|
จขกท. รุ่นราวคราวเดียวกับเรานะ สามี จขกท.ด้วย รุ่นราวคราวเดียวกับสามีเราค่ะ ^-^.. เราจะเล่าแนวความคิดการใช้จ่ายคู่เราแบบรวมๆ(รวมๆคร่าวๆยังยาวเลย^ ^;) วัยการทำงานพอใกล้กับกรณีคู่ของ จขกท. เผื่อจะได้ไอเดียนะคะ แต่บางครอบครัวที่เค้ามีเงินถุงเงินถัง ก็ตัดปัญหาการวางแผนการใช้จ่ายไปได้บ้างเนอะ ^ ^
เราเข้าใจแม่สามีนะคะ ท่านคงรู้เรื่องค่าใช้จ่ายแท้จริงของที่นี่เลยเกริ่นเพื่อให้เตรียมตัวไว้ค่ะ หากไม่ทำงานก็อยู่ได้แต่จะเป็นแบบที่คุณ Mnki กล่าวไว้ช่วงสองสามบรรทัดแรกแลยค่ะ แท้จริงมากๆ และอยากให้ลองมาใช้ชีวิตอยู่ดูลาดเลาก่อนค่ะแบบคุณ Mnki ว่าไว้เช่นกัน ข้อมูลของคุณ อามามิยะ ก็เห็นภาพญี่ปุ่นแท้จริงชัดเจนเลยเช่นกัน
เราอยู่ที่ญี่ปุ่นร่วมสองปีแล้วค่ะจนทุกวันนี้ เราลงเรียนภาษาแบบสองวันต่อสัปดาห์ ระหว่างนั้นเราตัดสินใจเองค่ะ อยากหางานทำไปด้วยเรื่อยๆค่ะ แอบหางานตั้งแต่เรียนคะคิคุเคะโคะเลย ฮ่าๆๆ ช่างไม่ประมาณตน ดีที่แฟนเราไม่ยุ่งวุ่นวายกับสิ่งที่เราอยากจะทำ ไม่งั้นอาจบ่นละว่าเสียเวลา ฮ่าๆ
เราเล่าไม่ใช่เพราะเราเก่งอะไรหรอกนะคะ เราอยากให้กำลังใจ ที่ผ่านมาเราเองสมัครมาเป็นร้อยๆสัมภาษณ์เป็นสิบๆแห้วกันมา หน้าแตกมา เปิ่นมาเพียบ จขกท. เองคงหางานได้สะดวกกว่าเรามากมายหลายเท่านัก หากได้ฟังญี่ปุ่นของเราแล้วจะฮาค่ะ ^ ^; จนเราได้งานอะรุไบต์เมื่อต้นปีที่แล้ว ทำสองสามเดือนก็มาได้งานใหม่ งานประจำค่ะกลางปีที่แล้วจนตอนนี้ ได้งานเพราะแรงใจและคำแนะนำจากคนใกล้ตัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ(เพื่อนในห้องนี้ด้วยค่ะ)^-^
แม่สามีเราเองไม่เคยขอเราทำงาน แต่ท่านจะบอกลูกชายให้ประหยัดเพื่อเราและครอบครัวในอนาคตค่ะ แต่เราเองกลับคิดเองเลยว่า ไหนๆเราก็บ้างานตั้งแต่อยู่ไทยแล้ว อยู่ที่ญี่ปุ่นก็จะลองหางานสักตั้ง อย่างน้อยก็ช่วยสามีเรื่องรายจ่ายได้ ช่วยกันสร้างตัวได้เร็วขึ้นค่ะ จะได้มีลูกแบบสบายใจขึ้นเนอะ (เพราะเราเองก็เพิ่งแตะสามมาเช่นกัน^ ^..)
สามีเรามีเงินเก็บมาก่อนก้อนนึงเป็นพื้นตั้งแต่เริ่มทำงานมาเลย (อายุยังไม่สามสิบ ฐานเงินเดือนก็ไม่มากเท่าผู้บริหารแน่ๆค่ะ) แต่สามีก็ต้องประหยัดลงมากหลังจากแต่งงานกับเราค่ะเพราะเงินก้อนที่เคยออม ก็ถูกนำมาใช้จ่ายบ้าง เค้าจะเน้นว่าชีวิตเป็นของคนสองคนจะทำอะไรต้องไตร่ตรองเพื่ออนาคตครอบครัว จะฟุ่มเฟือยตามใจตัวเองเหมือนครั้งยังไม่แต่งงานไม่ได้แล้ว ทั้งเค้าและเราค่ะ เราก่อนแต่งและสามีก่อนแต่ง เราทั้งคู่ก็ไม่ได้ร่ำรวยมีเงินถุงถังกันมาก่อนน่ะค่ะ
เรื่องไลฟ์สไตล์ของสามีเราเหมือนกันกับเราค่ะ ชอบท่องเที่ยว ชอบกิจกรรม กิน เดินทาง ไม่ชอบอยู่แบบอดทน หรืออดออมจนขาดความสบายตัว ยังรักที่จะเที่ยว เล่นกีฬา มีงานอดิเรก พักผ่อนให้ชีวิต แต่ชอบสังคมทำงานด้วย ชอบการมีหน้าที่ เราทั้งสองคนเลยจะพยายามทำงานหาเงิน ทำเงิน จัดระบบเงิน เพื่อให้ใช้ชีวิตที่แบบจับจ่ายได้ไม่อดมากไป และมีเงินเก็บได้ด้วย เพื่อยามมีลูก ครอบครัวเราจะยังคงพื้นฐานใช้ชีวิตแบบพักผ่อนหย่อนใจกันได้ด้วย
ถ้ามองครอบครัวคนญี่ปุ่นสมัยนี้รอบๆตัว จะทราบเลยค่ะว่า สามีและภรรยาทำงานทั้งคู่มีเยอะมาก และความคล่องตัวเรื่องการใช้จ่ายจะสบายตัวขึ้นค่ะ ลดปัญหาชีวิตคู่ในแง่ขัดใจ จากเรื่องการจับจ่ายข้าวของส่วนตัวว่าจ่ายพอดีหรือมากจนเกินไปได้ด้วยค่ะ
**ให้ตรวจสอบไลฟ์สไตล์ของ จขกท.และแฟนดูค่ะ และหากมีลูกแล้วจะใช้ชีวิตแบบไหน อย่างไร จะได้แปลนการเงินได้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตที่เราต้องการค่ะ จากนั้นก็แปลนการหาเงิน ทำเงิน ออมเงินค่ะ พูดคุยกันวางเป้าเพื่อครอบครัวชีวิตของสองคนค่ะ จะลดปัญหาการนึกถึงเรื่องตัวเอง
เราเองมีความสุขและชอบสังคมงานที่นี่ แบบรู้สึกว่า จากง่อยๆเหมือนคนหูหนวกตาบอดเป็นใบ้ต่างเมือง เหมือนคนต่างด้าวเป็นคนอีกชนชั้น แต่พอได้งานกลับได้รับการยอมรับและเชื่อใจ มันจะภูมิใจแบบบอกไม่ถูกค่ะ ถึงแม้งานจะไม่ได้ระดับเดิมแบบที่เมืองไทยก็ตาม
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้งานทำไปยาวๆแค่ไหน หากวันนึงมีลูกอาจต้องพักงาน ลางานก็ว่าไป หรืออาจหางานที่เหมาะสมใหม่ในสภาวะนั้นค่ะ ^ ^ หรือหลังจากนั้น ซึ่งหากไม่ได้งานมา(บริษัทล่ม ,เศรษฐกิจแย่ๆแข่งขันสูง ,แผ่นดินไวครั้งใหญ่ ฯลฯ) อย่างน้อย ณ ปัจจุบันก็จะพยายามเก็บออมทำเงินให้ได้ดีที่สุด รองรับเวลาฉุกเฉิน
สามีเราเองก็ไม่เคยคิดและไม่เคยตั้งความหวังค่ะ ว่าเราจะทำงานได้แบบทุกวันนี้ พอเราได้ทำงานตั้งแต่งานอะรุไบต์เค้าก็ดีใจมากค่ะ น้ำตาซึมเลย เพราะเค้ารู้ว่าเราอยากได้งานขนาดไหน เค้าสงสารเราหลายๆครั้งที่เราแห้วจากการสัมภาษณ์มาค่ะ เค้าก็มักจะกอดแล้วบอกว่าไม่ต้องไปทำงานหรอก เค้าดูแลได้ แต่เรากลับจะรู้สึกแบบว่า ทำไมเราจะทำไม่ได้เลยเชียวเหรอ (เราชอบเอาชนะค่ะ ดื้อนั่นเอง) มันยากจริงสำหรับภาษาง่อยๆแบบเรา แต่เราขอเป็นเปอร์เซ็นต์ส่วนนน้อยนั่นได้ไหม ^ ^;
พอตอนนี้ได้ทำงานประจำแล้ว อะไรๆเปลี่ยนไปเยอะค่ะ ^ ^ เพราะเวลาชีวิตมีจำกัด เราคิดเองว่าหากเรารอเค้ามีเงินเดือนมั่นคง หากรอเค้าอายุสามสิบกว่า สี่สิบกว่า มีเงินดูแลเรา เราก็รอไม่ไหวค่ะ อยากใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันให้มีแต่เรื่องสนุกมีความสุข กินเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเงินก็เข้ามาเป็นปัจจัย ฉะนั้นจะรอทำไมเนอะ เราเลยบอกเค้าว่ายังไงเราจะลองหางานให้ได้ ทำงานแบบตอนอยู่เมืองไทย จะมีลูกก็จะได้ไวขึ้น หรือมีแล้วก็ไม่ต้องมากังวลเรื่องค่าใช้จ่ายลูก และลามมากังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจว่ายังจะสามารถทำได้รึเปล่าด้วยค่ะ ปล.ค่าใช้จ่ายการกลับไทยด้วยต้องคำนึงค่ะ ช่วยกันหารายได้ก็ช่วยให้กลับได้บ่อย หรือกลับแล้วใช้เวลาได้คุ้ม จับจ่ายใช้เวลาด้วยกันกับให้พ่อแม่ที่ไทยก็ได้มากขึ้น
ขอให้โชคดีสมหวังในการตัดสินใจนะคะ ^ ^..
จากคุณ |
:
@FirstblusH
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ม.ค. 55 09:25:20
|
|
|
|
|