 |
สวัสดีค่ะคุณกรรมกรสาวลัลล้า
**เป้าหมายหลักๆก็คงเพื่อตัวเองค่ะ เพราะแต่งงานแล้วก็คงต้องใช้ชีวิตที่นี่อีกนานใช่มั๊ยคะ พูดก็ไม่ได้ เขียน อ่านก็ไม่เป็น มันอึดอัดค่ะ จะไปไหนทำอะไรก็ไม่สะดวก เลยทำให้เบื่อ และท้อแท้ ในการใช้ชีวิตที่นี่ค่ะ
เอาเป็นว่าใจเย็น ๆ นะคะ ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ระหว่างที่คุณกำลังพัฒนาภาษาญี่ปุ่นอยู่ก็หางานอดิเรกที่สนใจทำสักอย่างสองอย่างควบคู่ไปได้จะได้ไม่เหงา ไม่เบื่อ รู้สึกสนุก แล้วอาการท้อแท้ในการใช้ชีวิตก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ ที่สำคัญจะได้มีเพื่อนคนญี่ปุ่นด้วย จะช่วยให้คุณพัฒนาภาษาญี่ปุ่นไปได้เร็วมากเลยค่ะ
**ว่าแต่การสมัครสอบวัดระดับนี่สมัครที่ไหนเหรอคะ
รายละเอียดการสมัครสอบ การซื้อใบสมัคร วันและเวลา อยู่ตามลิงค์นี้นะคะ http://info.jees-jlpt.jp/info/testguide.html
**ซื้อหนังสือเตรียมสอบที่ไหนคะ เป็นภาษาญี่ปุ่นหมดเลยเหรอคะ
หนังสือสำหรับเตรียมสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น 日本語能力試験(にほんごのうりょくしけん) หาซื้อได้ตามร้านหนังสือ(ใหญ่ ๆ หน่อยนะคะ) มีตั้งแต่ระดับ N1-N5 (มี 5 ระดับ N5 ง่ายที่สุดค่ะ) คุณกรรมกรสาวลัลล้า ลองไปเปิด ๆ ดูข้างในก่อนนะคะว่าตัวเองเหมาะกับการลงสอบระดับไหน เราแนะนำให้ลงสอบในระดับที่มากกว่าความสามารถของตัวเองหนึ่งระดับแล้วใช้ความต่างนั้นมาอ่านหนังสือเพื่อพัฒนาภาษาญี่ปุ่นของตัวเองให้ก้าวหน้าค่ะ เสร็จแล้วก็เลือกเล่มที่คิดว่าตัวเองชอบที่สุด คือแบบว่าอ่านแล้วรู้สึกว่าเข้าใจง่าย มีตัวอย่าง มีแบบฝึกหัด ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลค่ะ หนังสือส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นค่ะ แต่ภาษาญี่ปุ่นที่ใช้อธิบายเท่าที่เราอ่านมาก็เป็นภาษาที่เข้าใจง่ายคือเหมาะกับระดับที่เราเลือกน่ะค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าทั้ง ๆ ที่ยังไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นแล้วจะอ่านหนังสือเตรียมสอบเหล่านั้นไม่เข้าใจ แบบว่าถึงแม้ไม่เข้าใจแต่พออ่านตัวอย่างที่เค้ายกมาให้มันพอจินตนาการเอาได้น่ะค่ะ (ความเห็นส่วนตัวเรา)
หนังสือเตรียมสอบวัดระดับ ฯ ที่แปลเป็นภาษาไทยเราก็อ่านค่ะ ตอนเรามาอยู่ญี่ปุ่นเราซื้อหนังสือของ สสท ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูงเลยค่ะเอามาทั้งหมดใช้ไม่ใช้ไม่รู้แต่ยังไงเราคิดว่ามีติดตัวไว้อุ่นใจกว่า ก็ใช้เหล่านั้นแหล่ะค่ะอ่านรวม ๆ กันไป
ความรู้ที่จะใช้สอบวัดระดับนั้นมีทั้ง คันจิ, คำศัพท์, ไวยาการณ์, การอ่าน และการฟัง คุณกรรมกรสาวลัลล้าลองอ่านหนังสือไปสักครึ่งเล่มไม่ต้องรอจนถึงวันที่สอบหรอกค่ะ คุณจะรู้สึกเลยว่าภาษาญี่ปุ่นของคุณพัฒนาขึ้นมากเลย
ปัญหาของเราคือเราอ่านคันจิไม่ค่อยออก จะมานั่งเปิดดิกหาคำอ่าน คำแปลทุกตัว คงไปไม่ถึงไหนแน่ ในส่วนของการอ่านนั้น เราจะเอาไปเรียนกับอาสาสมัครค่ะ บอกเค้าไปค่ะว่าเราจะสอบวัดระดับ ฯ แล้วปัญหาของเราคืออะไร เซนเซเค้าก็จะช่วยอ่านคินจิทุกตัวที่เราอ่านไม่ออกให้ฟัง พร้อมทั้งสอนหลักการจำคันจิแบบง่าย ๆ ให้เราด้วยค่ะ
ส่วนพาร์ทอื่น ๆ นั้นเราเรียนด้วยตัวเองที่บ้านค่ะ มีเวลาอ่านหนังสือวันละ 1-2 ชั่วโมง ช่วงที่ลูกนอนกลางวันแค่นั้นค่ะ เราไม่พูดว่าเราไม่มีเวลาแต่เราเอาเวลาเท่าที่เรามีมาจัดสรรทำในสิ่งที่ต้องทำก่อนค่ะ
เราก็เป็นคนขี้เกียจคนนึงไม่ได้ขยันอะไรมากมาย ทุกครั้งที่เราจะหยุดอ่านหนังสือแค่วันละชั่วโมง จะด้วยเหตุผลประการใดของตัวเราก็ตามแต่ เราจะกลับมาถามตัวเองทุกครั้งว่าเราทำไปเพื่ออะไร ตอกย้ำตัวเองไม่ให้ลืมวัตถุประสงค์หลัก เดินไปบนเส้นทางที่เราได้เลือกเองต่อไป เราจะพยายามไม่คิดว่าเราต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ไปถึงเส้นชัยของเรา เพราะคิดแล้วมันเหนื่อยกว่าลงมือทำ แต่เราจะคิดล่วงหน้าไว้เลยว่าถ้าเราทำสำเร็จมีอะไรรอเราอยู่ มันช่วยให้เรามีกำลังกายและใจในการจะทำต่อไปมากกว่าค่ะ
ผลจากสิ่งที่เราได้พยายามมา เราสอบผ่านค่ะ เราดีใจตอนที่รู้ผลสอบ แต่วันที่เรารู้สึกเต็มอิ่ม ตื้นตัน ตัวลอย พองฟู คือวันที่เราสอบเสร็จค่ะ เราออกมาจากห้องสอบด้วยความรู้สึกเหล่านั้นเลย บอกสามีว่าเราไม่สนใจผลแต่เรารู้สึกว่าเราดีใจว่าที่ผ่านมาเราได้พยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว
เอาใจช่วยจริง ๆ นะคะ ขอให้โชคดี ฝันดีค่ะ
จากคุณ |
:
aechan1200s
|
เขียนเมื่อ |
:
3 มี.ค. 55 22:45:32
|
|
|
|
 |