ความคิดเห็นที่ 1 รูปนี้ให้ดูความหนาก่อน จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:26:44

ความคิดเห็นที่ 2 อันนี้สารบัญ แบ่งเป็น 9ส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกคือ ช่วงวัยเด็กของในหลวง ส่วนที่2 คือ การขึ้นครองราชย์ของในหลวง ส่วนที่3 จะพูดเกี่ยวกับในหลวงที่เป็นเรื่องรวมๆ ซะเยอะค่ะ ว่าไปทำอะไรที่ไหน แต่ไม่ได้เน้นเฉพาะเจาะจงด้านไหน ส่วนที่4 จะพูดเกี่ยวกับในหลวงในระหว่างที่ท่านไปเยือนต่างประเทศ ส่วนที่5 จะพูดเรื่องของที่เมืองไทยมีปัญหาน่ะค่ะ ว่าท่านเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไร แต่จะเน้นพูดถึงสภาพเมืองไทยในขณะนั้นด้วย (ส่วนใหญ่เรื่องการเมืองทั้งหมด) ส่วนที่6 ประวัติการทำงานของท่าน ส่วนที่7 ส่วนนี้จะยกย่องท่านเป็น Renaissance Man, จะพูดเรื่องความเป็นศิลปินของท่าน เพราะ Renaissance คือยุคที่ศิลปิน จิตรกรรุ่งเรือง เลยเอามาเรียกเปรียบเทียบกัน ส่วนที่8 เหตุการณ์สำคัญต่าง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องวันครบรอบ เกือบครึ่ง ส่วนที่9 เรื่องอื่นๆ ทั้งหมดที่ไม่เข้าพวกข้างบน เอามารวมไว้ในนี้ จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:27:28

ความคิดเห็นที่ 3 เนื่องจากหนังสือเล่มนี้ หนาตั้ง248หน้า แถมเล่มไซส์บะเอ๊ก เลยจะลงเฉพาะส่วนที่คิดว่า คนในนี้อยากอ่านกันมากกว่า รายละเอียดบางอย่างที่คนไทยน่าจะรู้ดีกันอยู่แล้ว และบางเรื่องที่อาจก่อให้เกิดชนวนกีฬาสี เราก็จะข้าม ตัดผ่านไป ไม่เอามาพูดถึง ^^; เราคงไม่เน้นสาระมาก เพราะจะไปเน้นส่วนที่คิดว่า "น่ารัก"  ค่ะ 55555+ ถ้าใครอยากได้สาระเพิ่มใน หน้าไหน ก็ถามได้นะคะ แล้วจะกลับไปอ่านมาบอก ^^" รูปด้านล่างคือสมเด็จย่า พร้อมประวัติคร่าวๆของท่านค่ะ ข่าวจาก Simmons College Review (ท่านเรียนที่ Simmons College ค่ะ) นักเรียนอเมริกันสมัยนั้นอธิบายถึงท่านว่าเป็นคนกระตือรือร้นและเฟรนด์ลี่ และมีคนบรรยายถึงท่านเป็นหญิงสาวสวยในชุดเอเชีย ถือตะกร้า ขณะอยู่ในร้านขายของ (อธิบายประมาณว่าตะลึงในความสวยของท่าน) จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:28:44

ความคิดเห็นที่ 4 หน้าข้างๆ สมเด็จย่า คือเสด็จพ่อของในหลวง เจ้าชายมหิดลแห่งสงขลา ข่าวจาก Harvard Public Alumni Bulletin    จริงๆ ควรจะมีรูป แต่ลืมถ่ายมา.... เลยเอาไปแต่ text ก่อนละกันค่ะ ท่านเรียนที่  Harvard Public Alumni นี่แหละค่ะ และได้ชื่อว่า บิดาแห่งยาแผนปัจจุบัน (Father of Modern Medicine) เพื่อนร่วมเรียนของท่านจะรู้จักท่านในฐานะ ชายหนุ่มขยันเรียน เงียบขรึม ตัวสูง ล่ำสัน ฉลาด ชื่อ สงขลา (ท่านปิดบังสถานะตัวเองไว้ว่าจริงๆ ท่านคือเจ้าชายมหิดล สงขลา) รอย เจมส์ แคมป์เบล บอกว่าพวกเราไม่ใช่เพื่อนสนิทกัน แต่ก็ไปดูหนังด้วยกันบ้าง ก่อนท่านจะกลับ ท่านได้เปิดเผยตัวจริง และชวนมาเที่ยวสยามด้วย "ผมคิดว่าผมควรไป แต่มันตั้ง$600 และการเดินทางสมัยนั้นลำบากมาก จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย" หลังจากบทความนั้นจะเป็นเรื่องของในหลวงท่านซึ่งเป็นชีวประวัติวัยเด็ก เราข้ามไป เพราะคนไทยสามารถหาอ่านได้ง่ายๆอยู่แล้ว ส่วนด้านล่างคือภาพในหลวงท่านบวชค่ะ จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:31:25

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพครอบครัวของในหลวง จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:32:38

ความคิดเห็นที่ 6 เข้าส่วนที่4 ล่ะ (สามส่วนแรก ตัดจบอย่างรวดเร็ว 5555+) เรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์ในต่างประเทศ แต่จะเน้นหลักๆไปที่ในหลวงค่ะ โปรไฟล์ของประเทศไทยสูงขึ้นในต่างประเทศอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน รัชกาลที่5 ได้รับการเฉลิมฉลองระหว่างทัวร์ยุโรปในช่วงปลายศตรวรรษที่19 ได้เสริมวัฒนธรรม และผูกสัมพันธ์กับหลายประเทศที่อยู่สุดล้าฟ้าเขียว ห่างไกลจากสยามไว้มากมาย แต่หลานของตัวเอง กลับทำได้เยี่ยมยอดยิ่งกว่า (ในหลวงนั่นเองค่ะ) จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:33:53

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพนี้คือการเยี่ยมทำเนียบขาว ระหว่างการเยี่ยมทำเนียบขาว ท่านได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนสูตรอาหารด้วย 555 เมนูคือ บะหมี่น้ำ กับ ไอศครีมIke ระหว่างประชุม ในหลวงมีพูดประโยคนึงออกมา ตอบUS Foreign Assistnace Fund. ว่า "เรายินดีและขอบคุณความช่วยเหลือจากอเมริกา แต่วันหนึ่งเราตั้งใจจะทำด้วยตนเอง" จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:34:42

ความคิดเห็นที่ 8 เนื้อหาในหนังสือของบทนั้น (ที่เราไม่ได้เอาภาพลง) จะเป็นเรื่องของการเยี่ยมชมหลายๆประเทศของในหลวงและสมเด็จราชินีค่ะ เวลาพูดถึงสมเด็จราชินี จะเน้นที่ไปที่ความสวยงามของท่าน ท่านจะได้ลงแมกกาซีนผู้หญิงของออสเตรเลียหลายเล่มเลย มีส่วนนึงได้พูดถึงด้วยว่าในหลวงไปเยี่ยมชมโรงงานของ IBM อยากจะลงภาพ แต่น้อง ทำรูปมาให้ไม่ครบ เลยมาแต่ textละกันค่ะ -_-; (ล็อคอินนี้ จะเล่นกันสองคนพี่น้อง น้องสาวช่วยถ่ายภาพหนังสือ พี่สาวแปล) เลยขอพิมพ์ลิส ทั้งหมดว่ามีภาพท่านถ่ายคู่กับผู้นำประเทศอะไรบ้าง  บางคน พิมพ์ชื่อไม่ได้ เพราะมีตัวอักษรนั้นที่อ่านไม่ออก พิมพ์ไม่เป็น ก็จะ.. ไว้ T.T ลิสภาพนี้คือการเยี่ยมชมของในหลวงในประเทศต่างๆ ภาพแรกท่านทั้งสองถ่ายคู่กับควีนอลิซาเบธและดุ๊กเอดินเบิร์กของอังกฤษ ภาพสองถ่ายกับประธานาธิบดีซูคาโน่แห่งอินโดนีเซีย ภาพสามถ่ายกับคิงเฟดเดอริกที่9 กับเจ้าหญิงมาร์เกร็ต(Margrethe) จากเดนมาร์ค (ไม่ค่อยแน่ใจเรื่องชื่อเจ้าหญิง ว่าออกเสียงถูกมั้ย) ภาพสี่ ถ่ายที่เวียดนามใต้ ภาพห้า ประธานาธิบดีอเมอริโก้ โรดริกกูซ โทมัส จากโปรตุเกส (ชื่อคนนี้ก็ไม่รู้สะกดถูกมั้ย=[]=) ภาพหกคิง Buadouin ประเทศเบลเยี่ยม (พิมพ์ทับศัพท์ ไม่แปลชื่อแล้วค่า... แปลยาก) ภาพเจ็ด ประธานาธิบดีMax Petitperne ประเทศสวิซเซอร์แลนด์ ภาพแปด โป๊ปจอห์น ที่23 จากวาติกัน ภาพเก้า คิงOlav ที่5 จากนอร์เวย์ ภาพ10 นายกรัฐมนตรี Robert Menzies ออสเตรเลีย ภาพ11 เจ้าชายเฟลิกซ์ ของลักเซมเบิร์ก ภาพ12 นายกเลสเตอร์ เพียร์สัน แคนาดา ภาพ13​ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ฟรานซิสโก้ ฟรานโก้ ประเทศสเปน ภาพ14 คิงกุสตาฟ อดอล์ฟ ที่6 สวีเดน ภาพ15 นายกรัฐมนตรี เซอร์เคท โฮลี่โอ๊ค  ประเทศนิวซีแลนด์ ภาพ16 ประธานาธิบดีและมาดามดิโอสดาโด มัคคาปากัล ประเทศฟิลิปปินส์ ภาพ17 ประธานาธิบดี ….ของเยอร์มันตะวันตก ภาพ18 เจ้าชายเบิร์นฮาร์ด เจ้าหญิงเบียร์ทริกซ์ เจ้าหญิงอิเรเน่ ควีนจูเลียนน่า ประเทศเนเธอร์แลนด์ ภาพ19 จักรพรรดิ ฮิโรฮิโตะ  กับเจ้าชายรัชทายาทอาคิฮิโตะ และจักรพรรดินีทาคาโกะ ภาพ21 ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เชียงไคเจ๊ก ประเทศไต้หวัน ภาพ22 ประธานาธิบดี …ของออสเตรีย ภาพ23 ประธานาธิบดีชาร์ลีส์ เดอ กัวเลอ ประเทศฝรั่งเศส จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:40:56

ความคิดเห็นที่ 9 จนส่วนนี้ ข้ามไปถึงส่วนที่หก (ตัดไปตัดมาจนถึง 555) ส่วนนี้จะพูดถึงราชกรณียกิจของในหลวงค่ะ บางโครงการจะมีนักข่าวต่างชาติตามไปดู และเขียนบทความขึ้นมา เป็นเนื้อหาของบทนี้ค่ะ แต่เราจะไม่แปลลงลึกถึงสาระมาก เราขอลงเฉพาะบทสัมภาษณ์ของท่านจากสื่อต่างชาติบางส่วน กับความเห็นของคนต่างชาติค่ะ (ราชกรณียกิจ คนไทยรู้อยู่แล้วเนอะ ^^ มันเยอะมากค่ะ พิมพ์หมดไม่ไหว) บทความโดย Denis D. Grey "คนมักพูดว่าประเทศก็เหมือนปีรามิด กษัตริย์อยู่บน ประชาชนอยู่ล่าง แต่ว่าประเทศน้ีมันสลับกัน เหตุนั้นผมจึงปวดแถวนี้อยู่บ่อย" ในหลวงพูด จากนั้นท่านก็ชี้ไปที่คอ และหลังของท่าน แถมยิ้ม แทนที่จะเป็นใบหน้าเคร่งขรึมตามปกติ และเมื่อถามท่านว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้กษัตริย์ไทยทำงาน  ใช่อนาคตรึเปล่า? "อันตราย" ท่านตอบ "อันตรายที่จะเข้ามาคือคอมมิวนิสต์ แต่ความโลภของคนของเรานั้นอันตรายกว่า ถ้าเราทะเลาะกันเอง มันจะทำลายเรา แล้วเราจะกลายเป็นทาสของสิ่งที่เรียกว่าลัทธิจักรวรรดินิยม จะคอมมิวนิสต์ หรือ Dictatorship ก็ได้ทั้งนั้น "ผมรักในหลวงเพราะเมื่อท่านมา น้ำก็มา" พูดโดยชาวนาคนหนึ่ง บทความโดย Barbara Crossette จาก New York Times (ฉบับย่อแล้ว) (ปี1989) ในหลวงเดินทางตลอดเวลาเพื่อดูแลกว่าพันสองร้อยโครงการ โดยเฉพาะบริเวณชนบทห่างไกล สนับสนุนโดยรัฐบาล เอกชน และงบประมาณของราชวงศ์ เมื่อผมถามว่าทำไมท่านถึงเลือกเป็นกษัตริย์ลักษณะนี้ ท่านตอบว่า "เราไม่ได้เลือก แต่มันถูกเลือกให้เรา" ในการสัมภาษณ์ท่าน ท่านเป็นกษัตริย์คนแรกที่ให้สัมภาษณ์ต่อสนพต่างประเทศ ผมรออยู่ในห้อง ท่านสวมเครื่องแบบทหาร ทำให้ผมหายกดดันด้วยการเดินเข้ามาทักทาย และยื่นมือมือให้ พวกเรานั่งคุยที่โต๊ะไม้ตัวเล็ก ท่านตื่นเต้นกับการเล่าเรื่องโครงการพัฒนาล่าสุด และให้ความสนใจด้านประวัติศาสตร์น้อยกว่า ท่านไม่สนใจว่าจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์อย่างไร ท่านยังบอกว่า "ถ้าพวกเขาอยากเขียนถึงเราแบบดีๆ เขาควรเขียนว่าเราทำเรื่องมีประโยชน์ ถ้าเขาอยากวิพากวิจารณ์เรา เราไม่สนใจ แต่เขาต้องเขียนให้เป็นกลาง ที่จริงการวิพากวิจารณ์ไม่เคยเป็นกลาง แต่ว่าการชื่นชม บางครั้งก็ไม่เป็นกลางเหมือนกัน" ท่านบอกว่าตอนนี้ท่านมีเวลาให้งานอดิเรกน้อยลงเรื่อยๆ (ท่านเป็นนักดนตรี จิตรกร ตากล้อง และชอบนั่งเรือ) ท่านยังพกกล้องติดตัวตลอดเวลา แต่ไม่ได้วาดรูปอีกเลย ส่วนด้านดนตรียังพอแบ่งเวลาให้ได้บ้างนิดหน่อย เมื่อถามถึงสมเด็จย่า "เสด็จแม่เป็นครูที่ดี และยังเป็นครูอยู่" ในหลวงตอบ "เสด็จแม่ยังทำดีอยู่ และโชว์ให้เราเห็นว่าควรทำอย่างไร เสด็จแม่เคยเสนอไอเดียนึงขึ้นมา เมื่อเราได้รับอะไรบางอย่าง..เช่น เงิน เราจะต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์ส่วนนึงไว้ในกล่องสำหรับคนจน และเมื่อพวกเราพี่น้องทำอะไรผิด จะต้องจ่ายค่าปรับ... แต่ไม่ใช่ให้เสด็จแม่ของเรา เราต้องใส่ลงกล่องของคนจน" เมื่อผมถามถึงช่วงแรกที่ท่านขึ้นครองราชย์ "เมื่อเราพูด และกำลังจะเสนอ พวกเขาจะบอกว่า ท่านไม่รู้อะไรหรอก  เราจึงปิดปาก เรารู้ แต่เราปิดปากเพราะพวกเขาไม่ต้องการให้เราพูด เราจึงไม่พูด" ท่านเสริมต่อ "หลังจากนั้น เราก็ทำสิ่งที่อยู่ในขอบเขตที่เรากระทำได้ เมื่อพวกเขาเห็นว่ามันโอเค เขาจึงเข้าใจว่าเราทำเพื่อประเทศ ไม่ใช่เพื่อส่วนตัว" ท่านมักได้รับบริจาคเข้าในเงินคลังส่วนพระองค์บ่อยๆ อย่างเช่นพ่อค้าคนหนึ่งที่ฝันว่า มีมังกรบอกว่าในหลวงเป็นคนดี เพราะท่านนำน้ำสู่ภูเขาข้างเคียง เมื่อพ่อค้าคนนั้นตื่น เขาก็รีบนำเงินไปถวายท่าน "เราบอกเขาว่าไม่" ท่านค่อยๆเล่าเรื่อง "เราบอกให้เขาสร้างเขื่อน เขื่อนใหญ่ๆ เพื่อมังกรตัวนั้นจะได้เล่นน้ำได้ พวกเราจึงสร้างเขื่อน เขาช่วยลงเงินในการสร้างเขื่อนส่วนหนึ่งด้วย" (เราเดาว่า มังกร ในที่นี้คือ พญานาคค่ะ) หลังจากนั้นบทความอื่นๆ ก็พูดถึงราชกรณียกิจถึงในหลวงอีกมากมาย อีกบทความนึงที่ในหลวงพูดถึงเรื่องความพอเพียง "เราบอกเสมอว่าการพยายามขึ้นเป็นเสือไม่ใช่เป้าหมายของเรา แต่ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาหารพอกิน และดำรงชีวิตในลักษณะพอเพียง คำว่าพอเพียงในที่นี้หมายถึงคนเราต้องพึ่งพาตัวเองได้" แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 05:05:01 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 04:20:49 จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:49:01

ความคิดเห็นที่ 10 ส่วนที่เจ็ด ยกความเป็นศิลปินของในหลวงขึ้นมา "เขาคือกษัตริย์ที่เจ๋งที่สุดแล้ว" พูดโดย Lionel Hampton เพราะในหลวงเป็นทั้งนักดนตรี นักแต่งเพลง จิตรกร ตากล้อง นักกีฬา จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:52:20

ความคิดเห็นที่ 11 "เอเชียตะวันออกเฉียงใต้สร้างสุดยอดคนไว้มากมาย ทั้งHo Chi Minh, Silahouk, General Giap แต่ตอนนี้เรากล้าพูดว่า กษัตริย์ภูมิพลคือสุดยอดในกลุ่มคนสุดยอด" จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:53:29

ความคิดเห็นที่ 12 บทสัมภาษณ์ในหลวงอีกอัน แปลบางส่วนที่ชอบ บางอันยาวไป ไม่ไหวค่ะ TwT ถาม : เพราะการกระทำของคุณในฐานะกษัตริย์ คุณจึงได้รับความเคารพนับถือมากมายจากประชาชน คุณมียิ่งกว่าความเป็นเชื้อพระวงศ์ คุณมีอำนาจ เรียกว่าอำนาจแห่งความรัก ผมพูดถูกต้องมั้ยครับ? ตอบ : จะต้องย้อนกลับไปมองถึงความเป็นเชื้อพระวงศ์ก่อน สิ่งนั้นเรียบง่ายมาก มันบอกว่ากษัตริย์ทำอะไรก็ไม่ผิด คำนี้ยากที่จะเข้าใจได้ บางครั้งสามารถถูกเข้าใจได้ว่ากษัตริย์ทำอะไรไม่ผิดเพราะเขามีความรับผิดชอบและปฏิบัติตามระเบียบ อีกแง่นึง เพราะเขามีความรัก โดยเฉพาะต่อประเทศที่มีธรรมเนียมเก่าแก่มากมาย กษัตริย์นั้นอาจจะอยู่เหนือกฏหมาย แต่จริงๆเขายังอยู่ใต้กฏหมาย กฏหมายสิบประการของกษัตริย์ ไม่จำเป็นต้องเป็นกษัตริย์ แต่ทุกคนควรทำตามกฏนี้ โดยเฉพาะคนที่จะเป็นผู้นำ ถาม : คุณดูเป็นคนดีนะ ตอบ : ก็ผมเป็นคนดี! (ท่านเล่นมุข 555+) จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:54:14

ความคิดเห็นที่ 13 ภาพนี้โชว์เรือที่ในหลวงท่านออกแบบเองค่ะ จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:55:00

ความคิดเห็นที่ 14 อันนี้เป็นภาพท่านรับรางวัลเหรียญทองภายใต้ธงประเทศไทย จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:55:27

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพที่ในหลวงท่านวาด เอ่อ.. สวยอ่ะ รู้ว่าท่านเป็นจิตรกร แต่เพิ่งรู้ว่าท่านวาดเก่งขนาดนี้ จากหนังสือเล่มนี้ จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:56:26

ความคิดเห็นที่ 16 ท่านไปร่วมวงเป่าแซ็กไซโฟนในฮาวาย จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:57:00

ความคิดเห็นที่ 17 "ต้องทำให้ทุกอย่างง่าย" ในหลวงท่านบอกกับนักข่าวต่างชาติคนหนึ่ง "ถ้าทำให้มันยาก พวกเขาจะสร้างเอกสารชุดใหญ่ที่ไม่มีใครอ่านเข้าใจ" แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 18:01:57 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 18:01:37 จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:58:48

ความคิดเห็นที่ 18 A precious Gift from Thailand จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 03:59:58

ความคิดเห็นที่ 19 ข่าววิสแบนด์เรารักในหลวง จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 04:00:23

ความคิดเห็นที่ 20 คุณทองแดง จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 04:00:59

ความคิดเห็นที่ 21 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 04:01:59 จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 04:01:26

ความคิดเห็นที่ 22 .. จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 04:02:49

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพแผนผังราชวงศ์จักรีค่ะ จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 04:03:17

ความคิดเห็นที่ 24 Special Limited-Edition นาฬิกาที่ทำมาเพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ80ปีของในหลวง แบรนด์ Sarcar กำไรจากนาฬิกาเรือนนี้ถูกบริจาคเข้าโครงการชัยพัฒนาของในหลวง เพื่อเป็นตัวแทนของตัวอย่างทั้งหมดที่ท่านได้ทำให้คนไทยและโลกเห็น (ข้างในนาฬิกา เพชรแท้ค่ะ น่าจะแพงมาก) หมดแล้วค่ะ อาจจะไม่ใช่รีวิวที่ดีนัก ^^" เพราะเลือกแปลแต่ส่วนที่ตัวเราชอบ ตอนแรกตั้งใจจะลงแต่หน้าปกในกระทู้ ฝรั่ง คลั่งเมืองไทยอย่างเดียว แต่อยากโชว์ให้เห็นข้างในด้วย แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 05:13:39 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 04:09:23 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 04:07:11 จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 04:04:26

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นแล้วอยากได้หนังสือเล่มนี้บ้างเลยค่ะ จขกท โชคดีมากที่ได้เป็นเจ้าของ จากคุณ : Beminds เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 04:56:10

ความคิดเห็นที่ 26 เคยเห็นที่ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เล่มละพันกว่าบาท จากคุณ : Ryuichi เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 06:06:10

ความคิดเห็นที่ 27 หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์มา สามครั้ง ครั้งล่าสุด ปี 2009 ปกแข็ง มี 280 หน้า ราคาจำหน่ายเล่มละ 1,500 บาท http://www.bookdepository.com/King-Thailand-World-Focus-Foreign-Correspondents-Club-Thailand/9789814217934?b=-3&t=-26#Bibliographicdata-26 จากคุณ : Banyen เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:47:46

ความคิดเห็นที่ 28 อ้าว มีขายเหรอคะ ได้มาฟรี เลยเข้าใจว่า แจกฟรีอย่างเดียว หน้าแตกเลย -[]- แล้วถ้าลงรูปในหนังสือไว้ขนาดนี้ จะเป็นไรมั้ยคะ เพราะหนังสือเล่มนี้มันมีขาย หรือว่าประมาณนี้โอเค ถือว่าเป็นการรีวิวหนังสือ? แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 09:47:30 จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:55:09

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณ จริงๆ ครับ จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 10:37:36

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นมีปกอ่อนด้วยนะคะ ราคาสามร้อยบาท จากคุณ : minafiba เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 12:00:50

ความคิดเห็นที่ 31 เล่มนี้ ที่บ้านเรามีเรียบร้อยแล้วค่ะ จากคุณ : - (สมหนิง) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 12:03:30

ความคิดเห็นที่ 32 ล่าสุดมีแบบปกอ่อนแล้วครับ ขนาดเล็กลงมาหน่อยแต่เนื้อหาน่าจะเหมือนกัน ที่มีแน่ ๆ ก็ Asia Books ที่ทำให้เจ็บใจนิดหน่อยคือนอกจากราคาจะถูกกว่าแล้ว (ไม่กี่ร้อยบาท) ยังออกหลังจากที่ซื้อเล่มปกแข็งราคาพันกว่าบาทไม่นานด้วย จากคุณ : Timin2101 เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 12:51:18

ความคิดเห็นที่ 33 เนื้อหาดีมากๆเลยค่ะ ได้เห็นในมุมมองที่ต่างชาติมองเข้ามา จากคุณ : อิงฟ้าตาหวาน เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 13:25:15

ความคิดเห็นที่ 34 ที่หน้าปก ก็มีบอกแล้วว่า จัดทำโดย  Foreign Correspondents' Club of Thailand ถ้าอยากอ่าน แปลเป็นไทย ฉบับ 1988 อ่านได้ที่ http://aseanvision.com/news-top-detail.jsp?id=20091208120846657344&mm=12&yy=2009 ฉบับปี 2007 หาอ่านได้ ตามห้องสมุด ไทย ตปท หลายแห่ง ที่ http://www.worldcat.org/title/king-of-thailand-in-world-focus-articles-and-images-from-the-international-press-1946-2006/oclc/171073719 จากคุณ : ธนิตา เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 14:26:49

ความคิดเห็นที่ 35 ได้อ่านแค่นี้ก็รู้สึกตื้นตันใจมาก พระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ที่เยี่ยมยอดจริงๆ จากคุณ : apple a day เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 15:32:54

ความคิดเห็นที่ 36 หนังสือเล่มนี้คุณเดนิส ดี เกรย์ เจ้านายเก่าเราสมัยทำอยู่สำนักข่าวเอพี. เป็นคนเขียนด้วยค่ะ แกรักในหลวงมากอยู่เมืองไทยมาสี่สิบกว่าปีแล้ว (เราทำเรื่องขอสัญชาติไทยให้แกเอง) แกได้เข้าเฝ้าในหลวงสองครั้งแล้ว ยังแอบดีใจไปกับแกด้วยเลย   แกเคยบอกเราว่าคนไทยโชคดีมากที่มีในหลวงค่ะ แนะนำให้้ซื้อเก็บไว้ค่ะ คุ้มค่ามากทีเดียว หนังสือเล่มนี้คุณเดนิส แกเซ็นต์ชื่อให้เราเรียบร้อย แล้วเราก็ซื้อไปฝากพ่อกับแม่สามีที่อเมริกาในโอกาสวันปีใหม่ปีที่แล้วด้วยค่ะ จากคุณ : ปลาสลิดแดดเดียว เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 16:29:59

ความคิดเห็นที่ 37 หนังสือเล่มนี้บ้านเราได้มาจากสองสามีภรรยาที่มีชื่อแปะอยู่บนกระดาษสีขาวคาดบนหน้าปกในหัวกระทู้น่ะค่ะ  ตอนที่เราได้หนังสือเล่มนี้มา พ่อพูดว่าเค้าชอบเมืองไทยถึงขั้นทำเอง แจกเอง  แต่ดูจากคำว่า Complementary คงเป็นลักษณะการได้รับการแนะนำซะมากกว่า =[]=" (ภาพลักษณ์เราที่มีต่อเค้าเป็นมิสเตอร์สปาเก็ตตี้ เพราะเจอกันครั้งแรกก็เลี้ยงพาสต้่าร้านเค้าแทบอ้วก 55555) ตอนเห็นเล่มนี้ทีแรกก็ตื่นเต้นมาก สงสัยด้วยว่าทำไมฝรั่งถึงรักในหลวงทั้งที่ไม่รู้จัก แต่พออ่านเล่มนี้แล้วค่อยเข้าใจว่า ที่จริงสมัยก่อนคงมีข่าวพระราชกรณียกิจของในหลวงท่านมากมาย คนที่ได้อ่านบ่อยๆ คงรู้สึกดี และจากมุมมองของคนเขียนแต่ละคน ท่านเป็นคนที่ Charming มากๆด้วย Edit : พออ่านอีกที มีบทความคุณเดนนิส ดี เกรย์ที่เราแปลปนอยู่นี่นา เบลอค่ะ เบลอ =w=" เรานึกว่าตัวเองพลาด เพราะแหล่งที่มาทั้งหมดมาจากปากพ่อ 555+ บทความของคุณเดนนิส เท่าที่อ่าน เหมือนได้ตามติดท่านไปในพระราชกรนียกิจด้วยเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 18:11:44 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 17:50:48 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 17:46:48 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 17:45:30 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 17:02:11 จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:00:30

ความคิดเห็นที่ 38 มีครั้งหนึ่งเราต้องย้ายเมืองที่เราและสามีอยู่ตามงานใหม่ค่ะ ช่วงแรกๆ พวกเราหาเช่าบ้านเล็กๆ ก่อนเพราะยังไม่ย้ายมาเต็มตัว ตอนที่ไปเช่าเจ้าของบ้านท่าทางดีเชียวมาเปิดบ้านให้ชม เจ้าของอยู่บ้านติดๆ กันค่ะสามหลังใหญ่ๆ ในรั้วเดียวกัน ที่เราสังเกตคือ เจ้าของบ้านมีอัธยาศัยใจคอดี ดูนุ่มนวลมากเทียบกับคนมีอายุในประเทศนี้ทีบางครั้งวีนสุดๆ เอาน่ะ เราคิดว่าเป็นไปได้ด้วยเพราะหน้าที่การงานของท่าน สามีแอบบอกมาก่อนว่าเจ้าของบ้านเป็นเจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงที่เกษียณแล้ว ในที่สุดเราก็เช่าบ้านที่นี่ค่ะ อยู่แค่สองสามเดือนก็ย้ายออกไปอยู่ที่ถาวรกว่า จนกระทั่งหน้าร้อนวันหนึ่งสามีชวนไปเยี่ยมท่านและครอบครัว ท่านก็ชวนให้ทานขนมกาแฟด้วยกันในสวน ซักพักท่านบอกรอเด๊่ยวนะ หายไปข้างบนพักใหญ่แล้วกลับมาบอกว่า ดูนี่ซิ ที่รูปขาวดำ ออกเหลืองๆ เขียนไว้ 1967 (ปีเกิดเราพอดี เลยจำได้) เป็นรูปท่านเจ้าของบ้านและภรรยาเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่ห้วและพระราชินีค่ะ แล้วท่านก็เล่าเรื่องสมัยนั้นให้ฟัง ประทับใจมาก จากคุณ : 0-0 เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:07:56 A:88.77.214.85 X: TicketID:324043

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ เป็นหนังสือที่ดีมากเลย ต้องไปหาซื้อมาเก็บไว้แล้ว ไม่รู้จะยังเหลือรึเปล่า จากคุณ : Plara_S เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 23:13:05

ความคิดเห็นที่ 40 แปลกใจที่ทำไมไม่มีคนไทยคิดทำหนังสือแบบนี้บ้าง หรือว่ามีแต่เราไม่รู้ จากคุณ : apichypom เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 04:32:52

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณค่ะที่เอามาให้ชม รักในหลวง ที่สุดเลยค่ะ จากคุณ : thaiivy เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 11:15:32

ความคิดเห็นที่ 42 เราเพิ่งสั่งจากเว็บ asiabook มาค่ะ ราคา 300 บาท ปกอ่อน ซื้อพร้อมกับ King Bhumibhol:A life's book จากคุณ : @dd@ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 21:12:09

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณที่นำมาให้ชม ชอบมากและยังไม่เคยเห็นเลย คงต้องไปหามาให้ได้ แต่ลำบากตรงต้องแปลนี่แหละ จากคุณ : lotech58 เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 21:23:15

ความคิดเห็นที่ 44 ภาพถ่ายส่วนใหญ่ พ่ออนันดาเป็นคนถ่ายน่ะ จอห์น เอเวอริ่งแฮม มีส่วนร่วมกับหนังสือเล่นนี้ด้วย ดูคลิปนี้ประมาณนาที่ที่ 13 จากคุณ : มาเฟียไซเบอร์ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 09:55:23

ความคิดเห็นที่ 45 "เรายินดีและขอบคุณความช่วยเหลือจากอเมริกา แต่วันหนึ่งเราตั้งใจจะทำด้วยตนเอง" ประโยคนี้ทำให้น้ำตาเราไหลเลยค่ะ เพราะ พระองค์ ทรงงานหนักมาก เพื่อคนไทยทุกคน จากคุณ : Gabi เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 10:59:29

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณที่เอามาฝากนะครับ จากคุณ : besu1 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 01:04:19

ความคิดเห็นที่ 47 Long Live The King.... จากคุณ : Gigolina เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 08:33:56

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณที่แนะนำ เป็นหนังสือที่ทรงคุณค่ามากๆ อยากได้มาเก็บไว้จริงๆ จากคุณ : idreamba เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 21:39:30

ความคิดเห็นที่ 49 เรารักในหลวง จากคุณ : Pink sardine เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 02:52:18

ความคิดเห็นที่ 50 ริสแบนดิ์เรามี 3 อัน ยังอยู่ครบทุกอัน ,,^^,, ปล. อยากให้ จขกท. ใช้คำว่า "พระองค์" มากกว่าคำว่า "ท่าน" ค่ะ จากคุณ : น้อยหน่ากะสาลี่ เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 55 17:32:38