PANTIP.COM : H11440902 ใครก็ได้ช่วยแปลภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับสมรสต่างประเทศหน่อยครับ [วีซ่าประเทศต่างๆ]

ความคิดเห็นที่ 4

ถ้าคุณต้องเอาไปให้กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (กระทรวงมาเฟีย) ประทับตรารับรอง ก็ไปจ้างร้านแปลเอกสารให้เขาแปลให้เถอะ ชีวิตจะง่ายกว่า

เพราะอะไร?
ตอบ จากประสบการณ์ที่เราทำงานเป็นนักแปลในบริษัทแปลเอกสารมากว่า 15 ปี และช่วงหลังๆเคยเป็นผู้จัดการสาขาบริษัทแปลเอกสารด้วย

จะบอกให้ว่าต่อให้คนที่เก่งภาษาอังกฤษมากที่สุดในห้องนี้หรือแม้กระทั่งฝรั่งเจ้าของภาษาระดับ editor หนังสือพิมพ์ฝรั่งที่อยู่เมืองไทยนานๆจนอ่านภาษาไทยรู้เรื่องแตกฉาน แปลไทยเป็นอังกฤษไปสวยๆเขียนภาษาอังกฤษถูกต้องตามหลักการแปล (เพราะคนแปล bilingual มากๆ) แต่บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่กรมการกงสุล จะแก้ภาษาอังกฤษ (ตามอำเภอใจของพวกเขา) จนแก้จากถูก grammar เป็นผิด grammar ถึงขนาดที่บางทีเจ้าหน้าที่มันบ้ามากๆ มันไม่รู้ว่าฝรั่งเจ้าของภาษาที่อ่านภาษาไทยแตกฉานเป็นคนแปลไทยเป็นอังกฤษ แล้วมันแก้ grammar จากถูกเป็นผิดกลายเป็นภาษาอังกฤษแบบไทยๆ แล้วตีกลับมาไม่ยอมประทับตรารับรองคำแปลที่ถูกต้องให้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณ จขกท ตัดข้อความมาสั้นๆแบบนี้ พอมีคนแปลให้คุณไปแปะกับส่วนที่เหลือมันต่อกันไม่สนิท ยิ่งโดนตีกลับใหญ่เลย

แต่ถ้าเรารับจ้างแปลให้ใคร (ไม่ได้แปลบนกระดานสนทนา) มันไม่มีปัญหา เพราะเราคิดค่ารับรองเอกสารที่ต้องให้กรมการกงสุล แผ่นละ 400 บาท(อันนี้ต้องให้กรมการกงสุลอยู่แล้ว) และคิดค่ารถลูกค้าไปกลับและค่าเสียเวลานั่งรอคิวในกรมการกงสุล 1000 บาท ถ้าโดนตีกลับเราก็ยอมแก้จากแปลถูกให้เป็นแปลผิดตามที่เจ้าหน้าที่ต้องการ (ขี้เกียจไปเถียงกับพวกมันให้เสียเวลาลูกค้า) แล้วเราก็เอาเงินในวง 1000 บาทนี่แหละเป็นค่าเดินทางไปกลับกับค่าเสียเวลานั่งรอคิว 2 รอบ (ไปยื่นรอบหนึ่งและไปรับอีกรอบหนึ่ง เพราะเจ้าหน้าที่จะไม่รับรองให้ทันที (เว้นเสียแต่จะจ่ายเงินพิเศษให้เจ้าหน้าที่ตัวเลข 4 หลัก) แต่จะใช้เวลา 2-3 วันนับตั้งแต่ยื่นกว่าจะรับรองให้) แต่ถ้าลูกค้าจะยื่นเองก็ไม่ต้องจ่าย 1000 บาทค่ารถกับค่าเสียเวลารอคิวให้เรา แต่ถ้าเอกสารโดนตีกลับลูกค้าก็ต้องยอมเสียค่ารถเอาเอกสารกลับมาแก้ (ให้นักแปลแก้ให้ตามที่เจ้าหน้าที่กรมการกงสุลแก้มา) แล้วลูกค้าก็ต้องเสียค่ารถกลับไปยื่นเอกสารใหม่อีกรอบหนึ่งเพื่อให้กรมการกงสุลประทับตรารับรองว่าเป็นคำแปลที่ถูกต้อง ทั้งนี้ยังไม่ได้คิดค่าแปล แต่ค่าแปลมันไม่ค่อยมากหรอก นักแปลหรือบริษัทแปลเอกสารได้กำไรก็อีตรงค่ายื่นนี่เอง เพราะลูกค้าอยู่ต่างจังหวัดหรืออยู่ต่างประเทศเดินทางไปกลับ ถ.แจ้งวัฒนะที่กรมการกงสุลมันตั้งอยู่นะ ค่ารถค่าเครื่องบินไปกลับกับค่าโรงแรมจ่ายเงิน 1000 บาทให้นักแปลไปยื่นเอกสารให้จะถูกกว่าหลายเท่า!

^
ซึ่งในการเสียค่ารถและเสียเวลาไปๆกลับๆเช่นนี้ถ้าลูกค้าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายนักแปล นักแปลก็คงต้องไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลมาตัดสินว่านักแปลไม่ได้แปลผิด แต่เจ้าหน้าที่กรมการกงสุลส่วนใหญ่เป็นคนแก้ให้มันผิดเพี้ยนไปเอง ซึ่งในกรณีนี้ลูกค้่าต้องไปฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเจ้าหน้าที่กรมการกงสุลเอาเอง แต่เราไม่คิดว่าจะชนะนะ เพราะในประเทศไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยมากพอที่จะมีคดีที่คนธรรมดาฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วชนะ นะ ไม่เหมือนในอังกฤษหรืออเมริกา ที่คดีแบบนี้ฟ้องร้องกันใครแพ้ใครชนะ มีโอกาสสูสีกัน
^
เคยมีเจ้าหน้าที่กรมการกงสุลแก้เอกสารที่แปลถูกให้เป็นแปลผิด แล้วลูกค้ากับนักแปลไม่ยอม มัวแต่ไปเถียงกับเจ้าหน้าที่ปรากฎว่าลูกค้าเกือบขึ้นเครื่องบินไม่ทันเที่ยวบินที่จะไปต่างประเทศ แล้วจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เอาชื่อบริษัทแปลแห่งนั้นเข้าบัญชีดำ พอเจอเอกสารแปลจากบริษัทแปลแห่งนี้เจ้าหน้าที่ก็หาเรื่องจับผิดตีกลับจนหมด จนร้อนถึงเจ้าของบริษัทแปลต้องจัดงานเลี้ยงปีใหม่เชิญเจ้าหน้าที่ไปกินเลี้ยง แล้วเอาซองใส่ "ของขวัญ" ให้เจ้าหน้าที่ไป ถึงจะแก้ปัญหาได้ (นี่แหละคือสภาพความเป็นอยู่ในเมืองไทย) พวกเรานักแปลจึงขนานนามกระทรวงนี้ว่า "กระทรวงมาเฟีย"

ไปอ่านรายละเอียดได้ที่กระทู้เก่าอันนี้ แล้วจะรู้ว่าเจ้าหน้าที่กรมการกงสุล ชอบตีกลับเอกสารแปล โดยจับผิดตุกติกแบบไหนบ้าง

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2011/04/K10467441/K10467441.html
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 54 11:20:49
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 54 11:05:39

จากคุณ : fortuneteller

เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 11:00:52