ความคิดเห็นที่ 1 น่าจะคิดก่อนว่า ทำไมแฟนจะบินมาหาตอนต้นเดือนพ.ย.ตามกำหนดคลอดแล้วอยู่ไทยได้ แค่8วัน ถ้าเขาจะมาจริง เตรียมวิธีการ ที่จะให้เขา ไปแจ้งที่สถานทูตเดนมาร์ก รับรองว่าเขาเป็นพ่อของเด็ก หลังจากนั้น รอให้แฟนได้ใบหย่าจากภรรยาเก่า คุณและลูกสะดวกเมื่อไร ก็ค่อยไป ขอให้โชคดี เป็นห่วงว่าจะถูกเขาหลอก นะ จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 00:06:33

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องแยกกันอยู่นี้ ตามกฏหมายเดนมาร์ก หากแยกกันอยู่หกเดือนแล้วทั้งสองฝ่ายยินยอมพร้อมใจที่จะหย่า ก็สามารถหย่าได้ทันที แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอม ก็ต้องรอจนครบปี ถึงจะหย่าได้ และหากรอจนครบปีแล้ว อีกฝ่ายยังไม่ยอมหย่าให้ ก็ยังหย่าไม่ได้ ต้องขึ้นศาล ให้ศาลบังคับหย่า สรุปง่ายๆว่า ไม่มีความแน่นอนเลยว่า อีกฝ่ายเค้าจะยอมหย่าให้ หากเดินทางไปคอยรอจดทะเบียน ก็อาจมีโอกาสคอยเก้อ เรื่องทั้งหมดมันเรื่องส่วนตัวของคุณ ดิฉันไม่อยากพูดสั่งสอน แต่อยากพูดสั้นๆ แค่ว่า คบกับคนที่มีเจ้าของ แถมเค้ายังไม่หย่าขาดกัน มันก็ยุ่งยากแบบนี้แหละค่ะ ไม่ทราบว่าคุณไปเอาข้อมูลที่ไหนมาที่ว่าฝรั่งคลอดลูกสองวันก็เดินคล่อง คนที่เค้าเดินคล่องก็มีค่ะ แต่คนที่เค้าเดินไม่คล่องเพราะมีปัญหาตอนคลอดก็เยอะไป บางคนคลอดแล้วก็มีแผลอักเสบ มีปัญหานมคัดจนเต้านมอักเสบ ฯลฯ หลายคนต้องนอนรับการรักษาที่ รพ. หลายวันกว่าจะได้กลับบ้าน หากแม่เด็กคลอดด้วยวิธีผ่า ส่วนมากพ่อเด็กจะช่วยดูลูกและช่วยทำงานบ้านในช่วงแรก เพราะแม่ที่ผ่าคลอดนั้นส่วนมากจะยกเด็กและทำอะไรหนักๆ ไม่ไหวเพราะปวดแผล แต่ว่าไปนะ ไม่ว่าจะคลอดธรรมดาหรือคลอดด้วยวิธีผ่า ส่วนมากพ่อเด็กจะช่วยดูแลลูกที่แรกเกิดกันทั้งนั้น ส่วนเรื่องให้เด็กอ่อนและแม่เด็กบินทางไกลมาหาพ่อเด็กนี้ บอกตรงๆ ว่าดิฉันเพิ่งเคยได้ยินกับเคสของคุณนี่แหละ ที่เดนมาร์กนี้ พ่อเด็กลาคลอดได้สองอาทิตย์ ไม่ว่าเมียจะคลอดธรรมดาหรือคลอดด้วยวิธีผ่า แต่แฟนคุณจะลาไปหาคุณแค่แปดวันเท่านั้นเองหรือ? ส่วนเรื่องรับรองบุตรนั้น แฟนคุณรับรองเป็นพ่อเด็กได้ที่สถานฑูตเดนมาร์กใน กทม. ภรรยาเค้าไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น เพราะเรื่องนี้มันเรื่องรับผิดชอบของแฟนคุณคนเดียว เรื่องสัญาชาตินั้น เนื่องจากว่าคุณกับแฟนยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส เด็กจึงยังไม่มีสิทธิ์ถือสัญชาติเดนมาร์ก แต่จะได้สัญชาติไทยตามมารดา หากคุณกับแฟนจดทะเบียนกันเมื่อไร ลูกคุณก็จะได้สัญชาติเดนมาร์กทันทีที่แฟนคุณนำเรื่องไปยื่นกับทางการว่าจดทะเบียนกันแล้ว เห็นด้วยกับคุณธนิตาที่ว่าให้คุณคอยอยู่ที่เมืองไทย รอให้แฟนคุณหย่าก่อน แล้วคุณกับลูกสะดวกเมื่อไรก็ค่อยเดินทาง เป็นห่วงกลัวเขาจะหลอกเอาเหมือนกัน เพราะเรื่องหย่าหลังจากแยกกันอยู่นั้น มันฟังแปลกๆ ยังไงอยู่ ไงก็ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : Smilla เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 03:13:02

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่มีความรู้นะค่ะ แต่จากที่อ่านกระทู้ ตัว จขกท (กับแฟนหรือเปล่า) ที่ทำให้มันดูยุ่งยากและบีบบังคับสถานะการณ์เอง เพราะทำไมต้องเจาะจงให้ไปถึงก่อนวันคริสมาตอีกอย่างน้องยังเล็กมากๆ พาไปตอนนี้ก็คงไม่สนุก รอไปคริสมาตปีหน้าน้องก็เพิ่ง ขวบกว่าๆ น่าจะดีกว่าน้องก็พอจะรู้เรื่องด้วย ข้อคิดจากคุณ Smilla ถ้าคุณยังไม่ได้จดทะเบียนกันถ้าพ่อเด็กรับรองบุตรคนเดียวเขามีสิทธิ์ในตัวลูกเต็มที่นะค่ะ ถ้าวันหนึ่งคุณเกิดทะเลาะกับแฟนหล่ะ เคยอ่านจากเว็บเลดี้ กรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันถ้าจะให้สามีรับรองบุตร ที่ยกข้อมูลมาเป็นของคนมีแฟนสวีเดนนะค่ะ แต่เขาดำเนินเรื่องรับรองบุตรและขอพาสปอร์ตให้ลุกในเมืองไทย http://www.ladyinter.com/forum_posts.asp?TID=23074 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 54 14:41:27 จากคุณ : sapuknik79 เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 14:33:54

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณนะคะ ตัวเองประมาทเองที่ไม่ได้ศึกษากฎหมายทางเค้าให้ดีก่อน เพราะตอนแรกแฟนเค้าบอกว่าเค้าสามารถหย่าได้หลังจากแยกกันอยู่แล้วหกเดือน เค้าบอกว่าเค้ากับภรรยาเก่าคุยกันมานานแล้วเป็นปีเรื่องที่จะหย่ากัน พอครบหกเดือนภรรยาเก่าเค้าไม่ยินยอม เหมือนกับตกลงกันไม่ได้เรื่องเงิน แถมรู้ว่ากำลังจะมีลูกกับคนอื่นอีกต่างหาก เลยพยายามเรียกร้องเงินให้มากที่สุด นั่นคือสิ่งที่เค้าบอกนะคะ เพราะภรรยาเค้ารายได้น้อยกว่าเค้ามาก และเค้าเป็นคนออกค่าใช้จ่ายลูกทั้งหมด เค้าเลยบอกว่า ต้องรอหนึ่งปี จะหย่าได้โดยอัตโนมัติ ก็พึ่งรู้ว่าต้องไปฟ้องศาลอีก ซึ่งดูแล้วมันก็ไม่แน่นอนจริงๆ ยอมรับว่าตัวเองพลาดเองค่ะ เชื่อเค้าว่าเค้าสามารถจัดการได้ และเชื่อว่าเค้าตกลงกับภรรยาเก่าได้แล้ว เพราะบอกเค้าตลอดว่าเราถือเรื่องแบบนี้มากๆค่ะ เราไม่ต้องการเป็นต้นเหตุให้เค้าหย่ากัน รวมถึงทำลายครอบครัวเค้าด้วย ซึ่งเค้าก็บอกตลอดว่าเราไม่ใช่สาเหตุแน่นอน แล้วเค้าก็อยากมีลูกกับเรามาก ซึ่งเราก็เชื่อเค้า เพราะเค้าก็แสดงให้เห็นว่าเค้ารักเรามากจริงๆ จริงๆแล้วเค้าอยากให้ไปอยู่กับเค้าให้เร็วที่สุด ยังไงก็ได้ เหมือนเค้าไม่ค่อยเข้าใจว่าความเป็นจริงแล้วมันยุ่งยากมาก เราไม่สามารถเดินทางเข้าออกประเทศไหนก็ได้ง่ายๆเหมือนเค้า เรื่องคริสมาร์สก็เป็นอะไรที่เราไม่ได้อยากไป ก็เข้าใจว่าบ้านเค้าจะสำคัญมากกก แต่อยากรอให้ลูกแข็งแรงก่อน และอยากให้เค้าหย่าก่อน แต่เค้าก็จะบอกว่าเค้าคิดถึงเรากับลูกมากๆๆ และเค้าอยากให้เราไปฉลองกับลูกๆเค้าด้วย เหมือนเค้ากลัวเราจะไม่ยอมไปอยู่กับเค้าที่นั่น กลัวเราจะเลี้ยงลูกคนเดียวที่เมืองไทย ที่เค้ามาได้ 8 วันเพราะเค้าลาพักร้อน งานเค้ายุ่งมากค่ะ และ เค้ายังไม่สามารถบอกใครที่ทำงานเรื่องเราท้องได้ เราขอไว้เอง อันนี้เรื่องยาวค่ะ เนื่องจากว่ามีความจำเป็นบางอย่าง รอดูหลังคลอดดีกว่าค่ะ ถ้างั้น ไหวไม่ไหว หรือทันไม่ทันค่อยว่ากันอีกที เพราะเค้าชอบถามตลอดเรื่องจะจองตั๋วล่วงหน้า  เหมือนบีบเรากลายๆว่ายังไงก็ต้องไปนะ ส่วนเรื่องลูกรอให้จดทะเบียนก่อนดีกว่า แล้วค่อยว่ากัน ขอบคุณอีกครั้งนะคะ จากคุณ : Lora@Chalkfarm เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 18:27:37

ความคิดเห็นที่ 5 คนเดนนิสมีทั้งคนดีและคนไม่ดี  แต่เกือบ 100% ถ้าทำเรื่องต้องหย่ากัน   ด่าภรรยาซะไม่มีเหลือ  ปั้นน้ำเป็นตัวสุดๆ  ก็หวังว่าเคสของคุณคงไม่ใช่นะ กฏหมายเดนมาร์คเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามสถานะปัจจุบัน   แต่งงานก็ต้องใช้ เงินประกันเกือบๆแสนโครน   อยู่กันไม่ครบตามกำหนดที่ระบุไว้หย่าก่อน ส่งกลับทั้งแม่และลูก จากคุณ : คุณนายแดนไกล เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 54 20:07:54

ความคิดเห็นที่ 6 การที่แฟนจดทะเบียนรับรองบุตร ก็คือแค่รับว่าเป็นพ่อ และจะจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรตามหน้าที่พ่อที่ดี หากไม่จ่ายนั้น จะฟ้องข้ามประเทศได้หรือเปล่า ดิฉันไม่ทราบ ส่วนเรื่องสิทธิ์ในการปกครองบุตรนั้น เด็กเกิดที่เมืองไทย มีแม่เป็นคนไทย ดังนั้นสิทธิ์ในการปกครองบุตรก็จะเป็นไปตามกฏหมายไทย คือ แม่มีสิทธิ์ปกครองลูกคนเดียว ตราบใดที่ยังไม่จดทะเบียนกัน แม่มีสิทธิคนเดียวค่ะ พ่อนั้นหากอยากจะฟ้องทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อ ก็คิดว่าคงชนะยาก เพราะเป็นพ่อตามพฤตินัย ไม่ได้เป็นตามนิตินัย ขอย้ำอีกครั้งว่าลูกคุณถือสัญชาติไทยตามคุณ ถึงแม้ว่าแฟนจะจดทะเบียนรับรองความเป็นพ่อ แต่ลูกคุณจะถือสัญชาติเดนมาร์กและมีพาสปอร์ตเดนมาร์กได้ก็ต่อเมื่อคุณและแฟนคุณจดทะเบียนสมรสกันค่ะ หากย้ายมาอยู่เดนมาร์ก ลูกจะเปลี่ยนสัญชาติหรือไม่นั้นไม่สำคัญ แต่หาก จขกท. เลือก fælles forældremyndighed คือพ่อแม่ร่วมกันปกครองลูก และพ่่อเด็กก็จดทะเบียนรับรองความเป็นพ่อแล้ว หากคุณพาลูกออกนอกประเทศเดนมาร์กโดยที่แฟนคุณไม่ยินยอม พ่อเด็กก็มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องคุณได้ว่าคุณลักพาตัวลูกเค้า เรื่องนี้ไม่ใช่ล้อเล่น เพราะมีคนโดนแจ้ง Interpol จับมาหลายคนแล้ว   จะบอกให้ใจเย็นและค่อยๆ ดูกันไป ก็ไม่รู้ว่าจะบอกช้าเกินไปหรือเปล่า แฟนคุณก็ดูท่าทางจะใจเร็วและใจร้อนมากๆ ใจร้อนเสียจนคอยไม่ได้ อยากให้คุณหอบลูกอ่อนบินข้ามโลกไปหา คริสต์มาสนั้นสำคัญก็จริงสำหรับคนที่เดนมาร์กนี้ แต่ก็ไม่ได้สำคัญมากถึงขนาดว่าคุณต้องเสี่ยงสุขภาพหอบลูกอ่อนมาร่วมฉลองกับเค้าหรอกค่ะ คนที่นี่มีเยอะแยะไปที่ไม่ได้ฉลองวันคริสต์มาสกับครอบครัว เพราะหน้าที่บังคับ เช่นทหาร ตำรวจ หมอ พยาบาล ฯลฯ ก็ไม่เห็นเค้าจะเดือดร้อนอะไรกันมากมายนักหนา ก็เห็นยังอยู่กันเป็นสุขดี อีกอย่างที่อยากให้คิดถึงก็คือ เป็นห่วงเด็กอ่อนบ้าง อย่าลืมว่าเด็กไม่ได้เกิดที่นี่ ไม่ได้คุ้นเคยกับอากาศหนาวๆ พอเค้ามาแล้วเค้าเกิดป่วยขึ้นมา คุณจะทำอย่างไร ดิฉันคงเข้ามาเขียนแค่นี้แหละค่ะ สุดท้ายนี้ ขอให้ลูกคุณเกิดมามีสุขภาพแข็งแรง และขอให้คุณโชคดี สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ด้วยดีค่ะ จากคุณ : Smilla เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 01:37:14

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าขอวีซ่าโดยที่แฟนเป็นคนออกจดหมายเชิญจะใช้เวลานานค่ะ 60 วัน ก็ต้องรอ 60 วันเต็มๆค่ะ ส่วนคำถามอื่นไม่มีความรู้ค่ะเลยตอบให้ไม่ได้ค่ะ จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 02:25:22

ความคิดเห็นที่ 8 เอาใจช่วยนะค๊ะ เรื่องการหย่าร้างของฝรั่งเนี่ย ยุ่งมากๆ ผู้ชายบางคนวางแผนว่าจะหย่าได้ตามกำหนด แต่จริงๆแล้วยืดเยื้อกว่าที่คิดเอาไว้เยอะมาก ขนาดภรรยาเก่าที่แยกกันไปเพราะมีสามีใหม่ ยังได้อภิสิทธิ์มากมายเหนือกว่าฝ่ายชาย ยิ่งถ้ามีลูกด้วยกันแล้วลูกยังอายุน้อยๆ ไม่เกินสิบแปดนี่ บ้านตกเป็นของฝ่ายหญิงทันที ฝ่ายชายต้องหอบผ้าหอบผ่อนไปหาที่อยู่เอาใหม่ แม้ว่าบ้านฝ่ายชายจะเป็นคนซื้อก็ตาม (อันนี้กฏหมายอังกฤษค่ะ) แล้วก็คนรู้จักที่เยอรมันก็เหมือนกัน ต้องยกบ้านให้ฝ่ายหญิงไปเพราะมีลูกเล็ก ไม่ทราบว่าที่อื่นเหมือนกันหรือไม่ เคยดูหนังอยู่เรื่องนึงจำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว ที่ฝ่ายหญิงมีแฟนใหม่แล้วให้ผู้ชายย้ายออกไปอยู่ทีอื่น แล้วก็พาผู้ชายใหม่มาอยู่กินด้วยกันในบ้านที่สามีซื้อนี่แหละ ยังแอบด่าในใจว่าทำไมยอมเค้า ทำไมนายโง่ขนาดนี้ พอมาอ่านเรื่องกฏหมายถึงได้เข้าใจ ว่ามันจำเป็นต้องเป็นแบบนั้นทั้งที่ไม่อยากให้เป็น ทีนี้แยกกันอยู่หกเดือน ถ้าไม่ยอมก็หย่าไม่ได้ต้องรอต่อไป ครบปีฝ่ายหญิงไม่ยอมอีก ก็ต้องขึ้นโรงขี้นศาล ไม่ได้รอบเดียวนะ หลายรอบด้วย ฝ่ายหญิงขึ้นศาลฟรี ฝ่ายชายเสียเงิน ทั้งค่าSolicitor คิดกันเป็นรายนาที รายชั่วโมงที่ให้คำปรึกษากันเลยทีเดียว โทรหากันกี่ครั้งคิดเงินหมด สงสารฝ่ายชายมาก ผู้หญิงมีแฟนใหม่ อยู่บ้านใหม่แล้วแต่ยังไม่พอ ชั้นจะเอาเงินเธอครึ่งนึง บ้านด้วยมากกว่าครึ่ง ของในบ้านชั้นเอาหมด ถ้าไม่ยอมก็จะยื้อเวลาไปเรื่อยๆ ให้ฝ่ายชายเสียเงินเล่น ดังนั้นเรื่องที่จะรอไปจดทะเบียนกะเขานั้น เชื่อได้เลยว่ายืดเยื้อแน่นอน แต่ยังไงก็ดูแลสุขภาพให้ดีนะค๊ะ เป็นห่วงค่ะ จากคุณ : นานา เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 54 19:03:38 A:85.161.183.89 X: TicketID:331985