรอครับ ทำไมถึงไม่กล้านั่งเครื่องบิน หรือเดินทางคนเดียวหล่ะครับ กลัวหลงทาง หรือว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้หรือเปล่าครับ หรือว่ากลัวอะไร แล้วถ้ากลัวอย่างนี้เวลาต้องไปอยู่ต่างประเทศคนเดียว ต้องใช้ Tube คนเดียวกลางลอนดอน หรือนั่งรถไฟจากสนามบิน JFK เข้าเมืองทำไงหล่ะครับ ??? 4) อยากหาทุนไปเรียนต่างประเทศ ทำไงครับ คำถามข้อนี้คล้ายๆ กับเรื่องวีซ่า หรือถามแค่นี้สั้นๆ ไม่บอกว่าจบด้านไหน มีประสบการณ์ทำงานมากี่ปี มี publications มากี่ papers เคยไป conferences ไหม มีใครเขียน Recommendation Letters ให้ บางคนบอกว่าอยากได้ทุนแบบครอบคลุมหมดเลย ทั้งค่ากินอยู่ ค่าเทอม ค่าเครื่องบิน ต้องทำไง ก่อนจะตั้งกระทู้แบบนี้ ควรถามตัวเองก่อนว่า คุณมีคุณสมบัติอะไรที่พิเศษโดดเด่น จนเค้าถึงต้องให้เงินคุณ (เป็นล้านบาท) ไปเรียนต่างประเทศ ฟังดูเหมอืนใจร้าย แต่ลองถามตัวเองก่อนครับว่า เรามีดีอะไร ต่างจากเด็กอื่นๆ เป็นอีกสิบๆ ร้อยๆ คนอย่างไร ทำไมเค้าถึงควรจะให้ทุนคุณไปเรียน ??? ถ้ายังตอบตัวเองไม่ได้ว่าตัวเองมีดี มีศักยภาพอะไร อย่าเพิ่งคิดเรื่องทุนครับ จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 03:19:49

ความคิดเห็นที่ 2 5) อยากไปเรียนเมืองนอก แต่ไม่มีเงินทำไงดี เพราะมีทางเลือกให้สองทาง คือ 1) หาทุน (ใช้เงินคนอื่น) อันนี้ให้ย้อนกลับไปอ่านข้อข้างบนครับ 2) หาเงินเพิ่ม (ใช้เงินตัวเอง) สำหรับข้อสอง ถ้าเงินพอไม่ ก็เรียนในเมืองไทยแทน จริงๆ นะครับ ไม่ได้ประชด ถ้าเป็น 20-30 ปีก่อน แน่หล่ะว่าเรียนต่างประเทศอะไรก็ดีกว่าเมืองไทย แต่สมัยนี้ผมว่ามหาวิทยาลัยในเมืองไทยที่เด่นๆ มีตั้งหลายที่เช่น ศศินทร์, AIT, วิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล 6) อยากไปเรียนต่างประเทศ พร้อมกับทำงานพิเศษเพิ่ม ขอคำแนะนำหน่อยครับ อันนี้คนถามส่วนใหญ่เป็นคนใหม่ๆ ที่อาจะยังไม่มีข้อมูล เอาเป็นว่าย้ำตรงนี้นะครับว่า - UK ถ้าเรียนภาษาทำงานไม่ได้ แต่ถ้าเรียนระดับโทเอก (Post Graduate) ทำงานได้ (กี่ชม ต้องเช็คกับ UKBA อีกที) - US ถ้าเรียนภาษาทำงานไม่ได้เลย นอกจากมาเรียนระดับมหาวิทยาลัย แล้วทำงานในมหาวิทยาลัย (on campus) เช่น Teaching Assistant, Research Assistant - AUS เรียนได้ทำงานได้ สำหรับคนที่มีความฝันและตั้งใจว่า อยากมาเรียนต่างประเทศพร้อมกับทำงานไปด้วย ฝากคำถามเอาไว้ให้คิดนะครับว่า 1) ทุกวันนี้ฝรั่งผมทอง พูดภาษาอังกฤษคล่องยังตกงาน (เพราะเศรษฐกิจไม่ดีเอามากๆ) แล้วทำไมนายจ้างต้องจ้างคนเอเชีย พูดภาษาอังกฤษไม่เก่งไปทำงาน 2) เรียนด้วยทำงานด้วย จะมีเวลาพักผ่อนพอหรือเปล่า จะมีเวลาทำรายงาน เข้าห้องสมุด คุยกับ Professor หรือเปล่า 3) ถ้าอยากทำงานร้านอาหารไทย รับได้หรือเปล่า ถ้าต้องถูกกดค่าแรง ได้น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ทำงานเกินเวลา เจ็บป่วยจากการทำงานรักษาตัวไม่ได้ เพราะกฎหมายไม่คุ้มครอง 4) ถ้าอยากทำร้านไทย รับเป็นเงินสด เพื่อลบเลี่ยงเรื่องการทำงานเกินชั่วโมงที่วีซ่ากำหนด รู้หรือไม่ว่า กำลังทำผิดกฎหมายแรงงาน และถ้าถูกจับได้ ถูกส่งกลับและห้ามเข้าประเทศอีกหลายปี 5) ถ้าอยากทำร้านไทย อยู่กับเพื่อนคนไทยในร้าน พูดภาษาไทยในครัว แล้วจุดประสงค์ที่มาเรียนภาษาต่างประเทศคืออะไร 6) ถ้าอยากทำงานพิเศษ เพื่อเก็บเงินเป็นค่าเทอม สำหรับเรียนต่อโท เอก ทราบหรือไม่ว่าค่าเทอมเด็กต่างชาตินั้นแพงมหาศาล ชนิดที่ว่าทำงานเสริ์ฟอาหารทั้งปี ก็ไม่พอจ่ายค่าเทอม เช่น ของอังกฤษ ค่าแรง £6 x 20 hr x 4 weeks x 12 months = £5,760 ในขณะที่ค่าแรงจริงๆ อยู่ชม.ละ £5.93 (และค่าแรงผิดกฎหมายต่ำกว่านี้อีก) และค่าเทอมป.โทโดยเฉลี่ยอยู่ที่ £12,000 และอาจถึง £15,000 ในสาขา MBA ใน Top Universities ถ้าคุณยังตอบคำถามข้างบนไม่ได้ นั้นแปลว่าคุณยังไม่พร้อมจะมาเรียนครับ ฝากเอาไว้ให้คิดแค่นี้นะครับ จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 03:29:23

ความคิดเห็นที่ 3 กระทู้เอามาม่าเข้าเมกาด้วย เห็นบ๊อยบ่อย จากคุณ : เขียนบน iPhone (maddox) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 03:37:49

ความคิดเห็นที่ 4 อ่ะนะ ก็จะเห็นว่า กระทู้เหล่านี้จะไม่มีคนเข้าไปสนใจตอบสักเท่าไหร่หรอก กระทู้ฮอตๆๆ ประจำห้องไกลบ้าน คือ.... ฝรั่ง กระทู้ไหน ตั้งชื่อกระทู้มีคำว่า ฝรั่ง เมื่อไหร่ล่ะก็ ยาว จากคุณ : หุ หุ เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 04:17:45 A:91.57.118.92 X: TicketID:318780

ความคิดเห็นที่ 5 โหวต จากคุณ : Severus' Lover เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 05:01:31

ความคิดเห็นที่ 6 1) บินสายการบินนี้ ได้น้ำหนักกี่กิโลกรัมคะ??? คืออันนี้ต้องเข้าใจนิดนึงนะคะว่าบางคนอาจจะพึ่งเดินทางครั้งแรกความกลัวย่อมมีมากกว่าคนที่เคยเดินทางบ่อยอยู่แล้วก็เลยอาจจะถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเพื่อความแน่ใจ ถามว่าถามเอเจนไหมก็ถามคะแต่บางทีเอเจนตอบได้ไม่เคลียเราก็อยากได้ความแน่ใจมากกว่านี้ ดูจากเวปที่จองบอกน้ำหนักได้เท่านี้ เ พอโทรไปถามสายการบินๆบอกได้เท่านี้ก็เท่านี้ แต่อ่านไปอ่านมาตามเวปต่างๆไปเจอคนที่ใช้สายการบินนี้พอดีและก็ได้น้ำหนักกระเป๋ามากกว่า ใจก็ลังเลว่าจะเชื่อสายการบินที่ระบุน้ำหนักสัมภาระน้อย หรือจะเชื่อคนที่พึ่งเดินทางมาแต่เอาน้ำหนักไปเกินดี เพื่อความมั่นใจเลยลองมาถามอีกรอบเพื่อความมั่นใจ ใครอยากเข้ามาอ่านมาดู ใครมีความรู้ก็ตอบไปส่วนใครไม่อยากตอบแค่อ่านผ่านๆกดออกก็ได้คะ หรือถ้ามันรำคาญตาจังเลยก็ไม่ต้องกดเข้าไปดูหรอกคะ จะได้ไม่เสียอารมณ์ที่เห็นกระทู้ลักษณะนี้บ่อยๆ อย่างเราเห็นกระทู้ที่คนถามเกี่ยวกับดีเอส160 เยอะมากแล้วแบบปัญหาแบบเดียวกันถ้าเรารู้เราก็เข้าไปตอบไม่ว่าจะกี่กระทู้ถ้าเห็นหรือช่วยได้ก็จะเข้าไปตอบ คืออะไรที่พอช่วยคนอื่นได้ ทำได้ก็ทำไปเถอะคะคนตอบยังไม่บ่น แต่คนไม่ตอบกลับมาบ่น หรือถ้าตอบแล้วบ่น อย่าตอบดีกว่าคะมันเสียความรู้สึก จากขอบคุณจะกลายเป็นรู้สึกไม่ดีเปล่าๆทั้งคนถามและคนตอบ 2) อยากขอวีซ่าเมกา ต้องเริ่มตรงไหนครับ อันนี้เห็นด้วยว่า ข้อมูลอะไรก็ไม่มี บอกแต่อยากไปเมกา อังกฤษ ออสเตรเลีย อันนี้ถ้าเราเห็นเราจะไม่ตอบเลยคะ เพราะเจ้าตัวยังไม่สนใจหาข้อมูลเอง แต่ถ้าระบุว่าอยากไปเรียนต่อเมกา ต้องทำยังไงเราก็จะอธิบายหรือบอกเวปที่ขอวีซ่าแบบละเอียดอย่างบล๊อคของคุณซูซี่ไป ทั้งๆที่ไม่ชอบกระทู้แบบนี้นะคะ แต่ก็มีบางที่เลือกที่จะตอบถือซะว่าช่วยๆกัน ส่วนเรื่องอีเมลล์ที่ให้เมลล์ไปถามสถานทูต น้อยนักคะที่ทางสถานทูตจะตอบ แล้วใช้เวลานานด้วย บางคนรีบร้อนต้องทำวีซ่า มาโพสในนี้ก็น่าจะได้คำตอบเร็วกว่า คนที่มีความรู้มีประสบการณ์ที่นี่เยอะคะ 3) ใครบินไปแอลเอ ไฟล์ท..... วันที่.... มั้ยคะ หาเพื่อนบินค่ะ อันนี้เราเห็นใจคนที่ไม่เก่งอังกฤษ แล้วเดินทางครั้งแรกคะ ทุกคนมีความกังวลเสมอ กลัวโน่นกลัวนี่ ไปต่างเมืองนี่คะ ถ้าเลือกได้ระหว่างมีเพื่อนไปเป็นเพื่อนถึงจะเดินทางไปด้วยกันไม่ตลอดทาง อย่างน้อยก็อุ่นใจมีคนชาติเดียวกัน ถึงอนาคตจะต้องทำอะไรเองคนเดียว เดินทางต่างประเทศคนเดียวก็เถอะ แต่ปัจจุบันถ้ามีคนเต็มใจเป็นเพื่อนร่วมเดินทาง มีน้ำใจ แค่นี้ก็เอาแล้วคะ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สุภาษิตนี้ยังใช้ได้เสมอคะ 4) อยากหาทุนไปเรียนต่างประเทศ ทำไงครับ ไม่มีความคิดเห็นคะ แต่ถ้าทุนไหนพอทราบก็จะช่วยตอบตามความกระตือรือร้นของเจ้าของกระทู้ 5) อยากไปเรียนเมืองนอก แต่ไม่มีเงินทำไงดี 2) หาเงินเพิ่ม (ใช้เงินตัวเอง) สำหรับข้อสอง ถ้าเงินพอไม่ ก็เรียนในเมืองไทยแทน จริงๆ นะครับ ไม่ได้ประชด ถ้าเป็น 20-30 ปีก่อน แน่หล่ะว่าเรียนต่างประเทศอะไรก็ดีกว่าเมืองไทย แต่สมัยนี้ผมว่ามหาวิทยาลัยในเมืองไทยที่เด่นๆ มีตั้งหลายที่เช่น ศศินทร์, AIT, วิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล - ในเมื่อคุณพูดตรงๆ เราก็ขอพูดตรงๆบ้าง ใครๆก็อยากไต่เต้า อยากไปในที่ๆสูงถึงมันจะลำบาก จะหนาวสักแค่ไหนก็ทนได้ ยังไงจบจากเมืองนอกก็ภาษีดีกว่าจบที่ไทยจริงหรือไม่คะ ค่านิยมที่ช่วยกันสร้างมาแต่โบราณ บางคนอาจจะบอกว่า ถ้าจบยูบ้านๆ ไม่ดังในเมืองนอกกลับมาไทยก็เท่านั้น แล้วคุณคิดว่าที่ทำงานแต่ละที่เค้าจะพอรู้ไหมคะว่ายูนี้ดังในเมกา ไม่ดังในเมกา พอเค้าเห็นว่าจบนอกหลายๆคนก็มองแล้วว่าอืม มันจบมาได้แสดงว่ามันต้องมีดี อย่างหนึ่งแหละภาษา อย่าไปโทษความอยากของมนุษย์เลยคะ ถ้าจะโทษก็โทษสังคมที่สร้างค่านิยมผิดๆมา ใครๆก็อยากอยู่ที่สูงๆกันทั้งนั้นแหละคะ ถ้ามีทางออกถึงจะเป็นทางเลือกที่เสี่ยงแต่ถ้าทำได้ผลตอบแทนก็คุ้ม แต่ถ้าทำไม่ได้ทำพลาดก็ถือซะว่าซื้อประสบการณ์ได้ดีเลยล่ะคะ 1) ทุกวันนี้ฝรั่งผมทอง พูดภาษาอังกฤษคล่องยังตกงาน (เพราะเศรษฐกิจไม่ดีเอามากๆ) แล้วทำไมนายจ้างต้องจ้างคนเอเชีย พูดภาษาอังกฤษไม่เก่งไปทำงาน -อันนี้ขอเถียงคะ ภาษาสำคัญมากก็จริง แต่มันต้องดูภาพรวมหลายๆอย่างด้วยคะ ถ้าเก่งภาษาแต่ปัญญาความรู้ การคิด ความรอบครอบไม่มีก็ไม่รู้จะเอามาทำไรแล้วคะ แต่ถ้าภาษาพอไหว มีความคิด ความรู้ที่ดี ก็สามารถต่อยอดงานหรือเรียนรู้งานได้คะ คนเอเชียเก่งอังกฤษก็เยอะคะ ถึงภาษาจะไม่คล่องเท่าฝรั่ง แต่ความรู้หลายๆอย่างเผลอๆเก่งกว่าฝรั่งหัวทองด้วยคะ อีกอย่างเอเชียหัวดำอย่างจีน เป็นเจ้าหนี้อันดับ1ของอเมริกา ไม่เก่งอังกฤษแต่รอบจัด ความคิดเยอะ ลอกเลียนแบบเก่ง555 ส่วนเจ้าหนี้อันดับ2 ก็ญี่ปุ่น นี่ก็หัวไม่ทองคะ ยังไม่เห็นเจ้าหนี้อันดับ1และ2ของอเมริกาเป็นหัวทองสักที เห็นแต่หัวดำๆ และคนส่วนใหญ่ในประเทศไม่ใช่ภาษาอังกฤษ 2) เรียนด้วยทำงานด้วย จะมีเวลาพักผ่อนพอหรือเปล่า จะมีเวลาทำรายงาน เข้าห้องสมุด คุยกับ Professor หรือเปล่า -- อันนี้น้อมรับคะ ถ้าคนที่ไปทำงานด้วยคงไม่มีเวลาแบบที่คุณว่าแหละคะ อันนี้ก็ตามฝันของแต่ละคนเลยคะ 3) ถ้าอยากทำงานร้านอาหารไทย รับได้หรือเปล่า ถ้าต้องถูกกดค่าแรง ได้น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ทำงานเกินเวลา เจ็บป่วยจากการทำงานรักษาตัวไม่ได้ เพราะกฎหมายไม่คุ้มครอง - เห็นส่วนใหญ่รับได้นะคะเพราะเห็นทำกันตรึม- -* แถบจะทุกประเทศที่มีนักเรียนต่างชาติ 4) ถ้าอยากทำร้านไทย รับเป็นเงินสด เพื่อลบเลี่ยงเรื่องการทำงานเกินชั่วโมงที่วีซ่ากำหนด รู้หรือไม่ว่า กำลังทำผิดกฎหมายแรงงาน และถ้าถูกจับได้ ถูกส่งกลับและห้ามเข้าประเทศอีกหลายปี - ส่วนใหญร้อยละ99.9 รู้ทุกคน แต่ก็ฝ่าฝืน เงินมันหอมหวานนี่คะ อีกอย่างหลายๆท่านคงชอบเสี่ยงๆๆ 5) ถ้าอยากทำร้านไทย อยู่กับเพื่อนคนไทยในร้าน พูดภาษาไทยในครัว แล้วจุดประสงค์ที่มาเรียนภาษาต่างประเทศคืออะไร - บางคนเพื่อความโก้มีเงินมาเรียนนอก อันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างแรง -บางคนอยากได้ภาษา อยากจบนอกพอมีลู่ทางนิดหน่อยแต่ไม่มีเงิน -อันนี้เห็นใจคะถึงจะทำผิดกฎหมายแต่ถ้าทำเพื่อการศึกษาเราก็ไม่ว่าอะไรคะ ส่วนใครจะมองว่าสนับสนุนคนผิดกฎหมายจะท้วงติงหรือแนะนำก็ไม่ว่าคะ แต่เราเห้นใจคนที่ไม่มีตัวเลือกเยอะคะ 6) ถ้าอยากทำงานพิเศษ เพื่อเก็บเงินเป็นค่าเทอม สำหรับเรียนต่อโท เอก ทราบหรือไม่ว่าค่าเทอมเด็กต่างชาตินั้นแพงมหาศาล ชนิดที่ว่าทำงานเสริ์ฟอาหารทั้งปี ก็ไม่พอจ่ายค่าเทอม เช่น ของอังกฤษ -- อันนี้เคยได้รู้จักพี่หลายๆคน ยกตัวอย่างพี่คนนึง เรียนโทด้วย ทำงานร้านอาหารไทยไปด้วย สุดท้ายจบโทแล้วก็ย้ายมาทำงานที่นิวยอร์คคะ น้อยคนที่จะได้ แต่มันก็มีนะคะ ไม่ได้สนับสนุนให้คนทำงาน แต่อยากจะให้มองว่าคนขยัน คนมีความคิด ไม่ใช่ลูกคนรวยที่ไปเรียนนอกแล้วเอาแต่เที่ยวเตร่ผลาญเงินพ่อแม่ไปวันๆ ถ้าจะสนับสนุนขอสนับสนุนคนที่ทำงานเรียนโทแต่ทำผิดกฎหมายมากกว่า คนที่รวยมาเรียนนอก เที่ยวเตร่ไปวันๆ แต่ทำไม่ผิดกฎหมายคะ สุดท้าย นี่เป็นความติดเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าไปทำอะไรให้เจ้าของกระทู้หรือคนอื่นๆไม่พอใจหรือกล่าวถึงใครโดยไม่รับอนุญาตก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ไม่มีเจตนาจะมาทะเลาะกับใคร แค่อยากให้เห็นอีกมุมนึงที่เราคิด และอาจจะมีหลายคนที่คิดแบบเรา ขอโทษนะคะ*-* จากคุณ : linna เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 05:41:48 A:118.172.184.36 X: TicketID:240045

ความคิดเห็นที่ 7 ก็ว่ากันไป... โลกใบนี้มีหลากหลายมุมมอง คำถามเดียวกัน แต่ประเด็นส่วนตัวของแต่ละคนมันก็อาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ หรือคำถามเดียวกัน แต่ถามต่างสถานที่และเวลา คำตอบมันก็ใช่ว่าจะเหมือนกันเสียเมื่อไหร่ ท้ายที่สุดสังคมจะเป็นผู้ตัดสิน คำถามไหนมีประเด็นน่าสนใจ ถึงแม้จะเป็นคำถามเดิมๆ คนก็เข้าไปตอบกันเยอะ คำถามไหนตอบกันจนเฝือแล้วไม่มีอะไรใหม่ ก็มักจะเงียบเหงากลายเป็นกระทู้ร้าง ปล. ต้องขอขอบคุณจขกท.ด้วยครับ เพราะประเด็นต่างๆ ที่ จขกท. รวบรวมมานั้น สามารถให้แง่คิดในภาพรวมแก่คนที่มีคำถามเหล่านั้นได้ดีทีเดียว แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 06:20:16 จากคุณ : Varalbastra เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 06:15:51

ความคิดเห็นที่ 8 คิดว่า ในห้องไกลบ้านนี้ ถามเข้ามา ระบายออกมาเถอะครับ ตราบใดที่ข้อเขียน หรือความคิดเห็นนั้น ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับใคร ผู้อ่านหรือผู้ตอบกระทู้แต่ละท่าน มีอิสระในการพิจารณาว่า จะตอบสนองต่อกระทู้นั้นอย่างไร เช่น เฉยๆ ตอบเท่าที่รู้ที่เห็น ไปค้นหาข้อมูลมาตอบ ขณะเดียวกันได้เรียนรู้ไปด้วย หรือคนที่รู้มากกว่าเข้ามาเติมให้สมบูรณ์ขึ้น เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสาร ที่มีเอกลักษณ์ในตัว ควรรักษามันไว้ คิดอย่างนี้นะครับ แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 08:27:24 จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 08:02:28

ความคิดเห็นที่ 9 - AUS เรียนได้ทำงานได้ ขอเพิ่มว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แบบถูกกฏหมาย ช่วงปิดเทอมทำได้ไม่จำกัดค่ะ ส่วนเรื่องคำถามซ้ำๆนั้นก็ว่ากันไป ใครขยันตอบก็ขยันตอบไป ไม่งั้นลองเสิร์ชคลังกระทู้เก่าๆดูหากไม่มีคนตอบค่ะ แต่ข้อดีของห้องนี้คือ กระทู้ไม่เยอะมากในแต่ละวัน เพราะงั้นถึงจะมีคำถามซ้ำบ่อยๆก็ไม่เป็นไรเพราะไม่ได้ทำให้กระทู้เก่าๆตกหน้าเร็วเกินไป ขอให้ทุกท่านโชคดี จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 08:44:55

ความคิดเห็นที่ 10 อันนี้เห็นด้วยข้อ 6) อยากไปเรียนต่างประเทศ พร้อมกับทำงานพิเศษเพิ่ม ขอคำแนะนำหน่อยครับ เราเบื่อมากที่ต้องมาตอบคำถามเด็กที่ใฝ่ฝันว่าอยากมาอเมริกา แต่ไม่รู้การขอวีซ่าใดๆเลย แล้วยิ่งพอรุ้ว่า เราอยู่ทางนี้ก็ออกปากจะขอมาอาสัยอยู่ด้วยคือจะมาเป็นภาระเลยก็ว่าได้ บางทีปฏิเสธไปสองสามรอบแล้วก็ยังตื้อขอมาให้ได้ อยากรู้จังเลยว่าหน้าทำด้วยยางอะไรทำไมถึงได้หนา ขนาดนี้ หลังๆเราเลยบอกไปว่า งั้นไปขอวีซ่าดูผ่านแล้วก็บินมาเถอะ ท้าเลย ส่วนใหญ่ก็ไม่ผ่านอยู่ดี เพราะไม่มีหลักฐานค้ำประกันใดๆว่าจะมาเรียนจริงจัง คิดหรือว่ากงศุลอเมริกาจะปล่อยเข้ามาง่ายๆเบื่อพวกหวังมาขุดทองที่สุดเลย เฮ่อ แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 54 12:47:37 จากคุณ : uka04 เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 12:47:00

ความคิดเห็นที่ 11 เคารพในความคิดเห็นของทุกท่าน เพราะการแสดงความคิดเห็นเป็นหัวใจของประชาธิปไตย จากคุณ : บอนเนอร์ เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 12:54:46

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าไม่ได้แล้วหรือคะ?? จากคุณ : Kally_narak เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 14:15:31

ความคิดเห็นที่ 13 ใครอยากถาม ถาม ใครอยากตอบ ตอบ ใครอยากอ่าน อ่าน ใครไม่อยากอ่าน ก็ไม่ต้องอ่าน ก็แค่นี้เองนะ จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 14:30:09

ความคิดเห็นที่ 14 ตัว จขทก. เองก็เหอะ ตั้งกระทู้แบบนี้ ไม่ใช่คนแรกและไม่ใช่คนสุดท้ายเช่นกัน อิอิ ......... ไม่เชื่อไปถามป้าๆ เอ๊ย ถามพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่เขาเล่นและอ่านประจำห้องนี้มานานซิ  เจอกันเป็นประจำจนพากันชินไปแล้วมั้ง   พอเจอคำถามซ้ำเยอะๆ  ก็จะมีกระทู้แบบนี้มา มันเป็นวัฎจักรเวบบอร์ดนะคุณ สีสันบ้าง สีแสบบ้างว่ากันไป ถามเรา บางทีก็รำคาญ หลายที่ก็ปล่อยผ่าน ไม่ตอบ ไม่สน ไปหากระทู้อื่นดู แต่ก็เห็นด้วยหลายข้อสำหรับกระทู้นี้ จริงๆ แล้ว อะไรที่มันเป็นข้อเท็จจริง เป็นคำตอบที่ต้องการคำตอบที่ถูกต้อง ไม่อยากให้ผู้คนมามีความหวังกับคำตอบในเวบบอร์ด เพราะเมื่อเกิดปัญหาจริงๆ คำตอบที่คุณเอาไปจากเวบบอร์ดก็ใช่ว่าถูกต้องเสมอไป เพราะมันเกิดจากประสบการณ์แต่ละคน  ประสบการณ์กับข้อเท็จจริง บ่อยครั้งก็สวนทางกันเหลือเกิน ยกตัวอย่างเรื่องน้ำหนักกระเป๋า *** ถ้าสายการบินกำหนดเท่านั้น แล้วคุณไม่เชื่อ แต่กลับมาเชื่อประสบการณ์ของคนในเวบบอร์ด ถ้าดวงดีก็ผ่าน ไม่มีปัญหา แต่เกิดโดนตอขึ้นมา คุณทำผิดกฎ มีปัญหา อ้างคำตอบในเวบบอร์ดใครจะเชื่อคุณ  มันก็แค่ประสบการณ์หนึ่งของคนที่เขาไม่โดน (ไม่โดนจับได้ ไม่ใช่ว่าทำไม่ผิดนะ ) หรือ การขอวีซ่าอีก ให้ฟันธงว่าได้  ไม่ได้  เราว่าอันนีน่าจะคิดได้ว่า ใครจะไปฟันธงให้ได้  ขึ้นอยู่กับสถานทูตอย่างเดียวเลย   แต่ที่เห็นแล้วรีบกดผ่านเลยคือ กระทู้ ขอด่วน  ขอวันนี้  จะบินพรุ่งนี้แล้ว ขอคำตอบด่วน ฯลฯ  เห็นแล้วเบื่อมาก บ่งบอกถึงความมักง่ายที่หล่อหลอมมาในผู้คนมากเข้าไปทุกที แวะมาบ่น ไปละ อิอิ.... จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 15:36:06

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ กระทู้ที่เห็นเเล้ว หลายคนรีบกดผ่านเลยคือกระทู้ "ขอด่วน" ส่วนกระทู้ที่เห็นเเล้ว หลายคนต้องรีบกดอ่านคือ "เมียฝรั่ง" ใครจั่วหัวกระทู้ด้วย Magic word นี้ เรตติ้งกระฉูดทะลุฝ้าทุกทีไป จากคุณ : Jennifer Lowclass เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 15:50:23

ความคิดเห็นที่ 16 ก็เข้าใจว่าบางคนไม่ลองหากระทู้เก่าๆอ่านดูก่อน เผื่อเจอคำถามที่ตนเองอยากถามเหมือนกัน คิดอีกทางบอร์ดนี้มีไว้เพื่อหาข้อมูล ถามคำถาม คนที่เค้าตั้งใจมาช่วยตอบเนี้ยก็มีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น บางคนเค้าไม่รู้จริงๆ ก็มีค่ะ อย่าเอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้งเลย คนเราบางที่เค้าก็ไม่มีโอกาสเท่ากับคนอื่น ได้บินไปเมืองนอกครั้งแรกก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดา เราคนรู้เยอะก็ช่วยคนอื่นเค้าไปค่ะ แต่พวกที่ถามแบบกวนๆ แล้วคนที่ตอบกลับแบบกวนๆ นะขอร้อง จากคุณ : Pimienta เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 16:31:25

ความคิดเห็นที่ 17 โหวตค่ะ เพราะสงสัยเหมือนกัน จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 16:35:29

ความคิดเห็นที่ 18 ขอออกความเห็นเรื่องน้ำหนักกระเป๋านะคะ เห็นด้วยว่าคนชอบมาถามกันมาก น่าเบื่อมากๆเลยกับคำถามนี้ ทั้งที่สายการบินต่างๆ ก็ได้บอกรายละเอียดไว้อย่างชัดเจนแล้ว แจ้งไว้ ได้แค่ไหนก็น่าจะแค่นั้น นอกจากนี้ หลายๆคน ยังมีน้ำหนักกระเป๋าเกินไปอีก สามสี่โล เช่น อนุญาตให้ 20 โล แต่เอาเข้าจริงๆเป็น 24 โล อะไรประมาณนี้ ที่เกินมา ก็หวังว่าพนักงานสายการบิน จะหยวนๆ ปล่อยผ่านไป พนักงานก็ต้องมานั่งปากเปียก ปากแฉะอีก ว่าน้ำหนักได้เท่านั้น เท่านี้นะคะ เราไม่ชอบแบบนี้มากเลย ลองคิดดูว่า ถ้าทุกคนทั้งลำทำเหมือนกันหมด น้ำหนักจะเกินไปกี่กิโล มันเป็นเรื่องของความเรียบร้อยและความปลอดภัยของการบินด้วยนะ ยิ่งกระเป๋าขึ้นเครื่อง บางคนแบกมาซะหลังเกือบหัก ทั้งที่รู้อยู่ว่าได้แค่ หกถึงแปดกิโลเท่านั้น คนไทยเรานี่แหล่ะ เจอเคสแบบนี้ แทบจะทุกรายเลย คนต่างชาติเจอน้อยมากๆ ไม่เข้าใจเลยว่า แค่ทำตามกฏที่แจ้งไว้ มันยากอะไรนักหนา จากคุณ : Wassermelone-Air เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 17:56:29 A:91.66.30.47 X: TicketID:305902

ความคิดเห็นที่ 19 ในวันที่เจ้าของกระทู้พิมพ์กระทู้นี้อยู่ คุณไม่ได้ยืนอยู่ในวันที่คนๆนึงเค้ามีปัญหาอยู่ และไม่รู้จะหันหน้าไปถามใคร และคุณเอง ก็คงไม่รู้ว่าในวันนั้น เค้าอาจจะสับสนมากกว่าตัวอักษรที่เค้าพิมพ์มาให้เห็นก็ได้ มันอาจจะเป็นคำถามงี่เง่า ไม่รู้จักหาข้อมูลมาก่อนที่จะถาม หรืออาจะไม่ถูกใจใครต่อหลายคน แต่เคยมั้ยครับ แบบว่าคิดอะไรไม่ออก อยากได้ไอเดียจากเพื่อนๆ ว่าควรจะยังไงดี เดินทางไหนดี แต่ละคน ต่างก็มีวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไป เจ้าของกระทู้เห็นกระทู้ไหนที่ไม่สบอารมณ์ ก็ปล่อยผ่านเถอะครับ อย่าไปใส่ใจเลย มันคงไม่รกห้องมากจนเกินไปใช่มั้ยครับ ถ้าคนถามเค้าเห็นว่าไม่มีคนตอบ ก็คงรู้ตัวว่าต้องขยับตัวไปหาข้อมูลเองแล้วล่ะ อีกข้อที่อยากแสดงความคิดเห็น ในหนึ่งชีวิตของคนเรา ก็ต่างต้องการสิ่งที่ดีเพื่อตัวเองและคนที่รักทั้งนั้น แต่ละหนทางของคน วิถีที่ให้เลือกเดินมันก็คงไม่เหมือนกัน คนที่ไม่มี ก็ต้องดิ้นรน คนที่มีอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องกระ:-)กระสนมาก เพราะมีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว ต่างคน ต่างความคิด ต่างครอบครัว ต่างสิ่งแวดล้อม ต่างจิตและต่างใจ พวกเราไม่ต้องถึงขั้นเอาใจเขามาใส่ใจเราก็ได้ แค่แบ่งปันน้ำใจให้กันเล็กน้อยพอที่จะทำได้ แค่นั้น สังคมไกลบ้านก็คงน่าอยู่แล้วล่ะ อย่าทำร้ายกันเพียงอักษรไม่กี่ตัวเลยครับ ไม่ได้อยากรู้สึกอะไร แต่มันอดรู้สึกแทนคนที่ถูกกล่าวถึงไม่ได้ครับ ด้วยความจริงใจ จากคุณ : เถียร เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 18:40:52

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องน้ำหนักกระเป๋าเนี่ย ผมว่าคนที่สามารถตั้งกระทู้ถามในพันทิปได้ก็คือคนที่เล่นอินเตอร์เน็ตเป็น ผมก็แปลกใจว่าแล้วทำไมเค้าไม่เสิร์ชใน smart search หรือ เว็ปไซต์สายการบินดู มันจะได้คำตอบเร็วๆ ไม่ต้องมานั่งรอให้คนเข้ามาตอบในกระทู้ = =" จากคุณ : aradose เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 19:04:49

ความคิดเห็นที่ 21 สงสัยเหมือนกัน เรื่องน้ำหนักกระเป๋านี่น่ะ ว่าทำไมต้องมาถาม สงสัยจริงๆ ว่า เวลาเลือกสายการบิน ไม่ได้ดูรายละเอียดพวกนี้กันหรือไง แล้วเวลา ซื้อตั๋วแล้ว มันก็จะมีรายละเอียดต่างๆ บอกอยู่ในตั๋วแล้ว รวมถึงน้ำหนักกระเป๋า ทำไมต้องมาถาม จากคุณ : ก็แค่สงสัย เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 19:41:33 A:91.57.118.92 X: TicketID:318780

ความคิดเห็นที่ 22 เดี๊ยวก่อนนะครับ ก่อนจะไปกันใหญ่ ผมขอย้ำก่อนว่า ตั้งกระทู้นี้ไม่ได้จะตำหนิใคร หรือว่าห้ามตั้งกระทู้ ห้ามถามซ้ำๆ นะครับ อย่างเช่นเรื่องน้ำหนักกระเป๋าเนี่ย เวลาได้รับตั๋ว E-Ticket ปกติเราก็ต้องเช็คชื่อ นามสกุล วัน เวลาเดินทาง น้ำหนักกระเป๋า สนามบินที่ทรานซิท ถูกมั้ยครับ แต่ที่สงสัยคือ ไม่ได้ตรวจทานกันเลยเหรอครับ แล้วถ้าอ่าน Term and condition ของตั๋วแล้ว ทำไมถึงมาถามซ้ำในพันทิป ส่วนเรื่องที่มีคนถามว่า ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยได้มั้ย อันนี้ก็อย่างที่บอกไปข้างบนว่า UK, US, AUS มีกฎแตกต่างกันไป แต่ที่สงสัยอย่างหนึ่งคือ หลายคนรู้ว่า UK กับ US ห้ามทำงาน ทำไมยังแอบทำกันอีก ไม่กลัวโดนจับ แล้วส่งกลับกันเลยหรือ เช่น ถ้าถูก deport จากอเมริกา ต่อมาจะไปขอวีซ่าของอังกฤษเราจะทำไง ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด เวลากรอกแบบฟอร์มวีซ่า Schengen, US, UK, Japan etc เค้าจะมีให้กรอก ว่าเคยเข้าเมืองผิดกฎหมายมั้ย ทำงานผิดกฎหมายหรือเปล่า เคยทำผิดคดีอาญามั้ย เคยเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายมั้ย ฯลฯ แล้วทีนี้จะทำไงหล่ะครับ ??? จากคุณ : seabreeze_psu เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 20:00:20

ความคิดเห็นที่ 23 ปกติห้องนี้ก็ไม่ค่อยมีคนตอบอยู่แล้ว ถ้าเจอคนจ้องจะด่าเวลาถามอะไรไป คง.... จากคุณ : Rising (Rising shot) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 20:12:26

ความคิดเห็นที่ 24 ผมว่าคนที่เข้ามาโพส ส่วนใหญ่ก็เซิท google มาพอสมควรแล้ว แต่ที่มาตั้งกระทู้ บางทีอยากจะได้ความเห็น หรือ ประสบการณ์ของเพื่อนสมาชิก เช่น เรียนเป็นยังไง ประสบการ์การขอทุนของแต่ละคนเป็นอย่างไร ผมว่าสิ่งที่ทำให้ผมเล่นพันทิพจริงๆ ไม่ใช่ข้อมูลหรืออะไรหรอก แต่ที่เล่นเพราะ เหมือนมีเพื่อนมาคอยแชร์ประสบการณ์กัน มาพูดคุยกัน อยากได้ข้อมูล สมัยนี้ google เซิทได้ทุกอย่าง จากคุณ : สาManUtd เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 21:05:54

ความคิดเห็นที่ 25 น่าจะลองระบบ ปักหมุด กระทู้ไหนมีเนื้อหาเรื่องที่ ฮอต ฮิท ข้อมูลละเอียดครบ และยังเป็นปัจจุบัน ก็ปักหมุดไว้ เพราะบางทีไปค้น ก็ค้นเจอไม่ตรง ไม่ละเอียด ข้อมูลไม่พอ และกลัวไม่เป็นปัจจุบัน บางทีค้รกระทู้ เปิดหาไปห้าหกหน้า จนอยากจะกรีดร้อง ยังไม่ได้เรื่องที่ต้องการเลย จากคุณ : Adios2nd เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 22:23:42

ความคิดเห็นที่ 26 คห.#6 และ #19   เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง อะไรเล็กๆน้อยๆ ถ้าเราให้ความกระจ่างแก่คนที่ไม่รู้ ก็น่าจะทำกันไป นับวันคนเราจะยิ่งมีใจคับแคบกันมากขึ้นทุกที ส่วนเรื่องไปเรียนแล้วแอบทำงานไปด้วย ถ้าไม่จำเป็นคงไม่มีใครทำ ใครจะอยากไปลำบากละครับ ใครๆก็อยากจะสบายกันทั้งนั้น ถ้าเค้ามีเงินถุงเงินถัง เค้าคงไม่ไปทำงานเสิร์ฟงกๆเพื่อเงินไม่กี่เหรียญ หรือบางคนก็สงสารพ่อแม่อยากช่วยแบ่งเบาภาระ ก็ออกทำงานหาเงิน ได้มาเล็กๆน้อยๆก็ยังดี ไม่ใช่ทุกคนที่ไปเรียนต่อต่างประเทศจะมีพร้อมทุกอย่าง ถ้าบอกว่า ไม่พร้อมก็ไม่ต้องไปเรียน อันนี้ใครๆก็อยากจะยกระดับตัวเองให้ก้าวหน้า ยิ่งคนที่ต้องดิ้นรนเพื่ออนาคตยิ่งน่ายกย่องชมเชย ไม่ใช่มั่วแต่งอมืองอเท้าเพราะความไม่พร้อม จากคุณ : LeePablo773 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 05:11:34

ความคิดเห็นที่ 27 #25 ระบบปักหมุด ในห้องนี้ก็เคยมีการพูดการถกกันมาแล้ว เรียกว่ากล่องดำหรือไงเนี่ย ถ้าไปค้นในกระทู้เก่าๆน่าจะเจอ แต่ไม่สำเร็จเพราะถ้าเราจำไม่ผิดคือ wm ไม่เห็นด้วย หรือเพราะท้ายสุดไม่มีใครจะมาดูแลจริงๆจังๆมั๊งคะ ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะทั้งคุณ จขกทและผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับคุณ จขกท อย่างที่คุณ กำสะลองเงิน บอก กระทู้แบบที่คุณ จกขท ตั้งเนี่ย ไม่ใช่รายแรก แล้วก็คงไม่ใช่รายสุดท้าย มาเรื่อยๆปีละหน สองปีหน แล้วก็น่าจะเป็นกันเกือบทุกห้องด้วยมั๊ง อย่าคิดอะไรมากเลยผู้เล่นห้องไกลบ้านทั้งหลาย ไม่ชอบใจอันไหนถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงมากๆก็ปิดกระทู้ไป จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 07:48:02

ความคิดเห็นที่ 28 เคยมีการใช้ระบบกล่องดำครับ แต่สุดท้ายไม่ได้รับความนิยมก็เลยเอาออกไป ธรรมชาติของเว็บบอร์ดคือการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน การถาม การตอบ ต่อให้เป็นเรื่องซ้ำๆ ซากๆ หรือเรื่องที่หาข้อมูลเองได้ไม่ยาก แต่ถ้าใจอยากจะตั้งก็ตั้งอยู่ดี ผมเองเพื่อนๆ ขนานนามให้ว่าเป็น Google เดินได้ เพราะอยากรู้อะไร มาถามผมแล้วให้ผมหาให้ เร็วกว่าพวกมันหาใน Google เอง เพราะ 1) ผมอาจจะรู้อยู่แล้ว หรือ 2) ผมรู้ว่าจะค้นข้อมูลให้ยังไงจะได้คำตอบเร็ว; แต่ผมก็ยังตั้งกระทู้เวลาผมอยากจะคุยกับเพื่อนๆ ในบอร์ด เอากระทู้ล่าสุดที่ผมเพิ่งตั้งไป เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและการเดินทางในอเมริกา ถ้าผมจะหาข้อมูลจาก Google มันก็หาได้หมดแหละครับ แต่ทำไมยังตั้ง ก็เพราะอยากให้เพื่อนๆ มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นไงครับ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 08:31:04

ความคิดเห็นที่ 29 3) ใครบินไปแอลเอ ไฟล์ท..... วันที่.... มั้ยคะ หาเพื่อนบินค่ะ ข้อนี้ผมเข้าใจอารมณ์ของคนที่กำลังเดินทางนะครับ เขา/เธอ อาจเดินทางต่างแดนครั้งแรกในชีวิต เขา/เธอ อาจจะกลัวและวิตกหนะครับ อยากมีเพื่อน(นักเรียนไทย)เดินทางไปด้วย เผื่อจะได้ช่วยเหลือกัน ในช่วงที่เดินทางไปในที่เดียวกัน ครั้งแรกผมเองก็กลัวสมัยเดินทางครั้งแรกคนเดียว ทำเองคนเดียวหมด ประสบการณ์ครั้งแรกจะสอนให้เรียนรู้ อันนี้เห็นด้วย แต่ผมว่า  มีประสบการณ์ร่วมกับผู้อื่นก่อน แล้วค่อยทำเองครั้งต่อไปก็ไม่เสียหายนะครับ เหตุผลที่คุณว่ามา ถูกแล้วหละครับ กลัวหลงทาง และ ยังไม่มั่นใจระดับภาษาของตัวเอง เป็นสาเหตุหลักเลยครับ อีกอย่างกระทู้หาเพื่อนเดินทางแบบนี้ คงไปใช้ smart search หาผู้ร่วมเดินทางย้อนหลังไม่ได้อยู่ดีนะครับ จากคุณ : Archarn Chan เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 08:47:38

ความคิดเห็นที่ 30 เวียนว่ายตายเกิดค่ะ จากคุณ : หญิงป้า เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 09:28:23

ความคิดเห็นที่ 31 ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยครับ ที่เห็นด้วยสุดๆ ก็คือ เรื่องน้ำหนักกระเป๋า เพราะทุกสายการบินเขามีระเบียบชัดเจนอยู่แล้ว ไม่เห็นความจำเป็นจะต้องมาถาม หรือว่าไม่แน่ใจ เพราะมันตายตัวมากๆ ขนไปเท่าที่อนุญาต ยังไงก็ขึ้นเครื่องได้ แต่ที่ไม่เห็นด้วยที่สุด คือ เรื่องหาเพื่อนบินครับ ผมไม่เคยตั้งกระทู้หาเพื่อนบินหรอกนะครับ แต่ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่เพิ่งเคยไปเมืองนอกครับ เพราะผมก็เพิ่งมาเมืองนอกครั้งแรกเหมือนกัน มันจะตื่นเต้น ทำอะไรไม่ค่อยถูก ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ต้องไปไหน จะคุยกับเขารู้เรื่องหรือเปล่า ต่อให้มีความรู้ภาษาอังกฤษแค่ไหน ถ้าไม่เคยได้คุยกับคนต่างชาติเป็นประจำมันก็ประหม่าได้ง่ายๆ ครับ เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลกที่จะมีใครต้องการเพื่อนร่วมเดินทางด้วย อย่างน้อยมันก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ครับ จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 09:35:25

ความคิดเห็นที่ 32 เพิ่มคำถามหรือประเด็นอื่นๆ ที่เจอ  ไม่รู้ซ้ำเปล่านะคะ เพราะอ่านไม่หมดทุกความเห็น มันเยอะ 1. รักทางไกล รักออนไลท์ จะไปรอดไหม 2. ผู้หญิงไทยแต่งงานกับฝรั่ง ซึ่งออกไปทางเหยียดผู้หญิงไทยนิดๆ 3. คิววีซ่าวันไหนแล้ว 4. วิจารณ์(ด่า) สถานให้บริการทางหน่วยราชการของไทยต่างๆ สถานฑูตเป็นต้น 5. พวกประปราย ก็ประมาณ ส้วมไม่มีสายฉีด หรือพวกตั้งกระทู้ไรไม่รู้ ที่คิดว่าตั้งแล้วเด่น 6. ด่วน ขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีหัวข้อเรื่องกระทู้ว่าด่วนเรื่องไร สำหรับอันนี้    ความเห็นส่วนตัวเป็นกระทู้ปวดใจสำหรับเรามาก 555 จากคุณ : ม่องเท่ง เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 09:48:46

ความคิดเห็นที่ 33 ลองตอบดูแทนคนที่ตั้งกระทู้เหล่านั้นนะครับ 1) บินสายการบินนี้ ได้น้ำหนักกี่กิโลกรัมคะ??? ถามเพราะยังไม่ได้บิน  ยังไม่ได้จองตั๋วไงครับ  กำลังเลือกสายการบิน และยังใช้เน็ตไม่คล่อง  ไม่รู้จะใช้เสริจยังไง ผมเองก็เคยถามครับ  ถามว่าน้ำหนักได้กี่กิโล ค่าปรับเท่าไร  ตอนที่ยังไม่ได้เลือกสายการบินนะครับ 2) อยากขอวีซ่าเมกา ต้องเริ่มตรงไหนครับ คนไม่เคยไปอเมริกา  เลยไม่เข้าใจว่าต้องทำยังไง  แต่รุ้มาว่าต้องใช้เอกสารอะไรสักอย่างที่เรียกว่าวีซ่า 3) ใครบินไปแอลเอ ไฟล์ท..... วันที่.... มั้ยคะ หาเพื่อนบินค่ะ บางคนเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก ในชีวิต ไม่เคยบินเลยเสียวๆ 4) อยากหาทุนไปเรียนต่างประเทศ ทำไงครับ 5) อยากไปเรียนเมืองนอก แต่ไม่มีเงินทำไงดี 6) อยากไปเรียนต่างประเทศ พร้อมกับทำงานพิเศษเพิ่ม ขอคำแนะนำหน่อยครับ ไม่มีเงิน  แต่อยากแสวงหาความก้าวหน้าให้ตัวเอง  ห้องไกลบ้าน น่าจะมีคนมีปสกเยอะ  น่าจะพอให้ไกด์ไม่ต้องลองผิดลองถูก ไม่เข้าใจ จขกท ครับ    ถามในห้องนี่ก้เป็นเรื่องปกตินี่ครับ   เรื่องเรียนเมืองนอก  มันเป็นค่านิยมของคนไทยครับ  และบริษัทห้างร้านต่างๆก็ให้เงินเดือนสูงกว่าด้วย  ทั้งเรืองมหาลัยจบกับภาษา  แม้ยูจะไม่ดัง แต่บอกว่าเป็นเมกา  ยุโรป  ออส  คนก็ยอมรับแล้วครับ   มี HR ในบริษัทเอกชนไม่กีแห่งหรอกครับที่จะสืบเสาะว่า อันดับของมหาลัยอยุ่ที่เท่าไร สมัยก่อนผมเองก็อยากเรียนเมืองนอกครับ แต่ความตั้งใจไม่แรงกล้าพอ  พยายามอยู่สองปี ก็ยังหาเงินได้ไม่พอและไม่ได้ทุนที่ไหน  ก็เลยเลิกล้มความตั้งใจไป  แต่คนที่เขาตั้งใจ หาไปเรือยๆแม้หลายคนมองว่าจะไม่ค่อยเก่ง แต่สุดท้ายหาทุนจนได้ ก็มีนะครับ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 12:20:05 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 12:12:09 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 12:08:02 จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 12:06:03

ความคิดเห็นที่ 34 ดิฉันเป็นคนนึง ที่ติ ไปแล้วหลายคนว่า -ตั้งกระทู้ผิดห้องบ้าง แนะนำไปห้องที่สมควรมากกว่าห้องนี้ -คำถามที่เอามาถามเนี่ย ถ้าเอาไปหาในกูเกิ้ล ป่านนี้ได้คำตอบแล้ว ไม่ต้องมานั่งรอให้คนมาตอบในพันทิป และดิฉัน ก็เป็นคนนึงที่ -ทำวีซ่ามานอร์เวย์เองหมด -บินมานอร์เวย์ครั้งแรกคนเดียว ก็ไม่เคยโพสถามในเวปบอร์ด เพราะหาข้อมูลต่างๆ ได้เยอะแยะในอินเตอร์เน็ต และบางอย่างจะดีกว่าถ้าเราถามเจ้าหน้าที่สถานทูตโดยตรง กระทูู้ที่ไร้สาระเยอะมากอีกห้องหนึ่ง คือห้องเฉลิมไทย จากคุณ : BluemirroR เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 20:01:08

ความคิดเห็นที่ 35 ยืนยันดังเดิม คนตอบยังไม่บ่น แต่คนไม่ตอบกลับมาบ่น หรือถ้าตอบแล้วจะบ่น ก็อย่าตอบจะดีกว่า เพราะมันเสียความรู้สึกคะ จากคุณ : linna เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 22:31:48 A:118.172.179.69 X: TicketID:240045

ความคิดเห็นที่ 36 ผมว่าที่นี่คือสวนสาธารณะครับ โดยมีนิติบุคคลดูแล 5555+ คุณสามารถเจอคนได้ทุกเพศทุกวัย ทุกฐานะ ใครใคร่อยากพูดอะไรก็พูด อยากถามอะไรก็ถาม เอ๊ะสงสัยจังจะไปที่นู่นที่นี่ไปยังไง โอเคตอบไป มาอีกคนละ ถามแบบเดียวกันเลย ใช่ครับหลายคนรำคาญ แต่หลายคนก็ไม่ เดินเหยียบเท้ากันบ้างก็มี ได้ยินคนนินทาตัวเองก็มี ทุกรูปแบบครับ บางทีก็เห็นมันเดินกันมานู่นเป็นกลุ่มเลย คุยไรกันไม่รู้ แต่เราเ-ือกได้ยินไง ผมว่าอย่าไปอะไรกับมัน เรามาสวนสาธารณะทั้งที มีความสุขดีกว่า อะไรที่ไม่เข้าตาไม่ถูกใจ ก็ปล่อยให้มันผ่านๆไป แต่ใช่ว่าสวนแห่งนี้จะไม่มีกฏไม่มีระเบียบอะไร อะไรที่มันเกินไป ก็ลองแจ้งทางนิติบุคคลไป ถ้าเสียงส่วนใหญ่ว่าไง ก็ว่ากันไปตามนั้น ลองคิดดูสิครับ เด็กมันเดินไปเดินมาคุยแต่เรื่องฮีโร่ เรื่องการ์ตูน วงการ k-pop ฯลฯ ไอ้เราก็ว่าไร้สาระ เพราะอะไร... ก็เราผ่านมันมาแล้วไอ้วัยแบบนั้น ความรู้สึกแบบนี้ จะว่าเด็กมันก็ไม่ถูก ผู้ใหญ่ (รึเปล่า) อย่างเราๆนี่แหละไม่เปิดใจพอ edit : แก้ไขคำผิดครับ มีอีกรึเปล่าก็ไม่รู้ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 22:39:19 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 22:38:42 จากคุณ : doublelove เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 22:37:39

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนแรกว่าจะไม่มีส่วนร่วมในกระทู้นี้แล้วนะครับ แต่พอนึกๆ ดูแล้ว ก็อยากแชร์ความคิดเห็นด้วยคนดีกว่า (เสรือกหน่อยนะ อิอิ) อยากบอกว่า เราก็ไม่น่าจะไปคิดมากขนาดนั้นนะครับ ผมมองว่าการตั้งกระทู้ถาม มันเป็นอะไรที่ทำให้ห้องไกลบ้านมี dynamics แล้วทุกคนที่ถาม ก็อาจเพราะว่า อยากได้รับความมั่นใจด้วย อย่างผม สมมติว่ารู้ข้อมูลมาบ้างแล้วจากในอินเทอร์เนต จากกระทู้เก่าๆ แต่บางทีเราก็ไม่รู้ว่า ปัจจุบัน ข้อมูลมันเปลี่ยนไปบ้างไหม หรือ มีอะไรที่เราต้องอัพเดทอีกไหม แล้วมันเป็นการยืนยัน ความเข้าใจของตัวเรา ทำให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นด้วย เหมือนกับเวลาเราอ่านหนังสือ แล้วอ่านซ้ำๆ ก็ทำให้มั่นใจ แล้วเวลาเราอ่านมาก่อนหน้านี้ เราอาจอยากได้คนอื่นมาช่วยยืนยัน เพราะบางอย่างก็อาจยังไม่เคลียร์ หรือ มีการเปลี่ยนแปลง หรือ พูดไม่ตรงกัน เขาก็อาจอยากมาขอข้อมูลสนับสนุนเพิ่มเติม ผมเองก็ยังรู้สึกว่าตัวเองก็ต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติมเลยนะครับ หากอันไหนที่เคยอ่านมาแล้ว แต่ยังไม่เคลียร์ หรือ เคลียร์แต่ก็อยากให้คนมา support & confirm อีกครั้ง แล้วมันเป็น "จิตวิทยา" ทางจิตใจของเราอย่างหนึ่งนะครับ ผมมองว่า แต่ละคนที่ตั้งกระทู้ขึ้นมา (ถ้าไม่ใช่แนวก่อกวน) ตั้งขึ้นมาเพื่อให้รู้สึกมีส่วนรวม และได้รับกำลังใจ และได้ข้อมูลเสริม ข้อมูลมาสนับสนุน เป็นต้น คือบางอย่างหากผมรู้แล้ว อ่านในกระทู้เก่าก็แล้ว แต่ผมก็ยังอยากตั้งกระทู้ถามคล้ายๆ เดิมเลย เพราะอยากให้คนอื่นมาช่วยคิดด้วยว่า มันเป็นแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม และการมีกระทู้เป็นของตัวเอง มันทำให้เราเหมือนกับว่าเราก็มีความตั้งใจหาข้อมูลเหมือนกันนะ ผมกลับมองในมุมนี้ด้วยนะครับ ^_^ เอาง่ายๆ เลย หลายๆ คนที่บอกว่า ไปค้นหาจากกระทู้เก่าๆ ก็ได้ search หาจาก Smart Search ก็ได้ หรือจะหาผ่าน Google ก็ได้ แล้วทำไมไม่คิดกลับกันล่ะครับว่า ถ้าทุกคนใช้วิธีนี้หมด ไม่มีคนมาตั้งกระทู้เพิ่ม ไม่มีกระทู้ใหม่ๆ เกิดขึ้น หรือมีน้อยๆ ไม่ dynamics เราก็ smart search หรือ google เจอแต่ข้อมูลเก่าๆ แล้วที่สำคัญก็คือ จะมีใครรู้ไหมว่า ของเก่าๆ ที่บอกว่าไป search หาเจอ นั่นก็เพราะมีกลุ่มคนทั้งหลายที่คุณๆ กำลังว่าพวกเขานี่แหล่ะ มาตั้งไว้แล้วมีคนมาตอบให้ แล้วก็กลายมาเป็น resource ให้พวกคุณได้อ่านกัน จริงไหมเอ่ย จากคุณ : ภาพสะท้อนของกระจกเงา เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 22:51:31

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่มีไรครับ ถูกใจ คห. 37 จากคุณ : doublelove เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 23:07:44

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นด้วยอย่างแรงเลยค่ะ กระทู้ที่มีคำพิเศษว่าเมียฝรั่งอยู่ด้วยนี่ทีไร เป็นกระทู้แนะนำทุกทีแหล่ะค่ะ หรือไม่ก็กระทู้ชีวิตรันทดอิงนิยาย ยาวแหล่ะค่ะ แต่บางทีก็ชอบเข้าไปอ่านเหมือนกันนะคะ ไปดูชาวบ้านเขาเม้นท์กัน มันดี ฮิฮิ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 03:00:41

ความคิดเห็นที่ 40 คิดในแ่ง่ดีก็คือ เขาอาจจะได้ข้อมูลที่มันอัพเดทล่าสุดหรือเปล่า เราเองชอบประจำอยู่ห้อง WAT คำถามมันก็วนเวียนๆซ้ำๆ อยู่อย่างนี้ เมื่อก่อนก็แบบ เอ๊ะข้างบนเพิ่งจะถามไป ข้างล่างเอาอีกแล้ว แต่พักหลังๆ พอไม่มีคนมาตั้งกระทู้ เริ่มโหยหาอยากพิมพ์ อยากคุย จากคุณ : nakoze เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 04:55:55

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าอย่างนั้นห้องนี้ตั้งถามเกี่ยวกับเรื่องอะไรได้บ้างค่ะ?? จากคุณ : vanilla macadamia เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 16:47:13

ความคิดเห็นที่ 42 จริงๆแล้วกระทู้นี้มีประโยชน์มากนะครับ อ่านจากที่ จขกท บอกก็รู้สึกว่าจขกทเบื่อๆ  แต่ก็ตอบคำถามให้ด้วยในตัวเส็จสรรพ. ขอเปลี่ยนชื่อกระทู้แทนได้มั้ยครับ ว่าเป็น รวบรวมกระทู้ที่ชาวไกลบ้านชอบถามบ่อยๆ พร้อมคำตอบ จากคุณ : คนบ่น เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 22:59:03

ความคิดเห็นที่ 43 ชอบ คคห.37 มากครับ เขียนความในใจของผมเลย  แต่ดีกว่า  ชอบมากสุดคือประโยคสุดท้าย .....ธรรมชาติของคนที่ Inferior จะชอบยกตนข่มท่านเพื่อ get attention จากผู้อื่น...... จากคุณ : Techie เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 00:09:19

ความคิดเห็นที่ 44 ชอบกระทู้นี้จัง ชอบที่หลายๆคนมาช่วยกันแสดงความคิดเห็น มองต่างมุมกัน  ส่วนคิดว่าหากเป็นข้อมูลพื้นฐาน ก่อนตั้งกระทู้อาจต้องหาข้อมูลทำการบ้านมาก่อน ค้นแล้วไม่เจอหรือข้อมูลไม่พอค่อยถาม  แต่ !!!!! ที่คิดได้แบบนี้เพราะอายุมากแล้วนะคะ  ส่วนหนึ่งมีประสบการณ์จากการเรียนหนังสือที่ต้องสืบค้นข้อมูลมาประกอบการทำงานวิจัยก่อนเสนองาน เลยทำให้คิดเป็นเหตุเป็นผลแบบนี้ได้  ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะตั้งคำถามแล้วก็โพล่งถามออกไปเลยเหมือนกัน จนได้ฉายา "น้องหนูทำไม" เพราะมีคำถามตลอดเวลา 55555 เหมือนที่เจอในชีวิตจริง คนรู้จักใกล้ตัวหลายๆคนก็ถามเลยโดยไม่ได้หาข้อมูลเองมาก่อน จะด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่  คำถามลักษณะนี้จะเจอมากในวัยอยากรู้อยากเห็น ตั้งแต่เด็กอนุบาลจนถึงระดับมหาวิทยาลัยกันเลยทีเดียว อิอิ  แต่ถ้าเป็นคำถามขอความเห็น คำถามที่ต้องถกกัน คำถามลักษณะนี้ต่างกรรมต่างวาระ คำตอบที่ได้ก็จะแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นกับความรู้ความเข้าใจและข้อมูลของทั้งผู้ถามและผู้ตอบ  จะว่าไปคำถามลักษณะนี้ (ถามข้อมูลพืนฐานและถามเชิงความเห็น) ก็จะยังวนเวียนเข้ามาให้เห็นอยู่ร่ำไป เพราะคนเกิดใหม่มีอยู่ตลอดเวลา  ส่วนตัวคิดว่าถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง อยากให้ช่วยกันตอบถือซะว่าน้องนุ่งมันสงสัย หรือไม่ก็คิดซะว่าลูกหลานถามมา บางทีคนแก่ๆก็อยากรู้  ถ้าคุณตอบได้ แปลว่าข้อมูลคุณแน่น เจ๋งออก!!! ท้ายนี้...." การให้ความรู้ถือเป็นวิทยาทานอย่างหนึ่ง ที่ช่วยค้ำจุนชีวิตทำให้เขามีที่พึ่งอาศัยในชาตินี้" สาธุ  จากคุณ : คนนี้ใครเหรอ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 12:58:18

ความคิดเห็นที่ 45 ที่เกิดคำถามต่างๆขึ้นมา เพราะ ๐ คนเรามีความรู้ ความสามารถไม่เท่ากัน ๐ มีวัยวุฒิแตกต่างกันออกไป ๐ มีความมั่นใจในการดำเนินชีวิตไม่เท่ากัน ๐ มีความอยากถามที่ไม่เท่ากัน ฯลฯ คุณเจ้าของกระทู้ก็มีความตั้งใจดี คือ อยากบอกว่า ที่จริงมันมีทางหาคำตอบอย่างไร ซึ่งหลายข้อก็เห็นด้วย เช่น เรื่องอยากมาทำงานในสถานะที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น แต่..รับรองได้เหมือนที่ คคห.ข้างบนหลายๆท่านบอกไว้ กระทู้คำถามเหล่านั้น จะไม่มีวันหายไป (ซึ่งอยากบอกว่า อย่าหายไปเลย มาถามได้) กระทู้แบบคุณเจ้าของกระทู้ ก็จะเวียนมาเรื่อยๆ เมื่อก่อนจะมีสมาชิกหลักๆเวียนกันเข้ามาตั้งกระทู้ให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ ใครเข้ามาอ่านเจอจังหวะนั้นๆ ก็ได้เก็บเกี่ยวเป็นประโยชน์ไป ดิฉันยังคิดถึงคนเหล่านั้นเสมอ ยามเมื่อมีโอกาสคิดถึงใครบางคน ใครเข้าไม่ทันช่วงนั้น สงสัยก็ตั้งกระทู้ใหม่ บางคนไม่ทันอ่าน ตั้งไว้ก่อน (โดนด่าเละะะะ) ไม่เห็นรึงายกระทู้ข้างล่างอ่ะ สรุปว่า .. ๐ตั้งได้ ๐ถามได้ ๐อยากตอบก็ได้ ๐ไม่อยากตอบก็ได้ ๐อยากอ่านก็กด ๐ไม่อยากอ่านเลื่อนผ่าน ชีวิตมันสั้น เครียดกับกระทู้แล้วไม่ได้อะไร นอกจากแน่นในอก จากคุณ : Panissar เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 20:31:36