Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
แชร์ประสบการณ์หาหมอที่อังกฤษพร้อมขอคำแนะนำ /\ (ยาวหน่อยนะคะ) ติดต่อทีมงาน

จขกท >> เพศหญิง อายุ 39 ปี ปกติเป็นคนสุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

เริ่มเป็นหวัดเมื่อตอนช่วงคริสมาสต์ที่ผ่านมา ไม่ได้ไปหาหมอแต่ทานยาที่เอามาจากเมืองไทยเอง มีน้ำมูก 3 อาทิตย์ และไอมากๆประมาณ 4 อาทิตย์ แต่ช่วงหลังไอเริ่มน้อยลงไปเยอะ จนเรียกว่าเกือบหายแล้ว

จนกระทั่งเมื่อคืนวันพุธที่ 8 ก.พ. ตอนกำลังอาบน้ำก็สังเกตเห็นว่าที่ท้องและต้นแขนมีตุ่มแดงๆเหมือนยุงกัด ขึ้นอยู่ประปราย แต่ไม่มากเท่าไร พอตี 2 ตื่นขึ้นเพราะเริ่มคันที่ตัว ที่อวัยวะเพศ และทวารหนัก

ตื่นมาตอนเช้าวันพฤหัส ก็สังเกตว่าตุ่มเริ่มขึ้นที่หน้าอกและคอ โทรไปที่คลินิคที่ลงทะเบียนไว้ใน Bolton เพราะต้องการพบหมอ ได้คิวเร็วสุดคือวันศุกร์ตอน 5.45pm แล้วเราก็ไปทำงานตามปกติ พอถึงที่ทำงานก็เล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟัง เขาก็บอกให้ไปที่ Walk-in centre ดีกว่าเพราะจะมาทนคันอีกเป็นวันๆได้ไง เราไป Walk-in centre ที่ Blackpool เนื่องจากอยู่ใกล้ที่ทำงาน หลังเลิกงาน ระหว่างที่นั่งรอคิว เราเริ่มปวดเมื่อยตามตัวโดยเฉพาะตั้งแต่เอวลงไป นั่งอยู่เฉยๆไม่ได้ต้องลุกๆนั่งๆ คันตามตัวด้วย  ณ ตอนนั้น มีตุ่มขึ้นที่หน้าเยอะขึ้น บางจุดจะเหมือนเป็นสิวหัวช้างเลย และขึ้นที่แก้มสองข้าง นั่งรอคิวอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงคิวตัวเอง ได้พบกับพยาบาล เขาก็ถามว่าแพ้อะไรหรือเปล่า เปลี่ยนข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกินบ้างไหม ซึ่งเราก็ตอบ ไม่ แล้วเขาก็ขอดูตุ่มที่ขึ้นที่ลำตัวด้านหน้าและหลัง เขาก็บอกว่าเหมือนเป็นอีสุกอีใส เราก็บอกว่าเราเคยเป็นมาแล้วตอนเด็กๆ แล้วเขาก็สั่งยา Antihistamine,พร้อมเขียนโน้ตให้ว่าไปซื้อยา calamine แก้คัน และ Canesten ให้ทาที่ช่องคลอด พอไปร้านยาที่อยู่ใน walk-in centre คนขายยาบอกว่าไม่ต้องซื้อตามใบสั่งหรอก เพราะแพงกว่า เนื่องจากยาต่อ 1 ใบสั่งอยู่ที่ 7.40 ปอนด์ เราก็ซื้อตามที่หมอสั่งเสียค่ายาไปที่  6 ปอนด์กว่าๆ กลับมาบ้านก็ทั้งกินทั้งทาตามที่พยาบาลสั่ง ไอ้เบื้องล่างหายคันเป็นปลิดทิ้ง เบื้องบนหายคันไปเยอะ แต่ผื่นยังไม่ยุบ

ตื่นมาวันศุกร์ ตอนหกโมงเช้า เหมือนมีไข้ ดูหน้าตาตัวเองแล้วแย่ลง อีเมล์ไปลางานเจ้านาย กินยา antihistamine ตามที่พยาบาลสั่งมา พอ 8.30am กินกาแฟไป 1 แก้ว แล้วขับรถไปที่ คลินิคที่ลงทะเบียนไว้ เอาหน้าและคอที่มีผื่นขึ้นไปยื่นให้ดู เขาบอกว่าคิวเต็มหมดเลย เราเลยบอกว่าไม่งั้นจะให้เราไปที่ A&E เลยใช่ไหม เจ้าหน้าทีก็เข้าไปคุยกับใครไม่รู้แล้วบอกว่าให้นั่งรอเดี๋ยว เดี๋ยวให้เจอหมอ รออีกไม่ถึง 5 นาที ก็ได้เจอหมอ หมอก็ ถามเหมือนนางพยาบาล พอคุยเสร็จก็บอกให้เราไปที่ A&E หมอบอกว่าถ้าหายใจไม่ออก ให้รีบหยุดรถแล้วโทรเรียก 999 เพราะหมอกลัวเรามีปัญหาเรื่องหายใจ

เราก็ขับรถไป พอถึง รพ ก็เข้าที่จอดรถ แล้วก็เดินเข้า A&E ไปหา reception บอกประวัติเขา เขาก็ถามว่าหมอที่จะมาพบชื่ออะไร เราบอกว่า หมอเราไม่ได้บอกอะไร เธอบอกแค่ว่าให้มาที่ A&E เจ้าหน้าที่ก็ส่ายหน้าบอกว่าหมอก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แล้วก็ให้เราไปนั่งรอหน้าห้องวัดความดัน

ระหว่างรอ เริ่มหิวน้ำมาก หัวเริ่มหนัก อยากจะลงไปนอนที่เก้าอี้ ได้ยินคนอังกฤษสองคนผัวเมียคุยกันนั่งอยู่ด้านหลังอายุก็น่าจะ 60ปีขึ้นไป เราเลยพูดไปว่ารบกวนไปซื้อน้ำให้เราหน่อยได้ไหม ระหว่างพูดเสียงเราก็สั่นเพราะหนาวและไม่มีแรง เรายื่นเงินไปให้ 5 ปอนด์ แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ I don’t know where it is. ซึ้งสุดๆ ระหว่างที่สองคนบอกว่าไม่รู้ว่าที่ขายน้ำอยู่ตรงไหน ก็มีพ่อลูกเดินมานั่ง (ซึ่งไม่ไกลจากที่สองคนนี่นั่งเท่าไร) พร้อมเป็บซี่ 1 ขวด เราจะตะโกนถามเขา เราก็ไม่มีเสียงแล้ว เราก็นั่งต่อสักพัก ก่อนตัดสินใจลุกไปที่ตู้น้ำกด ด้วยความอยากกินน้ำหวาน เลยกดน้ำส้มมา ซึ่งพอกดมาเราก็ต้องรอให้มันหายเย็น เราก็ได้แต่จิบๆ เพราะกินน้ำแล้วแสบปากไปหมด สักพัก พยาบาลก็เรียกเราเข้าไปวัดความดัน เราก็ขอ warm water เขาบอกว่าไม่มี  มีแต่น้ำเย็นขายในตู้ (แต่ที่หน้าพยาบาลนะ มีน้ำอยู่ในเหยือก พร้อมแก้วพลาสติกที่ยังไม่ได้ใช้อยู่หลายใบ) ระหว่างวัดความดัน วัดหัวใจ ตัวเราสั่นเป็นเจ้าเข้า หนาวมาก พอวัดเสร็จเขาก็ให้เราไปรอต่อ เพื่อรอพบหมอ ระหว่างนั่งรอครั้งนี้ เริ่มปวดเมื่อยตามตัวต้องลุกๆนั่งๆตลอด ก็รู้ว่าคนรอบข้างมอง แต่ก็ไม่ได้สนใจ

รอต่ออีกสักพัก หมอประจำ A&E ก็เรียกตัวเข้าไป หมอบอกว่ามันเหมือนอีสุกอีใสมาก เราก็ถามว่าไม่ใช่งูสวัดใช่ไหม หมอบอกว่าไม่ใช่ เพราะอันนี้มันขึ้นทั้งตัว งูสวัดมันจะเป็นจุดๆไม่กระจายอย่างนี้ หมอบอกว่าเขาก็ไม่เชี่ยวชาญทางนี้ แล้วก็บอกว่าให้เรากลับไปหาคลินิคที่เราลงทะเบียน เราก็เลยบอกว่าเราถูกส่งมาที่นี่ เขาก็เลยโทรไปหาคลินิคเราและขอคุยกับหมอเรา หมอ A&E ต่อว่าหมอเรา และบอกว่า วันหลังให้ทำจดหมายมาด้วย แล้วหมอ A&E ก็บอกว่าถ้าเรามีจดหมายส่งตัวมา เราไม่ต้องมารอนานขนาดนี้ (ประมาณ 2hr) เราบอกว่าเราไม่ได้มีนัดกับหมอเรา เราโผล่หน้าไปซะงั้น เพราะคิวเต็มหมด หมอบอกว่าไม่เกี่ยว ไม่ใช่ความผิดเรา แล้วหมอก็ให้เราไปเจาะเลือด พอเจาะเลือดเสร็จ หมอให้เรากินพารากับ ibuprofen แล้วพยาบาลก็ส่งเราไปที่แผนก Dermatology เพื่อไปรอฟังผล พอเราเดินไปถึง ก็เจอหมอสองคน หมอผู้ชายซึ่งคุยโทรศัพท์ไปคุยกับเราไปด้วย พูดว่าอาการเราเป็นอย่างนี้ๆๆใช่ไหม พูดเหมือนตาเห็น แล้วเขาก็บอกว่าน่าจะเป็น Viral infection ซึ่งคืออะไรก็ไม่รู้ ระหว่างรอผลเลือด พยาบาลก็ให้ไปวัดความดัน กับวัดการเต้นหัวใจอีก และบอกว่าความดันเราต่ำ เราบอกว่าเรายังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้า พยาบาลเลยเอาน้ำมาให้ 750 ML พร้อมแก้ว 1 ใบ พร้อมบอกว่าให้ทานให้หมด เราก็ฝืนทานจดหมด แล้วพยาบาลก็มาวัดความดันใหม่และบอกว่าดีขึ้น แล้วพยาบาลเอาเหยีอกไปเติมน้ำอีกรอบแล้วบอกว่าทานอีกให้หมดเพราะมันได้ผล คราวนี้ใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะหมดเหยือกที่สอง นั่งรอผลเลือดไปเกือบๆสามชั่วโมง แล้วหมอ A&E เดินมาหาหมอที่แผนก Dermatogy แล้วก็คุยกันพร้อมมองมาทางเรา แล้วก็เดินจากไป เราก็รอต่อไป นั่งไปหลับไป จนหมอมาตะโกนเรียกชื่อและมองมาทางเรา  หมอก็บอกว่าจะจ่ายยานี่นั่นให้ ให้ไปเอาที่ pharmacy แล้วเราก็ไปเอายาที่ pharmacy ของโรงพยาบาล ได้ยามาสองอย่าง ไม่ต้องจ่ายเงินเลย มีรายละเอียดการรักษาให้เราเอาไปให้คลินิคที่เราลงทะเบียนไว้ ผลออกมาว่าเป็น Viral Infection กับ Tonsillitis  มาโรงพยาบาลครั้งนี้เสียค่าที่จอดรถไป 3.80 ปอนด์ พร้อมน้ำส้มที่กินไม่ได้อีก 80p แต่ตอนขากลับนี่สติชักไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไร แต่ก็ค่อยๆขับ กลับมาถึงบ้านกินยาแล้วนอนเลย นอนก็หลับๆตื่นๆ

วันเสาร์เช้า อาการเราไม่ดีขึ้น นอนก็ตื่นทุกชั่วโมงเพราะเจ็บคอ ปากบวมเจ่อ ที่ริมฝีปากเหมือนมีน้ำเหลืองๆแบบหนองตลอดเวลา และริมฝีปากล่างจะเหนียวติดกับริมฝีปากบน ต้องค่อยๆใช้มือแกะออก ส่วนตุ่มจากแดงๆเหมือนยุงกัด เริ่มกลายเป็นหนองแต่แค่ไม่กี่เม็ด และพูดไม่ค่อยได้ อ้าปากได้น้อย และเสียงไม่ค่อยมี เจ้าของบ้านบอกว่าไปหาหมออีกรอบเหอะ เราเลยโทรไปเรียกให้เพื่อนเรามารับไปที่ A&E อีกรอบ แต่ก่อนไป A&E เราโทรไป hotline ของ Bupa ที่เราเป็นสมาชิกอยู่ พยาบาลที่รับสายก็แนะนำให้ไป A&E เหมือนกัน พอไปถึง A&E พยาบาลเห็นหน้าเราแบบบอกบุญไม่รับ ก็ลัดคิวให้ แล้วบอกให้เรานั่งรอตรงนี้ เดี่ยวจะมีพยาบาลพาเราไปที่ cubicle ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าคืออะไร สักแป๊บนึงก็มีพยาบาลเรียกเราให้ขึ้นเตียงแล้วก็ปิดม่าน แนะนำตัว ถามอาการ วัดความดัน วัดหัวใจ และบอกว่าจะเจาะเลือดเราอีกรอบ รอไปสักพักใหญ่ๆ ก็มีหมอ (หน้ายังเด็กอยู่) สำเนียงไอริช เข้ามาถามอาการ เพื่อนเราก็เป็นล่ามให้ บางทีเราก็เสริมไปบ้าง เราบอกว่าเรามี ตกขาว/discharge ที่ downunder เราด้วย (นึกศัพท์ไม่ออกว่าจะใช้ศัพท์ว่าอะไร เพราะคิดว่า pussy cat ก็คงไม่เหมาะ จำคำนี้ได้จากหนังเรื่อง Sex and the City เลยเอามาใช้เลย) พร้อมเอานิ้วชี้ไปให้รู้ว่า downunder นั้นอยู่ตรงไหน และบอกว่าเจ็บด้วย หมอไอริชก็พยักหน้า แล้วก็ใส่ถุงมือ จับดูที่ผื่นแผลตามลำตัว ด้านหน้าและด้านหลัง แล้วก็ไปเดินหาไม้ไอติมเพื่อเอามาอ้าปากเรา แล้วก็เดินออกไปข้างนอกสักพัก ก่อนกลับมาพร้อมบอกว่าจะขอตรวจหัวใจ หรือหายใจอะไรนี่แหละ ให้เราหายใจเข้าออกหลายๆปึ้ด หมอไอริชก็บอกว่าคิดว่าต้องให้ antibiotic แต่ขอไปเช็คกับ consultant ก่อน พอหมอออกไปเพื่อนที่ไปด้วยบอกว่าหมอจะไม่ให้กลับบ้าน พอหมอไอริชกลับเข้ามา หมอบอกว่าไม่ต้องให้ antibiotic ละ แค่เราต้องรอให้ยา penicilline ออกฤทธิ์ก่อน ส่วนปัญหาหลักตอนนี้คือเจ็บคอ ก็จะให้ยาแก้ปวด Co-Condomol วันนี้ก็ได้ยาแก้ปวดแบบเม็ดฟู่กลับบ้านมา 1 กล่องใหญ่ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น กลับมาบ้านก็กินยาเลย รอสักชั่วโมง คอก็ยังไม่หายเจ็บ กลืนน้ำลายก็ยังเจ็บแบบแสนสาหัสเหมือนเดิม เรากินนมไป 1 แก้ว พอกินหมดก็อาเจียนออกมาอีก สรุปวันเสาร์นี้ทั้งวันได้กินแต่น้ำกับยา พอช่วงตัวเริ่มอุ่น รีบไปอาบน้ำ สระผม เพิ่งรู้ว่าที่ศีรษะก็มีตุ่มขึ้นด้วย เพราะเกาไม่ได้เลย  แล้วก็โปะตัวไปด้วย คาลามายด์แก้คัน

เมื่อคืนนี้ก็ตื่นแทบจะเรียกว่าทุกชั่วโมง ตื่นมาบ้วนน้ำลาย เช็ดน้ำลาย กินน้ำ เอามือไปจับที่หน้า ก็รู้สึกว่ามีน้ำใสๆ เลยเปิดไฟฉายส่องกระจก ก็เห็นว่ามีน้ำออกมาบางจุด และที่เป็นหนองก็มีมากขึ้นโดยเฉพาะตามร่องจมูกและเหนือริมฝีปาก

เช้าวันนี้วันอาทิตย์ตื่นมาตอน 7โมงเช้า ตื่นมาก็กินยาเลย นอนมากก็ปวดหัว พอขยับตัวทีก็เจ็บ เข้าใจว่าด้านหลังน่าจะเป็นหนองด้วย ล้างปากล้างหน้าดูสารรูปหน้าตัวเองแล้วสยอง เพราะมันเหมือนบวมๆ เจ่อๆ และมันก็แสบๆร้อนๆ เป็นบางเวลา จะแคะขี้มูกก็เจ็บ ต้องค่อยๆเอา cotton bud มาเช็ด ที่หูก็มีผื่นขึ้นด้วยระหว่างที่นั่งพิมพ์กระทู้นี้ ก็รู้สึกว่าตาด้านขวาเริ่มเจ็บและมัวๆ ตอนแรกนึกว่ามีเศษอะไรเข้าตา ก็พยายามส่องหาดู ก็เห็นเหมือนมีเนื้อเยื่ออะไรสักอย่างแต่มันเอาไม่ออก หน้ารู้สึกตึงไปหมด คันด้วย พอจะเกาทีก็ต้องส่องกระจกเพราะกลัวไปเกาผิดจุด คิดว่าถ้าตามีปัญหาอะไรมากกว่านี้ ก็จะไป A&E อีกรอบละ และนี่มันก็ 2 วันแล้วที่กินยามา มันน่าจะดีขึ้นบ้างแล้วนะ แต่เราว่ามันไม่ได้ดีขึ้นเลย

ใครมีอะไรจะแนะนำไหมอะ ตอนนี้เซ็งมากเลย ยังสามารถใช้ชีวิตในบ้านได้อย่างปกติเมื่อเช้าก็เอาผ้าไปซัก เพราะน้ำลายคงหยดเต็มเตียง ปัญหาหลักคือเรื่องกิน ไม่ได้กินอะไรมาตกวันที่สามแล้ว กินได้แต่น้ำแต่ก็ไม่มาก วันนี้ก็พยายามจิบนมไป แต่เพิ่งจิบไปได้ไม่ถึงครึ่งแก้ว กลัวอาเจียนออกมาอีก ยังลังเลเหมือนกันว่าจะไป A&E อีกรอบดีไหม หน้าตึงมากถึงมากที่สุด ถ้าอยู่เมืองไทยนะ คงสบายกว่านี้

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

จากคุณ : whoispriority
เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 22:31:20




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com