ความคิดเห็นที่ 1 อ่านแล้วก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ได้แต่เป็นกำลังใจนะคะ ไม่ได้รักกันแต่ก็มีลูกได้ตั้งสามคน คือไม่ได้อยากซ้ำเติมอะไรเลยค่ะ รู้ว่าคุณคงจะเจ็บปวดมาก แต่บางทีเราคงต้องยอมรับความจริง คิดว่าคุณกับสามีคงจะกลับมามีความสัมพันธ์เหมือนเดิมคงจะยากมาก เพราะเค้างหมดรัก หรือไม่เคยรักคุณเลย รูปร่างหน้าตานีก็มีส่วนในชีวิตคู่นะดิฉันว่า หรืออาจจะเป็นคน คนไป อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยม แต่ถ้าดิฉันไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยเนื้อปล่อยตัวนี่ สามีก็อาจจะมีวอกแวกนะ เพราะเค้าเห็นคนอื่นสวยกว่า สาวกว่า ดังนั้นดิฉันจะไม่ปล่อยตัวเองให้โทรม ให้ขีเหร่ไปมากกว่านี้แน่ คุณคงจะทำอะไรไม่ได้มาก ที่จะให้เค้ากลับคืนมาเป็นเหมือนเดิม แต่ที่คุณทำได้คือ พยายาม ทำสวย ลดความอ้วนซะ ออกกำลังกาย ดูแลเนื้อดูแลหน้าตาตัวเองให้ดี คิดว่าสามีคุณคงจะรักเด็กพี่เลี้ยงคนนั้น แต่ถ้าเด็กเค้าไม่เอาด้วย ก็คงไม่มีประโยชน์ แต่ใช่ว่าเค้าจะหยุดนะ ถ้าคุณยังไม่ปรับปรุงตัวเอง เค้าก็คงจะไปมองหาคนใหม่ไปเรื่อย จนกว่าจะเจอคนที่ใช่ ความรักมันอาจจะไม่ได้มีตั้งแต่แรก แต่ความผูกพันธ์มันเยอะนะคะ เพราะอยู่กันมานาน มีลูกด้วยกันอีกตั้งหลายคน คิดว่าเค้าคงจะตัดคุณยากเหมือนกันนะ ความเป็นลูกผู้ชายเขาคงจะมีอยู่ แต่จิตใจเขามันไปแล้ว ก็คงเหลือแต่ความรับผิดชอบล่ะ ถ้าดิฉันเป็นคุณ ดิฉันจะทำเฮือกสุดท้ายที่มีอยู่ ให้ได้เขากลับคืนมา ทำตัวใหม่ ลดความอ้วน ทำสวย เอาใจเขามาใส่ใจเรา ดิฉันไม่ได้ แนะนำให้คุณดื่มหรือเที่ยวอะไรนะคะ สามีดิฉันชอบดื่มค่ะ ดื่มไวน์วันละขวดเวลาทำอาหารเย็น และเบียร์บางครั้ง ออกไปดื่มกับเพื่อนบ้างนานทีปีหน เย็นวันศุกร์สองชั่วโมง(ดิฉันไปด้วยแต่ดื่มโค้ก บางครั้ง) หลังจากตีกอล์ฟเสร็จ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะชอบไม่เหมือนกัน มันต้องมีสิ สิ่งที่เราทำร่วมกันแล้วมีความสุข แล้วสนุกที่จะใช้เวลาด้วยกัน ลองนึกดูนะคะ ว่าคุณกับสามีชอบทำอะไรด้วยกัน แล้วมีความสุข สนุกร่วมกัน และอยากให้เวลามันเดินช้า คิดว่ามันต้องมีนะ ไม่งั้น คุณสองคนคงจะไม่อยู่ด้วยกันนานขนาดนี้ ถ้าไม่มีอะไรเลยที่เหมือนกัน อย่าโทษตัวเอง อย่าเสียใจ เริ่มปรับปรุงเปลี่ยนตัวเองใหม่ให้เร็วที่สุด อย่าหมดอาลัยตายอยาก ถ้าคุณไม่อยากเสียเขาไปก็ต้องเอาเขากลับคืนมา ความสามารถของคนเรามันเยอะนะคะ ถ้ามีความอยากต่อให้ปีเขาเอเวอร์เรส คุณก็คงจะทำได้ ดิฉันเชื่อค่ะ ว่าทุกอย่างเราทำได้ ขอให้โชคดี ถ้าคุณพยายามถึงที่สุดแล้ว เขายังไม่กลับและไม่อยากใช้ชีวิตกับคุณอีกแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ ถือซะว่า 9 ปีที่ผ่านมา เค้าทรมานมากที่ทนอยู่กับคุณได้ ก็ถือซะว่าทำบุญร่วมกันมาแค่นี้ จากคุณ : PoomPim..TMB เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 05:48:39

ความคิดเห็นที่ 2 ดิฉันบอกตรงๆว่าเบื่อ เบื่อหน่ายมากกับคนจำพวกที่ทำให้คนอื่นต้องเสียเวลา เสียโอกาสดีๆในชีวิต อย่างแบบสามีของคุณ เสียใจด้วยค่ะที่ชีวิตคุณต้องเดินทางมาถึงจุดนี้  ถ้าเป็นดิฉันเขาไม่ได้รักเราแล้วก็คงจะต้องเลิกค่ะ ไม่ทนต่อไปแน่นอนกับผู้ชายที่พูดจาเชือดเฉือนและทำร้ายจิตใจเราอย่างนี้ เรื่องที่ผ่านมาคุณไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้วเพราะมันได้เกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่วันนี้ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกันนะคะ คุณเองพลาดไปตั้งแต่แรกแล้วที่ไปคบกับคนที่รังเกียจคนอ้วน จริงอยู่ที่ผู้ชายส่วนมากจะไม่ชอบคนอ้วน แต่ก็มีไม่น้อยค่ะที่เขาชอบผู้หญิงอวบหรืออ้วน ถ้าคุณหาแฟนหรือสามีที่ชอบคุณโดยที่เป็นตัวคุณเอง ป่านนี้ก็คงจะไม่ต้องน้ำตาตกในเหมือนในวันนี้ ผู้ชายก็ิอย่างนี้แหละค่ะ เกือบทั้งโลกเลยจะชอบคนสวย หุ่นดี แต่งตัวดี ไม่ปล่อยตัว มันคือธรรมชาติของพวกเขา ที่จะชอบอะไรสวยๆงามๆ มนุษย์ผู้ชายนี่ไม่ซับซ้อนค่ะเขาคิดอะไรมากไม่เป็นหรอก ถ้ามีอาหารอร่อยๆไว้รอ เห็นเราแต่งตัวสวยๆ พูดจาเพราะ และได้มี sex ที่ดี แค่นี้ก็มักจะพอใจแล้ว แต่ถ้าเราไม่มีสิ่งเหล่านี้เลยสักอย่าง หรือดันไปขาดบางสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับเขา บางคนเขาจะทนไม่ได้ค่ะ  ดิฉันเองก็อ้วน หน้าตาไม่สวย แต่จะพยายามทำตัวให้ดูดีตลอดต่อหน้าสามี และทำทุกอย่างให้ตัวเองงามตลอด ไม่เคยชะล่าใจว่าสามีรักเรามากเสียจนอย่างไรก็ไม่ไปมองคนอื่น  ต้องคอยดูแลตัวเองไม่ให้บกพร่อง ไม่ให้สามีมีข้อตำหนิเราได้ในทุกๆทาง เรียกว่าถ้าจะหาใหม่นี่แสดงว่ามันเลวเอง ไม่ไช่เราไม่ดี ดิฉันถือว่าความต้องการและความพอใจของคุณและสามีไม่ตรงกัน เพราะคุณไม่ไช่สาวสังคม ไม่ได้ชอบดื่มหรือมีเพื่อนมากๆเหมือนสามี ส่วนสามีก็ไม่ชอบรูปร่่างของคุณ อย่างนี้แสดงว่าไม่ได้มีความรักและพิสวาสกันเลย เพราะคนที่เขารักกันนะคะ มันทำได้ทุกอย่างจริงๆเพื่อคนที่เรารัก แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม หรืออะไรที่บกพร่องมันก็สามารถมองข้ามไปแล้วมองส่วนดีมาทดแทนกันได้ คนรักกันเขาจะพบกันครึ่งทาง เช่นถึงคุณจะไม่ไช่เสปกสามี แต่ก็มองเห็นความงามและความดีที่จิตใจคุณแทนได้ คุณเองก็ต้องกัดฟันลดความอ้วนและทำตัวให้สวยได้เพื่อสามี แต่นี่ต่างฝ่ายก็ไม่ปรับหากัน มันก็คงยากน่ะค่ะ ต้องยอมรับนะคะว่่าสมัยนี้ผู้หญิงสวยแต่โง่นั้นหาทำยายากแล้ว มีแต่ทั้งสวย หุ่นดี เก่ง ฉลาด มาครบเลย ดิฉันหวังว่าคุณจะใช้ความผิดหวังและผิดพลาดในครั้งนี้มาผันแปรชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น เปลี่ยนรูปโฉมของตัวเอง ให้สวยผอมจนสามีต้องเสียดายคุณ ไปเลย ดิฉันอาจจะพูดตรงแต่มิได้มีเจตนาที่จะทำร้ายจิตใจคุณนะ แต่เพียงอยากให้คุณเข้าใจสิ่งที่เป็นความจริงน่ะค่ะ เสียใจเถิด แต่อย่านาน อย่าหมดกำลังใจ เสียเวลาไปหลายปีก็จริงแต่คุณก็ได้ลูกน่ารักมาสามคน  ไม่่เป็นไรค่ะ พยายามทำใจและรับสภาพให้เร็วที่สุด ไม่อยากจะคิดเลยว่าคุณเจ็บขนาดไหน  ยังไงจะช่วยเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคนอ้วนเหมือนกัน จากคุณ : Gisele เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 06:12:35

ความคิดเห็นที่ 3 คิดว่ามันเป็นข้ออ้างมากว่า เวลาที่ผู้ชายหมดรัก มักจะเอาสิ่งเดิมๆมาพูด มาทิ่มแทงหัวใจเรา คิดว่าถ้าไม่รักเลย ไม่มีหมาที่ไหนจะทนอยู่กับเมียได้ตั้ง 9 ปี แต่นี่อาจจะเป็นเพราะเค้าหมดรักคุณเลยมาตอกย้ำซ้ำเติม ข้อด้อยของคุณ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เค้ารับได้มานมนาน หาทางออกให้ตัวเองดีๆ ทำใจให้เข้มแข็ง สู้เพื่อลูกๆ และตัวคุณเองค่ะ จากคุณ : PoomPim..TMB เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 06:30:07

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านเรื่องราวของคุณ ทำให้นึกถึงเรื่องราวของเพื่อนคนหนึ่งที่สวีเดน เพื่อนคนนี้อายุน้อยกว่าสามีมาก หน้าตาสวยใช้ได้ หุ่นอวบ แต่ไม่อ้วน ขนาดแต่งงานแล้ว ยังมีคนมาจีบเยอะแยะ เพื่อนกับสามีอยู่กันมาสิบกว่าปี มีลูกสองคน วันหนึ่งเค้าหย่ากัน ดิฉันไม่รู้เรื่อง คิดว่าเพื่อนขอหย่าสามี เพราะเธอเคยบ่นบ่อยๆ ที่สามีไม่ค่อยช่วยทำงานบ้าน ไม่ช่วยดูลูก เอาแต่ตัวเองคนเดียว หลายปีหลังจากที่เค้าหย่ากันไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อนบอกดิฉันว่าสามีเค้าเป็นคนขอหย่า เค้าบอกว่าเค้าจะค้นหาตัวเองบ้าบออะไรก็ไม่รู้ สงสัยพออายุใกล้หกสิบ เลย ปสด. มั้ง ส่วนเพื่อนเห็นว่าสามีไม่รักแล้ว เค้าก็เลยยอมหย่า เพราะเค้าไม่อยากอยู่กับคนที่ไม่รักเค้าแล้ว ข่าวล่าครั้งสุดท้ายได้ยินมาว่าสามีเก่าของเพื่อนไปติดผู้หญิงอยู่ที่พัทยา ผู้หญิงอ่อนกว่าตั้งสามสิบกว่าปี ได้ยินแล้วต้องแอบร้องเฮ้อ.. ตอนนี้เพื่อนดิฉันมีความสุขดี มีแฟนใหม่ที่รักใคร่ดูแลเธอ ทั้งๆที่ตอนนี้เธอก็อายุไม่ใช่น้อยแล้ว แถมอ้วนด้วย เพราะแพ้ยา แต่ก็เห็นเค้ารักและเข้าใจกันดี หากเป็นดิฉันนะ หากสามีมีความประพฤติแบบที่คุณเล่ามา ดิฉันจะขอหย่าทันที ก่อนหย่าขาด ก็จะให้ผู้ชายหอบข้าวหอบของออกไปจากบ้าน เฉดหัวไปเลย อย่าได้มาลอยหน้าลอยตาให้เห็นให้ขุ่นเคืองใจ คือดิฉันนี่จะแบบ ฆ่าได้ หยามไม่ได้ ใครมาหยาม มาดูถูกดูหมิ่นกันแบบให้อภัยไม่ได้ ดิฉันจะเฉดหัวคนนั้นออกจากชีวิตทันที ตอนนี้คุณยังอาจเศร้า อาจอาลัยอยู่ แต่ต่อไปในวันข้างหน้า เมื่อผ่านพ้นช่วงนี้ไปแล้ว เมื่อหายเจ็บแล้ว คุณก็จะย้อนกลับมามองเวลานี้ แล้วหัวเราะขำตัวเองที่มาเสียใจกับผู้ชายสั่วๆ คนหนึ่ง ** แก้ไขนิดหน่อย เพราะสะกดผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 54 07:25:41 จากคุณ : Smilla เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 07:24:55

ความคิดเห็นที่ 5 ปกติทู้ยาวมากๆอย่างนี้ จะไม่ค่อยอ่านหรืออ่านข้ามๆ แต่นี่่ว่าจขทเขียนดีนะและมีแตกย่อหน้าด้วย..ทำให้อ่านง่าย อ่านแล้วก็เห็นใจ ถ้าเป็นตัวเองนะ จะแยกกันอยู่ตามที่สามีต้องการ เพราะณ จุดนี้ตอนนี้มันกู่ไม่กลับ หลังจากแยกกันอาจจะ(หรืออาจจะไม่)คิดถึงกัน นั่นก็ค่อยว่ากันอีกที แยกกันอยู่ซักสองสามเดือนหรือหกเดือน ให้ใจทั้งสองฝ่ายสงบ แล้วถึงตอนนั้น ต่างฝ่ายต่างดูใจและช่างใจตัวเองอีกทีว่าจะเอายังไง คือตัวสามีคงคุมไม่ได้หรอกว่าช่วงนั้นจะไปทำอะไร แต่ตัวจขทเองเนี่ยคุมได้(ถ้าจะทำ) คุมใจตัวเอง รักษาใจตัวเอง ให้มันนิ่งให้ได้ก่อน พอใจนิ่ง สติก็จะค่อยๆตามมา พอถึงตอนนั้นจะตัดสินใจทำอะไร ก็ค่อยๆทำไป ...ขอให้โชคดี จากคุณ : Overseas เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 09:49:14

ความคิดเห็นที่ 6 เขาจะทำอะไรก็ปล่อยเขาไป แต่ถ้าเขาชวนหย่าแบบ no fault คือสมัครใจหย่าด้วยกันทั้งสองฝ่าย.. อย่าเซ็นอะไรเด็ดขาด  กฏหมายการหย่าของสวีเดนนั้น ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สมัครใจ เรื่องต้องถึงศาลเท่านั้น  ยกเว้น ว่าได้แยกกันอยู่มาแล้วไม่น้อยกว่าสองปี และกรณีอย่างนี้คุณควรมีทนาย จะเป็นผลดีกว่าเพราะมีโอกาสที่จะได้รับสิทธิการปกครองบุตรเป็นหลัก และได้รับค่าเลี้ยงดูบุตร  ส่วนเรื่องสินสมรสนั้นคุณมีสิทธิกึ่งหนึ่งอยู่แล้ว รวมทั้ง retirement plan ของสามีด้วย ส่วนเรื่องค่าเลี้ยงชีพนั้น อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล แต่ถ้าทำตามที่ดิฉันบอก คุณไม่ได้มามือเปล่าแน่นอน อย่าพาลูกหนีกลับไทยโดยที่สามีไม่ยินยอมเด็ดขาดนะคะ ขอตอบสั้นๆ ก่อนเพราะมีธุระต้องไปจัดการ เดี๋ยวจะกลับมาต่อให้ค่ะ.... จากคุณ : Lawanwadee เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 10:12:51

ความคิดเห็นที่ 7 หมดรักกันแล้ว อะไรที่เคยทนได้ หรือที่ว่าไม่แคร์ ก็จะออกมาตอนนี้แหละเนอะคนเรา แยกกันอยู่สักพักก็ดี อาจจะเห็นอะไรที่เคยมองข้ามไปทั้งคุณและเขา แต่ถ้าสุดท้ายเขายังยืนยันจะไปก็คงต้องปล่อยให้เขาไป แต่แบบที่คุณลาวัลวดีว่า อะไรที่ควรได้ก็ต้องได้นะคะ พอเลิกรากันไปเราจะถือโอกาสนี้ทำสวย ลดน้ำหนักให้หุ่นเช้ง แต่งเนื้อแต่งตัว ให้คุณอดีตสามีเสียดายน้ำลายหกเลย เรื่องเด็กเด็กนี่ก็น่าคิดเนอะแต่เราว่านะ เด็กเด็กสมัยนี้ภูมิต้านทานดีกว่าสมัยก่อนนะคะ ทางออกทางไหนก็แล้วแต่ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : AJGensburg เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 14:53:17

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาบอกค่ะว่า เรื่องเด็กเนี่ย พ่อแม่ แยกทางกันไม่มีผลอะไรมาหรอกนะคะ ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูค่ะ เรา พี่สาว พี่ชายเรา ก้อ เติบโตมาได้ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ไม่ได้เป็นเด็กบ้านแตกอะไรเลยคะ่ ญาติ ๆ ช่วยกันเลี้ยงก้อ อบอุ่นดีค่ะ ส่วน เรื่อง หย่า เนี่ย คุณลาวัลวดี ให้ข้อมูลได้ดีมาก ๆ เลยนะคะ อีกเรื่องนะคะ ตอนนี้เราก้ออ้วนขึ้นค่ะ บึ้มมา เกือบ สามสิบพาวน์อ่ะ ยังงัย ก้อต้องลดนะคะ จะมาบอกว่า "รักที่จิตใจ" ไม่ได้ค่ะ มันเป็นคำพูดที่เข้าข้างตัวเองนะคะ เราก้อเคยคิดค่ะ ตอนนี้ยังต้องลด ๆ เลยนะคะ ไม่ใช่เพื่อแฟน นะคะ แต่เพื่อ ตัวของเราเองค่ะ บางครั้งนะคะ ปัญหาครอบครัว จะโทษที่ฝ่ายชายอย่างเดียวไม่ได้นะคะ เราก้อต้องดู ข้อบกพร่องของเราด้วยนะคะ ว่าเราทำหน้าที่ ภรรยา ได้สมบูรณ์หรือเปล่านะคะ ปล. เราก้ออ้วนเหมือนกันค่ะ ขึ้น ๆ ลง ๆ อ่ะค่ะ แต่ก้อต้องพยายามนะคะ เพื่อสุขภาพของเราเองนะคะ สู้ ๆ นะคะ อย่าท้อนะคะ ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ได้นะคะ ทั้งเรื่องครอบครัว และ เรื่องลูกนะคะ  ค่อย ๆ คิด ตั้งสติให้ดีนะคะ จากคุณ : snow... (snow...) เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 15:51:30

ความคิดเห็นที่ 9 จขกท อยู่สวีเดนเหรอคะ อ่านมาเจอที่ คห คุณLawanwadee   ไม่รู้จะแนะนำยังไง แต่เห็นด้วยกับที่หลายท่านแนะนำค่ะ ยังไงขอให้ใช้สตินะคะ จากคุณ : snyggen เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 17:22:07

ความคิดเห็นที่ 10 คำแนะนำดีๆคือ.......จะเปลี่ยนอะไรก็แล้วแต่ ''อย่าเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่น'' แต่จง ''เปลี่ยนตัวเองเพื่อตัวเองก่อน'' แล้วผลดีของการเปลี่ยนตัวเองเพื่อตัวเองจะส่งผลไปถึงคนอื่นด้วย เช่น....หากเป็นคนอ้วน อยากผอมอยากสวยเราก็ต้องออกกำลังกาย ทานอาหารที่ไม่มีแคลลอรี่สูง กินผักผลไม้มากๆ ทำจิตใจให้ปลอดโปร่งจากทุกข์ทั้งปวง อ่านหนังสือพระ ฟังซีดีธรรมะ ช่วยได้เยอะมาก หากจะผิดหวังเสียใจก็ตัดใจซะ แล้วทำจิตใจให้แจ่มใส พาสิ่งดีๆให้เข้ามาในชีวิต ขจัดความมัวหมองออกไปจากจิตใจให้เร็วที่สุด หากสามีอยากแยกกันอยู่ก็ให้เวลาเขาไปเลย แต่ยังไม่ต้องหย่าเพราะว่าคุณมีลูก แต่ให้เวลาแก่กันและกันให้พอ ในระหว่างแยกทางกันคุณก็เปลี่ยนตัวเองเพื่อตัวเอง อย่าไปหวังว่าจะเปลี่ยนเพื่อให้เขากลับมารักเรา อย่าสร้างความหวัง อย่าผูกจิตตัวเองไว้กับเท้าคนอื่น เพราะเมื่อเขาเดินจากไปเขาลากเอาใจเราไปด้วย... เมื่อสามารถเปลี่ยนตัวเองเพื่อตัวเองได้แล้ว ผลดีของการเปลี่ยนตัวเองเพื่อตัวเองจะส่งผลเหมือนออร่าสว่างไสว ซึ่งจะทำให้คนอื่นๆรอบตัวที่มองเราอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสามี อดีตสามี หรือ ใครอื่นๆในอดีตเขาจะรู้สึกดีไปกับเราแทบทั้งสิ้น รู้สึกปลาบปลื้มชื่นชม และ รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี คือมันจะดีออกมาจากจิตใจ การกระทำ คำพูด ก่อนรูปร่างหน้าตา มันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบช้าๆ แต่ว่ามั่นคง มันจะส่งผลระยะยาวต่อตัวเองและคนอื่นๆที่จะเข้ามาใกล้ชิด หรือ แม้แต่คนที่ใกล้ชิดอยู่แล้วก็จะรู้สึกว่าเราไม่ธรรมดา หากเราเป็นคนอ่อนมากๆ ก็เปลี่ยนชีวิตให้เป็นคนเข้มแข็งมากขึ้น หากเป็นคนหน้าบึ้งก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส หากเป็นคนปากจัด ด่ากราดไปทั่ว ขี้หึง พูดจาเหน็บแนมสามีตลอดเวลา (ยกตัวอย่าง) ทุกอย่างที่เราจะเปลี่ยนเราทำเพื่อตัวเองใช่หรือไม่ ? คือเราทำให้เราดีขึ้น เรายิ้มคนข้างๆก็มีความสุข เราเข้มแข็งคนข้างๆก็รู้สึกมั่นคง ฯลฯ คนเราควรกล้าเผชิญความเปลี่ยนแปลง และยอมรับความเปลี่ยนแปลง เพราะความเปลี่ยนแปลงอยู่กับเราทุกวันแค่เราไม่สังเกตเท่านั้น คือพยายามเปลี่ยนทุกอย่างที่เรารู้ว่ามันไม่ดีในตัวเรา กำจัดมันออกไปเสีย เปลี่ยนให้มันดีขึ้นหรือในทางตรงกันข้ามกันกับสิ่งที่ไม่ดีที่มันมีอยู่ในตัวเรา ... หากเป็นคนจู้จี้ขี้บ่นเอาแต่ใจ ก็เปลี่ยนเป็นคนเอาใจเขามาใส่ใจเรา หากเป็นคนพูดมาก ก็เปลี่ยนเป็นคนพูดน้อยฟังมาก หากเป็นคนกินมาก ก็เปลี่ยนเป็นคนกินน้อยๆ .... คือพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองจากอะไรที่ไม่ดีในตัวเองก็เปลี่ยนให้ดีขึ้น แล้วผลลัพธ์มันจะดีที่เราก่อน แต่คนอื่นๆจะได้อานิสงค์... คนเห็นเราเปลี่ยนไปในทางที่ดี เขาก็จะทึ่ง รู้สึกถึงพลังในตัวเรา เพราะเรามีดีอยู่ข้างใน คนที่เคยไม่ดีกับเราเขาจะกลับมาดีเอง มันเป็นพลังชนิดหนึ่งที่ทุกคนมี เพียงแต่ไม่ค่อยมีใครสนใจจะไขว่ขว้าเอาพลังนี้ออกมาใช้ เพราะว่ามันต้องใช้ความอดทนสูง ใช้เวลาสะสม แต่ผลดีมันส่งพลังระยะยาว... อย่าได้แคร์คนอื่นมากนัก สามีคือคนอื่นอยู่วันยังค่ำ แคร์ตัวเองดูแลตัวเองให้ดีก่อน และลูกก็จะดีตามแม่ ตามคนเลี้ยงดูไปด้วย แม้พ่อแม่จะแยกทางกันวันใดวันหนึ่งก็ตามที ... หากคุณเป็นคนอ้วนโดยกำเนิดจะให้ไปลดน้ำหนักให้ผอมแบบคนที่เขามีโครงสร้างเล็กๆมันก็เป็นไปไม่ได้ จะทำอะไรอย่าไปคิดถึงว่าถ้าเราทำแล้วเขาจะกลับมารักเราเหมือนเดิมไหม แต่เราทำเพื่อตัวเอง เพื่อลูก หากเราจะผอมลงและมีสุขภาพดีขึ้นก็เพื่อให้เรามีชีวิตในวันหน้าดีขึ้น ได้อยู่ดูแลลูกได้นานขึ้นถูกไหม? ทุกอย่างในโลกนี้มันถูกลิขิตมาแล้วด้วยกรรมเป็นพื้นฐาน มนุษย์ทุกผู้ทุกนามมีกรรมติดตัวมาทุกคน แล้วแต่ว่าในอดีตทำกรรมอะไรกันมากับใครบ้าง มันจึงมาสนองกับเราในชาตินี้ เวลานี้ (ซึ่งเรื่องกรรมนี้มันยาว...ดังนั้นขอผ่าน) หากคิดดีๆในแง่ดีๆแบบพุทธก็คิดซะว่าเวลาของคุณและสามีอาจจะใกล้หมดลงแล้วอยู่ไปมีแต่รังจะไม่มีความสุขทั้งสองฝ่าย (ไม่ได้พิมพ์ให้เสียกำลังใจแต่มันเป็นแนวโน้ม) เมื่อเรารู้ตัว เขารู้ตัว เราเองก็ควรจะรีบหาทางออกให้พ้นจากทุกข์นี้ซะเร็วๆจะดีกว่า ดีกับตัวเอง ดีกับลูกๆ ดีกับคนใกล้ชิด หากสามีดีจริงเป็นคู่บุญคู่บารมีกันจริงๆ เรื่องประเภทนี้จะไม่เกิดขึ้น หากฝ่ายใดฝ่ายถึงยังมีความต้องการตามกำหนัดของตนและรู้สึกแบบนั้นกับคนอื่น ก็แสดงว่าเขาไม่ใช่คู่เรา หากเป็นคู่เราจริงไม่ว่าเราจะรูปชั่วตัวดำอย่างไร สามีก็จะยังคงรักอยู่มิเสื่อมคลาย....นอกเสียจากเขาเองก็จะเปลี่ยนตัวเขาเองเพื่อตัวเขาเอง เพื่อให้เขาเองดีขึ้นเพื่อรักษาชีวิตสมรส ได้อยู่กับลูก ได้เห็นความดีและความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีของคุณ... แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเฉพาะตนอีก ''กรรม'' ... ในระหว่างนี้ปล่อยเขาไปตามธรรมชาติของเขา ปล่อยเขาไปตามกรรมของเขา แต่เราอย่าเอาตัวเองไปต่อกรรมกับเขาอีก เราต้องหยุดกรรมของเราก่อน เมื่อเขาขอแยกทางก็ให้เขาไป และเราก็ได้ทีเปลี่ยนตัวเองเสียเลย ในระหว่างนี้เรื่องตามกฏหมายก็ทำตามที่คุณ lawanwadee แนะนำ ใครจะไปรู้....เมื่อคุณเปลี่ยนตัวเองเพื่อตัวเองได้สำเร็จแล้ว อาจจะมีทั้งสามี และ ชายหนุ่มใหม่ๆเข้ามาให้เลือกในชีวิตจนคุณลืมความเจ็บปวดที่สามีเคยหยิบยื่นให้ก็เป็นได้ แต่ขอให้เป็นผลจากการเปลี่ยนตัวคุณเองเพื่อตัวคุณเอง ไม่ใช่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่น เพียงแต่คนอื่นที่จะเข้ามารักมาชอบคุณหลังจากนี้ หรือแม้แต่สามี เขาได้ประโยชน์จากการที่คุณเปลี่ยนตัวเองเพื่อตัวเอง และผลมันจะอยู่กับคุณชั่วชีวิตไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไรก็ตาม รวมทั้งคุณจะมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นในอนาคต แม้จะไปอยู่กับใครใหม่คุณจะพอใจในสิ่งดีๆที่ตัวเองมี จะไม่กลัวว่าใครจะไม่รัก หรือ ใครจะทิ้ง และแม้คุณจะไม่สามารถลดน้ำหนักได้ก็ตาม เป็นผู้หญิงต้องหยิ่งในตัวเอง รักตัวเอง สามีไม่รักก็อย่าได้แคร์ ตราบใดที่เรามีดีในตัว จะกลัวอะไร !! ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : กุศโลบายจากความจริง เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 22:31:21

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าดิฉันเป็นคุณ อย่างแรกทำใจ อย่างที่สองเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส คุณเสียใจเจ็บใจ ความอยากอาหารหมดไปแน่ๆ   ออกกำลังกายเท่าที่ทำได้ คราวนี้ได้ผอมสมใจเลยค่ะ   เปลี่ยนตนเองให้มีชีวิตชีวา   ถ้าผลแห่งความเปลี่ยนแปลงนั้นดึงครอบครัวกลับมาได้ ก็โชคดี ถ้าไม่ได้ ที่แน่ๆก็ดีกับร่างกายตัวเอง และยอมรับมันซะ เรื่องลูกสามคนนี่ ในฐานะที่เราเป็นแม่ ก็ควรต้องพยายามในส่วนของเราให้เต็มที่ก่อน ก่อนที่จะต้องให้ลูกยอมรับสถานะที่พ่อกับแม่แยกทางกันไปตลอดชีวิต   ตอนนี้ใจของสามีคุณเตลิดไปแล้ว   เปลี่ยนตัวเองก่อน โอกาสที่กลับมาอาจจะมี เพราะคุณมีโซ่ทองอยู่สามเส้น จากคุณ : pha-sea-pha เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 02:10:12

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมาก ๆสำหรับคำแนะนำของทุก ๆ ท่านค่ะ ดิฉันซาบซึ้งใจมาก ดิฉันดีใจมากกับน้ำใจของทุกท่านมาก ดิฉันเกือบจะเอาลูกกลับบ้านยังที่คุณลาวัลย์วดีเตือนไว้จริง ๆ เพราะมันเสียใจที่สุดค่ะ แต่ตอนนี้คงจะดีที่สุดอย่างที่ทุกท่านแนะนำคือ พยายามผอมให้ได้ค่ะ จริงที่สุดที่ทำเพื่อตัวเอง ตอนนี้ก็ค่อย ๆทำใจไปค่ะ จริง ๆเขาก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านอยู่แล้ว สงสารก็แต่ลูกค่ะ วันนี้ลูกคนโตเขาถามถึงพ่อเขาค่ะ เพราะเขาทำของขวัญให้พ่อเขาในวันพ่อของสวีเดนที่จะมาถึงนี้ค่ะ ดิฉันจะเข้มแข็งและไม่ร้องไห้อีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะปวดหัวไปหมดแล้ว ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ จากคุณ : คนอาภัพ (เจ้าของกระทู้) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 02:56:45 A:213.66.85.116 X: TicketID:107617

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมาก ๆสำหรับคำแนะนำของทุก ๆ ท่านค่ะ ดิฉันซาบซึ้งใจมาก ดิฉันดีใจมากกับน้ำใจของทุกท่านมาก ดิฉันเกือบจะเอาลูกกลับบ้านยังที่คุณลาวัลย์วดีเตือนไว้จริง ๆ เพราะมันเสียใจที่สุดค่ะ แต่ตอนนี้คงจะดีที่สุดอย่างที่ทุกท่านแนะนำคือ พยายามผอมให้ได้ค่ะ จริงที่สุดที่ทำเพื่อตัวเอง ตอนนี้ก็ค่อย ๆทำใจไปค่ะ จริง ๆเขาก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านอยู่แล้ว สงสารก็แต่ลูกค่ะ วันนี้ลูกคนโตเขาถามถึงพ่อเขาค่ะ เพราะเขาทำของขวัญให้พ่อเขาในวันพ่อของสวีเดนที่จะมาถึงนี้ค่ะ ดิฉันจะเข้มแข็งและไม่ร้องไห้อีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะปวดหัวไปหมดแล้ว ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ จากคุณ : คนอาภัพ (เจ้าของกระทู้) เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 02:57:17 A:213.66.85.116 X: TicketID:107617

ความคิดเห็นที่ 15 หลายๆท่านให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์และดีๆสำหรับ คุณคนอาภัพ ไปแล้ว ดิฉันก็ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ สู้ๆค่ะ เพื่อลูก เพื่อตัวคุณเอง ปล. แอบกรี๊ดดดดดดดดดดดดพี่แนน คิดถึงจังเลยค้า จากคุณ : bear hunt เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 04:01:01

ความคิดเห็นที่ 16 มาให้กำลังใจอีกครั้งค่ะ สู้ไม่ถอยนะคะ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ค่ะ เอาใจช่วยนะคะ ปล แอบเห็นพี่แนนเหมือนกัน คิดถึงจังค่ะ จากคุณ : PoomPim..TMB เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 04:20:45

ความคิดเห็นที่ 17 เวลาสามีกลับมาบ้าน หรือโทรมาคุยด้วย ให้ลองถามเค้าเรื่องลูกๆ ดูนะคะ ว่าเค้าคิดจะทำอะไรยังไงบ้าง คือคนที่เป็นพ่อแม่นี้ ถึงแม้จะหมดสภาพความเป็นสามีภรรยากันไปแล้ว แต่หน้าที่พ่อแม่ก็จะยังคงอยู่ต่อไป ถามเค้าว่าจะให้บอกลูกๆ ยังไง เมื่อไร แล้วเรื่องการเลี้ยงดูลูกนั้น จะทำอย่างไร จะให้คุณดูคนเดียว หรือเค้าคิดอยากจะให้ลูกไปอยู่กับเค้าบ้าง เรื่องนี้ต้องคุยกันและตกลงกันให้รู้เรื่อง คือหากเค้าจะไปจริงๆ เค้าก็ต้องรับผิดชอบตรงข้อนี้ และเค้าต้องมาพูดอธิบายกับลูกๆ ด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้คุณอธิบายเรื่องต่างๆ ให้ลุกๆ ฟังอยู่คนเดียว หากจะให้ดีคุณกับสามีก็ต้องคุยตกลงกันให้เรียบร้อยก่อนว่าจะบอกลูกๆ อย่างไร เด็กๆ จะได้ไม่เก็บไปคิดเอาเองว่ามันเป็นความผิดของพวกเค้า พ่อแม่ถึงได้แยกทางกัน ระหว่างที่คอยคำตอบจากสามี คุณก็อาจเตรียมตัวเด็กไปพลางๆ ด้วยการหาหนังสืออ่านสำหรับเด็กที่เกี่ยวกับเรื่องเมื่อพ่อแม่แยกทางกัน มาอ่านให้เด็กๆ ฟังก่อนนอน ที่บ้านดิฉัน ไม่ได้คิดเรื่องหย่า แต่ก็หาหนังสือต่างๆ ที่เกี่ยวของกับเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ เช่นการเกิด แก่ เจ็บ ตาย หย่า ฯลฯ มาอ่านให้ลูกๆ ฟังก่อนนอน หนังสือพวกนี้อ่านแล้วเด็กเข้าใจง่าย นอกจากจะเพิ่มความรู้ให้ลูกๆ เป็นการเตรียมตัวเค้าให้พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมีมา คุณก็จะได้ใช้เวลาที่มีคุณภาพกับลูกๆ ได้นอนกอดลูกและอ่านหนังสือให้เค้าฟัง ถือเป็นการให้ความอบอุ่นทดแทนที่ตอนนี้พวกเค้าไม่มีพ่ออยู่ใกล้ๆ ดีแล้วค่ะที่ไม่พาลูกๆ กลับไทย เพราะหากพาลูกๆ ไปโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวให้สามีคุณทราบ หรือบอกแล้วเค้าไม่อนุญาต แต่คุณก็ยังจะพาออกนอกประเทศ คุณก็จะโดนข้อหาลักพาตัวลูก จะโดนแจ้งประกาศจับผ่านอินเตอร์โปล มีโอกาสติดคุก นอกจากนี้แล้วศาลก็จะตัดสินให้คุณเสียสิทธิ์ปกครองบุตรด้วย เรื่องปกครองบุตรนั้น หากหย่ากันจริงๆ สามีคุณก็จะมีสิทธิ์ปกครองบุตรร่วมกับคุณ ยกเว้นแต่ว่าเค้าจะบอกยกสิทธิ์ปกครองบุตรให้คุณคนเดียว พิจารณาแล้วสามีเค้าไม่ได้ทำผิดอะไรมากมายไปกว่าหมดรักคุณ ซึ่งคิดว่าทนายไม่สามารถทำเรื่องบังคับให้เค้าสูญสิทธิ์ตรงนี้ได้ ยกเว้นแต่ว่าเค้าจะทำอะไรสักอย่างที่ศาลเห็นว่าเค้าไม่เหมาะสมที่จะมีสิทธิ์ปกครองบุตร อยากให้ลองไปอ่านกฏหมายสมรสและกฏหมายปกครองบุตรของสวีเดน รู้ข้อมูลไว้ก่อนก็ดี จะได้รับมือได้ถูกต้องเมื่อถึงเวลาจริงๆ ส่งลิงค์มาให้ด้วย ตามไปอ่านเอาเองนะคะ https://lagen.nu/ กฏหมายสมรส (Äktenskapsbalk) https://lagen.nu/1987:230 หากมีเวลาก็ควรจะอ่านทั้งหมด หรือไม่ก็เลือกอ่านตรงหัวข้อกฏหมายหย่า (Äktenskapsskillnad) และการแบ่งมรดก (bodelning) กฏหมายปกครองบุตร https://lagen.nu/1949:381 ส่วนว็บนี้ให้ข้อแนะนำหลายอย่างเกียวกับการหย่าร้าง http://www.skilsmassa.eu/ ลองอ่านดูนะคะ โดยเฉพาะหัวข้อ Skilsmässa i praktiken, Skilsmässa med barn และ Krishantering หากจะหย่ากันจริงๆ คุณควรจะหาทนายความมาช่วยนะคะ เรื่องกฏหมายนี้มันละเอียดยุบยิบ ให้ทนายเค้าช่วยจัดการดีกว่า หากสามีเปลี่ยนใจ เพราะคิดได้ หรืออะไรก็แล้วแต่ และคุณกับเค้ายังอยากจะใช้ชีวิตร่วมกันอีก ทั้งคู่ก็ควรไปหา familjeterapi หรือ parterapi เพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน แต่หลายคู่ไป terapi แล้ว ฝ่ายที่ลังเลไม่อยากเลิก ก็ยิ่งแน่ใจว่าควรเลิก เอาใจช่วยให้พ้นทุกข์ในเร็ววันค่ะ ปล. ไม่ทราบทำไมลิงค์กฏหมายมันไม่ขึ้นค่ะ คุณก็อบลิงค์เอาไปเปิดเองก็แล้วกันนะคะ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 54 04:26:24 จากคุณ : Smilla เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 04:21:57

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาอ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้งแทนจขกทค่ะ คำแนะนำเพื่อนๆ ที่ให้มาโดนใจมากค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้สู้ๆๆนะคะ จากคุณ : อิจิบัง เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 06:26:05

ความคิดเห็นที่ 19 ขออภัย จขก นะคะ ขอทักคุณเปิ้ล หมูหนาว หน่อยค่ะ เห็นแว๊บๆ แอบแจกกิฟท์ อิอิ สบายดีนะคะคุณเปิ้ล เป็นอย่างไรบ้าง ไปอยู่บ้านพี่แต๋นหรือยังคะ จากคุณ : PoomPim..TMB เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 11:56:12

ความคิดเห็นที่ 20 แยกกันอยู่สักพักก็ดีเหมือนกันค่ะ แล้วเค้าจะรู้สึกว่า เหมือนขาดอะไรไปหลายๆ อย่าง บางทีถึงขนาดหยิบจับอะไรไม่ถูกเลย เนื่องจากว่า เราทำให้เกือบทุกอย่าง ยิ่งมีลูกด้วยกันแล้ว เค้าก็จะคิดถึงลูก ดูอะไรมันโหวงๆ ไปหมด เห็นคนเดินกับลูก ก็จะนึกถึงลูกผู้หญิงไทยเรา อ่อนหวาน เอาอกเอาใจอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้เราได้เปรียบกว่าผู้หญิงฝรั่งเยอะ พอเค้าคิดได้ สักวันเค้าก็จะกลับมาหาคุณ ทำตัวให้ปกติ ข่มอารมณ์เสียใจไว้ อย่าให้เค้าเห็น เป็นหลักให้ลูกๆ เป็นกำลังใจให้ ขอให้อดทน เข้มแข็งให้มากๆ ค่ะ จากคุณ : แม่น้องตาล เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 16:40:36 A:69.251.33.78 X: TicketID:187525

ความคิดเห็นที่ 21 ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ และขอขอบคุณ กุศโลบายจากความจริง ในข้อเตือนใจ ดิฉันอ่านแล้วซึ้่งมากๆ ค่ะ ขอให้บุญรักษาทั้งเจ้าของกระทู้และคุณกุศโลบายจากความจริง นะคะ จากคุณ : ยาแดง เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 21:51:35 A:76.184.52.91 X: TicketID:332175

ความคิดเห็นที่ 22 Khun คนอาภัพ I totally understand how you feel. hang in there kha and be strong. With supports of friends and family, you will surely make it through this difficult time. It hurts so badly but once you pick yourself up and keep going, you will be just fine. Trust me that time heals everything. Focus on your three little precious angels, you are lucky to have all three of them by your side. Mean while, look for something to do to keep you occupied (I actually believe looking after three children is actually keeping you incredibly busy already...lol). Perhaps the beauty or make up class (if it is something you are interested in). Other wise...something that might help your future career. I survived the break up of my marriage too kha, with great supports and kind advices from everyone in this board. Still wonder how could I ever repay all of you for such great help. Good luck na kha khun คนอาภัพ Don't forget to be strong and stay optimistic kha. ps:  Khun Poom...I'm ok kha. Just want to stay a bit quiet for a while. Going to see P' Tan next Sunday kha. Look forward to it. Hope you and your family are doing well na kha. Miss all of you as always kha. Ple จากคุณ : หมูหนาว เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 00:10:22

ความคิดเห็นที่ 23 รักกันที่จิตใจเท่านั้น หน้าตา รูปร่าง อย่างไรไม่สน เป็นคำพูดในอุดมคติเท่านั้นมั้งคะ จะหาผู้ชายที่คิดอย่างนี้จริงๆ หนึ่งในล้าน จะหาได้หรือเปล่า เห็นด้วยกับหลายๆ คน เรื่องให้คุณดูแล ตัวเอง จำกัดน้ำหนักให้เหมาะสม ไม่ใช่เพื่อสามีคุณหรือผู้ชายที่ไหน แต่เพืีอตัวคุณและลูกๆ ของคุณ คนอ้วนมีโอกาสเป็นโรคต่างๆ มากกว่าคนอื่นๆ วันๆ หนึ่งมีความกระตือรือร้นที่จะทำอะไรน้อยกว่า และถ้าคุณไม่ปรับนิสัยการกิน การออกกำลังกาย คุณก็กำลังถ่ายถอดพฤติกรรมแบบนี้สู่ลูกๆ ของคุณ ลองสังเกตซิคะ พ่อแม่ที่อ้วนมากๆ ก็จะมีลูกๆ ที่อ้วนมากๆ เหมือนกัน เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตแต่ละวันคล้ายกัน อีกอย่างการที่คุณรู้สึกว่า ตัวเองอ้วน ไม่น่ามอง ไม่น่าปรารถนา ก็คงส่งผลกับความมั่นใจ ความภาคภูมิใจในตัวเอง สิ่งเหล่านี้ก็ส่งผลต่อการพูด การกระทำ ความสัมพันธ์ ไม่ใช่แค่กับสามีคุณ แต่กับทุกคน รวมถึงลูกๆ คุณด้วย เรียกความมั่นใจ ความภาคภูมิใจกลับมาให้ตัวเองเถอะค่ะ ผู้หญิงเราเวลาหุ่นดีๆ หน้าตาไม่ต้องสะสวยอะไรมากมาย แต่แต่งตัวดี มีรสนิยม น่ามองออกค่ะ   ส่วนเรื่องใครหมดรัก หมดเยื่อใยกับเรา ก็ปล่อยเค้าไปเถิด เรามีดีซะอย่าง หาคนที่เค้าเห็นคุณค่าของเรา ดูแลทนุถนอมเราไม่ดีกว่าเหรอคะ จากคุณ : MidNite เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 00:20:27

ความคิดเห็นที่ 24 ขอให้คุณอาภัพเข้มแข็งมากๆน่ะคเพื่อลูกทั้งสามคน ถ้าพ่อเค้ารักและรับผิดชอบลูกก็ดีน่ะค่ะ ลองคุยกันเรื่องลูกก่อนแล้วกันส่วนเรื่องของเราก็ค่อยคิดและแก้ไขทั้งแบบบวกและแบบลบ วางแผนให้รอบคอบ นิ่งๆเฉยๆ ไม่ต้องแสดงความรู้สึกออกมาให้เค้าเห็น ไม่งั้นเค้าจะเอาจุดอ่อนเรามาซ้ำเติมเรา ไม่ต้องไปต่อว่าเค้า ไม่ต้องไปถามเค้าว่ายังรักเราและจะกลับมาหาเราหรือเปล่า เราคิดว่าจขกท. คงดูออก เดี๋ยวเค้าตอบให้เราช้ำใจอีก     เค้าอยากไปพักข้างนอกก็ปล่อยเค้าไป เอาจิตใจมาดูแลลูกๆดีีกว่า และอธิบายให้ลูกๆเข้าใจเหตุการณ์ที่ละนิด และพูดถึงพ่อเค้าในส่วนที่ดี เมื่อเราเตรียมตัวเตรียมใจเต็มที่ ถ้าสามียังพูดถึงเรื่องหย่า เราก็ตัดสินใจเลยค่ะ ไม่ต้องร้องไห้เพราะน้ำตาคงหมดไปนานแล้ว บอกเค้าให้ติดต่อทนายเพืี่อจัดการเรื่องลูกและสิ่งที่ควรจะได้ เอาให้เต็มที่นะคะไม่ต้องเกรงใจ เพราะเราต้องดูแลลูกๆไปอีกหลายปี    ตอนนี้มีเพืี่อนๆเข้ามาให้กำลังใจเยอะแยะ หวังว่าจขกท. คงมีกำลังที่ดีและเข้มแข็งน่ะค่ะขอรบกวน จขกท. ทักทายเพื่อนๆหน่อยน่ะคะ      ขอ ส.ว.ด น้องๆเพื่อนๆพี่ๆทุกคนนะคะ ช่วงนี้กำลังปั้มลูก.. เอ้ย.. ปั้มเงินจนตัวเหลืองคะ เพราะคนข้างๆใช้ให้ทำงานบ้านและงานโรงแรมรวมทั้งงานประจำ. ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันพุธหน้า ถึงจะได้หยุดและเตรียมตัวไปเยี่ยมน้องน้ำที่กรุงเทพ.. เพราะเค้าคงไม่มีตั๋วเครื่องบินๆบินมาอังกฤษ     ปล.  น้องเปิ้ล พ่อของ Rosie ฝากความคิดถึงนะคะ รีบมาไวๆเพราะท่านกลัวไม่ได้กลับเมืองไทย ไม่ต้องหอบอะไรมานอกจากลูกชาย และชุดชั้นในและชุดชั้นนอกนิดหน่อย อากาศเริ่มเย็นเป็นบางวัน ที่นี้เสื้อหนาวหรือเสื้อผ้าเพียบ ส่วนอาหารในตู้เย็นที่แช่รอ ช่วยกินให้หมดด้วยน่ะ ขวดกลมๆที่เคยเอาไปก็ไม่ต้องหิ้วมานะ มีขวดสำรองไว้รอที่แล้วรับรองร้อน แน่ๆ ขอไปนอนก่อนพรุ่งนี้ต้องทำงานช่วยสามีแต่เจ็ดโมงเช้าจ้า จากคุณ : โค้งหักศอก เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 07:15:18

ความคิดเห็นที่ 25 ลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนตัวเอง ดูแลตัวเอง ดูแลลูกๆไห้ดีที่สุดค่ะ เป็นกำลังใจไห้นะค่ะ จากคุณ : ++The Queen Of Far Far Away++ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 08:46:12

ความคิดเห็นที่ 26 เอาใจช่วยค่ะ บางทีถ้ามันไม่ได้รักมาแต่ต้น นี่มันก็ยาก มันทำให้หลายๆอย่างราบรื่นไปตลอด ไม่อดทนได้มากเท่าที่ควร เราถึงเห็นในนิยายในชีวิตจริง ที่แต่งเพราะเหมาะสม แต่งแต่ไม่รัก แต่งเพราะโดนคลุมถุงชน อะไรหลายอย่าง พอนานๆไป ความอดทนมันถึงที่สุด มันก็แตกปริ ยิ่งคนสมัยนี้ อิสระเสรี มันทำได้ง่ายมากขึ้น ผู้ชายต่างจากผู้หญิงเยอะ ผู้หญิงถ้า ได้เป็นภรรยาแล้ว ถึงไม่รักก็รักและผูกพัน ยอมรับสภาพได้ มากกว่า ถ้าจะทนอยู่ อย่าทนนะคะ มันเหนื่อย และสนับสนุนให้ปรับ ตัวเองบ้าง เพื่อตัวเราเองล่ะ แล้วมันจะผ่านไปค่ะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : พิพพ์ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 54 15:10:47

ความคิดเห็นที่ 27 ลักษณะของคุณคล้ายกับเพื่นดิฉันตอนนี้เลย ถ้าหมดรักแล้วต้องทำใจ อย่าไปฝืนค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : sascha เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 12:17:33

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับ คห.23 ทั้งหมด มันไม่มีหรอก ผู้ชายที่จะรักแต่คุณความดีและจิตใจโดยไม่คำนึงถึงรูปลักษณ์เลย ถึงจะไม่ต้องสวยเลิศเลอเฟอเฟ็กต์ แต่อย่างน้อยก็ต้องไม่ทำให้เขารู้สึกอับอายที่มีเมียรูปร่างหน้าตาหน้าเกลียด คุณ จขกท. ก็บอกตั้งแต่แรก ว่าเขาให้โอกาสคบหากับคุณ ทั้งที่ไม่ชอบคนอ้วน จนกระทั่งแต่งงาน มีลูกด้วยกัน แต่คุณ จขกท. ไม่มีความพยายาม ไม่มีความตั้งใจที่จะปรับปรุงตัวเองให้ดูดีเพื่อเขาบ้างเลย กลับยิ่งปล่อยตัวให้อ้วนขึ้นๆ คิดแต่ว่าสามีจะต้องรักคุณที่จิตใจเท่านั้น ไม่สนในธรรมชาติของคนที่ใครๆ ก็ชอบสิ่งสวยๆ งามๆ คุณจะให้สามีคุณ อดทนอยู่กับเมียอ้วนๆ ที่ตามใจปาก ไม่มีความรักแม้กระทั่งตัวเองในการดูแลสุขภาพ ไปตลอดชีวิตเขาหรือไงคะ สามีดิฉันก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ชอบผู้หญิงอ้วน เขาบอกดิฉันตรงๆ เลยตั้งแต่ก่อนแต่งงาน แม้สิ่งสำคัญในการจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันคือนิสัยใจคอที่ไปกันได้ แต่สามีดิฉันบอกว่า ทนไม่ได้หรอกที่จะอยู่กับผู้หญิงที่เอาแต่กิน ขี้เกียจออกกำลังกาย แล้วก็ปล่อยให้ตัวเองอ้วนฉุ ดิฉันไม่ต้องไปเสริมไปแต่งอะไรทั้งสิ้น ดั้งก็แบน หน้าอกก็ราบ เพียงแค่รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ไม่ขี้เกียจออกกำลังกาย เลือกกินอาหารที่ไม่เพิ่มไขมัน แต่งงานมา 3 ปีรูปร่างดิฉันก็ยังเหมือนเดิม สามีทั้งรักทั้งภูมิใจ ทั้งที่ดิฉันไม่ใช่คนสวยแต่อย่างใดเลย ดิฉันไม่สวย สามีก็บอกตรงๆ ว่าถ้าเขาให้ความสำคัญกับความสวย คงไม่เลือกแต่งงานกับดิฉัน แต่สิ่งสำคัญคืออุปนิสัยใจคอ ที่ดิฉันเป็นคนจริงใจไม่หลอกลวง ดิฉันก็รู้จักกับสามีทางเน็ตจากรูปถ่ายธรรมดาที่ไม่มีการตกแต่ง ลงโปรไฟล์ตามจริงทุกอย่าง ในวันที่ไปเจอตัวจริงกัน ดิฉันก็แต่งตัวเหมือนปรกติที่เคยเป็น เป็นคนไม่ชอบแต่งหน้าก็คือไม่แต่งเหมือนเดิม สามีมาบอกหลังจากที่แต่งงานกันแล้วว่า เห็นหน้าดิฉันครั้งแรกรู้สึก เอ่อ...รูปถ่ายฉันดูดีกว่าตัวจริงนะ ดิฉันก็ยังเถียงว่า ฉันไม่ได้ทำอะไรกับรูปนะ รูปจากกล้องที่ถ่ายกันเองธรรมดาไม่ได้ถ่ายจากร้านแล้วฉันก็ยังใช้โปรแกรมตกแต่งภาพไม่เป็นด้วยตอนนั้น สามีก็บอกว่ารู้น่ะ ดูออก ก็นี่แหละที่ทำให้เขาประทับใจในความเป็นคนจริงใจไม่เสแสร้งหลอกลวง ไม่เป็นผู้หญิงประเภทก่อนแต่งงาน ดูแลรูปร่างหน้าตา ปรุงแต่งสวยพริ้ง แต่พอแต่งงานแล้วก็เผยธาตุแท้ความเป็นคนขี้เกียจ เพราะคิดว่าหมดความจำเป็นในการล่อหลอกให้ผู้ชายมาติดกับความสวยงามอีก สามีดิฉันไม่ให้โอกาสผู้หญิงที่ตบตาเขาตั้งแต่เริ่มคบกัน เหมือนสามีคุณ จขกท. แน่นอนค่ะ นับว่า จขกท. นั้นโชคดีกว่าดิฉันมากมายแล้ว ที่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ ที่ทนอยู่กับคุณมาได้ตั้ง 8-9 ปี ให้โอกาสคุณได้สมหวังในความรัก แต่งงาน มีลูกกับคุณได้ แม้คุณจะเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างไม่สวยงาม วันนี้คุณไม่ควรมานั่งเสียอกเสียใจเลยค่ะ ผู้ชายคนนี้ให้ความสุขคุณมา 8-9 ปีแล้ว ปล่อยให้เขาไปมีความสุขกับสิ่งที่เขาชอบ ไม่ต้องทนฝืนกันต่อไปจะดีกว่านะคะ รักคนอื่นบ้างค่ะ อย่ารักแต่ตัวเอง ถ้ามีความสุขอยู่กับรูปร่างอ้วนๆ ก็ไม่ต้องฝืนทำอะไร แต่ก็ไม่ควรไปฝืนใจคนอื่นให้ต้องทนอยู่กับคุณ ขอโทษนะคะ ถ้าความเห็นของดิฉันมันแย่ ขัดกับความรู้สึกใครๆ ดิฉันไม่ได้จะมาซ้ำเติม จขกท. เพียงแค่อยากให้เปิดตาเปิดใจ และทำใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น และเพราะดิฉันเกลียดความไม่ยุติธรรม ความคิดที่เห็นแก่ตัว ที่จะกล่าวโทษแต่ฝ่ายชายโดยไม่พิจารณายอมรับถึงความบกพร่องของตัวเองเลย จากคุณ : ...ไม่อ้วนแต่ก็ไม่สวย เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 16:36:10 A:91.57.113.227 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 29 มีคำแนะนำดีๆเยอะเลย ทำใจดีๆนะคะ ค่อยๆคิดไปค่ะ ทำใจสบายๆค่ะ คุณยังไม่ได้หย่าแต่กำลังแยกกันอยู่นะคะ อะไรๆก็เป็นไปได้ทั้งนั้น คุยกับลูกดีๆนะคะ อย่าว่าพ่อเขาให้ลูกฟัง วันพ่อก็โทรให้ลูกได้คุยกับพ่อสิคะถ้าเขาไม่อยู่บ้าน (อาจจะนัดกับสามีไว้ก่อนว่าจะให้ลูกโทรไป จะได้ไม่ผิดหวัง) เวลาเริ่มจะเสียใจมากๆหรือคิดอะไรไม่ออกปล่อยให้ตัวเองบ้าไปแค่สองสามนาทีแล้วรีบสวดมนต์สั้นๆแผ่เมตตาให้ใจสงบนะคะ  เราไม่ได้หมายความว่าให้ถือการสวดมนต์เป็นการสร้างปาฏิหารย์นะแค่ให้ใช้เป็นเครื่องมือทำให้ใจสงบและหยุดคิดชั่วคราวน่ะค่ะ ถ้าไม่ทำเสียเลย คุณอาจจะคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆซ้ำๆ แล้วพาลไม่มีใจจะทำอะไรอื่นเลย พอดีเรานั่งสมาธิไม่เป็นเลยใช้วิธีสวดมนต์ให้ใจนิ่งน่ะค่ะ ทำแบบนี้สักสามวันก็ใจสงบขึ้นเยอะแล้วค่ะ มันจะเริ่มคุมอารมณ์อยู่แล้วจะมีสติคิดไตร่ตรองค่ะ จากคุณ : cognac & tobacco เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 10:49:57

ความคิดเห็นที่ 30 เรื่องรูปร่างหน้าตาเนี่ยอย่าว่าแต่ผู้หญิงเลยค่ะ ตัวผู้ชายเองก็เหมือนกัน ถ้าปล่อยตัวอ้วนฉุ พุงพลุ้ย นี่ก็ไม่ไม่ไหวนะ คนเป็นภรรยาก็รับไม่ได้เหมือนกัน กรณีของคุณ คุณสองคนไม่ได้รักกันตั้งแรกแรก คุณสามีมีแต่ความสงสารและเห็นใจตั้งแต่แรกพบ แต่ก็อยู่ด้วยกันมาจนลูก 3 ความรู้สึกของเค้าก็ไม่เปลี่ยน ให้คุณทำใจและมีความสุขกับวันนี้ และ มีลูกเป็นกำลังใจ  อย่าลืมว่าคุณยังมีลูกอยู่ข้าง ๆ นะคะ และขอให้คุณดูแลตัวเอง รักตัวเองให้มาก ๆ ค่ะ ไม่มีใครรักคุณเท่าตัวคุณเองหรออก ไม่ต้องร้องไห้ ไม่ต้องท้อค่ะ ตั้งใจลดความอ้วนตั้งแต่ตอนนี้เลย ลองดูกระทู้ล่าง ๆ นะคะ มีกระทู้นึงน้องเค้าลดความอ้วนได้สุดยอดมากค่ะ ดิฉันเชื่อว่าคุณทำได้ค่ะ จากคุณ : เพชรชมพู เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 19:05:29

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องอื่นไม่มีคำแนะนำ แต่อยากให้ขึ้นไปดูกระทู้แนะนำ ที่คุณจขกท เค้าโพสรูปที่เค้าอ้วน แล้วออกกำลังกาย จน fit&firm จนฝรั่งเองยังทึ่งเลย สิ่งหนึ่งที่เราอยากบอกคุณคือ อย่าโทษตัวเอง การที่สามีคุณหมดรักคุณที่รูปร่าง นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของเค้าหรอกนะ คนเราอยู่ด้วยกันมันต้องหากึ่งกลางระหว่างกัน ที่ผ่านมา คุณได้พยายามมากพอแล้วหรือไม่ คุณต้องพิจารณาดู สู้ ๆ นะ จากคุณ : rain&ant เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 03:40:27

ความคิดเห็นที่ 32 ท่องไว้ค่ะว่า. เค้า้ป็นอดีตไปแล้ว ลูกและเราคืออนาคตที่ต้องสดใสร่วมกัน ก่อนนอนหรือคิดว่าเสียใจรันทด.  มองหน้าลูกๆตอนหลับไว้นะคะ ไปนั่งจ้องหน้าจนเค้าหลับไป.  พลังเราจะมาตอนนั้น เราทำบ่อยๆ ถึงทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ ช่วยได้เยอะนะคะ จากคุณ : pano เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 13:23:06

ความคิดเห็นที่ 33 คำแนะนำดีๆ คนอื่นๆ ก็บอกไปเยอะแล้ว แวะมาเป็นกำลังใจให้อีกคน ต่อไปนี้ทำอะไรก็เพื่อตัวเองและลูกนะคะ สามีเขาเปลี่ยนใจจากเราก็เป็นคนอื่นไปแล้ว ต้องทำใจ สู้ต่อไปค่ะ จากคุณ : อาการเซ็งระยะสุดท้าย เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 11:29:47 A:68.151.25.241 X: TicketID:257835