ความคิดเห็นที่ 1 นี่ขนาดไม่ได้เตรียมตัวนะคะ ยังได้20ขึ้น จาก30 คะเเนของแต่ละพาร์ท เรากำลังจะสอบครั้งแรก เตรียมตัวซักระยะนึงแล้วแต่รู้สึกว่ายังไม่พร้อม ค่าสอบก็แพงนะเนี่ย เลยขอชัวร์ๆแล้วไปสอบเพื่อคะแนนที่โอเคหน่อย(จะถึง80หรือเปล่าเรายังไม่มั่นใจเลย) เราว่าคุณเจ้าของกระทู้ ถ้าฟิตอีกหน่อยต้องเกิน90แน่ๆ สมัครป.เอก น่าจะซัก100 ถึงจะดูดี ผ่านฉลุย ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : LoVe JiN mode เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:17:44

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าอยากได้ม.ท็อป ๆ ควรสอบใหม่ให้ได้สัก 100+ ค่ะ คิดว่าจขกท.น่าจะทำได้นะคะ สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : เง็ง เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:34:31 A:124.122.92.123 X: TicketID:329160

ความคิดเห็นที่ 3 ควรสอบครับ เพราะ Reading กับ Listening คะแนนอัพง่ายมากครับ (เมื่อเทียบกับ Speaking or Writing) ( ลองทำเล่ม official ของ ETS ให้คล่อง) อาจทำให้ จขกท คะแนน พุ่งได้ ถึง เกือบ 100 หรือ 100++ เอาใจช่วยครับ จากคุณ : ผ่่่่านมาคับ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 22:39:35 A:128.205.38.192 X: TicketID:255100

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบพระคุณทุกความเห็นมากนะคะ คงต้องแบ่งเวลาจาก GRE มาเตรียมอ่าน TOEFL แล้ว เป็นกำลังใจให้คุณ Love Jin Mode ด้วยนะคะ จากคุณ : I think that's why I am เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 54 23:07:16

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่า ถ้าเกิน requirement ของมหาวิทยาลัยทีคุณต้องการมาแล้ว ก็ไม่ต้องสอบใหม่ก็ได้มั้ง จะได้เอาไปเวลาไปให้ GRE ได้มากขึ้น แหะๆ จากคุณ : SanJiKicK เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 12:15:38

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ^ requirment นี่แค่ "ขั้นต่ำ" ที่สามารถสมัครได้เท่านั้นเองค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่ามหาลัยรับเด็กที่คะแนนเท่านั้นจริง ๆ อย่าง U.Penn กำหนดขั้นต่ำที่ 80 แต่ในความเป็นจริงแล้วรับที่ 100+ นะคะ มหาลัยอื่นก็เหมือนกัน ต่อให้ไม่ใช่ยูท็อป แต่แค่ผ่านขั้นต่ำมันการันตีไม่ได้หรอกค่ะว่าเราจะมีคุณสมบัติถึงรึเปล่า เพราะอย่าลืมว่ายังไงก็ต้องมีผู้สมัครเก่ง ๆ จากทั่วโลก และเราต้องแข่งขันกับคนเหล่านั้น ที่แนะนำให้จขกท.สอบใหม่เพราะเห็นว่าน่าจะมีศักยภาพ สอบใหม่น่าจะมีหวังได้คะแนนสูงขึ้น ไม่อยากให้มาเสียดายทีหลังว่ารู้งี้สอบใหม่ก็ดีหรอก (เพราะสอบครั้งนั้นจขกท.บอกเองว่าไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ยิ่งน่าเสียดายค่ะ เพราะถ้าเตรียมตัวไปสอบใหม่น่าจะได้คะแนนดีกว่านั้นแท้ ๆ) จากคุณ : เง็ง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 13:49:55 A:124.122.162.184 X: TicketID:329160

ความคิดเห็นที่ 7 ^ ^ ^ ^ คห.6 มันก็ไม่เสมอไปหรอกนะคะ ที่คุณพูดมามันก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ก็มีอีกหลายๆ U ที่เขารับคะแนนที่ จขกท. ได้ ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ 86 แต้มเอง ยังได้ U ในกลุ่ม TOP50 ของอเมริกา ดิฉันว่ามันขึ้นอยู่กับสาขาที่สมัครเข้าเรียนด้วยนะคะ อีกอย่างคะแนน GRE และ recommendation letter กับ SOP ก็มีผลต่อการคัดเลือกด้วย เขาไม่ได้ดูแค่ส่วนเดียวหรอกนะคะ สาขาที่จะเรียนก็มีผลต่อการถูกคัดเลือกด้วย บางสาขาก็ไม่ได้มีการแข่งขันสูงขนาดนั้น อย่างเรียน PhD ในสายวิทย์ เขาก็เน้นศักยภาพในการทำวิจัยได้ ดู profile ว่ามีคุณสมบัติที่จะเข้า ป.เอกได้ไหม ถ้าเคยมีผลงานตีพิมพ์ระดับนานาชาติก็จะได้เปรียบสูง และยิ่งมี Prof. ที่ติดต่อกันได้ช่วย ก็จะมีผลให้เข้าได้ง่ายด้วย ที่คุณ คห.6 บอกมาว่ามีคนสมัครเยอะ อันนั้นมันมักเป็นสาขาที่มีการแข่งขันกันสูง เช่น พวก MBA หรือสายวิชาที่รับแบบมีที่นั่งจำกัด ไม่ได้หมายความถึงทุกสาขานะคะ ที่จะเอาคะแนนภาษาอังกฤษสูงลิ่วจนต้องแข่งกันแบบนั้น ส่วน U ดังๆ ไปเลยอย่างพวก TOP10 ของอเมริกา อันนั้นเขาก็กำหนดคะแนนขั้นต่ำ 100+ อยู่แล้ว แยกคนละกรณีกันค่ะ ส่วน จขกท. ถ้ายังพอมีเวลาและไม่ติดขัดเรื่องเงินก็สอบใหม่ก็ได้ค่ะ ดิฉันคงไม่ได้เข้ามาตอบอีก เพราะนานๆ เล่นที บัตรผ่านก็สมัครเป็นครั้งๆ ไป คงไม่ได้ช่วยอะไรมาก นอกจากให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : งงกว่า เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 15:45:01 A:110.77.239.142 X: TicketID:331296

ความคิดเห็นที่ 8 มันขึ้นกับสาขาที่เรียน ถ้าสายวิทย์ หลายที่ก็เอาแค่ผ่านนะครับ ไปให้น้ำหนักกับอย่างอื่นเอา จากคุณ : Adios2nd เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 16:26:48

ความคิดเห็นที่ 9 คห.7 เข้าใจค่ะ และเห็นด้วยกับคุณทุกประการค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าเห็นจขกท.บอกว่าไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปเลย แถมสอบตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วโน้น คะแนนได้ตั้งขนาดนี้ คิดว่าถ้าสอบใหม่เขามีแนวโน้มที่จะได้คะแนนดีขึ้นน่ะค่ะ ถ้าไม่ได้ติดขัดเรื่องเงินหรืออะไรก็น่าจะลองสอบใหม่ดู เพราะปกติสอบใหม่มักจะได้คะแนนดีขึ้นกันค่ะ อย่างไรก็ดีไม่ได้แนะว่าเอาเวลาไปทุ่มแต่กับเรื่อง TOEFL อย่างเดียวไม่ดูอย่างอื่นเลย แบบนั้นก็ไม่ไหวเหมือนกัน (เห็นด้วยค่ะว่าคะแนน TOEFL เป็นแค่ส่วนนึงเท่านั้น GRE SoP และ Recommendation Letter สำคัญกว่าเยอะมากกก ยิ่งถ้าเป็นระดับปริญญาเอกด้วยแล้ว) ทั้งนี้ ถ้าจขกท.พยายามเต็มที่แล้ว เตรียมตัวอย่างดีแล้ว ได้คะแนนเท่านี้ เราก็คงแนะนำอีกแบบ นั่นคือไม่ต้องเครียดมาก เป็นคะแนนที่ถือว่าโอเคแล้ว ไม่ต้องสอบใหม่ก็ได้ จะได้เอาเวลาไปเตรียมตัวอย่างอื่นที่มันหนักกว่า แต่ในเมื่อครั้งนั้นจขกท.ไม่ได้พยายามอะไร (คล้าย ๆ กับไปลองสนามดูด้วยซ้ำ) แบบนี้คิดว่าสอบใหม่ก็ดีกว่าค่ะ เพื่อให้ Profile เราโดดเด่นไปเลยในทุก ๆ ด้าน สรุปคือถ้าจขกท.พยายามและเตรียมตัวอย่างดีแล้ว คะแนน 87 ibt คือว่ายอดแล้วค่ะ ไม่ต้องสอบใหม่เลยก็ได้ (เพราะอาจเสียเวลา หยาดเหงื่อ และสุขภาพจิตไปมากมายหลายรอบโดยไม่จำเป็น) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของจขกท.ทุกประการค่ะ :) จากคุณ : เง็ง เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 54 17:31:06 A:124.122.162.184 X: TicketID:329160