ความคิดเห็นที่ 1 บทสัมภาษณ์ เป็นประสบการ์ณจริงล้วนๆ ของเด็กนักเรียนไทย คนหนึ่ง ซึ่งเธอเข้ามาให้เกียรติ บอกเล่าเหตุการณ์เป็นวิทยาทานแด่ชาวไกลบ้าน   จขกท เป็นคนสัมภาษณ์    นักเรียนท่านนี้ในไกลบ้าน ดังนั้น ขอไม่เปิดเผย รายละเอียด อื่นๆ   Q - มาอเมริกาด้วย Visa อะไรคะ A -F1 นักเรียน Q - ระหว่างอยู่ในอเมริกา คุณเรียนและทำงานไปพร้อมกัน หรือ ทำงานอย่างเดียว A -เรียนค่ะ เรียนเต็มเวลา เวลาเรียนไม่เคยขาด โรงเรียนมีหลักฐานให้เราด้วย Q - โดน Homeland Security / ICE ควบคุมตัวเมื่อไหร ปีไหน รัฐอะไร A -ปี 2007 ขอไม่บอกรัฐค่ะ Q - เล่าประสบการ์ณ ช่วงเวลาโดนตรวจค้นให้ฟังหน่อยคะ A -เราได้ไปซ่อมคอมพิวเตอร์ให้ที่ร้านอาหารของป้าที่เรารู้จัก (เราพักที่บ้านเค้าด้วย) เรากำลังอยู่หลังแคชเชียร์น่ะค่ะ มีพี่ที่เป็นใบเขียวเป็น Waitress อยู่ด้วย ระหว่างนั้นมีผู้ชายคนนึงเข้ามาหาเราแต่งตัวโทรมๆ แก่ๆ อารมณ์กางเกงยีนส์กะเสื้อลายหมากรุก พุงพลุ้ยๆ ไม่ได้อยู่ในเครื่องแบบเลยนะคะ พร้อมโชว์บัตร ICE เราก็โอเค เพราะคิดว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เค้ามาถามหาผู้หญิงคนนึงที่เป็นพนักงานเสริฟร้านนี้ เราบอกว่าไม่รู้จัก(พี่ผู้หญิงมีใบเขียวก็บอกว่าไม่รู้จัก) เค้าเลยถามเราว่า มี ID รึเปล่า,อยู่ที่นี่สถานะอะไร,แล้วเค้าก็สะกดชื่อเราให้เพื่อนเค้าที่ออฟฟิศเค้า,เพื่อนเค้าเอารถมารับเราไปที่ออฟฟิศ ICE , เค้าไม่อ่านสิทธิ์ใดๆ เค้าบอกว่าเราเป็นนักเรียนแต่ทำงาน ทำความผิด ให้บอกมาว่าผู้หญิงที่เค้าต้องการอยู่ไหน แล้วเค้าจะปล่อยเราไป (เรายืนยันว่าไม่รู้จัก) เค้าเอาเราไปสอบสวนในห้องทำงานเค้า ห้องแคบๆ แล้วก็ย้ายไปมาระหว่างห้องขังข้างล่าง กับห้องทำงานของเค้า เค้าเอาหัวหน้าเค้ามาปลอบเราว่าให้สารภาพทุกอย่างแล้วเค้าจะให้ Work Permit เรายืนยันว่าไม่ได้ทำงาน มาช่วยป้า! เค้าก็โกรธเรามั๊ง เค้าหน้าแดง แล้วขู่เราบอกว่ารู้มั๊ยว่าทำแบบนี้จะโดนส่งตัวไปโคโรลาโด รึไม่ก็อริโซน่านะ เราตอบว่า ถ้างั้นชั้นขอทำเรื่องกลับไทยตอนนี้ได้รึเปล่า เราคิดว่าเค้ากำลังยื่นเบ็ดให้เรางับ ว่าเราทำงาน ใช้ไม้อ่อนไม้แข็งกับเราสารพัด ตบหัว ลูบหลัง ตบหัว แล้วก็ลูบหลังอีก (ขู่เข้าคุก แล้วก็จะให้ใบเขียว) แต่เรายืนกรานคำพูดเราว่าเราไม่ได้ทำงาน และถ้าจะเอาเราเข้าคุก ขอให้ส่งเรากลับไทย     แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 21:30:19 จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:13:07

ความคิดเห็นที่ 2 เค้าได้สอบสวนเราตั้งแต่ 11.00am-05.00pm. ถามคำถามเดิมๆ ซ้ำไปมา เราก็ตอบเหมือนเดิม (รายละเอียดคำถามเราจะแยกย่อยให้ทีหลังนะคะ) แต่จาก 05.00pm เค้าบอกว่าเค้าจะกลับบ้านแล้ว -แล้วยูก็จะได้กลับบ้าน- เราก็เอ๊ะ แล้วจะได้กลับได้ยังไงเนี่ย เค้าถามเราว่าเรามีเงินพอที่จะ Bond รึเปล่า 3 หมื่น เราบอกว่าไม่มีหรอก เค้าเสนอว่าจะเข้าโปรแกรม ISAP รึเปล่า จะได้กลับบ้านวันนี้ แต่มีสายรัดข้อเท้านะ เราก็โอเค เพราะอยากกลับบ้านใจจะขาดอยู่แล้ว (จะอธิบายโปรแกรม ISAP ทีหลังค่ะ) ทำเรื่องขอสายรัดข้อเท้า ให้เค้าเก็ประวัติ 05.00-08.30 จึงได้กลับบ้าน ระหว่างนั้นได้กินแค่น้ำแอ๊บเปิ้ลของผู้ต้องหาข้างล่าง Detemtion ใช่มั๊ยคะ ที่เค้าเรียกว่าห้องขังน่ะ (เราได้เห็นพวกเค้า มี 6 ห้อง ชาย 5 หญิง 1) สรุปแล้วเราโดนจับวันนั้นแล้วก็ออกวันนั้น     จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:15:14

ความคิดเห็นที่ 3 Q - ทางเจ้าหน้าที่ ICE ได้อ่าน Miranda Rights ระหว่างการจับกุม/ควบคุมรึเปล่า A - ไม่ค่ะ Q - โดนควบคุมที่ไหน นานเท่าไหร มีการย้ายสถานที่ควบคุมมั้ย A - ตามข้างบนค่ะ Q - เล่ารายละเอียด หลังจากเจ้าหน้าที่ ICE ลงทะเบียนคุณเข้า Detention Facility เป็นอย่างไรบ้าง A -ตามข้างบนค่ะ Q - ติดต่อครอบครัว ที่เมืองไทย ได้อย่างไรหลังถูกควบคุม A -กลับบ้าน ทำใจอีกสองวัน แล้วก็ติดต่อพ่อแม่เอง Q - ติดต่อสถาณทูตหรือไม่ (ถ้าติดต่อ - สถาณทูตช่วยเหลืออะไรบ้าง) A - สองสัปดาห์ โทรไป เค้าก็ช่วยอะไรไม่ได้นอกจากหาทนาย Q - เจ้าหน้าที่ทาง ICE อธิบายขั้นตอนและทางเลือกเงื่อนไขต่างๆ อย่างไรบ้าง A - ให้เซ็นเพื่อเจอผู้พิพากษาให้เร็วที่สุด หรือไม่เซ็น Q - หลังจากถูกควบคุมตัว กี่วัน ทาง ICE/Immigration Judge ถึงออก Immigration Bond ให้ (ถ้าออก - เท่าไหร) A -ไม่มีบอนด์ เพราะเข้าโปรแกรม ISAP Q - ระยะเวลาตั้งแต่ถูกจับ จนถึงวันตัดสินให้ออกนอกประเทศ ใช้เวลานานเท่าไหร A - 2 ปี แต่ว่าเราขอกลับเอง ไม่งั้นก็อยู่ได้ตลอดจนกว่าศาลจะตัดสิน การตัดสินต้องรอหลายครั้ง เพราะว่าวีซ่าเรายังมี การเรียนก็ครบ มีผลการเรียนรับรองตลอดทุกเทอม ศาลจะตัดสินเลื่อนทีละ 6 เดือน-8 เดือน แต่ระหว่างนั้นเราต้องไปรายงานตัวกับ ISAP ทุก 2 สัปดาห์ และไปจะไปรัฐไหนก็ต้องแจ้ง ISAP ให้ขอ ICE ให้อนุญาตไปเที่ยวได้ ISAP ยังสุ่มมาตรวจที่บ้านทุกสัปดาห์ หรือ สองสัปดาห์อีกด้วยค่ะ   จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:17:17

ความคิดเห็นที่ 4 Q - หลังจากตัดสิน ออกนอกประเทศ ทาง Homeland Security ให้เวลาคุณออกนอกประเทศภายใน กี่วัน A - เราได้ขอทนายทำ Volantary Departure ทนายนัดวันขึ้นศาล แล้วศาลก็อนุญาต ให้เวลา 120 วันนับจากศาลสั่ง Q - ต้องรายงานตัวที่ไหน หลังจาก โดนตัดสิน A - ISAP Q - มี Punitive อะไรมั้ย ในการกลับ หรือขอ Visa เข้าประเทศอเมริกา A - ICE ที่เป็นคนไทย พูดไทยได้เค้านัดเราไปอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่เราจะบินกลับสองสัปดาห์ ว่าการขอ Volantary Departure เป็นเรื่องดีเพราะไม่มีแบล็คลีส ไม่เป็นบุคคลห้ามเข้าประเทศ เพียงแค่ไปขอวีซ่าใหม่ ก็เข้ามาได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าหลักฐานทางเราเป็นไง แต่วีซ่านักเรียนใบนี้โดนยกเลิก จะเรียนต้องขอ Apply ใหม่ เราก็โอเค ดีกว่าขึ้นศาลไปแล้วแพ้นะเนี่ย Q - ตั้งแต่กลับมาเมืองไทย คุณได้เดินทาง ออกไปประเทศอื่นๆ บ้างมั้ย (ถ้ามี - ประเทศอะไร) A -ยังเลยค่ะ กลับมาได้ 6 เดือน ยังขอไปเที่ยวที่ไหนไม่น่าจะได้ เพราะว่าไม่มีเครดิตพอ Q - สุดท้ายนี้มีอะไรฝากถึงน้องๆ เด็กนักเรียนไทยรุ่นหลังๆ บ้างคะ A - ทำอะไรให้ระวังตัวเองและระวังจะเดือดร้อนคนอื่นด้วย เพราะเวลาเค้าไปตามหาเรา ไม่เจอเรา เค้าก็เอาเรื่องคนที่เค้าเจอ และถ้าศาลตัดสินให้คุณแพ้ เจ้าของร้านที่เค้าอุตส่าห์ให้คุณทำงาน ก็ต้องจ่ายค่าปรับหลายพันเหรียญ คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดก็ติดร่างแหไปกับคุณ เราไม่รู้จะพูดยังไงเรื่องนี้มันละเอียดอ่อน ถ้ายังไงเลือกได้ก็ไปเรียนคอมพิวเตอร์ที่จะได้ OPT ใบฝึกงาน ค่าเทอมก็เท่าๆกันกับเรียนภาษาจะดีกว่า สถานฑูตเค้าช่วยได้เท่าที่จะได้แค่นั้น เช่นหาทนาย ติดต่อพ่อแม่ แต่มากกว่านั้นก็ยาก เพราะเค้าไม่สามารถช่วยประกันให้เราหรอกนะคะ (ประกันให้คนที่อาจจะโดดวีซ่าไปเลยเนี่ยนะ) สถานภาพของพวกเรามันไม่น่าเอาประเทศเข้ามาเสี่ยงค่ะ เป็นไปได้ขอทนาย บอกเค้าว่าเราต้องการขึ้นศาล ยืนยันว่าเรามีเงินกลับ และสาบานว่าจะกลับตามคำสั่ง แต่ใครใคร่ทางใดก็ตามใจค่ะ เราแค่แนะนำทางที่เราเจอมา จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:19:26

ความคิดเห็นที่ 5 จากคุณ : nick อยากจะถามว่า คนที่โดนจับที่ฟลอลิด้า ถ้าสมัครใจขอกลับ จะติด แบล็กลิสมั๊ยค่ะ จะขอทำ Voluntary Departure ได้ไหมค่ะ   ขอทนายค่ะ ทนายจะตอบได้ เพราะเค้าจะดูกรณีของเราก่อน บอกทนายเลยว่าเราต้องการ Volantary Departure เรามีเงิน เราต้องการกลับเอง บอกทนาย ถาม จนท สถานฑูต เค้าก็ไม่สามารถตอบได้ค่ะ สมัครใจขอกลับ ติดแบล็คลีสมั๊ย ขึ้นอยู่กับว่าศาลเค้าให้รึเปล่าด้วยค่ะ ลำพังเราบอกว่าอยากกลับเกิดเค้าให้ Volantary Deportation ก็แย่ค่ะ ขอทนายค่ะดีที่สุด ของเรา ค่าทนายเตรียมเอกสารสำหรับ Volantary Departure 350 เหรียญ ค่าทนายพรีเซนท์ 250 เหรียญ ถ้าเกินนี้แสดงว่าแพงนะคะ เราแปลกใจว่าทำไม จนท ICE ไม่แนะนำเรื่องโปรแกรม ISAP ให้นักเรียน ทำไมต้องขังไว้ รึว่าคนเยอะเกินกว่าที่เครื่องมือมีในสต๊อก เดาใจเค้าไม่ถูกเลยจริงๆ   จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:21:53

ความคิดเห็นที่ 6 ISAP โปรแกรมคุมนักโทษ เห็นเพื่อนเมกันเค้าเรียกว่า House Arrest อะไรประมาณนี้ เค้าจะใส่ข้อเท้าเราด้วยมอนิเตอร์ มีเครื่องรับสัญญาณที่บ้านเรา จะแสดงผลไปที่ ISAP ว่าเราออกจากบ้านกี่โมงเข้าบ้านกี่โมง คือเค้าจะกำหนดเวลาออกจากบ้านค่ะ ถ้าเราเข้าช้า เค้าจะโทรมาเช็คว่าเราอยู่ไหน ถ้าเราไม่เข้าบ้านจริงก็จะเกิดปัญหาฝ่าฝืน ส่งผลให้โดนส่งตัวกลับเร็วขึ้น เค้าจะมีตารางมาให้กรอกว่าทุกชั่วโมงในทุกวันเราจะอยู่ไหน ย้ำว่า ทุกชั่วโมงค่ะ เราก็ลงไปว่าเวลานั้นนี้เรานอน เวลานี้ เราเรียน เวลานี้เราเดินทางไปเรียน ทุกรายละเอียดค่ะ หลังจากเดือนแรกเค้าเห็นว่าเราเป็นเด็กดีเค้าจะตัดมอนิเตอร์ออก และนำเครื่องส่งสัญญาณไปคืนเค้า ที่เหลือก็แค่ต้องไปรายงานตัวสองอาทิตย์ครั้ง หรือเดือนละครั้งแล้วแต่ เจ้าหน้าที่ ISAP จะเห็นสมควร แต่เราจะบินไปไหน จะไปยังไงกับใครต้องแจ้ง ISAP เพื่อให้เค้าขออนุญาตICE ก่อนนะคะว่าจะได้รึเปล่า และในหนึ่งสัปดาห์ เค้าจะมาเยี่ยมบ้านค่ะ ถ้าไม่อยู่ตอนเค้ามาเยี่ยม ก็เตรียมตัวรับข้ัอหาละเมิดได้ค่ะ อารมณ์นี้ เหมือนจะโล่งที่ได้อยู่บ้านไม่ต้องเข้าคุก แต่มันก็คุกในบ้านดีๆนี่เองค่ะ สำหรับคนที่ไม่มี Bond แนะนำว่าให้เข้า ISAP อย่าไปรบกวนใครมาประกันเรา อย่างแรกคือไม่มีใครใจดีอย่างนั้นหรอกค่ะใน USA อย่างที่สองคือคุณมั่นใจเหรอว่าจะไม่ทำให้เค้าเสียหายภายหลัง ถ้ามั่นใจว่าออกมาแล้วจะเป็นเด็กดี เข้าโปรแกรมแล้วรับผิดชอบตัวเองดีกว่า เพราะทาง ISAP เค้าจะคอยแนะนำตลอดว่าถ้าจะทำอะไรต้องไปยังไง อย่างเราตอนที่อยากกลับไทยสุดๆแล้วเราไปปรึกษา ISAP เค้าก็บอกเราเป็นขั้นตอนเลยว่าต้องทำไง ไปขึ้นศาลนะ ไปขอล่ามนะ อะไรพวกนี้ ทนายน่ะ เค้าจะเอาเงินเราอยู่แล้ว บางทีเราแพ้แน่ๆอยู่แล้วเค้าก็ให้ความหวัง เพราะเค้าอยากขึ้นศาลหลายๆครั้ง เค้าได้เงินจากตรงนี้ ตอนที่เราถามทนายว่าเราขอกลับได้มั๊ย เค้าบอกไม่ได้ เราไปปรึกษาทนายเก่งๆ ย้ำว่าเก่งมากๆ เค้าเอาค่าขึ้นศาลไปบอกศาลว่าเราอยากกลับ 1500 เหรียญ(นี่กุอยากกลับยังต้องเสียค่าขอกลับเหรอ?) เราตัดสินใจซื้อตั๋ว แล้วเอาตั๋วไป ISAP เค้าบอกว่าไปบอกเสมียนของศาลอิมฯ ว่าจะกลับ พอเราไปบอกเค้า เค้าเขียนคำสั่งให้เราไปหาทนาย เพื่อให้ทนาย ---มาทำ Voluntary Departure ---- ให้กับเรา ตอนที่เราขอทนายกลับ เค้าไม่ให้เรากลับ ไม่ให้ทางเลือกอะไรกับเราเลย   จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:24:53

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นรูปเครื่องรับสัญญาณที่บ้านค่ะ สามารถติดตั้งเองได้ง่ายๆที่บ้าน (เค้าสอนวิธีติดตั้งเรียบร้อยค่ะ)   ***โทรศัพท์แค่เอามาวางเทียบขนาดให้   แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 21:33:48 จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:31:53

ความคิดเห็นที่ 8 รูปตัวสายรัดข้อเท้า จะไม่มีทางหลุดเด็ดขาด ไม่รู้มีตัวรับสัญญาณชีพจรไรรึเปล่า  ถ้าหากขาดไปล่ะก็ ข้อหามาอีกเยอะเลย   จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:33:06

ความคิดเห็นที่ 9   คำถามจากชาวไกลบ้าน Q: สงสัยว่าถ้าเราไปเรียนในมหาวิทยาลัยในระดับปริญญาโท เราสามารถทำ งาน on-campus ได้อย่างเดียวใ่ช่ไหมครับ ไม่สามารถทำงานข้างนอกได้ ?? A: ทำงานได้ on-campus อย่างเดียวค่ะ นอกเหนือจากถ้าเกิดเหตุสุดวิสัย ทางด้านการเงินต้องขอใบทำงาน EAD อ่านรายระเอียดได้จาก USCIS จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:36:41

ความคิดเห็นที่ 10 คำถามจากชาวไกลบ้าน   Q - สอบถามค่ะ ที่บอกว่า ให้ลงเรียนคอมพิวเตอร์ แล้วจะได้ใบ OPT มันเป็นอย่างไรหรือคะ ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ให้เป็นบทเรียนต่อรุ่นหลังๆค่ะ A - เป็นโรงเรียนคอมพิวเตอร์ค่ะ เรียนพวกไมโครซอฟออฟฟิส อะไรอีกเยอะเยอะ แต่แค่พื้นฐาน เรียนเป็นเวลา 1 ปี จะได้ใบฝึกงาน OPT จำได้แค่ตัวย่อตัวเต็มๆจำไม่ได้ค่ะ สามีเค้าได้มา ตอนนี้ใบนี้อยู่ไหนก็ไม่รู้ ใบนี้จะเอาไปขอเลขโซเชียลฯ ได้ค่ะ สมัครงานที่ไหนก็ได้ ถูกต้องตามกฎหมาย เราต้องไปสมัครงานภายในเวลา 3 เดือนหลังจบคอร์ส ให้เจ้านายเซ็นรับเราเข้าฝึกงาน เราก็จะได้ใบฝึกงานต่อเป็นอายุ 1 ปีค่ะ (อัพเดทล่าสุด) แต่ก่อนแฟนเราได้ 1 ปี ยังไม่ต้องมีคนว่าจ้างก็ได้ 1 ปีค่ะ แต่ปีที่แล้วเค้าอัพเดท คือ ภายใน 3 เดือนหานายจ้างไม่ได้ ก็ต้องไป Hold i20 ต่อ ยังไงๆลองไปกูเกิล ได้ค่ะ จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:39:14

ความคิดเห็นที่ 11   ข้อมูลดีๆ จากคุณ ธนิตา ISAP ที่พูดถึง คือ Intensive Supervision Appearance Program ใช้กันที่ Baltimore; Philadelphia; Miami; St. Paul; Denver; Kansas City; San Francisco; and Portland, Oregon.Delray Beach, FL; ฮูดหนีหายตัวไป 10 กว่า % อีกวิธีหนึ่งเรียกว่า ESR= Enhanced Supervision/Reporting ใช้ 27 แห่ง และอีกวิธีหนึ่งเรียกว่า EM = Electronic Monitoring ใช้ทั่วประเทศ ตม จะให้ใช้แบบไหนก็ได้ 2 อย่างหลัง ฮูดหนีไป ราว 5% ดีแล้ว ที่ไม่ได้ไปอ้าง  Miranda Rights เพราะถ้าไม่มีทนาย ก็มีหวังถูกกักตัว จนกว่าจะหาได้ การที่ไปซ่อม คอมพ์ที่ร้าน ก็ถือเป็นการทำงานก็ได้ และการไปอยู่หลังแคชเชียร ก็คล้ายกับเป็นแคชเชียร์เหมือนกันนะ จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:43:57

ความคิดเห็นที่ 12 คำถามจากชาวไกลบ้าน Q - อยากทราบว่าพอจะติดต่อทนายคนที่เก่งคนนั้นได้อย่างไรคะ พอจะจำได้มั๊ยคะ เพราะตอนนี้มีญาติถูกจับกุมอยู่เหมือนกันค่ะ เค้าบอกว่าจะรอให้สถานทูตช่วยเหลือ A - ขอให้เจ้าหน้าที่สถานฑูตเค้าหาทนายให้ดีกว่าค่ะ เพราะว่าเค้าจะต้องดูเคสแต่ละเคสว่าจะทำยังไง จะพาคดีไปทางไหนค่ะ ทนายที่เรามีก็ไม่ได้เก่งอะไร อยากได้เงินค่าขึ้นศาลค่ะ เลยไม่อยากแนะนำ (อย่างที่บอกไว้ว่าตอนเราขอกลับ ทนายบอกว่ากลับไม่ได้ เค้าอยากให้เราอยู่สู้ ทั้งๆที่เค้าก็ไม่ได้ให้ความมั่นใจเลยว่าเราจะชนะ จนเราตัดสินใจซื้อตั๋วไปแจ้งเจ้าหน้าที่ของศาล และ เจ้าหน้าที่ของศาลนี่แหละเขียนจดหมาย ให้ทนายทำ Volantary Departure ให้) ทนายดีๆเยอะนะ แต่ทำไมเราเห็นแต่คนที่จะเอาเงินเท่านั้น ให้เราสู้ไปเรื่อยๆ ยื้อไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเราสู้ไปจะเป็นไง จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:48:02

ความคิดเห็นที่ 13 จขกท เอาบทสัมภาษณ์นี้มาเพื้อเผยแพร่อีกครั้ง เพื่อเป็นอุทาหรณ์นะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านคะ จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:54:15

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณเจ้าของกระทู้สำหรับความรู้ค่ะ ดิฉันเพิ่งรู้เรื่อง ISAP จากนี่แหละค่ะ รวมทั้งสายรัดข้อเท้า น่ากลัวจริงๆ จากคุณ : pierceFB เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 22:47:44

ความคิดเห็นที่ 15 มีสายรัดข้อเท้าอย่างนั้นจะอาบน้ำได้ไงน่ะ สงสัย จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 23:20:47

ความคิดเห็นที่ 16 คิดเหมือน *15 จากคุณ : nasaseria เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 02:51:30

ความคิดเห็นที่ 17 คิดเหมือน *16 จากคุณ : Imperio เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 04:48:30

ความคิดเห็นที่ 18 -คิดเหมือนทุกคนคิดค่ะ -อ่านแล้วจะเป็นลม จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 05:10:24

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณที่ไปสัมภาษณ์มาให้อ่านค่ะ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 05:10:52

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ จากคุณ : ผัดไทยกุ้งสด เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 07:20:56

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นข้อมูลที่ดีค่ะ  ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ตกตะกอน เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 07:30:15

ความคิดเห็นที่ 22 ความรู้ใหม่ ขอบคุณเช่นกันค่ะ จากคุณ : YvesThati เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 08:44:02

ความคิดเห็นที่ 23 น่ากลัวจัง แต่ร้านอาหารที่เมกา จะจับจริงๆเกือบร้อยเปอร์เซนต์เลยมั้งครับที่ไม่มีใบเขียว จากคุณ : zolam เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 08:51:26

ความคิดเห็นที่ 24 เคยอ่านแล้ว ขอบคุณที่เอามาเตือนความจำและคนที่ยังไม่เห็น คิดว่าสายรัดเท้าน่าจะกันน้ำได้ ไม่อย่างนั้นต้องเอาเท้าใส่ถุงพาสติกแน่ๆ ลำบากพิลึก จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 09:31:22

ความคิดเห็นที่ 25 เหมือนในเรื่อง desperate housewives ss1 เลย จากคุณ : A Boy From The Moon เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 10:41:51

ความคิดเห็นที่ 26 การเสี่ยง การแก้ปัญหาต่างๆผมถือว่าเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน คิดคำนวณดูเอาเอง ว่าเปอร์เซ็นต์ของการเสี่ยงคุ้มค่าหรือไม่ สามารถทนต่อความไม่สบายใจที่อาจจะเกิดขึ้นได้หรือไม่เมื่อถึงเวลาและโชคชตาไม่เข้าข้าง ส่วนใครจะทำถูกหรือผิดผมไม่ออกความเห็นในที่นี้ อีกสิบปีข้างหน้าไม่แน่ใจว่าจะเหมือนวันนี้หรือไม่ แต่ที่แน่นอนต่างกับเมื่อหลายๆปีก่อนมาก ตอนนี้คนอเมริกากลางและใต้ที่เกิดใหม่มากกว่าสี่เท่าของคนขาวหรือเอเชีย จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 11:42:29 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 27 สงสารคนที่โดนแบบนี้อะ จากคุณ : หมาน้อยบนฟ้า (v_violet) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 12:47:28

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับความคิดเห็น ของคุณ อิสวาสุ..ครับ จากคุณ : จากภูผาถึงทะเล เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 12:49:52

ความคิดเห็นที่ 29 นี่ขนาดไม่ได้ทำงานเป็นเรื่องเป็นราว จับพลัดจับผลูเจอแบบนี้ แถมทำท่าจะยัดข้อหาให้ตลอด โทษอะไรไม่ได้ นอกจาก"ดวงซวย" จริงๆ ตอนนั้นเขาคงต้องเครียดมากเนอะ  ถ้าเราทำผิดจริง ยังปลงทำใจยอมรับ กับความผิดที่ตัวเองก่อ  แต่ประเภทเราไม่ได้ทำผิดแล้วเจออะไรแบบนี้ ทำใจยากจริงๆ คนใกล้ตัวเคยมีเรื่อง "ดวงซวยๆ" แบบนี้ แต่คนละกรณี มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล ใช้เวลาหลายปีกว่าจะชนะ ขนาดชนะแล้ว  เงินที่เขาจ่ายชดเชยยังไม่พอค่าทนาย ค่าเสียเวลา ค่าสูญเสียกำลังใจ ค่าเครียด ไม่คุ้มกันเลย กับการไม่ได้ทำอะไรผิด แล้ว "ซวย" แบบนี้ กฎหมายก็ถูกใช้โดยมนุษย์แบบเราๆ คงจะยากที่จะทำให้ยุติธรรมทั้งหมด เพราะมันขึ้นอยู่กับผู้ใช้กฎหมายคนนั้นตีความ  ทางที่ดี ดูแลตัวเองดีๆ รอบคอบให้มากๆ หลีกเลี่ยงเหตุการณ์เสี่ยงที่จะไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นดีกว่า จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 15:07:09

ความคิดเห็นที่ 30 เคยมีคนรู้จักโดนจับใส่ข้อเท้าแบบนี้ สงสารเค้ามากเลยมาทำงานทั้งๆที่ใส่แบบนั้นแหล่ะ แถมต้องนั่งรถไฟไปรายงานตัวที่บัลติมอร์ทุกสองอาทิตย์เลยมั้ง เสียเงินค่าทนายไปประมาณห้าพัน แต่ทนายแทบไม่ช่วยอะไรเตรียมเอกสารเองหมด ตอนนี้เค้าก็เลิกไปรายงานตัวเฉยๆงั้นแหล่ะ ก็ยังทำงานเรื่อยๆต่อไปเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ได้ข่าวว่าอีกคนเคยโดนเหมือนกันประมาณสิบปีก่อน ก็หนีเฉยๆไม่ไปรายงานตัว ตอนนี้ได้กรีนคาร์ดแล้ว สบายไป แต่เค้าอดทนมากเลย เป็นเรา คงร้องเป็นเต่าเผา จากคุณ : คนไทยต่างแดน เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 19:53:24 A:74.110.139.162 X: TicketID:306602

ความคิดเห็นที่ 31 ขอเสริมความเห็นที่ 9 ของ จกทค่ะ นอกจาก OPT and On-campus job นักศึกษาปโท สามารถเข้าร่วม โปรแกรม CPT, Co-Op (ในบางสาขาวิชา), Internship ซึ่งสามารถทำงานกับนายจ้างที่ประกอบกิจการเกี่ยวข้องกับสายวิชาที่เรียนค่ะ CPT สามารถทำได้ในช่วงระหว่างภาคการศึกษา ส่วน Internship ส่วนใหญ่ทำกันช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน แต่อยากจะย้ำการจะได้ทำงานในทั้งสองโปรแกรมนั้นไม่ใช่ง่ายๆ เนื่องจากการจะ convince บริษัทให้รับเด็กต่างชาติเข้าทำงานนั้นไม่ง่ายอยู่แล้ว อาจเป็นเรื่องของภาษา หรือเจ้าของงานอาจจะอยากให็โอกาสเด็กในบ้านเค้าก่อน บางงาน require citizenship เป็นต้น ถ้าอยากได้ทำงานในโปรแกรมดังกล่าว ต้องเริ่มต้นไวค่ะ ก่อนไปเตรียมภาษาให้แน่นไว้ บางโรงเรียนเช่นของดิฉันเป็นต้น มี Career Service Center ถ้าโรงของท่านมีแผนกดังกล่าวแนะนำให้เข้าร่วมแนะแนวการหางานของเค้าค่ะ อาจมีผิดบ้างเล็กน้อยเรื่องข้อมูลนะคะ ตอนดิฉันเรียนอยู่พยายามจะทำ CPT and Internship แต่โชคดีไม่พอที่ถูกจ้าง แต่อย่างน้อยก็ได้ทำ on-campus job ได้ค่าขนมระหว่างเรียนจนจบปโท และ ได้งานแบบ OPT หลังเรียนจบถึงแม้ไม่นานก็โดน lay off สรุปก็คือ นอกจาก CPT, Co-op, Internship, and on-campus job นักเรียนต่างชาติไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานด้วยวีซ่านักเรียนค่ะ จากคุณ : shanshan (shanshan) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 22:58:16

ความคิดเห็นที่ 32 Hola from Mid Atlantic!  Thanks for sharing. This type of warning message will be more receptive to those who are contemplating of taking chances.  Thus it’s more effective. Unlike this message, others tend to be judgmental, condemning, even condescending and insulting.  This sort of tone will automatically create resistance.  Moreover, resentment & retaliation will follow.  We witnessed in the “Alabama Immigration Law” kratoo as a result. When some college kids solicited my comments on taking chances working at restaurants to support living/schooling expenses, I normally suggested them to take other viable options.  Some listened, some did not.  For those who insisted, I would suggest them to have plan B or even C just in case.  I can not stop their actions.  I can only hope that in the process of preparing for backup plans, they would realize the risk involved; then stop pursuing their original ideas. That’s the contraption that Dominique Strauss-Kahn (DSK) the former Managing Director of The IMF; and a contender candidate to unseat Nicolas Sarkozy, the incumbent French President, had to wear while under house arrest.  DSK was arrested and jailed for an allegation of sexual assault.  After a $1 million (or 1.2 million) bail, he was put under house arrest. Paris Hilton underwent the same punishment.  Since she has her fashion product lines, I thought she would come up with his and hers fashion line for this device.  She didn’t. แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 54 23:59:50 จากคุณ : Thai Waman (ณารา) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 23:32:37

ความคิดเห็นที่ 33 . บางโรงเรียนเช่นของดิฉันเป็นต้น มี Career Service Center ถ้าโรงของท่านมีแผนกดังกล่าวแนะนำให้เข้าร่วมแนะแนวการหางานของเค้าค่ะ . Good advice.  That’s what I posted in Klaiban in the past.   At my husband’s and my schools, each year some companies informed the centers for wanted summer internships.   Some companies have collaboration with particular schools.   My husband’s ex-employer had program with MIT, Georgia Tech, U Michigan and UMD.  He mentored those young minds almost every year while employed there.  My ex-employer had the same program, but with different schools. Prepare your resume and then the interviews well.  Seek help from the Career Development Center on this.  Once gain the internship, apply yourself to your fullest potential to show your ability and work ethic.  Both of us were foreign students.  We got jobs offered through internships. แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 54 00:21:23 จากคุณ : Thai Woman (ณารา) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 23:57:40

ความคิดเห็นที่ 34 สายรัดที่ข้อเท้ากันน้ำได้ค่ะ จากคุณ : Kiasi เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 03:18:11

ความคิดเห็นที่ 35 I hope this interview can bring awareness to students, tourists and business owners on the issue of misuse US visa permits. It is against the laws and there are consequences to illegal activities. จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 07:33:46

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่ใช่เฉพาะอเมริกา เราว่าคนที่ไปประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ ก็ควรจะอ่านไว้เป็นอุทาหรณ์ด้วย บางคนรอดจากการตรวจจับ คิดว่าเป็นโชคดีของตัวเอง แต่ความโชคดีนั้นกลับเบียดเบียนคนอื่นค่ะ จากคุณ : Archaeoh เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 09:17:52

ความคิดเห็นที่ 37 ^ ^ ^ คือที่อังกฤษนี่ เค้าให้นักเรียน ป.โท ทำงานได้ไม่เกิน ยี่สิบชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่วนนักเรียน เรียนภาษา รู้สึกจะ สิบชั่วโมง ต่อ สัปดาห์ ถ้านักเรียนไปสมัครตามห้าง ร้าน ของคนอังกฤษ เค้าก็ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดนะคะ เเต่ถ้าร้านอาหารไทย ส่วนมากจะทำเกินชั่วโมงที่กำหนดไว้ทั้งนั้นเเหละคะ เพราะเป็นเรื่องยิบย่อย ที่เกินกว่า อิมฯ ที่นี่จะตรวจได้ เจ้าของร้าน มีคนไม่พอ เด็ก ๆ ที่มีอยู่ ที่ทำงานดีก็ได้เพิ่มชั่วโมงกันไป   เจ้าของร้านเค้าก็นัดเเนะไว้เเล้วว่า เวลาอิมฯ เข้ามาตรวจก็บอกไปว่าได้ทำงานสามชิบ วันไหนก็ว่าไป เเต่ห้ามเกินยี่สิบชั่วโมงนะ เเล้วอิมฯ เค้าจะขอเเค่ชื่อ นามสกุล เเล้วตรวจดูจากเครื่องว่าโดดวีซ่าหรือเปล่า? เท่านั้นเองนะคะ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 54 15:03:05 จากคุณ : จีจี้จ๋า เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 15:00:39

ความคิดเห็นที่ 38 สายรัดข้อเท้านี่แบบเดียวกะ ซีรี่ย์ เืรื่อง white collar หรือเปล่าครับ จากคุณ : paingrille เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 15:12:53

ความคิดเห็นที่ 39 ท่อเมริกานะครับ นร. แทบทุกคนไปทำงานทั้งนั้น แต่ก็ผิดกฏหมายเค้าตามวีซ่า F1 แบบไร้ข้อโต้แย้ง ผมติดใจอยู่อย่างนึงว่า การเข้าโครงการ ISAP คือการยอมรับผิดกลาบๆ ใช่ไหม เพราะว่าคุณต้องไปรายงานตัวตลอด โดนสุ่มตรวจและโดนตามติดตลอดเวลา ฟ้องกลับได้ไหม ลิดรอนเสรีภาพนะครับ อีกอย่างเค้าไม่มีหลักฐานนะครับว่าเราทำงานจริง ทั้งในตอนแรก และในตอนหลังผ่านการคุมเข้มสารพัด เป็นผมจะฟ้องกลับครับ โดนใช้เหตุผลเกี่ยวการตั้งข้อหาโดยไม่มีหลักฐาน ทำให้เสียเวลา ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ค่าใช้จ่าย เพราะเห็นว่าเราเป็นคนเอเชียเลยโดนกลั่นแกล้งจากทางรัฐ พวกฝรั่งน่ะ อ่อนไหวในเรื่องนี้ เกี่ยวกับความเป็นมนุษย์อย่างผิวดำ ผิวเหลือง เนี่ยแหละ จากคุณ : wazenteq เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 16:56:48

ความคิดเห็นที่ 40 ขอเตือนเผื่อคนมาออสเตรเลียด้วยครับ พักหลังจะมาทำงานนวดกันจัง ตรวจสอบให้ละเอียดนะครับ ห่วงน้องๆมาก จากคุณ : Dr.Art เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 18:13:06

ความคิดเห็นที่ 41 คห ที่ 40 ไม่ต้องห่วงน้องๆที่มาออสหรอกครับ เพราะส่วนใหญ่ เค้าเตรียมตัวมาดี และเต็มใจด้วยครับ พวกที่บอกว่าโดนหลอกมาทำนวดและอื่นๆนั้น ผมบอกได้เลยว่า พูดแก้เขินเท่านั้นหล่ะครับ จากคุณ : อู๋ไวไฟ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 22:42:44

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าผมจำไม่ผิดเขาต้องการจะ raid โรงเรียน  ไม่ใช่กลุ่มนักเรียบ  เนื่องจากที่ว่า โรงเรียนไม่สนใจว่านักเรียนจะมาเรียนหรือไม่  ขอให้จ่ายเงินค่าเรียน(ที่แพงกว่าที่อื่น) ให้ครบก็พอ   กลายเป็นว่าใครๆเลยอยากจะไปลงเรียนที่นั่น  เอาแค่วีซ่านัดเรียนบังหน้า แต่ออกไปทำฟูลไทม์จ็อปโดยไม่ต้องไปเข้าเรียน   ทางICE เขาจึงต้องการจะ Raid รร กลุ่ม นร ไทยแค่ติดร่างแหเข้าไปด้วย ไม่แน่ใจว่าข่าวที่ได้มาถูกแค่ไหนครับ จากคุณ : Techie เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 00:21:56

ความคิดเห็นที่ 43 อาว ถ้าไปช่วยแบบไม่รับตัง แค่ช่วยเฉยๆ นี่ก็โดนด้วยเหรอ มีเกณฑ์ตัดสินยังไง น่าจะแบบเห็นทำงานอยู่ในร้านหลายๆครั้งมากกว่า ถ้าเกิดบ้านเพื่อนเปิดร้านอะไรซักอย่าง แล้วเพื่อนขอให้ไปซ่อมของให้หน่อยโดยไม่มีค่าจ้าง ถือว่าทำงานเหรอ งงอะ ตามความเข้าใจทำงานคือรับสิงของตอบแทน ไม่ว่าที่พักหรือเงิน กรณีที่ยกมานั้น เข้าข่ายทำงานแลกที่พักหรือเปล่า จากคุณ : Don't judge too quickly เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 09:55:02

ความคิดเห็นที่ 44 เราอยู่อเมริกานะค่ะ แล้ววเราก็เห็นว่า นร.ไทยมาที่นี่ทำงานกันทั้งนั้น บางคนมาด้วย au pair แล้วเปลี่ยนเป็นวีซ่านักเรียน แล้วทำการ transfer หมายเลข SSN ซึ่งจริงๆแล้วมันผิดกฏหมายเหมือนกันค่ะ อีกอย่างอยากบอกว่า ร้านอาหารไทย ที่นี่ เค้าก็ไม่ค่อยจ้างคนที่มีเลขโซเชียวหรอกค่ะ เพราะมันแพงกว่าจ้าง นร.ไทย คนมีเลข SSN ร้านอาหารไทยไม่ค่อยอยากจ้าง เพราะต้องจ่ายทุกอย่างตามกฏหมาย ส่วนพวก นร. ไทยที่มาทำงานก็จะโดนกดค่าจ้าง เพราะเรียกร้องอะไรไม่ได้ แต่เราขอเตือนว่าอย่าทำดีกว่าค่ะ เพราะมันทำให้คนรุ่นหลังๆขอวีซ่ายากด้วย จากคุณ : MoonTerrace เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 12:02:17

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลยค่ะ ดูรูปสายรัดข้อเท้าน่ากลัวจัง เหมือนในหนังนักโทษใส่แล้วถ้าหนี ก็ระเบิดตูม จากคุณ : jeejeeberry เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 16:48:36

ความคิดเห็นที่ 46 ที่อังกฤษ เรียนภาษาทำงานได้ 10 ชม. แล้วเหรอคะ พอดีเห็นเค้าเปลี่ยนเป็น ทำไม่ได้แล้ว แต่ยังมีคนหวังจะมาหาเงินโดยการลงคอร์สเรียนภาษาอยู่อีกน่ะค่ะ ถ้าเปลี่ยนใหม่อีกครั้งแล้วต้องขออภัยด้วยค่ะ จากคุณ : Archaeoh เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 19:06:08

ความคิดเห็นที่ 47 มันผ่านมาหลายปีแล้ว เราเองค่ะ ที่เป็นคนรับคำสัมภาษณ์นั้นค่ะ แต่ก่อนใช้บัตรผ่านเพราะเรื่องมันยังสดๆร้อนๆ ทำใจยังไม่ได้ที่จะเปิดเผยตัว รุปนั้นเราก็ถ่ายเองลงเอง มอนิเตอร์ตัวนั้นก็ตัดออกเองกับมือ เค้ากลัวกรรไกรข่วนขาเราแล้วเราจะฟ้องเค้า มอนิเตอร์กันน้ำได้ค่ะ อาบน้ำเช็ดตัวตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร เค้าไม่ได้ริดรอนเสรีภาพ เพราะว่าเราสามารถทำอะไรได้ตามปกติ เพราะเค้าไม่ได้ห้ามเราในเรื่องใดๆเลยค่ะ สถานะในการฟ้องกลับ สำหรับนักเรียนธรรมดาๆ ที่พ่อแม่ส่งมาเรียน จะหาเงินให้ทนายได้ยังไงไหว เพราะทนายเนียไม่ธรรมดาค่ะ ที่สำคัญคือ เค้าให้เราเลือกนะคะ ว่าจะนอนห้องขังหรือเข้า ISAP เราอยู่ในสถานะผู้ต้องหาค่ะ จากคุณ : TinyPhoenix เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 00:51:34

ความคิดเห็นที่ 48 งงตรงที่ไปซ่อมคอมอะครับ คืออย่างผมเองนี้ก็พอจะเป็นคอมพิวเตอร์บ้าง ตอนอยู่ไทยก็เป็นคนที่ซ่อมคอมให้เพื่อนๆตั้งแต่แก้ไวรัส จนไปถึงประกอบคอมใหม่ แล้วถ้าอย่างงี้ผมรู้จักกับร้านอาหารไทย แต่ว่าไม่ได้ทำงานเป็นเด็กเสริร์ฟหรืออะไรทั้งสิ้น(visa F1 เรียนโทฯ) แล้ววันดีคืนดี ป้าเจ้าของร้านบอกคอมในร้านเสีย แล้วผมไปก้มๆเงยๆซ่อมคอมให้เขาเนี่ย แล้วอยู่ดีๆ ICEมาโพล่แบบเรื่องในกระทู้นี้ ผมก็จะโดนเล่นงานเลยหรอครับ จากคุณ : ขอบคุณครับ เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 01:20:38 A:58.9.99.154 X: TicketID:121304

ความคิดเห็นที่ 49 ค่ะ ถูกต้องเลย สุดท้ายก็ต้องไปขึ้นศาลแล้วแก้ต่างยังไงให้รอดค่ะ จากคุณ : TinyPhoenix เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 01:33:22

ความคิดเห็นที่ 50 โห อย่างนี้น่ากลัวมากๆอะ แล้วจะช่วยเหลือกันได้ยังไง วันดีคืนดีไปช่วยเค้าทำอะไรนิดๆหน่อยๆ ตามประสาคนไทยช่วยเหลือกัน โดยไม่มีเรื่องเงินหรืออะไรทั้งสิ้น แล้วไปจ๊ะเอ๋อีตาจนท. ต้องซวยหนักเลยอะ แล้วถ้าต้องไปขึ้นศาลจริงๆ แล้วพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้ทำงานจริงๆ(ก็ความจริงมันเป็นอย่างนั้นอะ) ตาม คห.29บอกค่าต่างๆที่ได้คืนก็ไม่คุ้มอีก แบบนี้จะทำอะไรคงต้องระวังตัวมากๆแล้ว คิดแล้วมันอยากฟ้องกลับเรียกค่าเสียหายให้มันคุ้มเหมือนที่ฝรั่งมันชอบทำกันจริงๆเลย จากคุณ : ขอบคุณครับ เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 02:01:21 A:58.9.99.154 X: TicketID:121304

ความคิดเห็นที่ 51 ใครก็ได้ช่วยตอบหน่อย แม็กซิกันเดินข้ามชายแดนมาทำงานแล้วอยู่ถาวร ออกลูกออกหลานเต็มไปหมด ทำไมตำรวจไม่จับ ถามเรื่องพาสปอร์ตหรือวีซ่าแทบไม่รู้จัก หรือตำรวจจ้องจับแต่คนมาจากเอเชีย จากคุณ : เสียงซึง เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 04:29:28

ความคิดเห็นที่ 52 Hello and welcome! Khun TinyPhoenix, I’d like to thank you again for voluntarily giving this interview, sharing your story and pictures and providing additional information with us here in Klaibann. Your story which helps people to understand all aspects of what you had been through after your wrongful arrest in 2007. It will also generate awareness to others to avoid the US visa violation whether intentionally or otherwise.   I request everyone to give and treat Khun TinyPhoenix with respect. Please avoid any negative comments or inappropriate questions on this topic. Thank you.   แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 54 04:54:24 แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 54 04:41:29 จากคุณ : hAuTe ChIc เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 04:35:51

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณ คุณ hAuTe ChIc  ค่ะ ที่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา โดยการนำมาเผยแพร่เพื่อป้องกันการทำผิดหรือส่อแววว่าจะทำผิด เราซาบซึ้งมากค่ะ แมกซิกันข้ามชายแดน คนละปัญหากับนักเรียนค่ะ เค้าตามนักเรียนง่ายกว่าเพราะหลักฐานอะไรทิ้งไว้เยอะกว่า และสามารถไล่กลับได้ง่ายกว่า ร่องรอยเยอะกว่า สารพัดค่ะ โรบินฮูดที่อยู่ในเหตการณ์เรา ไม่โดนจับนะคะ ตำรวจ ไม่สิ ต้องเรียก ICE ต่างหาก เพราะตำรวจที่จับตามท้องถนนเค้าไม่ถามเรื่องวีซ่าหรือพาสปอร์ต แต่ ICE จะถามเป็นเรื่องแรก วีซ่าที่เค้าตามง่ายๆก็พวก นักเรียนไม่เรียน(หมายถึงทางโรงเรียนแจ้งว่าเลิกเรียน) วีซ่า J1 ที่หมดสัญญาจ้างแต่ยังไม่มีการกลับประเทศ ค่ะ ทำอะไรที่เป็นการ -ส่อ- ว่าจะทำผิด เค้าก็มีสิทธิรวบตัวเราทั้งนั้นค่ะ จากคุณ : TinyPhoenix เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 09:21:57

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ เสียงซึง เราอยู่ในห้องขัง ร้อยละ 80 เป็นแมกซิกัน นะคะ เค้าจับเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ออกข่าวเมืองไทยแค่นั้นเอง จำนวนก็มากด้วย เค้าทำงานกันหนัก แต่คนทำผิดก็มาก เราเลยได้เห็นส่วนที่หลุดรอดออกมาเยอะค่ะ จากคุณ : TinyPhoenix เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 10:09:16

ความคิดเห็นที่ 55 แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 54 23:06:31 จากคุณ : เสียงซึง เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 23:01:33

ความคิดเห็นที่ 56 ผมว่ามาเตือนไว้ก็ดีเหมือนกันจะครับ จะได้รู้ว่า อยู่ต่างแดน บางทีความหวังดีของเราก็กลายเป็นปัญหาได้ง่ายๆ ส่วนตัวผมก็ว่าไม่แฟร์เหมือนกันที่มากล่าวหาลอยๆ แบบนี้ แต่อย่างเราๆ ก็คงไม่มีปัญญามาสู้ ฟ้องกลับอะไรได้มากนัก เพราะค่าทนาย ค่าขึ้นศาลก็คงหนักหนาอยู่ แถมเสียเวลาไปมากอีก ถ้ารู้กันแบบนี้แล้ว ก็ควรจะป้องกันกันไว้ก่อนดีที่สุด วันหลังจะไปช่วยใคร ก็ต้องระวังๆ กันไว้บ้าง อย่างในกรณีนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นยกคอมมาซ่อมบริเวณอื่น หรือซ่อมตอนปิดร้าน อาจจะไม่มีปัญหาก็ได้นะครับ จากคุณ : ปั๊ปโปะจัง เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 54 01:35:30

ความคิดเห็นที่ 57 จากคุณ : My life in Japan. เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 54 05:32:15

ความคิดเห็นที่ 58 ผมเชื่อนะครับว่า สังคมอเมริกา มันมีความเป็นธรรมกว่า ประเทศไทย ในเรื่องมาตราฐาน ผมเคยขับรถ โดยไม่มีใบขับขี่ของรัฐแล้วโดนจับ ซึ่งผิดกฏหมายเต็มๆ ตร.จะส่งผมเข้าคุก ผมอ้างว่ามีใบขับขี่ต่างประเทศ แล้วบอกว่าคุณไม่มีสิทธิ์ส่งผมเข้าคุกด้วยกรณีใดๆ อ้างว่าเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศ ถ้าจับผมเข้าคุก ผมจะฟ้องคืนให้หนัก จนท.เริ่มลังเล สุดท้ายผมเลยบอกว่าให้ศาลตัดสิน เจอกันที่ศาลดีกว่า ทั้งๆที่ ผมผิดเต็มข้อเลยนะนั่น หลักฐานก็ชัด เพราะผมเป็นผู้ที่อาศัย Resident ไม่ใช่นักท่องเที่ยว หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นนะครับ ผมเชื่อว่าถ้าคุณเถียง ไม่ยอม อ้างป้าเค้าก็ได้ จนท.รัฐ ก็ไม่มีสิทธิ์นำคุณเข้าโครงการอะไรทั้งนั้น ยกเว้นแต่เขาจะมีหลักฐานว่าเรารับเงิน เรามาทำงาน แต่นี้ไม่มีอะไรสักอย่าง อยู๋ดีๆก็มา "กล่าวหา" เพื่อหาผลประโยชน์จากเรา แต่นะ เวลาเรากลัว เค้าพูดอะไร เราก็ยอมไปหมด ก็มักเข้าทางเขา ไม่ต่างจาก จนท.ไทยหรอก จากคุณ : wazenteq เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 12:58:03

ความคิดเห็นที่ 59 เอ ผมว่ามันแปลกนะครับที่อยู่ๆมารวบตัวกันแบบนี้ เป็นผมจะหาทางเถียงกลับไปก่อน ถ้ากรณีนี้ผิดเราไปอเมริกาก็ทำอะไรไม่ได้เลยน่ะสิ ถือเป็นการทำงานไปหมด ทำกับข้าวให้กินแบบในกระทู้แนะนำก็ไม่ได้ ซ่อมโน่นซ่อมนี่ก็ไม่ได้ จากคุณ : โลโซแมน เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 19:32:32

ความคิดเห็นที่ 60 เห็นด้วยกับ คุณ wazenteq กับ คุณ โลโซแมน ครับ เจ้าของเรื่องอาจจะเล่าไม่หมดก็ได้ครับ จากคุณ : lame duck เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 54 14:09:36

ความคิดเห็นที่ 61 ลองถามเราเพิ่มก็ได้ค่ะ เราอาจจะเล่าพลาดอะไรตรงไหนไป เค้าไม่ได้อยู่ๆมารวบตัวค่ะ เค้ามาตามหาคนอื่นในร้านและเจอเรา เค้าเลยถามสถานะเราแทนคนที่ไม่อยู่ และแจ็คพ็อตแตกตรงที่เราก็เป็นนักเรียนที่นั่งอยู่ที่หน้าเครื่อง POS ของร้านอาหาร ผลงานอยู่ตรงหน้า ทำไมเค้าจะไม่คว้าไว้? เราคิดแบบนั้นค่ะ คือ ไม่ให้เสียเที่ยว ไม่เจอคนที่ต้องการ แต่ก็ได้เคสใหม่ เราเถียงค่ะ ยืนกรานท่าเดียวว่า ไม่ คุณเข้าใจผิด เถียงตั้งแต่ห้าโมงเช้ายันห้าโมงเย็นค่ะ จนเหนื่อย กลัว และอยากกลับบ้าน อารมณ์ประมาณว่า เอาไงก็เอา พอจะขอกลับไทยเข้าจริงๆ คนที่จับเรากลับยืดเยื้อ ยื่นเรื่องให้เราขึ้นศาล ไม่ได้ส่งตัวกลับทันที และเราไม่ได้อยู่จนจบคดีค่ะ เราคงจะรอดอย่างที่คิดก็ได้ เพราะว่าไม่มีหลักฐานว่าเรารับเงิน หรือกล้องในร้านเลยว่าเราทำงาน แต่เราเรียนจบ กลับไทยตามสัญญาที่ให้ไว้กับสถามฑูตว่าเราจะกลับต่อเมื่อเรียนเสร็จ แล้วเราก็ทำตามนั้น ไม่ได้รั้งอยู่ต่ออะไรเลยค่ะ หากเราเล่าอะไรไม่หมด ถามเราได้นะคะ เรายินดีแชร์ทุกอย่าง หากจะเป็นประโยชน์กับใครได้ค่ะ เราอยากให้เพื่อนๆได้ดูซีรีย์ของ Homeland ว่าเค้าทำงานกันยังไง และใช้อะไรตัดสินว่าจะเดินเรืองไม่ได้เดินเรื่อง ตอนที่เราโดนจับ หากมีเพื่อนซักคนที่ใจแข็งๆร่วมกับเรา เราอาจมีทางออกที่ดีกว่านี้ หรือทำอะไรให้ถูกต้องกว่านี้ก็เป็นได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : TinyPhoenix เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 54 23:03:10

ความคิดเห็นที่ 62 ต้องขอโทษคุณ TinyPhoenix ด้วยครับ ที่เข้าใจผิด ตอนแรกเข้าใจว่า คุณทำงาน แต่ให้สัมภาษณ์ไปว่าไม่ได้ทำ แต่พอได้อ่านข่าวเกี่ยวกับ U.S. Immigration and Customs Enforcement แล้ว ต้องร้องโอ้โหกันเลยทีเดียว (โหดกว่าตำรวจยัดยาบ้าอีก) ขนาดพลเมืองอเมริกันแท้ๆ ยังถูกจับเลย พี่น้ำแข็ง มันบ้าไปแล้ว ไม่น่าเชื่อว่า จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา สงสัยได้ค่าหัว ค่าจับกุมคนละ 10 ดอล มั๊ง จับดะเลย -_-" ขอบคุณที่เอาประสบการณ์ดีๆ มาเล่าสู่กันฟังครับ จากคุณ : lame duck เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 54 16:54:35