ความคิดเห็นที่ 1 บอกตรงแหละ ดีแล้วค่ะ เคยเกือบโดนไล่ออกจากงาน เพราะมัวแต่พูดอ้อมอยู่ หรือเงียบเก็บไว้คนเดียว โดน warning ซักทีละเข็ดเลย จากนี้ต่อมา ปากพูดไม่หยุดเลยค่ะ กันไว้ก่อน จะกลัวอะไร ทำไม ปากมากขึ้น หน้าด้่านขึ้น ประมาณ 400 เปอร์เซนต์ กล้าพูด กล้าถาม จะได้ัพัฒนาเร็ว ๆ อิอิ อายไม่กลัว เสียหน้าไม่กลัว กลัวไม่ได้รับรู้ รับทราบเรื่องที่ควร กลัวโง่มากกว่าค่ะ แฮะๆๆ จากคุณ : Kryta (Kryta Ja) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 02:18:59

ความคิดเห็นที่ 2 พูดตรงๆ มันก็มีดีมีเสีย การพูดสื่อสารกันตรงๆ มันก็เป็นเรื่องดี แต่มันต้องมีวิธีการที่พูดที่จะทำให้เข้าใจตรงกันและชัดเจน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คุณพูดกับเค้าว่าเค้า "ไม่จำเป็นต้อง" ทั้งที่เค้าบอกว่าเค้าจะทำ นั่นหมายความว่า คุณไม่ได้เห็นความสำคัญกับการที่เค้าจะทำหรือไม่ทำ ดังนั้น เค้าอาจจะคิดว่างั้นไม่ทำก็ไม่เป็นไร หรืออาจจะทำแต่ไม่ได้ส่งให้ตามที่เค้าบอกมา แต่พ้อยของผมก็คือ คุณบอกว่า "ไม่ต้อง" มันแสดงให้เห็นว่า คุณก็ไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะต้องทำอะไรอยู่แล้ว แต่คุณเกิดจะมาไม่พอใจขึ้นมาเมื่อมาคุยกับเพื่อนๆ และรู้สึกว่าการที่เค้าบอกว่าจะทำแล้วไม่ทำนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะถ้าเป็นรายงานว่าจะทำแล้วไม่ทำคงจะเสียหาย แต่สิ่งที่ต่างกันคือ เวลาให้ทำรายงาน คุณคงไม่พูดว่า "ไม่ทำก็ได้ ไม่ต้องทำหรอก" ดังนั้น ตัวอย่างที่คุณเอามาคุยกับเพื่อนอื่นๆ ในกลุ่มจึงไม่เป็นการเปรียบเทียบที่ดี ทั้งนี้ อีกฝ่ายก็แรงพอกัน ถ้าผมเป็นเค้า ถ้าผมบอกว่าจะทำแล้วไม่ได้ทำ สิ่งที่ผมจะทำคือ "ผมขอโทษจริงๆ นะครับพี่ ผมไม่ได้ส่งให้เพราะว่า(ยังงั้นยังงี้) หรือ ผมทำแล้วแต่ไม่ได้ส่งให้เพราะว่า (ยังงั้นยังงี้)" แค่นี้ คุณก็เลิกว่าแล้ว วิธีการพูดกับเค้าของคุณมันเป็นการ "จู่โจม" คนส่วนใหญ่จึงรู้สึกว่าอยากจะ "ปกป้องตัวเอง" เมื่อคุณพูดว่า "มีอะไรจะบอก" และ "สิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง" เค้าจึงหาเหตุผลมาอ้างและวิธีการตอบสนองต่อข้อความของคุณจึงออกมาอย่างที่เห็น ถ้าคุณมีวิธีพูดที่นุ่มนวลกว่านั้น เช่น "น้องจ๊ะ วันก่อนที่น้องบอกว่าจะส่งคำตอบมาให้พี่ ตอนเช้ามาพี่เช็คดูแล้วไม่เห็นส่งมา พี่ก็รอเพราะนึกว่ายังไม่ตื่นหรือเปล่า แต่สุดท้ายไม่เห็นส่งมาก็เลยคิดว่าอาจจะไม่มีเวลาทำ ซึ่งก็ไม่เป็นไร แต่ต่อไปแบบนี้ไม่เอานะจ๊ะ เพราะถ้าบอกว่าจะทำแล้วอาจจะทำให้คนอื่นละล้าละลังเพราะไม่รู้ว่าจะต้องรอรึเปล่า สมมติว่าเกิดมีปัญหาอะไรที่ทำให้ไม่ได้ทำ ก็โทรมาบอกหรือส่ง SMS มาบอกก็ยังดี เค้าจะได้ไม่ต้องรอกันจ้ะ" พูดไปยิ้มไป ขี้คร้านเจ้าตัวจะรู้สึกผิดเอง เปรียบเทียบกับวิธีการของคุณ "น้อง พี่มีอะไรจะบอก คือเมื่ออาทิตย์ก่อนน่ะ ที่เราบอกว่าเราจะส่งคำตอบมาให้น่ะ บอกว่าจะส่งแล้วไม่ส่งมาเนี่ย มันไม่ถูกต้องนะ ถ้าเกิดเป็นงานใหญ่กว่านี้ล่ะ มาทำแบบนี้แย่กันทั้งกลุ่มนะ" Message ที่สื่อเหมือนกัน แต่ความแรงของคำพูดมันต่างกัน ซึ่งแน่นอนว่า ให้ผลต่างกัน จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 02:26:41

ความคิดเห็นที่ 3 พูดตรงๆดีแล้วครับ เห็นด้วย ผมไม่เห็นว่าจขกท.จะพูดแรงเกินไปหรือแทงใจดำตรงไหน งานกลุ่ม ถ้ามีการผิดพลาดส่วนรวมก็เสียหาย ถ้ามีคนในกลุ่มไม่สามารถยอมรับกติกาของกลุ่มได้หรือแหกคอกก็ไม่ควรจะร่วมงานด้วยครับ น้องคนนั้นเค้าอาจจะยังไม่สามารถปรับตัวได้เข้ากับวัฒนธรรมและนิสัยการทำงานแบบตะวันตกที่ให้ความสำคัญกับการสื่อสารตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก แต่ถูกกาละเทศะ น้องเค้าคงติดนิสัยแบบไทยๆอยู่ที่มีอะไรก็ต้องพูดแบบอ้อมค้อม นอบน้อม เกรงใจอยู่ ถือซะว่าคนอย่างจขกท.ซึ่งมีวุฒิภาวะมากกว่าได้บอก เตือนเค้าไปแล้ว ถ้าน้องเค้าเป็นพวกบัวพ้นน้ำก็จะเอากลับไปคิดได้เองแหละครับ จริงๆน้องเค้าถ้ารู้แล้วว่าผลของการกระทำของเค้ามันเป็นอย่างไร ส่งผลต่อส่วนรวมขนาดไหน เค้าก็ควรจะขอโทษทุกคนในกลุ่มซะด้วยซ้ำ จากคุณ : OxfordGuy เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 02:38:24

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเป็นฝรั่ง ผมจะพูดตรงๆ ไปเลยครับ แต่ถ้าเป็นคนเอเชีย ผมจะดูนิสัยเค้าก่อนว่าเป็นยังไง บางคนชอบให้พูดตรง บางคนรับไม่ได้กับการพูดตรง ครั้งแรกสุดเลยอาจจะพูดอ้อมๆ ก่อนครับ แล้วดูว่าเค้าเป็นอย่างไร ถ้าเค้าไม่มีท่าทีอะไร ผมจะพูดให้ตรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เขาเริ่มแสดงอาการต่อต้านออกมา เข้าใจว่า จขกท.อยู่กับฝรั่งมานาน อาจจะติดนิสัยพูดตรงของฝรั่งมาบ้าง ผมคิดว่าครั้งแรกที่ จขกท.พูดไป อาจจะตรงเกินไปสำหรับเขาและเขารับไม่ได้จนเกิดอาการน้อยใจและประชดประชัน ถ้าผมเป็น จขกท.ผมจะถามเขาว่าเมื่อคืนที่ไม่ได้ส่งมา ติดขัดเรื่องอะไรหรือเปล่า บางทีเขาอาจจะมีเหตุผลส่วนตัวที่เราไม่รู้ครับ ส่วนตัวน้องเขา ผมคิดว่าติดนิสัยเด็กอยู่มากนะครับ (ประมาณว่าใครว่าอะไรหน่อยก็น้อยใจ) ไว้เขาเรียนรู้ด้วยตัวเองไปเรื่อยๆ เขาจะโตขึ้นเองครับ เพราะในต่างประเทศคงต้องมีสักคน ที่พูดตรงและรุนแรงกว่าเจ้าของกระทู้แน่นอน ส่วนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้ว ผมว่าอาจจะบอกน้องว่าลืมๆ ไปซะแล้วมาเริ่มใหม่ดีกว่า ค่อยๆ เรียนรู้นิสัยกันไปเรื่อยๆ ครับ เพราะเพิ่งเจอกันแล้ว อีกทั้ง จขกท.เองก็ไม่อยากให้เกิดการแตกแยกซะตั้งแต่ตอนนี้ เรารู้ว่าน้องเขาเป็นอย่างไงก็พยายามเข้าหาในจุดที่พอดีที่เขารับได้ครับ แต่ถ้าเราพยายามหลายครั้งแล้วยังเป็นแบบเดิมๆ อีกและยังไม่สบายใจเหมือนเดิมอีก ก็แสดงว่านิสัยของทั้งสองคน ทำงานร่วมกันไม่ได้แล้วครับ ต่างคนต่างทำดีกว่า แต่ละคนมีนิสัยแตกต่างกันครับ พยายามหาจุดที่เหมาะสมในการเข้าหาแต่ละคนครับ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จากประสบการณ์ผมครับ ยังไงก็ขอให้โชคดีในการทำงานกลุ่มนะครับ จากคุณ : TANTEISAN1412 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 02:43:31

ความคิดเห็นที่ 5 เราว่าคุณ จขกท. ก็พูดตรงๆ ธรรมดาๆ แต่น้องคนที่ว่า พูดจาร่ำไรน่ารำคาญมากเลย เป็นผู้ชายแต่พูดเยอะจัง  ก็ตัวเองรับปากแล้วไม่ได้ทำ ยังไม่สำนึกผิด พอมารับผิดว ก็แบบประชด ร่ำไร เอาชื่อออกก็ได้นะ เหมือนเด็กน้อยเลยอ่ะ พูดตรงๆ นั่นแหล่ะ ถ้าเขาอยากออกจากกลุ่มก็ให้เขาออกไปเลย เขาจะได้เรียนรู้ว่าการยอมรับผิด แล้วแก้ไขแบบง่ายๆ ต้องทำอย่างไร ถ้าไปอยู่กับกลุ่มฝรั่ง แล้วเจอบอกแบบนี้ ก็คงจะยอมรับได้ง่ายๆ เพราะคิดว่าธรรมชาติของฝรั่งเขาพูดตรงๆ ต้องปรับตัวยอมรับให้ได้ แต่พอเป็นคนไทยพูดด้วยกันเอง ต้องคิดว่าคนไทยต้องเข้าใจธรรมชาติคนไทย บลาๆ  (อันนี้ไม่ได้พาดพุง คห.ไหนนะคะ พูดถึงตัวเอง เพราะชอบพูดตรงๆ แต่ก็ระวังคำพูดแล้วนะ แต่ไปเจอคนคิดมาก เราก็อดแปลกใจไม่ได้  ฝรั่งตรงกว่าเรา ทำไมรับกันได้หว่า แต่เห็นเราเป็นคนไทยด้วยกัน พูดตรงๆ กลับรับไม่ได้ ))) จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 03:34:02

ความคิดเห็นที่ 6 เราว่าผู้ชายคนนี้ยังเด็กมาก และคงไม่เคยทำงานมาก่อน แค่พูดแค่นี้ยังรับไม่ได้ แล้วถ้าไม่ใช่งานกลุ่ม แต่เป็นงานบริษัท โดนคนอื่นว่านิดว่าหน่อยไม่รีบลาออกจากงานหรือเนี่ย ปล. บริษัทที่เราทำงานอยู่ (เยอรมัน) จะมีไฟล์ส่วนกลางซึ่งพนักงานทุกคนจะเขียนสิ่งที่ตัวเองคิดว่าควรจะปรับปรุงลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงานของพนักงานคนอื่น เสร็จแล้วเราจะเอาไฟล์นี้มานั่งคุยกันทุกวันจันทร์ เพื่อปรับปรุงวิธีการทำงาน หรือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น บอกตามตรงว่าตอนเริ่มทำงานแรกๆ เวลาคนอื่นทำอะไรที่เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำหรือควรปรับปรุง เราไม่เคยเขียนบ่นหรือใส่อะไรลงไปในไฟล์นี้เลยค่ะ คิดแต่ว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกันทำไมต้องมานั่งฟ้องกัน ไปๆ มาๆ โดนบ่อย ๆ เลยทำบ้าง เลยคิดว่ามันเป็นข้อดีอีกแบบนึงในการเตือนคนอื่น เพื่อที่เค้าจะได้ปรับปรุง และเราก้อรู้ตัวเองด้วยว่าเราทำอะไรผิดพลาดบ้าง และควรปรับปรุงอย่างไร จากคุณ : ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 04:40:09

ความคิดเห็นที่ 7 คนเราไม่เหมือนกันครับ เราเอามาตรฐานเดียวกันไปใช้กับทุกคนไม่ได้หรอก การพูดตรง คือการพูดสื่อความหมายโดยไม่ต้องอ้อมค้อมให้คนฟังต้องถอดสแควร์รูท ใส่ดิฟ ยกกำลังอะไรหลายชั้น แต่การพูดตรงไม่จำเป็นต้องขวานผ่าซาก เราสามารถเลือกใช้คำพูดที่ต่างกันเพื่อสื่อความหมายเดียวกัน การเลือกใช้คำพูดและวิธีการก็ขึ้นอยู่กับว่าคนพูดต้องการรักษาความสัมพันธ์กับผู้ฟังแค่ไหน ถ้าผู้พูดแคร์ความรู้สึกของผู้ฟังก็เลือกใช้คำพูดที่เค้าฟังแล้วเข้าใจแต่ไม่เฮิร์ท แต่ถ้าผู้พูดไม่แคร์ความรู้สึกและไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างกัน จะพูดยังไงก็ได้ทั้งนั้นแหละครับ จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 04:43:23

ความคิดเห็นที่ 8 ขอแสดงความเห็นหน่อยค่ะ ในฐานะคนนอก... ๐ น้องเขามีเหตุจำเป็นไม่สามารถมาทำงานกลุ่มได้ - เขาบอกคุณล่วงหน้า และคุณก็โอเค เรา: เออ...ก็ดูแลแฟนเถอะ พรุ่งนี้กลุ่มเราคงไม่ได้ออกไปตอบคำถามหรอก ๐ น้องเขาเสนอว่าจะส่งคำตอบมาให้ แต่ จขกท. บอกว่า... ผู้ชายในกลุ่ม: อ่าพี่งั้นเดี๋ยวผมจะตอบคำถาม แล้วส่งไปให้ทางอีเมลล์นะ เรา: เอางั้นเหรอ ไม่ต้องทำก็ได้นะ ไม่เป็นไร  "ไม่ต้องทำก็ได้" - ก็หมายความว่า ณ ตอนนั้นคุณบอกเขาว่า "ไม่ต้องทำ" แต่พอเขาไม่ทำ จขกท. ก็คิดว่าเขาไม่รับผิดชอบไม่รักษาคำพูดและทำไม่ถูก...และคุณกลับไปเล่าให้คนอื่นฟังว่า... เมื่อคืน ผู้ชายคนนี้นี้โทรมา แล้วก็บอกว่าจะตอบคำถาม แล้วอีเมลล์มาให้เรา แต่ก็ไม่ส่งมา แล้วเราก็เลยบอกเพื่อนว่า เราเซ็งแฮะ ถ้าเป็นรีพอร์ทล่ะ ถ้าเค้าบอกว่าจะทำแล้วไม่ทำล่ะ ซวยกันหมด เพื่อนเราเลยบอกเออ เอสเอมเอสไปบอกให้รู้เรื่องเลย เราเลยบอกกับเพื่อนว่า เราคิดว่าเราจะบอกเค้าตรงๆต่อหน้าล่ะ ว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แล้วคุณเล่าให้เพื่อนฟังหรือเปล่าว่า คุณบอกว่า "ไม่ต้องก็ได้นะ"... พี่อ่านแล้วก็อึ้งเหมือนกันค่ะ ทำไมถึงกลายเป็นว่าเขาเป็นคนไม่รับผิดชอบไปได้... ถ้าจะว่าไปคุณก็ไม่ได้รักษาคำพูดที่ให้กับเขานะ (อย่าโกรธนะที่พูดตรงๆ)... ๐ การทำงานร่วมกับคนอื่นต้องพูดคุยกันได้... การพูดตรงๆ ไม่ได้หมายความว่าพูดขวานผ่าซาก แต่หมายถึง "พูดให้ตรงประเด็น" แต่ก็ต้องรู้จักวิธีพูดด้วย (คนไทยชอบพูดอ้อมค้อมเพราะต้องการรักษาน้ำใจ - แต่ไม่จริงใจ) ๐ หลังจากที่คุณพูดกับเขา คุณก็คิดว่าเขาโกรธ แต่พอเขาโทรมาบอกว่า... ผู้ชายในกลุ่ม: คือผมไม่ได้โกรธ แค่จะโทรมาบอกว่าผมส่งคำตอบของอาทิตย์ที่แล้วไปให้ในอีเมลล์แล้วนะ เรา:ส่งมาทำไมอะ อ้าว! คุณไม่ต้องใช้คำตอบแล้วเหรอ? ถ้าไม่ใช้แล้วไปว่าเขาตั้งแต่ต้นทำไมคะ? ทำไมจึงทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้คะ? ถ้าพี่เป็นน้องคนนั้นพี่ก็ไม่สบายใจเหมือนกัน เพราะเหมือนว่าเราได้คุยกันแล้วแต่เรื่องกลับกลายออกมาอีกอย่าง...ทำให้ไม่สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย พี่พิจารณาจากเรื่องที่คุณเขียนมานะคะ... ขออภัยถ้าพี่จะเห็นต่างไปจากคุณ จขกท. แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 05:20:36 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 05:19:54 จากคุณ : BlackmagicW เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 05:17:35

ความคิดเห็นที่ 9 โดยปกติแล้วไม่มีใคร ที่ชอบ โดนสั่งสอน หรือ แม่จะเป็นการแนะนำด้วยความหวังดี เพราะคนเราต่างจิตต่างใจ มาจากต่างครอบครัว  เรื่องนี้ควรจะย้อนไปตั้งแต่ต้น เรื่องถึงตอนนัดหมายจะเอางาน ควรมีแผนสอง และ ติดตามงานให้ได้ ก่อนจะถึง due date ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ เรื่องปัดความรับผิดชอบตามมา แต่ถามถึงเรื่องว่า พูดตรง ดีมั๊ย ผมเขื่อว่า คนไทยส่วนมาก รับความจริงตรงๆ ไม่ได้ครับ ถึงได้ คำขอโทษ ก็จะสื่อถึงการทำให้จบเรื่องเท่านั้น ถ้าต้องการแก้ปัณหาเรื่องแนวนี้ แนะนำให้ใช้เป็นคำ ไถ่ถาม ถึงเหตุการณ์ว่าได้ทำตามนัดจริงหรือไม่ หากไม่ ควรหาวิธีแก้ไขปัณหาร่วมกันและให้ฝ่ายตรงข้าม ร่วมคิดแนวทางแก้ไข ปัณหาในอนาคต ทั้งหมดนี้ควรดำเนินไปด้วยบทสนทนาซึ่งไม่มีเจตนา ทำให้อีกฝ่ายเกิดความรู้สึกเหมือนถูกจับผิดอยู่ครับ ที่สำคัญต้องใจเย็นๆนะครับ เพราะว่าหัวใจชีวิตการทำงาน ที่จริงแล้วคือการที่จะเรียนรู้และทำงานร่วมกับบุคคลซึ่งอาจจะเป็นคนที่เราไม่ชอบนิสัย ด้วยก็ตาม โชคดีครับ จากคุณ : toy_theeranan เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 07:10:12

ความคิดเห็นที่ 10 ไล่ออกจากกลุ่มงานไปเลย เก็บไว้ก็เป็นตัวถ่วงเปล่าๆ ไม่ต้องไปแคร๋กับคนที่ไม่รู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบในงานของตัวเอง จากคุณ : ภาวนา เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:24:46 A:118.208.253.131 X: TicketID:083310

ความคิดเห็นที่ 11 เห้นด้วยกับคุณดอสและ คุณBlackmagicWค่ะ อ่านจากที่คุณเจ้าของกระทู้เล่า คุณตอบน้องเค้าว่า ไม่ต้องทำก็ได้นะ ไม่เป็นไร ถ้าเราเป็นน้องคนนั้น เราก็เข้าใจว่า ไม่เป็นไรนะคะ น้องเค้าคงจะงงเหมือนกันค่ะว่า ยังไงกันแน่ จากคุณ : wheel of forture เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:30:14 A:68.127.147.156 X: TicketID:048459

ความคิดเห็นที่ 12 คำว่าพูดตรงๆ ควรจะหมายถึงการส่งสาส์นที่ครบถ้วน และชัดเจนแต่ไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก คุณก็ไม่ชัดเจนตั้งแต่แรก บอกว่าไม่ต้องทำก็ได้ และสุดท้ายน้องคนนั้นก็ไม่ชัดเจนกลับมา เลยคล้ายกับว่าคุณไม่ชัดเจนเองแล้วไปคาดคั้นเอากับน้องคนนั้น คำแนะนำส่วนตัว พูดตรงหนะดี แต่เราต้องกลั่นกรองคำพูดก่อน ที่สำคัญต้องระบุไปเลยเอาไม่เอา ชัดๆ เรื่องนี้จบไปแล้วก็เริ่มใหม่ ให้โอกาสกันแล้วดูว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร หากพบว่าเขาเป็นคนไม่รับผิดชอบ ก็ถึงเวลาที่ต้องคุยกันทั้งกลุ่มให้จบทีเดียว เห็นบอกว่าเป็นการทำงานกลุ่ม ไม่ใช่กลายเป็นเขากับคุณมีปัญหากันสองคน แล้วอีกฝ่่ายงอน ประชดออกจากกลุ่มไป จากคุณ : อาการเซ็งระยะสุดท้าย เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:32:50 A:68.151.12.183 X: TicketID:257835

ความคิดเห็นที่ 13 ผมไม่คิดว่า จขกท. ทำอะไรผิด การเตือนให้เค้าทราบเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ดีกว่าไม่สบายใจกับตัวเราและคนรอบข้าง เห็นน้องๆ เรียน ป.โท ทำงานกลุ่มหลายคน มาบ่นเรื่องแบบนี้กันเยอะแยะ แต่ไม่กล้าบอกกันตรงๆ แปลกดีเหมือนกัน จากคุณ : Mr. Polar Bear เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:47:49

ความคิดเห็นที่ 14 คุยกับคนไทย คนเอเชีย ต้องซอฟต์มากๆค่ะ พูดตรงๆไม่ได้ ต้องอ้อมแล้วก็หาทางออกให้เค้าไว้ด้วยค่ะ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 08:54:19

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะคะ และขอบคุณที่เตือนด้วย พอได้อ่านบางความเห้นแล้ว ก็ทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่างเลยคะ อย่างแรกเลยเราควรจะแก้ไขวิธีการพูด ซึ่งก็น่าจะดีต่อตัวเรา และความรู้สึกของคนอื่นด้วย สองคงเป็นเพราะเราสื่อสารไม่ชัดเจนด้วย น้องเขาเลยเข้าใจผิด ต่อจากนี้จะพูดจะบอกอะไรกับใครเราก้คงต้องคิดให้มากขึ้นคะ เพราะบางครั้งเราก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันนะ @ คุณ BlackmagicW เราเล่าให้เพื่อนฟังนะคะว่าเราบอกไปแล้วสองสามรอบว่าไม่ต้องทำก็ได้ แต่เค้าก้ยืนกรานว่าจะทำ และเราก็บอกเพื่อนด้วยว่าที่เราเซ็งแล้วต้องเล่าให้ฟังเนี่ยเพราะ เราคิดว่าบอกว่าจะทำ แล้วไม่ทำเนี่ย ถ้าเกิดเป็นงานใหญ่จะทำอย่างไร ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ที่รับฟังและทำให้เราได้กลับมาย้อนดูตัวเอง จากคุณ : Shanisha เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 10:26:50 A:59.167.127.219 X: TicketID:327157

ความคิดเห็นที่ 16 @ คุณ BlackmagicW เราเล่าให้เพื่อนฟังนะคะว่าเราบอกไปแล้วสองสามรอบว่าไม่ต้องทำก็ได้ แต่เค้าก้ยืนกรานว่าจะทำ และเราก็บอกเพื่อนด้วยว่าที่เราเซ็งแล้วต้องเล่าให้ฟังเนี่ยเพราะ เราคิดว่าบอกว่าจะทำ แล้วไม่ทำเนี่ย ถ้าเกิดเป็นงานใหญ่จะทำอย่างไร ^ ^ ^ ไม่ได้จะบอกว่าคุณผิดนะคะ แล้วก็ไม่ได้บอกว่า ผช คนนั้นผิดเต็มๆ แต่ประเด็นหลักที่กลายเป็นเรื่องเซนซิทีฟขึ้นมามันไม่ได้อยู่ตรงนี้ค่ะ เห็นด้วยกับคุณดอส และ คุณBlackmagicW เคสแบบนี้อย่าว่าแต่คนไทยเลย ฝรั่งก็เข้าใจผิดกันได้ เพราะการสื่อสารไม่ชัดเจน แต่สุดท้ายจะเอาความชัดเจนจากความไม่ชัดเจน ย้อนหลัง แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 15:33:24 จากคุณ : Imperio เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 12:15:10

ความคิดเห็นที่ 17 d จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 14:12:45

ความคิดเห็นที่ 18 เรา: เออ...ก็ดูแลแฟนเถอะ พรุ่งนี้กลุ่มเราคงไม่ได้ออกไปตอบคำถามหรอก ผู้ชายในกลุ่ม: อ่าพี่งั้นเดี๋ยวผมจะตอบคำถาม แล้วส่งไปให้ทางอีเมลล์นะ เรา: เอางั้นเหรอ ไม่ต้องทำก็ได้นะ ไม่เป็นไร ผู้ชายในกลุ่ม:เดี่ยวผมทำนั่นแหละ แล้วเดี่ยวส่งอีเมลล์ไปให้พี่แล้วกันแค่นี้นะ .... แล้วก็วางสายไป ***ความคิดผู้ชายยึดถือใจความสีแดงเป็นหลัก*** V V V เรา: เออ...ก็ดูแลแฟนเถอะ พรุ่งนี้กลุ่มเราคงไม่ได้ออกไปตอบคำถามหรอก ผู้ชายในกลุ่ม: อ่าพี่งั้นเดี๋ยวผมจะตอบคำถาม แล้วส่งไปให้ทางอีเมลล์นะ เรา: เอางั้นเหรอ ไม่ต้องทำก็ได้นะ ไม่เป็นไร ผู้ชายในกลุ่ม:เดี่ยวผมทำนั่นแหละ แล้วเดี่ยวส่งอีเมลล์ไปให้พี่แล้วกันแค่นี้นะ .... แล้วก็วางสายไป ***ความคิดของ จขกท ยึดถือใจความสีแดงเป็นหลัก*** V V V ส่วนที่เกิดภายหลัง เป็นเหตุที่เกิดแต่ต้นเหตุข้างบนทั้งสิ้น   เรา: จัดไป แรง ชัดเจน ผู้ชายในกลุ่ม: จัดกลับ แรง ชัดเจน   *** พอกัน ศีลเสมอกัน ***     แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 15:28:48 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 15:26:37 จากคุณ : Imperio เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 15:18:24

ความคิดเห็นที่ 19 เราเข้าใจประเด็นของ จขกท. นะ  ในจุดที่ว่า "ไม่ต้องทำก็ได้ " ตอนที่ย้ำไปตอนนั้น เพราะว่าถ้าได้คำตอบมาว่า "ไม่ทำ" ก็จะได้ไปเตรียมเองหรือแบ่งงานให้คนอื่นทำไป เพราะได้รับทราบ เรียบร้อยแน่ชัดแล้วว่าคนนี้ไม่ทำ จะได้ไปทำต่อ หรือมอบหมายให้ใครทำ เป็นเรื่องเป็นราว ในมุมมองเรา ถ้าคนไหน "รับปากไปแล้ว"  แต่ไม่ทำ แล้วเอาคำนั้นมาอ้าง เราก็จะมองว่า ไม่รับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองพูดไปค่ะ ส่วนกรณีควรปรับเปลี่ยนวิธีการพูด เพื่อให้ได้ผลออกมาสำเร็จไปด้วยดี อันนี้เห็นด้วย ถึงโดยส่วนตัวจะรำคาญไปบ้าง ทำไมต้องมาประดิษฐ์ประดอยกันนะ ถ้าเราอยากให้มันสำเร็จ ก็คงต้องดูทิศทางลมมากขึ้น  (อันนี้บอกตัวเองด้วย เพราะชอบพูดตรงๆ บางทีก็ลืมตัวไม่ได้ระวังคำพูด คิดแต่ว่าเราเจตนาดี) เราชอบความเห็นต่างแบบนี้ในเวบบอร์ดค่ะ ทำให้เราได้ข้อคิดไปด้วย เพราะคิดคนเดียว บ่อยครั้งก็จะว่าแต่ตัวเองถูก ซึ่งในความจริง เราเองก็ไม่ถูกเสมอไป หรือบ่อยครั้งก็ทั้งวิธีของเราและของคนอื่นก็ใช้ได้หมด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 15:37:14

ความคิดเห็นที่ 20 การเลือกใช้คำพูด มันเป็นทักษะอย่างนึง เหมือนพิมพ์ดีด เหมือนคิดเลข เหมือนการอ่าน เหมือนการฟัง ที่พอเราทำบ่อยๆ เข้า เราก็จะชินไปเองและเวลาจะทำก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะต้องประดิษฐ์ประดอยอะไร จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 16:08:09

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ^ ถูกของคุณดอสค่ะ ว่ามันคือทักษะอย่างหนึ่ง   แต่พิมพ์ดีดเราพิมพ์มาตั้งแต่เริ่มเรียน ปวช. จนบัดนี้ แน่นอนทำได้ดี ดีและนานพอๆ กับพูดตรงๆ มาตั้งแต่จำความได้นั่นแหล่ะ 5555 ที่เราว่ารู้สึกมันเป็นการกระดิษฐ์ประดอยคำพูด (แน่นอน คำพูดเป็นศิลปะ ก็ต้องประดิษฐ์ประดอย)  เพราะเราไม่ชินไง มันเป็นบุคลิกส่วนตัวของตัวเองค่ะ เหมือนไม่ได้ออกมาจากตัวตนของเรา (ของตัวเองล้วนๆ นะ ไม่เกี่ยวกับคนอื่น) มีวิธียังไงให้ลดความรู้สึกรำคาญได้บ้าง (รู้สึกตัวเองเวลาจะพูดอะไรแล้วเยิ่นเย้อ อ้อมค้อม มันรำคาญตัวเองค่ะ )   เราไม่ได้เถียงว่าที่คุณพูดไม่มาถูกนะ แต่มันยากมาก สำหรับไม้แก่ให้มาดัดตอนนี้ ถึงแม้เราอยากจะเปลี่ยนแปลงก็ตาม  (เหมือนเรามาเรียนภาษาที่ 3 ตอนอายุ ใกล้เลข 4 เนี่ย เรารู้สึกถึงความยาก และท้อมากถึงมากที่สุด ) เราไม่ได้มีปัญหาในการพูดคุยกับคนอื่นนะ แต่เรารู้สึกบางทีเราพูดตรงเกินไปหรือเปล่า ยกตัวอย่าง เราไม่อยากได้เมล์ฟอร์เวิร์ดจากเพื่อนที่ส่งมาหาเรา (แต่เขาไม่เคยส่งเมล์ทักทายมาหาส่วนตัวเลยนะ มีแต่เมล์ฟอร์เวิร์ดซ้ำๆ ซากๆ ) เราเลยว่าบอกเขาตรงๆ ดีกว่า เขาจะได้เสียเวลาส่ง เราจะได้ไม่เสียเวลาลบ  ก็บอกขอบคุณเขาไปว่าที่นึกถึง ส่งมาให้ แต่เราไม่ได้อ่าน เราต้องลบทิ้ง  เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเขา เพราะส่งมาเราก็ไม่ได้อ่าน ไม่ต้องส่งมาให้เรานะจ๊ะ   ง่ายๆ เอง  เขางอนเรา หาว่าเราไม่รักษาน้ำใจเขา เกี่ยวไรเนี่ย...... มีอีกราย เหมือนกัน บอกว่า เราไปพูดทำลายน้ำใจเขา ไม่อยากได้ทำไมไม่ลบทิ้ง (อ้าว ผิดอีก ก็แค่บอกว่าไม่อยากได้ ทีตัวเอง เราไม่อยากให้ส่งเมล์เรา ยังส่งมาเลย กลายเป็นเมล์เรา เราไม่มีสิทธิ์บอก) ขออนุญาต จขกท. พูดคุยกันในกระทู้หน่อยนะ แบบว่ากรณีของคุณ ถกกันไปแล้ว เดี๋ยวกลับมาค่ะ ไปหาฟันหมอ เอ๊ย หมอฟันก่อน **แก้ไขคำผิด** แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 18:21:20 จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 18:17:07

ความคิดเห็นที่ 22 ผมถึงได้บอกว่าเราต้องเรียนรู้ว่าแต่ละคนเป็นยังไง แล้วก็เลือกวิธีการให้เหมาะสมกับแต่ละคน บางคนพูดแรงไม่ได้ กระทบกระเทือนจิตใจ ก็ค่อยๆ พูด และไม่ต้องไปหวังผลอะไรมาก เพราะคนที่เค้าขี้ใจน้อย โอกาสที่จะกระทบกระเทือนก็มีมากกว่าชาวบ้านเค้าอยุ่แล้ว แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องโดนคนรอบข้างหาว่าใจดำพูดจาทำร้ายจิตใจ แต่บางคนก็พูดธรรมดาไม่เข้าใจ ต้องกระทุ้งแรงๆ ตามด้วยศอก เข่า ส้นเท้า หลังหวน ดีๆ ถึงจะรู้ตัว แต่การที่จะทำขนาดนี้ก็ต้องรู้ว่าคนๆ นี้พูดแรงได้ ก็ค่อยพูด บางคนก็ประเภท ดื้อตาใส อารยะขัดขืน คือ พูดอะไรก็รู้ ก็เข้าใจหมดแหละ ว่าอะไรก็ว่าได้ ไม่โกรธ แต่ไม่ทำมีไรปะ 555 กลุ่มนี้จะรับมือยากที่สุด เพราะไม่รู้จะรำท่าไหนกะมัน 555 แต่คนเราก็จะมีเรื่องดื้อตาใสแบบนี้กันทุกคน ผมเองก็เป็น บางทีเพื่อนก็บ่นให้กับความขี้เกียจของผม คำตอบที่จะได้จากผมคือ "ยังไม่ชินอีกเหรอเนี่ย บ่นแล้วได้อะไรขึ้นมามั้ย บ่นแล้วทำมั้ย ก็ไม่ทำ แล้วจะบ่นทำไมเนี่ย ทำใจให้ชินได้แล้วเจ๊... บ่นไปก็เท่านั้นแหละ ไม่ทำ มีไรปะ"  555 จากคุณ : ดอส เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 20:17:06

ความคิดเห็นที่ 23 มาชื่นชมน้องเจ้าของกระทู้ค่ะ ที่ไม่โกรธและเข้าใจพี่ๆทุกคนที่เห็นต่างว่าเป็นการพูดคุยด้วยความหวังดี น้องน่ารักมากเลยค่ะ จากคุณ : wheel of forture เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 21:11:26 A:68.127.158.86 X: TicketID:048459

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบจัง! "อารยะขัดขืน" กับ "ดื้อตาใส"... ดีค่ะที่ จขกท. เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆ แล้วเอากลับไปพิจารณา... การทำงานร่วมกับคนอื่นนั้น เวลามีปัญหาอย่าพยายามหาว่า "ใครผิด ใครถูก" แต่ควรดูที่ต้นตอของปัญหาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำงานเป็นกลุ่มต้องใช้ความคิดเห็นของกลุ่ม อย่าใช้ความคิดเห็นหรืออารมณ์ของตัวเองตัดสิน... ควรตั้งกฎเกณฑ์ของกลุ่มให้ชัดเจน แล้วก็มี หัวหน้ากลุ่ม(เพื่อตามงาน)...รู้จักนิสัยของแต่ละคนในกลุ่ม...แล้วให้งานทำตามความถนัด... ทำงานกลุ่มยังเล็กน้อยค่ะ ในชีวิตการทำงานจริงๆ มีอะไรมากมายกว่านั้น...ฝึกตั้งแต่ตอนนี้แหละค่ะดีแล้ว... จากคุณ : BlackmagicW เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 23:24:14

ความคิดเห็นที่ 25 อ้างถึง คห. 21 ......ที่เราว่ารู้สึกมันเป็นการกระดิษฐ์ประดอยคำพูด (แน่นอน คำพูดเป็นศิลปะ ก็ต้องประดิษฐ์ประดอย)  เพราะเราไม่ชินไง มันเป็นบุคลิกส่วนตัวของตัวเองค่ะ เหมือนไม่ได้ออกมาจากตัวตนของเรา (ของตัวเองล้วนๆ นะ ไม่เกี่ยวกับคนอื่น) ถ้าจขกทอยากยึดมั่นที่จะพูดอย่างเป็นตัวของตัวเอง ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของคนด้วยค่ะว่าจะมีปฏิกิริยาตอบโต้แบบไหน มันเป็นไปได้ 1 2 3 4 5 ..... ทักษะอีกอย่างในการเป็นคนพูดตรงๆแล้วคนอื่นไม่วีนกลับคือ ต้องรู้จักยอมรับผิดและขอโทษค่ะ อย่างกรณีนี้ถ้าบอกว่า "ช่างมันเถอะ พี่ก็พูดเองว่าไม่ต้องทำก็ได้ ไว้คราวหน้าว่ากันใหม่นะ" หรือจะถามต่อซักนิดว่า "แฟนเป็นยังไงบ้างล่ะ ดีขึ้นรึยัง บลาๆๆๆๆๆ" แบบนี้จะดีกว่าตั้งตาตั้งตาพูดเรื่องที่ผิดพลาดเรื่องเดียวค่ะ ลองหากลยุทธใหม่ดูนะคะ จากคุณ : bunny ball เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 14:17:33

ความคิดเห็นที่ 26 บอกได้ค่ะ แต่ควรมีศิลปะในการพูดจาเสียหน่อย อย่าพูดแบบตั้งแง่ ตัดสินความถูก-ผิด ที่สำคัญ คุณควรมีความคิดที่เป็นระเบียบแต่แรก รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรจากการสนทนา เช่น เขาเสนอจะทำรายงานส่งมาให้ทางเมล แต่คุณบอกไม่เป็นไร ถ้าไม่เป็นอะไรก็ต้องไม่เป็นอะไรจริงๆ ไม่นำมานั่งวิจารณ์วิเคราะห์กันลับหลังอีก ถ้าสงสัยว่าทำไมเขาไม่ส่งมา อาจจะพูดกับเขาสบายๆ ต่อหน้าทุกคนก็ได้ เช่น "เออ แฟนเป็นไงมั่ง วันนั้นพี่ก็รอเมลเรา ไม่รู้ว่าเมลเราหรือเมลพี่มันมีปัญหา ไม่มีเมลอะไรเข้ามาเลย (โทษเทคโนโลยีไว้ก่อน) พูดแบบนี้น้องเขาจะได้อธิบายมา เขาอาจจะบอกว่า พอดีเห็นพี่ว่าไม่เป็นไร แล้วพอดีผมต้องไปโรงพยาบาลด่วน เลยไม่ได้ส่ง พี่รออยู่หรอ ผมขอโทษด้วยนะ คุณก็อาจตอบแบบใจกว้างหน่อยว่า ไม่เป็นไร คราวหน้าก็โทรมาบอกก็ได้ หรือไม่เดี๋ยวพี่โทรหาเนอะ" แค่นี้เรื่องจบแล้ว สบายใจกันทุกฝ่าย มีวิธีแก้ปัญหาสำหรับครั้งต่อไปด้วย เรื่องนี้มันเกิดเพราะใจคุณตัดสินไปแล้วว่าเค้าไม่ดี คราวหน้าเอาใหม่ ใจกว้างเข้าไว้ เพราะมีเหตุผลสำคัญร้อยแปดที่คนเราจะทำอะไรไม่เป๊ะตามที่ตั้งใจ/รับปากเอาไว้ ให้โอกาสเขา้อธิบายก่อน จากคุณ : Sunshine Sonata เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 14:39:05

ความคิดเห็นที่ 27 สรุปคือ อย่ามีอคติ คิดในแง่ดีไว้ก่อน แล้วการพูดตรงจะมีประสิทธิภาพ จากคุณ : Sunshine Sonata เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 54 14:42:39

ความคิดเห็นที่ 28 คห. 25   คะ ......... คห. 21  ดิฉันเองค่ะ ไม่ใช่ จขกท. คือ เรื่องของ จขกท. น่ะเขารับทราบของเขาไปแล้ว แต่พอพูดถึงเรื่องการพูดตรงๆ  ในการรับได้ของคนเราไม่เท่ากัน ดิฉันเลยเล่าความรู้สึกของตัวเองเรื่องการพูดตรงไปด้วยกับคุณดอสค่ะ เพราะบางทีตัวเองก็ชอบพูดตรงๆ ก็มีทั้งคนบอกว่า ธรรมดา และตรงเกินไป นั่นคือมีทั้งรับได้และรับไม่ได้ ก็เลยถือโอกาสผสมโรงไปด้วยเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 54 04:54:17

ความคิดเห็นที่ 29 ดิฉันทำงานกลุ่มกับเพื่อนต่างชาติค่ะ มีคนไทย 2 คนในชั้นค่ะ แต่อยากพัฒนาภาษาเลยไม่ไปรวมกลุ่มกับเขา ในกลุ่มก็จะมีนักเรียนมาจากหลากหลายชาติค่ะ ดิฉันเรียนสายอาชีพค่ะ มีเพื่อนร่วมกลุ่มคนนึงไม่ทำงานค่ะ ไม่สนใจ มาโรงเรียนบ้างไม่มาบ้าง ถึงคราวต้องเสนอรายงานหน้าชั้นเธอก็หายไปดื้อๆ เป็นแบบนี้มาหลายครั้ง ครั้งล่าสุดดิฉันไม่ทนแล้วค่ะ เลยไปปรึกษากับอาจารย์ พอเธอมาโรงเรียนดิฉันก็พูดเลยค่ะ จะว่าต่อว่าก็ไม่เชิง และขอเชิญเธอให้ไปหากลุ่มใหม่อยู่ค่ะ ไม่ได้ใจร้ายนะคะ แต่เธอเห็นแก่ตัวมากๆค่ะ เพลียอย่างแรงค่ะ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 54 05:07:05