ขั้นตอนเตรียมการ
ทำบัญชีรายรับ รายจ่ายทุกเดือนครับ แบ่งเป็นหมวดให้เรียบร้อย
แล้วหารายจ่ายสูงสุดในแต่ละเดือน แล้วก็มาดูรายละเอียดว่าตรงไหนตัดทิ้งได้
จนเหลือรายจ่ายที่น้อยที่สุดที่จะต้องจ่ายจริง ๆ ในแต่ละเดือน (ตัดไม่ได้แล้ว)
ขั้นตอนการจัดเก็บ
เมื่อได้รายจ่ายที่น้อยที่สุดที่จะเป็นไปได้ ทีนี้ก็ตั้งเป้าว่าเงินเดือนออกจะเก็บยังไง
เท่าไหร่ ส่วนตัวเมื่อก่อนใช้ไม่ค่อยคิดครับ แต่ตอนนี้ตั้งใจไว้ทุกเดือนจะเก็บ
65 - 70 % ของเงินเดือนในแต่ละเดือน ซึ่งคำนวณแล้วว่าอีก 30 % เพียงพอ
ต่อการดำรงชีวิต
ขั้นตอนการดำเนินการ
เมื่อมีเงินเหลือ 30 % ต่อไปก็มาบริหารเงินส่วนนี้กันว่าจะทำยังไงกับมันดี
ขั้นแรก อาหารการกิน เมื่อก่อนจะซื้อกิน แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นซื้อมาทำกิน
เองครับ ทำอาหารเท่าที่นึกออกครับ อยากกินอะไรก็ทำเอง แรก ๆ จะเปลือง
เรื่องอุปกรณ์เพราะยังไม่มี แต่พอซื้อแล้ว ทำไปสักพักจะเริ่มอยู่ตัว
ค่ากับข้าวต่อเดือนจะพยายามควบคุมให้อยู่ในงบ 40 % จากเงินส่วนนี้ครับ
เช่น $500 ก็จะใช้ประมาณ $200 ทุกเดือนเป็นค่ากับข้าว
ส่วนต่อมาค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ท ส่วนมากจะคงที่ทุกเดือน จะพยายาม
ควบคุมปริมาณการใช้งาน เพื่อให้รายจ่ายคงที่น้อยที่สุดอยู่ที่ประมาณ 20 %
หรือประมาณ $100
ส่วนต่อมา ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าจัดการขยะ และอื่น ๆ จะอยู่ที่ 20 %
ไฟเปิดเท่าที่จำเป็น น้ำก็ใช้เท่าที่จำเป็น เสื้อผ้าซักอาทิตย์ละครั้ง แยกผ้าสี
และผ้าขาว พยายามใส่ชุดที่สีคล้าย ๆ กันเวลาซักจะได้ซักทีเดียว
ค่าใช้จ่ายส่วนนนี้จะเท่ากับ $50 - $100
ส่วนต่อมาค่ารถ จะอยู่ที่ 20 % เพราะไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน นาน ๆ จึงจะไปที
จะอยู่ที่ $100 ต่อเดือน จะเดือนชนเดือนพอดีครับ เพราะส่วนมากจะนั่งเฉพาะ
รถเมลล์ กับใต้ดินแค่นั้น เวลาไปทำงาน เช้า เย็น
แผนสำรองฉุกเฉิน
ก็จะแบ่งเงินจากส่วนที่เก็บมาบางส่วน หากจำเป็นต้องใช้จริง ๆ แต่จะคำนวณ
ปริมาณการใช้ และควบคุมรายจ่ายไว้ให้เหลือเก็บมากที่สุด
อะไรที่อยากได้ แต่ไม่จำเป็น เป็นของฟุ่มเฟือยก็พยายามลด หรือตัดใจไป
ของใหญ่ที่อยากได้ก็จะใช้วิธีกันเงินเก็บทุกเดือน เท่า ๆ กันกีเดือนก็ว่าไป
เก็บครบเมื่อไหร่ค่อยซื้อ ต่อให้มีเงินพอซื้อก็จะยังไม่ซื้อ เช่นจะเก็บ $200
ทุกเดือน เป็นเวลา 6 เดือนเพื่อไปซื้อของอย่างนึง ก็จะเก็บไปจนครบกำหนด
แล้วค่อยซื้อ จะทำให้เรามีเงินเก็บส่วนอื่น ๆ เหลือด้วยครับ
ประมาณนี้มั้งครับ...