มาถึงเมืองไทยตั้งเเต่เมื่อวาน เพิ่งเข้าเน็ตได้ว้ันนี้เอง เเต่มาช้ายังดีกว่าไม่มาเลยเนาะ
อ่านเรื่องของเปิ้ลเเล้วใจหาย เรื่องหย่าเป็นเรื่องใหญ่เเละเป็นตัวตัดสินอนาคต เเต่หย่าเเล้วไม่ได้หมายความว่าอนาคตเราจะลงเหว
หลายๆครั้งที่การหย่าเป็นการปรับปรุงให้ชีวิตของเราเป็นปกติสุขขึ้น หรือทำให้อนาคตผ่องใสขึ้น
มีสุภาพสตรีในวงการไฮโซไทยท่านหนึ่ง ตอนนี้อายุอานามคงใกล้หกสิบเข้าไปเเล้วกระมัง
เคยอ่านประวัติของเธอในนิตยสารของไทยเมื่อราวๆสักยี่สิบปีก่อน ขอเล่าเเบบเท่าที่จำได้
เธอเเต่งๆหย่าๆถึงสามครั้งสามครา ลองคิดดูสังคมเมืองไทยสมัยหลายสิบปีก่อน
ชายสามโบสถ์หญิงสามผัวนี่เหมือนเป็นตัวอะไรไม่รู้่ในสังคม (สมัยนี้ก็ยังไม่วาย)
เเต่เธอผู้นี้ไม่หวั่นคำครหา ยังจำคำที่เธอให้สัมภาษณ์ติดหูติดตามาจนทุกวันนี้
เธอบอกว่า "ก็ถ้าผู้ชายมันไม่ดี จะไปทนอยู่กับมันทำไม?"
ตอนนั้นตัวเราเองก็ยังเป็นสาวละอ่อนอยู่ ยังไม่ค่อยได้รู้จักโลกของการมีคู่สักเท่าไหร่ว่ามันสุขหรือทุกข์เท่าไหนประการใด
เเต่ได้ยินได้เห็นคำของเธอเเล้ว ก็จำเเม่นขึ้นใจว่า ต่อไปเรารักผู้ชายคนไหนเเล้วมารู้ทีหลังว่า "เขาไม่ใช่คนดี" เราก็จะไม่ทน
ถึงพี่จะไม่ได้รู้จักตัวเป็นๆของน้องเปิ้ล เเต่จากที่เราคุยหยอกเย้ากันไปมาอยู่ในห้องนี้หลายปี ก็พอบอกได้เหมือนคุณเเป้งจิเซลว่า
น้องเปิ้ลเป็นคนมองโลกในเเง่ดีเเละชอบให้อภัย มันเลยกลายเป็นช่องโหว่ให้สามีไม่รักดีของน้องเปิ้ลเอาไปใช้เป็น "ข้ออ้า่ง" ว่า "เธอดีเกินไป"
เหมือนที่พี่นกว่านั้นเเม่นเเล้วน้องเอ๋ย เขาเอาความดีของหนูมาเป็นข้ออ้างปัดความผิดออกตัวนั่นเเล
Maybe God wants us to meet a few wrong people before meeting the right
one,
so that when we finally meet the person, we will know how to be
grateful.
http://www.internationalschoolofhealingarts.com/pdfs/on_love.pdf
แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 54 12:40:30