Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ทุกอย่างที่ควรรู้ก่อนสอบ GMAT ติดต่อทีมงาน

เนื้อหาของกระทู้นี้ส่วนใหญ่นำมาจากเนื้อหาที่ ผม โพสต์ไว้ ใน http://badpidd.bloggang.com นะครับ แต่ผมจะปรับแต่งบางส่วนของกระทู้รวมทั้งเพิ่มเนื้อหา อัพเดตลิงก์โหลดหนังสือ GMAT ใหม่ จะได้สะดวกโหลดกันไปเต็มที่


กระทู้นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสอบ GMAT โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ต้องการคะแนนสอบ ตั้งแต่ 600 ขึ้นไป(ผมสอบครั้งแรกและครั้งเดียวได้ 700 ครับ)  และไม่อยากเสียเงินไปให้กับติวเตอร์อย่าง Kaplan Princeton หรือที่อื่นๆ ข้อมูลส่วนใหญ่จะมาจากประสบการณ์ตรงในการเตรียมตัวสอบของผมเองรวมทั้งเคล็ดลับเล็กๆน้อยที่น่าสนใจที่ได้มาจากการอ่าน forum อย่างเช่น http://www.beatthegmat.com, http://www.urch.com/forums/gmat/, http://gmatclub.com/forum/


ช่วยกันโหวตกระทู้นี้เก็บเข้าคลังกระทู้กันนะครับ จะได้ช่วยให้คนที่กำลังจะสอบ GMAT มีข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อช่วยเตรียมพร้อม  เพราะตอนแรกที่ผมโพสต์เข้าไปใน badpidd.bloggang.com ผมต้องเสียเงินมา renew membership ให้กับ pantip ทุกเดือน ซึ่งสามสี่เดือนที่ผ่านมาผม ลืม renew ทำให้หลายต่อหลายคนเข้าไปใน blog ของผมไม่ได้


ท้ายที่สุด ผมสอบ GMAT ตั้งแต่ช่วงเดือน กันยายน ปี 52 ส่วน เนื้อหาใน บล้อกผมเริ่มเขียนตั้งแต่ ปลายปี 52 ถึง ปี 53 ทำให้ข้อมูลบางส่วนอาจจะต่างจากปัจจุบันบ้างเล็กน้อย แต่ผมคิดว่า น่าจะยังใช้ได้จนถึงวันที่มี่ Next Generation GMAT น่าจะราวๆ เดือนมิถุนายน ปี 2012 ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างข้อสอบ GMAT ใหม่  สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ New GMAT อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับhttp://www.mba.com/the-gmat/nex-gen.aspx


******1.GMAT คืออะไร?******

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยรู้จัก GMAT มาก่อนลองเข้าไปอ่านที่ลิงก์นี้ดูครับ http://www.mba.com/mba/thegmat

สำหรับคนที่ขี้เกียจอ่านภาษาอังกฤษยาวๆ ผมจะสรุปสั้นให้ละกัน

GMAT เป็นข้อสอบที่ใช้ในการคัดเลือกคนเข้าศึกษาต่อ MBA ในสถาบันต่างๆทั่วโลก นอกจาก MBA แล้วปริญญาโท หลายๆโปรแกรมเช่น master of finance หรือ Phd in Finance หรือแม้แต่โครงการที่ผมกำลังเรียนอยู่(เฉลยท้ายกระทู้ครับ)ซึ่งไม่ใช่ MBA ก็ใช้คะแนน GMAT ในการคัดเลือกนักเรียนเช่นกัน

- การสอบ GMAT นั้น แบ่งออกเป็นสามส่วน 1. Quantitative 2. Verbal 3. AWA(essay writing)

โดยที่คะแนน GMAT ส่วนใหญ่แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่เป็นคะแนนรวม Quantitativeกับ Verbal และ คะแนน essay

คะแนนรวมนั้น range จะอยู่ระหว่าง 200-800 ซึ่งคะแนนนี้จะมาจากการคิดคะแนนรวมของ part Quantitative กับ Verbal

ส่วนคะแนน Writing นั้น จะอยู่ระหว่าง 0.0-6.0

- การสอบ GMAT ต้องเสียค่าสอบ $250(ประมาณ 7,700บาท ณ อัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 8 ธันวาคม 54 ที่ 30.8 บาทต่อ 1 ดอลลาร์)

- ศูนย๋สอบกทม อยู่ที่ BB building ใกล้ๆตึกแกรมมี่ น่าจะเป็นศูนย์สอบเดียวกับ TOEIC  ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ

- การสอบ GMAT เป็น ระบบ CAT ซึ่งใช้คอมพิวเตอร์ในการสอบเท่านั้น ไม่มีระบบ Paper based แบบ TOEFL ในสมัยก่อน

นี่เป็นข้อมูลคร่าวในการสอบ GMAT ครับ สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมให้ตามลิงก์ที่ผมระบุไปด้านบน ครับ ผมแนะนำให้ผู้ที่คิดจะสอบ GMAT อ่านลิงก์ดังกล่าวก่อนเริ่มต้นอ่านแนวทางในการเตรียมสอบ GMAT เพราะข้อมูลในลิงก์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนการอ่านได้มาก



******ยังมีต่อครับ******

จากคุณ : badpidd
เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 12:01:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com