ความคิดเห็นที่ 1 ลืมบอกเพื่อนคนนี้ทำงานมาแล้ว 3 ปีในบริษัทข้ามชาติที่ค่อนข้างมีชื่อด้วยคะ จากคุณ : Dannaxv เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:46:57

ความคิดเห็นที่ 2 GMAT สวยขนาดนี้ ผลทดสอบภาษาก็ไม่มีปัญหา เท่านี้ก็คงทำให้ลืมๆเกรดไปได้บ้างแล้วหละครับ แต่ที่น่าสนใจกว่าคือประสบการณ์ 3 ปีในบริษัทข้ามชาติมีชื่อมากกว่า ว่ามีผลงานอะไรโดดเด่นพอที่เค้าจะเลือกเราเข้าไปในโปรแกรมบ้าง MBA แต่ละที่ในมหาลัยระดับมีชื่อส่นใหญ่จะมีโควตาไว้อยู่แล้วแหละครับ ว่าความหลากหลายที่เค้าต้องการประมาณไหน เพราะฉะนั้นเลือกส่วนที่ต้องการพรีเซนท์ดีๆให้ถูกใจเค้า โอกาสมีอยู่แล้วครับ จากคุณ : +>>GeToS<<+ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 01:26:21

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าจะไป USA คงต้องสอบ TOEFL อะครับ เพราะ TOP U ของUSA มีน้อยที่จะรับ IELTS อีกอย่างความเห็นส่วนตัวคิดว่าอังกฤษน่าจะลำบากเพราะ เกรดไม่ค่อยดี ถ้าสังเกตุ มหาวิทยาลัยในอังกฤษ จะกำหนดเกรดขั้นต่ำมาให้เลยว่าต้องเท่าไร แต่ USA นี่เท่าที่ดูไม่ได้กำหนดเป็นจำนวนที่แน่นอนนะครับ จากคุณ : Robyboon เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 09:56:12

ความคิดเห็นที่ 4 1. U TOP นี่ TOP 10 หรือ TOP 30 ครับ  ถ้า TOP 10 นี่ยาก แต่ก็เป็นไปได้ครับ  ถ้า TOP 30 มีโอกาสมากกว่า  สรุปคือสมัครเผื่อ U ที่มีโอกาสได้มากกว่า 80% ไว้ซัก 2 U กันเหนียวแล้วกันครับ 2. ส่วนใหญ่ U TOP 10 ทุก U จะเป็นที่รู้กันว่าเกรดเฉลี่ยต้องมากกว่า 3.50 ดังนั้นลองหาข้อมูลดูว่ามี U ไหนบ้างที่ไม่ได้ระบุเกรด  แล้วลองดู FAQ ที่หน้า WEB  ว่าค่าเฉลี่ยของเกรดคนที่สมัครประมาณเท่าไหร่ 3. ถ้า U ไหนกำหนดเกรดไว้  แล้วเราไม่ถึงแนะนำว่าอย่าสมัครเพราะเกิน 80% เขาจะตอบกลับมาว่า  ไม่ได้อ่าน REQUIREMENT หรอ ??? 4. แนะนำให้สมัคร U ที่ไม่ระบุเกรด และมีค่าเฉลี่ยเกรดของผู้สมัครอยู่ที่ 3.00 แบบนี้จะมีโอกาสมากกว่า 5. คะแนนทั้ง IELTS และ GMAT ดีแล้วแต่ที่สำคัญพอๆกันคือ CV และ SOP ต้องทำให้ PERFECTและโดดเด่น ประมาณว่า  อ่านจบแล้วรู้สึกว่าถ้าไม่รับเราเหมือนเขาพลาดอะไรที่สำคัญบางอย่างไปในชีวิต ปล. เกรดมันผ่านไปแล้วอย่าคิดมาก  ใส่ใจกับกำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดีกว่า  ทำมันให้ดีที่สุด  ผลมันต้องออกมาดีแน่นอน  สู้ๆครับ จากคุณ : ผมเป็นแฟนคุณหมอ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 09:58:54

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเป้าหมายคือ US10Top GMAT 730, IELTS 8.0 และประสบการณ์ทำงาน 3 ปีในบริษัทข้ามชาติ ไม่ได้ถือว่าโดดเด่นอะไรครับ เพราะ 1. Avg GMAT ของ Top10 อยู่ที่ 720-740 2. ภาษาอังกฤษของคนที่เข้าได้ส่วนใหญ่สื่อสารได้ดีมากอยู่แล้ว 3. ประสบการณ์ทำงาน 3 ปี ถ้ามองที่ตัวเลขและความที่เป็นบริษัทข้ามชาติ ก็ยังไม่ถือว่าโดดเด่น เพราะคนส่วนใหญ่ที่ผมรู้จักก็ทำงานบริษัทข้าชาติมาก่อนทั้งนั้น ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทำงานต่างประเทศมาก่อนหลายปี โดยเฉลี่ย 6-7 ปี จุดที่จะทำให้โดดเด่น คือ ประสบการณ์การทำงานที่คนอื่นไม่มี ถ้าหาได้ อธิบายใน Essays กับ Interview ได้ดี ก็เข้าได้สบายครับ เกรดอาจจะผลในระดับหนึ่งแต่ไม่ได้ทั้งหมด จากคุณ : หมาไอติม เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 10:23:18

ความคิดเห็นที่ 6 แชร์ให้ฟังแล้วกัน อาจจะไม่ได้เป็นตามนี้ทุกเคสแต่ก็พอจะบอกได้ว่าเรื่องเกรดก็มีผลพอสมควรจริงๆในอเมริกา เพื่อนผมเกรด 2.8 สามย่านเตรียมตัวปีนึงฟิตทั้ง GMAT TOEFL ออกมาดีแบบ percentile ที่ 80-90 เลย (จำคะแนนไม่ได้) ประวัติการทำงานก็ดีมากเคยได้ assignment ไปประเทศในเอเชีย เรียกว่านอกจากเกรดแล้วทุกอย่างไม่ธรรมดา แต่สุดท้าย Top 15 ที่สมัครไปปิ๋วหมดเสียศูนย์ครับ มันสมัครไปเยอะมากๆเรียกว่าจ่ายค่า DHL+ค่าส่งผลคะแนนไปแบบกระเป๋าฟีบเลย สุดท้ายมาได้ยูระดับกลางๆประมาณ Top 30 ที่สมัครเผื่อไว้ซึ่งชื่อเสียงก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ตอนนี้ก็เตรียมบินแล้วเหมือนกัน ของอย่างนี้ไม่ลองไม่รู้ แต่ก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วยครับ จากคุณ : Ear-pleaser เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 11:11:13

ความคิดเห็นที่ 7 แบบนี้เราควรแนะนำเพื่อนให้ไปสอบโทเฟล อัพคะแนน GMAT ให้ได้เกิน 740 กันเหนียวไว้แล้วก็ลองสมัคร TOP 10 สัก 3 ที่ กับ TOP 30 ไว้ 2 ที่ แล้วก็เตรียมเขียน Essay พรีเซ้นตัวเองดีๆไว้ใช่มั้ยคะ จากคุณ : Dannaxv เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 11:45:03

ความคิดเห็นที่ 8 GMAT พอแล้วละครับ ไม่ต้องเพิ่มหรอก เอาเวลาไปคิดดีกว่า ว่าจะเขียน essay อย่างไร จากคุณ : หมาไอติม เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 12:16:33

ความคิดเห็นที่ 9 คะแนนประมาณนี้ถือว่าผ่านเกณท์ของ u topแล้วครับ  อยู่แค่ว่าจะทำยังไงให้profileโดดเด่นเฉยๆ เขียน sop+CV ดีๆก็มีลุ้นครับ จากคุณ : Rio_Ferdy เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 18:51:41

ความคิดเห็นที่ 10 ผู้สมัครเข้าเรียน top 5 MBA ส่วนใหญ่ profile หากไม่แข็งแรง เขามักไม่สมัครกัน เพราะมันแข่งขันกันมาก เรื่อง GMAT เกิน 700 เป็นเรื่องธรมดา เรืองเกรดเกิน 3.5 ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่ผู้สมัครที่ต้องการเข้าเรียนมักมีใน profile จุดตัดสินจริงๆมักเป็นเรื่องประสบการณ์ทำงาน .ใบ rec และ essay ที่เขียน เรื่องสัมภาษณ์แม้มีส่วน แต่ส่วนใหญ่ เขามักโทรมาสัมภาษณ์หรือไม่ก็ให้ alumni ที่อยู่ในประเทศผู้สมัคร ช่วยสัมภาษณ์ คุณทำงานกับบริษัทข้ามชาติที่มีชื่อเป็นเรื่องดีมากๆ หากคุณไปเปิด profile ของพวกเรียนที่ kellogg หรือ wharton แต่ละคนก็มาจากบริษัทขนาดยักษ์แทบทั้งนั้น แต่ถ้าคุณพร้อมที่จะลองและยอมเสียค่าสมัคร top 10 คุณเลือกสัก 2 แห่ง แต่ตัด top5 ออกไป top 11-20 เอาสัก 4 แห่ง ควรสมัคร duke uในจำนวน 4 แห่งนี้ top 21-30 เอาสัก 3 แห่ง GMAT ไม่ต้องไปสอบใหม่ มีความเป็นไปได้ที่คะแนนตุณจะลดลง จากเท่าที่สังเกตพวกบริษัทข้ามชาติหลายๆแห่ง เขาจะมีข้อสอบทดลองและวิธีสัมภาษณ์ของตนเอง เขาไม่สนใจคุณจบจาก U ไหน หากคุณผ่านข้อสอบเขาและสัมภาษณ์หลายๆround ของเขา เขารับคุณเข้าทำงาน พวกจบจาก u ดังตกม้าตายบ่อยเพราะไม่ผ่านการสัมภาษณ์ จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 00:55:34 A:61.90.49.98 X: TicketID:289639

ความคิดเห็นที่ 11 เรียนต่อ MBA ใน U Top ควรจะมีโปรไฟล์ดีขนาดไหน //ดีที่สุดในชีวิต ต้องทำให้รู้สึกว่าเราทรงคุณค่าแบบ เรามีแวลู่ และเป็นคนให้เกียรติเลือกเค้า ให้เค้าได้ศึกษาคุณและคุณค่าในตัวเราที่เรามีอะ แบบให้เค้าได้ความรู้จากเราไปในการที่เค้าเลือกเราอะ และมีคุณค่าเวลาไปเป็นนักเรียน ป โท ร่วมกับคนอื่นที่มานั่งดิสคัสแลกเปลี่ยนความรู้กันอะ ไม่ใช่ให้เราเป็นตัวเลือก(ดาดๆ เกลื่อนๆ ธรรมดาๆ) ชอยส์นึงเหมือนคนอื่นๆให้เค้าเลือกอะ ฝรั่งจะเน้นคุณค่าความเป็นคนมากกว่าเป็นแค่เด็กเรียนเก่งอะ ความคิดอะไรต่างๆมันจะบอกเราในกระดาษเอสโอพีที่เราเขียนไปน่ะ โชคดีนะคะ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 17:13:53

ความคิดเห็นที่ 12 เพื่อนฝากมาขอบคุณทุกความเห็นนะคะ มันบอกจะลองสมัครดู ลองแล้วทำให้เต็มที่ดีกว่าไม่ลอง จากคุณ : Dannaxv เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 55 12:12:31

ความคิดเห็นที่ 13 ดีค่ะ เอาใจช่วยนะคะ ทำให้เต็มที่เลยค่ะ ลองไปอ่านในโน๊ตเราเพิ่มเติมได้ https://www.facebook.com/pages/Learning-English-by-Lovelypriest/283776135037662?sk=notes จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 55 19:31:28