ความคิดเห็นที่ 1 แก้ไขคำผิด จะได้บอกว่ายังได้อะไรกลับไปบ้างแม้ไม่ใช่เงินก็ตาม จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 14:10:15 A:68.116.250.88 X: TicketID:273223

ความคิดเห็นที่ 2 เข้าใจและเห็นด้วยกับคุณ จขกท ค่ะ สมัยนี้ไม่เหมือนกับสมัยสามสิบปีก่อน คนที่มาอเมริกาหลังจาก 9/11 จะเจอปัญหาสารพันที่คนรุ่นก่อนๆ ไม่เคยเจอ กฏหมายอิมมิเกรชั่นที่เปลี่ยนได้ทุกบ่อย รวมทั้งระบบ SEVIS ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสอดส่องความเคลื่อนไหวของนักเรียนว่าไปเรียนจริงหรือไม่ นี่ก็เพิ่ง rescue มาสดๆ ร้อนๆ หนึ่งราย เรื่องของเรื่องคือ เจ้าตัวมาเรียนด้วยงบจำกัดมากๆ เพราะอาซึ่งเป็นฮู้ดอยู่นับสิบปี ให้คำแนะนำกับสปอนเซ่อร์ คือพ่อ ว่าเท่านี้พอ ที่เหลือให้ไปหางานทำเอาข้างหน้า แต่การเรียนระดับ college ไม่เหมือนเรียนภาษา ปัญหาคือจะเอาเวลาที่ไหนไปทำงาน รถก็ไม่มี ไปเรียนก็ต้องเดินไป เงินสองร้อยเหรียญต่อเดือนไม่พอกินหรอกค่ะ  ไหนจะค่าโทรศัพท์ ค่าของใช้ส่วนตัวจิปาถะ  แถมยังมีค่าใช้จ่ายตอนย้ายโรงเรียน หาที่เรียนใหม่ ค่าเดินทางไปสอบ ฯลฯ   น้องไปมีปัญหากับโฮสต์ พอจะย้ายออก โดนทางโฮสต์กรรโชกทรัพย์หาว่า break lease ทั้งๆที่เคลียร์กับทาง รร ไปแล้ว ไม่ยอมให้ขนของออก  ร้อนถึงคุณแม่ซึ่งหย่าขาดกันไปตั้งแต่น้องยังเด็ก ต้องมาขอให้ดิฉันช่วย เลยต้องพาตำรวจไปเป็นพยานในการขนของๆน้องออกมา เจอบ่อยที่คนอยู่อเมริกานานๆ แต่ใช้ชีวิตวันละ 12 ชม ต่อวัน สัปดาห์ละ 6 วัน ทำงานหน้าเตาในครัวไทย ไม่เคยไปเรียนอะไรนอกจากเข้าคลาสภาษาอังกฤษพื้นฐานที่ adult school ไม่กี่ครั้ง ภาษาอังกฤษไม่กระดิกทั้งๆที่อยู่มาเป็นสิบๆ ปี แล้วเที่ยวไปคุยสร้างภาพให้คนอื่นเข้าใจผิดมากมาย ราวกับอเมริกาคือสวรรค์นั่นเลย  อย่างรายข้างบนนั่น พอหลานขอให้ช่วยเป็นธุระเรื่องเช่าห้องที่ใหม่ให้ ปฏิเสธหน้าตาเฉย แถมบอกว่า ไปหาเช่าบ้านคนไทยแถวนั้นสิ.... ก็หลานไม่มีรถ ทางพ่อไม่ยอมซื้อให้ อยู่อเมริกาไม่มีรถก็คือไม่มีมือมีเท้า แล้วจะไปเรียนได้ยังไง......... เลยกลายเป็นว่าเอาหลานมาปล่อยเกาะ  ทางพ่อก็ control freak ของแท้ เชื่อน้องมากกว่าเชื่อลูก...  เงินมีแต่ไม่อยากจะส่งให้ลูกเรียน ไล่ให้ไปหางานทำท่าเดียว  ไม่ได้รู้มั่งเลยว่า ลูกน้ำหนักลดลงไป 30 กก ภายใน 4 เดือน เพราะต้องอด ไม่มีเงินจะกิน กรรม!!!!! นี่แค่เคสตัวอย่างเท่านั้นค่ะ  มีอีกเยอะเล่าทั้งวันก็ไม่หมด.......เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : Lawanwadee เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 16:36:39

ความคิดเห็นที่ 3 ขึ้นอยู่กับว่างานอะไรนะ จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 17:04:45

ความคิดเห็นที่ 4 แต่ว่า สองสามปีก่อนก็เคยมีคนมาโพสต์ว่าทำงานเสริฟ์ที่อเมริกาเก็บเงินได้เป็นล้านบาทเศษ  นั่นก็หลัง 9/11  รายนั้นจำได้บอกว่าอยู่ร้านพี่สาว กินนอนอยู่ที่ร้าน ไม่เสียค่าเดินทางกินอยู่ จขกท ต้องแจงสักหน่อยแล้วล่ะว่าค่าใช้จ่ายคุณไปหนักตรงไหน  ทำไมจึงเก็บเงินไม่ได้ จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 17:14:58

ความคิดเห็นที่ 5 คนที่เก็บได้คงเป็นพวกที่ทางบ้านส่งเง้นค่าเรียนให้มั้งครับ ชีวิตเมืองนอกถ้าคุณไม่ได้รวยจริงแบบเศรษฐี ก็อย่ามาลำบากเลยครับ >>> ตนเองใช้ชีวิตในต่างประเทศเกือบ 7.5 ปีแล้วค่ะ ใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาประมาณ 3.5  ปี และทำงานต่อหลังเรียนจบ ถามว่าเก็บเงินได้ไหม เก็บได้ค่ะ โดยที่ไม่ได้ใช้เงินทางบ้านแม้แต่บาทเดียวตั้งแต่มาต่างประเทศ และก็ไม่ได้รวย แต่ถามว่าลำบากไหม เคยผ่านชีวิตที่ลำบากช่วงที่เป็นนักเรียนค่ะ  แต่ก็สามารถเก็บเงินและมีกำลังซื้อบ้าน ซื้อรถ ในไทยได้ โดยใช้เงินสด ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับปัจจัยหลายๆอย่างด้วยค่ะ ว่าคนที่มามาเรียนอะไร หลังเรียนจบทำงานอะไร มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรค่ะ  ถามว่ารายจ่ายสูงไหม สูงค่ะ แต่รายได้ที่ได้กับ benefitห อื่นๆ ที่องค์กรมีให้ ก็ช่วยให้อยู่ได้อย่างสบายๆ มีเงินเก็บ ขอให้กำลังใจ จขกท  สู้ๆค่ะ ตั้งฝันที่คิดว่าตนเองทำได้ไว้ แล้วทำตามฝันค่ะ จากคุณ : jinjung เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 17:37:32

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าไม่จ่ายค่าบ้าน  ค่าภาษี   ต่างๆเพื่อแลกกับชีวตยามชรา   ก็น่าจะเหลือ มีร้านอาหารเล็กๆ   ไม่เหลือเก็บแค่ได้กินอาหารดีๆไม่ต้องกระเหม็ดกระแหม่ แต่ไม่มีตังค์กลับบ้าน จากคุณ : คุณนายแดนไกล เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 18:03:15

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับหลาย ๆ คนนะครับ ... ผมก็พยายามพูดกับตัวเองเสมอ ๆ ว่า "ตูจะมาตกระกำลำบากทำไมเนี่ย?" เงินก็เก็บได้ไม่เยอะ ไหนจะห่างครอบครัว เพื่อนก็ไม่ค่อยจะมี อากาศก็หนาวโค-รต อาหารก็ต้องทำกินเอง ทำอะไรหลาย ๆ อย่างเอง เหงา ... แถมจะต้องทำเรื่องทำราวให้ได้อยุ่ในประเทศ ทั้ง ๆ ที่เจ้าของประเทศเค้า ใช่ว่าจะอยากให้เราอยู่ @Ter ... โห ใครเก็บได้เป็นล้าน เก่งจัง ... หาได้ 1,000,000 หารด้วยค่าเงินบาท หารด้วยเวลาทำงาน 6 วัน/สัปดา = $107/ วัน ซึ่งค่อนข้างเยอะ นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่าย และ ภาษีเลย ... ผมไม่ได้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่จะทำได้แบบนั้นต้องแทบไม่ใช้ตังค์อะไรเลย แล้ว ... "จะมีความสุขมั้ยล่ะครับ แบบนั้น?" จากคุณ : ผัดไทยกุ้งสด เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 20:12:35

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องนี้แล้วแต่คนครับ ที่ทำำได้ก็มี หลานๆอยู่เมืองไทยเห็นเขาไปได้ดีแม้เศรษฐกิจจะไม่สู้ดีนัก เขาทำงานส่วนตัวกัน เช่นทำสวน ไม่ใหญ่โตแต่เล้ียงครอบครัวได้สบายๆ ประหยัดและทำงานหนักมาก ผมว่าเมืองไทยยังมีโอกาสเหมือนกันถ้าทำงานขนาดนั้น ถ้าเป็นลูกจ้างรับเงินเดือนคงไมาง่ายที่จะซื้อบ้าน จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 20:15:20 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 9 จะว่าไปชีวิตในต่างประเทศ ณ ตอนนี้ ไม่ถึงกับลำบาก เพราะมีงานดีๆ มีรถขับ มีบ้านอยู่ ไม่รวย แต่ก็ไม่เคยอด แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยคือความเบื่อ เซ็ง รันทด อากาศที่นี่ ตอนนี้มันหนาว ฝนตกทุกวัน นี่ก็ไม่เห็นแดดมาหลายวันแล้ว อาหารการกินมีวัตถุดิบเยอะ หาได้เกือบทุกอย่างที่อยากได้ แต่เราเป็นคนทำกับข้าวไม่เก่ง ทำแล้ว ทานได้มั่ง ไม่ได้มั่ง ปัญหาของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป และอย่าคิดนะว่าเรื่องของคนอื่น มันเป็นเรื่องเล็ก จากคุณ : BluemirroR เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 20:29:29

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องเงินๆทองๆนี่พูดลำบาก บางคนมีเงินล้านก็ว่ารวยแล้ว บางคนมีพันล้านก็ยังว่าไม่รวย ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ถ้าไม่รู้จักใช้เงิน มี 1สลึง ใช้ 1บาท อยู่ทั้งชาติก็จน แล้วการทำงานเก็บเงินเนี่ย ต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะพอกพูนขึ้น ตอนนี้เกษียณ ชีวิตในต่างประเทศก็ปานกลางพออยู่ได้ คิดว่าคงทำงาน ไม่ได้เปลื่ยนบริษัท30ปีอาจมีส่วนช่วย เพราะไม่เปลี่ยนงานบ่อย ไม่ได้ ไปเรี่มต้นใหม่อยู่เรื่อยๆ เงินก็เพิ่มขิ้นตามลำดับ ถึงงานจะไม่ดีเด่นซ้กเท่าไร ทำงานไป เหมือนเดินก้าวไปที่ละก้าว เก็บเงินวางแผนชีวิตในวัยเกษียณ บวกกับบริษัทสมทบและรู้วิธีอินเวสท์ ชีวีตในบั้นปลายก็ดีค่ะ กินโซเซียลแล้ว จากคุณ : ยาย เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 22:10:24 A:70.114.151.98 X: TicketID:338625

ความคิดเห็นที่ 11 มันขึ้นอยู่กับว่า อยู่เมืองไทยมีพื้นฐาน หรือต้นทุนชีวิตอย่างไร หรือ เท่าไหร่ มากกว่านะ ฉันอยู่เยอรมัน เห็นผู้หญิงไทยกลุ่มหนึ่ง เขาเต็มใจที่จะแต่งงานกับฝรั่งจนๆ เพียงเพื่อได้มีโอกาสมาทำงานที่เยอรมัน แม้จะเป็นงานทำความสะอาด แต่เธอเหล่านั้นก็ยังคงชักชวนญาติพี่น้องให้หาทางมาอยู่เหมือนกัน เธอเหล่านั้นว่า งานทำความสะอาดก็ยังได้เงินส่งกลับไปเลี้ยงครอบครัวทางเมืองไทยได้เดือนละเป็นหมื่น แต่ถ้าอยู่เมืองไทย ยากนักที่พวกเธอจะทำงานได้เดือนละเป็นหมื่น ก็คิดดูเอาก็แล้วกันนะ สำหรับคนกลุ่มหนึ่งเขาก็ไม่ได้หวังรวยหรอก เพียงแค่ได้มากกว่าหากินในเมืองไทยเท่านั้นแหละ ........... จากคุณ : ............ เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 22:17:25 A:79.232.166.53 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 12 คุณผัดไทยกุ้งสด คนนั้นเขาไปเรียนภาษาประมาณปีนึง  โพสต์ห้องไกลบ้านพักนึงด้วยบัตรผ่านครับ  แตตอนนี้กลับไทยแล้ว  ที่จำได้เพราะหนึ่งล้านนี่ละครับ จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 22:28:14

ความคิดเห็นที่ 13 อยู่เมืองไทย ไม่ได้แปลว่ารายได้จะน้อยกว่าเมืองนอก ในทุกๆ อาชีพ  บางคนจับจุดได้เจอเส้นทางเหมาะกับตัวเอง  ทำธุรกิจรายได้เดือนสามแสนก็มี  หรือบางคนจบดีต้นทุนสูงในไทย  ถ้ามีฝีมือเจ๋งๆ ได้ไปอยู่บริษัทกฎหมายต่างชาติ รายได้แม้เป็นลูกจ้างก็อาจจะแสนขึ้นได้เหมือนกัน แต่คนที่ไม่เจอเส้นทางในเมืองไทย เขาจะไปหาเมืองนอกก็เป็นธรรรมดา จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 22:36:17

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นเรื่องที่ผมกำลังคิดเลย ผมเป็นคนที่เก็บเงินไม่ได้เลยละ ทั้งๆที่ บริษัท มีที่พักให้ มีเบี้ยเลี้ยงให้ใช้ที่ต่างประเทศ เงินเดือนเข้าบัญชีธนาคารที่ไทย แต่ผมก็เก็บเงินไม่อยู่ครับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมมีภาระที่ต้องดูแลคุณแม่ และลูกชายอีกสองคน แต่มันก็เป็นค่าใช้จ่ายประจำที่ผมจ่ายทุกเดือนอยู่แล้ว แต่เงินส่วนที่เหลือ เก็บใว้สักพัก พอจะเป็นก้อน มันก็มีอันต้องได้จ่ายเงินก้อนโตๆ อยู่บ่อยๆ กลับมาดูที่เงินเบี้ยเลี้ยงที่รับที่ต่างประเทศ ผมปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต... เลิกดื่มมาได้เป็นปี เบี้ยเลี้ยงทุกเดือนก็ยังมีเหลือ30-35% เลยละ แต่มันก็หมดไปกับการใช้ซื้อของที่ตัวเองอยากได้  ..... สุดท้ายก็หมด ...กรณีของผม ผมว่อยู่ที่พฤติกรรมการใช้เงิน ความใจง่าย อยากได้ก็ซื้อเลย...... จากคุณ : ChadChad เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 22:52:19

ความคิดเห็นที่ 15 ทำงานเมืองนอกเก็บเงินใด้..?... ประสบการณ์ของผู้ที่เข้าประเทศด้วยวีซ่าทำงานโดยตรง ถ้าจะอุตริคิดแบบหลายๆคนคิด(เทียบเงินกลับไปเป็นเงินบาทและไม่บอกค่าใช้จ่าย) ได้เงินดี(มาก)แน่นอน แต่ความเป็นจริงแล้ว...รายจ่าย...และจิปาถะ ถ้าเทียบเป็นเงินไทยต่อเดือนก็โขนะ หลายครั้งที่เห็นคนบอกจะมาวีซ่าท่องเที่ยวมั่ง วีซ่านักเรียนมั่งแล้วมาหางานเอาข้างหน้า ยอมรับว่าทึ่ง ....ทึ่งในความสามารถของเขาเพราะตัวเองมีวีซ่าทำงานถูกต้องตามกฏหมายและมีสวัสดิการทุกอย่างตอนมาใหม่ๆยังแทบกระอัก ตอนไปทำงานอาสาฯจึงได้พบใด้เห็นอีกหลายๆชีวิตและได้เรียนรู้ว่าความรู้สึกกระอักของตัวเองมันเป็นเหมือนสวรรค์สำหรับผู้คนที่คิดว่าทำงานเมืองนอกเงินดีและลักลอบเข้ามาตามฝันของพวกเขาแต่ต้องเจอกับความเป็นจริงที่พวกเขาไม่เคยนึกถึงมาก่อน เมื่อหมดทางไปและต้องมาขอพึ่งพิงnon profit organizationต่างๆ ยังมีอีก พวกที่เข้าเมืองอย่างถูกต้องแต่ก็ไม่วายโดนผู้เป็นนายจ้างกระทำก็มีมาก กรณีเบาๆ ยึดพาสปอร์ต กักกันที่อยู่อาศัย ห้อง8*10อยู่กันสิบคนขึ้นไปห้องน้ำห้องเดียว นอนกันเป็นชั้นๆ คนหนึ่งปลดทุกข์หนัก อีกคนแปรงฟันข้างๆในขณะที่อีกคนอาบน้ำ ไม่ทำเช่นนั้นก็ไปทำงานไม่ทัน ทำงานสายหมายถึงเงินค่านายหน้ามหาโหดกำลังจะถูกจ่ายล่าช้าตามไป มันเป็นเรื่องจริง เหรียญมันมีสองด้าน ชีวิตมีด้านมืดด้านสว่างและยังมีเกรย์ แอเรียอีกด้วยไม่ใช่หรือ? จากคุณ : เรือน้อยสามลำ เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 23:17:08

ความคิดเห็นที่ 16 ไปทำงานที่นู่น เก็บเงินได้ค่ะ แต่ไม่มาก บางคนถึงกับเก็บไม่ได้เลย จริงค่ะ หลายๆคนเห็นว่า ลาออกจากงานดีๆที่นี่  ไปทำงานเมืองนอกดีกว่า น่าจะได้เงินเยอะกว่า แต่ไม่ได้คิดไปถึง ค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน แต่ละเดือน มันสูงแค่ไหน ได้เข้ามามาก  ก็จ่ายออกไปมาก  โดยเฉพาะประเทศที่ค่าครองชีพสูง งานกะเงินมีมาให้เห็นเนื้อๆเลย  แต่จ่ายออกไปก็เนื้อๆ เช่นเดียวกัน ส่วนตัว ไปอยู่นู่น 3 ปี  เก็บเงินได้เยอะค่ะ แทบไม่ได้ใช้ เรียนไปทำงานไป   นั่นเพราะว่า  เรามีที่อยู่ที่กินฟรี  เสียเงินแค่ค่าเดินทางเล็กๆน้อยๆ ช้อปปิ้งน้อยมาก ถึงจะเก็บได้ค่ะ ฉะนั้น แนะนำให้คนที่จะไปต่างประเทศ ไปเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การใช้ชีวิต  และเรียนรู้เรื่องภาษา   แต่อย่าเพิ่งคิดเก็บเกี่ยวเงินค่ะ จากคุณ : aimeramm เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 23:28:34

ความคิดเห็นที่ 17 ทำงานที่ออสเตรเลีย รายได้จากการทำงานสองที่ี หลังหักภาษีเงินได้แล้ว เฉลี่ย เดือนละ       250,000 บาท ============================================================== ค่าเช่าห้องพัก 1 ห้องชองตนเอง ในบ้านเช่า 4 ห้องนอน รวมค่าอินเตอร๋เนต    เดือนละ     15,000 บาท ค่าโทรศัพท์มือถือ Prepaid เอาไว้รับสายเเข้าเวลานายจ้างเรียกไปทำงาน    เดือนละ         100  บาท ค่าไฟฟ้า เฉลี่ยเดือนละ                                    2,000 บาท ค่าของฝใช้จุกจิก ผงซักฟอก สบู่ แชมพู                  เดือนละ                      100  บาท ค่าอาหาร ซื้อมาทำทานเอง                 เดือนละ                           2,000 บาท สำรอง ค่าเดินทาง เผื่อเวลาจำเป็น (ปกติเดินไปทำงาน) + ช็อปปิ้ง       เดือนละ          3,000 บาท ค่าขึ้นทะเบียนวิชาชีพ ค่าสมาชิกสหภาพแรงงานวิชาชีพ                       2,000 บาท   สำรองค่ายา  เฉลี่ย เดือนละ                                     800  บาท รวมรายจ่าย ต่อเดือน                                     25,000 บาท =========================================================== ดังนั้น จะเหลือเงินเก็บสุทธิ                         เดือนละ                        225,000 บาท ปัจจุบันแทำงานอยู่ มีแต่นายจ้างโทรมาขอร้องให้ไปทำงาน  เข้าเวร ทั้งเช้า บ่าย หรือไม่ก็เวรดึก งานชุก ได้ค่าลวงวลา โอที สองแรงบ่อยๆ สรุป แค่ละปี เก็บเงินได้ ราวๆ  90.000 เหรียญออสเตรเลีย ต่อปี   แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 54 00:52:34 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 23:58:19 จากคุณ : Banyen เขียนเมื่อ : วันคริสต์มาส 54 23:48:12

ความคิดเห็นที่ 18 คห 17 ทำงานได้คิดเป็น ชั่วโมงละเท่าไรคะ แล้วไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยหรือ จากคุณ : กนกณัฐ เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 00:22:47

ความคิดเห็นที่ 19 ชั่วโมงละ 30 เหรียญ แต่ถ้าทำกะที่สองในวีนนั้น จะได้ชัวโมงละ 60 เหรียญ  ทั้งนี้ ไม่รวม เวรบ่ายได้เพื่มอีก 17.5% เวรค่ำ 33% วันเสาร๋ 50% วันอาทิตย์ 75% วันหยุดราชการได้ 250%  บ้านเช่าห้องพักมีเตียงนอน Queen size ใหม่เอี่ยม เดินไปทำงานใช้เวลา 10 นาที  รายได้เพื่มพูนจากการทำงานกะที่สอง และทำในวันหยุด ซึ่งจะคืดเป็นชั้วโมงละ 60 เหรียญ อย่างต่ำ กะหนึ่ง 8 ชั้วโมง ต่างประเทศ ก็แต่เมืองที่ไปทำมาหาเลี้ยงชีพ ไม่สนใจเรืองเที่ยวอะไร เพราะไม่จำเป็น เอาแค่มีงานทำเยอะๆ เวลาที่เหลือกลับมานอนเอาแรงพักผ่อนเต็มที่แค่นั้นก้พอแล้ว จากคุณ : Banyen เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 00:36:24

ความคิดเห็นที่ 20 ขออนุญาตถามหน่อยค่ะ คห.17 ทำงานอะไรหรือคะ ได้เงินต่อชั่วโมงเยอะมากๆเลยค่ะ จากคุณ : Caramel Milk Tea เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 01:59:17

ความคิดเห็นที่ 21 ขึ้นกับงานอะไร และใช้ชีวิตแบบไหนด้วยค่ะ บางคนทำแทบตาย แต่โดนนายจ้างโขกสับ กดค่าแรงงาน  เสียค่าอยู่ค่ากิน หาได้ไม่พอใช้ อย่างที่เล่าๆกัน บางคนทำงานเงินดี แต่เห็นอะไรซื้อหมด ก็ไม่มีเก็บ บางคนทำงานงกๆ เก็บเงินท่าเดียว ทั้งวันทั้งคืน ทั้งปี ไม่ไปไหนเลย มาอยู่เมืองเขา ไม่เคยรู้เคยเห็นว่าเขามีอะไรบ้าง     ก็มีเงินเหลือเก็บเยอะแยะ หรือส่งไปให้พ่อแม่พี่น้องหมด ไม่มีเก็บเลยก็มี บางคนทำงาน เก็บบ้าง เก็บตังค์ส่งลูกเรียนหนังสือบ้าง  ส่งไปให้พ่อแม่บ้าง จับจ่ายอย่างประหยัด   แต่ตั้งใจว่า จะต้องเที่ยวเปิดหูเปิดตาตัวเองและสนับสนุนให้ลูกท่องเที่ยวไป   ก็มีความสุขดี มีเงินเก็บพอควรแต่ไม่ร่ำรวยก็มี    อย่างป้ากะลุงเป็นต้น  อิอิอิ มีความสุขสงบดี จากคุณ : ป (ป้านี่เอง) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 02:28:35

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบอกว่ามีจริง  เจอกับตัว รู้จักกับพี่คนนึงเป็นเชฟร้านอาหารไทย มาอเมริกาได้เพราะเจ้าของร้านชวนมาให้มาทำงานให้ แต่ยึดพาสปอร์ตไว้เพราะกลัวเป็นหนีไปทำงานให้คนอื่น คิดว่าเจ้าของคงออกค่าเครืองบินให้ จ่ายสัปดาห์ละ ๔๐๐ ได้รับความไว้วางใจคล้าย ๆ มือขวา ช่วยดูแลร้าน เป็นหูเป็นตาทำนองนั้น ก็เก็บส่งเมืองไทยอย่างเดียว เพราะกินก็ฟรี (ปกติร้านอาหารให้กินฟรี เช้า กลางวัน เย็น อยู่แล้วส่วนมาก ประกอบกับพี่เค้าเป็นเชฟ ก็ทำอะไรกินเองได้อยู่) ที่พักก็ฟรี เพราะให้พักที่บ้านเจ้าของที่ชวนมานั่นแหละ คิดว่าห้องที่อยู่ก็คงไม่ได้หรูหรา แต่ก็น่าจะอยู่ได้ เพราะตั้งใจเก็บเงิน เพื่อไปเปิดร้านอาหารที่บ้านนอกเมืองไทยตามฝัน และก็ทำได้หลายล้านบาทไทยด้วยตามที่พี่เค้าแยบใ้ห้ฟัง ตอนนี้กลับเมืองไทยไปแล้ว เปิดร้านตามที่ฝัน เราคิดว่าขึ้นอยู่กับ back up เจอคนสนับสนุน จริงใจ ไม่หลอกใช้ ประกอบกับพฤติกรรมของเจ้าตัวเองด้วยว่า ทำงานหนัก แลัวไม่ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้ัอ เล่นการพนัน ขอบอกว่าเจอคนประเภทหลัง อยู่อเมริกาทำงานมา ๒๐ ปี ก็ยังไม่มีอะไรเป็นตัวเป็นตน เพราะเล่นการพนัน จากคุณ : หน้ากากแตน เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 03:18:19

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นด้วยมากๆว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิชาชีพของตนเอง ถ้าทำงานสาย professional อย่างพวก healthcare ยังไงๆก็มีรายได้ดีอยู่แล้ว การเลือกสายที่เรียน/สายอาชีพนี่สำคัญมากๆ ขอยกตัวอย่างเพื่อนสนิท 3 คน 1) Electrical engineer (แต่ทำงานเกี่ยวกับพวกน้ำมัน) ได้ $42/hour base (ประมาณ) เห็นบอกว่าได้ราวๆ $85K ต่อปี ทำงาน 4-5 วัน/week ไปดูงานบ่อยๆ จบตรีจาก UT Austin 2) Registered Nurse (ER) ทำงาน 3 วัน/week กะละ 12 ชั่วโมง ได้ $65-70K ต่อปี ไม่ยอมทำวันเพิ่ม ไปเที่ยว ดูหนัง ชีวิตสบายๆ 3) Pharmacist (ทำที่ Kaiser) ทำงาน 5 วัน/week (9 AM-5 PM) ได้ $125K ต่อปี พาครอบครัวไปเที่ยวบ่อยๆ สรุปคือ การมาทำงานเมืองนอกสามารถทำเงินได้จริง ถ้าทำงานในสายที่เป็นที่ต้องการและมีค่าตอบแทนที่ดี จากคุณ : Rennis เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 04:05:21

ความคิดเห็นที่ 24 เก็บเงินได้นะ เห็นหลายเคส อย่างน้องคนไทยที่ไปเรียนเมกา เรียนยูระดับท้อปของที่ันั่น พอเรียนจบ หางานทำที่นั่นได้ มีเจ้านายสปอนเซอร์ให้เสร็จสรรพ ก็เห็นมีเงินเก็บนะ รุ่นพี่อีกคนมาเป็นพยาบาลที่ออสเตรเลีย ได้เงินเยอะอยู่นะ จนมีบ้านสองหลังแล้ว หลังนึงซื้ออยู่เอง อีกหลัง ซื้อให้คนเช่า คาดว่าคุณความคิดเห็นที่ 17 น่าจะทำด้านสาธารณสุข อย่างพยาบาล ฯลฯ เพราะงานด้านนี้เงินดีมาก อีกรายไปเรียนยูท้อปที่เมกา ตอนเรียนโท ไม่ได้ทำงานหรอก ไม่ว่าจะนอกหรือในแคมปัสเพราะเรียนหนักมากกกกกกก ทุ่มให้กับการเรียนเต็มที่เพราะคิดว่ายังไงก็คุ้มกว่าการทำงานไปเรียนไป เกรดออกมาสวย พอจบกลับเมืองไทย ก็ได้งานบริษัทข้ามชาติทำ เงินเดือนตอนนี้สองแสนกว่าบาทแล้ว นอกจากตำแหน่งหน้าที่การงานดี เงินเดือนงาม สวัสดิการยังเพียบ ขนาดจัดฟันยังเบิกได้เลย ไปไหนมาไหน ก็น้ำมันฟรี เดินทางไปต่างประเทศบ่อยมาก บริษัทส่งไปน่ะ เห็นเขาใช้ชีวิตไฮโซ แฮปปี้มากมาย น่าอิจฉามาก จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 05:53:19 A:122.111.2.84 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 25 คุณความเห็น 17 สงสัยใช้แชมพู สบู่ ที่ได้มาจากโรงแรม ส่วนผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาขัดห้องน้ำไม่ต้องใช้ เดือนละร้อยบาท ราคานี้อยู่เมืองไทยก็ไม่ได้นะคะเนี่ยนอกจากเป็นคนสะอาดน้อย ฮ่าๆๆๆ (ขอแซวขำๆอย่าโกรธนะคะ) ถ้าไปอยู่เมืองนอกได้งานดีๆเงินเดือนเยอะๆแล้วตัวคนเดียวดิฉันก็เชื่อว่าเก็บได้ค่ะ ดิฉันเคยทำงานที่ญี่ปุ่น รับจ๊อบสอนภาษาไทยในโรงเรียนทำงานแปลเอกสารและงานแปลข่าวของสถานีโทรทัศน์ รับจ๊อบทั้งหมดสามที่ เดือนหนึ่งรายได้เกือบสองแสนกว่าบาทแถมไม่ต้องหักภาษีด้วยเพราะตอนนั้นเป็นนักเรียนไม่โดนภาษี (แต่ก็ใช่ว่าจะมีเงินเหลือเก็บมากมายเพราะกินเที่ยวเยอะมาก ไปเที่ยวยุโรปบ้าง ไปตามหมู่เกาะต่างๆในแปซิฟิกบ้าง แล้วก็กลายเป็นว่าในชีวิตได้เที่ยวสุดๆก็ช่วงนั้นช่วงเดียวนั่นเอง) ตอนนี้แต่งงานมีลูกมีเต้า เงินที่เคยพอเก็บได้ต้องเอามาช่วยสามีเลี้ยงลูกจนหมดแล้วเพราะเราไม่มีรายได้ ต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูก สรุปว่าชีวิตในต่างประเทศไม่ลำบากแต่ก็ไม่ร่ำรวยเป็นกอบเป็นกำ (เคยมีเพื่อนที่อยู่ญี่ปุ่นด้วยกันที่เก็บเงินได้เยอะๆเหมือนกันแต่เค้าประเภทกินแต่มาม่าแล้วไม่เที่ยว ถ้าเที่ยวต้องคอยหาจังหวะไปกับทริป จิตอาสาที่ได้ไปฟรี...เป็นทางที่เค้าเลือกแล้วว่าดีว่าชอบและดูเค้าก็สนุกกับมันมาก(มีเงินเก็บเยอะๆเที่ยวฟรีกินเขียมๆ) แต่ถ้าเค้าชวนให้ เราเดินไปบนเส้นทางนั้นกับเค้าด้วยเราคงไม่ไปเพราะไม่ใช่ชีวิตที่ตรงคอนเซ็ปต์ของดาว ฮ่าๆ) จากคุณ : อ่าวโตเกียว เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 06:19:44 A:114.181.194.70 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 26 อยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์บ้างเผื่อเป็นประโยชน์ หลายคนที่คิดว่ามาอยู่เมืองนอกแล้วรวยง่ายไม่ต้องทำงานหนักก็มีเงินใช้ควรคิดใหม่ เพราะไหนต้องรับมือกับค่าครองชีพที่สูงลิ่วอย่างที่เจ้าของกระทู้เจอมา ทำงานหนักแลกค่าแรงถูกๆ (ยกเว้นบางอาชีพ) บางคนอดมื้อกินมื้อเช่าห้องอยู่กันแบบแออัดมีคุณภาพชีวิตแย่ๆ บ้างก็หันมาเอารัดเอาเปรียบกันเองทำนาบนหลังคนอื่นเพียงเพื่อให้มีเงินมาอวดร่ำอวดรวยที่เมืองไทย แต่การเก็บเงินได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง กรณีของเราเราไม่ได้ทำงานเป็นเรื่องเป็นราวแต่มีเงินเก็บเพราะประหยัดกินใช้ตามอัตภาพ รับจ๊อบเล็กๆ รายได้ไม่มากมาย เช่น แปลเอกสาร สอนภาษาไทย รับสาทิตการทำอาหารและทำของว่างหรืออาหารไทยตามงานเลี้ยง ฯลฯ เราชอบทำงานอิสระอยู่กับบ้านเพราะจะได้ดูแลจัดการเรื่องอื่นๆ ในครอบครัวได้ด้วย ค่าเช่าบ้าน กับสาธารณูปโภคเราไม่ต้องจ่าย แต่ช่วยแฟนแบ่งเบาภาระเรื่องค่าอาหารและ เราซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเดือนละครั้งส่วนของสดสัปดาห์ละครั้ง โดยจะเสิร์ชดูโปรโมชั่นตามที่ต่างๆ บางทีก็ตัดคูปองเพื่อเอาส่วนลด ข้าวของบางอย่างเช่น จานชามและเครื่องครัว ซื้อจากร้านมือสองทั้งนั้น ก่อนไปซุปเปอร์ต้องทำรายการของที่จำเป็นเอาไว้ ถ้าเงินเหลือถึงซื้อของที่อยากกินเป็นพิเศษ ไม่สร้างหนี้สิน ไม่ใช้ของฟุ่มเฟือยหรือวิ่งตามเทคโนโลยี ใช้ชีวิตแบบพอเพียงก็มีเงินเก็บเป็นกอบเป็นกำได้ จากคุณ : มองมุมต่าง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 06:25:58 A:90.224.230.218 X: TicketID:159141

ความคิดเห็นที่ 27 ได้ค่าจ้างแบบฝรั่ง อยู่กินอย่างไทย อย่างไรก็มีเงินเหลืออยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย แต่การทีมีรายได้ดี สามารถเก็บเงินได้เยอะ ยังไม่ใช่อะไร ที่จะส่งผลให้ใครบางคน ยอมใช้ชีวิตที่เมืองนอก ตลอดกาลครับ จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 07:57:57

ความคิดเห็นที่ 28 d จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 12:47:30

ความคิดเห็นที่ 29 คห 27 เรากลับคิดว่า อยู่กินอย่างไทยนี่เปลืองมากค่ะ ซื้อกับข้าวมาทำเอง เทียบกับพวกที่กินfast food แล้วแพงกว่ามาก จากคุณ : Mrs. Bunny Bear เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 13:17:44

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดเห็นที่ 29 ส่านตัวไข่เจียวกับข้าวสวยร้อนๆ หรือมาม่าผัดไข่ใส่เซเลอรี่เยอะๆ กินต่อเนื่องได้เป็นเดือนๆเลยนะ แฮะๆๆ จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 13:33:15

ความคิดเห็นที่ 31 เก็บเงินได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้และบริหารเงินค่ะ ตอนเราเรียนตรี รายได้เราหลักๆได้มาจากการเสิร์ฟอาหาร บางวันก็ได้เยอะ บางวันก็ได้น้อย แต่รวมๆแล้วพอจบตรีมีเงินเก็บหลายแสนบาทอยู่ พอเรียนป.เอก เราไม่ได้ทำงานพิเศษแล้ว เนื่องจากติดสัญญากับทางมหาลัย แต่มหาลัยให้เงินเดือนเรา ซึ่งเยอะกว่ารายได้เฉลี่ยตอนเรียนตรีอีก แต่.... เงินเก็บโดยรวมหลังจากเรียนจบแล้ว มันน้อยกว่าตอนเรียนตรีอ่ะค่ะ รายได้เยอะขึ้น ความรับผิดชอบเยอะขึ้น รายจ่ายหลักเราหมดไปกะที่อยู่อาศัยค่ะ ถ้าตัดตรงนี้ไปก็มีเหลือเก็บเยอะเชียว .... อนึ่ง เราไม่หัวสูง บ้าแฟชั่่น หรือบ้าอุปกรณ์อีเล็กทรอนิคส์ เงินเราไม่ได้ไปละลายกับตรงนี้อ่ะค่ะ เลยพอจะมีเก็บ และซื้อของอย่างที่ต้องการโดยที่ไม่ต้องเป็นภาระครอบครัว จากคุณ : สะการะวาตี เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 13:33:55 A:98.94.0.28 X: TicketID:162406

ความคิดเห็นที่ 32 ตปท งานไม่ได้มีแค่ในครัวนะครับ ผมทำงานครึ่งปีมีเงินเก็บสองหมื่น AUD ไปเที่ยวก็มี กินร้านอาหารก็บ่อย แต่เหล้าไม่กินปาร์ตี้ไม่ค่อยไป การเก็บเงินได้หรือไม่ได้มันขึ้นอยู่กับว่าทำงานอะไร ใช้จ่ายไปตรงไหน คนไทยที่ผมรู้จักที่นี่เก็บเงินได้เยอะๆก็มีหลายคน ถึงขนาดซื้อบ้านได้ก็มี จากคุณ : Froyo เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 16:20:17

ความคิดเห็นที่ 33 นับถือคุณ : Banyen จริงๆที่สามารถเก็บเงินได้ ถึง $AU 90,000 หรือเท่ากับ $US 91,466.00 ต่อปี ในขณะที่ทำงานชั่วโมงละ $AU 30.00 นั่งคิดเล่นๆ เงินคนอื่น สมมตว่า ในหนึ่งสัปดาห์ ถ้าทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ได้สัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง หนึ่งปีมี 52 สัปดาห์เท่ากับ 2080 ชั่วโมง คูณด้วย 30 ก็ได้เงินทั้งหมด $AU 62,400.00 หักค่าใช้จ่ายตามที่คุณบอกปีละ $AU 9,400.00 เคร่าๆคุณต้องทำงานปกติปีละ 3300 ชั่วโมงต่อปี หรือค่าชั่วโมงตกราว $AU68.00 จึงจะได้เงินขนาดนั้น เงินโอเวอร์ไทม์จะต้องมากกว่าค่าจ้างปกติ ที่ออสเตรเลียเข้าใจว่าต้องเสียภาษีอีก คุณพิมพ์อะไรผิดหรือเปล่า ถ้าไม่ผิดก็นับว่าสุดยอดการทำงานทีเดียว $AU 90,000.00 = $US 91,466.00 เด็กข้างบ้านผมที่อเมริกา ทำงานชั่วโมงละ $58.00 และเดินทางที่บริษัทออกค่าใช้จ่ายอีก เป็นคนถี่ถ้วนกับตัวเลขมาก เรียกได้ว่าเป็นคนประหยัด เก็บเงินได้ไม่ถึงครึ่งของคุณเลย แต่ค่าใช้จ่ายและค่าภาษี (น่าจะตก 33%) ค่อนข้างแพง เช่น ค่าบ้านเดือนละ $1,700.00 ค่าโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต $200.00 ค่าน้ำมันรถ ค่าอาหาร เป็นต้น จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 18:42:45 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 34 ตอบคุุณข้างบน ไม่ได้พิมพ์ผิดหรอก กลับไปอ่านใหม่อีกทีว่ามันมีเงืนเพื่มจากกะกลางคืน วีนหยุด รวมทั้งการทำงานสองกะ ทำเเช้าต่อบ่าย ทำบ่ายจ่อค่ำ ได้ค่าแรงสองเท่า ถ้าวันถัดไปมีตารางเวรเช้า ก็ไม่ต้องไปทำ ที่ทำงานจ่ายค่าแรงให้ฟรี เนื่องจากทำสองกะเในหนี่งวัน เได้หยุดเพื่มแถมได้เงืนด้วย พักผ่อนแล่้วไปทำงานที่อื่นต่อตอนบ่ายๆ ได้  งานประจำ ทำสัปดาห์ละ 4-5 วันๆละ 8-10 ชม มีวันหยุดปักษ๋ละ 5 วีน เอาเวลาไปทำงานที่อื่นได้ วันหยุดพักร้อน ปีละ 8 สัปดาห์ ก็ไปทำงานที่อืนเป็นรายได้เเพื่มอีก จาก วันหยุดพักร้อนประจำปี ซี่งก็ได้เงืนอยู่แล้ว บางวันรัยงานสองแห่งทำ 3 กะ 24 ชม กะที่สาม นอนที่ทำงาน (sleep in) เวลาคนไข้มีปัญหาลูกน้องจะมาปลุกไปดูอาการ หรือ ให้ยา เฉลี่ย 2 วันทำงาน 3 กะ  แต่หลายๆ สัปดาห๋ ทำงาน ทุกวันๆ ละ 2 กะ แล้วหยุดนอน 1 วัน  แต่ก็มี ทำ 24 ชม สัปดาห๋ละ 1-2 วัน เหนื่อยรากเลือด แต่ก็จะทำ เพราะเได้เงิน หวังว่าคงเห็นภาพออก ทำงานเหนื่อยยาก แต่รายได้ดี รายได้หลีกคือ งานพิเศษ งานล่วงเวลา จากคุณ : Banyen เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 21:07:13

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ Banyen นี่เทพจริง รักษาสุขภาพนะคะ เราอยากทำงานได้เงินเยอะ เก็บเงินเก่งแบบนี้บ้างจัง จากคุณ : Mrs. Bunny Bear เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 23:00:05

ความคิดเห็นที่ 36 กลับมาอ่านแล้วครับ ยอมรับว่าอึดจริงๆ แทบไม่มีเวลาจ่ายเงินเลย ตอนหนุ่มๆแน่นๆผมกับภรรยาทำคนละสองจอบเหมือนกัน ตอนนี้แค่เดินส่งจดหมายทั้งวันผมก็สู้ไม่ไหว สวัสดีปีใหม่ครับ จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 02:22:10 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 37 เก็บได้เเน่ จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับงานจริงๆ ดิฉันขายเเรงงานขั้นต่ำ  เลี้ยงลูกด้วย ปีนี้เหลือเก็บเกือบ6เเสนบาท เทียบกับคนอื่นอาจจะดูน้อยนิดค่ะ^_^ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 06:45:38

ความคิดเห็นที่ 38 สงสัยคุณ Banyen น่ะค่ะ พิมพ์ผิดหรือเปล่าเรื่องค่าอาหารเดือนละ 2000 บาท (60 กว่าเหรียญ)​ เราประหยัดยังไงก็ไม่ได้เท่านั้นอ่ะ ไปตลาดทีซื้อกับข้าวอย่างน้อยก็ 20 กว่าเหรียญเข้าไปแล้ว อยู่ได้ยังไม่ถึงอาทิตย์เลยนั่น ถ้าไม่ได้พิมพ์ผิด เราเองคงต้องปรับวิธีการซื้อกับข้าวของตัวเองแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : benonn เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 08:45:40 A:58.168.230.221 X: TicketID:261115

ความคิดเห็นที่ 39 ดิฉันทำงานวันละ 9-10 ชม ในครัวไทย อาทิตย์ละ 5 วัน ไม่อธิบายมากนะคะ ว่างานมันหนักขนาดไหน (ตอนแรกกะจะหยุดแค่วันเดียว เพราะอยากได้เงินเยอะๆ ฮ่าๆ พอเข้ามาทำแล้ว โอย เหนื่อยแทบอยากตายเลยค่ะ เลยต้องขอหยุดสองวัน พักผ่อนเอาแรง งานใช้แรงงานน่ะค่ะ) แต่ก็ทนทำเพระาเขาให้ทำงานได้มากเท่าที่เราต้องการ ค่าแรงก็ไม่ถึง 9 เหรียญ/ชม แต่ก็เกือบๆ อาศัยกินโอทีเอา ประหยัดค่ากับข้าว สองมื้อ แรกๆถอดใจ เหนื่อยจนกล้ามเนื้ออักเสบ พออดทนนานๆเข้า ร่างกายมันชิน แล้ว แต่ก็เหนื่อยอยู่นะ มันล้าน่ะค่ะ ทำงานแข่งกับเวลา ทั้งวิ่งทั้งเดิน ร่างกายบึกบึนอย่างกับแรมโบ้แล้วตอนนี้55+ สามี(เมกัน)และดิฉันสองคนทำงานฟูลไทม์ แต่ก็มีเงินเก็บไม่เยอะเลย เพราะเราต้องเช่าอพาร์ทเม้นท์(แสนแพง) ค่าบิลต่างๆ เงินได้มาก็จ่ายไป ขนาดเราสองคนใช้ชีวิตแบบประหยัดไม่ซื้อของฟุ่มเฟือยแล้วนะคะ แต่ก็มีความสุขดีที่แม้ไม่มีเงินเก็บมากมายแต่เราก็ยังพอใช้ไม่อดอะไร อยากกินดีๆเราก็กินแต่ไม่บ่อยครั้ง ทำงานเหนื่อยเต็มเต็มชีวิตให้กันและกัน มีเงินมากน้อยหรือจะมีค่าเท่ากับ ณ วันนี้เรามีความสุขกันรึยัง เราเห็นพี่คนไทยที่เขามีเงินมากๆจากการทำงาน มีบ้านแพงๆที่ดิน รถ มีแทบทุกอย่างที่ไทย แต่ก็ยังไม่รู้จักคำว่า เพียงพอ เครียดได้ทุกวันขนาดชีวิตไม่ได้ลำบากอะไร เครียดที่จะมีเงินให้มากกว่าที่เขามี เราเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ เราและสามีนี่มีไม่ได้เศษเสี้ยวเขาเลย บางคนทำงานๆๆๆ แต่ป่วยน่าตกใจ เข้า รพ บ่อย รักษาตัวหมดเป็นหลายแสน โหมงานมากไม่ดีนะคะ เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่ทำงานที่เมืองนอก มันไม่ได้สบายแบบที่หลายๆคนคิดหรอก เราขอแค่เรามีสุขภาพที่แข็งแรงไม่มีโรคภัย พออยู่พอกินที่เมืองนอก เราก็พอใจแล้ว ได้มาน้อยใช้น้อย ได้มามากก็เก็บ มีเงินตอนไหนก็ได้แต่ขอมีสุขภาพกายสมบูรณ์แข็งแรง ตลอดไปเป็นดีที่สุด จากคุณ : MajestyLove เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 10:31:32

ความคิดเห็นที่ 40 คนที่ทำงานต่างประเทศแล้วเก็บเงินไม่ได้คือคนที่ไม่ได้เก็บครับ อย่างผมทำงานได้เดือนละ 1150-1350 เหรียญ ต่อเดือน อยู่บ้านเช่า 450 ผ่อนรถ 300 เหลือเก็บ 400-600 ต่อเดือน ค่ากินซื้อกับข้าวมาทำกินเองครับ ซื้อทุกวันอาทิตย์ประมาณ 50 ซื้อครั้งเดียวกินได้ทั้งอาทิตย์ พอหักค่ากินออกไปผมก็จะเหลือ 200-400 บาท พอเก็บได้ครับ ผมไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนครับ จะไปก็เฉพาะวันหยุดสำคัญๆ ส่วนใหญ่จะไปแค็มปิ้งกับเพื่อนๆ ถามว่าลำบากไหม ลำบากครับ แต่ส่วนตัวผมคิดว่าแลกกับการได้เที่ยว อยู่ 4 ปี ผมเหลือเงินกลับบ้าน 3 แสนเองครับ แต่ผมก็พอใจแบบของผม ป้าบางคนที่รู้จักทำงานแบบไม่เที่ยวไหนเลย แกก็เก๊บเงินได้เป็นล้านเลยนะครับ อันนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละคน+กับงานที่หาได้ อย่างบางคนเสริฟ์แต่รู้จักกับเจ้าของร้าน ได้ทำ 5-6 วัน ต่ออาทิตย์ ก็ได้เงินเยอะครับ วันได้เฉลี่ย 50-60 อย่างบางร้านที่คนแน่นๆทิปดีๆ น้องๆที่รู้จักบอกว่า ทำ 3-4 วัน ก็ได้เกิน 500 แล้วครับ ผมเองก็เคยไปทำงานแฟร์ ได้ 160 ต่อวัน แต่เหนื่อยมากครับ ตื่นนอนประมาณ 9 โมงเช้าเตรียมตัวไปทำงาน เคลียร์งานเสร็จกลับถึงบ้านอีกทีเกือบตี 1 ทำอยู่ 1 อาทิตย์ เกือบตาย อันนี้คือประสบการณ์ของผมที่เข้ามาแชร์ครับ จากคุณ : Down2Earth เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:00:28

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ Banyen นี่สุดยอดจริงๆ ....ว่าแต่อาชีพที่ทำนี่เป็นหมอหรือเปล่าครับเห็นมีเฝ้าคนไข้ด้วย  จะยังไงก็แล้วแต่ ผมภูมิใจในตัวคุณมากครับ นี่คือแบบอย่างของคนสู้ชีวิตจริงๆ ครับ....นับถือๆ จากคุณ : Packapong เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 20:52:25

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ : Packapong คงเป็น Health Care Service ครับ พยาบาลที่สู้ๆก็คงใกล้เคียงนี้แหละครับ หมอค่าจ้างสูงกว่านี้มากและทำงานหนักขนาดนี้ไม่ได้ คงต้องมีเวลาศึกษาตลอดเวลา จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 02:51:57 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 43 เห็๋นด้วยกับคุณ อิสวาสุ ผมว่าคงเป็นพยาบาลอ่ะครับ (เพราะค่าจ้าง per hour ระดับนั้น) พยาบาลมีทางทำเงินเยอะแยะครับ ถ้าบ้าทำงานแบบนั้นนะ หลายๆคนก็ทำงาน 2-3 ที่ ถ้าแค่ทำสองกะติดก็ถือเป็น overtime แล้วครับ ได้เป็นสองเท่า ยิ่งถ้าเป็น night shift กับ weekend หรือ holiday ก็ปาเข้าไปอีกเยอะ อย่างพี่พยาบาลที่ผมยกตัวอย่าง จริงๆแล้วเขาจะทำงานมากกว่านี้ก็ได้แต่เขาไม่เอา ชอบใช้ชีวิตแบบได้ไปเที่ยว ได้พักพ่อน สนุกสนานมากกว่า ผมว่าบางทีเงินก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้ชีวิตมีความสุขหรอกครับ แต่ก็อ่ะนะ แต่ละคนก็มีมุมมองและการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน priority ก็ต่างกัน ไม่มีผิดไม่มีถูกครับ จากคุณ : Rennis เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 06:05:50

ความคิดเห็นที่ 44 หมอเด็กที่เมืองไทย ทำงานที่คลินิกส่วนตัว วันละ 6 ชั่วโมง มีรายได้สูงกว่านั้น ไม่มีเจตนาแฝงอะไร เป็นข้อมูลอีกด้านเท่านั้นครับ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 07:02:37 แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 07:01:48 จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 06:58:10

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ : newcomer (gpvtu2009) หมอโรคหัวใจ(เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง)ที่ทุ่งสง ทำงานที่คลินิกส่วนตัวเฉพาะเช้ากับเย็น (กลางวันช่วยชาติทำงานหลวง) มีลูกค้าเข้าจับเบอร์ต้องรอเป็นชั่วโมงกว่าจะได้เจอหมอ ใครออกมาค่ายาต่ำกว่าห้าร้อยนับว่าประหลาด ผู้ป่วยไม่น่าจะต่ำกว่า 70-80 คน จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 10:36:50 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 45 เห็นทีอีกไม่นาน ผมอาจต้องไปเป็นลูกค้า หมอท่านนั้น จากคุณ : newcomer (gpvtu2009) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 11:09:29

ความคิดเห็นที่ 47 ดิฉันทำงานมาตั้งแต่สาวจนแก่ เก็บเงินไม่ได้สักสลึง :) จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 11:15:40

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านแล้วนับถือจริงๆ   ทำงาน 2 กะแทบไม่มีวันหยุด  ยังมีเวลาซื้อกับข้าวมาทำเองแค่ 2000 บาท   ค่าของใช้จุกจิก ผงซักฟอก สบู่ แชมพู    เดือนละ 100  บาท  ...ของที่โน่นคงถูกมากๆ ผมซื้อโลชั่นขวดเดียวก็กว่า 100 บาทแล้ว   จริงๆผมก็รับค่า ชม ราวๆนั้น  แต่ไม่เคยเหลือเก็บ  ทำมา ใช้ไป หาความสุขให้ตัวเอง ซื้อของเล่นของใช้ที่อยากได้  พอใจแล้วครับ   โบนัสออกค่อยเอาเข้าบัญชีฝากประจำ ลืมไปอย่าง  อ่านที่ว่าทำกะที่2 ได้60เหรียญ/ชม  กฏหมายแรงงานที่โน่นดีกว่าเมกาเยอะทีเดียว  ที่เมกาต้องเกิน 12 ชม. ถึงจะได้ดับเบิลไทม์   และมีข้อจำกัดเรื่อง ชม. ในแต่ละวันด้วย     แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 12:12:27 จากคุณ : Techie เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 11:57:13

ความคิดเห็นที่ 49 ของที่นี่ไม่ถูกหรอกค่ะ ของเมกาถูกกว่า อันนี้น้องที่อยู่เมกาเคยมาเที่ยวแล้วบอกว่าของที่นี่แพงกว่าแมกา ส่วนค่าอาหาร ครอบครัวเราอยู่อย่างประหยัดมากกกก ทำกับข้าวทานเองทุกมื้อ ค่าอาหารตกเดือนละ 400 กว่าถึง 500 กว่าเหรียญต่อเดือนค่ะ ก็ตกหัวละร้อยกว่าเหรียญต่อคน ขอนับถือคุณ Banyen ด้วยคนค่ะ อยากทราบเคล็ดลับจัง เราว่าเราประหยัดแล้วนะ ไปไหนมาไหนก็เดินเอา อย่างถ้าไปแค่อีกย่าน ต้องนั่งรถไฟไปหนึ่งสถานี เราก็จะเดิน ไม่ขึ้นรถไฟหรือรถเมล์ หิวข้าวก็รีบกลับมาทำกินเองที่บ้าน วันไหนไม่ได้ใช้เงิน วันนั้นจะดีใจมาก จนโดนคนใกล้ตัวแซวน่ะ ไม่กล้าเดินใกล้ กลัวเศษเกลือกระเด็นใส่ จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:55:52 A:122.111.5.161 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 50 ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าไปจริงๆชื่อหมอธีรพลครับ เป็นหมอที่ชำนาญโรคหัวใจที่มีชื่อมากครับ คุณ : ข้าวปั้น ของอเมริกาน่าจะถูกกว่าที่ไหนครับ ผมไปประเทศไหนซื้อของไม่ลง แม้แต่เมืองไทยของที่ระดับเดียวกันจะแพงกว่าอเมริกา รวมทั้งอาหารด้วย จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 18:33:43 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 51 ข้าวของที่ออสเตรเลียค่ะ คุณอิวาสุ น้องที่ใช้ชีวิตอยู่ที่เมกาเคยมาเที่ยวแล้วบ่นว่าของแพงมาก ค่ารถก็แพง ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ แพงมาก ยังบอกเลยว่า เข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนร่วมงานที่เป็นออสเตรเลียนี่ต้องห่อข้าวกลางวันไปกินที่ทำงาน ขนาดไปอยู่เมกา ของถูกกว่า ก็ยังห่อข้าวไปกินทุกวัน (คงติดเป็นนิสัยแล้ว เรื่องมัธยัสถ์น่ะ) จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 18:47:11 A:122.111.5.161 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 52 เพื่อนคนอเมริกันที่มาทำงานอยู่ออสเตรเลียยังบ่นว่าค่าครองชีพที่ออสเตรเลียแพงมากเลยค่ะ ทั้งๆที่รายได้ที่นี่สูงกว่าที่อเมริกาก็ตาม จากคุณ : benonn เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 04:58:59 A:58.167.2.167 X: TicketID:261115

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านประสบการณ์ของแต่ล่ะท่านแล้ว ต้องขอซูฮก จะว่ามันก็ไม่เกี่ยวว่าทำงานที่ไหนเมืองนอกหรือเมืองไทย เก็บได้หรือไม่ได้ ข้อสำคัญคือ รายรับต้องมากกว่ารายจ่าย ถึงจะมีเงินเก็บ คนที่ทำงานชั่วโมงมากๆ ทำตลอดไม่หยุด โอกาสเก็บเงินได้สูงเพราะไม่มีเวลาไปเที่ยวไปใช้เงิน บางครั้งก็นึกแปลกใจทำไม ต้องดิ้นรนมาล้างจานเมืองไทย อยู่เมืองไทยก็ทำได้นี่นา คงเป็นเพราะคิดคำนวณแต่รายรับแต่ไม่ได้ดูว่ารายจ่ายเท่าไร แต่อย่างว่าถ้าทำงานมากๆก็ไม่มีเวลาใช้เงิน ที่พักก็ไม่ต้องหรูผลัดกันนอนกับเพื่อนยังได้ ถ้าทำงานกันคนละกะ สำหรับตัวเองอยู่ที่ไหนก็มีเงินเก็บ แต่จะเก็บได้มากได้น้อยก็แล้วแต่ แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 11:31:46 จากคุณ : pixp เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 11:31:06

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ : pixp ผมเป็นคนมีรายได้น้อย ตอนนี้ยิ่งน้อยกว่าเก่าเพราะไม่ได้ทำอะไรจริงจังแล้ว แต่ต้องเก็บให้ได้ทุกเดือนเหมือนกันเพราะแม่อายุ95สั่งไว้ว่า ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เรื่องเงินทองอย่าหวังพึ่งหรือไว้ใจใครรวมทั้งลูกหลานและอย่าให้เป็นภาระลูกหลาน แม้กระทั่งงานศพ ส่วนสามีหรือภรรยาต้องทำดีไว้มากๆตอนที่ยังไม่แก่ จะหาความเห็นอกเห็นใจยามแก่อาจจะไม่ง่ายหากไม่ทำมาก่อน พอลูกหลานมาหาก็ให้มีเงินแจกเสมอ ไม่มากก็น้อย จากคุณ : อิสวาสุ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 18:50:14 A:98.231.188.19 X: TicketID:105627

ความคิดเห็นที่ 55 ว่าแล้วก็ขอรับนโยบายของคุณแม่คุณอิสวาสุมาใช้โดยด่วน ผู้ใหญ่มองอะไรทะลุปรุโปร่งจริงๆ ค่ะ จากคุณ : นะมี เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 21:38:47

ความคิดเห็นที่ 56 เห็นด้วยกับคุณ : pixp ค่ะว่ารายรับต้องมากกว่ารายจ่ายจึงจะมีเงินเก็บ แต่สำหรับงานที่ไม่ใช่วิชาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องใช้แรงงานเป็นหลัก ทำเท่าไหร่ก็เก็บยากค่ะ อีกทั้งถ้าต้องอยู่แบบมีปัญหาอย่างที่คุณ Lawanwadee เล่าไว้ ยิ่งแล้วใหญ่ ลำบากมาก คุณ Banyen เก่งจริงๆค่ะ โดยเฉพาะรายการค่าอาหารใช้จ่ายน้อยมากๆ มีเคล็ดลับมาแบ่งปันกันไหมคะ เผื่อดิฉันจะนำไปประยุกต์ใช้ได้บ้าง :-) จากคุณ : กระต่าย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 22:51:52 A:96.226.10.114 X: TicketID:166635