ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากค่ะ คุณ JidNince และคุณ sapuknik79 ค่าธรรมเนียมแบงค์อ่วมจริงๆค่ะ แค่เปิดบัญชีนี่ก็โดนเก็บค่าธรรมเนียมอีกหลายสิบยูโร จะไปเรียนปริญญาโทค่ะ ก็คงต้องอดทนรอต่อไปค่ะ^^ จากคุณ : whilst g kazu เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 14:15:15

ความคิดเห็นที่ 4 ใจเย็นๆ ค่ะ พี่ไปเรียนมาหลายประเทศเข้าใจดี กฏพวกนี้มันก็มาจากคนที่เข้าไปเยอรมันด้วยวีซ่านักเรียน แต่แล้วก็ไม่ได้ไปเรียนจริงๆ ไงค่ะ ช่วงหลังสถานทูต ( หรือกระทรวงต่างประเทศ) ก็เลยต้องให้ทุกอย่างมันยุ่งยากเข้าไปอีก คนที่จะไแเรียนจริงๆ ก็เลยต้องมาผจญอะไรแบบนี้ พี่จำได้ว่าวันอังคารบ่ายสามารถไปที่สถานทูตนัดวันได้ ลองเช็คในเว็ปดูค่ะ จากคุณ : Pimienta เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 15:13:46

ความคิดเห็นที่ 5 สมัยนี้ขอวีซ่านร.เยอรมันยากจัง เห็นมีคนมีปัญหากันเยอะเรื่องเปิดบัญชีที่เยอรมัน อย่างกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H10882959/H10882959.html น้องที่เรารู้จักก็กำลังเจอปัญหานี้ค่ะ มหาวิทยาลัยตอบรับมาแล้วด้วย แต่พอไปยื่นวีซ่าเจ้าหน้าที่กลับบอกว่าต้องใช้ Sperrkonto ในเยอรมัน ทั้ง ๆ ที่ในเว็บสถานทูตในส่วนที่เป็นภาษาไทยไม่ได้บอกว่า "ต้องใช้" Sperrkonto แต่ในหน้าเว็บรายละเอียดเกี่ยวกับวีซ่านักเรียนส่วนที่เป็นภาษาเยอรมัน (http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/3243106/Daten/1498186/Visa_Studenten_Merkblatt.pdf) กลับระบุอย่างชัดเจนว่าเอกสารด้านการเงินที่จำเป็นต้องใช้คือ - durch die Einrichtung eines Sperrkontos in Deutschland über den Betrag von 7.908,- Euro (Link Deutsche Bank) sowie Glaubhaftmachung (z.B. durch Einkommensnachweis der Eltern), dass die Finanzierung auch über das erste Studienjahr hinaus gesichert ist (Sperrkonto ในเยอรมนี เป็นจำนวนเงิน 7908 ยูโร และหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่ามีเงินเพียงพอสำหรับการเรียนในปีต่อไป เช่น เอกสารแสดงรายได้ของผู้ปกครอง) oder (หรือ) - durch eine förmliche Verpflichtungserklärung gemäß §§ 66, 68 AufenthG, abgegeben von einem in Deutschland wohnenden Sponsor. Diese kann in der Regel bei Ausländerbehörden oder Meldeämtern in Deutschland abgegeben werden. Die Verpflichtungserklärung muss für die gesamte Studienzeit geleistet werden. (Verpflichtungserklärung หรือเอกสารรับรองทางการเงินจากสปอนเซอร์ในเยอรมนีตามมาตรา 66, 68 ของกฎหมายการพำนัก โดยให้ยื่นเอกสารนี้ได้ที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหรือ Registration Office ในเยอรมนี Verpflichtungserklärung จะต้องครอบคลุมระยะเวลาทั้งหมดของการศึกษา) oder(หรือ) - Stipendium aus öffentlichen Mitteln (ทุนการศึกษาจาก public funds) นอกจากนี้ที่เว็บหน้านี้ยังระบุว่า ถ้าโปรแกรมที่ต้องการสมัครมีการเรียนการสอนเป็นภาษาเยอรมัน ผู้สมัครต้องแสดงหลักฐานความรู้ภาษาในระดับ B1 ในการยื่นขอวีซ่าหรือแสดงผลสอบ: - DSH - TestDaF - Abitur ของเยอรมัน - Deutsches Sprachdiplom Stufe II der KMK (DSD-II) - ZOP - KDS - GDS หากโปรแกรมที่ต้องการสมัครเรียนมีการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ก็ต้องแสดงผลสอบ TOEFL หรือ IELTS ด้วย เราคิดว่าที่กฎพวกนี้ออกมาก็เพราะมีคนที่ไปด้วยวีซ่านักเรียนแต่ไปแอบทำงานเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือไม่ได้ไปเรียนจริง ๆ หลายคนเลิกเรียนกลางคันแล้วไปทำงานนวดหรือร้านอาหาร ถ้าจขกท.มีปัญหาเรื่องการติดต่อกับธนาคารในเยอรมัน เราสามารถโทร.ติดต่อให้ได้ เพราะตอนนี้อยู่เยอรมัน หรือถ้าคุณอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมอะไรก็หลังไมค์มาได้นะคะ ยินดีช่วยค้นหาให้ เราเคยเป็นนักศึกษาที่นี่ อยู่เยอรมันจนเรียนจบ แต่งงาน สมัยที่เราหาข้อมูลมาเรียนต่อภาษาเยอรมันก็ยังไม่คล่อง ต้องเปิดดิกฯไปกรอกใบสมัครไป ข้อมูลออนไลน์หรือเว็บไซต์นักเรียนไทยก็ยังไม่มี สมัยนั้นคิดว่าขอวีซ่ายากแล้ว ต้องไปสถานทูตอยู่สามสี่ครั้งจนยามหน้าประตูจำหน้าได้ แต่สมัยนี้ขอยากยิ่งกว่าซะอีก แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 54 18:56:24 แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 54 17:19:28 แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 54 17:16:37 จากคุณ : Sonnenschein เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 17:01:41

ความคิดเห็นที่ 6 มีคนเจอปัญหานี้กันเยอะมากครับ ผมก็คนหนึ่งแหละ สู้ๆ ครับ จากคุณ : scarecrowd เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 20:26:37

ความคิดเห็นที่ 7 Sperrkonto คือบัญชีประเภทไหน ห้ามถอนเงินหรือเปล่า เหมือนกับนักฟุตบอลถูกใบแดงห้ามลงแข่งในนัดต่อไป จากคุณ : บอนเนอร์ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 54 22:28:52

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกท่านค่ะ คุณ Pimienta คุณ Sonnenschein คุณ scarecrowd และคุณบอนเนอร์   ตอนนี้พยายามตั้งสติ อดทนรอต่อไปค่ะ (เนื่องจากต้องเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 8 กันยา เป็นเวลากว่าสิบวัน พอคิวยื่นวีซ่าเต็มเลยสติแตก) ได้ระบายแล้ว มีคนให้ข้อมูลและเป็นกำลังใจแบบนี้ อาการดีขึ้นมากเลยค่ะ คุณ scarecrowd วีซ่าเรียบร้อยแล้วหรือยังคะ เราก็แค่หวังว่าทางสถานทูตน่าจะช่วยให้ข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้ในเว็บไซต์ คนที่จะขอวีซ่าต่อไปจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายแบบที่พวกเราเป็น จะได้ไม่ต้องมีใครมาตั้งคำถามถึงบัญชีนี้กันในพันทิพอีก การที่เว็บไซต์บอกถึงหลักฐานทางการเงินว่าใช้อันนี้หรืออีกอันหนึ่งก็ได้  มันทำให้เราเข้าใจว่าเรามีสิทธิที่จะใช้ statement บัญชีในไทยได้  แต่เมื่อมันใช้ไม่ได้ ก็ควรจะระบุให้ชัดไปเลยว่านักเรียนทุนส่วนตัวต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการยืนวีซ่า จะแก้ไขเว็บไซต์หรือแจกเอกสารเป็นข้อมูลก็ควรจะรีบดำเนินการ การโทรไปถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สถานทูตมันยากนะคะ เวลาทำการแค่ช่วงบ่ายไม่กี่ชั่วโมง โทรไปก็ไม่ติด สายไม่ว่าง กดๆอยู่นานมาก พอติดเหมือนมีคนรับ ก็ต้องทนฟังเสียงเทปที่บันทึกว่าต้องการข้อมูลวีซ่าให้ดูในเว็บไซต์ แล้วก็โดนตัดสายอยู่หลายรอบ กว่าจะได้คุย พอถามได้ไม่กีคำ ก็รีบตัดบทบอกว่า โอเคนะคะ แค่นี้นะคะ (เข้าใจค่ะว่างานยุ่งและเหนื่อย) เหตุการณ์แบบนี้มันทำให้การยื่นขอวีซ่าเป็นเรื่องยุ่งยากและมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องโดยไม่จำเป็น เราว่าสถานทูตควรปรับปรุงข้อมูลในเว็บไซต์ให้ถูกต้องที่สุดและอัพเดตอยู่ตลอดเวลา ถ้าข้อมูลในเว็บไซต์สถานทูต rely on ไม่ได้ แล้วจะให้เราไปไขว่คว้าหาข้อมูลที่ไหนกัน คุณบอนเนอร์คะ  sperrkonto เห็นเค้าเรียกเป็นภาษาอังกฤษกันว่า blocked bank account ค่ะ  สามารถถอนเงินได้ไม่เกินจำนวนที่กำหนดในแต่ละเดือน ประมาณเจ็ดร้อยกว่ายูโรต่อเดือนค่ะ  ตามข้อมูลที่คุณ Sonnenschein ได้ให้ไว้ค่ะ  ต้องมีเงินในบัญชีประมาณ 7908 ยูโร  แต่เจ้าหน้าที่สถานทูตบอกให้โอนเข้าไปประมาณ 8000 ยูโร ซึ่งก็มาทราบหลังจากอ่านเอกสารของธนาคารว่ามีค่าธรรมเนียมในการเปิดบัญชีประมาณ 50 ยูโร   ขอบคุณค่ะ จากคุณ : whilst g kazu เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 00:13:36

ความคิดเห็นที่ 9 ผมพยายามอย่างมากเพื่อที่จะหาคำตอบเที่พาดพิงทางสถานทูตน้อยที่สุด ผมก็เจอกรณีเดียวกับคุณเลยครับที่เพิ่งจะรู้ว่าต้องเปิดบัญชี sperrkonto ก่อนถึงจะไปขอวีซ่าได้ แต่ผมทราบเพราะว่าผมไปปรึกษากับทาง DAAD มาก่อน ซึ่งทาง DAAD ก็ให้ข้อมูลที่ดีๆ หลายอย่างเลย (ใครต้องการจะไปศึกษาต่อไปปรึกษากับทาง DAAD ก่อนเลยครับ อยู่ที่ เกอเธ่) ซึ่งทาง DAAD บอกมาว่าตอนนี้ ทางสถานทูตเพิ่งจะเปลี่ยนกฎใหม่เรื่องการขอวีซ่านักเรียนที่จำเป็นจะต้องมี บัญชี sperrkonto มิฉะนั้นทางสถานทูตจะยังไม่รับเรื่องไว้พิจารณา ยกเว้นจะเป็นกรณีพิเศษมากๆ คือไม่ทันไปรายงานตัวหรือโดนตัดสิทธิหากไม่ไปตามเวลาที่กำหนด ทาง DAAD จะรับเรื่องไปคุยกับทางสถานทูตให้ในกรณีดังกล่าว สำหรับตัวผมช้าสุดคือช่วงต้นเดือนตุลาคมที่มีการเปิดเรียนไปแ้ล้ว โดยต้องโอนค่าลงทะเบียนไปก่อนเพื่อให้ไม่โดนตัดสิทธิและพลาดการ Orientation ของทางมหาลัย แต่เนื่องจากว่ายังพอจะทันในส่วนของการขอวีซ่าจึงไม่นับว่าเป็นกรณีพิเศษ (ตกลงว่านักเรียนต้องขอผ่อนผันกับทางมหาลัยเพื่อที่จะไม่เป็นการบีบเร่งดำเนินการของทางสถานทูต) ผมก็ทำตามขั้นตอนมาตลอด รอมาตลอด โทรไปทางสถานทูตบ้างเพื่อขอยืนยันอีกครั้ง กว่าจะโทรติดก็ไม่ใช่ง่ายๆ มาเจอเจ้าหน้าที่ต้อนรับอย่างดีด้วยการทักทายว่า ดูข้อมูลใน Website แ้้ล้วหรือยังค่ะ (ใจจริงอยากสวนกลับมากเลยว่าถ้าอ่านใน Website แล้วเคลียร์คงไม่โทรมาหรอกครับ) ตอนนี้ ทาง DB ตอบกลับมาแ้ล้วเหลือเพียงแค่รอ Statement ครับ คาดว่า 1-2 วันคงจะได้รับทางไม่เกิดผิดพลาดอะไร ซึ่งก็เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้สัปดาห์นึง แต่ที่ไม่ได้คาดการณ์คือคิวของสถานทูตเต็มหมดได้อีกทีอาทิตย์หน้า สรุปแล้วคงพลาด Orientation เช่นเดิม แม้ว่าทาง DB จะเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น (โทรไปตามบ่อยๆ) อยากจะเรียกร้องทางสถานทูตดังนี้ครับ (ไม่รู้เรียกร้องทางนี้จะได้อะไรเหมือนกัน) 1. อยากให้ทางสถานทูตช่วยปรับปรุงข้อมูลใน Website ด่วนเลยหากว่าคุณอ้างอิงข้อมูลในนั้นเป็นหลัก   2. ช่วยหามาตราการในการแก้ไขปัญหาเช่นนี้ด่วน เพราะมีหลายคนเดือดร้อน และเข้าใจว่าปัญหานี้ไม่ได้เพิ่งเกิดเนื่องจากปีที่แล้วพี่ชายผมก็เจอปัญหานี้และไปเรียนช้า 2 อาทิตย์แต่โชคดีว่า 2 อาทิตย์แรกไม่มีเรียน เท่าที่เห็นเหมือนว่าสถานทูตมองว่าปัญหานี้เป็นปัญหาของนักเรียนและทางมหาลัยเอง จึงยังไม่มีมาตราการมารองรับปัญหาในส่วนนี้ จากคุณ : scarecrowd เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 09:40:09

ความคิดเห็นที่ 10 เอาใจช่วยค่ะคุณ scarecrowd ขอให้ได้วีซ่าเร็วๆค่ะ ดีจังค่ะที่ DB ตอบกลับมาเร็ว ของเราครบกำหนด3อาทิตย์ศุกร์นี้แล้ว ตอนนี้ยังเงียบอยู่เลย  เรานึกว่า DB เค้าจะไม่ช่วยเร่งดำเนินการให้ซะอีก เพราะเห้นเเจ้งในเมล์ว่าห้ามโทรตามห้ามเมล์ถาม เราเลยปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รออย่างเดียว เห้นด้วยเลยค่ะกับข้อเรียกร้อง หวังว่าจะมีเจ้าหน้าที่ผ่านมาแถวนี้บ้าง รู้สึกอยู่เสมอค่ะว่าสถานทูตวางตัวเองอยู่ในที่ๆเรารู้สึกว่าออกจะใจร้ายไปสักหน่อย มองว่าปัญหาเหล่านี้เป้นปัญหาที่นักเรียนต้องหาทางจัดการและแก้ปัญหาเอง เรื่องแบงค์ก็เป็นเรื่องระหว่างเรากับแบงค์ นักเรียนก็วิ่งกันหัวปั่นล่ะค่ะ กว่าอะไรๆจะเรียบร้อย สุดท้ายก็ต้องกลับมาบอกตัวเองว่า ช่วยไม่ได้นี่ อยากจะไปเรียนที่นั่นเอง หาเรื่องเองแท้ๆ ปัญหานี้แก้ไขได้ แต่ไม่รู้จะได้รับการแก้ไขหรือเปล่านะคะ ^^ จากคุณ : whilst g kazu เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 10:19:16

ความคิดเห็นที่ 11 เข้าใจความรู้สึก และเป็นกำลังใจให้นะคะ รบกับสถานทูตในประเทศไทยเป็นอะไรที่เหนื่อยทั้งกายใจจริงๆ ค่ะ เรื่องข้อเรียกร้อง เราค่อนข้างเชื่อว่าเขาคงไม่ทำอะไรให้ หรือถึงทำ ถึงตอนนั้นพวกเราอาจจะจบดอกเตอร์กันไปหมดแล้วก็ได้ -.- ก็ไม่รู้ว่ามองโลกในแง่ร้ายไปหรือเปล่า แต่ประสบการณ์กับสถานทูตของเราก็ไม่ได้สวยงามนัก แม้จะไม่ถึงกับเลวร้าย แต่ความรู้สึกก็คงคล้ายๆ กันคือ ทำไมไม่บอกให้ชัดเจนว่าต้องเตรียมอะไร ทำอะไรบ้าง ตอนเราขอวีซ่า หลังจากอ่านข้อมูลในเว็บก็ไปที่สถานทูต เพื่อขอแบบฟอร์มเองเลย เผื่อจะได้ถามข้อมูลที่ยังไม่ค่อยเคลียร์ด้วย แต่ก็ได้มาแค่แบบฟอร์มกับใบรายละเอียดเอกสารที่ต้องใช้ ซึ่งก็ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มจากในเว็บเลย แล้วก็ไปมีปัญหาตอนยื่นเหมือนกันค่ะ สถานทูตไม่ยอมรับคำร้อง กว่าจะได้ยื่นก็เล่นเอาเหนื่อยน่าดู ขอให้จขกท.และทุกคนที่กำลังยื่นขอวีซ่า ได้วีซ่าเร็วๆ นะคะ ^ ^ จากคุณ : Liebestraum เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 10:32:46

ความคิดเห็นที่ 12 มีปัญหามาขอแชร์เหมือนกันค่ะ คือตอนนี้ตอนนี้กลับมาเมืองไทยแล้ว มีบัญชีของ DB แบบนักเรียนเปิดไว้ที่เยอรมัน มีเงินคงเหลือ 1200 ออยโร แต่ปัญหาคือไม่สามารถปิดบัญชีได้ เพราะทาง DB ต้องการจดหมายยืนยันจากสถานทูต ว่าเรากลับมาเมืองไทยแล้ว แล้วส่งไปทางเยอรมันเค้าถึงจะปิดบัญชีให้ โทรไปสถานทูตจนท.ก็ไม่อยากคุยแล้วก็บอกว่าไม่มีให้ ตอนนี้งงเต๊ก เหวอ ไม่รู้จะทำไง เสียดายเงินค่ะ จากคุณ : isisis เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 11:19:40

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ทราบว่า blocked account ที่พูดถึงกัน นี้ ถ้าเราฝากเงินเกิน blocked amount ไป มากๆ อย่างเช่นตอนนี้ผมมีอยู่ในบัญชี 8000 ยูโร แล้วฝากเพิ่มไปอีกสัก 10000 ยูโร มันจะทำให้ผม ถอนเงินต่อเดือนได้มากขึ้นหรือป่าว หรือยังไงอ่ะครับ เพราะกลัวใช้ไม่พอ จากคุณ : อยากรู้ จึงมาถาม หะๆ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 12:28:25 A:124.120.34.16 X: TicketID:304880

ความคิดเห็นที่ 15 rep.14 ไม่ช่วยอะไรค่ะ ถ้าอยากถอนต่อเดือนมากขึ้น ต้องเปิดบัญชีแยกต่างหาก จริงๆ เอาง่ายที่สุดก็คือเปิดบัญชีไทย(แนะนำว่าเป็นชื่อคนอื่นในครอบครัว) แล้วเอาบัตรไปกดที่นู่น ค่ากดครั้งละ 100 บาท ถูกกว่าค่ากดต่างธนาคารในเยอรมันเยอะ เรตก็ได้ตามเรตธนาคารค่ะ จากคุณ : canon เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 14:42:51 A:217.91.130.94 X: TicketID:253087

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณค่ะทุกท่าน คุณ Liebestraum- ขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจ ^_^ คุณ isisis- ขอให้ได้เงินคืนไวๆนะคะ น่าจะคุยกับทาง DB ว่าใช้เอกสารอื่นได้หรือไม่ เพราะถ้าจะยืนยันการกลับมาไทยก็น่าจะมีหลักฐานอื่นๆให้แสดงได้อีกนะคะ คุณ อยากรู้ จึงมาถาม หะๆ  - คงได้คำตอบแล้วนะคะ คุณ canon -ขอบคุณค่ะ คุณ ขอโทษถ้าไม่พอใจ - เคยคิดเหมือนกันค่ะว่า ถ้าไม่อยากให้เข้าประเทศ ก็ควรจะออกนโยบายกับสถาบันการศึกษาในประเทศของตนไปเลยว่า จะให้รับยังไง จำนวนเท่าไร หรือไม่ให้รับนักเรียนต่างชาติไปเลย เพราะนักเรียนกว่าจะมาถึงจุดที่ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัย ก็ต้องใช้เวลาและฝ่าฟันอะไรมาพอสมควร และในกรณีนี้หน่วยงานส่งเสริมการศึกษา วัฒนธรรมของประเทศก็คงไม่จำเป็นจะต้องมีมั้งคะ ถ้าคิดจะ "กีดกันชาวต่างชาติมากขึ้นทุกๆ ด้าน" ทราบค่ะว่าไม่มีใครง้อให้ไปเรียน แต่เราในฐานะของคนที่ทำอะไรสุจริตอย่างที่สุด ก็บ่นและระบาย  เพราะเหนื่อยใจและก็คิดว่ามันสามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้น่ะค่ะ และก็หวังว่าข้อมูลที่ได้แลกเปลี่ยนกันในกระทู้ น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ต้องการจะขอวีซ่านักเรียนเยอรมันในรุ่นต่อไปได้บ้างไม่มากก็น้อย เห็นสถานทูตเยอรมันที่ประเทศอื่นเค้าก็สามารถให้ข้อมูลเรื่อง sperrkonto เป็นภาษาอังกฤษไว้ในเว็บไซต์อย่างชัดเจน เสิร์ชกูเกิลก็เจอ ก็เลยไม่เข้าใจว่า ทำไมเรื่องนี้มันถึงได้ยุ่งยากนักสำหรับนักเรียนไทยที่จะไปเรียนเยอรมัน ความจริงเรื่องที่เราบ่นนี่ มันอยู่เเค่ขั้นตอนการเตรียมและยื่นเอกสาร กับระยะเวลาที่จำกัดเท่านั้น ก็ไม่ได้รู้สึกไปถึงการกีดกันไม่ให้เข้าประเทศอะไรหรอกนะคะ เพราะส่วนใหญ่ถ้ายื่นเอกสารครบก็เห็นได้วีซ่ากันมาทั้งนั้น ไปสถานทูตมาแล้ว 4 ครั้ง ตอนนี้ก้เข้าใจเจ้าหน้าที่สถานทูตมากขึ้น และรู้แล้วว่าเราควรวางตนเองอยู่ตรงไหน ...let it be จากคุณ : whilst g kazu เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 17:21:19

ความคิดเห็นที่ 19 วันนี้ไปนัดเวลาขอวีซ่าที่สถานทูตมาเก็นอีกกระทู้หนึ่งบอกว่าเป็นไปได้ว่าจะเร็วกว่า Call Center เลยไปเจอมาอีกเคสหนึ่ง ทางมหาลัยเพิ่งตอบรับมาเมื่อวาน โดยจะเปิดเรียนในวันที่ 12 กันยา แต่จองกับ Call Center ก็ได้วันที่ 12 แ้ล้วเลยมาคุยโดยตรง ทางสถานทูตไม่ได้ช่วยอะไร ได้แต่บอกให้ไปจองกับทาง Call Center เพราะคิวของเค้าที่มีว่างอีกทีวันที่ 28 ได้ฟังแบบนี้แล้วผมเดินกลับเลยครับ ของเค้าด่วนกว่ามากยังไม่มีวี่แววจะสนใจเลย จากคุณ : scarecrowd เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 20:52:11

ความคิดเห็นที่ 20 คุณscarecrowd คะ เราไปมาเหมือนกันเลยค่ะ น่าจะเดินสวนกันบ้างนะคะ อ่านแล้วต้องหัวเราะ ฮ่า ฮ่า กับตัวเองเลย (การนัดคิวนี้มันสุดยอดมาก จากที่ได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองมาวันนี้)  เห็นใจน้องเค้ามากเลย ไม่รู้จะไปไฟท์ทางอื่นได้อีกมั๊ย   เราก็ได้ยินมาเหมือนกันว่า ถ้าไปนัดด้วยตัวเองมันคือกรณีเร่งด่วน พี้รปภ.ข้างหน้ายังถามเลยว่ามานัดกรณีเร่งด่วนใช่มั๊ย เข้าไปยื่นต่อแถวได้ยินเเว่วๆว่า 28 กันยา ก็ยังคิดว่า ตัวเองหูฝาด หรือว่าเค้าอาจเป็นคิววีซ่าอื่นที่ไม่ใช่วีซ่านักเรียนมั้ง ตอนนี้งงค่ะว่า นัดกรณีเร่งด่วนนี่มันมีอยู่จริงมั๊ย และมันคือกรณีไหน เพราะเจ้าหน้าที่พูดว่ามีคิววันแรกวันที่ 28 โดยยังไม่ฟังเหตุผลด้วยซ้ำ อารมณ์เดียวกันค่ะ พอไปเจอคนอื่นๆ บางคนหนักกว่าเรา ต้องเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ภายในเวลาไม่กี่วินาที ก็เห็นและเข้าใจอะไรหลายๆอย่างค่ะ บอกตัวเองเมื่อกลับมาที่ทำงานเลยว่า let it be  และโทรบอกเพื่อนว่า ที่นี่เค้า Amazing จริงๆนะ ไม่อยากไปเรียนแล้วล่ะ 555 ไม่เครียดแล้วค่ะ ^o^ คุณ scarecrowd  ยังไงก็ขอให้ได้วีซ่าไวๆนะคะ จากคุณ : whilst g kazu เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 01:17:15

ความคิดเห็นที่ 21 ปกติแล้วจะไม่ได้ตอบกระทู้เกี่ยวกับกฏระเบียบต่างๆ เนื่องจากผู้ที่ให้คำตอบได้อย่างถูกต้องควรเป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้น   ในกรณีนี้อย่างที่คุณ scarecrowd บอกไว้ใน คห 9 แล้วว่า   องก์กรที่ควรจะติดต่อให้คำตอบและความช่วยเหลือที่ดีที่สุดน่าจะเป็น DAAD  หรือไม่อีกทีก็ สนทย    นอกจากนั้น  จขกท ก็ไม่ได้ต้องการขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด   เพียงแต่น้องการแชร์ประสบการณ์และระบายความขุ่นข้องที่ทุกอย่างดูมีอุปสรรคไปหมด มีเรื่องจะบอกเล่าแลกเปลี่ยนในกรณีที่คล้ายๆ กัน    แต่ข้อมูลและการปฏิบัติแตกต่างกัน นักศึกษาไทยคนหนึ่ง (หญิง) ต้องการมาเรียนต่อปริญญาโทบริหารธุรกิจที่เยอรมนีโดยทุนส่วนตัว    ทำงานโรงแรมในเมืองไทยมาแล้ว 3 ปี    ก่อนมาได้ติดต่อเพื่อนซึ่งเป็นเด็กไทย (หญิง) ที่ไปเติบโตในเยอรมนีเรียนจบมัธยมปลายหรือที่เรียกกันว่า Abitur ที่นั่นและเรียนวิศวไฟฟ้าปริญญาโทอยู่ในมหาลัย    เพื่อนคนนี้จึงเป็นผู้ดำเนินการติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในเยอรมนีให้    ทุกอย่างดำเนินการไปตามขั้นตอนไม่ติดขัดและเรียบร้อยกินเวลาทั้งสิ้นราว 2 เดือน    ปัจจุบันนักศึกษาไทยคนนี้ก็เข้ามาอยู่ในเยอรมนีแล้ว (Hessen)  และกำลังจะเริ่มเรียนในเดือนกันยายนนี้   มีข้อมูลที่แตกต่างอยู่  3-4  เรื่องคือ 1)    การเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมในการรักษาบัญชีนั้น   ในกรณีที่เป็นนักศึกษาจะเสียน้อยคือ 1 ยูโรต่อเดือน   บางธนาคารไม่เก็บเลย   อย่างที่นักศึกษาคนนี้ใช้อยู่คือ ของ Deutsche Bank และ Sparkasse Darmstadt   ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเลย 2)  คำถามของ คห 14   เรื่องถอนเงินเกิน 700 ยูโรต่อเดือนใน Sperrkonto นั้นสามารถทำได้   ถ้าฝากเงินไว้เกิน  8000 ยูโร    เงื่อนไขมีเพียงว่าจะต้องมีจำนวนเงินเพียงพอให้ถอนได้  700 ยูโรภายในเวลา 1 ปีเท่านั้น    ถ้าเจ้าของบัญชีฝากไว้  10,000 ยูโรก็ถอนเกิน  700 ยูโรได้  ไม่มีปัญหา    หรือ  จะเปิดบัญชี Transactional account  (เยอรมันเรียกว่า Girokonto) ควบคู่กันไปด้วยก็เป็นการแก้ปัญหาและสะดวกกับการใช้จ่ายประจำวัน    ที่ปฏิบัติอยู่ก็เป็นในรูปแบบนี้ 3)  นักศึกษาคนนี้ได้วีซ่านักเรียน 3 เดือนจากเมืองไทยโดยไม่ต้องทำ Sperrkonto กับ Deutsche Bank ในเมืองไทย   แต่ไปเปิดภายหลังจากมาถึงเยอรมนีแล้ว  กับ  Deutsche Bank Darmstadt   โดยได้รับหนังสือเรียกตัวไปต่อวีซ่าจาก Ausländerbehörde  (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง)  พร้อมทั้งออกหนังสือร้องขอไปยังธนาคารให้ทำการเปิดบัญชี Sperrkonto 4)  การที่ จขกท หรือคนอื่นๆ ขอให้ทางการเยอรมันแจ้งระเบียบการให้เป็นที่ชัดเจนนั้นย่อมทำไม่ได้   เนื่องจากกฏระเบียบของแต่ละรัฐทั้ง 16  รัฐไม่เหมือนกัน  ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเข้าไปอยู่รัฐไหน    อำนาจในการติดสินใจในการให้วีซ่าไม่ได้อยู่กับสถาณฑูต  แต่อยู่กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกฏระเบียบของรัฐนั้นๆ ฉะนั้นที่  คห 16  บอกว่าประเทศในยุโรปกีดกันการไปเรียนของนักศึกษาต่างชาติเป็นแค่การสันนิษฐาน  ไม่ใช่ข้อเท็จจริง   อาจเป็นความคิดของคนเยอรมันหัวเก่า   จำนวนนักศึกษาต่างชาติในเยอรมนีมีเพิ่มขึ้นทุกปีและปัจจุบันก็เก็บค่าเล่าเรียนแพงมากทำรายได้    ถ้าจะเข้มงวดในการให้วิซ่านักเรียนมากขึ้นก็น่าจะมาจากการเข้าไปแล้วหลีกเลี่ยงกฏหมาย   แอบทำงาน  ฯลฯ  เสียมากกว่า ความรู้สึกถูกกีดกันของคนต่างชาติจะมีในหมู่ของคนที่ไม่ qualified    และศึกษามาในสายที่ไม่เป็นที่ต้องการในตลาด   หรือแม้แต่ในสายงานที่คนเยอรมันเองก็มีแข่งขันอยู่แล้วมากมาย   แต่ถ้าเป็นสายงานทางด้านเทคนิคเทคโนโลยี่  หรือ   IT  แล้ว   โอกาสได้งานของคนต่างชาติก็ดีมาก 5)  คำถามของ คห  12   เมื่อเป็นเช่นนั้นคุณควรจะกลับไปติดต่อกับธนาคารอีกครั้ง   จริงๆ แล้วสถาณฑูตไม่ควรจะเกี่ยวข้องในกรณีนี้   คุณน่าจะได้รับหลักฐานการคัดชื่อออกจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมากกว่า    แต่ยังไม่เคยมีประสบการณ์นี้โดยตรง   อย่างไรก็ตามคุณต้องสามารถปิดบัญชีได้แน่นอน   เงินยังมีเหลือมากมาย แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 54 04:08:12 จากคุณ : ฺBagheera (Bagheera) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 03:30:46

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณค่ะ คุณBagheera (Bagheera) สำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ ^o^ ขอชี้แจงนิดเดียวค่ะว่า ข้อมูลที่เราอยากได้จากสถานทูตอย่างชัดเจน หลังจากที่บ่นมายาวนาน คือ รายละเอียดของเอกสารทางการเงินที่สถานทูตต้องการจากนักเรียนทุนส่วนตัวที่จะไปเรียนต่อ ความชัดเจนที่ต้องการ คือ ถ้าจะต้องการให้ยื่น sperrkonto เท่านั้น โดยไม่รับ statement ของบัญชีในไทย ก็ควรบอกให้ชัดเจนว่า "it's a must" (เพราะเคยโทรถาม เราก็ยังแย้งว่าเห็นในเว็บเขียนว่า ใช้บัญชีนี้ "หรือ"  บัญชีนี้ เค้าบอกว่าข้อมูลในเว็บผิด ยังไม่ได้แก้) แค่จุดเดียวเลยค่ะ แค่บอกว่า ต้องใช้ sperrkonto หรือบอกอีเมล์ให้ติดต่อ DB มา ซึ่งมีอีเมล์เดียวที่ใช้สำหรับนักเรียนต่างชาติที่จะขอเปิดบัญชีในกรณีนี้ หลังจากนั้นมันก็เป็นเรื่องที่นักเรียนทุกคนต้องไปดำเนินการต่อเองอยู่แล้ว ไม่ได้คิดจะต่อว่าเจ้าหน้าที่ให้ขุ่นข้องใจอะไรหรอกนะคะ แต่แค่มองว่า ถ้าทำแค่นี้ อะไรๆมันจะได้ไม่ต้องวุ่นวาย มันน่าจะดีกับทุกฝ่ายนะคะ ซึ่งยังไม่ได้ก้าวล่วงไปถึงประเด็นการจะได้รับการอนุมัติวีซ่าหรือไม่ เพราะเข้าใจค่ะว่าเป็นเรื่องของทางการจริงๆ และตามข้อมูลพื้นฐานที่ได้รับมาจากการหาข้อมูลทั้งในเว็บไซต์ของ DAAD และเว็บไซต์อื่น ก็เป็นที่เข้าใจได้ค่ะว่า "กฏระเบียบของแต่ละรัฐทั้ง 16  รัฐไม่เหมือนกัน" การอนุมัติวีซ่าเป็นดุลยพินิจของแต่ละประเทศอยู่แล้ว กฎระเบียบมีอย่างไรก็พร้อมจะปฏิบัติตามค่ะ เอกสารต้องการอะไรก็พร้อมจะหาให้ ขอแค่บอกให้ชัดเจนเท่านั้นค่ะ มันจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาคลำทางกันนานสองนาน กว่าจะเข้าใจอะไรได้กระจ่าง จากคุณ : whilst g kazu เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 10:38:48

ความคิดเห็นที่ 23 การ  update ข้อมูลโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้องใช้กับสาธารณะคนหมู่มากเป็นสิ่งที่จำเป็นและถูกต้อง   การร้องเรียนหรือแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบรับทราบก็ถูกต้องเช่นกัน   แต่ในความเป็นจริงปัญหานี้เกิดขึ้นเสมอและมีเกิดขึ้นให้เห็นอยู่เป็นประจำทุกที่ในทุกประเทศแม้แต่ประเทศที่ได้ชื่อว่าเจริญพัฒนาแล้ว   ที่สำคัญคืออยู่นอกเหนืออำนาจการจัดการของเรา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นกฏระเบียบปฏิบัติและวัฒนธรรม ประเพณี  ของประเทศอื่น    ดังนั้น  สิ่งจำเป็นที่สุดคือ  ต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับสภาพปัญหานี้โดยการวางแผนการทำงานให้รอบคอบและเผื่อเวลาไว้ล่วงหน้าแต่เนิ่่นๆ ให้พอเพียง   ก็จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้ดี จากคุณ : ฺBagheera (Bagheera) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 13:03:59

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่เกี่ยวกับเรื่องจะมาอยู่รัฐไหนเลย สถานทูตในไทยทำพลาดเองก็ยอมรับเสียบ้าง ไม่ต้องมาออกรับแทนกันขนาดนั้นก็ได้ คุยกับเพื่อนๆ ที่จะมาใหม่ทุกรัฐก็เจอปัญหาเดียวกันนี้ การออกวีซ่าชั้นแรกเป็นความรับผิดชอบของสถานทูตเยอรมันในไทยที่จะพิจารณา ขั้นตอนการต่อวีซ่าที่นี่ต่างหากที่เป็นไปได้ว่าอาจจะตามดุลยพินิจของแต่ละรัฐ (ที่จริงเรื่องแบบนี้น่าจะเหมือนกันทั่วประเทศนะ มันเป็นกฎหมายจากรัฐบาลกลางไม่ใช่หรอ) เห็นด้วยว่าเป็นมาตรการกึ่งๆ กีดกันอย่างหนึ่ง ถ้าอยากให้เท่าเทียมจริงก็ควรกำหนดกฎเดียวกันนี้กับนักศึกษาต่างชาติทุกชาติไม่ใช่เพียงบางชาติ นักศึกษาอเมริกัน อังกฤษ แคนาดา จะเจอกฎแบบนี้ไหมล่ะ ถ้าเจอเหมือนกันถึงจะพูดได้ว่าไม่กีดกัน ปีก่อนๆ ไม่เคยมีปัญหาเพราะว่ามันเป็นไปตามที่เขียนในเวบไซต์ บอกว่าใช้หลักฐานบัญชีไทย หรือเปิดบัญชีที่เยอรมัน ก็ได้ทั้งสองแบบ คนที่ใช้หลักฐานบัญชีไทยถ้ามีจำนวนเงินตามที่ต้องการก็วีซ่าผ่านได้ แต่ปีนี้มันไม่ใช่ ถ้าจะบอกว่าข้อมูลในเวบเก่าแล้วล่ะก็ เวบไซต์นี่มันแก้ยากตรงไหน ปกติหน่วยงานราชการในเยอรมันขยันอัพเดตเวบไซต์กันจะตาย ทำไมไม่ทำงานให้ได้ตามมาตรฐานประเทศตัวเองบ้าง ปล. ที่แนะนำให้เปิดบัญชีไทยสำหรับเงินใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มเติมแทนที่จะโอนเข้าบัญชีเยอรมัน เพราะเรื่องค่าเงินด้วย ปีที่เรามา ตอนเอาเงินก้อนเข้าบัญชีคิดที่อัตรา 49 บาทต่อยูโร อยู่ๆ ไปมันก็ลดลงเรื่อยๆ ถึง 43 บาท เห็นแบบนี้แล้วเสียดาย -*- จากคุณ : canon เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 16:11:15 A:217.91.130.94 X: TicketID:253087

ความคิดเห็นที่ 25 คห  24   ทำใจให้สงบเสียก่อน   และใช้เหตุผลในการตอบแทนที่จะใข้อารมณ์     ไหงถึงออกนอกคลองกลายเป็นการออกรับแทนสถานฑูตไปได้? ที่บอกว่าคุยกับเพื่อนๆ แล้วเจอปัญหานี้ทุกรัฐ   แล้วทำไมไม่เกิดใน Hessen?   เด็กไทยคนนี้ไม่ต้องทำ Sperrkonto ก่อนยื่นขอวีซ่าที่สถาณฑูตไทย   แต่กลับไปเปิดบัญชีตอนต่อวีซ่าที่เยอรมนีได้ คุณสับสนเรื่องมาตรการการป้องกันเพื่อความปลอดภัยของแต่ละประเทศกับเรื่องกีดกันระหว่างชนชาติอย่างชัดเจน   ยกตัวอย่าง:-   ทำไมคนไทยต้องขอวีซ่าเมื่อจะไปประเทศตะวันตกที่พัฒนาแล้วทุกประเทศ?  ในขณะที่ประชาชนในประเทศตะวันตกเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องขอวิซ่าแต่ได้สิทธิ์เข้าเมืองเลยภายในกำหนด 1 เดือน  ทำไมประเทศไทยถึงต้องยอมรับเงื่อนไขที่ตนเองเสียเปรียบเช่นนั้น?     ส่วนในประเทศตะวันตกด้วยกันก็มีข้อตกลงระหว่างกัน  อนุญาตให้ประชาชนเข้าประเทศต่างๆ ซึ่งกันและกันได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า    แบบนี้เรียกว่ากีดกันหรือไม่? เพราะพฤติกรรมทุจริตคดโกงของประชาชนจากประเทศด้อยพัฒนาแล้วมีสถิติสูงมาก  ไม่ใช่แต่เฉพาะประพฤติทุจริตในประเทศตนเองจนไม่ก้าวหน้า    แต่เมื่อไปอยุ่ประเทศอื่นก็ยังไปก่อเรื่องเป็นภาระของสังคม    ทุกประเทศจึงมีสิทธิ์จะปกป้องและออกมาตรการมาป้องกันตัวเอง    และไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะในเยอรมนีแต่เป็นมาตรการป้องกันของทุกประเทศพัฒนาแล้วทุกประเทศ เช่นเดียวกับการออกกฏระเบียในเรื่องการออกวีซ่าที่ตั้งเงื่อนไขปฏิบัติไม่เหมือนกันต่อคนของทุกประเทศ ก่อนที่ไปโยนความผิดกล่าวโทษว่าถูกกีดกัน   ลองตั้งสติพิจารณาสาเหตุที่มาของปัญหาและยอมรับความจริงที่คนชาติเดียวกันก่อขึ้น   ทำให้ทุกคนต้องมารับผลของการกระทำของเพื่อนร่วมชาติไปด้วย และการที่คนต่างชาติจากประเทศด้อยพัฒนานิยมไปเรียนยุโรปกันมากขึ้นเพราะอะไร   ทั้งๆ ที่ต้องไปเริ่มต้นอยู่กับภาษาที่สาม?  สาเหตุหลักๆ ก็เพราะค่าเล่าเรียนที่เก็บกับนักศึกษาต่างชาติถูกอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเล่าเรียนที่เรียกเก็บในอเมริกา  อังกฤษ  ออสเตรเลีย  คานาดา  หรือ นิวซีแลนด์   ถ้าจะกีดกันจริงๆ  รัฐบาลจะรับภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษาให้กับนักศีกษาต่างชาติทำไม? ที่ว่าเว๊บไซด์ของหน่วยงานราชการเยอรมันขยัน update ข้อมูลนั้นก็ไม่เป็นจริงเสมอไป   ในทางตรงกันข้ามหน่วยงานเอกชนเสียอีกที่ทำงานได้รวดเร็วมากกว่า    หน่วยงานราชการเยอรมันก็มีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับเอกชน   โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ update กฏระเบียบที่เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ล่าสุด ตัวอย่างที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับมหาลัยใน Darmstadt  ที่มีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรของระดับการศึกษาปริญญาโทใหม่   ปรากฏว่าข้อมูลสับสนมากมีปรากฏอยู่ใน  3  เว๊ปไซด์และไม่เหมือนกันเลย   นักศึกษาคนใดที่มีระบบการวางแผนงานดีและต้องค้นหาข้อมูลเตรียมตัวการเรียนจะเป็นผู้ค้นพบสิ่งผิดปกตินี้ก่อน   และต้องเป็นคนแรกที่ต้องวิ่งเทียวไล้เทียวขื่อเข้าหาเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการและผู้รับผิดชอบคนอื่น 4-5 คน   กว่าจะรู้เรื่องกันว่าผิดและต้องแก้ไข     ฉะนั้นอย่าเข้าใจผิดว่าทุกอย่างจะได้ระดับมาตรฐานเยอรมัน   ถึงแม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีกฏระเบียบและมีวินัยมากมายก็ตาม   ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบไปเสียหมด สำหรับการเปิดบัญชีไทยแล้วกดเงินใช้ในเยอรมนีนั้น ถ้าเป็นการกดเงินสดใช้พอเข้าใจได้   แต่ที่ไม่เข้าใจคือ คุณทำอย่างไรเมื่อต้องการจะจ่ายค่าน้ำค่าไฟ  ค่าที่พัก  ค่าเทอมและอื่นๆในเยอรมนี   เนื่องจากทุกอย่างจะต้องผ่านการโอนเงินทางธนาคารทั้งสิ้น   ไม่ได้จ่ายกันด้วยเงินสด    ถ้าจะโอนเพื่อการนี้จากธนาคารไทย  มิต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการดำเนินการมากมายกว่าหรอกหรือ? แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 54 20:30:50 จากคุณ : ฺ (Bagheera) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 18:16:42

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ได้หมายถึงให้เปิดบัญชีไทยใช้เป็นบัญชีหลัก แต่ไว้ใช้เสริมในกรณีที่ 650 ยูโรต่อเดือนใช้ไม่พอ ค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่ว่านั่นก็กดเงินสดมาเข้าบัญชีเยอรมันให้หักเอาเพิ่มได้ แค่กดเงินสดมากกว่า 650 ยูโรใช้ไม่ได้แค่นั้น แต่ถ้าเห็นว่าอีกหน่อยค่าเงินน่าจะขึ้น อยากจะฝากไว้ในบัญชีเยอรมันก่อนก็สุดแต่ใจ (ค่าเทอมบางที่จ่ายเป็นเงินสดก็ได้ด้วย ค่าที่พักเราก็จ่ายเงินสดตลอด) คนที่ว่าเพิ่งมาอยู่เฮสเซ่นนั่น มาก่อน กค.54 ใช่ไหม? เขาเปลี่ยนกฎเรื่องหลักฐานบัญชีเมื่อ กค.54 นี้เอง โปรดทราบไว้ด้วย ไม่ได้พูดถึงเรื่องเข้าประเทศมาท่องเที่ยวเลย พูดถึงกรณีทำวีซ่านักศึกษาเท่านั้น นักศึกษาจากประเทศพัฒนาแล้วนอกเชงเก้นต้องแสดงหลักฐานบัญชีแบบนี้หรือไม่ หรือแค่มีใบตอบรับก็ให้วีซ่าแล้ว ถ้าไม่ จะมองว่าถูกกีดกันหรือปฏิบัติไม่เป็นธรรมไม่ได้หรือยังไง ในเมื่อเป็นนักศึกษาเหมือนกัน (นักศึกษาอเมริกันน่ะตัวแย่งงานมากกว่าฝั่งเอเชียเสียอีก) ถ้าจะบอกว่าเพราะคนไทยไปก่อเรื่องไว้เยอะมาก่อนเลยพิจารณาเข้มงวดขึ้น ทำไมปีสองปีที่ผ่านมาถึงได้วีซ่ากันง่ายๆ โดยไม่ต้องตามเรื่องวุ่นวายขนาดนี้? คนไทยไปก่อเรื่องในช่วงสั้นๆ ที่ผ่านมานี้เองหรือไง ไม่น่าเป็นไปได้ถูกไหม เปลี่ยนกฎไม่ผิดหรอก แต่ต้องให้ข้อมูลให้ถูกต้องตรงกันแค่นั้น เรื่องง่ายๆ อย่าโบ้ยให้คนที่มาติดต่อลำบาก สถานทูตเยอรมันที่อื่นเขายังทำกันได้เลย จะบอกให้นักเรียนเผื่อเวลา ก็อยากทราบเหมือนกันว่า ถ้าเป็นคุณจะทำยังไง รู้ผลปลายกค.-ต้นสค. เวลาดำเนินการวีซ่า 3 สัปดาห์ เปิดเรียนกลางกย.-กลางตค. ดูเผินๆ ตามแผนนี้ก็ทัน แต่กว่าจะรู้ว่าต้องใช้เวลาเพิ่มอีกอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์สำหรับเรื่องบัญชีก็ปาไปกลาง สค. หลังจากเสียเวลารวบรวมยื่นหลักฐานที่คิดว่าครบแล้วแต่กลับใช้ไม่ได้ เป็นคุณจะไม่ร้อนรนเลยหรือไง หรือจะค่อยๆ รอไป ไปถึงไม่ทันเปิดเทอมก็ช่างมัน? จากคุณ : canon เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 20:30:49 A:217.91.130.94 X: TicketID:253087

ความคิดเห็นที่ 27 คห  26   การเปลี่ยนกฏระเบียบต่างๆ ใช้เวลาพิจารณาล่วงหน้าและต้องผ่านขั้นตอนการเห็นชอบตามลำดับขั้นกว่าจะลงมือกระทำการได้    คุณจึงไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ได้ไม่ว่าจะเป็นกี่ปีก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าท่องเที่ยวหรือวิซ่าประเภทอื่นใดก็ตาม   ขึ้นอยู่กับพื้นภูมิหลังที่มาเดียวกัน หลักการพิจารณาจึงเป็นไปตามประวัติที่ปรากฏเป็นหลักฐาน การที่คนต่างชาติจากประเทศด้อยพัฒนานิยมไปเรียนยุโรปกันมากขึ้นเพราะอะไร   ทั้งๆ ที่ต้องไปเริ่มต้นอยู่กับภาษาที่สาม?  สาเหตุหลักๆ ก็เพราะค่าเล่าเรียนที่เก็บกับนักศึกษาต่างชาติถูกอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเล่าเรียนที่เรียกเก็บในอเมริกา  อังกฤษ  ออสเตรเลีย  คานาดา  หรือ นิวซีแลนด์   ถ้าจะกีดกันจริงๆ  รัฐบาลจะรับภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษาให้กับนักศีกษาต่างชาติทำไม? ที่บอกให้เผื่อเวลา   ในเมื่อเริ่มติดต่อตั้งแต่ กค แล้วยังไม่ทัน    ก็ควรเริ่มติดต่อตั้งแต่ มค   คนที่มาอยู่ Hessen  เองเตรียมตัวมาตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว   ทั้งๆ ที่ลงเรียนเดือนกันยา-ตุลา   เค้าถึงทำได้ผ่านตลอดไม่มีปัญหา    ไม่ใช่เพราะเรื่อง Sperrkonto อย่างเดียว เมื่อไม่พอใจการดำเนินการของเยอรมนี   คุณมีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ไปที่นั่นก็ได้   แต่ละประเทศมีสิทธิ์ในการดำเนินการระเบียบปฏิบัติของตนเอง   ถึงจะตำหนิติเตียนยังไงถ้าเค้าไม่อยากเปลี่ยนเสียอย่าง   คุณจะทำอะไรได้? จากคุณ : ฺ (Bagheera) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 20:57:48

ความคิดเห็นที่ 28 ตลกมาก เตรียมตัวขอวีซ่าไปเรียนต่อ ก่อนที่จะเริ่มสมัครเรียนเสียอีกเนี่ยนะ? ไม่ทราบว่าได้อ่านดีหรือยังว่านักศึกษามักจะรู้ผลช่วงปลายกค-ต้นสค. เดือนมกรานั่นเขายังไม่เริ่มรับสมัครกันเลย จะเตรียมตัวขอวีซ่าได้ยังไง มีแค่บางหลักสูตรเท่านั้นที่รับสมัครและรู้ผลตั้งแต่เดือน กพ. เคสที่คุณยกมาว่าเตรียมตัวตั้งแต่ ธค. นี่ขอมาเรียนภาษาก่อนเสียแล้วละมั้ง เพิ่งเห็น คห. 21 สนทย และ DAAD ไม่มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องวีซ่าแต่อย่างใด สิ่งที่ทำได้คือช่วยให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษาเท่านั้น อำนาจอนุมัติวีซ่าอยู่ที่สถานทูตเยอรมนีต่างหาก ฉะนั้นนักศึกษาจะต่อว่าสถานทูตก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร จากคุณ : canon เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 22:06:30 A:217.91.130.94 X: TicketID:253087

ความคิดเห็นที่ 29 ตลกเสียยิ่งกว่า    ไม่ได้เขียนไว้ตรงไหนเลยใน คห 21   ว่า สนทย และ  DAAD มีอำนาจในการตัดสินใจในการให้วิซ่า   บอกแต่ว่า 2 องค์กรนี้สามารถให้ความช่วยเหลือให้ข้อมูลได้ดีเท่านั้น   ไม่ทราบว่าได้อ่านดีหรือยัง?   ถึงว่าสิ   อ่านแล้วก็ยังเข้าใจผิด   แล้วจะไปต่อว่าสถานฑูตได้ยังไง ใช่  ถูกต้องแล้วเด็กคนนี้มาเรียนภาษาเยอรมันหาความรู้ไปพลางๆ ก่อน   แต่ได้คำตอบรับจากมหาลัยที่เรียนต่อโทภาคภาษาอังกฤษตอบรับตั้งแต่ก่อนเดินทางแล้ว   จะบอกว่ามหาลัยทำผิดกฏอีกหรือ?   หมดประเด็นจะหาเรื่องโต้แย้งแล้วหรือ  ถึงได้ย้อนกลับไปอ่านของเก่าเพื่อนหาประเด็นมาตั้งใหม่   แต่ยังยืนหยัดตอบอยู่นะ    พร้อมเสมอ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 54 22:21:56 จากคุณ : ฺBagheera (Bagheera) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 22:14:53

ความคิดเห็นที่ 30 โพสต์ขึ้นซ้ำ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 54 22:16:58 จากคุณ : ฺBagheera (Bagheera) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 22:15:29

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านมาจนจบกระทู้ ก็ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวหน่อยแล้วกัน ข้อแรก เรื่องการรู้ผลที่เรียน มันขึ้นอยู่กับมหาลัยและหลักสูตรที่เรียน มหาลัยแต่ละที่จะตอบช้าเร็วไม่เท่ากัน แต่ที่ตอบเร็วน่ะมี ไม่ใช่ไม่มี อย่างเพื่อนเราก็รู้ผลล่วงหน้าก่อนข้ามเทอมเลยด้วยซ้ำ และก็เอาใบรับรองจากมหาลัยไปทำเรื่องขอวีซ่า แล้วมันก็ขึ้นอยู่กับว่า สมัครแบบไหนด้วย สมัครแบบเด็กเยอรมัน หรือแบบต่างชาติ บางที่ก็จะมีเวลาสมัครให้แตกต่างกันไป ส่วนเพื่อนเราเนี่ยมีเรียน September นี้ แต่ได้ใบตอบรับมหาลัยตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และสามารถโชว์ใบรับรองต่างๆที่สถานทูตขอได้ ก็ได้วีซ่าไม่เห็นมีปัญหาอะไร ส่วนเพื่อนเราใช้เวลาในการจัดการเรื่องจนได้วีซ่าทั้งหมดประมาณ 2 เดือน ส่วนเรื่อง Sperrkonto มันไม่ใช่พึ่งมีปี 54 เอามาให้ดู 3 ตัวอย่าง ไล่จากเก่าไปใหม่ อันเก่าสุดนี้ จาก 2006 นู่น เป็น Article อันนึงที่ไม่ใช่ของมหาลัยใดๆทั้งสิ้น สมัยนั้นยังเป็น 7000 Euro อยู่ด้วยซ้ำ แล้วจะบอกว่า มันเป็นแค่บาง Bundesland หรือบางรัฐ เพราะตอนสมัยนั้นเช่นที่รัฐ Sachsen ก็ไม่ได้มีระบบนี้ http://www.dradio.de/dlf/sendungen/campus/481158/ เอาตัวอย่างลิงค์มหาลัยนึงมาให้ดู อันนี้ก็เก่าอีกน่ะแหละ http://www.juelich.de/auslaendische_studenten/ ถ้าดูไปถึงข้างล่างสุด จะเห็นได้เลยว่าข้อมูลนี้มันมีมาตั้งแต่ปี 2008 แล้ว นี่เราหยิบเอาสุ่มๆมาให้ดู เพราะฉะนั้นที่ว่าพึ่งเปลี่ยนกฏหมายนั้น เอาอะไรมาอ้าง? เรื่องที่ 2 ตัวเราได้คุยกับทางพนักงาน Deutsche Bank ด้วยตัวเองตอนช่วยเพื่อนทำ Sperrkonto เราถามเค้าตรงๆเลยว่า ถ้าต้องการใช้เงินมากกว่าที่ block ไว้ต่อเดือน ทำได้มั้ย? เค้าก็ตอบเคลียร์เลยว่า ได้ ตราบใดที่เงินที่เหลือในบัญชีพอหักได้ตามเวลาที่ทำสัญญาที่เหลือ ปกติ Sperrkonto มันเป็นสัญญาว่าง่ายๆว่าให้ block ไว้เป็นจำนวนเงินเท่านี้ๆต่อเดือน เข้าใจใช่มั้ยกับคำว่า Minimum ไม่ใช่ Maximum ตัวอย่างเช่น ถ้าเอาเงินเข้าตอนเริ่มต้น 15000 Euro ปัดเอาว่า เงินที่เค้าต้องการ block ทุกเดือนประมาณ 700 Euro ก็เท่ากับว่า มีเงินเหลือ 12*700 = 8400 => 15000 - 8400 = 6600 Euro เดือนแรกอาจจะต้องเอาเงินไปจ่ายค่าบ้านอีกซัก 500 เป็นค่ามัดจำบ้าน ก็เท่ากับเดือนนั้นต้องถอน 1200 Euro แต่เงินในบัญชีก็ยังมีเหลืออีก 13800 Euro ซึ่งเดือนต่อๆไปก็ยังสามารถหักได้เดือนละ 700 เป็นปกติ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เงินในบัญชีเหลือไม่พอเท่าสัญญา Sperrkonto ที่ทำกับเค้า ก็จะเอาเงินออกมากกว่า 700 ต่อเดือนไม่ได้ เชิญไปถามพนักงาน Deutsche Bank หรือแบงค์ไหนก็ได้ทุกที่ พูดเหมือนกันหมด ซึงมันก็สมเหตุสมผล ข้อที่ 3 ตัวเราเองก็พอจะมีคนรู้จักที่สมาคมนักเรียนไทยในเยอรมัน และมีเพื่อนเป็นเด็กทุน DAAD ด้วย ทั้ง 2 หน่วยงานไม่ได้มีสิทธิ์ในการให้วีซ่า ใช่! แต่เค้าสามารถให้ข้อมูลได้ละเอียด โดยเฉพาะ DAAD เพราะเค้าต้องดูแล จัดการดำเนินเรื่องให้เด็กทุนเค้าปีๆนึงเป็นร้อยคน มันก็ถูกแล้วที่ควรจะสอบถามข้อมูลจากทางเค้า ส่วนทางสมาคมนักเรียนไทยในเยอรมันก็ช่วยเหลือให้ข้อมูลเด็กไทยที่สนใจมาเรียนต่อในเยอรมันีอยู่ทุกวัน เค้าก็สามารถตอบได้จากประสบการณ์ต่างๆที่เค้าช่วยเหลือกันมา ข้อที่ 4 ก็ตัวเราเองอีกนั่นล่ะที่เป็นคนช่วยตามวีซ่าให้เพื่อน ทันที่ที่ส่งเอกสารเข้าที่สถานทูต เค้าจะส่งเรื่องส่งต่อมาทางเยอรมันีทันที ขึ้นอยู่กับว่า คุณจะไปเรียนต่อที่ไหน แต่ละรัฐก็แยกย้ายจัดการกันเองไป แล้วเราก็ตามกับทางที่เยอรมันีด้วยตัวเอง โดยตามกับทาง Auslaenderbehörde เท่านั้น พอเค้าอนุมัติที่จะให้วีซ่า ก็ค่อยแจ้งกับทางสถานทูต ทางสถานทูตไม่ได้เป็นคนตัดสินตรงนี้ ไม่ได้มีอำนาจตัดสินเลย ทางสถานทูนนั่นแหละเป็นคนบอกเองว่า ถ้าต้องการตามเรื่องให้เร็วขึ้น ให้มาตามที่ทาง Auslaenderbehoerde ที่นี่เอง เค้ามีหน้าที่ให้วีซ่าหลังจากที่ทางนี้อนุมัติให้ ซึ่งเราก็ทำ เลยทำให้กระบวนการทั้งหมดมันเร็วขึ้น พอทางนี้อนุมัติอีกไม่กี่วันเพื่อนเราก็ได้วีซ่าที่ไทยทันที และใช่เราก็เห็นด้วยจริงที่สถานทูตเยอรมันีที่ไทยทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และมีข้อมูลไม่ชัดเจน เพื่อนเราก็พยายามโทรหาเป็นพันรอบกว่าจะโทรติด อันนี้ทางสถานทูตก็ควรจะปรับปรุง แต่สถานทูตเยอรมันก็มีเรื่องต้องจัดการเยอะแยะมากมาย เนื่องด้วยจำนวนนักเรียนต่างชาติที่มาเรียนเป็นจำนวนมากและเพิ่มขึ้นทุกปี แต่สถานทูตประเทศอื่นก็ใช่ว่าจะดีกว่ามากมาย แต่เรื่องที่ว่า เป็นการกีดกันคนต่างชาตินั้น ไม่ได้เกี่ยวกันเลย พอคุณมาที่นี่ตอนต่อวีซ่าทุกครั้ง เพื่อนเราได้จดหมายมานัด และทุกครั้งก็ไม่เคยสายเกิน 15 นาที และใช้เวลาในการดำเนินการต่อวีซ่าไม่เกิน 15 นาที (แต่เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับรัฐว่า แต่ละที่จัดการบริหารกันอย่างไร ไม่ใช่ทุกที่เสมอไป) แต่ไม่ได้มีการดูถูก หรือกีดกันเพราะเป็นต่างชาติแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังให้สิทธิ์นักเรียนต่างชาติในการทำงานแบบนักเรียนได้ตามกฏหมายเหมือนนักเรียนเยอรมันปกติทุกอย่าง (เจ้าหน้าที่เป็นคนให้ข้อมูลด้วยตัวเองเช่นกัน)ทั้งๆที่ได้วีซ่านักเรียน แล้วแบบนี้ยังจะเรียกว่ากีดกันอีกงั้นเหรอ? ตัวเราเองก็ทำงาน Part time ที่นี่อยู่ จะบอกว่าทางบริษัทมีใบสัญญาให้เซ็น acknowledge แต่แรกเลยว่า ห้ามกระทำการใดๆที่เป็นการดูถูก กีดกัน ความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา และความเชื่อต่างๆเด็ดขาด ก่อนจะว่าอะไร ช่วยหาข้อมูลมาให้ดีก่อนจะดีกว่ามั้ย? คนที่เค้าสนใจจะมาเรียนต่อที่นี่จะได้ไม่เข้าใจอะไรผิดๆ และมีอขติที่ผิดๆแต่แรก ซึ่งมันก็ไม่แฟร์กับที่นี่เค้าด้วยรึเปล่า? คุณมาเรียนประเทศเค้า อย่างน้อยก็ควรจะให้ credit เค้าบ้าง มันมีทั้งข้อดีข้อเสียเหมือนทุกประเทศนั่นล่ะ ไม่ใช่ด่าซะอย่างเดียวไม่มีดีเลย ปัญหาแค่เรื่องวีซ่าน่ะคุณ มันจิ๊บจ๊อยมากถ้าเทียบกับการเรียน การอยู่ที่นี่ การปรับตัว หรือหางานที่นี่ ฝากถึงคนที่มาสนใจมาเรียนต่อทุกท่าน ให้หาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ให้แน่นอน เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง ไม่ใช่ฟังความข้างเดียวจากแหล่งข้อมูลที่ไม่ใช่แหล่งข้อมูลเป็นทางการ จากคุณ : ผ่านมาเห็นแล้วอดไม่ได้ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 02:08:25 A:178.4.251.103 X: TicketID:328770

ความคิดเห็นที่ 32 T_T หายไปวันเดียว มีปะทะคารมกันซะแล้ว ใจเย็นๆกันนะคะ เงื่อนไขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าเอาตัวเองไปตัดสินคนอื่น DAAD และ สนทย คืออะไร คิดว่าคนที่จะไปเรียนก็รู้กันดี คุณผ่านมาเห็นแล้วอดไม่ได้ เห็นด้วยกับประโยคนี้นะคะ "ฝากถึงคนที่มาสนใจมาเรียนต่อทุกท่าน ให้หาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ให้แน่นอน เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง ไม่ใช่ฟังความข้างเดียวจากแหล่งข้อมูลที่ไม่ใช่แหล่งข้อมูลเป็นทางการ" เรานั้นตลอดระยะเวลาที่คิดจะไปเรียนต่อ ศึกษาหาข้อมูลมาพอสมควร จากหลายทาง และรู้สึกว่าข้อมูลที่ไม่ได้รับการกลั่นกรองและปรากฎอยู่ในอินเตอร์เน้ตนั้นน่ากลัวมาก สร้างปัญหากับคนที่จะไปเรียนต่อพอสมควรทีเดียว ฝากไว้ค่ะ ถ้าจะขอวีซ่านักเรียนเยอรมัน "แหล่งข้อมูลเดียวที่เราให้ความเชื่อถือที่สุด ก็คือ สถานทูตเยอรมันประจำประเทศไทย" จากคุณ : whilst g kazu เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 11:53:50

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวัน ไปกันใหญ่ คือต้องอธิบายนิดนึงตามที่คนอื่นได้แจ้งไว้แล้วว่าวีซ่าระยะยาว ( 90  วันขึ้นไป) คนที่เป็นผู้อนุมัตินั้นไม่ใช่สถานทูตเยอรมันประจำประเทศไทยนะค่ะ แต่คือ Auslaenderbehoerde ของเมืองที่คุณจะไปอยู่ สถานทูตมีหน้าที่ส่งเอกสารและใบขอวีซ่าของคุณมาเท่านั้น เดี๋ยวมาที่นี้ก็ต้องไปรายงานตัวพร้อมเปลี่ยนวีซ่า เรื่องกฏการขอวีซ่านั้นก็ตามที่เคยเขียนไว้แต่แรกว่าเนื่องจากปัจจุบันมีคนกลุ่มใหญ่เข้ามาประเทศเยอรมันแล้วมาอยู่ไม่ตามจุดประสงค์ที่ได้แจ้งตอนขอวีซ่านะค่ะ รัฐบาลที่นี้ก็ต้องเข้มงวดมากขึ้น น้องมาที่นี้แล้วจะเห็นด้วยตัวเองว่าเป็นอย่างไรแล้วจะเข้าใจ   เยอรมันก็เถอะไม่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็น  German Efficiency ไปซะหมด เดี๋ยวเรื่องวีซ่าจบมันก็ผ่านไป น้องก็ได้มาเรียนค่ะ มานี้อาจเจอเรื่องปวดหัวมากกว่า พี่ของบอกว่าเรื่องวีซ่านะเล็กๆ คนที่แพลนว่าจะมาเรียนต่อที่เยอรมันที่เข้ามาอ่าน ก็แพลนให้ดีๆ นะค่ะ แพลนล่วงหน้านานๆ จากคุณ : Pimienta เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 14:16:57

ความคิดเห็นที่ 34 คุณจะมาเรียนเมืองนอก "คนเดียว" คุณต้องมีวัคซีนดังต่อไปนี้ - อึด - ช่างสังเกต - วางแผน - ตรงต่อเวลา - ทักท้วงทันทีที่สงสัย - อื่นๆ (ยังนึกไม่ออก แล้วจะมาเติม) สู้ๆนะ เพราะถ้าคุณมาถึงที่นี่ คุณจะเจออะไรอีกเยอะ จากคุณ : Hellknight เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 16:11:42

ความคิดเห็นที่ 35 นักเรียนที่เพิ่งมาเรียนจากตัวอย่างตอนนี้เรียน BWL ที่ Hochschule Darmstadt รึเปล่าครับ? มีเพื่อนสนใจเรียนเหมือนกัน ไม่ทราบคุณ Bagheera มี email ไหมส่งมาทาง weingarten@hotmail.com ได้เลย ขอบคุณครับ ปล คุณ Bagheera อธิบายรายละเอียดได้ดีมาก จากคุณ : Weingarten เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 17:16:10 A:77.1.68.59 X: TicketID:328925

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ scarecrowd โทรไปถาม DB เบอร์อะไรคะ ทำไมเราโทรไปแล้วไม่มีใครตอบเราเลยค่ะ มีแต่เครื่องตอบรับอัตโนมัติ รอตั้งนานก็ไม่มีใครรับสาย เราอยากเร่งเรื่องบ้าง ต้องโทรไปเบอร์ไหนคะ ต้องทำยังไงบ้าง รบกวนขอเบอร์ของ DB ที่คุณโทรไป ได้ไหมคะ จากคุณ : สายน้ำ (Saiy-nham) เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 14:18:31

ความคิดเห็นที่ 37 เท่าที่ทราบ ระหว่างรอการตอบรับจาก DB ไม่สามารถโทร หรือส่งเมลล์ใดๆ ไปเพื่อเร่งหรืออะไรก็ตาม ประมาณ 3 อาทิตย์ค่ะ เค้ามีเขียนไว้ในเมลล์ที่ DB ส่งให้เราค่ะ ลองพยายามนัดวันยื่นวีซ่าให้ได้เร็วที่สุดจะดีกว่าค่ะ ขอให้คุณโชคดีค่ะ จากคุณ : bovie (bovie) เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 11:14:51

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณค่ะคุณ bovie เราเพิ่งได้ block account มาค่ะ แต่อย่างที่คุณบอกเลยค่ะ วันขอยืนวีซ่าตอนนี้เป็นปัญหาหนักกว่ารอ block account อีกค่ะ จากคุณ : สายน้ำ (Saiy-nham) เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:09:02