|
******3. เรียน GMAT ที่ไหนดี?******
เรียน GMAT ที่ไหนดี?นี่เป็นคำถามแรกๆของคนที่กำลังคิดจะสอบ GMAT
ในแวดวงคนที่ผมรู้จักนั้น แทบทุกคนที่ต้องการจะสอบ GMAT ต้องหาที่เรียนพิเศษสักที่เพื่อเตรียมตัวสอบ จากการสอบถามเพื่อนๆและเช็กข้อมูลตามเวบบอร์ด โรงเรียนสอน GMAT ที่เป็นที่นิยมมีอยู่สามที่ คือ Princeton Kaplan BB&C อ.ดวงใจ
สำหรับ Princeton และ Kaplan นั้นผมพอจะมีประสบการณ์กับสองที่นี้ เพราะมีเพื่อนผมหลายๆคนเรียนอยู่ ผมจึงมีโอกาสยืมหนังสือและพูดคุยกับนักเรียนของทั้งสองที่นี้ นอกจากนี้ผมยังได้ทำ ข้อสอบ CAT ของทั้งสองที่ด้วย(ไปยืม account เพื่อนมาทำ) จึงอาจจะพูดได้ว่าผมเห็นข้อดีข้อเสียของทั้งสองที่อยู่ในระดับที่พอจะเปรียบเทียบได้ ส่วนของ อ.ดวงใจ นั้นผมไปเรียนกับที่นี่โดยตรงเพราะการเขียนของผมยังอยู่ในระดับไม่ค่อยดีเท่าไหร่(เขียนภาษาไทยยังงงๆอยู่เลย)
ขอขยายความคำว่า "ข้อสอบ CAT" CAT ย่อมาจาก Computer Adaptive Test แล้ว CAT ในที่นี้หมายถึงอะไร CAT คือระบบคำถามที่ระดับความยากที่เราจะเจอ ในแต่ละข้อ ขึ้นอยู่กับ จำนวนกับข้อที่เราทำถูกในคำถามก่อนหน้านี้ อ่านแล้วอาจจะงง ผมยกตัวอย่างจริงให้เห็นภาพเลยดีกว่า สมมติว่า GMAT มีข้อสอบ 10 ข้อ(ของจริงเยอะกว่านี้นะครับ) และระดับความยากของข้อสอบแบ่งเป็น 5 ระดับ(A ยากมาก, B ยาก, C ปานกลาง, D ง่าย, F ง่ายมาก)
ข้อสอบข้อแรกที่เราทำอาจจะเริ่มต้นที่ความยาก แบบ C ปานกลาง(ในข้อสอบ จริง ไม่มีใครทราบ algorithm ที่ตรงเป๊ะๆนะครับแต่คอนเซปคร่าวๆจะเหมือนกับที่ผมยกตัวอย่างมา) ถ้าเราตอบคำถามของแรกระดับ C ถูก คอมพิวเตอร์ ก็จะเลือกคำถามข้อที่ยากขึ้นเช่นระดับ B มาให้เราทำในข้อสอง ถ้าเราตอบถูกอีก เราก็จะได้คำถามระดับ A มาทำ ในข้อที่สาม เช่นเดียวกันถ้าเราตอบผิด เราก็จะได้รับ คำถามง่ายลง เช่น จากระดับ A ไปเป็น B แทน
การประมวลผลคะแนน ไม่ได้ดูแค่ว่าเราทำผิดหรือทำถูกกี่ข้อแต่จะขึ้นอยู่กับระดับความยากของแต่ละข้อนั้นด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าคุณทำข้อสอบ GMAT แล้วรู้สึกว่าข้อสอบมันง่ายขึ้นเรื่อยๆ อันนั้น คือสัญญาณอันตราย เลยครับ ถ้าจะให้พูดอีกอย่างคือ ถ้าเจอคำถามยากมากๆ ก็อย่าท้อครับ มันแปลว่า คุณทำข้อสอบ มาถูกหลายๆข้อ จนคอมพิวเตอร์ เลือกความยากระดับ A ให้ทำแล้ว ถ้าสงสัยเพิ่มเติมสามารถเข้าไปอ่าน concept ของ CAT จากเวบไซต์ของ GMAT ได้โดยตรงที่นี่เลยครับ http://www.mba.com/mbacommunity/mba_com/b/officialgmat/archive/2010/01/13/the-cat-in-the-gmat.aspx
Princeton ข้อดี - Verbal ที่นี่สอนโดยเจ้าของภาษา บางคนบอกว่า GMAT นั้น ใช้ logic แบบฝรั่ง เราเลยต้องคิดแบบฝรั่ง(ตรงส่วนนี้ผมไม่เห็นด้วย)
ข้อเสีย - แพงโคตร ค่าเรียนอยู่ 31,000 บาท เวลาเรียน 56.5 ชม ตกชมละ 500 บาท - ข้อสอบ CAT ที่นี่ยังไม่เหมือนข้อสอบจริงของ GMAT สักทีเดียว หลายๆข้อ ใน part critical reasoning คำตอบยังไม่ชัดเจนเหมือน ของ GMAT ส่วนข้อสอบ part quantitative ยังง่ายกว่าสอบ GMAT จริงๆ - part quantitative ไม่ค่อยได้สอนอะไรเท่าไหร่ - part awa ไม่ค่อยได้สอนอะไรเท่าไหร่(อันนี้คนที่เรียนอยู่ comment มาเอง) - ที่เรียนมีอยู่ที่เดียว ตรงสาธร อยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้าช่องนนทรี
Kaplan
ข้อดี - สอนเลขเก่งมาก ต้องเรียนเลขกับพี่เอ๋เท่านั้น รู้สึกว่าพี่เอ๋จะสอนที่สยาม)ความเห็นนี้ เขียนขึ้นเมื่อสองปีก่อนนะครับ) - ข้อสอบ cat ที่นี่ดูจะมีระบบมากกว่า ของ princeton ที่มี error ที่ตัวโปรแกรมบ้าง(ไม่รู้เป็นที่คอมผมหรือที่ตัวเซิฟเวอร์) - ค่าเรียนประมาณ 22,000 บาท มีที่เรียนอยู่สองที่ สยาม กับ เอมโพเรียม รู้สึกว่าจะไม่ได้เปิดคอร์ส gmat ที่ลาดพร้าว
ข้อเสีย - part verbal สอนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ - คนสอนเป็นคนไทยทั้งหมด - ข้อสอบ cat ของที่นี่ part เลขจะยากกว่าความเป็นจริง(อันนี้ฝรั่งบ่นใน forum มา) ส่วน part verbal ก็ไม่เหมือนของ official guide เท่าไหร่ - part เลขส่วนใหญ่ จะสอนเป็น ทริก เหมาะสำหรับการแก้โจทย์ระดับ 200-600 โจทย์ระดับ 700-800 ทริกใช้ไม่ได้ผล
อ.ดวงใจ(google ดวงใจภาษาต่างประเทศ)
ข้อดี - ถูก 4000 บาท สำหรับ คอร์ส writing gmat/gre เรียนได้ 16 ครั้งเปิดวันเสาร์ 9.00-12.30 เรียนได้ 12 ครั้ง เริ่มเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ - ส่วนของ argument อ.ศุภชัย วาง outline การตอบโจทย์ได้ดี
ข้อเสีย - สอนแต่ writing - สอนควบ GRE กับ GMAT ข้อสอบ argument GRE กับ GMAT ค่อนข้างที่จะคล้ายกัน แต่ ในส่วนของ issue ผมรุ้สึกว่าต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สรุป - ถ้ามีตัง มีเวลา ขี้เกียจหาข้อมูล เรียน Kaplan Princeton อ.ดวงใจ(ใช้เงิน 5.7 หมื่นบาท ไม่รวมค่าเดินทาง)ได้ทั้ง part verbal quantitative แล้วก็ awa แต่ไม่รู้ว่าจะได้คะแนน GMAT ดีรึเปล่า
- ถ้าไม่มีตัง ไม่มีเวลา ศึกษาด้วยตัวเองได้ ได้คะแนน gmatดีแน่ๆ อ่าน บทความต่อไปของผมเลยครับ ------------------------------------------------------------------------------ ติวเตอร์สามสี่ที่ข้างบน เป็นความเห็นของผมที่เขียนเมื่อสองปีก่อนนะครับ ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ค่อยเห็นประโยชน์กับการไปติวตามสถาบันเหล่านี้เท่าไหร่ เพราะผมรู้สึกว่า อ่านเองก็ได้ไม่ต้องไปติวหรอก แต่เมือไม่กี่เดือนมานี้เพื่อนผมคนหนึ่ง ทำคะแนนสอบ GMAT เพิ่มจาก 570 เป็น 710 ซึ่งเดี๋ยวผมจะลองเขียนรายละเอียดการเพิ่มคะแนน รวมทั้งรายละเอียดติวเตอร์ที่เพื่อนผมใช้ให้ในตอนถัดๆไปละกันครับ
ปล. ขอแปะลิงก์จากพินทิปที่เปรียบเทียบ Kaplan กับ Princeton
http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/2008/01/H6258569/H6258569.html
******ยังมีต่อครับ******
จากคุณ |
:
badpidd
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ธ.ค. 54 13:38:35
|
|
|
|
|