ความคิดเห็นที่ 1 เวลาเค้าสัมภาษณ์ จะไม่ตะขิดตะขวงใจหรือคะ แต่งงานกันเองในเครือญาติ แล้วจะมีหลักฐานสนับสนุนพอหรือคะว่าแต่งงานจริงๆกับลูกพี่ลูกน้องคนนี้ รูปความสัมพันธ์ตอนที่คบหากัน อีเมล โทรศัพท์หากันอะไรยังไง เป็นต้น จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 10:05:42

ความคิดเห็นที่ 2 ก็ต้องย้ายไปอยู่เยอรมนีสามปีถึงจะได้วีซ่าถาวร แล้วแฟนคนไทยไม่ขัดข้องเหรอ จะไปอยู่กับญาตินานถึงสามปีน่ะ ก็เท่ากับไปอยู่เยอรมนีเลย และทิ้งแฟนคนไทยไว้ในไทย งานเยอรมันไม่ได้หาง่าย งานดีๆสมกับระดับการศึกษาสูงหายากสำหรับคนต่างชาติ และถ้าภาษาไม่คล่อง เป็นไปได้ยากที่จะไ้ด้งานระดับนั้น ภาษาต้องอยู่ในระดับดีสื่อสารรู้เรื่อง แม้แต่งานระดับล่างก็ตาม โอกาสงานความหลากหลายในเยอรมนีต่างกับโอกาสงานในอเมริกา คนละขั้ว จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 10:10:01

ความคิดเห็นที่ 3 พอดีเรากับสามีเลิกกันไปแล้วค่ะ ส่วนน้าเปิด wellness ที่เยอรมัน ถ้าไปคงไปช่วยน้าทำค่ะ ไม่ได้ทำงานออฟฟิศ // ปัญหาคือ เรื่องตะขิดตะขวงใจนี่แหละ พวกหลักฐานต่างๆ เรา make ไม่ได้หรอคะ ถ่ายรูปคู่กัน อีเมลหากัน เวลาไปยื่นต้องมีหลักฐานพวกนี้ไปด้วยใช่ไหมคะ จากคุณ : pimpatcha เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 10:26:29

ความคิดเห็นที่ 4 เอ่ออออออออ..... จากคุณ : Severus' Lover เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 10:38:49

ความคิดเห็นที่ 5 คิดว่าตอนสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่คงจะสงสัยนะ ถ้าผ่านก็คงจะดวงดี แต่คิดว่าไม่ผ่านน่ะ คงต้องเตรียมตัวดีๆ จากคุณ : PoomPim..TMB เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 10:41:43

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องสัญชาติเยอรมันไม่ใช่ขอได้ง่ายๆนะค่ะ ส่วนตัวไม่เคยขอวีซ่าแต่งงานเลยไม่รู้ว่าในช่วงพิจารณาเอกสารขอวีซ่าเขาจะมีการสืบหาข้อมูลทางฝ่ายชายไหม ถ้าเขาสืบค้นหล่ะ อย่าว่างั้นงี้เลยนะ ถ้าน้าเขาจะช่วยจริงๆ ให้เขาแนะนำหนุ่มเยอรมันคนอื่นให้ไม่ดีกว่าหรือค่ะน้าอยู่โน่นแล้วรู้จักคนเยอรมันเยอะแยะก็ติดต่อให้เราสิ การจดทะเบียนแต่งงานกับคนเยอรมันไม่ใช่จะหย่ากันง่ายๆ นะค่ะ ไม่ใช่ว่าพอเดินเรื่องผ่านแล้วพอไปเจอหนุ่มเยอรมันคนใหม่ที่พร้อมจะแต่งงานกับเราแล้วจะขอหย่าใช่จะหย่าได้ทันทีเหมือนเมืองไทยนะค่ะ รอกันทีเป็นปี สองปี คิดดีๆนะค่ะคิดให้ยาวๆ ถึงปัญหาในอนาคต บอกน้าไปเลยค่ะว่าให้น้าติดต่อคนอื่นให้ดีกว่าในเมื่ออยากจะจดแต่ในนามอยู่แล้วเผลอๆ ได้คนที่พร้อมกว่าอาจจะได้คนที่ยอมรับลูกเราเป็นบุตรบุญธรรมก็น่าจะง่ายว่าจะให้ญาติตัวเองนะค่ะเหมือน คห. ข้างบนบอกถ้าวีซ่าไม่ผ่านอาจจะถูกเพ็งเล็งนะค่ะ ***ขอแก้ไขข้อมูลแล้วกัน ถ้าหากขอวีซ่าแต่งงานไม่ต้องใช้หลักฐานแสดงความสัมพันธ์เพราะอ่านมาจากเว็บอื่นคนแนะนำอาจจะแนะนำไม่เคลียร์ว่า จนท เขาดูไหมเพียงแต่บอกว่าเกินดีกว่าขาด เพราะบางคนเขาบอกว่าเตรียมไปเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 16:58:44 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 16:16:46 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 11:06:21 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 11:02:39 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 10:55:59 จากคุณ : sapuknik79 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 10:51:20

ความคิดเห็นที่ 7 ทราบมาเฉยๆ เล่าต่อกันมา อ่านมา ไม่มีข้ออ้างอิง เป็นซิติเซ็นเยอรมันได้ยากแม้แต่คนที่เกิดที่นั่นหากพ่อแม่จะเป็นคนต่างด้าว ถ้าเป็นที่อเมริกาอาจจะตกสัมภาษณืหากไม่ได้นอนด้วยกันจริงๆแต่ก็มีผ่านบ้างเหมือนกัน อย่างไรก็ดี อยากไปจริงๆก็อย่าท้อที่ผมพูด จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 12:06:51 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 8 เดี๋ยวนี้ แต่งงานกับคนเยอรมัน แล้วย้ายไปอยู่เยอรมันกับสามี ยากกว่า แต่ก่อนค่ะ คุณต้องเรียนเยอรมันที่ไทย สอบผ่าน เอ 1 ก่อน จึงจะได้ วีซ่าไปแต่งงาน หรือแต่งงานจดทะเบียนที่ไทยก็ต้อง สอบผ่านก่อนจึง จะได้ วีซ่าไปอยู่กับคู่สมรส  ใช้เวลาและความพยายามพอควร รวมถึง ค่าใช้จ่ายด้วย และที่สำคัญ พอไปถึงเยอรมัน การที่จะได้วีซ่าถาวร เขาก็จะพิจารณา ถึงรายได้ การงานของ คู่สมรส เป็นหลักในการพิจารณา ด้วยค่ะ มีหลายคนอยู่มานาน แต่ได้ วีซ่าปีต่อปี บางคนได้ หกเดือน ต้องไปขอต่อ ตามกำหนด แล้วงานก็หายาก ค่าใช้จ่ายสูง ถ้าคุณมาทำงานกับน้า แล้วต้องคิดถึง ค่าใช้จ่าย ค่าที่พัก ค่าสาระพัด ถ้าไม่มีคู่สมรสจริงๆ ร่วมด้วยช่วยกัน ทั้งยังมีลูกตามมาอีก รับรองว่า ไปไม่รอดแน่ค่ะ เพราะ รายได้จากการทำงานที่คุณว่า ไม่ครอบคลุม ค่าใช้จ่ายแน่ๆ แล้ว คู่สมรสลูกน้า มีงานทำหรือเปล่า สามารถให้คุณ ใช้ประกันสุขภาพ ร่วมด้วยหรือไม่ กฏหมายเยอรมัน ยุบยิบมากมาย คิดดูดีๆ แล้วกันค่ะ ลองศึกษาดู ว่าคุ้มหรือไม่ แต่ก็เห็นหลายคนทำกัน เขาก็พออยู่ได้ไปวันๆ ไม่ถึงขนาดว่า ดีมาก ทำงานหนักกันทุกคน มีสาวจ้างแต่งงานกับหนุ่มอิตาลี่ แต่อาศัยอยู่ในเยอรมัน ใช้กฏหมายอิตาลี่ ในการแต่งงาน อันนี้โชคดีไป เพราะ แต่งงานแล้วได้วีซ่าทันที 5 ปี สามารถ ทำงานได้ทั่วเชงเก้น มาถึงไม่ต้องไปเรียนภาษาเพิ่ม ก้มหน้าทำงานอย่างเดียว เก็บเงินกลับบ้าน เหนื่อยหน่อย โชคดีค่ะ พิจารณาถึงข้อดีข้อเสีย ปัญหาต่างๆให้ ถี่ถ้วนค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 13:57:48 จากคุณ : พิพพ์ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 13:56:00

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาเพิ่มเติม แต่งงานกับคนเยอรมัน คุณต้องนำเอกสารที่สถานทูต ต้องการ เป็น เอกสารทางราชการ ยกตัวอย่าง ใบเกิด ทะเบียนบ้าน สำเนาต่างๆ ไปแปล ส่งให้สถานทูต ๆ ส่งกลับให้หน่วยงานของไทย ประทับตรา รับรอง แล้วส่งไปเยอรมัน ให้ทางการเยอรมัน พิจารณา ร่วมกับคุณสมบัติ ของหนุ่มที่จะแต่งงานกับคุณ ใช้เวลานานพอสมควร รวมกับค่าใช้จ่าย แปลเอกสาร รับรอง และเมื่อ ทางการเยอรมันตรวจสอบเอกสาร อนุญาต แล้ว สถานทูตจึงจะออกเอกสารให้ไปแต่งงาน หรือให้ฝ่ายชายมาจดทะเบียน ที่ไทยได้ค่ะ สามารถเข้าไปดูได้ในเวปไซด์ สถานทูตเยอรมัน รู้สึกว่า การขอวีซ่าคู่สมรสของเยอรมัน ไม่ต้องขนเอกสารส่วนตัว รูปถ่าย การติดต่อ ไปโชว์ สถานทูตต้องการเอกสารทางราชการของผู้ขอล้วนๆค่ะ (ตามประสบการณ์ของดิฉันนะคะ) สามีดิฉันบอกว่า เยอรมัน เป็นประเทศที่บ้าเอกสารกระดาษ และมี จนท. หน่วยงานของไทย เวลาไปขอเอกสารฉับบนี้ เขาจะบอกว่า ขอไปให้สถานทูตเยอรมันใช่หรือไม่ เพราะมีแค่เยอรมันเท่านั้น ที่ต้องการใช้ ประมาณเอกสารซ้ำซ้อน โชคดีอีกครั้งค่ะ จากคุณ : พิพพ์ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 14:11:22

ความคิดเห็นที่ 10 อย่าได้แคร์ฮะ (ยืมคำพูดดีเจเจ๊แหม่มมาใช้หน่อย) ถามว่าแต่งได้ไหม ตอบว่า แต่งได้ เพราะไม่ว่าจะกฎหมายไทย หรือเยอรมัน การแต่งงานในเครือญาติ ที่ไม่ใช่พี่น้อง ท้องเดียวกัน ที่คลานตามกันมา เป็นสิ่งที่พึงทำได้ และหลายคู่ก็ทำกัน แถมไม่ใช่แค่ทางนิตินัยซะด้วย เดาเอาว่า คุณคงจะประสบปัญหาเศรษฐกิจในเมืองไทย จึงอยากจะหาลู่ทางใหม่ในเยอรมัน และน้าคุณก็คงจะแนะนำทางออกนี้ให้ เพราะเป็นการแต่งแค่ในนาม จะให้น้าหาผู้ชายเยอรมันอื่นให้ ใครจะมายอมแต่งแค่ทางนิตินัยให้ง่าย ๆ ถ้าไม่จ้างแต่งเป็นหมื่น ๆ ยูโร หรือหากหาได้ ผู้ชายคนนั้นจะดีหรือเลว เราก็ไม่แน่ใจ กว่าลายจะออก ส่วนใหญ่ก็สายไปแล้ว ส่วนคนที่มาตอบเรื่องต้องมีหลักฐานว่าเจอกันเมื่อไร มีอีเมล มีรูปถ่าย อะไร ต่อมิอะไร อันนั้น น่าจะเป็นกรณีที่จะขอวีซ่าคู่หมั้นของอเมริกาหรือเปล่า เพราะวีซ่าในการเดินทางมาเพื่อแต่งงานของเยอรมัน ทางการเยอรมันไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้หรอก สาวเจ้าได้วีซ่ามาแล้ว ในวีซ่ายังไม่ระบุเลยว่า จะต้องมาแต่งงานกับใคร บางคนขอวีซ่าได้มา เมื่อถึงเยอรมัน ก็แต่งกับชายอื่นซะงั้น ก็ยังมี ปัญหาแรกของคุณ ก็คือ คุณจะต้องไปเรียนภาษาเยอรมัน และสอบผ่านให้ได้ขั้น A 1 ก่อน ทางการเยอรมัน ถึงจะออกวีซ่าแต่งงานให้คุณ แต่ใบรับรองความรู้ทางภาษาเนี่ย เค้าก็มีข้อยกเว้นนะ ถ้าคุณจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยไทย ที่ทางการเยอรมันยอมรับ คุณก็ขอยกเว้นแล้วมาเรียนที่เยอรมันแทนได้ เพราะว่าขั้น A 1 เนี่ย อนุบาลกุ๊กไก่มาก ๆ เรียนเดือนเดียว ก็สอบผ่านแล้วล่ะ ถ้าคุณไม่หัวทึบแปดทิศจนเกินไป ส่วนเรื่องที่ว่าลูกพี่ลูกน้องของคุณจะมีรายได้ต่อเดือนเพียงพอในการรับรองการแต่งงานหรือเปล่า อะไรต่ออะไร ไม่ถามคุณตรงนี้ดีกว่า เพราะมันสาธารณะเกิน คุณหลังไมค์มาถามแล้วกัน การแต่งงานในเยอรมันไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรอก ถ้ารู้ลู่ทางและกฎหมายดี พวกที่สบาย ได้ดีไปแล้ว ก็อย่าขวางคนที่ลำบากนักเลย เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง อย่าแคร์คนอื่นมาก เวลาคุณและลูกไม่มีอะไรใส่ปาก คนนอกไม่ได้ช่วยคุณนะ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 15:03:12 จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 15:00:47

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนตัวที่แนะนำข้างบนไม่ได้อยากขวางใครเพียงแค่อยากแนะนำให้ทำให้ถูกทางแค่นั้นยุคนี้หาสามีฝรั่งให้ญาติตัวเองเยอะแยะอันนี้เราไม่ว่ากัน ชีวิตใครก็เลือกเองเพียงแต่การหาวิธีไปแบบทางลัดมันเลยเป็นผลกับคนหลังๆที่ขอวีซ่ากันยากขึ้น การทำให้มันถูกทางมันก็ย่อมดีกับทั้งสองฝ่ายไม่ใช่หรือ คนขอวีซ่าก็จะได้หนุ่มเยอรมันที่ไม่ใช่ญาติตัวเองจะได้ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ  เผื่อได้หนุ่มคนอื่นไม่แน่เขารักจริงเขาพร้อมรับผิดชอบเรากับลูกมันก็ย่อมดีกว่า หนุ่มเยอรมันอยากมีแฟนเป็นคนไทยเยอะแยะออกถ้าทำทุกอย่างอย่างถูกวิธีผลพลอยได้มันก็ย่อมกับคนขอวีซ่าต่อๆ ไป ลองเข้าไปอ่านหลายๆเว็บสิคนขอวีซ่าเยอรมันมีปัญหากันแค่ไหน  ขอวีซ่าทีตั้งหลายรอบกว่าจะผ่านหมดเงินไปเท่าไหร่ถ้าคนก่อนๆ ไม่ไปสร้างปัญหาไว้ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 16:18:35 จากคุณ : sapuknik79 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 16:11:33

ความคิดเห็นที่ 12 เอ...ตอนเราแต่งก็ไม่เห็นต้องใช้นะ ไอ้พวกรูปถ่ายคู่กัน อีเมลนับล้านฉบับเนี่ย  คือ อะไรที่แสดงความสัมพันธ์ว่าเป็นแฟนกันจริงไม่เห็นต้องแสดงเลยอ่ะ แต่ว่า...เอกสารของทั้งสองฝ่ายเนี่ย กองเป็นภูเขาค่ะ ขนาดของสามีเราใบเกิดเยอรมันแท้ๆ ศาลสั่งให้ไปขอใบเกิดใหม่ค่ะ เพราะใบเกิดเขามันนานเกินไป เขาว่ามันหมดอายุ ต้องใช้อันอับเดทที่สุด (ใบเกิดมีอับเดท เกิดมาพึ่งเคยได้ยิน เขาจะให้เกิดกี่ครั้งกันเนี่ย) ความเห็นส่วนตัวนะคะ  ถ้าคุณน้าของคุณมีกิจการอยู่ที่นี่ จะง่ายกว่าไหมถ้าทำเป็นวีซ่าทำงาน ก็ในเมื่อมีกิจการอยู่แ้ล้วนี่นา เราว่าการแต่งงานแต่ในนามนี่ถ้าคนอยู่ที่เยอรมันจะรู้เลยค่ะ ว่าไม่ง่าย และยิ่งแต่งงานในหมู่เครือญาติด้วยแล้ว โอเคค่ะ ที่เยอรมันญาติกันแต่งงานกันได้ แต่เราคิดว่าสถานฑูตเยอรมันประจำประเทศไทยจะรู้อยู่แล้วว่าการแต่งงานในเครือญาติที่เมืองไทยไม่เป็นที่ยอมรับ แล้วนี่คุณจะมาแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้อง บอกได้เลยว่า น่าสงสัยมากอ่ะ และถ้าคุณคิดจะมาทำงานที่นี่ เราบอกเลย "อย่าเอาลูกมา" เพราะคุณต้องทำงานหนักแน่ๆ แล้วใครจะดูลูก  ที่เยอรมันมีกฏหมายอยู่นะคะ ว่าเด็กไม่สามารถอยู่บ้านคนเดียวได้ แล้วยังงี้ใครจะดูลูกให้ค่ะ  จ้างพี่เลี้ยงก็เป็นเงินที่เยอะอยู่ ทำงานมาจ่ายค่าพี่เลี้ยงก็หมดแล้วล่ะ งานบางประเภทที่เยอรมันก็หาง่ายนะ  พวกงานทำความสะอาด งานทำห้องตามโรงแรมอ่ะ  แต่...เหนื่อยมาก แล้วก็เงินน้อยเพราะเท่าที่เห็นเพื่อนทำ เขาได้แบบ 350-400 ออยโรต่อเดือน เงินแค่นี้จ่ายค่า้บ้านยังไม่พอเลยค่ะ ถ้าอยากได้เยอะก็ต้องทำงานดำเพิ่ม ก็เหนื่อยเพิ่ม มันก็วนลูปกลับไปอีกว่า แล้วใครจะดูลูก เพราะเราไม่คิดว่าแต่งแต่ในนามแบบนี้ สามีจะมาช่วยเหลือจุนเจืออะไร ดีมิดีคุณต้องเลี้ยงเขาอีก (ขอโทษนะคะ ที่ต้องบอกกันแบบนี้ เพราะเท่าที่เห็นมันเป็นแบบนี้จริงๆ ส่วนใหญ่ผู้ชายจะไม่มีงานทำ ถึงรับจ้างแต่งงานเพื่อที่จะได้มีเงิน มีคนมาเลี้ยง) แล้วแต่งงานนี่ไม่ใช่แต่งแล้วจบ  เขาจะมีเ้จ้าหน้าที่แวะเวียนมาตรวจสอบ ยิ่งเขาสงสัยเนี่ยยิ่งมาถี่ค่ะ ตอนเราแต่งเจ้าหน้าที่ก็แ้จ้งไว้เลยว่าอาจจะมีมาตรวจที่บ้านนะ เขาแ้จ้งไว้แล้วค่ะ และเรื่องเรียนของลูก เราไม่ทราบว่าลูกของคุณอายุเท่าไหร่ เพราะที่นี่โรงเรียอนุบาลมันหายากมากค่ะ ต้องจองกันล่วงหน้าเป็นปีๆ  ไม่ใช่ว่าพาเดินเข้าไปสมัครจ่ายเงินแล้วเรียนได้เหมือนที่ไทย ลูกเราเองก็ต้องรอ จะมีที่ให้เข้าได้ตอนสามขวบหรือเปล่ายังไม่รู้เลย   แล้วโดยส่วนตัวเราไม่ชอบระบบการศึกษาที่นี่  เพราะคิดเผื่อไปว่าถ้าลูกเราเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งนี่แย่เลยนะ เพราะเขาตัดเด็กออกให้ไปเรียนสายอาชีพแบบนี้เลย  ไม่ให้เรียนมหาวิทยาลัยอ่ะ   เด็กที่จะเข้ามหาวิทยาลัยที่นี่ได้ต้องเก่งมากๆ  เก่งในทุกๆ สายวิชา ความเห็นส่วนตัวเมืองไทยเรายังเปิดโอกาสให้เด็กอ่ะ ไม่เก่งเลข ก็อาจเก่งภาษาอะไรแบบนี้ ก็สามารถไปเรียนในสายที่ถนัดได้  นี่คือ ตามความคิดเห็นของเรานะคะ จากคุณ : soulfighter เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 16:25:55

ความคิดเห็นที่ 13 ใครเค้าไปสร้างปัญหาอะไรไว้จ๊ะ คุณ คคห 11 ขอวีซ่าหลายรอบไม่ผ่าน เพราะโปรไฟล์ไม่ดีหรือเปล่าคุณ แล้วคุณเค้าจะขอไปแต่งแต่ในนาม มันไม่ถูกวิธีตรงไหน  ตามนิตินัยมันถูกเป๊ะ ๆ จะแย้งอะไรที่เกี่ยวกับเยอรมัน ให้เอาเนื้อกฎหมายมาพูดกัน ไม่ใช่อคติส่วนตัว หรือค่านิยมที่ติดตัวมา เพราะที่นี่คือเยอรมัน ค่านิยมไทย เอาไว้ใช้ที่คุณเกิดมาจะดีกว่า เพราะมันใช้ไม่ได้กะที่นี่ จารีตที่ผิดที่ผิดทาง ก็ไม่ต่างจากปลาหลงน้ำ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 16:28:43 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 16:27:47 จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 16:26:59

ความคิดเห็นที่ 14 ใจเย็นๆนะจ๊ะทุกท่าน  เราขออธิบายนิดนึง คือ ขอบคุณทุกๆความเห็นค่ะ เพราะทำให้เราเห็นได้หลายแง่มุม ที่เราอยากไปอยู่เยอรมัน อาจจะเหตุผลแบบไม่เข้าท่าคือ อากาศ สิ่งแวดล้อม และความเงียบสงบ.. กิจการของน้าเราทำที่บ้าน และการที่จะจ้างคนมาทำงานต้องมีรายได้เข้ามาระดับหนึ่ง เพื่อให้ได้รับอนุญาตในการจ้างคนค่ะ เราเคยไปพักอยู่ประมาณ 1 เดือน ก็เข้าไปช่วยน้าทำให้เค้าสามารถรับลูกค้าได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่อาจจะยังไม่ถึงกับได้สิทธิในการจ้างคน ส่วนเรื่องบ้าน อาหาร ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะเป็นบ้านของสามีของน้า ซึ่งรายได้เค้าค่อนข้างดี และสามีน้าก็ไม่มีปัญหาในการที่เรากับลูกจะเข้าไปอยู่ที่บ้าน เนื่องจากเค้ารักลูกเราพอสมควร ลูกชายเราอายุจะ 8 ขวบแล้ว และเราไปแบบไม่ได้นั่งนอนเฉยๆ  ตามปกติน้าเราจะอยู่บ้านเฉยๆ แต่ทำ wellness มาเพื่อแก้เซ็ง ถามว่าในแต่ละเดือน สำหรับอาหารการกิน ไม่มีปัญหาค่ะ ที่ต้องเอาลูกไปด้วย ได้รับเสียงสนับสนุนจากคนรอบข้าง และจากน้าและสามีเอง ว่าลูกเราน่าจะอนาคตดีกว่าถ้าได้ภาษาติดตัวด้วย และมาตั้งแต่เด็กน่าจะง่าย เราเองเป็น single mom มีกันแค่ 2 คนแค่นี้ค่ะ ทั้งหมดนี้เป็น information ที่เราตัดสินใจจะไป สำหรับงานที่เมืองไทยเราเป็น manager อยู่ค่ะ เงินเดือนก็มีพอเลี้ยงลูกได้ไม่ลำบากจ๊ะ สำหรับเราไม่อยากมีสามีแล้วค่ะ เลยคิดว่าวิธีการนี้น่าจะเป็นทางออก บอกตามตรงเราไม่อยากแต่งงาน และไม่อยากใช้ชีวิตร่วมกับใครค่ะ เลยไม่อยากหาคู่ตามอินเทอร์เน็ต หรือต้องสร้างความสัมพันธ์กับใคร ตอนลูกเราไปอยู่เยอรมันก็ happy มากมาย 2 คนแม่ลูก มีแต่รอยยิ้ม จนเพื่อนบอกว่าดูมีความสุขกว่าอยู่เมืองไทยเยอะเลย ซึ่งก้เป็นแบบนั้นจริงๆ เลยรู้สึกว่าอยากไปอยู่จริงจังขึ้นมาค่ะ จากคุณ : pimpatcha เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 17:14:32

ความคิดเห็นที่ 15 ขอแย้งความเห็นของคุณ soulfighter ในบรรทัดที่ 6 - 8 และเสริมต่อว่า การแต่งงาน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่ระบุอยู่ในรัฐธรรมนูญของเยอรมัน ไม่มีใครห้ามคนสองคนไม่ให้แต่งงานกันได้ในประเทศเยอรมัน ถ้าคุณไม่ใช่พี่น้อง คลานตามกันมา วีซ่าเพื่อมาแต่งงาน จะพิจารณาอนุมัติโดยกองตรวจคนเข้าเมืองเยอรมัน ประจำท้องถิ่นที่ฝ่ายคู่สมรสเยอรมันพำนักอยู่  สถานทูตไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณา เป็นเพียงผู้ประสานเท่านีั้น ยิ่งถ้าป้าของคุณเจ้าของกระทู้ เปลี่ยนนามสกุลตามสามีไปแล้ว ในพาสปอร์ต ก็ไม่มีใครรู้เข้าไปใหญ่ว่าเป็นญาติกัน เพราะอย่างที่บอก การจดทะเบียนที่เยอรมัน ตามกฎหมายเป็นเรื่องของคนสองคน บุพการีไม่เกี่ยว ถ้าทั้งสองบรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนว่างพอ จะไปขุดสำมะโนครัวฉบับปู่ย่า ตายายที่ไทย มาดูหรอกฮะ ว่าคุณเจ้าของกระทู้ กับป้าของคุณเป็นญาติฝ่ายไหนกัน และถึงจะมีใครว่างมากขนาดไปขุดมาดู ก็ไม่อาจจะห้ามการแต่งงานได้ เพราะกฎหมายให้สิทธิไว้ สามีแต่ในนามของเจ้าของกระทู้ เป็นบุคคลสัญชาติเยอรมันนะฮะ ไม่ใช่ไทย มาต่ออีกนิด เพราะเห็นคุณเจ้าของกระทู้มาตอบ เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกับใครนะ ไม่จำเป็นต้องใจเย็น หรือใจร้อนหรอก เราแค่เอาเนื้อหากฎหมายมาพูดกันในสิ่งที่ทำได้ หรือทำไม่ได้ และเราเองก็เห็นว่าหนทางที่เจ้าของกระทู้จะทำ ก็ดูปลอดภัยดี เพราะคนที่เสนอทางเลือกให้ ก็เป็นคนที่ไว้วางใจกันได้ และไม่ผิดกฎหมายใด ๆ สามารถกระทำได้ อะไรที่คุณพิจารณาแล้ว ชีวิตในอนาคตของคุณและลูกจะมีความสุขมากกว่าก็ทำไปเถอะ ในกรอบของกฎหมาย จงจำไว้ว่า เวลาคุณทุกข์ คนในเวบไม่มีใครช่วยคุณได้ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 17:26:34 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 17:22:47 จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 17:17:34

ความคิดเห็นที่ 16 ตาม ที่ จขกท.เข้ามาให้รายละเอียดเพิ่มขึ้น ก็ตัดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเช่าบ้าน ที่พัก อาหาร ประหยัดไปได้มากขึ้น เป็นการดีแก่คุณเอง เหลือแค่ พิจารณาถึง ตัวคู่สมรสของคุณ เรื่องงานที่เขาทำ สามารถ เอื้ออำนวยเรื่องประกันสุขภาพให้คุณได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ คุณก็ต้องทำงานเพิ่ม มีประกันของคุณเอง ไม่ได้ยากมากมาย ทีนี้ ก็ไปมองตรงเรื่องที่ คุณต้องเตรียมตัว เรียนภาษา สอบให้ผ่าน เอ 1 แล้วยื่นเรื่องขอวีซ่าแต่งงาน พร้อมทั้ง เรื่องนำลูกไปอยู่ด้วย ซึ่งใช้เวลาพอสมควร ลองดูค่ะ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ดิฉัน มองว่า เป็นเรื่องของญาติเกื้อกูลกัน ไม่เสียหายเพราะไม่ได้ สร้างความเดือดร้อนให้ใคร และทำทุกอย่างตามระบบ โชคดีค่ะ จากคุณ : พิพพ์ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 17:33:10

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ sapuknik79 เป็นอะไรเนี่ย พอโดนแย้งประเด็นที ก็กลับมาแก้ไขข้อความ หรือลบที่ตัวเองเขียนไว้ทุกที แล้วเขียนใหม่เหมือนไม่เคยพูดอะไรไว้อย่างที่โดนแย้ง อย่างนี้คนที่เค้าแย้งประเด็นคุณ ไม่ต้องคอยเซฟ แล้วเอามาแปะอ้างอิงหลักฐานเหรอ ไม่สปอร์ตเลยนะคะคุณ จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 18:29:15

ความคิดเห็นที่ 18 แล้วตัวลูกพี่ลูกน้องของคุณเค้าจะยอมจริงๆ หรอคะ คาดว่าคงเป็นลูกชายของคุณน้าคุณใช่มะ แต่งไปครั้งนึง เอกสารติดตัวจนตาย แล้วเค้ามีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่า แล้วเวลาเค้ารักใครขึ้นมาจริงๆ จนถึงขั้นจะแต่งงาน ต้องมาทำเรื่องหย่าวุ่นวายอีก ส่วนตัวคิดว่ามันแปลกๆ ถ้าเรามีลูก แต่อยากช่วยหลาน ยังไงเราก้อคงไม่ช่วยขนาดบังคับให้ลูกตัวเองแต่งงานกับหลาน อยู่เมืองไทยก้อไม่เดือดร้อน จะมาลำบากที่เยอรมันทำไม เงินเดือนหลังหักภาษีออกมาพูดตามตรงว่ามันก้อไม่เท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายที่เยอรมันเยอะแยะไปหมด ปล. สามีคุณน้าคุณใจดีมาก ที่อนุญาตให้พาคุณบวกลูกไปอยู่รวมด้วย เพราะปกติคนเยอรมันถือเรื่องความเป็นส่วนตัวมากๆ เรื่องอยู่รวมกันในบ้านหลังเดียวกัน หายากค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 18:35:57 จากคุณ : ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 18:31:42

ความคิดเห็นที่ 19 วีซ่าแต่งงานเยอรมันไม่ต้องมีอะไรยืนยันความสัมพันธ์นะคะตอนเราขออ่ะ ไม่ต้องมีรูป มีอีเมล์อะไรเลยอ่ะค่ะ รู้แค่นี้อ่ะค่ะ จากคุณ : asita เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 18:34:09

ความคิดเห็นที่ 20 ทักทายคุณอสิตา แก้มหนุ่มโยชัว น่าหอมน่าหยิกจริง ๆ สบายดีทั้ง 3 คนนะฮ้า :)) จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 18:37:40

ความคิดเห็นที่ 21 LIKE very much ^^ no. 13 ..... the last paragraph touchs my heart again and again ...... kri .... kri .... 555 ( make me laugh loudly again ) จากคุณ : kuchen chasli เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 19:12:59 A:138.188.100.252 X: TicketID:322214

ความคิดเห็นที่ 22 พี่ชายเป็นคนเอ่ยปากเองค่ะ แม่เค้าไม่ได้บังคับ เนื่องจากตอนอยู่เมืองไทยเราช่วยเค้าไว้เยอะมาก แล้วเค้าเองก็บอกว่ายินดีจะช่วยเรื่อง Visa สำหรับเรื่องสามีของน้าเป็นเรื่องน่าแปลกจริงๆเหมือนกัน น้ายังบอกว่าปกติฝรั่งจะไม่ชอบให้ใครมาอยู่ที่บ้าน แต่อาจจะถือว่าโชคดีที่สามีของน้ารักลูกเรามาก ตอนจะกลับเมืองไทย ก็น้ำตาซึม และบอกว่า winter นี้ให้มาอีกนะ น้าเล่าให้ฟังว่าปกติเคยมีญาติๆกันแวะมาพัก แกก็จะรำคาญแต่สำหรับลูกเราแกพาไปเที่ยว พาไปหาอะไรทำด้วยกัน ดูแกมีความสุขมากๆเช่นกัน ยังเป็นแค่ question ใหญ่ๆในใจว่า จะไปดีหรือไม่ แต่คนเราต้องเป็นไปตามชะตาชีวิต ถ้าได้ไปก็คงได้ไปอยู่ดี ถ้าไม่ได้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม ^^ จากคุณ : pimpatcha เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 19:38:04

ความคิดเห็นที่ 23 สามีของน้า จขกทเอ็นดูหลานขนาดนี้ อนาคตหลานดีแน่ๆคะ ถ้าคุณตัดสินใจมาอยู่ที่นี่ จากคุณ : STRESSI เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 21:14:08 A:91.2.83.56 X: TicketID:323912

ความคิดเห็นที่ 24 ว่าจะไม่เข้ามาแล้ว ขอเถอะค่ะ จบเถอะและก็ไม่ได้เป็นอะไร เราเข้าใจผิดเอง เราเองคบแฟนคนเยอรมันมา 3 ปีกว่าแต่ยังไม่แต่งานกันคาดว่าปีหน้าคงจะจดทะเบียนกันก่อนก็เลยหาข้อมูลเองซึ่งแน่นอนว่าเว็บนี้ไม่ใช่เว็บเดียวที่เราหาข้อมูล แล้วตลอด 3 ปีที่เราหาข้อมูลเราคงจำได้ไม่หมดว่าเราเข้าไปอ่านเว็บไหนบ้าง กี่ร้อยกี่พันเว็บ ก็เห็นแต่ละเว็บแนะนำว่าพยายามเก็บข้อมูลที่เป็นแฟนกันไว้ทุกอย่าง พอไปอ่านประสบการณ์จากคนขอยื่นวีซ่าบางกระทู้เขาก็เล่าเรื่องเอกสารที่เขาเตรียมไปหมดทุกอย่างเขาก็บอกไปว่าเหลือดีกว่าขาด แต่ก็ไม่ได้บอกว่า จนท เขาดูไหม แล้วจะให้เราเข้าใจยังไงหล่ะ ไอ้เราก็กลัวเอกสารจะขาด เพียงแต่ว่าตอนนี้แฟนเรายังไม่ได้ขอแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวเพราะเขาไม่ใช่คนรวย ขอเวลาอีกนิดถึงพร้อมจะเอาเราไปอยู่ด้วย เราก็เลยยังไม่ได้ศึกษาข้อมูลแต่งงานแบบละเอียด พอทราบคร่าวๆว่าต้องสอบ A1 ซึ่งตอนนี้เรากับแฟนก็คุยแต่เรื่องภาษาเยอรมันกันอยู่ ส่วนที่เราแก้ไขข้อมูลเพราะเรารู้ว่าเราได้ข้อมูลมาผิด เลยไม่อยากให้คนอื่นๆที่ยังไม่รู้เหมือนเราต้องเข้าใจผิดไปกับเราอีก เข้าใจหรือยังค่ะ แล้วจะต่อว่าอะไรคนผิดอีกไหม แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 22:27:14 จากคุณ : sapuknik79 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 22:21:44

ความคิดเห็นที่ 25 รูปคนแก่กับเด็กน่ารักมาก บางทีอาจเป็นวาสนาของเด็กเขาด้วยที่จะได้อยู่ในที่ๆเขาควรได้อยู่ คนอื่นๆเลยเหมือนเป็นตัวช่วยให้ไปถึงจุดนั้น ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 22:27:23

ความคิดเห็นที่ 26 ไปเรียนกลับมาก็พุ่งปรี๊ดเข้ากระทู้เลย แง้...คุณเกย่าง่ะ  อ้อมไม่ได้บอกว่าเขาไม่ให้แต่ง คือว่า คือว่า...(ติดอ่างเลยทีเดียว) อ้อมหมายความว่าเขาอาจจะสงสัยว่าอาจเป็นการจ้างแต่งไรแบบนี้ แล้วไม่อนุมัติอ่ะค่ะ   นี่คือ ความหมายที่อ้อมอยากบอก จากคุณ : soulfighter เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 22:52:54

ความคิดเห็นที่ 27 แวะกลับมาดูคนทานปูน :-)) จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 23:01:08

ความคิดเห็นที่ 28 เอิ่ม อย่าถกเถียงกันไปเลยนะคะ เราขอบคุณทุกความเห็นจริงๆ. เพราะเราได้เห็นหลายมุม การออกความเห็นย่อมตรงกันหรือไม่ตรงกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา กระทู้นี้จะมีประโยชน์กับเรามากๆเลยค่ะ ถ้าใครจะโพสต่อขอเป็นความเห็นเรื่องของเราพอนะคะ อย่าตำหนิซึ่งกันและกันเลยค่ะ เครียดน้ำท่วมเรื่องเดียวพอเนอะะะ. ^^ จากคุณ : pimpatcha เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 23:11:19

ความคิดเห็นที่ 29 อยากถามต่อนิดนะคะ ไปเมืองไหนในเยอรมัน ถ้าไม่ลำบากใจที่จะตอบ จากคุณ : พิพพ์ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 23:21:15

ความคิดเห็นที่ 30 munich ka จากคุณ : pimpatcha เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 23:28:37

ความคิดเห็นที่ 31 ปกติมากๆ สำหรับคนสูงอายุไม่ว่าชาติไหนแล้ว ชอบเด็กเล็กๆ เพราะมันช่วยคลายเครียดได้เมื่ออยู่กับเด็ก และเป็นคนรู้จักกันไม่ใช่เด็กแปลกหน้าที่ไหนที่ไปอาศัย จขกท. อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ เตรียมความพร้อม มีเอกสารพร้อม ก็แค่นั้นเอง... แต่ไปถึงมิวนิคแล้ว จะทำงานเลยนั่น "ผิดกฏหมาย" นะคะ เพราะต้องมีใบอนุญาตการทำงานก่อน... น้าของคูณนั่นแห่ละค่ะ รู้ดีกว่า รู้อยู่แก่ใจ หัวคิดคำนวณไว้หมดแล้ว เพราะเขาอยู่มานานย่อมรู้ว่า อะไรผิดหรือถูกกฏหมาย.. ถ้าเขาคิดจะให้คุณแอบทำงานก่อนจะได้รับใบอนุญาต ก็เท่ากับคิดโกงระบบกฏหมายเยอรมัน มาตั้งแต่ต้นตอนให้คุณแต่งงานหลอกกับญาตินั่นแหล่ะค่ะ... เริ่มต้นมาแบบนั้นก็จะทำหาทางสับหลีกหลบเลี่ยงกฏหมายในเรื่องอื่นๆต่อ.... ปกติคนเยอรมันไม่กล้าทำเท่าไร ที่มีทำก็กลัวๆกล้าๆ กลัวถูกแจ้งจับ... แต่คนต่างชาตินี่เก่งในเรื่องทำนองโกงหลบหลีกเลี่ยงแบบนี้ค่ะ ดิฉันไม่ทำึค่ะ เพราะรู้ว่ากฏหมายเยอรมัน มันแรงถ้าถูกจับได้ เพิ่มเติม.. ดิฉันจะไม่นำเรื่อง ของอนาคตเด็กลูกของจขกท. เข้ามาเป็นข้ออ้างนะคะ ความถูกหรือผิดกฏหมาย มันไม่เกี่ยวกับอนาคตเด็ก มันเกี่ยวกับการรู้จักช่วยกันเคารพกฏหมายในบางเรื่องก็แหกกฏกันจนคิดกันไปเองว่า ไม่ผิดอะไร เมื่อทำเพื่ออนาคตลูกของตัวเอง... หลังจากแต่งงานแล้วก็ต้องทำเรื่องขออนุญาตทำงานให้ถูกกฏหมาย... ก่อนอื่นคูณก้ต้องลงเรียนภาษาเยอรมันให้อยู่ในระดับที่ทางการรับรองได้ว่าคุณสามารถ integrate สื่อสารได้ในชีวิตประจำวัน สมมติว่าถ้าน้าคุณให้ไปทำงาน ช่วงไปถึงแล้ว คือทำโดยไม่มีใบอนุญาตแบบจ่ายสดที่เรียกว่า Schwarzarbeit จะเป็นการทำผิดกฏหมายแรงงาน ที่นับว่าผิดร้ายแรง เท่ากับหลีกเลี่ยงการเสียภาษี รัฐบาลเยอรมันมีสวัสดีการดีอยู่แล้ว แต่คนก็ยังจะฉวยโอกาหาประโยชน์เอาให้มากขึ้นด้วยวิธีการอื่นๆที่คนเยอรมันเองที่ทำงานจ่ายภาษีกันเยอะเพื่อช่วยเหลือคนที่ใช้สวัสดิการสังคม เพิ่มเติม.. อ่านจากคุณความเห็นข้างล่าง งั้นคุณจขกท. ก็เริื่มต้นทำงานได้เลย แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 00:29:01 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 00:26:23 จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 00:14:36

ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อคุณเจ้าของกระทู้ผ่านขั้นตอนการแต่งงานแล้ว วีซ่าแต่งงานที่ได้ติดพาสปอร์ตมาจากเมืองไทยก็จะถูกกากบาททิ้งไป และจะได้วีซ่าตัวใหม่ที่เรียกว่า สิทธิพำนักชั่วคราว ปกติจะได้ 3 ปี ซึ่งสิทธิพำนักตัวนี้แหละ คือใบอนุญาตการทำงานไปในตัว ไม่ต้องมีใบอนุญาตการทำงานอะไรอีก คุณคคห 31 แต่งงานกับสามีชาวเยอรมันมานานมากแล้ว และย้ายไปอยู่นิวยอร์ค ก็เลยอาจจะไม่ทราบกฎหมายต่างด้าวของเยอรมันในปัจุบัน เพราะเค้าเปลี่ยนแปลงบ่อยแทบทุกสองถึงสามปี และใบอนุญาตการทำงานสำหรับคู่สมรสต่างด้าวก็ถูกยกเลิกไปนานมาก ๆ แล้ว ขำคุณจขกท ที่กังวลเหลือเกินว่าทะเลาะกัน มองให้มันขำสิฮะ จะมองให้มันร้อนไปทำไมล่ะ อากาศออกจะเย็นสบาย เราแค่เข้ามาแก้ไขความเข้าใจของคนที่รู้ไม่จริง หรือรู้ไม่หมด ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 00:24:47

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณค่ะ ที่ตอบคำถาม ถ้าคุณผ่านกระบวนการแต่งงานแล้ว ได้วีซ่าแล้ว ทุกวันนี้ ในตัววีซ่า ระบุไว้เลยค่ะ ว่าสามารถทำงานได้ ไม่ต้องไปขอใบอนุญาตทำงาน เหมือนวีซ่าสมัยก่อน ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : พิพพ์ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 00:27:17

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณค่ะ คุณเกย่า ใช่.... ไม่ทะเลาะกันนะคะ เป็นแค่แลกเลปี่ยนความคิดเห็นกัน คนไทยส่วนมาก มักมองไปว่าเมือ่มีความเห็นต่างกันแล้วจะเป็นการทะเลาะกัน จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 00:27:50

ความคิดเห็นที่ 35 อีกอย่างการที่คนเราจะตีขลุม หรือด่วนสรุปว่า คนเยอรมันเป็นอย่างนั้น คนต่างชาติเป็นอย่างนี้ โดยไม่มีหลักฐานทางสถิติอ้างอิงนั้น ในทางวิชาการแล้ว ถือเป็นข้อมูลที่มองจากแว่นตาของปัจเจกบุคคล ซึ้งไม่พึงจะเอามาเป็นข้อมูลอ้างอิงอะไรได้ การพูดจาทำนองนี้ เป็นสิ่งที่อันตรายมาก ถ้าหากมีคนเกิดหลงเชื่อตาม หรือมองตามแว่นสายตาของผู้พูด เพราะแต่ละคน สายตาสั้น ยาว ไม่เท่ากัน ในห้องเฉลิมไทย เราจึงมักจะเห็นคำว่า "ความเห็นส่วนตัว" เสมอ เวลาผู้พูดจะแสดงทรรศนะอะไรออกมา ในบอร์ดสาธารณะ เนื่องจากข้อมูลที่ออกจากตัวเรา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งผู้ที่ไม่มีความรู้ถึง อาจจะเข้าใจผิดพลาดได้ เพราะเมื่อมีผู้รู้ไม่ถึงหนึ่งคน พูดความเห็นที่ไม่มีนัยยะทางสถิติออกไป แล้วมีผู้รู้ไม่ถึงพากันเชื่อตาม ก็จะก่อให้เกิดกลุ่มผู้รู้ไม่จริงขึ้นเป็นจำนวนมากในสังคม ทำให้เกิดมายาคติตามมาอีกมาก สิ่งที่โปรเฟสเซอร์เยอรมันสอนเราอยู่ตลอดและจำได้แม่นยำก็คือ อย่าเอาสิ่งที่ตัวเองเห็นผ่านแว่นตากรอบแคบ ๆ ของตัวเอง ไปตู่ว่า ส่วนใหญ่ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ ตัวคุณได้ทำการสืบค้นและทดลองหาข้อมูลที่เชื่อถือได้เพียงพอแล้วหรือยัง หรือสักแต่ว่าพูดออกไป เพราะตัดสินผ่านสายตาแค่คู่หนึ่งของคุณ เป็นความคิดที่ไม่ได้ตกผลึก แต่เป็นแค่ตะกอน สวัสดี แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 00:44:14 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 00:40:09 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 00:39:22 จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 00:36:36

ความคิดเห็นที่ 36 ตอบคำถาม จขกท ว่าทำได้ค่ะ แต่ขอเตือนนิดเดียว คิดจะทำอะไร ให้คิดหลายๆชั้น ว่า วันนึงข้างหน้า จะไม่เสียใจกับการตัดสินใจในวันนี้ ต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าชีวิตที่เมืองไทย มันรันทดแสนสาหัส ไม่สามารถจินตนาการได้ว่า จะมีอะไร ที่มันย่ำแย่ไปกว่านี้ ก็ไปเถอะค่ะ "เผื่อ" ว่าชีวิตใหม่ ที่เยอรมัน จะมีอะไรดีขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าชีวิตที่เมืองไทย ไม่ถึงกับรันทดอย่างชนิดแสนสาหัส อิฉันไม่สนับสนุนค่ะ เพราะ เมื่อทำอะไร ที่ไม่ตรงไปตรงมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผูกพันทางกฎหมายแล้ว มันแก้ยาก เราไม่รู้ว่าอนาคต จะมีอะไรเกิดขึ้น ปมต่างๆ มันจะย้อนมาสร้างความยุ่งยากให้เราไม่มากก็น้อยค่ะ จากคุณ : letsgokrabi เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 01:17:41

ความคิดเห็นที่ 37 น่ายินดีแทนเจ้าของกระทู้จริง ๆ มีคนจริงใจให้ความเป็นห่วงล้นหลาม ก็หวังว่าความจริงใจที่ทุกคนหวังดี จะเป็นพรอันประเสิรฐให้เจ้าของกระทู้ได้ประสบความสุขในเยอรมันนะฮะ เชื่ออย่างหนึ่งว่า ถ้าเราคิดดี ทำดี ต่อผู้อื่น ความดีก็จะตอบแทนเรา จิตที่ใฝ่ดี ผลก็จะออกมาดี จิตอกุศล ถึงแม้คำพูดดูดี ผลก็จะร้ายต่อเจ้าของจิตนั้น กฎหมายมีไว้คุ้มครองเรา ไม่ใช่ให้โทษ ถ้าเราเล่นอยู่ในกรอบ จำไว้นะฮะ :))) จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 01:37:54

ความคิดเห็นที่ 38 แอบมาเซย์ไฮ เกย่านะคะ สบายดีกันหมดทุกคนเลยอ่ะค่ะ ขอบคุณนะคะที่ถามไถ่ คุณเกย่าเป็นไงบ้าง ไม่ได้เห็นกันนานมากเลยอ่ะ จากคุณ : asita เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 01:43:26

ความคิดเห็นที่ 39 จขกท.เป็น ซิงเกิ้ลมอม เลี้ยงลูกคนเดียว คงเหนื่อย เลยอยากอยู่กับญาติ เอาเถอะค่ะ เลือดข้นกว่าน้ำอยู่แล้ว ถ้าไปแล้ว ก็ทนๆเอา สามปีได้วีซ่าถาวร ก็หย่าซะจะได้ไม่มี พันธะทางกฏหมาย หย่ากับสามีไทยก็หย่าแล้ว หย่ากับสามี ตามกฏหมายจะเป็นไรไป หรือถ้าเกิดมันไม่เข้าท่า ไม่แฮปปี้ ก็กลับบ้านเรา เพราะเห็นว่า ไม่ลำบากอะไรนัก พอเลี้ยงลูกได้อยู่ อย่าไปทดท้อกับชีวิต คิดเสียว่า เป็นโรงละคร บางทีก็เล่นบท นางเอกบ้าง บทอื่นๆ ที่ไม่ถูกใจบ้าง ชีวิตมันสั้นนัก ไม่ยืนยาว นักหรอก มีโอกาสก็ลอง ลองผิดลองถูก ดีกว่าไม่ได้ลอง แล้วจะเสียใจ ที่พลาดโอกาสไป แล้วเราก็ไม่ได้ ไปทำความเดือดร้อนให้ใครที่ไหน เราทำตามกฏหมายทุกอย่างไม่ได้ไปโกงกิน ชาติบ้านเมืองหรอก แค่คิดเอาตัวรอด ตามประสา ปุถุชน คนเดินดินธรรมดา เผื่อใน วันข้างหน้า อาจจะเจอความสุข มากกว่าวันนี้ที่เป็นอยู่ก็ได้ ดิฉันเข้าใจคุณว่า คิดยังไง เอาเป็นว่า เอาใจช่วยแล้วกันค่ะ จากคุณ : พิพพ์ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 01:48:20

ความคิดเห็นที่ 40 ก็เพิ่งไปแถว ๆ บ้านอสิ มาล่ะ ประมาณเดือนนึงละ ระลึกถึงอยู่ แต่ตอนนั้นอยู่บนรถไฟ Regio อะ ก็เลยไม่มีไวไฟให้ส่งข้อความไปให้ต๊กกะใจเล่น จะว่าไปโยชัว ก็เป็นลูกครึ่งเหมือนกันนี่ อสิจะให้แต่งกะเกย่ามะ ในอนาคต เอิ๊ก ๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 01:50:39 จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 01:49:16

ความคิดเห็นที่ 41 ป๊าดดดดดด เกย่า จะหมั้นไว้เลยมั้ยเนี่ย ฮ่วย มาแถวๆนี้น่าจะแว๊บมาเลี้ยงลูกให้หน่อย แม่มันจะได้ไปช้อปปิ้ง 5555 จากคุณ : asita เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 01:54:32

ความคิดเห็นที่ 42 จะเลี้ยงให้ทั้งพ่อทั้งลูกเล้ย แม่ไปช้อปข้ามวัน ข้ามคืนยังได้ ei ei ei ei  :-P จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 01:58:36

ความคิดเห็นที่ 43 เรามองไปถึงประเด็น เรื่อง"บุญคุณ" และ"รบกวน"คนอื่นนะ ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ........ - การที่มีผู้มีพระคุณ ที่ไม่ใช่พ่อแม่ สำหรับเราแล้ว เราพยายามหลีกเลี่ยง เพราะถ้าเค้ามีพระคุณ ถ้าเกิดวันนึงเค้าขอให้ทำอะไรให้ หรืออยากได้อะไรจากเรา ถ้าเราอยากปฏิเสธมันก็เป็นเรื่องยาก เพราะเขาคือผู้มีพระคุณ ถ้าเป็นเรื่องดี ก็ดีไป แต่ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี มันจะเป็นเรื่องเนรคุณเข้ามาแทน ถ้าเราปฏิเสธที่จะช่วย - เราว่าอยู่ไปนานๆ อาจจะลำบากใจทั้งสองฝ่าย ทำอะไรก็ไม่สะดวกใจ น้าอาจหึง สามี กับคุณจขกท ขึ้นมาซักวัน ที่ผ่านมา และ ณ ตอนนี้ อาจยังไม่เกิด(หรืออาจจะไม่เกิดเลยก็ได้) แต่ใครจะรู้อนาคต ที่ผ่านมาครอบครัวน้าเคยอยู่ด้วยกันแบบอิสระ แล้วพอมีคนอื่นมาอยู่ด้วย กิจกรรมในบ้านก็ต้องเปลี่ยน ใหม่ๆอาจไม่เป็นไร รับได้ แต่ถ้าผ่านไปนานๆ ความรู้สึกอาจเปลี่ยน หรือคุณมีแผนจะแยกมาอยู่เอง ถ้าพอจะดูแลตัวเองและลูกได้ .....ส่วนตัวเรา เราเป็นคนขี้เกรงใจคน ถ้าต้องมีคนอื่น มาทำโน่น ทำนี่ให้ หรือช่วยเหลือ วิ่งเต้น นูุ่นนี่ให้เรา เราไม่เอา ถึงแม้จะเป็นญาติสนิท ถึงแม้เค้าจะเต็มใจ อย่างจริงใจก็ตาม .... แค่ความเห็น และความรู้สึกส่วนตัว ไม่ใช่ไกด์ ใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณจขกท เท่านั้นค่ะ จากคุณ : BluemirroR เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 03:36:58

ความคิดเห็นที่ 44 รูปในคห. 22 น่ารักดีค่ะ ดูสามีน้าคุณจะเอ็นดูลูกคุณอยู่ไม่น้อย แต่... การมาเที่ยวกับการมาใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศไม่เหมือนกันค่ะ ประเทศเยอรมันไม่ใช่ดินแดนแห่งโอกาสเหมือนกับสหรัฐอเมริกา และไม่ได้เป็นประเทศที่ต้อนรับคนต่างชาติให้มาตั้งรกรากเหมือนกับออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ เรื่องการสอบ A1 คิดว่าคุณคงทำได้ เพราะเป็นการสอบขั้นพื้นฐานจริง ๆ แต่เมื่อมาถึงที่นี่แล้วคุณอาจจะต้องไปเรียนคอร์สภาษาที่เรียกว่า Integrationskurs 600 กว่าชม.จนจบระดับ B1 (จ่ายเองชม.ละ 1 ยูโร ส่วนจำนวนชม.ที่แน่นอนดิฉันไม่ทราบค่ะ เพราะเรียนจบมหาวิทยาลัยที่นี่ เลยไม่ได้เรียนคอร์สนี้) โดยเจ้าหน้าที่จะพิจารณาจากวุฒิการศึกษาของคุณจากเมืองไทย ว่าจำเป็นต้องเรียนคอร์สนี้หรือไม่ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะไม่บังคับให้คุณเรียน แต่ถ้าคุณต้องการขอวีซ่าถาวรหลังจากแต่งงานไปแล้วสามปี บางเมืองจะขอดู Certificate การสอบ B1 ด้วย เรื่องการขอสัญชาติ คุณสามารถทำได้หลังแต่งงานไปแล้วสามปี โดยต้องสอบ Einbürgerungstest ( http://www.welt.de/vermischtes/article204450/Einbuergerungstest_100_Fragen_100_Antworten.html ) ไม่ใช่แค่แต่งงานกับคนเยอรมันเฉย ๆ ในคห.ที่ 14 ที่คุณจขกท.บอกว่า "กิจการของน้าเราทำที่บ้าน และการที่จะจ้างคนมาทำงานต้องมีรายได้เข้ามาระดับหนึ่ง เพื่อให้ได้รับอนุญาตในการจ้างคนค่ะ เราเคยไปพักอยู่ประมาณ 1 เดือน ก็เข้าไปช่วยน้าทำให้เค้าสามารถรับลูกค้าได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่อาจจะยังไม่ถึงกับได้สิทธิในการจ้างคน" ดิฉันทำงานอิสระ (แปลเอกสารทางเทคนิคให้กับบริษัทแปลในยุโรปและบริษัทเยอรมันที่จะส่งสินค้าไปไทย) ส่งงานให้คนอื่นทำบ่อย ๆ ในอนาคตอยากจ้างคนมาทำงานเกี่ยวกับเอกสารสักคน เลยเคยหาข้อมูลเรื่องการจ้างคนไว้ ดิฉันยังไม่เคยได้ยินว่าคุณต้องมีรายได้เข้ามาในระดับหนึ่ง ถึงจะจ้างคนมาทำงานได้ค่ะ ที่น้าคุณไม่อยากจะจ้างคนก็คงเพราะนอกจากจะต้องจ่ายเงินค่าจ้างแล้ว ยังต้องจ่ายประกันสุขภาพและจ่ายเงินเข้ากองทุนบำนาญให้กับลูกจ้าง (นายจ้างต้องจ่ายครึ่งหนึ่ง) ซึ่งในแต่ละเดือนไม่ใช่เงินน้อย ๆ  อ่านดูแล้วเหมือนกับว่าน้าอยากให้คุณไปช่วยทำงานแบบมืด จะได้ประหยัดค่าจ้างคนอื่น แถมไม่ต้องจ่ายประกันสังคมให้คุณด้วย  ถ้าน้าอยากช่วยคุณจริง ๆ ก็น่าจะขอ Work permit ให้คุณนะคะ (แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากและขั้นตอนยุ่งยากกว่าการแต่งงาน) ถ้าคุณตัดสินใจแต่งงานและพาลูกมาอยู่ที่นี่ ดิฉันคิดว่าคุณคงไม่อยากจะพึ่งน้าและครอบครัวของน้าไปตลอด  และคุณเคยทำงานเป็นถึงระดับ Manager คงไม่อยากจะใช้ชีวิตที่เหลือมาทำงานนวดหรือ Wellness แน่ ๆ นอกจากนี้ถ้ากิจการของน้าคุณมีปัญหา (ไม่ได้แช่งนะคะ แต่เท่าที่เห็นมากิจการร้านอาหารหรือร้านนวดของคนไทยมักอยู่ได้ไม่นาน) คุณจะทำอย่างไร ถ้าภาษาไม่ดีละก็หางานแทบไม่ได้เลยค่ะ ดิฉันเคยไปสอนภาษาไทยให้เด็กลูกครึ่งและเด็กที่ติดตามมารดามาอยู่เยอรมัน มีเด็กไทย (ที่ติดตามมารดามา) จำนวนน้อยมาก ที่สามารถสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย (Abitur) และเข้ามหาวิทยาลัยได้ เพราะไม่มีใครเคี่ยวเข็ญ แม่พูดเยอรมันไม่ได้หรือพูดได้ไม่ดี ส่วนพ่อเลี้ยงก็ไม่ใส่ใจ เพราะไม่ใช่ลูกตัวเอง เด็กที่ติดตามมารดามาส่วนใหญ่จึงไม่สามารถผ่านเข้าไปเรียนโรงเรียน Gymnasium (รร.มัธยมสำหรับเด็กที่จะเข้ามหาวิทยาลัย) ได้ ต้องไปเข้าเรียนรร. Realschule (รร.สายอาชีพ ซึ่งก็ไม่ได้ง่ายสำหรับเด็กที่เกิดและโตเมืองไทย) บางคนไม่สามารถเข้าเรียน Realschule ได้ ต้องไปเข้า Hauptschule (รร.สายอาชีพเช่นเดียวกับ Realschule แต่มักเป็นที่รวมของเด็กมีปัญหาที่ไม่สามารถเข้า Gymnasium และ Realschule ได้) บางคนแม้แต่ Hauptschule ก็เรียนไม่ได้ เพราะใจแตกเสียก่อน เนื่องจากในครอบครัวไม่มีใครคอยควบคุมดูแล ดิฉันเคยไปสอนเด็กอยู่คนหนึ่ง เด็กปฏิเสธไม่ยอมรับความเป็นไทย พอถามว่าทำไม เด็กกลับพูดดูถูกแม่ตัวเองว่าไม่อยากเป็นอย่างแม่ แม่พูดภาษาเยอรมันไม่เก่ง  น้อง ๆ ลูกครึ่งที่ดิฉันรู้จัก ที่สามารถผ่านเข้าไปเรียน Gymnasium ได้จนจบ Abitur จะมีแม่หรือพ่อที่เข้มงวดเรื่องเรียน และคอยเคี่ยวเข็ญอยู่เป็นประจำ  ถ้าคุณจะพาลูกไปอยู่ด้วย คุณหรือคนในครอบครัวต้องแน่ใจว่ามีเวลาคอยดูแลเด็ก และเคี่ยวเข็ญเด็กในเรื่องการเรียนได้ เพราะโรงเรียนที่นี่ไม่เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ถ้าลูกคุณมีผลการเรียนไม่ดี ก็ต้องไปเข้ารร.สายอาชีพและไม่ได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ถ้าคุณตัดสินใจแต่งงานและมาอยู่ที่นี่จริง ๆ ก็แนะนำให้คุณเรียนภาษาให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ จะได้ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น และจะได้ค้นหาข้อมูลเรื่องสิทธิที่คุณพึงได้เมื่อมาอยู่ประเทศนี้ ไม่ใช่เชื่อแต่ในสิ่งที่คนอื่นบอก มีหลายรายแล้วที่ญาติหรือคนกันเองหลอกกันค่ะ โชคดีค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 06:54:44 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 06:52:29 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 06:32:30 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 06:25:03 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 06:24:03 จากคุณ : Sonnenschein เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 06:21:19

ความคิดเห็นที่ 45 น่าแปลกใจว่าเยอรมันไม่ต้องการหลักฐานความสัมพันธ์ใดๆนึกว่าเป็นหลักสากลทั่วไป ขออภัยถ้าทำให้ใครๆเข้าใจผิดไปค่ะ โชคดีค่ะ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 07:45:33

ความคิดเห็นที่ 46 แล้วในใบเกิดมันต้องระบุนามสกุลเก่าแม่นะคะ นามสกุลของแม่ จขกท ต้องไปตรงกับ น้า ถูกหรือเปล่าคะ แล้วใบเกิดของลูกชายน้ามีระบุนามสกุลเก่าแม่หรือเปล่า อันนี้เราไม่รู้ค่ะ ตอนนั้นก็คงจะทำให้สถานฑูตรู้ว่าเป็นเครือญาติกัน โชคดีมีชัยค่ะ จากคุณ : นภันต์-สุดขอบฟ้า เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 14:23:55

ความคิดเห็นที่ 47 ขอเสริมเรื่องการเรียนภาษา  Integrationskurs หน่อยนะคะ   ไม่เสมอไปที่ว่าการเรียนภาษาคอร์สนี้ผู้เรียนจะต้องจ่ายค่าเล่าเรียนชั่วโมงล่ะ 1 ออยโร เป็นจำนวน 600 ออยโรค่ะ อย่างในเคสของเรา เราจ่ายเป็นโมดุล  โมดุลล่ะ 10 ออยโร  (รวมแล้ว 90 ออยโรจาก 9 โมดุล) ของเราเรียนกับ AWO ที่นี่บังคับเรียน 900 ชั่วโมงค่ะ ภายใน 9 โมดุลนี้เรียนจากเล่ม 1-6 เสร็จแล้วสอบ B1 (ระหว่างเรียนทั้ง 6 เล่ม จะมีสอบ A1 A2 แล้วจบด้วย B1) ถ้าสอบไม่ผ่านจะสามารถใช้เวลาที่ยังเหลือในโมดุล เรียนทบทวนได้อีกหนึ่งรอบ เรียนได้เท่าจำนวนเวลาที่เหลืออยู่ของแต่ละคน แล้วสามารถสอบ B1 ได้อีกรอบโดยก็ยังเสียค่าเล่าเรียนแค่โมดุลล่ะ 10 ออยโรอยู่ แต่ถ้าหากเรียนไปจนครบ 900 ชั่วโมงแล้วก็ยังสอบไม่ผ่าน ถ้าจะเรียนต่อทีนี้ต้องเสียโมดุลล่ะ 100 ออยโรล่ะค่ะ อ้อ...ใน 900 ชั่วโมงนี้ครอบคลุมไปถึง orientierungskurs ด้วยนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เรียนจะได้รับอนุมัติให้จ่ายค่าเรียนแบบนี้ก็ต่อเมื่อ ครอบครัวเป็นผู้มีรายได้น้อยค่ะ อย่างเราสามีทำงานคนเดียว มีลูกอีกหนึ่งคน ทางอัมส์คำนวนรายได้แล้วอยู่ในเกณฑ์ เราก็ได้รับอนุมัติค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันก็ได้รับอนุมัติแบบนี้ทั้งสิ้น โดนไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคู่สมรสของชายหรือหญิงเยอรมันเท่านั้น จากคุณ : soulfighter เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 15:16:36

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นด้วยกับหลาย ๆ คห.ค่ะ ขอเอาใจช่วยให้คุณจขกท.ประสบความสำเร็จนะคะ ความเห็นต่อไปนี้ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่จขกท.อยากทราบ (เรื่องแต่งได้หรือไม่ได้) แต่เราอยากแชร์เฉย ๆ ค่ะ หากเรามองโลกในแง่ร้ายไปก็ขอโทษด้วยค่ะ ส่วนตัวเราเห็นด้วยกับประเด็นทำงานมืดของคุณ JidNince (ตัดไอ้เรื่องกระดาษทำงานทิ้งไป ไม่เกี่ยวค่ะ) และประเด็นท้ายของคุณ Sonnenschein เราไม่คิดว่าน้าของคุณจะบรรจุคุณเป็นพนักงานนวดเป็นเรื่องเป็นราวหรอกค่ะ (ที่เสียภาษีถูกต้องและประกันทั้งหลายแหล่) เพราะคุณมีวีซ่าแต่งงานรองรับไว้แล้วไงคะ เราได้ยินมาเกี่ยวกับหนุ่มเยอรมันหลาย ๆ คนแต่งงานกับชาวต่างชาติ เพื่อประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี ยิ่งภรรยามีลูกติดด้วยขอเงินเด็กได้อีก บางคนถึงกับแจ้งตกงานกลายเป็นคนไม่มีรายได้ และขอเงินรัฐบาลกิน (แต่จริง ๆ แอบทำงานมืดทั้งคู่) และถ้ากรณีคุณเข้าข่ายที่ว่า ก็แสดงว่าทั้งสองฝ่ายได้ทั้งคู่ค่ะ เค้าไม่ได้เป็นฝ่ายช่วยคุณถ่ายเดียว ไม่ใช่ไรหรอกค่ะ เพลียใจน่ะคะ เราทำงานเสียภาษีให้กับระบบเยอะ (เจอภาษีเบอร์ห้าค่ะ) รวมค่าประกันทั้งหลายแหล่โดนหักไปครึ่งนึงของเงินเดือน หันไปมองรอบข้าง ร้านนวดหลายแหล่รวมทั้งร้านอาหารไม่จ้างคนทำงานมืดก็จ้างแบบไม่เต็มเวลาพอเป็นพิธี (แต่จริง ๆ ทำมันสองกะเลยก็มี) บางคนขอเงินรัฐบาลกินควบคู่ไปอีก ขอโทษนะคะนอกเรื่องไปไกล ทั้ง ๆ ที่ไม่เกี่ยวกะหัวข้อกระทู้เล้ย จากคุณ : Schnuckiputz เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 16:02:53

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ Schnuckiputz ต้องจ่ายเบอร์ 5 ก็เพราะว่า สามีซึ่งรายได้มากกว่า ขอเบอร์ 3 ไปแทนไม่ใช่เหรอฮะ คือในกรณีคู่สมรสของเยอรมัน คนไหนที่รายได้มากกว่า ทางกฎหมายก็จะอนุญาตให้ จ่ายภาษีน้อยกว่าเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็น ยกตัวอย่างสมมุติให้เข้าใจง่าย ๆ สามีทำงานได้เดือนละ 3000 ยูโร ก็เลือกจ่ายเบอร์ 3 (ประมาณ 30 เปอร์เซ็นของรายได้) ในขณะที่ภรรยารายได้ 1000 ยูโร ก็เลือกจ่ายเบอร์ 5  (ประมาณ 50 เปอร์เซ็นของรายได้) โดยสามีและภรรยา สามารถเลือกได้โดยสมัครใจว่า ใครจะจ่ายเบอร์ 3 หรือ 5 แต่ปกติ ใครที่รายได้มากกว่า ก็จะเอาเบอร์ 3 ไป เพราะเมื่อเอาเงินสามี และภรรยารวมกันหลังหักภาษี ก็จะเหลือรายได้มากกว่า บางทีคนที่จำต้องทำงานมืด อาจจะไม่โชคดี มีสามีที่เงินเดือนมาก ให้มาขอแชร์ภาษีเบอร์ 3 เหมือนคุณ Schnuckiputz ก็ได้นะฮะ :)) จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 16:27:41

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้า ฝ่ายชายตกงานตอนนี้ แต่งงานไม่ได้แน่ วีซ่าแต่งงานไม่ผ่าน และเมื่อแต่งไปแล้ว รายได้ ฝ่ายชายไม่ถึงเกณฑ์ วีซ่าฝ่ายหญิง อาจจะได้คราวละ หกเดือน หรือ หนึ่งปี วีซ่าถาวรเลิกคิดได้เลย ตอนนี้ รัฐบาลเข้มมากขึ้นกับคนตกงาน ตัดความช่วยเหลือไปเรื่อยๆ และต้องไป ทำงาน ชมละ 1 ยูโร เพื่อแลกกับรับเงินช่วยเหลือ ถ้า ไม่ไปตามนั้น เขาก็งดเงินช่วยเหลือไป และส่วนมากคนได้ประโยชน์ เงินตกงาน ส่วนใหญ่ ไม่ใช่เยอรมัน ที่มีเมียต่างชาติหรอกค่ะ ตุรกีหรือ ประเทศใกล้เคียงจากแถบนั้น ทั้งนั้น เข็นลูกยั้วเยี้ย ดิฉันเห็นตัวอย่าง สาวไทยแต่งกับหนุ่มลาว สาวไทยทำงานงกๆ ถูกต้อง เงินเดือนแค่พอถูไถค่าบ้านค่ากิน เพราะหนุ่ม ตกงาน รัฐช่วยเงินบ้าง พอให้ไปทำงาน 1 ยูโร ฝ่ายชายไม่ไป รัฐหยุดให้เงิน ฝ่ายหญิงมีงานทำ แต่ต้องต่อวีซ่าทุกหกเดือน จขกท.คงจิตตกไปเลย เพราะมีแต่ข้อมูลโหดร้าย ฮ่าๆๆ แต่อย่าคิดมาก เรื่องของเราอาจจะไม่เหมือนเขาก็ได้ ดวงใครดวงมัน บางทีหาที่ลงไม่ได้ ก็โยนให้โชคชะตาบ้างจะเป็นไรไป. จากคุณ : พิพพ์ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 16:53:04

ความคิดเห็นที่ 51 เก่งๆกันทั้งนั้น.. จากคุณ : Dearz เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 17:34:50

ความคิดเห็นที่ 52 อืมๆๆๆ จะตอบว่าไงดี ตอนนี้มีกฎที่ว่าถึงแม้คุณจะได้วีซ่าถาวรแต่วีซ่านั้นก็สามารถถูกกอนได้ค่ะ อันนี้ไม่แน่ใจ รัฐบาร์เยิ์น เป็นรัฐที่ให้วีซ่ายากโคตรเซ็งเลย กฎหมายจะเข้มกว่าที่อื่นค่ะ ก็ขอให้โชคดีละกัน แต่ต้องอยู่ที่นี่ 5ปีถึงจะได้วีซ่าถาวรนะค่ะ ไม่ใช่ 3ปี จากคุณ : ชมพู่ ณ.กระท่อมน้อยปลายนา (mimimomon) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:08:07

ความคิดเห็นที่ 53 นี่เราจะต้องมาคอยแก้ข้อมูลบิดเบือนของท่านที่รู้ไม่จริงอีกสักกี่ครั้งกันหนอ (เกย์สาวทำตาปริบ ๆ รำพึงรำพันกับตัวเอง พลางถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนทาเล็บต่อ) ข้อมูลของคุณ คคห 52 ไม่ถูกด้องนะฮะ บุคคลต่างด้าวที่มีคู่สมรสเป็นชาวเยอรมัน สามารถได้วีซ่าไม่จำกัดอายุ (เลิกเรียกว่า ถาวรเหอะ) หลังจากแต่งงานเป็นเวลา 3 ปี   อ้างอิงจาก เวบของเมืองนืนแบร์ก ซึ่งก็อยู่ในรัฐ บาเยิน นั่นแหละ Kürzerer Besitz der Aufenthalterlaubnis In besonderen Fällen kann die Niederlassungserlaubnis bereits bei kürzerem Besitz der Aufenthaltserlaubnis oder sogar als erster Titel nach der Einreise erteilt werden. Nach etwa drei Jahren für:    ausländische Ehegatten von Deutschen    erfolgreiche selbständig Tätige    Asylberechtigte, wenn keine Voraussetzungen für Widerruf oder Rücknahme der Asylberechtigung vorliegen http://www.nuernberg.de/internet/einwohneramt/niederlassungserlaubnis.html แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 19:26:37 จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:25:51

ความคิดเห็นที่ 54 ข้อมูลคุณเกย่า แน่นปึ้ก และได้ความรู้จริงๆ ครับ ขนาดไม่สนใจไปใช้ชีวิตในเยอรมัน ยังอ่านได้เพลินเลย ^^ จากคุณ : Mr. Polar Bear เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 22:47:58

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณคุณเกย่าที่มาแชร์ค่ะ (ในคห.๔๙) เราทราบค่ะเรื่องทำไมเราได้ภาษีเบอร์ห้า และทำไมคู่สมรสอื่นถึงได้เบอร์ ๔ กับ ๔ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เราอยากสื่อค่ะ เราแค่ยกตัวอย่างเฉย ๆ แต่ที่มาเขียนเพราะเพียงแต่อยากระบายทีคนบางคน (โดยเฉพาะชาวต่างชาติ) เข้ามาทำงานโดยเลี่ยงภาษี ซึ่งของงี้จะไปโทษคนที่มาไม่ได้ (ก็บางประเทศเค้าไม่มีระบบนี้คนต่างชาติจะทราบได้ไง จริงมั้ยคะ) แต่คนที่ชวนมาต่างหากที่ไม่บอกรายละเอียด เพื่อประโยชน์ของกระเป๋าตัวเองแค่นั้นล่ะค่ะ ไม่ใช่ไรหรอก พอไป ๆ รัฐเริ่มกระเป๋าฉีกก็มาเก็บค่าโน่นค่านี้เพิ่ม (ล่าสุดก็ประกันสุขภาพ) แล้วก็ลดสวัสดิการบางอย่าง นี่จะเพิ่มอายุเกษียณทำงานอีกแล้ว หลังจากที่เลื่อนมาแล้วโดยให้ทำงานถึงอายุ ๖๗ (สำหรับผู้ชาย) ก็ว่ากันไปค่ะ นอกเรื่องอีกแล้ว อิ ๆ ไม่ได้ช่วยอะไรจขกท.เล้ยเรา แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 54 00:16:00 จากคุณ : Schnuckiputz เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 00:15:09

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามาอ่านอยู่เรื่อยๆเมื่อได้โอกาส ถึงจะไม่คิดที่จะไปอยู่ที่นั่นแต่อ่านแล้วได้ความรู้ดี ก็อ่าน กม เยอรมันก็คล้ายเมกาหลายอย่างที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ต้องคอยอัปเดทไปตามแหล่งความรู้ที่หาได้ ดูๆแล้วก็เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็เหมือนว่าอยู่ยากขึ้น ลำบากลำบนมากขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นไป นี่ไม่ได้ช่วยอะไรคุณ จขกท เลยนะ เข้ามาบ่นๆเหมือนยายแก่ แล้วก็ออกไป โทษที จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 01:28:03

ความคิดเห็นที่ 57 คุณ Mr. Polar Bear เลี้ยงน้องหมาไซบีเรียน ฮัสกี้ เหมือนเราเลยฮะ :)) จากคุณ : เกย่า เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 01:29:48

ความคิดเห็นที่ 58 ถูกใจ คคห.10 มาก   โดยเฉพาะ 2 บรรทัดสุดท้าย จากคุณ : Techie เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 05:25:45

ความคิดเห็นที่ 59 ดิฉันก็เคยทำงานเสียภาษีพร้อมกับรับเงินจากรัฐบาลไปด้วยคะ สถานภาพหย่าและอยู่กับลูกสองคน -.- จากคุณ : STRESSI เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 02:00:35 A:91.2.48.156 X: TicketID:323912

ความคิดเห็นที่ 60 คุณเกย่า ตอบได้ตรงและมีเหตุผลมีข้อมูลแน่นปึ้กมากค่ะ ชื่นชมค่ะ จากคุณ : น้องจุ่น เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 54 17:25:52