"สหภาพพม่าจอมปลอม อันได้รับเอกราชมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1948 นั้น จนถึงบัดนี้ล่วงเลย 61 ปีแล้ว หากเรามาวิเคราะห์ทบทวนดู ในช่วงเวลาที่ผ่านไปแล้ว 61 ปีนั้น ประชาชนชาวไทยใหญ่ได้รับผลกระทบและต้องทนทุกข์เดือดร้อนจากผลของสงครามโลก ครั้งที่ 2 แล้ว เหตุใดยังต้องมาตกอยู่ภายใต้การกดขี่ข่มเหงของทหารพม่าอีก"
"เหตุที่ประชาชนชาวไทยใหญ่เรา ยังต้องตกอยู่ภายใต้การกดขี่ ข่มเหงของทหารพม่าอยู่นั้น ก็เพราะว่า ผู้นำของชาวไทยใหญ่เป็นผู้ที่มีความสัตย์ซื่อ รีบร้อนที่อยากจะให้ประเทศของเราเป็นประชาธิปไตย..เพราะไปเชื่อฟังและคบค้า สมาคมกับออง ซาน..เพราะกลุ่มนักศึกษาของสมาคมประชาธิปไตยชาติพันธุ์ไทยใหญ่มีความขัดแย้ง กับเจ้าฟ้าไทยใหญ่ รีบร้อนอยากได้ประเทศเร็วเกินไป."
"หากเรามาทบทวน ดูแล้วจะเห็นว่า ผู้นำของไทยใหญ่มีความตั้งใจที่จะอยู่ร่วมกันภายใต้สหภาพที่เท่าเทียม แต่หากว่าในอนาคต เกิดมีเงื่อนไขที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ สามารถที่จะแยกตัวออกมาเป็นเอกเทศในภายหลัง ด้วยนโยบายเหล่านี้ จึงเป็นที่มาของ "หนังสือสัญญาปางโหลง" (Panglong Agreement) อันอยู่คู่ประวัติศาสตร์ของเรามาจนทุกวันนี้"
"การเมืองของไทยใหญ่ เรานั้น ที่ผ่านมา เราเห็นด้วยกับนโยบายการอยู่ร่วมกันภายใต้สหภาพ แต่ก็ถูกทหารพม่าหลอกลวงมาโดยตลอด หากว่าเรายังจะสืบนโยบายการอยู่ร่วมกันในรูปแบบสหภาพโดยมีพม่าร่วมอยู่ด้วย นั้น ก็ถือว่าไทยใหญ่เรายังคงโง่งมงายอยู่เช่นเดิม"
"รัฐบาลสหภาพซึ่ง มีเจ้าส่วยแต็กนั่งเป็นประธานนั้น มีอายุการทำงานเพียงชั่วคราว ยังไม่ทันที่จะวางแผนงานแต่อย่างใด ก็ถูกทหารพม่าทำการยึดอำนาจและทำลายข้อตกลงสัญญาปางโหลง คำว่าสหภาพพม่านั้น เป็นเพียงจอมปลอมเท่านั้นเอง ประชาชนชาวไทยใหญ่ควรจะรู้ตัว นอกจากเราจะถูกหลอกมาตลอดแล้ว เรายังถูกทหารพม่ากดขี่ หวังจะกลืนกินชาติพันธุ์และแผ่นดินของเราให้มลายหายไป"
"ชาติพันธุ์ต่างๆ อันได้ไปยื่นขอสิทธิอันชอบธรรมกับทางรัฐบาลทหารพม่านั้น พึงตระหนักอยู่เสมอว่า ถูกทางรัฐบาลทหารพม่าใช้เป็นหมากตัวหนึ่งบนกระดานเท่านั้นเอง เขายื่นผลประโยชน์ให้เพียงเล็กน้อย แล้วกลับมายึดคืนภายหลัง เรื่องพวกนี้ทำให้เราต้องมาเกิดความบาดหมางต่อกัน"
"แผ่นดินรัฐฉาน เป็นของประชาชนทุกชาติพันธุ์ หากประชาชนในรัฐฉานไม่มีความรักสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน และไม่มีเอกราชเหนือแผ่นดินรัฐฉาน สิทธิอันชอบธรรมที่เราควรได้ ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้น ถึงแม้จะได้มาก็จะไม่มีความมั่นคง เราต้องไม่ลืมว่า ถ้ามีความรักสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน คำว่าเอกราชก็จะอยู่ในกำมือของประชาชนในรัฐฉานแน่นอน"
"ที่ผ่านมา ประชาชนในรัฐฉานเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับคำว่าสหภาพมาแล้ว เราต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เราเคยผิดพลาดสูญเสียไปแล้วครั้งหนึ่ง หากยังต้องมาผิดพลาดสูญเสียอีกเป็นครั้งที่สอง ก็ถือว่าเป็นเพราะเราโง่เอง"
"อยากประกาศให้คนรัฐฉานรู้ว่า รัฐบาลทหารพม่านั้น เป็นผู้รุกรานดินแดนของเรา รัฐบาลทหารพม่าเป็นผู้ทำลายสหภาพ คำว่าสหภาพพม่านั้น ไม่มีอีกแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประชาชนในรัฐฉานควรมีความตื่นตัว มีความรักสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน หากเราทำได้ดั่งนี้ ความร่มเย็นจะเกิดแก่เราแน่นอน"
โดย เจ้ายอดศึก ปี 2009
จากคุณ |
:
สามีนุ่น
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ธ.ค. 54 01:27:55
A:140.119.143.52 X: TicketID:324122
|
|
|
|