คห. 14 การบริการของประกันแบบ private จะขึ้นกับ tariff ที่เลือกตอนทำสัญญาค่ะ ถ้าเลือกว่าต้องการได้รับการรักษาจาก Chefarzt หรือเลือกอยู่ห้องเดี่ยว หรือเลือกบริการเสริมอื่น ๆ ก็ต้องจ่ายเบี้ยประกันแพง และถ้าต้องการจ่ายเบี้ยประกันถูก ก็ต้องจ่ายเงินค่ารักษาเอง (Selbstbeteiligung) มาก ถ้าคุณมีเงินและประกันสุขภาพแบบ private คุณจะได้รับการรักษาดีกว่าคนที่ประกันแบบ public ค่ะ แต่บริษัทประกันสุขภาพแบบ private ก็ไม่ได้รับทุกคน ลูกจ้างที่มีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง 4237.50 ยูโรก่อนหักภาษี (ปี 2012) จะไม่สามารถเข้าประกันแบบ private ได้ ส่วนผู้มีอาชีพอิสระที่มีรายได้น้อยสามารถประกันแบบ private ได้ก็จริง แต่ถ้าต้องการจ่ายเบี้ยประกันน้อยก็ไม่สามารถเลือกบริการพิเศษได้ และเมื่อเจ็บป่วยก็ต้องจ่ายเองมาก นอกจากนี้เบี้ยประกันแบบ private จะเพิ่มขึ้นตามอายุและความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วย จึงไม่เหมาะสำหรับผู้เกษียณอายุที่มีเงินเก็บไม่มาก และหากอายุเกิน 55 จะไม่สามารถย้ายจากการประกันแบบ private เป็น public ได้ ส่วนเบี้ยประกันแบบ public ขึ้นกับรายได้ ดังนั้นในกรณีที่เกษียณแล้วได้รับแต่เงินบำนาญหรือเมื่อมีรายได้ลดลง ก็จะเสียเบี้ยประกันน้อยลงไปด้วย ผู้เกษียณหรือคนที่ไม่ได้ทำงานแต่ต้องการประกันแบบ public จะเสียเบี้ยประกันสุขภาพรวม care insurance ประมาณ 17% ของรายได้โดยคิดที่รายได้ขั้นต่ำ 875 ยูโรต่อเดือน (รายได้ขั้นต่ำในการคำนวณเบี้ยประกันแบบ public ตั้งแต่ปี 2012) สำหรับผู้ที่มีเงินไม่มากและมีโรคเรื้อรังนั้น การประกันแบบ public ก็ยังดีกว่าไม่มีประกันเลย (ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ http://www.gesetzlichekrankenkassen.de/grenzen/grenzen.html http://www.finanztip.de/recht/sozialrecht/versicherungspflichtgrenze-beitragsbemessungsgrenze.htm http://www.krankenversicherung.net/gesetzliche-private-krankenversicherung http://www.focus.de/finanzen/versicherungen/krankenversicherung/privatekrankenversicherung/private-krankenversicherung_aid_10590.html )
คห. 15 เรากำลังตัดสินใจอยู่ค่ะว่าปีหน้าจะเลือกประกันแบบ private ดีหรือเปล่า เพราะถ้าเรายังประกันแบบ public ต่อไป ปีหน้าเราต้องเสียเบี้ยประกันแบบ public เดือนละประมาณ 350 ยูโรจากกระเป๋าตัวเอง (ทำงานอิสระ ต้องเสียประกันสุขภาพทั้งส่วนของนายจ้างและส่วนของลูกจ้าง และ care insurance รวมประมาณ 17% ของกำไรต่อเดือน) แต่ว่ายังลังเลอยู่เพราะอาจตัดสินใจมีลูก ถ้ามีลูก เราสามารถเอาลูกเข้าประกันแบบ public โดยไม่ต้องเสียค่าประกันได้ และเรามีประวัติความเจ็บป่วยบางอย่างที่บริษัทประกันแบบ private อาจไม่รับ นอกจากนี้เราไม่อยากเสียเบี้ยประกันมากขึ้น ๆ เมื่ออายุมากขึ้น คนแก่ที่นี่บางคนได้เงินบำนาญมาพันกว่ายูโร แต่ต้องเจียดเงินไปเสียค่าประกันแบบ private หลายร้อยยูโร เพราะเบี้ยประกันเพิ่มตามอายุและเมื่ออายุเกิน 55 ก็ไม่สามารถกลับไปประกันแบบ public ได้ ที่คุณจ่าย 200 ยูโรต่อเดือนเป็นค่าประกันแบบ private นั้นหากคุณไม่ได้ทำงานหรือทำงานที่มีรายได้น้อยกว่า 875 ยูโรต่อเดือน ก็ยังแพงกว่าเบี้ยประกันแบบ public สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำงานหรือผู้มีรายได้น้อยค่ะ ถ้าคุณต้องทำงานที่นี่ กว่าจะได้เงินเป็นร้อยยูโรก็ต้องทำงานหลายชั่วโมง งานดี ๆ ก็ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ ด้วย แต่ถ้าเป็นลูกจ้างก็โชคดีไปเพราะนายจ้างต้องจ่ายประกันสุขภาพให้ครึ่งหนึ่ง
คุณ 332795 เราไม่ได้ตัดความหวังจขกท.ค่ะ เพียงแต่อยากจะชี้ให้เห็นข้อเสียบางอย่างของประเทศที่เราอยู่เท่านั้น ว่าไม่ใช่ว่าเมืองนอกจะดีกว่าเมืองไทยทุกอย่าง ถ้าเราเลือกสิ่งที่ดีกว่าให้ตัวเองได้ คงเลือกแต่งงานกับผู้ชายไทยแล้วใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยค่ะ จะได้อยู่ดูแลพ่อแม่ด้วย และถ้าอยู่เมืองไทยคงไม่ต้องจ่ายค่าประกันหรือภาษีแพงเท่าที่นี่ แต่คนเราคงไม่สามารถได้อะไรทุกอย่างที่ใจต้องการได้
แก้ไขข้อมูล
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 09:05:03
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 08:58:44
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 08:56:06
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 06:58:36
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 06:25:09
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 06:17:30