ความคิดเห็นที่ 1 ตอนที่เขาถามว่า ถามพ่อแม่ทำงานอะไร มีญาติอยู่ที่อเมริกาเหรอ กลับมาจะทำอะไร ตอบไปว่าอะไรคะ เคยมีคนรู้จัก โดนถามว่ากลับมาจะทำอะไร ตอบไปว่ายังไม่แน่ใจ ก็โดนไม่ผ่านอ่ะ แต่คนนั้นเด็กปี 4 แล้ว เขาก็บอกเหมือนกันว่า สันนิษฐานว่าจะไม่กลับมาไทย ยิ่งคุณมีญาติสนิทอยู่ที่นู่นด้วย ยิ่งน่าสงสัยมากเข้าไปอีก จากคุณ : ตุ๊กตาดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 06:04:02

ความคิดเห็นที่ 2 เราว่าตกม้าตายตอนที่บอกเขาว่าจะไปอยู่บ้านญาติสนิทนี่ล่ะค่ะ จากคุณ : flymom เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 06:25:22

ความคิดเห็นที่ 3 ลูกคุณไปตอบเขาว่าอย่างไร ทำไมไม่บอกให้ละเอียด อยากได้คำแนะนำ ต้องจริงใจ ต้องบอกข้อมูลให้ละเอียด อย่าแอบ จากคุณ : valdez (tornnagin) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 08:48:47

ความคิดเห็นที่ 4 Self placement + พักกับญาติสนิท = ไม่ผ่าน เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ไม่ยาก ไปขออีกก็คงไม่ผ่าน ผมว่านะ จากคุณ : สามีนุ่่น เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 09:39:10 A:58.9.126.170 X: TicketID:324122

ความคิดเห็นที่ 5 พลาดตรงพักกับญาติสนิทนั่นแหล่ะค่ะ ขออีกก็คาดว่าจะไม่ผ่าน ถึงจะไปกรุงเทพก็เหอะ โกหกก็ไม่ได้ด้วย เสียดายไม่มาถามในนี้ก่อน ไม่รู้เปลี่ยนเป็นเช่าอยู่กับเพื่อนจะผ่านมั้ย ถ้ามีบันทึกไว้แล้วครั้งแรก ยาก จากคุณ : คนไทยต่างแดน เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 10:45:17 A:72.84.249.66 X: TicketID:306602

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับ 3 เล่าไม่ละเอียด ไม่เล่าเลยว่าตอบว่าอะไร เล่าแต่ถามว่าอะไร Sophisticated จริงๆ จริงๆมันก็พอมีทางอยู่แหละนะ ถ้าขอรอบ 2 อะ แต่จะตอบได้ ถ้ากรุณาเล่าให้ละเอียดว่าสัมภาษณ์ว่าอะไร การพูดความจริงอย่างตรงไปตรงมา เป็นคุณสมบัติที่จะทำให้ผ่านสัมภาษณ์วีซ่าเข้าอเมริกานะ ยังไง ถ้าจะไปสัมภาษณ์อีกก็ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 11:19:52

ความคิดเห็นที่ 7 work and travel ก็ต้องไปพักที่ ที่พักตามที่บริษัทที่จ้างงานเค้ากำหนดให้อะค่ะ ไม่มีสิทธิไปพักบ้านญาติ ญาติก็ทำงานของเค้าไป ไม่เกี่ยวกัน ถ้าเค้าถามว่าญาติคุณทำงานอะไร แล้วเค้าทำร้านอาหารล่ะคะ -- น้องไม่ผ่านวีซ่าแน่ๆค่ะ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 11:24:07

ความคิดเห็นที่ 8 ขอโทษที่เล่าไม่ละเอียดค่ะ เพราะมุมมองที่คิดก็คือ อาชีพของพ่อแม่ ไม่น่าจะทำให้ถูกปฏิเสธ และคำถามเหล่านี้ มันน้อยเกินไปที่จะสรุปว่า จะหนีวีซ่า 1. พ่อแม่ทำอาชีพอะไร ก็พื้นๆ แม่เป็นเจ้าของธุรกิจสปา พ่อเป็นเซลขายเครื่องปั้มน้ำ 2. กลับมาแล้วจะทำอะไร ก็ตอบว่ากลับมาเรียนต่อ (อยู่ปี 3) 3. ธุรกิจสปาของแม่ใหญ่มั้ย ตอบว่า เล็กๆ (แต่คำตอบของลูก ไม่อธิบายชัดเจนว่า คำว่าเล็กๆ คือยังไง เทียบกับอะไร จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เล็กๆ มาก เพราะในจังหวัด สปาของแม่ก็เป็นที่รู้จักกันกว้างขวาง เปิดมาปีที่ 7 มีห้องให้บริการ 8 ห้อง และห้องโถงใหญ่อีก 1 ห้อง แต่ที่เค้าไม่อธิบาย เพราะคงคิดว่า ถามอะไรมาก็คงตอบแค่นั้น) 4. มีญาติอยู่ที่โน่นใช่มั้ย ตอบว่า ใช่ (ก็ตอบไปตามตรง ไม่โกหกอยู่แล้ว) ถ้าเลือกได้ จะให้กลับไปตอบใหม่ ชี้แจงให้หมด 1. แม่มีวีซ่าเข้าอเมริกาสิบปี เคยมี green card ตอนนี้แม่เป็น single mom พ่อไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดู ถามอาชีพพ่อมา ก็ไม่ได้ถามต่อว่า พ่อแม่อยู่ด้วยกันมั้ย มันไม่เกี่ยวกับลูกที่จะขอวีซ่าแต่พ่อไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว (อันเนี่ย คิดว่า คนสัมภาษณ์ ถามไม่ละเอียด และสรุปเร็วเกินไป) 2. ใช้ Self Placement เพราะมีเหตุผล คือ งานที่ agency มีให้เลือก ไม่ตรงกับที่อยากทำ และต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องที่พัก การไปอยู่กับญาติ ก็แสดงความโปร่งใส ให้ที่อยู่ญาติได้ และที่อยากให้ไปอยู่กับญาติ ก็เพราะ เราเหลือพี่น้องกันสองสามคน ต้องการให้รู้จักกัน ติดต่อกัน ไม่ขาดหาย หลานกับน้า (น้องสาวของแม่) การไปเช่าอพาร์ทเม้นท์ เอาเข้าจริงๆ ถ้าจะโรบินฮู้ด การเช่าอพาร์ทเม้นท์น่าจะหาตัวยากกว่า จะ self หรือ full ถ้าจะโดดจริงๆ ก็ทำได้ทั้งนั้น เพราะฉนั้น การทำ self จริงๆ ก็ไม่น่าจะเกี่ยว 3. กลับมาเรียนต่อ อันนี้น่าจะตอบว่า "ผมยังอยู่ปี 3 ผมต้องกลับมาเรียนต่อให้จบครับ การศึกษามีผลกับชีวิตของผมมาก แม่ผมหวังไว้ว่า ว่าผมต้องเรียนให้จบ" แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 12:17:34 จากคุณ : คนเป็นแม่ (Sophisticated) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 11:58:17

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนนี้เลยบอกให้น้องสาวทำจดหมายมา เล่าให้หมดว่า ชื่ออะไร ทำงานอะไร บ้านอยู่ไหน มีทรัพย์สินอะไรบ้าง และขอยืนยันว่า การที่ให้หลานมาอยู่ด้วย ในโครงการ work and travel ก็ขอให้มั่นใจได้ว่า หลานจะต้องกลับเมืองไทยแน่นอน เพราะเขายังต้องเรียนอีก 1 ปี กว่าจะจบปริญญาตรี ที่อยู่ทุกอย่างที่รัฐบาลจะตรวจสอบได้ ส่วนแม่ก็จะทำจดหมายอีก หนึ่งฉบับ ชี้แจงว่า การศึกษาของลูกเป็นสิ่งสำคัญ การที่จะต้องกลับมาเรียนต่อให้จบ เป็นเรื่องที่จำเป็นมากสำหรับลูกชาย (อันนี้เป็นเหตุผลที่จะให้ tie กับการกลับเมืองไทยได้อย่างเดียวจริงๆ เพราะ ลูกชายก็ยังไม่ไม่ได้มีหนี้สิน ทรัพย์สินอะไร เพราะเรียนอยู่ หรือจะบอกว่าแม่มีลูกคนเดียว ยังไงลูกชายก็ต้องกลับมาหาแม่ มันก็ไม่ make sense เนาะ) ส่วนการไปแบบ self placement มีเหตุผล ดังนี้ ด้านการทำงาน: ลูกเรียนด้านอาหาร อยากทำงานเกี่ยวกับอาหาร ที่ไม่ใช่ fast food แต่ที่ดูของ Agency มันมีแต่ Fast food ด้านที่พักอาศัย: ต้องการให้ลูกประหยัดค่าใช้จ่ายและต้องการให้หลานกับน้า ติดต่อกันบ้างเพราะเราเหลือญาติพี่น้องไม่กี่คน น่าจะมีอะไรเพิ่มเติมกว่านี้อีกมั้ยค่ะ เพราะตอนนี้ก็จะพยายามให้ถึงที่สุด ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ถือว่า ซวยจริงๆ ตอนนี้ลูกชายก็เริ่มทำใจแล้วว่า มันไม่ใช่ที่สุดของชีวิต ถ้าไม่ได้ไปจริงๆ ก็จะลงซัมเมอร์ให้จบเร็ว ๆ เพราะตั้งใจจะเรียนให้จบสามปีครึ่ง แต่พอมีโอกาสไป work ก็คิดว่า ประสบการณ์ตรงนั้นน่าจะได้รับบ้าง ทั้งๆ ที่ ปีหนึ่งปีสอง ก็ไม่ได้คิด พอตอนปีสาม เพื่อนสนิทของเค้ามาชวน ก็เลยอยากไปบ้าง ถ้าคิดจะโรบินฮู้ดและวางแผนมาตลอด คงไปตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วแหละ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 12:20:36 แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 12:15:02 จากคุณ : คนเป็นแม่ (Sophisticated) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 12:11:04

ความคิดเห็นที่ 10 เอ่อ...(ความเห็นส่วนตัวค่ะ) ไม่ค่อยได้เข้ามาพันทิป จนกว่าจะเกิดความกังวลใจและสงสัยเรื่องอะไรสักอย่างถึงต้อง search หาคำตอบและคำแนะนำ อ่านมาหลายที่ ก็เลยรู้ว่า การมา post อะไรในนี้ มีคำตอบและคำแนะนำ มากมาย หลายคนเสียสละเวลามาอ่าน มาให้ความเห็น มาแนะนำ มาให้กำลังใจ ก็ขอขอบคุณมากเลยค่ะ  แต่ที่ได้เห็นและอ่าน ในหลายกระทู้ ก็มีทั้งที่พูดดี และไม่ดี มีตำหนิกันด้วย (ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน ไม่รู้นิสัยกัน) แถมยังเถียงกัน โต้กันไปมาไม่มีจบสิ้นเพียงแค่จะเอาชนะกัน หรือเพียงแค่อยากให้คนอื่น ยอมรับในความเห็นของตัวเอง อันนี้ก็นานาจิตตังเนาะ ต่อไปจะ post อะไร ต้องอ่านแล้วอ่านอีก ทวนแล้วทวนอีก ต้องมั่นใจว่า ข้อความที่ post จะไม่ไปจี้ต่อมรำคาญของใคร ต้องทำให้เป็นมืออาชีพ (ไม่งั้นจะโดนคนมืออาชีพทั้งหลาย ใส่มาไม่ยั้ง ฮ่าๆ ขำอะ) แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 12:30:47 จากคุณ : ประเทศไทย เปิดกว้างเสมอ (Sophisticated) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 12:29:58

ความคิดเห็นที่ 11 2. ใช้ Self Placement เพราะมีเหตุผล คือ งานที่ agency มีให้เลือก ไม่ตรงกับที่อยากทำ-- ต้องตรงกับที่อยากทำอะค่ะ และต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องที่พัก -- ทำให้เหมือนๆคนอื่นๆดีกว่าค่ะ การไปอยู่กับญาติ ก็แสดงความโปร่งใส ให้ที่อยู่ญาติได้ -- เค้าถามมั๊ยคะ ว่าญาติทำงานอะไร คือtypical ของเด็กไปเวิร์ค เค้าไม่ทำงี้กันอะค่ะ(ไปพักบ้านญาติ) พยายามตอบความจริงที่เหมือนๆเด็กที่เค้าสัมภาษณ์ผ่านแล้วได้ไปอะค่ะ และที่อยากให้ไปอยู่กับญาติ ก็เพราะ เราเหลือพี่น้องกันสองสามคน ต้องการให้รู้จักกัน ติดต่อกัน ไม่ขาดหาย -- ไปเยี่ยมได้ค่ะ การไปเช่าอพาร์ทเม้นท์ -- เช่าไม่ได้ค่ะ มันต้องเซ็นสัญญาเช่า ใช้หลักฐานและเช็คมากมาย เอาเข้าจริงๆ ถ้าจะโรบินฮู้ด การเช่าอพาร์ทเม้นท์น่าจะหาตัวยากกว่า จะ self หรือ full ถ้าจะโดดจริงๆ ก็ทำได้ทั้งนั้น เพราะฉนั้น การทำ self จริงๆ ก็ไม่น่าจะเกี่ยว -- เพิ่งเคยได้ยินเนี่ยค่ะ 3. กลับมาเรียนต่อ อันนี้น่าจะตอบว่า "ผมยังอยู่ปี 3 ผมต้องกลับมาเรียนต่อให้จบครับ การศึกษามีผลกับชีวิตของผมมาก แม่ผมหวังไว้ว่า ว่าผมต้องเรียนให้จบ"  -- บอกเค้าว่าปริญญาสำคัญกว่าการไปเวิร์คแค่ไม่กี่เดือน ไปเวิร์คเป็นแค่ประสบการณ์แต่ปริญญามันคือชีวิต มั๊ง เดาเอานะ ไม่รู้น้องจะคิดงี้ปล่าว เรียนมาเป็นสิบๆปี ไม่คุ้มที่จะมาเสี่ยงไม่จบ ไม่ได้ปริญญา ไม่รู้นะ เราก็เกือบไม่จบเหมือนกัน บอกให้น้องสาวทำจดหมายมา -- ยังจะคิดให้น้องสาวทำจดหมายมาอีกหรอคะ ตัดขาดกันไปเลย ไปเยี่ยมก็พอ ส่วนแม่ก็จะทำจดหมายอีก หนึ่งฉบับ  -- ไม่ต้องหรอกค่ะ เอาเวลาไปติวลูกชายสัมภาษณ์พอ ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ต้องมา ด้านการทำงาน: ลูกเรียนด้านอาหาร -- จะไม่ผ่านก็ตรงนี้ล่ะค่ะ บางคนเอามีดทำครัวมาด้วย ก็กองไว้ตรงนั้นเลยค่ะ อยากทำงานเกี่ยวกับอาหาร -- เอ้อ อย่าเลือกมากเลยค่ะ ไว้มารอบ 2 ค่อยเลือกเนาะ จะผ่านวีซ่ารอบ 2 รึเปล่ายังไม่รู้เลย ยากขึ้นด้วย ภาษาอังกฤษก็ไม่รู้เก่งรึเปล่า ตัวอย่างเด็กที่มาถามในห้องไกลบ้านเยอะแยะ เอาเวลามานั่งอ่านก่อนดีมั๊ย อ่านไปกี่กระทู้แล้วล่ะ เราไม่ได้ไปเวิร์ค เรายังรู้เรื่องกับเค้าเลย ที่ดูของ Agency มันมีแต่ Fast food -- เอาไว้กลับเมืองไทย ไปสัมภาษณ์กับริทซ์อีกทีมั๊ย ที่ชั่วโมงละ 15 เหรียญ ที่เค้าโฆษณาบนๆ ห้องไกลบ้านน่ะ average เด็กที่มา ก็ทำงานแมคโดนัลด์กัน ไม่ก็สวนสนุก หรือร้านอาหารอื่นๆ หรือทำโรงแรม บางทีก็โดนตัดตาราง ชั่วโมงทำงานหรือ ลำบากมากๆ ก็มี ที่มาแล้วได้เพิ่มตาราง ได้ตารางเพิ่ม ได้เก็บเงิน ก็พอมี มีแต่ฟาสท์ฟู้ดแต่อยากทำงานอย่างอื่น คนเมกันเองตกงานเยอะนะ  คนที่ไปสมัครฟาสท์ฟู้ด เค้าไม่รับก็มี วัตถุประสงค์ที่น้องอยากมาคืออะไรคะ เอาประสบการณ์หรอ หรือมาสมัครงาน คนที่มาตอบ เค้าอยู่เมืองนอกกัน เค้าก็พูดกันอย่างนี้ ปกติค่ะ ช่วยกันวิเคราะห์ที่อ่านๆมา ไม่เห็นมีใครจิกกัดแขวะใครให้เสียเวลาหรอกค่ะ มีแต่จะเสียสละเวลามาช่วยคุณวิเคราะห์ปัญหาและหาทางแก้ หาทางช่วยอะนะ  คุณน่าจะขอบคุณเค้ามากกว่านะ มาช่วยให้ลูกคุณได้วีซ่าเนี่ย เราก็พูดตรงๆอะนะ ทั้งหมดอะ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 12:58:46 จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 12:56:20

ความคิดเห็นที่ 12 คำแนะนำอันนี้ดีมากค่ะ ขอบคุณค่ะ 3. กลับมาเรียนต่อ อันนี้น่าจะตอบว่า "ผมยังอยู่ปี 3 ผมต้องกลับมาเรียนต่อให้จบครับ การศึกษามีผลกับชีวิตของผมมาก แม่ผมหวังไว้ว่า ว่าผมต้องเรียนให้จบ"  -- บอกเค้าว่าปริญญาสำคัญกว่าการไปเวิร์คแค่ไม่กี่เดือน ไปเวิร์คเป็นแค่ประสบการณ์แต่ปริญญามันคือชีวิต มั๊ง เดาเอานะ ไม่รู้น้องจะคิดงี้ปล่าว เรียนมาเป็นสิบๆปี ไม่คุ้มที่จะมาเสี่ยงไม่จบ ไม่ได้ปริญญา ไม่รู้นะ เราก็เกือบไม่จบเหมือนกัน จากคุณ : คนเป็นแม่ (Sophisticated) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 13:07:18

ความคิดเห็นที่ 13 สรุป 1. ทำตามวัตถุประสงค์ของโครงการเวิร์ค ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของคุณแม่อะค่ะ ซึ่งวัตถุประสงค์ของคุณลูกต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการและ ยอมรับและปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของโครงการด้วยอะค่ะ 2. อ่านกระทู้เก่าๆเยอะๆอะค่ะ ทั้งของเด็กเวิร์ค และวีซ่าท่องเที่ยว ทั้งแบบผ่านและไม่ผ่านอะค่ะ (วีซ่าคู่หมั้น วีซ่านักเรียน หรือวีซ่าทำงานH1อะไรพวกนี้ไม่ต้องไปอ่าน) เสียสละเวลาซัก 2 - 3 ชม. ต่ำๆอะค่ะ แค่อ่านและทำความเข้าใจ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามค่ะ สงสัยถามได้ แต่ไม่รู้จะตอบได้ปล่าว หรืออาจมีท่านอื่นๆ ช่วยตอบให้อะค่ะ โชคดีนะคะ :)) แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 13:33:06 แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 55 13:31:56 จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 13:20:28

ความคิดเห็นที่ 14 คุณแม่ใจเย็นๆค่ะ รอบแรกน้องอาจจะตอบสั้นๆ ห้วนๆไปนิดนึงค่ะ มันก็เลยดูมีแนวโน้มว่าน้องจะไม่กลับมาเรียนต่อ ยิ่งน้องเรียนด้านอาหาร แล้วอยากไปทำงานครัว แถมมีญาติอยู่ด้วย มันเลยทำให้ไม่ผ่าค่ะ เราเองก็คิดคล้ายๆคุณ lovelypriest เหมือนกันค่ะ เด็กเวิร์ค ก็ไปทำงานหาเงินเที่ยว หากำไรชีวิต ถ้าอยากจะจัดเต็มให้เข้าวัตถุประสงค์ตัวเองเป๊ะๆ แนะนำค่ะ ว่าให้ไปโครงการ internship ดีกว่าค่ะ เคยเห็นทีคาสิโน เด็กเกาหลี ฟินแลนด์ มาทำครัวกันตลอดค่ะ ปีนึงเต็มๆเลย โชคดีค่ะ จากคุณ : ตุ๊กตาดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 15:22:28

ความคิดเห็นที่ 15 กลุ้มใจมาหลายวัน วันนี้ ตัดสินใจซะทีค่ะ ว่า ตกลงไม่ไปแล้วก็ได้ หลังจากอ่านกระทู้จนตาลาย หลังจากคุยโทรศัพท์กับเจ้าของบริษัทส่งนักเรียนไปเรียนต่อเมืองนอก ก็พอจะมั่นใจได้ว่า การสัมภาษณ์รอบสอง คงไม่ผ่านอีกแน่นอน เหตุผลหลักคือ "มีญาติอยู่อเมริกาทำให้มีโอกาสจะไม่กลับเมืองไทย" สามารถสันนิษฐานได้ตามข้อสรุปของ 214 (b) ลูกชายหายเสียใจแล้ว และคิดว่า ทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์ในช่วงปิดเทอมนี้ก็ได้ เลยตัดสินใจไปทำเรื่องฝึกงานที่โรงแรม เพราะอาจารย์ก็เห็นด้วย และยังทำเรื่องฝึกงานทันอยู่ ขอบคุณทุกๆ ความเห็น ทุกๆ กำลังใจ ทุกๆ คนที่เสียเวลามาอ่าน มาช่วยตอบ มาให้คำแนะนำนะคะ เมืองไทย มีคนดี และน่ารักอีกมากมาย ประสบการณ์ดีๆ หาได้ที่เมืองไทย ขอบคุณที่เกิดเป็นคนไทยและมีคนไทยที่ไม่รู้จักกัน มาช่วยให้คำแนะนำแบบนี้ ก็มีความสุขแล้วค่ะ จากคุณ : คนเป็นแม่ (Sophisticated) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 16:09:33

ความคิดเห็นที่ 16 คุณตัดสินใจถูกต้องแล้วครับที่ไม่ไปโครงการนี้ เพราะจุดประสงค์ของคุณกับของโครงการขัดแย้งกันชัดเจน จุดประสงค์ของโครงคือให้เด็กไปเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานแบบ unskilled ในสหรัฐฯ แต่จุดประสงค์ของคุณกลับให้เขาไปทำงานฝึกฝน skill ที่เขาร่ำเรียนมา ซึ่งมันไม่ตรงเลย รอไปเป็น intern หรือไปเป็น trainee จะมีโอกาสดีกว่าเยอะครับ ผมว่าเรื่องมีญาติไม่ได้สำคัญขนาดทำให้โดนปฏิเสธวีซ่า แต่การไปพักกับญาติ มันผิดจุดประสงค์ที่ต้องการให้เด็กรู้จักดิ้นรนต่อสู้ชีวิตด้วยตัวเองของโครงการนี้ครับ จากคุณ : สามีนุ่่น เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 17:55:46 A:61.90.101.153 X: TicketID:324122

ความคิดเห็นที่ 17 ไหนว่า น้องเตรียมตัวหาข้อมูลมาหลายเดือนไงคะ ถ้าเตรียมตัวจริงต้องรู้เทคนิคนะคะ ไม่ให้อ้างว่ามีเพื่อน มีแฟน มีญาติอยู่ทางโน้นค่ะ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความจริงค่ะ ก็ไม่ต้องอ้าง อันนี้้ต้องโกหกนิดหนึ่งนะคะ คุณก็มองแต่ในมุมของคุณคนเดียว แต่ท่านกงสุล เขามีเคสหลายร้อยพัน เพื่อนเรา เรียนปี 2 ไป อเมริกา ยังไม่กลับมาเรียนต่อเลย กลับมาลาออกเลย หลังจากขาดหายไป (หรือสถานะโดนตัดไปเลยนี่แหละ ลืมไปแล้ว) และก็ไปเรียนใหม่ที่โน่นเลย  และก็จะไป WT แต่จะไปพักบ้านญาติ นี่ก็เหตุผลมันขัดกันมาก ๆ เลยอะค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นความจริงก็เหอะ จากคุณ : Freedom of Life เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 55 22:02:46

ความคิดเห็นที่ 18 ไปขอหนังสือรับรองจากสถานศึกษาว่ายังไม่จบ-ต้องกลับมาเรียนปี 4 ต่อ ก้อแสดงว่าจะกลับออกมาเมืองไทย ไม่น่ามีปัญหานะครับ ทำงานกับญาติที่ร้านอาหารก้อไม่แปลกครับ มีเด็กขอมา Work & Travel ติดต่อกัน 3 summer ก้อมาสามปีตลอดนะครับ จากคุณ : Nine Cats เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 04:30:39

ความคิดเห็นที่ 19 การสัมภาษ์วีซ่าอเมริกา อยู่ตรงที่การตอบคำถามครับ มีญาติ มีคนรู้จัก ที่  US  แบบถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง เปอร์เซนต์ก็ไม่ผ่านค่อนข้างเยอะแล้วครับ ของเราเพิ่งสัมภาษณ์วัน ศุกร์ที่ 2 มีนาคม มีพี่สาวเป็นซิตี่เซ่น ใน Ds 160 เราก็กรอกไปว่าไม่มีคนรู้จัก เราก็สัมภาษณ์ผ่านครับ จากคุณ : Kapongpang_online (kapongpang_online) เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 11:15:34

ความคิดเห็นที่ 20 บางที บางเรื่องหรือว่าหลักฐานบางอย่าง เราไม่จำเป็นต้องพูดหรือแสดงให้เค้าเห็นน่ะ ประมาณว่าถ้าเค้าไม่ถามหรือขอดู ก็ไม่ต้องไปตอบเค้า(ถามคำตอบคำ ห้ามตอบเกินคำถาม) หรือยื่นหลักฐานให้เค้า เพราะมันอาจจะนำพาให้เราไม่ได้วีซ่า เทคนิคคือว่า ถ้าคิดจะโกหกต้องเอาให้เนียนครับ ให้ตรงกับหลักฐานหรืออะไรต่างๆ ที่เราเตรียมไป หรือที่ต้องแสดงให้เค้าดู ผมเองก็เลือกที่จะไม่พูด หรือแสดงหลักฐานบางอย่าง เพราะผมคิดดูแล้วว่า มันจะทำให้ผมไม่ได้วีซ่า จากคุณ : biollante เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 15:00:37

ความคิดเห็นที่ 21 อยากให้คองเกรสแบนโครงการทำงาน+เที่ยวๆนี้ออกไปสักที มันเป็นโครงการสร้างความใฝ่ฝันลมๆแล้งให้กับเยาวชน แล้วก็ไปสร้างความร่ำรวยให้กับเอเย่นทั้งในไทยและเมกา ขณะเดียวกันผู้คนในเมกายังตกงานกันโครมๆ เดินทางหาแทบทุกชนิดกันขาขวิด May Congress mercy to homeland residents. จากคุณ : Rapier เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 07:15:41

ความคิดเห็นที่ 22 น้อยคนนักครับที่วีซ่าไปเวิร์กจะไม่ผ่าน , ถึงยังไงก็ไม่ควรไปบอกเขาครับว่ามีญาติอยู่ที่โน้น ถึงจะมีก็ตามทีครับ , ขอใหม่ครับครบ สู้ๆ จากคุณ : ป่านปั๊น เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 15:10:10

ความคิดเห็นที่ 23 เคยโดนปฏิเสธวีซ่าเหมือนกัน ทั้งๆที่ ก่อนหน้านั้นได้วีซ่าอเมริกา เข้าออกอเมริกามาแล้ว 2 รอบ คือ ไปเรียน summer ครั้งนึง และไปเรียนป.โท 2 ปีครั้งนึง พอกลับมาไทยซักพัก ก็จะกลับไปเที่ยวเมกาอีก กะว่าจะไปสักอาทิตย์นึง  จะไปกับน้องซึ่งไม่เคยไปเมกาเลย น้องทำงานที่บ้าน บอกเค้าว่าทำธุรกิจส่วนตัว ส่วนของเราตอนนั้นทำงานองค์กรใหญ่โตมั่นคง ปรากฎว่าน้องผ่าน เราไม่ผ่าน เหอๆ ขอเหตุผลว่าทำไมเราไม่ผ่าน ทั้งๆที่เราก็ statement ครบ การงานดี มีประวัติเข้าออกเมกา เค้าบอกว่า แพง อย่าไปเลย งงเลย เกี่ยวอะไรด้วย เรามีเงินไปตั้งหลายครั้ง จะไปอีกสักครั้งจะเป็นไร เค้าก็ได้แต่บอกแค่นี้ ไม่ให้เหตุผลอื่นเลย เซ็งจริงๆ จากคุณ : Snow_flurry เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 18:11:05