สวัสดีค่ะ
วันนี้จะมาเล่าเรื่องการเตรียมเอกสารนะคะ ขอเท้าความก่อนค่ะว่าเมย์เคยถูกปฏิเสธวีซ่าสวิสเมื่อตอนที่ขอไปเยี่ยมแฟนครั้งแรก ครั้งนั้นให้แฟนการันตีให้ด้วย ซึ่งตอนนั้นเมย์ไม่คิดว่าตัวเองจะถูกปฏิเสธวีซ่าเพราะมีวีซ่าอเมริกาสิบปีและเคยเดินทางไปประเทศต่างๆมาแล้วหลายประเทศ แต่ก็ยื่นอุทธรณ์ผ่านค่ะ ตอนนั้นเอกสารเตรียมตามที่สถานทูตขอเลยค่ะ เพราะคิดไปเองว่าถ้าขาดเหลืออะไรเค้าคงขอเพิ่ม ปรากฏว่าคิดผิดค่ะ นอกจากจะไม่ติดต่อมาเเล้วยังปฏิเสธคำร้องเมย์ด้วย
หลังจากนั้นเมย์ขอวีซ่าเยี่ยมโดยยื่นสเตทเม้นต์ตัวเอง สองครั้ง ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ได้วีซ่าทั้งสองครั้ง แต่ทั้งสองครั้งที่ผ่านมาเมย์ไประยะเวลาสั้นๆ ประมาณครั้งละหนึ่งเดือน และเป็นการลางานไปค่ะ มีเอกสารจากบริษัทรับรอง
แต่ครั้งนี้เมย์ขอหลังจากที่ลาออกจากงานแล้วและให้เหตุผลเค้าด้วยนะคะว่าลาออกเพราะจะไปเยี่ยมแฟน อิอิ
เมย์ขอไป 87 วันค่ะ เค้าก็ให้มาเป๊ะตามที่ขอเลย (เฮี๊๊ยบมาาาาาาาก)
แต่เมย์จัดเต็มเพราะเข็ดละประเภททีคิดว่าเดี๋ยวเค้าขอเอกสารเพิ่มเองเนี่ยะ
เมย์ยื่นเอกสารดังนี้
- ประกันการเดินทางครอบคลุมตลอดการเดินทาง
- ใบจองตั๋วเครื่องบิน (ยังไม่ต้องออกตั๋วจนกว่าจะได้วีซ่านะคะ)
- รูปถ่าย
- หนังสือเดินทางตัวจริง พร้อมสำเนา
- สมุดบัญชีธนาคารตัวจริง พร้อมสำเนา
- สำเนาสลิปเงินเดือน พร้อมใบเสร็จการเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล (ภงด.91)
- จดหมายถึงสถานทูต เมย์อธิบายเหตุผลของการขอวีซ่าคือไปเยี่ยมแฟน และแจ้งเค้าว่าเคยไปมาเเล้วกี่ครั้งเมื่อไรบ้าง และแจ้งว่าตอนนี้ลาออกจากงานเเล้ว เพื่อเตรียมตัวสอบ(แนบตารางสอบ, ปฏิทินการศึกษา, หนังสือรับรองจากมหาลัย พร้อมทรานสคริปและใบเสร็จรับเงินการลงทะเบียนเรียน เพราะหน่วยกิตที่เมย์โอนมันยังไม่เข้าระบบ) และไปเยี่ยมแฟน แต่เมย์ยังทำงานพาร์ทไทม์ให้บริษัทเก่าอยู่ และเมื่อกลับมาเมย์จะต้องเตรียมงานโปรเจคใหม่ให้บริษัท.....(ใส่ที่อยู่ และบุคคลอ้างอิง) เมย์แจ้งด้วยว่าถ้าเป็นไปได้เมย์จะลงเรียนภาษาเยอรมันที่ Migros Klubchule สาขาใกล้บ้าน พร้อมแนบตารางเรียนภาษาเยอรมันขั้นพื้นฐาน (เมย์อีเมลไปขอที่โรงเรียนมา) เมย์แจ้งในจดหมายว่าเมย์จะยืนยันการสมัครพร้อมจ่ายเงินหลังจากทราบผลวีซ่าเเล้ว
- จดหมายเชิญภาษาราชการของสวิส (เมย์ใช้เยอรมัน) ระบุวันที่จะไปพร้อมทั้งยืนยันการวางเงินการันตีจำนวน สามหมื่นฟรังค์สวิส (เมย์ให้แฟนเขียนบอกไปเลยว่าปีนี้เค้าเรียนหนักเเละเพิ่งจะได้เลื่อนตำแหน่งงานเลยไม่สามารถเดินทางมาเมืองไทยได้ จึงขอเชิญเราไปเยี่ยมที่นั่นแทน พร้อมแจ้งว่าเมย์เคยไปที่นั้นเเล้วกี่ครั้ง เมื่อไรบ้าง และทุกครั้งเดินทางกลับตามกำหนดวีซ่า)
- สเตทเมนต์แฟน (อันนี้สถานทูตเค้าไม่ได้ขอ แต่อยากสะเออะให้เอง อิอิ เถียงกันกะคุณชายแทบตายกว่าจะยอมคายสเตทเม้นต์มาให้ คราวนี้แหละเม้มชั้นไม่ได้หรอก เอ้ยยยย ไม่ช่ายยยยยยยยย)
- พาสปอร์ตแฟน
- ค่าวีซ่า 2,500 บาท
แล้วก็ไปยื่นเอกสารตามวันที่ได้นัดหมายกับ ไว้
แต่เมย์ก็ดันมีเรื่องจนได้ เพราะดันปรินท์ใบประกันการเดินทางผิดใบค่ะ ปรินท์อันเก่าไป โชคดีเห็นก่อนเข้าไปสัมภาษณ์ ถ้าไม่เห็นก็คงไม่รู้ว่าปรินท์ผิด จนท.เลยให้ส่งแฟ็กส์ไปให้ภายในบ่ายวันนั้น แต่กลัวเค้าไม่ได้รับเลยส่งเมลตามไปด้วย (เพิ่งจะไปตอบกระทู้เรื่องส่งเอกสารเพิ่มเติม http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11830283/E11830283.html ไม่กี่วันก่อนยื่น เหมือนเป็นลางยังไงไม่รู้ ไอ้ที่ตอบๆไปดันได้ใช้เอง)
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้ใบนัดรับคำตัดสินและหนังสือเดินทาง
วันนี้ไปรับผลมาแล้วค่ะ ได้ซองขาวๆมาก็เปิดดู เอ๊ะทำไมเราไม่ได้ใบการันตี คิดในใจเอ๊ะ..หรือว่าชั้นโดนปฏิเสธวีซ่าอีกแล้ว ขณะเดียวกันหน้าก็คงซีดมาก เพราะเมย์รู้สึกว่าเลือดที่หน้ามันไหลลงเท้าไปหมดเเล้วอ่ะ พี่การ์ดเค้าก็บอกว่าตรวจเช็คเอกสารดีๆนะครับ เช็คให้ละเอียดว่าได้เอกสารครบไหม เลยค่อยๆเปิดหนังสือเดินทางดูปรากฏว่าเค้าออกวีซ่าให้เลยค่ะ ไม่ต้องทำเรื่องการันตีอีกครั้ง
เมย์ไม่ขอยืนยันนะคะว่าทำไมเมย์ถึงไม่ต้องยื่นเอกสารการการันตีอีก เมย์คิดเอาเอง(อีกแล้ว)ว่าน่าจะเป็นเพราะว่าเค้ามีความเชื่อมั่นว่าเมย์จะไม่หนีวีซ่า หรือเพราะว่าเค้ากลัวว่าเมย์จะได้วีซ่าไม่ทันเปิดเทอม หรืออาจจะเป็นเพราะว่าแฟนเคยการันตีให้เเล้วเลยไม่ต้องทำเรื่องอีก
การยื่นวีซ่าครั้งนี้เมย์ยื่นกับจนท.ช่องสองค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร เค้าพูดกับเมย์สุภาพดีค่ะ ไม่โหด แต่ทั้งนี้เมย์ก็แต่งกายและพูดจาให้เกียรติบุคคลและสถานที่ด้วยนะคะ บางคนแต่งกายแบบว่าจะไปเดินชายหาดน่ะค่ะ เสื้อเกาะอก กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ เมย์ว่าเค้าอาจจะไม่พูด แต่เค้าคิดแน่นอนค่ะ เมย์ยังคิดเลยว่าแต่งมาได้ยังไง
วันนี้ขอจบแค่นี้ค่ะ
โชคดีนะคะ
เมย์
ปล. เรื่องสเตทเมนต์ถ้าขอแล้วแฟนไม่ให้ไม่ต้องไปเหวี่ยงเค้านะคะ เพราะแฟนก็คือแฟน ตราบใดที่เค้ายังไม่ใช่สามี หรือภรรยาคุณเค้ามีสิทธิอันชอบธรรมที่จะเก็บไว้เป็นความลับค่ะ ห้ามเอาเมย์ไปอ้างเด็ดขาดว่าแนบแล้วได้วีซ่า ทุกอย่างเป็นวิจารณญาณส่วนบุคคลของเมย์เอง