ความคิดเห็นที่ 1 เคยถามน้องๆคนไทย 2-3 คนที่ทำ แนะนำอาหาร เสิร์ฟ เก็บโต๊ะและคิดเงิน ที่เยอรมันใช้คนเดียวทำทั้งหมด บางร้านเล็กๆ มีคนเดียว ลูกค้าเยอะอาจเพิ่มเป็นสอง สาม สี่คนได้ เช่นสวนเบียร์ (ในครัวมีกุ๊กนะครับ) สื่อสารกับลูกค้าได้ เช่น แนะนำอาหาร (ส่วนมากเป็นหนุ่มสาวประเทศข้างเคียง เขาได้เปรียบเรื่องการเรียนภาษา แต่น้องคนไทยพูดเก่งก็พอมีครับ) รายได้ประมาณ 900 - 1,200 ยูโรต่อเดือน (พันสองนี่ เคยเห็นเป็นรีเซฟชั่น รร. เล็กๆ ที่ใช้คนเดียวหน้าฟร๊อนท์ก็มีนะครับ) งานหนักมาก แต่ผมเห็นทิปแล้ว หายเหนื่อยเลย  555 มีกระเป๋าหนังแท้คาดเอว ทั้งธนบัตรทั้งเหรียญ (ต้องเก็บตังค์ด้วย) เดินเอวคดเอวงอ คงหนักมากพอควร แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 54 21:46:50 จากคุณ : PICCANINNY'S DAD เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 21:41:22

ความคิดเห็นที่ 2 เคยได้ทุนเรียนที่ ซาแลนด์ คือ ทุนประเทศกำลังพัฒนา แต่ว่าเรียน MBA เลยเฉพาะค่าเทอมซื่วก็แพงนะ ตอนนั้นพยายามหาร้านอาหารไทยซักร้านเพื่อทำงาน ยาก มาก เลยไม่ได้ไป ตอนนี้กำลังไปไอร์แลนด์แทน จากคุณ : กี้ เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 00:02:37 A:58.11.236.11 X: TicketID:339130

ความคิดเห็นที่ 3 ทำงานในเยอรมนีต้องมีใบอนุญาตทำงาน ถ้าไปแอบไม่มีใบอนุญาต ทำโดยที่เจ้าของร้านอาหารรู้เห็นเป็นใจ เสี่ยงกับโดนจับได้ ด้วยกฏหมายเยอรมนีแรง หวังว่าจขกท. มีใบอนุญาตทำงาน จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 00:42:17

ความคิดเห็นที่ 4 ใบอนุญาตเนี่ย เจ้าของร้านเป็นคนดำเนินการให้ ใช่รึป่าวครับ จากคุณ : BergZu เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 12:18:35

ความคิดเห็นที่ 5 การที่คุณจะทำงานในเยอรมันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับ วีซ่าและ Residence permit (Aufenthaltserlaubnis) ที่คุณได้ค่ะ วีซ่าเรียนภาษาและเชงเก้นไม่สามารถทำงานได้ วีซ่านักเรียนเมื่อเปลี่ยนวีซ่าเป็น Residence permit แล้ว สามารถทำงานได้ 90 วัน (เต็มวัน) หรือ 180 วัน (ครึ่งวัน) ต่อปี โดย 8 ชม. นับเป็นเวลาหนึ่งวัน แต่งานที่ทำต้องเป็นลูกจ้างเท่านั้น ไม่สามารถทำงานอิสระ (selbstständig) ได้ ส่วน Residence permit ที่ได้เมื่อแต่งงานกับคนเยอรมัน ก็ทำงานได้เหมือนคนเยอรมัน ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ และในกรณีนี้ไม่ต้องไปติดต่อขอใบอนุญาตทำงานต่างหาก เพราะใบอนุญาตจะอยู่ในหน้า Residence permit ในพาสปอร์ต ถ้าตอนนี้คุณอยากจะมาทำงานเป็นพ่อครัวในเยอรมัน แต่ตอนนี้อยู่ที่เมืองไทย ต้องทำดังนี้ http://www.bangkok.diplo.de/Vertretung/bangkok/th/04/Visa__90Tage/Speziealitaetenkoeche__seite.html คุณต้องมีคุณสมบัติตามที่สถานทูตกำหนด และต้องมีสัญญาการจ้างงานจากนายจ้าง ถ้าจะมาเสิร์ฟอาหารเฉย ๆ คงขอวีซ่ามาไม่ได้ค่ะ และขอเตือนว่าอย่าคิดทำงานมืดหากได้วีซ่าเชงเก้นหรือวีซ่าเรียนภาษา เพราะผิดกฎหมาย ถ้าโดนจับได้คุณและนายจ้างต้องเสียค่าปรับ และคุณจะเสียประวัติในการขอวีซ่า ถ้าคุณมี Residence permit ที่อนุญาตให้ทำงานได้ และอยากจะทำงานพิเศษ แนะนำให้ไปทำร้านฝรั่งค่ะ จากประสบการณ์ที่อยู๋ในเยอรมันมาหลายปีพบว่า ร้านไทยส่วนใหญ่ไม่แฟร์กับลูกจ้าง ค่าจ้างน้อยมาก (5-6 ยูโรต่อชม.) งานหนัก บางที่ทิปก็ต้องเอามาแบ่งกัน เก็บไว้เองไม่ได้ เจ้าของร้านบางคนลงทะเบียนให้ลูกจ้างเป็นแบบ Minijob 400 ยูโร (กรณีนี้นายจ้างไม่ต้องเสียค่าประกันสังคมให้) แต่จริง ๆ ให้ลูกจ้างทำงานมากกว่านั้น โดยค่าจ้างที่เกินจาก 400 ยูโรก็จ่ายเป็นเงินสด ถ้าคุณสามารถทำงานที่นี่ได้อย่างถูกกฎหมาย และอยากหางานพิเศษ ถ้าเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยก็แนะนำงาน HiWi ในมหาวิทยาลัย (http://de.wikipedia.org/wiki/Wissenschaftliche_Hilfskraft) ได้เงินไม่มาก แต่สามารถเอาไปอ้างอิงเป็นประสบการณ์ใน CV ได้ งานพิเศษนอกมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็มี เช่น พนักงานจัดของในซุปเปอร์ฯ พนักงานในร้านต่าง ๆ แคชเชียร์ เลี้ยงเด็ก ดูแลคนแก่ ฯลฯ โดยงานเหล่านี้มักเป็นแบบ Minijob 400 ยูโร (ค่าจ้างมากที่สุดต่อเดือนคือ 400 ยูโร ไม่ต้องเสียภาษี แต่ต้องทำประกันสุขภาพเอง ถ้าเป็นนักศึกษาก็ทำประกันสุขภาพแบบนักศึกษาได้ ถ้าอยู่กับคู่สมรสก็ใช้ประกันร่วมกับคู่สมรสได้ในกรณีที่คุณไม่มีรายได้อย่างอื่นนอกจากงาน Minijob นี้) แต่งาน 400 ยูโร ไม่มีการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำที่คุณจะได้ต่อชม. ต้องตกลงกับนายจ้างเอง ตอนนี้เราทำงานฟรีแลนซ์ที่นี่ (แปลเอกสารทางเทคนิค) ค่าจ้างก็แล้วแต่งานและขึ้นอยู่กับความเร็วในการแปล ส่วนใหญ่ก็ 25-50 ยูโรต่อชม. แต่ต้องเสียประกันสุขภาพและภาษีอีก แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 54 15:36:02 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 54 15:34:52 จากคุณ : Sonnenschein เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 15:31:57

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าจะให้นายจ้างขอนี่ยากมาค่ะใบอนุญาตทำงานเนี่ย เพราะถ้าเป็นเด็กเสริฟคงต้องเป็นคนที่อยู่ในนี้อยู่แล้ว มารับจ๊อบเอา ส่วนถ้ามาจากไทย ส่วนมากจะได้แค่งานพ่อครัวเท่านั้น ซึ่งโคตรๆๆๆๆๆหนัก   ถ้าเป็น นร ภาษาทำงานพิเศษไม่ได้นะคะ ต้องเป็น นร มหาลัยเท่านั้น ซึ่งทำได้กี่ ชม. ต่อปีก็ไม่ค่อยชัวร์ รู้ๆว่าไม่เยอะอ่ะ ที่คุณ คคห แรกบอกว่าได้เก้าร้อยถึงพันสองนี่ รายได้ขนาดนี้ต้องเสียภาษีแล้วนะคะ ถ้าเจ้าของร้านแจ้งเต็ม แต่ส่วนมากที่เห็นเห็นทำมืดกันอ่ะ แจ้งแค่มินิจ้อบไม่เกินสี่ร้อยอย่างงี้ แต่ว่าถ้าทาง จนท.มาตรวจก็วิ่งให้ทันละกัน ส่วนมากทันป่าวไม่รู้ ร้านอาหารเสริฟกันอย่างมากไม่เกินสองคน บางร้านคนเดียวจริงๆอ่ะค่ะ แต่หมดนี่ภาษาต้องได้นะ ยกเว้นหมอนวด จริงๆหมอนวดยังต้องพูดได้บ้างเลยเพราะถ้าลูกค้าบอกเจ็บตรงนั้นตรงนี้ฟังไม่เข้าใจจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ไปเสริฟ ถ้าฟังไม่ออกก็คงแย่อีก เหลือแต่งานในครัว ร้านอาหารไทยอย่างเดียวแล้วอ่ะ เด็กเสริฟ ได้กัน ชมละหก ถึงเจ็ดนะคะ .. ทางใต้นะ ราวๆนี้ จากคุณ : aaauuunnn เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 15:37:45

ความคิดเห็นที่ 7 โอ้ ข้อมูลของคุณ Sonnenschein ดีมากๆเลยอ่ะ จากคุณ : aaauuunnn เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 15:39:56

ความคิดเห็นที่ 8 ลืมงานนวดไปเลยค่ะ ค่าจ้างใช้ได้เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะจ้างแบบ Minijob มีบางร้านเวลาลงทะเบียนลูกจ้างกับเจ้าหน้าที่ก็แจ้งแค่เป็นแบบ Minijob (ประหยัดค่าประกันสังคม) แต่ให้ลูกจ้างทำเต็มเวลา โดยเงินที่เหลือก็จ่ายเป็นเงินสด ซึ่งแบบนี้ก็นับว่าเป็นงานมืดเหมือนกัน ไม่ค่อยเจอร้านไหนจ้างแบบเต็มเวลาและเสียประกันสังคมให้ลูกจ้างถูกต้อง แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 54 16:15:59 จากคุณ : Sonnenschein เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 15:52:46

ความคิดเห็นที่ 9 จริงค่ะ งานนวดส่วนใหญ่จะแจ้งแค่มินิจ๊อบ เพราะเคยไปอ่านเจอว่ามีน้องคนหนึ่งเล่าว่าแจ้งแค่ 150 ยูโร แต่ได้รับเกือบพันรวมทิบอีก โฮะๆๆ จากคุณ : STRESSI เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 17:09:49 A:91.2.47.247 X: TicketID:309073

ความคิดเห็นที่ 10 คือ ผมสงสัยว่า เขาจะตรวจสอบยังไงอ่ะครับว่าเราทำ แค่ minijob หรือ มากกว่านั้น เพราะมีแค่เรากับนายจ้างไม่ไช่หรอครับที่รู้ว่าเราทำแค่ไหน จากคุณ : BergZu เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 09:03:11

ความคิดเห็นที่ 11 มันจะมี จนท. มาตรวจค่ะ สุ่มตรวจไปเรื่อยๆ โดนกันประจำ ออกทีวีด้วย ให้ผู้คนหวาดกลัว ประเทศนี้ทำอะไรต้องออกทีวี รายการทีวีโชว์แนวๆนี้เยอะมาก เหมือนรายการอันนึงของศุลกากร จับของโน่นนี่นั่น ของเลี่ยงภาษีไรเงี้ย ผู้คนกลัว จนแทบไม่อยากซื้อไรแล้วเวลาไปเมืองนอก เหอๆ เห็นหลายคนล่ะ   ร้านนวดทางใต้นี่รายได้ดีมากอ่ะ จากคุณ : aaauuunnn เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 16:20:47