|
27 กุมภา พอเรากรอกข้อมูลเสร็จ ก็เตรียมใจสวดมนต์ก่อนกด submit form แต่แล้วเราก็ต้องตกตะลึงพรึง เพริด (เหอะๆ เว่อร์ตลอด) เมื่อเปิดมาแล้วพบว่า ตารางวันนัดสัมภาษณ์ มันเขียวปี๋ยาวเหยียด วันว่างเหลือเฟือ มกจ๊ก มากๆ
จากที่อ่านประสบการณ์ของเพื่อนบ้านมา ทำให้รู้ว่าควรจะเลือกรอบที่เช้าที่สุด เราเลยยอมเลือกรอบแรก (7 โมงเช้า) ของวันอังคารที่ 6 มีนา ที่จะมาต่อแถวแต่เช้าตรู่ โดยเค้าเขียนไว้ว่าต้องมาถึงก่อนอย่างน้อยครึ่งชม. เป็นอันว่าประสบการณ์ในการจองวันนัดของเรา นับเป็นแค่ 1 click จิ๊บๆ ที่เปิดปุ๊ปเขียวปั๊บ จองทันที เรียบร้อยรวดเดียว เสียวสั้นๆ .. ยากซะทีไหน
ขั้นตอนต่อไป นั่นคือ เตรียมทุกสิ่งอย่างให้เรียบร้อยก่อนจะถึงวันนัดสัมภาษณ์จริง 1. ไปไปรษณีย์เพื่อจ่ายเงินค่าทำวีซ่า 4000 กว่าบาท และอันนี้สำคัญมากต้องเก็บใบเสร็จรับเงินที่มีชื่อเราที่ตรงกับpassportไว้ให้ดี เพราะต้องใช้ในวันที่ไปสัมภาษณ์ด้วย 2. ไปธนาคาร ไปอัพสมุดบัญชีให้ดูดีประมาณนึง เผื่อว่าเค้าจะขอดูว่ามีตังค์แค่ไหน 3. ขอเอกสารรับรองงานเพื่อเป็นใบเบิกทางที่ดีตอนที่ไปสัมภาษณ์ เรียกว่าเป็น ใบผ่านทางขั้นเทพ ที่จะทำให้เราบินฉลุยได้อย่างง่ายๆ 4. เก็บรักษาpassport , ใบ confirmation, หน้าแรกของ DS-160, สมุดบัญชี , ทะเบียนบ้านตัวจริง, ใบรับรองงาน และเอกสาร สำคัญทุกอย่างยิ่งชีพ ห้ามทำหายเด็ดขาด
เรามีเวลาเตรียมตัว ประมาณ 1 อาทิตย์ ค่อยๆทำแต่ละอย่างจนครบถ้วน และก็อ่านข้อมูล ประสบการณ์ของคนที่พึ่งไปสัมภาษณ์มา ว่าเค้าจะถามอะไรบ้าง ขอดูเอกสารอะไรบ้าง แต่ก็พบว่า ไม่มีอะไรตายตัว แล้วแต่โชคชะตาฟ้าลิขิตล้วนๆ ให้เตรียมทุกอย่างที่คิดว่าจะต้องใช้ไปเผื่อ จะเป็นการดีที่สุด ที่จะไม่ทำให้เราต้องเสียเวลา
ผ่านมาจนถึงวัน อาทิตย์ 4 มีนา เราก็วิตกจริตกะรูปที่ให้น้องถ่ายให้ เพราะว่าพื้นหลังมันไม่ได้เป็นสีขาวจั๊วะๆอย่างที่เค้ากำหนด เราจึงตัดสินใจว่าจะไปถ่ายรูปที่ร้านอีกสักใบ เก็บไว้ในกรณีที่เค้าบอกว่ารูปไม่ผ่าน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาออกไปถ่ายรูปใหม่ แต่ก็ลังเลว่า ร้านถ่ายรูปหน้าปากทางหมู่บ้านจะรู้จักการถ่ายรูปที่ต้องเอาไปทำวีซ่ามั๊ยนะ สุดท้ายก็คิดว่า น่าจะรู้สิ เค้าเป็นร้านถ่ายรูปนะ อะไปลองถ่ายดูก็ได้
เรา เลือกใส่เสื้อตัวเดียวกันกับที่ให้น้องถ่าย แต่ความยากมันอยู่ที่ผมแนวเกาหลีของเราเนี่ยสิ จะให้เอาขึ้นไป มัดรวบ เปิดหู มันยากมาก แถมยังต้องไปทำที่ร้านอีก ระหว่างไปร้านถ่ายรูปเค้าต้องแวะซื้อกิ๊ฟดำ เจลใส่ผม และพกหวีมาจากบ้านด้วย กะว่าเดวจะไปทำผมที่ร้านถ่ายรูปนั่นแหละ
พอไปถึงร้านถ่ายรูปก็บอก ทางร้าน เค้าก็ให้ไปแต่งตัวในห้อง และก็บอกว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่ให้กดออดเรียกช่าง เรานั่งทำผมอยู่นานเลยล่ะ กว่าจะเรียกช่างมาถ่าย ช่างมากดไป2รูปเพียงพริบตา ย้ำช่างไปหลายรอบว่า ต้องเอาไปใช้ทำวีซ่านะ อย่าตกแต่งนะ แล้วก็หน้าต้องใหญ่ต้องชัดนะ พร้อมหูนะ สุดท้ายได้รูปมาสองรูปให้เลือก เราาเลือกรูปแรก หน้าเกร็งๆ ขรึมๆ แต่ช่างภาพบอกว่าอยากให้เลือกรูปสองมากกว่า เพราะเห็นหูเยอะกว่า เราาก็ลังเลนิดๆเพราะว่าเราาเห็นว่าภาพนั้นเรายิ้มชะม้อยหน่อยๆด้วย แต่สุดท้ายก็โอเคเลือกรูปที่สอง และก็นัดว่าอีก 3 ชม.จะมารับรูป
กลับ มาถึงบ้าน ก็ยังคงวิตกเพราะว่าไปอ่านหลายกะทู้เค้าบอกว่าโดนปฎิเสธเพราะรูปถ่ายเยอะมาก และมีคนนึงบอกว่าห้ามยิ้ม เท่านั้นละโทรหาที่ร้านถ่ายรูปเลยบอกว่า "พี่คะ เอารูปที่ไม่ยิ้มนะคะ" ที่ร้านบอกกลับมาว่า "เอิ่ม ผมลบรูปนั้นไปแล้วคับ ผมว่ารูปนี้ก็ไม่ยิ้มมากหรอกคับ ยิ้มนิดเดียว ผมว่าใช้ได้" ก็ตามนั้น no choice
ไปรับรูป รูปก็อุบาทว์มากถึงมากที่สุด แต่ก้เอาวะ ภาวนาขอให้ผ่านก็พอ จะบอกว่ารูปถ่ายเนี่ยทำวิตกจริตที่สุดแล้วว
จากคุณ |
:
ส้มหอม
|
เขียนเมื่อ |
:
27 มี.ค. 55 16:32:51
|
|
|
|
|